View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 14/09/2020 6:48 pm Post subject: |
|
|
ว้าว!!!! แบบร่างล่าสุด สถานีรถไฟความเร็วสูงบนบ้านไผ่ โครงการรถไฟความเร็วสูง สายอิสาน ส่วนต่อขยายช่วง โคราช-หนองคาย
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
วันที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 18:42 น.
ต่อเนื่องจากเมื่อวาน ที่เอาแบบใหม่ของ สถานีรถไฟความเร็วสูงบัวใหญ่ มาให้ชม วันนี้ขอเอาแบบร่างใหม่ของสถานีรถไฟความเร็วสูงบ้านไผ่ มาให้ชมกันต่อ
ซึ่งจากที่ผมเอารายละเอียดแบบร่างแรกของ สถานีรถไฟความเร็วสูงบ้านไผ่ มาให้ชม ตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/991362061302273/
มี Feedback ว่าไม่มีการดึงเอาอัตลักษณ์ ของท้องถิ่นออกมาเลย แล้วแต่ละสถานีมีลักษณะคล้ายกันไปหมด
ทางที่ปรึกษาเลยเอาคอมเมนท์ต่างๆ ไปใช้ในการปรับปรุงแบบให้เหมาะสมกับท้องถิ่น ตามที่เหมาะสม
รายละเอียดการปรับปรุงสถานี
รอบนี้ในแบบร่างล่าสุด ดึงเอาอัตลักษณ์ ที่สำคัญของบ้านไผ่ คือ ไผ่ มาเป็นเอกลักษณ์หลักของสถานี
ซึ่งนอกจากจะดึงไผ่มาเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังดึงไปถึงรูปแบบการแปรรูปใช้งานไผ่ในรูปแบบต่างๆ เช่น ลายเครื่องจักรสานจากไผ่ และ รูปแบบสถาปัตยกรรมโมเดิร์นจากไผ่ เอามาเป็นโครงสร้างหลักของสถานี
รับรองว่าเห็นสถานี แค่บางส่วนต้องรู้เลยว่าเป็นสถานีบ้านไผ่แน่นอน
- เริ่มจาหลักคาคุมจุดขึ้น-ลง รถยนต์ ด้านหน้าสถานี
เปลี่ยนจากจั่วด้านหน้าตามแบบเดิม เปลี่ยนเป็นโครงสร้างหลังคาโค้ง และมีเสาโครงสร้างรับน้ำหนักโค้ง เหมือนปล้องไผ่รับน้ำหนัก และต้นไผ่แตกแขนงจากกอไผ่
- ส่วนฟาซาดอาคารหลัก ทำเป็นลายจักรสาน ซ้อนทับไปมา และเว้นช่อง เพื่อให้เห็นถึงความเป็นงาน handmade ที่ไม่เป็น Pattern มากเกินไป
- ส่วนการตกแต่งภายในยังคล้ายจากแบบเดิม ซึ่งใช้สีและลายของไผ่ในการตกแต่ง
- รูปแบบสถานีมี 3 ชั้น
ชั้น 1 เป็นชั้นขายตั๋ว จุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารระหว่างระบบ และพื้นที่จอดรถ
ชั้น 2 เป็นโถงพักคอยผู้โดยสาร ก่อนขึ้นรถไฟ ซึ่งจะมีทั้งห้องติดแอร์ และไม่ติดแอร์ เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร รวมถึงเป็นพื้นที่ติดตั้งงานระบบของสถานีรถไฟ
ชั้น 3 เป็นชานชาลา มี 2 ชานชาลาข้าง แต่มีทางรถไฟ 4 ทาง เพื่อให้มีทางรถไฟรองรับรถไฟด่วนผ่านสถานี
- รูปแบบทางรถไฟในบ้านไผ่
เนื่องจากตัวสถานีรถไฟทางคู่เดิมในเส้นทางนี้ก็เป็นสถานียกระดับ ในโครงการก็จะยกระดับคล้ายกัน
จากข้อมูลทางรถไฟความเร็วสูงจะยกระดับตั้งแต่จฺดตัดกับทางหลวงสาย 23 และลงระดับดินอีกครั้งในพื้นที่ใกล้เคียงกับของทางคู่
ตอนนี้ยังมีการรับฟังความคิดเห็นกลุ่มย่อยในพื้นที่ขอนแก่น เพื่อนๆที่ต้องการแสดงความคิดเห็น สามารถติดตามและเข้าร่วมได้ตามรายละเอียดในลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1021442388294240/?extid=2AdIHlcgRa8hEgqm&d=n
เสนอแนะเพิ่มเติมได้ในเพจ โครงการรถไฟความ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44493
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/09/2020 11:30 pm Post subject: |
|
|
เจาะคันทางรถไฟไฮสปีดทน100ปี
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563
3.5กม.เสร็จ100%พร้อมส่งมอบ เปิดใจนายช่างทำไมสร้าง2ปีครึ่ง
ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์" ได้ขอสัมภาษณ์ นายสาธิต อินนามเพ็ง ผู้ช่วยนายช่างโครงการก่อสร้างคันทางรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) สัญญาที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. วงเงิน 425 ล้านบาท ของกรมทางหลวง (ทล.) ซึ่งเป็นโครงการตามความร่วมมือไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,412 ล้านบาท โดยนายสาธิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ก่อสร้างคันทางรถไฟไฮสปีดเสร็จ 100% อยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น เช่น งานตีเส้นจราจร โดยวันที่ 17 ก.ย.นี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนจะเข้าตรวจสอบการก่อสร้าง ซึ่งได้เข้าตรวจสอบเป็นระยะอยู่แล้ว จากนั้นภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้พร้อมส่งมอบงานก่อสร้างให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการต่อในสัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) ต่อไป
นายสาธิต กล่าวต่อว่า งานที่จะส่งมอบ รฟท. มี 2 ส่วนคือ คันทางรถไฟความเร็วสูงจาก กม.150+500-กม. 154+000 ระยะทาง 3.5 กม. และงานถนนคู่ขนานเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 4 กม.ขนาด 2 ช่องกว้าง 6 เมตร ที่ ทล. ลงนามบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูกับ รฟท.เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 61-2 ก.ย. 61 ให้ก่อสร้างเสร็จภายใน 6 เดือน แต่ได้ขยายเอ็มโอยูอีก 3 ครั้งคือ วันที่ 2 ก.ย. 61-30 เม.ย. 62 วันที่ 30 เม.ย. 62-30 ก.ย. 62 วันที่ 30 ก.ย. 62-30 ก.ย. 63 เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณระหว่าง 2 หน่วยงานรวมทั้งต้องใช้เวลาเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการก่อสร้างจากฝ่ายจีนด้วย
