Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181551
ทั้งหมด:13492789
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 17, 18, 19 ... 71, 72, 73  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 28/09/2020 5:57 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ประกาศปิดกั้นจราจรยาวถึงสิ้นปี 64 สร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู
หน้า Politics
อังคารที่ 22 กันยายน 2563 เวลา 21:15 น.


ปิดเบี่ยงจราจร ”ถ.ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา” สร้าง BTS สายสีชมพู
ข่าวข่าวรอบวัน
วันที่ 28 กันยายน 2563 - 11:18 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย แจ้งปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราว ถนนติวานนท์-แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา ถึงเดือนธันวาคม เร่งสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี

วันที่ 28 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งปิดถนนสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี โดยแจ้งปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราวทุกช่องทาง บนถนนแจ้งวัฒนะและบนถนนรามอินทรา ฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก



บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ถึง บริเวณสะพานข้ามคลองถนน และ บริเวณก่อนเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก ถึง บริเวณก่อนถึงตรงข้ามซอยรามอินทรา 91/1 เพื่อดำเนินงานก่อสร้างสถานีโครงการรถไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2563 ในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น.

นอกจากนี้ ยังแจ้งปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราว บนถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนรามอินทรา ตั้งแต่บริเวณแยกแคราย ถึง บริเวณก่อนถึงแยกเมืองมีน เพื่อดำเนินการติดตั้งชิ้นงานและคานทางวิ่ง (Guideway Beam)

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2563 ในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 30/09/2020 12:31 pm    Post subject: Reply with quote

แอบส่อง!!รถไฟฟ้าชมพู-เหลือง@ท่าเรือแหลมฉบัง
*ยกขบวนรถ 8 ตู้ออกจากเรือเรียบร้อยแล้ว
*ยังอายอยู่จ้า/รอยลโฉมพร้อมนายกฯพรุ่งนี้
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2723865827834918

#รถไฟฟ้าMONORAIL ชุดแรก เดินทางมาถึง #ประเทศไทย แล้ว เมื่อ 30 กันยายน 2563
https://www.facebook.com/TrainBusAirplane/posts/178486380514951


ถึงไทยแล้ว! “รถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง” รอยลโฉมพร้อม “ประยุทธ์” 1 ต.ค.
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 30 กันยายน 2563 เวลา 14:09 น.

“ประยุทธ์” ลงพื้นที่อีอีซีพรุ่งนี้ เป็นประธานตัดริบบิ้นรับมอบ 2 ขบวนแรกรถโมโนเรลสายสีชมพู-สีเหลือง ที่แหลมฉบัง เตรียมวิ่งทดสอบต้นปีหน้า เปิดหวูด ต.ค. 2564

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 28 ก.ย. 2563 ขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรลของสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง เดินทางจากประเทศจีนมาถึงท่าเรือแหลมฉบังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยในวันที่ 1 ต.ค. 2563 จะมีพิธีรับมอบขบวนรถดังกล่าวบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีในเวลา 11.00 น.




จากนั้นทางบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บีทีเอสกรุ๊ป-ซิโนไทย-ราชกรุ๊ป) เอกชนผู้ลงทุนและรับสัมปทานโครงการ จะนำรถ 2 ขบวนไปไว้ในศูนย์ซ่อมบำรุงของสายสีชมพูและสายสีเหลือง เพื่อทำการทดสอบระบบ เพื่อเช็กการผลิตว่าดำเนินการถูกต้องตามที่สั่งผลิตหรือไม่ ก่อนที่จะนำวิ่งทดสอบบนทางวิ่งโครงสร้างในต้นปี 2564

จากนั้นในเดือน ต.ค. จะเปิดบริการเป็นช่วงๆ ในส่วนของสายสีเหลืองจะเปิดจากสถานีสำโรง-สถานีพัฒนาการเชื่อมกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และสายสีชมพูเปิดจากสถานีมีนบุรี-สถานีวัดพระศรีมหาธาตุเชื่อมกับสายสีเขียว โดยทั้ง 2 สายจะเปิดตลอดสายในปี 2565