ส่วนตัวยอมรับว่าเกิดปัญหาจาก 2 ส่วนนี้ในสัดส่วนประมาณ 60/40 แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าแค่ 3.5 กม. แต่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 2 ปีครึ่งแต่เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงทุกคนที่มาเรียนรู้ประมาณ 230 คนก็พยายามเต็มที่แล้ว ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้ก่อสร้างคันทางไฮสปีดเป็นครั้งแรก ถือเป็นการเปิดประสบการณ์งานทางครั้งใหม่และเป็นครั้งสำคัญเพื่อนำความรู้ไปปรับใช้กับการก่อสร้างงานทางหลวงในอนาคตซึ่งได้จัดทำคู่มือส่งมอบให้ รฟท.และพร้อมถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ ในทล. รวมทั้งบุคคลภายนอกด้วย
นายสาธิต กล่าวด้วยว่า การก่อสร้างงานทางถนนกับงานทางรถไฟไฮสปีดมีความแตกต่างกันมาก อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆคือการก่อสร้างงานถนนทางหลวงจะมี 4-5 ขั้นตอน เริ่มจากการเคลียร์พื้นที่และเศษวัสดุ เช่น ถางหญ้าตัดต้นไม้ และบดอัดชั้นดินเดิม 2. ขั้นตอนทดสอบชั้นดินเดิม เพื่อดูการรับน้ำหนักและการบดอัดดูการยุบตัว ต่อด้วยการใช้วัสดุคัดเลือกบดอัด 15-20 ซม. จากนั้นบดอัดชั้นลูกรังอีก 15-20 ซม. ต่อด้วยชั้นหินคลุกอีก 15-20 ซม. ซึ่งเป็นชั้นที่แข็งแรงที่สุดก่อนจะปูยางมะตอยหรือเทคอนกรีต มีความหนารวมกันแล้วประมาณ 50-60 ซม. รับน้ำหนักได้ที่ประมาณ 25-30 ตัน อายุการใช้งานถนนลาดยางประมาณ 7-15 ปี
นายสาธิต กล่าวต่อว่า ขณะที่คันทางรถไฟความเร็วสูงมีความหนาถึง 3 เมตร เป็นฐานในการวางรางและหมอนรถไฟ ต้องมีอายุการใช้งานที่ 100 ปี รับความเร็วของรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่ 250 กม.ต่อชม.และสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 280 กม.ต่อชม. ต้องใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างจากการคัดวัสดุของกรมทางหลวง ซึ่งหากเป็นชั้นวัสดุของกรมทางหลวงจะใช้ค่าการทดสอบ C.B.R (California Bearing Ratio) เป็นการทดสอบเพื่อหากำลังรับน้ำหนักของดินที่บดอัดแล้ว สำหรับชั้นคันทาง (Sub grade) ชั้นรองพื้นทาง (Sub base) และชั้นพื้นทาง (Base) ส่วนชั้นวัสดุของคันทางรถไฟความเร็วสูง จะใช้วิธีการแยกวัสดุโดยใช้คุณสมบัติและขนาดคละของวัสดุเป็นเกณฑ์ในการแยกประเภท โดยที่ชั้นคันทาง Embankment (Group C soil) เทียบได้กับชั้นดินถมของงานทาง ชั้น Bottom Layer (Group A&B Soil) ความหนา 2.30 เมตร (สำหรับหน้าตัดที่ไม่ต้องมีชั้นทราย) และความหนา 2.10 เมตร (สำหรับหน้าตัดต้องมีชั้นทราย) เทียบได้กับชั้นรองพื้นทางและชั้นพื้นทาง
สำหรับชั้นที่สำคัญที่สุดคือชั้นที่เรียกว่า Top layer หรือชั้น Sub Ballast (Grade Broken stone) เทียบได้กับชั้นผิวทางของงานทาง ซึ่งจะต้องใช้การผลิตโดยใช้เครื่องผสม ผสมหินถึง 3 ชนิดคือหิน 2" (19%) หิน 1/2" (9%) และหินฝุ่น (72%) นำมาผสมกันโดยผสมน้ำในอัตราส่วน 5% และนำมาปูที่หน้างาน ความหนา 70 ซม. ระหว่างชั้น Bottom Layer และ ชั้น Top Layer นี้ในหน้าตัดที่เป็นงานดินขุดที่มีโอกาสเกิดแรงดันน้ำก็จะมีชั้นทราย และผ้าพลาสติกกันความชื้น ป้องกันน้ำซึมจากด้านบนลงด้านล่าง และป้องกันน้ำซึมจากด้านล่างขึ้นด้านบน หลังจากนั้นถึงจะเป็นขั้นตอนการวางรางและหินโรยทางต่อไป (Ballast)
"ช่วงแรก ๆ พวกเราต้องลองผิดลองถูกกว่าจะสื่อสารและทำความเข้าใจกับมาตรฐานของฝ่ายจีน ต้องใช้เวลาอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นใช้เวลานานถึง 6 เดือน กว่าจะสรุป Mix Design สำหรับงานคอนกรีตได้ จากปัญหาเรื่องการสื่อสารและต้องใช้เวลาเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ การคัดเลือกวัสดุ การผสมวัสดุ และรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ซึ่งต้องยกนิ้วให้ฝ่ายจีนในเรื่องมาตรฐานการใช้วัสดุสูงมาก โดยคิดถึงองค์ประกอบรวมทั้งหมด รวมทั้งเรื่องการควบคุมแหล่งที่มาของวัสดุ ผมจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปปรับ ใช้และต่อยอดเข้ากับการก่อสร้างทางหลวงต่อไป" นาย สาธิต กล่าวปิดท้าย. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 18/09/2020 12:47 pm Post subject: |
|
|
เย้!! เสร็จ100%คันทางรถไฟไฮสปีดสายแรกอยู่ทน100ปี
*3.5 กม.ทางหลวงพร้อมส่งมอบรฟท.สิ้นเดือนนี้จ้า
*บันทึกประวัติศาสตร์ความภูมิใจคนไทยก็ทำได้
*นายช่างเปิดเบื้องลึกทำไมสร้างนานจังตั้ง2ปีครึ่ง
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2712432662311568
กรมทางหลวง ดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ช่วงที่ 1 กลางดง - ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. แล้วเสร็จ ชูเป็นต้นแบบของโครงการในช่วงต่อๆไป
กรมทางหลวง
23 กันยายน 2563 เวลา 07:51 น.
ก.ย. นี้ส่งมอบรถไฟไทยจีันเฟสแรก
23 กันยายน 2563 เวลา 18:16 น.