สำหรับขบวนรถที่สั่งซื้อ มีจำนวน 288 ตู้ หรือ 72 ขบวน ใน 1 ขบวน มี 4 ตู้ เป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุด ชื่อ “INNOVA Monorail 300″ เป็นโมโนเรลล้อยางขนาดใหญ่ เรียกว่า “ซูเปอร์โมโนเรล” ตัวรถมีความกว้างเท่ากับรถบีทีเอส สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 40,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง สูงสุด 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 01/10/2020 10:39 am    Post subject: Reply with quote

ยลโฉมรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู-เหลือง ขบวนแรกส่งถึงไทยแล้ว

01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 10:12 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 1 ต.ค.2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน

ทั้งนี้ รถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) เป็นแบบคร่อมรางบนทางวิ่งยกระดับเหนือแนวเกาะกลางถนน ทำหน้าที่เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder) ป้อนผู้โดยสารเข้ารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลักในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีแนวเส้นทางผ่านตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร ในแนวตะวันตก-ตะวันออก จากถนนติวานนท์ผ่านถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทราไปสิ้นสุดบนถนนสีหบุรานุกิจระยะทางรวม 34.5 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้า 30 สถานี มีจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีมีนบุรี โดยมีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่งและศูนย์ซ่อมบำรุงตั้งอยู่ใกล้กับสถานีมีนบุรี

ส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีแนวเส้นทางเหนือใต้ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร จากถนนลาดพร้าว ผ่านถนนศรีนครินทร์ไปสิ้นสุดบนถนนเทพารักษ์ ระยะทางรวม 30.4 กิโลเมตร มีสถานี 23 สถานี มีจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ที่สถานีรัชดา เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์และรถไฟสายตะวันออกที่สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีแยกลำสาลีและเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสำโรง มีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุงตั้งอยู่ใกล้กับสถานีศรีเอี่ยม

สำหรับรถไฟฟ้าจะเป็นรุ่น Bombardier Innovia Monorail 300 ควบคุมด้วยระบบอาณัติสัญญาณ CITYFLO 650 แบบไร้คนขับ ภายในห้องโดยสารของขบวนรถมีอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ กล้อง CCTV เครื่องตรวจจับควัน ปุ่มติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ควบคุมรถ เป็นต้น

รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ทรานสปอร์เทชั่นโฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู จำนวนรวม 42 ขบวน และของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจำนวนรวม 30 ขบวน จนครบจำนวนภายในปี 2564 โดยผู้รับสัมปทานทั้งสองโครงการจะดำเนินการติดตั้งและทดสอบระบบเพื่อสร้างความมั่นใจและเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2565 โดยในระยะแรกจะให้บริการด้วยรถไฟฟ้า 4 ตู้ต่อ 1 ขบวนรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง และในระยะต่อไปยังสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ตู้ต่อขบวนรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 28,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 01/10/2020 1:04 pm    Post subject: Reply with quote

"ลุงตู่" รับมอบรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่ท่าเรือแหลมฉบัง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13:02

นายกฯ”รับมอบ "รถไฟฟ้าโมโนเรล" ขบวนแรก
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15:42

นายกฯ”ประธานรับมอบรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง

วันนี้ (1 ต.ค.) เวลา 12.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี รับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ผู้บริหารบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด นำโดย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหาร ส่วนราชการในท้องที่และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ โดยกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี พร้อมทั้งได้ผลักดันให้เกิดโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายใหม่ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไป ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลได้ให้ความสนใจ เร่งรัดและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้ง 2 โครงการเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเป็น “ทางเลือกใหม่” ในการเดินทางที่สามารถขนส่งผู้โดยสารจำนวนมากได้ในคราวเดียวกัน มีกำหนดเวลาที่แน่นอน และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟม. จะทุ่มเทในการสร้างโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้ประสบความสำเร็จ ตามแผนงาน เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในหัวเมืองภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารได้ร่วมกันตัดริบบิ้นรับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรกของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าไปอีกขั้นของโครงการนอกเหนือจาก งานก่อสร้าง เตรียมความพร้อมสู่การเปิดให้บริการแก่พี่น้องประชาชนในอนาคตอันใกล้นี้ รฟม. ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ กับผู้รับสัมปทาน บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ กับผู้รับสัมปทาน บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560

โดยทั้ง 2 โครงการได้รับการออกแบบให้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) แบบคร่อมราง บนทางวิ่งยกระดับเหนือแนวเกาะกลางถนน ทำหน้าที่เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder) ป้อนผู้โดยสารเข้ารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลัก ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ มีแนวเส้นทางพาดผ่านตอนเหนือของกรุงเทพฯ ในแนวตะวันตก-ตะวันออก จากถนนติวานนท์ ผ่านถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา ไปสิ้นสุดบนถนนสีหบุรานุกิจ ระยะทางรวม 34.5 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการรวม 30 สถานี มีจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่สถานีมีนบุรี โดยมีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุงฯ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีมีนบุรี และในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ มีแนวเส้นทางพาดในแนวเหนือ-ใต้ ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จากถนนลาดพร้าว ผ่านถนน ศรีนครินทร์ ไปสิ้นสุดบนถนนเทพารักษ์ ระยะทางรวม 30.4 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการรวม 23 สถานี มีจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ที่สถานีรัชดา เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟสายตะวันออก ที่สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่สถานีแยกลำสาลี และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีสำโรง โดยมีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุงฯ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีศรีเอี่ยม

สำหรับรถไฟฟ้าซึ่งจะนำมาวิ่งให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ เป็นรุ่น Bombardier Innovia Monorail 300 ควบคุมด้วยระบบอาณัติสัญญาณ CITYFLO 650 แบบไร้คนขับ ภายในห้องโดยสารของขบวนรถมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างครบครัน เช่น กล้อง CCTV เครื่องตรวจจับควัน ปุ่มติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ควบคุมรถ ถังดับเพลิง และที่เปิดประตูฉุกเฉิน โดยบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ จำนวนรวม 42 ขบวน และของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ จำนวนรวม 30 ขบวน มายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนครบจำนวนภายในปี 2564

พร้อมกันนี้ บริษัทผู้รับสัมปทานทั้ง 2 โครงการจะดำเนินการติดตั้งและทดสอบระบบเพื่อสร้างความมั่นใจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2565 โดยในระยะแรกจะให้บริการด้วยรถไฟฟ้า 4 ตู้ต่อ 1 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง และในระยะต่อไปยังสามารถเพิ่มจำนวนตู้โดยสารได้สูงสุด 7 ตู้ต่อขบวน รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 28,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ทั้งนี้ รฟม. จะมุ่งมั่นผลักดันโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้ ตลอดจนโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม เพื่อสร้างโครงข่ายการเดินทางที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน สามารถติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

น้องมาแล้ว พี่ๆ พร้อมมั้ยยยยยย
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 12.02 น.

วันนี้มารับ #น้องพิ๊งกุ กับ #น้องเหลือง ขบวนแรกของโครงการ Monorail สายสีชมพู และเหลือง

เดี๋ยวจะเอาภาพและรายละเอียด ภายนอกภายในของตัวรถ Monorail 2 ขบวนแรกมาให้เพื่อนๆชมนะครับ

อยากดูส่วนไหน รายละเอียดอะไรเป็นพิเศษคอมเมนท์มาเลยนะครับ
https://www.facebook.com/reporterjourney/posts/1561262077379445


Last edited by Wisarut on 02/10/2020 12:17 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 01/10/2020 5:28 pm    Post subject: Reply with quote

สำรวจภายในตัวรถ - ใต้ท้องรถไฟโมโนเรลสายสีเหลือง - ชมพู
Reporter Journey
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14:02