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย รองอธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงกรุงเทพมหานคร หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา) ช่วงที่ 1 กลางดง ปางอโศก กม.150+500 154+000 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมทางหลวง กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้กรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างให้ ประกอบด้วยงานหลักๆ 5 งาน ได้แก่ งานย้ายรางรถไฟเดิม งานดินตัดและงานถมวัสดุในหน้าตัดคันทางรถไฟความเร็วสูง งานชั้นวัสดุ Top Layerหรืองานบดอัดวัสดุก่อนงานวางรางและหินโรยทาง งานคอนกรีตประกอบคันทางรถไฟความเร็วสูง และงานถนนบริการขนานกับคันทางรถไฟความเร็วสูง ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร นั้น
ปัจจุบันกรมทางหลวงได้ดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ 100%และคาดว่าจะส่งมอบงานให้การรถไฟแห่งประเทศไทยภายในเดือนกันยายน 2563 โดยโครงการนี้จะถือเป็นต้นแบบในการดำเนินงานในช่วงต่อไปของโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อให้ทราบถึงกระบวนการทำงาน คุณภาพของวัสดุ ทำให้สามารถใช้วัสดุภายในประเทศให้มากที่สุด ซึ่งกรมทางหลวงได้ปรับปรุงคุณภาพวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็กเส้น และงานชั้นวัสดุ Top Layer ให้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานรถไฟความเร็วสูง
รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไทย จีน ช่วงที่ 1 กลางดง ปางอโศกใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 2 ปี 6 เดือน ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องใช้กระบวนการทำงานของกรมทางหลวงเองมาประยุกต์ให้เข้ากับกระบวนการทำงานของรถไฟความเร็วสูงโดยผู้ควบคุมงานจากประเทศจีน ซึ่งทางกรมทางหลวงได้ทำงานควบคู่กับการศึกษาและเรียนรู้ เพื่อให้สามารถใช้วัสดุภายในประเทศให้ได้มากที่สุดและที่ผ่านมาได้นำเข้าวัสดุจากประเทศจีน 2 รายการ ได้แก่ ผ้าใบกันความชื้น และสายดิน คิดเป็น 2% ของมูลค่าก่อสร้างรวมทั้งหมด นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้จัดทำคู่มือการก่อสร้างคันทางรถไฟความเร็วสูงตามประสบการณ์การทำงานกับผู้ควบคุมจากประเทศจีน เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจหรือผู้รับจ้างอื่นๆต่อไป
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง จะช่วยเสริมสร้างโครงข่ายการคมนาคมของประเทศรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการคมนาคมขนส่งถึงประเทศจีน อีกทั้ง ยังเป็นการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศไทยอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
Last edited by Wisarut on 25/09/2020 2:44 am; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 18/09/2020 2:17 pm Post subject: |
|
|
แอร์พอร์ตลิงก์ ฝ่าวิกฤต 10 ปี! รถพัง-ระบบรวน-รอนาน ลุยภารกิจสุดท้ายเซตระบบส่งต่อ ซี.พี.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 17 กันยายน 2563 เวลา 08:51
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์เปิดมาถึง 10 ปีแล้วนับจากวันแรกที่เปิดให้บริการ 23 ส.ค. 2553 แอร์พอร์ตลิงก์ ต้องเจอกับปัญหา อุปสรรคมากมายในการให้บริการ เป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาสภาพรถ จำนวนรถน้อย ปัญหาระบบการจัดซื้อจัดหาอะไหล่ การซ่อมบำรุง ตลอด 10 ปี แม้ผู้ใช้บริการจะตกอยู่ในสภาพ ใช้ไป...บ่นไป ด้วยความอดทน แต่! ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้แอร์พอร์ตลิงก์กลายเป็นระบบขนส่งมวลชนหลักที่มีความสำคัญในการเดินทางของคนเมืองไปแล้ว โดยมีสถิติจำนวนผู้โดยสารสูงสุดเกือบแสนคน/วัน
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ หรืออีกชื่อ โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง มีระยะทาง 28.6 กม. มูลค่า 25,900 ล้านบาท แรกเริ่มแนวเส้นทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของรถไฟสายสีแดง (ระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน) แต่ยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร โดยมี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.คมนาคม ต้องการเร่งรัดเพื่อให้เป็นระบบรถไฟเชื่อมระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิกับเมือง จึงมีการแยกโครงการออกมาก่อสร้างก่อน และเริ่มโครงการเมื่อปี 2547
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการ ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธา จัดซื้อขบวนรถ 2 แบบ คือ ขบวนรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) มี 5 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ ขบวนรถไฟฟ้าด่วน (Express) มี 4 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ ซึ่ง 1 ใน 4 เป็นตู้ที่ติดตั้งระบบจัดเก็บสัมภาระที่ไม่สามารถให้คนโดยสารได้ และกลายเป็นตู้ที่ต้องพ่วงวิ่งไปวิ่งมาโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจนถึงทุกวันนี้...
ว่ากันว่าการก่อสร้าง การซื้อรถ เกิดมหกรรม...รุมทึ้งผลประโยชน์ และทำให้บางกลุ่ม...บางพวก กระเป๋าตุงกันไป
ในส่วนของการเดินรถ รฟท.ได้ตั้งบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เป็นบริษัทลูก โดย รฟท.ถือหุ้น 100% รับค่าจ้างเป็นรายปี โดยจัดส่งรายได้จากค่าโดยสารให้ รฟท. ขณะที่การจัดซื้อจัดหาอะไหล่ การซ่อมบำรุง จะต้องให้ รฟท.เป็นผู้อนุมัติและดำเนินการ ซึ่งกระบวนการที่มา และขั้นตอนล่าช้า ทำให้เกิดปัญหา และกลายเป็น...วิบากกรรมของแอร์พอร์ตลิงก์
อาการหนักสุด ช่วงรถ 4 ขบวนจอดรอซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) ตามวงรอบวิ่งครบ 1.32 ล้านกิโลเมตร แต่ติดปัญหาไม่มีอะไหล่ซ่อม การจัดจ้าง และสั่งซื้ออุปกรณ์อะไหล่ล่าช้า ส่วนอีก 5 ขบวนก็ต้องวิ่งไปลุ้นไป เพราะไม่รู้จะเดี้ยงเมื่อไรก็ได้
รถเสียรายวัน...รถพังเป็นปกติ แผนซื้อรถใหม่ 7 ขบวน วงเงิน 4,400 ล้านบาท ไม่คืบหน้า เพราะติดหล่มปัญหาทุจริต
ทำให้มีการตั้งเพจ วันนี้แอร์พอร์ตลิงก์เป็นอะไร เกิดขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางให้ผู้ใช้บริการได้แจ้งข้อมูลการใช้บริการระหว่างกัน ซึ่งแน่นอน เสียงตำหนิ ติเตียน ถึงบริการที่สุดแย่...แต่ก็ต้องทนใช้บริการเพราะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นที่ต้องเจอปัญหาจราจรที่วิกฤตกว่า
ต้องยอมรับว่าตลอดระยะเวลาในการให้บริการ พนักงานแอร์พอร์ตลิงก์ต้องซ่อมบำรุงเอง ทำให้ผ่านการเรียนรู้ ประสบการณ์ในการแก้ปัญหา และวิกฤตอันหนักหน่วง ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร
สุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด กล่าวว่า ในปี 2564 รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์จะให้บริการครบ 1 ทศวรรษ ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีบริษัทฯ ได้ดำเนินงานยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสารตามมาตรฐานสากล และตามวิสัยทัศน์ขององค์กร โดยบริษัทฯ ได้นำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาใช้ในการดำเนินงาน ทั้งการซ่อมบำรุง และการปฏิบัติการเดินรถ การบริการอย่างต่อเนื่อง จนผ่านการรับรอง ISO 9001 : 2015 ขอบเขต : วิศวกรรมและซ่อมบำรุง และขอบเขต : งานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า จาก BV (Bureau Veritas) ทำให้การดำเนินงานของบริษัทมีมาตรฐาน และประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในงานช่อมบำรุง และการให้บริการ โดยงานวิศวกรรมซ่อมบำรุงสามารถซ่อมบำรุงใหญ่ขบวนรถไฟฟ้า (Overhaul) และซ่อมบำรุงทั่วไป จนสามารถกลับมาให้บริการรถไฟฟ้าได้เต็มจำนวน 9 ขบวน รวมถึงปรับเปลี่ยนภายในขบวนรถไฟฟ้าด่วน (Express) ปรับที่นั่งทำให้สามารถอำนวยความสะดวก และรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนงานบริการ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ได้ดำเนินการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยภายในสถานีตามหลักการ Universal Design หรือการออกแบบเพื่อการใช้งานของคนทุกกลุ่มในสังคม มีการสร้างลิฟต์ บันไดเลื่อนเพิ่มเติมรวมทั้งหมด 140 ตัว นอกจากนั้นยังได้สร้างราวกั้นชั้นชานชาลา และยางปิดช่องว่างระหว่างขอบชานชาลา และประตูรถไฟฟ้า (Platform Gap Filler) เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการของผู้โดยสาร รวมถึงจัดหาอุปกรณ์ทางพาดพับได้สำหรับรถเข็นวีลแชร์ (Potable wheelchair ramp) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ทุพพลภาพ และคนพิการให้สามารถข้าสู่ขบวนรถไฟฟ้าได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
@ ชงบอร์ด รฟท.ต่อมาตรการลดค่าตั๋วช่วงนอกเวลาเร่งด่วน
สำหรับมาตรการลดค่าโดยสาร เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนนั้น ได้ดำเนินการลดราคานอกช่วงเวลาเร่งด่วน (Off Peak Hour) วันจันทร์-วันศุกร์ ใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่ 05.30-07.00 น., 10.00-17.00 น. และ 20.00-24.00 น. ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไป Adult Card จากอัตราค่าโดยสารปกติ 15-45 บาท เหลือ 15-25 บาท โดยจะคิดอัตราค่าโดยสารสถานีแรก 15 บาท สถานีที่สอง 20 บาท และสถานีที่ 3 เป็นต้นไปคิดค่าโดยสาร 25 บาท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มี.ค. สิ้นสุดไปเมื่อ 30 มิ.ย. 2563 โดยขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยัง รฟท.เพื่อขอจัดทำมาตรการลดค่าโดยสารอีกครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน คาดว่าจะได้รับอนุมัติและเริ่มมาตรการได้ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. 2563
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้โดยสารมากมาย ทั้งสิทธิ์เดินทางฟรี และจัดแคมเปญพิเศษในวันสำคัญต่างๆ จัดกิจกรรมด้านการตลาดเพื่อส่งเสริมให้ผู้โดยสารกระจายการใช้บริการ เพื่อลดความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน เช่น มอบส่วนลดในการเดินทาง, มอบบัตรชมภาพยนตร์ และเสิร์ฟอาหารเช้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสารประจำปี 2563 ซึ่งมีการเก็บรวบรวมถึง 2 ครั้ง ปรากฏว่าผู้โดยสารมีความพึงพอใจอยู่ในระดับที่ดีมาก โดยคะแนนเต็ม 5 แบ่งเป็น ด้านความปลอดภัย เฉลี่ยอยู่ที่ 4.36, ด้านความน่าเชื่อถือของการเดินรถเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23, ด้านการให้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 4.33, ด้านคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานี และในขบวนรถเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23, ด้านบัตรโดยสาร และการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 4.19 และด้านการประชาสัมพันธ์ และการให้ข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 4.17
@ผู้โดยสารรวมจ่อทะลุ 200 ล้านคน
ซีอีโอแอร์พอร์ตลิงก์ระบุว่า จำนวนผู้โดยสารรวมนับตั้งแต่เปิดให้บริการถึงปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 185 ล้านคนแล้ว คาดว่าจะทะลุ 200 ล้านคนในปี 2564 แน่นอน โดยหลังจากเปลี่ยนเบาะที่นั่งขบวนรถด่วน ทำให้รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 150 คน/ขบวนเป็น 750 คน/ขบวน หรือเพิ่มความจุในการรับผู้โดยสารจาก 50,000 คน/วัน เป็น 90,000 คน/วัน
จากปีแรกที่เปิดมีผู้โดยสารเฉลี่ยไม่ถึง 30,000 คน/วัน ขณะที่การเติบโต 11-12% ทุกปี ซึ่งช่วงแรกที่เกิดไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ผู้โดยสารลดลงเหลือไม่ถึง 10,000 คน/วัน ล่าสุดเมื่อมีการผ่อนปรนมาตรการ ผู้โดยสารเริ่มเพิ่มขึ้น ล่าสุดมีถึง 57,100 คน/วันแล้ว โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญต่อมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 เช่นเดิมเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและปลอดเชื้อแก่ผู้โดยสาร
@ ปีที่ 10 กับภารกิจพิเศษ เซตระบบส่งต่อ ซี.พี.-ทดลองเดินรถสีแดง
ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับภารกิจจาก รฟท.ในการทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต บางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยจะต้องเตรียมบุคลากร ขณะนี้ได้เปิดรับสมัครพนักงานจำนวน 158 คนแบบชั่วคราว เพื่อฝึกอบรมและเตรียมการทดสอบเดินรถสายสีแดงเสมือนจริงช่วงกลางปี 2564 ซึ่งจะมีพนักงานของแอร์พอร์ตลิงก์ 98 คนที่มีประสบการณ์เป็นครูฝึก เป้าหมายคือการเปิดเดินรถไฟสายสีแดงเต็มรูปแบบในเดือน พ.ย. 2564
ในการเดินรถไฟสายสีแดงต้องการพนักงานทั้งหมดประมาณ 800 คน ขณะที่บริษัทฯ มีพนักงานจำนวน 530 คน ดังนั้นอย่างน้อยต้องรับพนักงานเพิ่ม 256 คน
นอกจากนี้ ยังมีภารกิจในการส่งมอบงานให้กับ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด หรือกลุ่ม ซี.พี. ซึ่งได้จัดทีมเข้ามาประสานงาน ตรวจสอบระบบงาน ซึ่งทาง ซี.พี.เองจะต้องเตรียมความพร้อมในการรับเดินรถต่อโดยที่ไม่เกิดการสะดุด
บริษัทฯ ได้ให้ข้อมูลในสิ่งที่ต้องเตรียมล่วงหน้า เช่น การสั่งซื้ออะไหล่ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการสั่งซื้อประมาณ 12 เดือน, การซ่อมบำรุงใหญ่ขบวนรถไฟฟ้า (Overhaul) ตามวงรอบการวิ่งครบ 3.6 ล้านกิโลเมตร ซึ่งคาดการณ์ว่าจะครบประมาณต้นปี 2565 ดังนั้น ซี.พี.ต้องเตรียมกระบวนการสำหรับ Overhaul และต้องเตรียมเงินลงทุน 300-400 ล้านบาทไว้ให้พร้อม โดยบริษัทฯ และ ซี.พี มีการประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกอย่างพร้อมและไม่เกิดปัญหาการเดินรถในช่วงที่เป็นรอยต่อ
ในส่วนของขบวนรถที่มี 9 ขบวนนั้น ช่วงแรก ซี.พี.มีแนวคิดที่จะปรับปรุงตู้จัดเก็บสัมภาระจำนวน 4 ตู้ โดยติดตั้งเบาะที่นั่งให้สามารถรับผู้โดยสารได้ โดยจะปรับปรุง 1 ตู้แรกให้เสร็จก่อน ต.ค. 2564 จะต้องมีการวางแผนปรับปรุงช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่มีผู้โดยสารไม่มากเพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการ เนื่องจากตู้สัมภาระพ่วงติดกับขบวนรถไม่สามารถหยุดวิ่งทั้งขบวนเพื่อนำไปปรับปรุงได้
จากบริการ และจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แอร์พอร์ตลิงก์มีรายได้จากค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยช่วงก่อนเกิดโควิด-19 มีรายได้จากค่าโดยสารถึงกว่า 800 ล้านบาท เฉลี่ย 60 ล้านบาท/เดือน ตั้งแต่โควิด-19 ระบาดจนถึงปัจจุบัน รายได้ลดลงไปกว่า 40% ซึ่งจัดส่งรายได้เข้ารฟท.โดยตรง นอกจากนี้ยังมีรายได้จากค่าสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์อีกประมาณ 40 ล้านบาท/ปี ซึ่งส่วนนี้เอกชนทำสัญญาตรงกับ รฟท.