ภาพชุด 2 จากผู้สื่อข่าวของ Reporter Journey ส่งตรงจากแหลมฉบังมาแล้ว สำหรับพิธีรับมอบขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 ขบวนแรก ซึ่งตอนนี้ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เข้าไปเก็บภาพตัวรถในระยะใกล้ๆ ทั้งด้านนอกและด้านในแล้ว
.
🔴ข้อมูลด้านนอกตัวรถ
🔸️ รถไฟฟ้าโมโนเรลแบบคร่อม (Straddle) รุ่น Bombardier INNOVIA 300 รุ่น Bombardier INNOVIA 300
🔸️ รูปแบบขบวนรถที่ใช้เป็นแบบ 4 ตู้ต่อขบวน มีความยาวของขบวนรถ 50.47 เมตร
🔸️ ความกว้างตัวรถไฟ 3.162 เมตร
🔸️ แม้จะประกอบในประเทศจีน แต่ Bombardier เป็นบริษัทผลิตรถไฟและรถไฟฟ้าชั้นนำของโลกจากประเทศแคนนาดา ดังนั้นมาตรฐานต่างๆ ก็เป็นไปตามที่บริษัทแม่กำหนด
🔸️ ล้อของรถไฟฟ้าจะเป็นล้อยางแบบเติมก๊าซไนโตรเจน แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ล้อหลักสำหรับขับเคลื่อน (Load Wheel) ซึ่งจะมี 4 ล้อต่อตู้ (2 ล้อต่อโบกี้) และล้อสำหรับประคอง (Guide Wheel) 12 ล้อต่อตู้ (6 ล้อต่อโบกี้)
🔸️ ความเร็วเฉลี่ย 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ากับรถไฟฟ้าใต้ดินและ BTS ไม่ได้วิ่งช้าไปกว่ากันเลย
🔸️ แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง 750 โวลต์ ซึ่งเป็นกำลังไฟฟ้าขับเคลื่อนเท่ากับ BTS
🔸️ ความลาดชันที่ไต่ระดับวิ่งไห้คือ 6% (หมายความว่า ระยะทาง 100 เมตร มีความสามารถในการไต่ความชันสูงสุดได้ถึง 6% ซึ่งมากกว่า BTS ซึ่งได้เพียง 3%)
.
🔴ข้อมูลด้านในตัวรถ
🔸️ เป็นระบบรถไฟขับเคลื่อนอัตโนมัติจากศูนย์ควบคุม
🔸️ ความจุผู้โดยสารต่อขบวนขึ้นอยู่กับจำนวนของตู้โดยสารตามสัดส่วนดังนี้
🔸️ สำหรับ 4 ตู้โดยสาร ความจุ 568 คน (ุ6 คนต่อ 1 ตารางเมตร)
🔸️ สำหรับ 6 ตู้โดยสาร ความจุ 862 คน (ุ6 คนต่อ 1 ตารางเมตร)
🔸️ สำหรับ 7 ตู้โดยสาร ความจุ 1,009 คน (ุ6 คนต่อ 1 ตารางเมตร)
🔸️ ระบบสามารถรองรับตู้สูงสุด 8 ตู้หรือ 48,000 คน/เที่ยว/ชั่วโมง
🔸️ โดยสถานีทั้งสายสีชมพูและสายสีเหลืองรองรับจำนวนตู้โดยสารได้สูงสุดเต็มพิกัด 7 ตู้เลย
🔸️ ความสามารถในการขนถ่ายผู้คนคือ 28,000 คน/เที่ยว/ชั่วโมง
🔸️ ตู้โดยสารมี 4 แบบคือ แบบ A และ B มีที่นั่ง 14 ที่นั่งต่อตู้
🔸️ ตู้แบบ C และ D มี 16 ที่นั่งต่อตู้
🔸️ มีระบบประกาศข้อมูลสำหรับผู้โดยสาร
🔸️ พื้นที่สาหรับวีลแชร์ 2 ที่ อยู่ที่ตู้ A และ B
🔸️ มีระบบประกาศข้อมูลสำหรับผู้โดยสาร
🔸️ จอ LCD สำหรับแจ้งชื่อสถานี เป็นจุดไฟเหมือน BTS รุ่นที่ 2 ติดตั้งอยู่บริเวณเหนือประตูรถไฟฟ้า
🔸️ ระบบ Intercom เพื่อให้ผู้โดยสารภายในขบวนรถสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่เดินรถในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
🔸️ ระบบขับเคลื่อนด้วยมือ (สำหรับเจ้าหน้าที่ควบคุมในกรณีฉุกเฉิน) อยู่ตรงด้านหน้าของรถถูกล็อคกุญแจอย่างดี
🔸️ ระบบความปลอดภัยภายในตัวรถ กล้อง CCTV 4 กล้องต่อตู้
🔸️ ระบบกล้องนำทางหน้าตัวรถสำหรับเจ้าหน้าที่เดินรถที่ศูนย์ควบคุม
🔸️ ระบบตรวจจับควัน (Smoke Detector)
🔸️ ถังดับเพลิง 2 ถังต่อตู้
🔸️ ใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง
🔸️ รัศมีโค้งต่ำ เพียง 46 เมตร เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า Heavy Rail ต้องใช้ถึง 80 เมตร
🔸️ ช่วงทางเดินระหว่างตู้ (Gangway) มีความปลอดภัยกับผู้โดยสาร
🔸️ ทำงานร่วมกับ อาณัติสัญญาณ Cityflo 650 ซึ่งรองรับระบบเดินรถอัตโนมัติ (คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพู เหลือง และทอง น่าจะไม่ใช้คนขับ เพราะ คุมการเดินรถผ่านศูนย์ควบคุม
🔸️ มีระบบดึงพลังงานจากเบรก เพื่อจ่ายเข้าระบบเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า
🔸️ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 48,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง ซึ่งใกล้เคียงกับรถไฟฟ้า Heavy Rail แบบ BTS และ MRT แล้วครับ
นี่เป็นข้อมูลรายละเอียดของรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 ขบวนแรกใน 2 เส้นทางที่จะเปิดทดสอบเดินรถช่วงต้นปีหน้า และเปิดให้บริการราวเดือนตุลาคม 2564 สำหรับสายสีเหลือง ช่วงสำโรง - สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟแอร์พอร์ต เรลลิ้งค์ที่สถานีหัวหมาก

ส่วนสายสีชมพูก็คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงแรกจากสถานีมีนบุรี - วงเวียนหลักสี่ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS วัดพระศรีมหาธาตุ ในช่วงปี 2565
.
อดใจรอกันหน่อยนะทั้งชาวศรีนครินทร์ ลาดพร้าว และชาวรามอินทรา แจ้งวัฒนะ ก็จะได้ใช้บริการกันแล้ว
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1035615930210219
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/videos/2710159832569746/

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู
ข่าวรถไฟฟ้า
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13:41

ในวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม 2563 รถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีเหลืองและสายสีชมพู 2 ขบวนแรกของประเทศไทย ได้จัดส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีรับมอบรถอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 12:36 น. ก่อนที่ขบวนรถทั้ง 2 ขบวน จะถูกจัดส่งไปยังศูนย์ซ่อมบำรุงสายสีเหลืองที่บริเวณสถานีศรีเอี่ยม และศูนย์ซ่อมบำรุงสายสีชมพูที่บริเวณสถานีมีนบุรี เรามาทำความรู้จักกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูกันครับ #infoข่าวรถไฟฟ้า

นายกรัฐมนตรีติดตามความก้าวหน้ารถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ณ บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง (ท่า C0) ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 1 ตุลาคม 2563
https://www.thaigov.go.th/gallery/contents/details/5997
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3437854866261434&set=a.2794025613977699&type=3
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 02/10/2020 3:40 am    Post subject: Reply with quote

ถึงไทยแล้ว! โมโนเรล”ชมพู-เหลือง” เร่งทดสอบ คาดให้ปชช.นั่งทดลองฟรีก.ค.64
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18:11



ขบวนแรกมาแล้ว โมโนเรล”ชมพู-เหลือง” เร่งทยอยส่งมอบทั้ง 72 ขบวน รฟม.เปิดแผนทดสอบระบบ คาดเปิดให้ประชาชนร่วมนั่งฟรีช่วงก.ค.-ก.ย. 64 ก่อนจะเปิดให้บริการจริง ต.ค.64 โดยจะทยอยเดินรถเป็นช่วงๆ และตลอดในปี65