ขณะที่ รฟท.จ่ายค่าจ้างในการบริหารการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ให้บริษัทฯ ประมาณ 300 ล้านบาท/ปี
ตลอด 10 ปีแอร์พอร์ตลิงก์ไม่เคยปรับขึ้นค่าโดยสารเลย โดยยังคงจัดเก็บบุคคลทั่วไปที่อัตราเริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 45 บาท นักเรียน นักศึกษา ได้ส่วนลด 20% ผู้สูงอายุ ได้ส่วนลด 50%
แต่เมื่อส่งมอบให้เอกชนเข้ามาบริหารแทนภายใต้สัญญาสัมปทาน โดยจะต้องจ่ายเงินอีก 10,671 ล้านบาท ค่าโดยสารคงมีการปรับขึ้นตามเงื่อนไขการลงทุน ซึ่งผู้โดยสารก็ต้องรับสภาพ และอาจจะไม่มีมาตรการลดราคา ลดค่าครองชีพ เหมือนตอนที่อยู่ในความดูแลของ รฟท.อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปีที่ 10 ของแอร์พอร์ตลิงก์ กับ 3 ภารกิจสำคัญ
1. ทดสอบเดินรถสายสีแดง
2. ให้บริการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์
3. ประสาน ซี.พี.เพื่อส่งมอบตามสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อไม่ให้กระทบบริการ ...ถือเป็นความท้าทายสุดท้ายของแอร์พอร์ตลิงก์ ก่อนส่งไม้ต่อให้กลุ่ม ซี.พี.
https://www.facebook.com/HST.DSU/posts/1459704940888662 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 23/09/2020 9:58 am Post subject: |
|
|
สร้าง 2 ปี 6 เดือน คันทางไฮสปีดไทย-จีน ช่วง กลางดง-ปางอโศก 3.5 กม.
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 23 กันยายน 2563 เวลา 09:52 น.
ก.ย. นี้ส่งมอบรถไฟไทยจีนเฟสแรก
วันที่ 23 กันยายน 2563 เวลา 18:16 น.
กรมทางหลวงดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 1 กลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. แล้วเสร็จ ใช้เวลา 2 ปี 6 เดือน ส่งมอบให้รถไฟ ก.ย.นี้ ชูเป็นต้นแบบของโครงการในช่วงต่อๆ ไป
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย รองอธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ช่วงที่ 1 กลางดง-ปางอโศก กม.150+500 154+000 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมทางหลวง กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้กรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างให้
ประกอบด้วยงานหลักๆ 5 งาน ได้แก่ งานย้ายรางรถไฟเดิม งานดินตัดและงานถมวัสดุในหน้าตัดคันทางรถไฟความเร็วสูง งานชั้นวัสดุ Top Layer หรืองานบดอัดวัสดุก่อนงานวางรางและหินโรยทาง งานคอนกรีตประกอบคันทางรถไฟความเร็วสูง และงานถนนบริการขนานกับคันทางรถไฟความเร็วสูง ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร นั้น
ปัจจุบันกรมทางหลวงได้ดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ 100% และคาดว่าจะส่งมอบงานให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ภายในเดือนกันยายน 2563 โดยโครงการนี้จะถือเป็นต้นแบบในการดำเนินงานในช่วงต่อไปของโครงการรถไฟความเร็วสูง
เพื่อให้ทราบถึงกระบวนการทำงาน คุณภาพของวัสดุ ทำให้สามารถใช้วัสดุภายในประเทศให้มากที่สุด ซึ่งกรมทางหลวงได้ปรับปรุงคุณภาพวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็กเส้น และงานชั้นวัสดุ Top Layer ให้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานรถไฟความเร็วสูง
รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 1 กลางดง-ปางอโศก ใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 2 ปี 6 เดือน ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องใช้กระบวนการทำงานของกรมทางหลวงเองมาประยุกต์ให้เข้ากับกระบวนการทำงานของรถไฟความเร็วสูง โดยผู้ควบคุมงานจากประเทศจีน
ซึ่งทางกรมทางหลวงได้ทำงานควบคู่กับการศึกษาและเรียนรู้ เพื่อให้สามารถใช้วัสดุภายในประเทศให้ได้มากที่สุด และที่ผ่านมาได้นำเข้าวัสดุจากประเทศจีน 2 รายการ ได้แก่ ผ้าใบกันความชื้น และสายดิน คิดเป็น 2% ของมูลค่าก่อสร้างรวมทั้งหมด
นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้จัดทำคู่มือการก่อสร้างคันทางรถไฟความเร็วสูง ตามประสบการณ์การทำงานกับผู้ควบคุมจากประเทศจีน เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจหรือผู้รับจ้างอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง จะช่วยเสริมสร้างโครงข่ายการคมนาคมของประเทศรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการคมนาคมขนส่งถึงประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศไทยอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
เสร็จแล้ว! รถไฟไทย-จีน 3.5 กม.แรก ก่อสร้างมาราธอน 2 ปี 6 ด.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 23 กันยายน 2563 เวลา 09:45
กรมทางหลวง เผยก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ช่วง กลางดง - ปางอโศก 3.5 กม. เสร็จแล้ว พร้อมส่งมอบรฟท. ในก.ย.นี้ ใช้เวลารวม 2 ปี 6 ด. เหตุต้องเรียนรู้ ทำคู่มือต้นแบบสร้างคันทาง
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมทางหลวงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงกรุงเทพมหานคร หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา) ช่วงที่ 1 กลางดง ปางอโศก กม.150+500 154+000 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร แล้วเสร็จ 100%และคาดว่าจะส่งมอบงานให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ภายในเดือนก.ย. 2563
โดยงานก่อสร้างดังกล่าว เป็นไปตามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมทางหลวง กับ รฟท. โดยให้กรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างให้ ประกอบด้วยงานหลักๆ 5 งาน ได้แก่ งานย้ายรางรถไฟเดิม งานดินตัดและงานถมวัสดุในหน้าตัดคันทางรถไฟความเร็วสูง งานชั้นวัสดุ Top Layerหรืองานบดอัดวัสดุก่อนงานวางรางและหินโรยทาง งานคอนกรีตประกอบคันทางรถไฟความเร็วสูง และงานถนนบริการขนานกับคันทางรถไฟความเร็วสูง ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
โดยโครงการนี้จะถือเป็นต้นแบบในการดำเนินงานในช่วงต่อไปของโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อให้ทราบถึงกระบวนการทำงาน คุณภาพของวัสดุ ทำให้สามารถใช้วัสดุภายในประเทศให้มากที่สุด ซึ่งกรมทางหลวงได้ปรับปรุงคุณภาพวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็กเส้น และงานชั้นวัสดุ Top Layer ให้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานรถไฟความเร็วสูง
สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไทย จีน ช่วงที่ 1 กลางดง ปางอโศกใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 2 ปี 6 เดือน ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องใช้กระบวนการทำงานของกรมทางหลวงเองมาประยุกต์ให้เข้ากับกระบวนการทำงานของรถไฟความเร็วสูงโดยผู้ควบคุมงานจากประเทศจีน ซึ่งทางกรมทางหลวงได้ทำงานควบคู่กับการศึกษาและเรียนรู้ เพื่อให้สามารถใช้วัสดุภายในประเทศให้ได้มากที่สุดและที่ผ่านมาได้นำเข้าวัสดุจากประเทศจีน 2 รายการ ได้แก่ ผ้าใบกันความชื้น และสายดิน คิดเป็น 2% ของมูลค่าก่อสร้างรวมทั้งหมด
นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้จัดทำคู่มือการก่อสร้างคันทางรถไฟความเร็วสูงตามประสบการณ์การทำงานกับผู้ควบคุมจากประเทศจีน เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจหรือผู้รับจ้างอื่นๆต่อไป
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง จะช่วยเสริมสร้างโครงข่ายการคมนาคมของประเทศรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการคมนาคมขนส่งถึงประเทศจีน อีกทั้ง ยังเป็นการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศไทยอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
Last edited by Wisarut on 24/09/2020 10:42 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 24/09/2020 12:26 am Post subject: |
|
|
รฟท.ไล่เคลียร์บุกรุก 302 หลัง-ยกเลิก104 สัญญาเช่า เปิดพื้นที่สร้างไฮสปีด 3 สนามบิน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 23 กันยายน 2563 เวลา 19:49
รฟท.ไล่เช็คพื้นที่บุกรุก 302 หลัง เคลียร์ทางสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เร่งยกเลิก 104 สัญญาเช่าเสร็จในธ.ค. 63 มั่นใจออก NTP เริ่มงานมี.ค.64 ลุ้นโอนแอร์พอร์ตลิงก์ทัน ต.ค. 64 หรือไม่ หลังผู้เชี่ยวชาญอิตาลียังมาไทยไม่ได้ เหตุโควิด
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท ว่า ได้ติดตามความก้าวหน้าในการเตรียมพื้นที่เพื่อส่งมอบให้ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) เริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยในส่วนของ ความก้าวหน้าในการโยกย้ายผู้บุกรุก ซึ่งการสำรวจตลอดแนวเส้นทางตั้งแต่ลาดกระบัง- เขาชีจรรย์ มีจำนวน 302 หลัง โดยได้รื้อย้ายแล้ว จำนวน 208 หลัง เจรจาแล้วรอรื้อย้าย จำนวน 43 หลัง ,ไกล่เกลี่ยแล้วรอขึ้นศาล จำนวน 5 หลัง ,รอการเจรจาจำนวน 46 หลัง โดยรฟท.ระบุว่าจะเจรจาเสร็จในเดือนต.ค. 2563
ส่วนพื้นที่เช่าที่มีทั้งหมด 213 สัญญา มีผลกระทบต่อโครงการจำนวน 104 สัญญา โดยอยู่ในช่วงดอนเมือง-พญาไท 100 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาที่ไม่กระทบต่อโครงการ 49 สัญญา สัญญาที่กระทบต่อโครงการ 51 สัญญา ซึ่งจะต้องยกเลิกสัญญาทั้งหมด โดยจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนธ.ค. 2563
ช่วง ลาดกระบัง-อูตะเภา มีจำนวน 113 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาที่ไม่กระทบต่อโครงการ 59 สัญญา สัญญาที่กระทบต่อโครงการ 53 สัญญา(กำลังตรวจสอบอีก 1 สัญญา) ซึ่งจะดำเนินการยกเลิกสัญญา แล้วเสร็จในเดือนก.ย. 2563
สำหรับการเวนคืน เบื้องต้นได้จัดทำตารางแผนการดำเนินงานโดยกำหนดจะส่งมอบพื้นที่เวนคืนให้เอกชนคู่สัญญา กรณีที่ผู้ถูกเวนคืนมาทำสัญญาตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 เดือนมี.ค.2564 และส่งมอบพื้นที่เวนคืนชุดสุดท้าย ในเดือนส.ค.-ก.ย. 2564 โดยคาดว่าจะออกหนังสือเริ่มงาน(NTP) ให้เอกชนคู่สัญญาภายในเดือนมี.ค. 64
ส่วนการโอนโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ภายใน 2 ปี หลังการลงนามในสัญญา หรือภายในเดือนต.ค. 2564นั้น นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้การตรวจสอบทรัพย์สินและระบบรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตเรลลิงก์ อาจจะล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย เนื่องจากติดปัญหา ผู้เชี่ยวชาญจากอิตาลี ยังเดินทางมาประเทศไทยไม่ได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะต้องมาดู เพื่อทำแผนในการปรับปรุงระบบ ของแอร์พอร์ตลิงก์ให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ทางกลุ่มบริษัท รถไฟเชื่อมสามสนามบินจะสามารถรับโอนและบริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ได้ตามกำหนด
รถไฟเคลียร์ เวนคืน-ผู้บุกรุก-ผู้เช่า ไม่จบเลื่อนส่งมอบพื้นที่ไฮสปีด 3 สนามบิน
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 23 กันยายน 2563 - 21:14 น.
ไฮสปีด 3 สนามบินรออีกยาว ปลัดคมนาคม เผยสารพัดปัญหาจุกจิก เวนคืน-บุกรุก-ยกเลิกสัญญาเช่า-รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค เหนื่อยเจองานเข้าพื้นที่ เจ้าท่า-กรมชลฯ เพิ่มอีก 83 จุด เผย ซี.พี. ขอเวลามาร์คจุดสถานีศรีราชา-พัทยาใหม่ ส่วนมักกะสันพร้อมส่งมอบปี66
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2563 คณะทำงานได้ตรวจสอบการดำเนินการใน 4 กลุ่มงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ประกอบด้วย การเวนคืน การจัดการผู้บุกรุก การยกเลิกสัญญาเช่า และการรื้อย้ายสาธารณูปโภคที่กีดขวางแนวเส้นทาง
เลื่อนการเวนคืนที่ดิน
ในส่วนของการเวนคืน ได้วางแผนดำเนินการไว้ว่าในช่วงเดือนต.ค.นี้จะเริ่มประชุมคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้น จากนั้นในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย.นี้จะเริ่มงานรังวัดแบ่งแปลง ซึ่งเผื่อความล่าช้าไม่เป็นไปตามแผนไปจนถึงเดือน ม.ค. 2564 ต่อมาจะเป็นการสรุปรายละเอียดค่าทดแทนทั้งหมด
โดยคาดว่าจะทำเสร็จภายในเดือน ต.ค. นี้ และเผื่อความล่าช้าจากแผนไปถึงเดือน พ.ย. 2563 จากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนและจ่ายค่าทดแทน ตามแผนจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ และเผื่อความล่าช้าจากแผนไปถึงเดือน ม.ค. 2564 และจะเข้าสู่ขั้นตอนการส่งมอบพื้นที่เวนคืนทั้งหมดให้คู่สัญญา
ในขั้นตอนนี้จะวางไว้ 2 กรณี กรณีแรกเรียกผู้ถูกเวนคืนมาทำสัญญา กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. 2564 และเผื่อความล่าช้าจากแผนไปถึงเดือน เม.ย. 2564 และกรณีที่ 2 เมื่อไม่มาทำสัญญา จะดำเนินการส่งมอบภายในเดือน ส.ค. 2564 และเผื่อความล่าช้าจากแผนไปถึงเดือน ก.ย. 2564
ผงะผู้บุกรุกสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา