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า หลังจาก รับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง แล้วจะมีการขนส่งไปยังอู่จอดและศูนย์ซ่อมบำรุง (เดปโป้) ของทั้ง 2 โครงการ เพื่อเริ่มเข้าสู่การทดสอบตัวรถบนรางในเดปโป้ เช่น ทดสอบระบบเบรค ระบบอาณัติสัญญาณเบื้องต้น และอุปกรณ์ต่างๆ และคาดว่าระบบจะพร้อมในเดือนเม.ย. 2564 จากนั้นจะมีการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Running) ช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. 64 โดยจะกำหนดเป็นช่วงเวลาเพื่อให้ประชาชนได้เข้าร่วมทดสอบ และจะให้บริการตลอดสายภายในเดือน ต.ค. 65
สำหรับการเปิดเดินรถในเดือนต.ค.64 จะเปิด เป็นช่วงๆ (Partial) โดยสายสีชมพู จะเปิดเดินรถช่วงแรก จากมีนบุรี-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ สายสีเหลือง เปิดช่วงแรกจาก จากสำโรง-วัดศรีเอี่ยม ซึ่งจะสามารถเก็บค่าโดยสารได้ตามสัญญา โดยมีอัตรา 16-42 บาท

ส่วนขบวนรถ ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ มีจำนวนรวม 42 ขบวน และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ จำนวนรวม 30 ขบวน จะทยอยส่งมอบ มายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนครบ ภายในปี 2564

สำหรับการก่อสร้างทั้งสายสีชมพูและสายมีเหลือง มีผลงานรวมมากกว่า 60% แล้ว โดย ในส่วนของการก่อสร้างงานโยธา มีความคืบหน้า มากกว่า 60% ส่วนงานติดตั้งระบบ คืบหน้าประมาณ 50% ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ได้มีการปรับใหม่ หลังจากมีการส่งมอบพื้นทีก่อสร้างล่าช้า
โดยขณะนี้ สายสีเหลือง ส่งมอบพื้นที่ครบแล้ว ส่วนสีชมพู ยังติดส่งมอบพื้นที่ จากการย้ายตำแหน่งสถานีแครายและสถานีนพรัตน์ใหม่ ซึ่งจะต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อน

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC) ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนในกลุ่ม บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ กล่าวว่า

ขณะนี้ สายสีเหลืองได้รับมอบพื้นที่ก่อสร้างครบหมดแล้วคาดว่าจะสามารถเร่งรัดการก่อสร้างและสามารถทดสอบการเดินรถตลอดสายได้ภายในปลายปี 64 ส่วนสีชมพู นั้นมีข้อจำกัดมากกว่า โดยยังต้องรอครม. อนุมัติ EIA ในการขยับตำแหน่งสถานี แต่จะเร่งก่อสร้าง และเปิดเดินรถให้ครบทั้งสายภายในปี65

"ทำไม!! "รถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู" ดีเลย์"
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17:38:32 น.

รฟม.เดินหน้าเตรียมรับรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง-ชมพู ครบ 72 ขบวนแบบ 4 ตู้ภายในปี 2564 หลังจากนี้จะดำเนินการขนส่งรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 ขวนไปยังศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) เพื่อประกอบบางชิ้นส่วนที่ทางบริษัทผู้ผลิตยังไม่ได้ประกอบ ซึ่งเดโป้ของรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ที่สถานีมีนบุรี และเดโป้ของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่ที่สถานีวัดศรีเอี่ยม

ด้านการส่งมอบพื้นที่สายสีชมพูล่าช้า เหตุปรับย้าย 2 สถานี ขณะที่สายสีเหลืองยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ กระทบยึดเวลาก่อสร้าง 9 เดือน

นายภคพงศ์. ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า สำหรับการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี จะเปิดทดสอบเดินรถเสมือนจริงภายในเดือนเม.ย.64 โดยไม่เก็บค่าโดยสารระยะเวลา 3 เดือนและเปิดให้บริการเดินรถบางส่วนก่อนกำหนด (Partial operation) ภายในเดือนก.ค.64 หลังจากนั้นจะเปิดให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์ทั้ง 2 สายภายในเดือน ต.ค.64

เบื้องต้นช่วงแรกสายสีชมพูจะเปิดให้บริการที่สถานีมีนบุรี-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะเปิดให้บริการครบทั้งเส้นภายในเดือน ต.ค.65 ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ส่งมอบพื้นที่โครงการรถไฟฟ้าสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ล่าช้า เนื่องจากมีการเปลี่ยนตำแหน่งสถานีจำนวน 2 จุด
1.บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีที่ต้องขยับออกไปบริเวณห้างสรรพสินค้าเอสพลานาดแคราย ทั้งนี้ได้ดำเนินการรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ
2.บริเวณสถานีนพรัตน์ราชธานี เนื่องจากมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกของกรมทางหลวง (ทล.) บริเวณหน้าโรงพยาบาลนพรัตน์ ทำให้ระยะแนวทางดิ่งใต้สถานีไม่เพียงพอ ซึ่งจะต้องขยายระยะเวลาก่อสร้างให้แก่ผู้รับสัมปทานออกไปอีก 1 ปี