ขณะที่ความก้าวหน้าของการแก้ปัญหาผู้บุกรุก พบว่าช่วงสุวรรณภูมิ อู่ตะเภา เป็นช่วงที่มีผู้บุกรุกที่กระทบกับโครงการมากที่สุด ขณะนี้พบจำนวนผู้บุกรุกรวม 571 หลัง เป็นผู้บุกรุกที่กระทบกับโครงการ 302 หลัง และไม่กระทบกับโครงการ 269 หลัง ดำเนินการฟ้องร้อง 245 หลัง ไม่ฟ้องร้อง 11 หลัง รื้อย้ายแล้ว 208 หลัง เจรจารอรื้อย้าย 43 หลัง ไกล่เกลี่ยรอขึ้นศาล 5 หลังและรอเจรจาอีก 46 หลัง
โดยในช่วงสุวรรณภูมิ อู่ตะเภา พบว่าจุดที่มีผู้บุกรุกอยู่อาศัยและกระทบกับโครงการมากที่สุดอยู่บริเวณบางละมุงจำนวน 173 หลัง ถัดมาเป็นช่วงพัทยา บ้านห้วยขวาง 83 หลัง , ช่วงเขาพระบาท 28 หลัง และช่วงเขาชีจรรย์ 7 หลัง
ติดสัญญาเช่าเบี้ยหัวแตก213 สัญญา
ส่วนเนื้องานด้านการยกเลิกสัญญาเช่า เบื้องต้นตามแนวเส้นทางมีสัญญาเช่ารวม 213 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาเช่า 59 สัญญาและสัญญาใช้สิทธิ์เหนือพื้นดิน 154 สัญญา โดยสัญญาเช่าในพื้นที่ไม่มีผู้เช่าที่เป็นรายใหญ่ มีเพียงรายย่อยที่เช่าไปทำที่จอดรถ อู่ซ่อมรถขนาดเล็ก ปลูกพืช เป็นต้น ซึ่งการบอกเลิกสัญญาน่าจะไม่ยาก
สำหรับการบอกเลิกสัญญาเช่าที่กระทบกับโครงการจะอยู่ในช่วงดอนเมือง พญาไท 100 สัญญา เป็นสัญญาที่กระทบโครงการ51 สัญญา คาดว่าจะยกเลิกแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.2563 และอีกส่วนหนึ่งจะอยู่ในช่วงลาดกระบัง อู่ตะเภา จำนวน 113 สัญญา เป็นสัญญาที่มีผลกระทบกับโครงการ 53 สัญญา คาดว่าจะยกเลิกสัญญาแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2563
รื้อย้ายเพิ่ม10จุด
ด้านงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคยังไม่พบปัญหาเพิ่มเติม เพียงแต่มีข้อมูลขัดกับกองทัพเรือ (ทร.) ที่ ทร.เห็นว่ามีแค่ 3 จุดเท่านั้นที่ต้องรื้อย้าย แต่คณะทำงานบอกว่ามี 10 จุด จึงให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไปดำเนินการหารือมาให้เรียบร้อย
ส่วนเรื่องงบประมาณ มีบางหน่วยงานเจ้าของสาธารณูปโภคตรวจพบสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมในพื้นที่เวนคืนและจำเป็นต้องใช้งบประมาณดำเนินการเพิ่มเติม หากงานที่เพิ่มดังกล่าวมีมากกว่าวงเงินที่เคยให้ไว้ ก็ให้ใช้เงินเหลือจ่ายของงบประมาณปี 2564 หากไม่พออีกจึงค่อยทำเรื่องของบกลางต่อไป
โดยรายละเอียดของเนื้องานที่ขอเพิ่มยังไม่ทราบ ให้แต่ละหน่วยงานไปตรวจสอบเพิ่มเติม นอกจากนี้ ให้ทำแผนปฏิบัติการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคกลับมาในการประชุมครั้งหน้าด้วย
ตามกำหนดแล้วการส่งมอบพื้นที่จะต้องทำให้เสร็จ 100% ภายในเดือน ต.ค. 2564 แต่จะพยายามส่งมอบพื้นที่ให้เร็วกว่านั้น แต่ตอนนี้ดีเลย์มาเดือน มี.ค. 2564 ก็ตั้งใจจะให้ออก NTP ให้ได้ภายในเดือนมี.ค. 2564 นายชัยวัฒน์กล่าว
เจอตอพื้นที่ เจ้าท่า-กรมชลฯ 83 จุด
นอกจากนี้ยังมีการขอเข้าใช้พื้นที่ของหน่วยงานอื่นเพิ่มเติม โดยเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวกับกรมเจ้าท่า (จท.) และกรมชลประทาน ซึ่งมีการพบแนวเส้นทางพาดผ่านพื้นที่ของทั้ง 2 หน่วยงานจำนวน 83 จุด จึงให้ ร.ฟ.ท.ไปหารือกับ 2 หน่วยงานดังกล่าว เพื่อสรุปความรับผิดชอบต่อ 83 จุดดังกล่าวว่า เป็นอำนาจของหน่วยใดบ้าง และเงื่อนไขการอนุญาตใช้พื้นที่มีอะไรบ้าง แล้วให้กลับมารายงานปัญหาทั้งหมดอีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า หากพบความยุ่งยากในการเข้าพื้นที่ทั้ง 83 จุดจึงค่อยหารือถึงการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในลำดับถัดไป
ส่งมอบแอร์พอร์ตลิงก์ต.ค.64
ขณะที่ความคืบหน้าของการรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ไปบริหารของ บจ. รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน (กลุ่มซี.พี.) ยังติดปัญหาด้านผู้เชี่ยวชาญพิเศษจากต่างประเทศซึ่งยังเข้ามาประเทศไทยไม่ได้
เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะเป็นผู้ตรวจสอบระบบและโครงสร้างต่างๆ ทำให้ตอนนี้ทางซี.พี.ทำได้แค่เพียงส่งภาพถ่ายไปยังผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ต่างประเทศเท่านั้น แต่ทั้งนี้ จะไม่กระทบกับการรับมอบแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ซึ่งมีกำหนดรับมอบในเดือน ต.ค. 2564 แต่อย่างใด เพราะทางซี.พี.ได้ทำไทม์ไลน์โครงการไว้แล้ว
ซี.พี.ขอเวลามาร์คจุด2สถานีใหม่
ผู้สื่อข่าวถาม กรณีที่กลุ่มซี.พี.ต้องการย้ายตำแหน่งสถานีพัทยาและสถานีศรีราชาไปแห่งใหม่ เพื่อให้มีการพัฒนาเชิงพาณิชย์รอบสถานี หรือ TOD ได้มากขึ้น มีการหารือในที่ประชุมหรือไม่ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือในเรื่องนี้ เพราะกลุ่มซี.พี.ต้องการกำหนดจุดตั้งสถานีให้แน่นอนก่อน
จึงได้แจ้งกับกลุ่มซี.พี.ว่า หากต้องการย้ายสถานีใหม่ ให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะมีผลกับการเวนคืน การรื้อย้ายสาธารณูปโภค อาจจะมีเพิ่มเติมได้และทำให้กำหนดส่งมอบพื้นที่ต้องเลื่อนออกไปอีก
ส่วนแผนการพัฒนา TOD ก็ได้แนะนำให้ซี.พี.นำผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่ศึกษาการทำ TOD สถานีพัทยาไว้ไปใช้ด้วย ซึ่งในการประชุมครั้งหน้าก็ได้กำชับถึงคอนเซ็ปการพัฒนา TOD ด้วย
ส่งมอบมักกะสันรอยาวถึงปี 66
ขณะที่พื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ พื้นที่มักกะสัน 140 ไร่ กลุ่มซี.พี.ได้ลงพื้นที่สำรวจเรียบร้อยแล้ว กำลังทำผังพัฒนาพื้นที่ให้ชัดเจน แต่ยังไม่กำหนดให้ส่งกลับมาเร็วๆนี้ เพราะการส่งมอบพื้นที่มักกะสันยังติดขัดในการรื้อย้ายพวงรางโรงซ่อมหัวรถจักรเก่า
ซึ่งการส่งมอบพื้นที่มักกะสันจะรวมอยู่ในการส่งมอบพื้นที่ระยะที่ 2 ช่วงดอนเมือง สุวรรณภูมิ กำหนดไทม์ไลน์ 4 ปี หรือประมาณปี 2566 ส่วนพื้นที่ศรีราชา 25 ไร่ยังไม่ได้พูดถึงในการประชุมครั้งนี้
https://www.facebook.com/photo/?fbid=3413126672067587&set=a.2081528948560706
ผู้บุกรุกย้ายแล้ว 208 หลัง!! สร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน
*ส่งมอบพื้นที่สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาต้องจบ มี.ค.64
*จี้ซีพีเร่งวางจุดสถานีพัทยาหวั่นกระทบโครงการ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2717607398460761
Last edited by Wisarut on 24/09/2020 12:30 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 24/09/2020 12:28 am Post subject: |
|
|
แบบร่างล่าสุด สถานีรถไฟความเร็วสูงขอนแก่น โครงการรถไฟความเร็วสูง สายอิสาน ช่วงที่ 2 โคราช-หนองคาย พื้นที่ ขอนแก่น และ อุดรธานี สามารถเข้าร่วมประชุมกลุ่มย่อยได้ 21-25 กันยายน 2563
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
เผยแพร่: วันที่ 23 กันยายน 2563 เวลา 21:23 น.
วันนี้เอารายละเอียดความคืบหน้าของ โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย จากงานประชุมกลุ่มย่อยในพื้นที่ ขอนแก่น และ อุดรธานี ช่วงสัปดาห์นี้มาฝากครับ
ใครสนใจเข้าร่วมงานประชุมกลุ่มย่อย ดูรายละเอียดได้จากลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/111266057086751/posts/199827424897280/?extid=GQH8e5aEeQOkmeQX&d=n
ตอนนี้มีความคืบหน้า และรายละเอียดเพิ่มเติม ของสถานีรถไฟความเร็วสูงขอนแก่น ซึ่งปรับอัตลักษณ์ ให้สอดคล้องกับท้องถิ่นมากขึ้น ถ้าเทียบจากแบบแรกที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสถานี แบบนี้สร้างความแตกต่างมากๆครับ
แบบแรกตามลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/999163853855427/?extid=bOk0W4Ba2l1K8L6A&d=n
- การตกแต่งภายนอก
ในแบบร่างใหม่นี้ได้มีการปรับรูปลักษณ์ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าสถานีใหม่
เป็นทรงจั่วสูง มีลายคล้ายรัศมี ออกจากป้ายชื่อสถานี พร้อมกับทำหลังคา ลาดต่อเนื่อง ตลอดช่วงหน้าสถานี
ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก
- สิมอิสาน หรือหน้าจั่วประตูโบสถ์
- ลายตะเว็น ซึ่งเป็นลายหน้าจั่วบ้านในท้องถิ่นอิสานและขอนแก่น
ส่วนตัวฟาซาดอาคาร มีรูปแบบ เป็นลายจักรสาน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก เครื่องจักรสานไม้ไผ่ และลายผ้าทออิสาน
นอกจากนั้น โครงการได้มีการ ประสานงานและออกแบบร่วมกับโครงการพัฒนาเมือง TOD ต้นแบบของขอนแก่น และโคราชรถไฟฟ้าในเมือง (LRT) ของเมืองขอนแก่น
พร้อมกับมีการก่อสร้างทางเดิน Skywalk เชื่อมต่อจากตัวอาคารสถานี ไปที่สถานีรถไฟฟ้า LRT ด้วย
- การตกแต่งภายในภายใน จะคล้ายของเดิม ซึ่งสวยอยู่แล้ว
จะใช้ลักษณะของ แคน ลายผ้าทอ เช่น ลายประจำจังหวัด ลายแคนแก่นคูน ลายผ้าทออิสาน มาเป็นรูปแบบในการออกแบบภายใน
ตำแหน่งสถานีขอนแก่น จะอยู่ด้านหลังสถานีรถไฟทางคู่ขอนแก่น ด้านคลังน้ำมัน
โดยจะมีการเวนคืนเพื่อทำทางเข้าสถานีจากทางด้านถนนมิตรภาพใหม่
โดยตัวสถานีจะเป็นสถานียกระดับ 3 ชั้น
ชั้นชานชาลารถไฟ จะอยู่ชั้น 3 น่าจะสูงระดับเดียวกับสถานีรถไฟทางคู่ขอนแก่น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
Posted: 24/09/2020 11:10 am Post subject: |
|
|
จี้ซีพีเร่งปักหมุดสถานีพัทยา
วันที่ 24 กันยายน 2563 เวลา 15:49 น.
คมนาคม จี้ซีพีเร่งเลือกจุดตั้งสถานีพัทยา รถไฟความเร็วสูง หวั่นแผนส่งมอบพื้นที่ล่าช้า
ข่าวอัพเดต
วันที่ 24 กันยายน 2563 เวลา 01:20 น.
คมนาคม จี้ซีพีเลือกจุดตั้งสถานีพัทยา รถไฟความเร็วสูง หวั่นกระทบแผนส่งมอบพื้นที่สร้างรถไฟเร็วสูง 3 สนามบิน ล่าช้า
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค เฟส 1 ช่วง สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ว่า ขณะนี้สามารถแก้ปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 วงเงิน 4.1 พันล้านบาท ที่จะนำมาใช้ในการรื้อย้ายสาธารณูปโภคออกจากพื้นที่ เพื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง รถไฟความเร็วสูงให้ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร)ได้แล้ว เนื่องจากงบดังกล่าว ได้รับการพิจารณาอนุมัติทั้งหมดแล้ว จากนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จะต้องเร่งออกประกาศเชิญชวนจัดจ้างรื้อย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.63
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้มอบให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบงานรื้อย้ายเพิ่มเติม หากมีให้ใช้งบประมาณเหลือจ่ายปี 64 และหากไม่พอ จึงจะขอใช้งบกลางปี 64 ได้ คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ และออกหนังสือให้เริ่มงาน (NTP)ได้ตามเป้าหมาย ในเดือน มี.ค.64 โดยต้องเร่งรัดเรื่องเวนคืนที่ดิน ย้ายผู้บุกรุก รื้อย้ายสาธารณูปโภค ยกเลิกสัญญาเช่า และการขอใช้พื้นที่จากหน่วยงานรัฐเพิ่มเติม โดยในส่วนของการเวนคืนที่ดินขณะนี้จัดทำภาพถ่ายทางอากาศเสร็จแล้ว และเดือน ต.ค.จะทำรังวัดแบ่งแปลงเพื่อทำสัญญาซื้อขาย
ส่วนเรื่องการย้ายผู้บุกรุก 302 หลังคาเรือนออกจากพื้นที่นั้น ขณะนี้รื้อย้ายแล้ว 208 หลัง รอรื้อย้าย 43 หลัง ขึ้นศาลไกล่เกลี่ย 5 หลัง รอเจรจาอีก 46 หลังคาเรือน โดย รฟท. คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมด ต.ค.63 ส่วนการยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ ขณะนี้ รฟท. ยังไม่ได้ยกเลิกสัญญา 104 สัญญา โดยช่วงดอนเมือง-พญาไท คาดว่าจะเร่งยกเลิกสัญญาเสร็จ ธ.ค.63 ส่วนช่วงลาดกระบัง-อู่ตะเภาแล้วเสร็จเดือน ต.ค.63
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการขอใช้พื้นที่จากหน่วยงานรัฐเพิ่มเติมพบว่าต้องขอใช้พื้นที่จากกรมเจ้าท่า และกรมชลประทาน รวม83 จุด ซึ่งที่ประชุมมอบให้ 2 หน่วยงานไปจัดทำรายละเอียดที่พื้นที่ และขั้นตอนการขออนุญาตให้ชัดเจน เพื่อนำมาเสนอที่ประชุมครั้งหน้าในเดือน ต.ค.นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เร่งรัดให้ กลุ่มซีพี เร่งพิจารณาเลือกจุดที่จะใช้ก่อสร้างเป็นสถานีพัทยา พร้อมกับทำแผนการพัฒนาเมืองรอบสถานี (TOD) ให้ชัดเจน และให้นำมาเสนอในการประชุมครั้งหน้า โดยเสนอให้นำผลการศึกษาการพัฒนา TOD ของ สนข. มาเป็นแนวคิดในการพัฒนาของซีพี
ซีพีต้องเร่งสรุปจุดสถานีพัทยาให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อแผนการดำเนินงานภาพรวม เพราะการย้ายจุดก่อสร้างสถานีพัทยา จะต้องใช้เวลา เพราะต้องมีการเวนคืนที่ดิน ซึ่งต้องมีการออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน และต้องรื้อย้ายสาธารณูปโภค หากตัดสินใจล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ล่าช้าได้ ส่วนการส่งมอบพื้นที่สถานีมักกะสัน 140 ไร่นั้น ขณะนี้ซีพีได้ลงสำรวจพื้นที่ทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างจัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่ นายชัยวัฒน์ กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42694
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|