ขณะที่สายสีเหลืองจะเปิดให้บริการที่สถานีสำโรง-วัดศรีเอี่ยม และจะเปิดให้บริการครบทั้งเส้นภายในเดือนก.ค.65 ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ ส่วนจุดจอดแล้วจร รวมถึงบริเวณแยกลำสาลี ขณะนี้ต้องบูรณาการแผนงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร(กทม.)ต่อไป ทำให้มีการขยายเวลาการก่อสร้างออกไปอีก 9 เดือน

ส่วนอัตราค่าโดยสารทั้ง 2 สาย อยู่ที่ 16-42 บาท

กาปฎิทินก.ค.64!! เปิดบริการรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลืองฟรี3เดือน
*ผู้ว่าฯรฟม.ประกาศไทม์ไลน์ทดสอบเดินรถเม.ย.ปีหน้า
*ต.ค.64 เก็บค่าโดยสารเริ่มต้น 16 บาท สูงสุด 42 บาท
*นายกฯปลอบใจคนตจว.โมโนเรลจะไปหาด้วยนะเธอ
*ดึงพลังไทยผลิตรถไฟฟ้าได้เองทิ้งรถบ้านช่วยแก้รถติด
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2724858931068941

เปิดไทม์ไลน์-ค่าตั๋ว รถไฟฟ้าไร้คนขับ “ชมพู-เหลือง”
อสังหาริมทรัพย์

วันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 16:53 น.


“ประยุทธ์” ชื่นมื่นรับรถโมโนเรลไร้คนขับสายสี ”ชมพู-เหลือง” รฟม.กางไทม์ไลน์ เตรียมทดสอบเม.ย.ปีหน้า ทดลองวิ่ง ก.ค. เก็บตังค์ ต.ค. เริ่ม 16-42 บาท เปิดบริการตลอดสายปี’65

วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 12.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าเรือแหลมฉบัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีรับมอบขบวนรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรีและสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง

โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายคีรี กาญจนพาสน์ และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหารบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โอลดิ้ง ในฐานะตัวแทน บจ.นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล และ บจ.อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล ผู้รับสัมปทานโครงการร่วมในพิธี

ปี’65 เปิดวิ่งตลอดสาย
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมี ระยะทาง 34.5 กม.และสายสีเหลือง มีระยะทาง 30.4 กม. เป็นโครงการที่อยู่ในแผนลงทุน PPP Fast Track ของรัฐบาล ซึ่งต้องขอบคุณเอกชนคือ บจ.นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรลและ บจ.อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล ที่ร่วมลงทุนจนโครงการใกล้จะสำเร็จเพราะสิ่งเหล่านี้นายกฯคนเดียวทำเองไม่ได้ และเป็นสิ่งที่คนไทยจะได้ประโยชน์ คาดว่าทั้งสองสายจะเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2565



ชมพูติด EIA เปิด ต.ค. 65
ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ความคืบหน้าภาพรวมของทั้ง2สาย อยู่ที่ 60% แบ่งเป็นการก่อสร้างงานโยธาของสายสีชมพูอยู่ที่ 70% และงานระบบอยู่ที่ 50% แต่ติดปัญหาการขยับสถานีบริเวณหน้าศูนย์ราชการนนทบุรีและสถานีนพรัตน์ ซึ่งต้องปรับรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)ไทม์ไลน์จากนี้ได้ขยายเวลาเปิดให้บริการไป 1 ปีคือประมาณปี 2565

“คาดว่าจะเริ่มทดสอบระบบเดินรถ (Test Run) ประมาณเดือนเม.ย. 2564 หลังจากนั้นเดือน ก.ค 2564 จะทดลองเดินรถเสมือนจริง(Trial Running) ให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการช่วงมีนบุรี – ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะก่อน โดยยังไม่มีกำหนดเวลาเปิด-ปิด แต่ลักษณะจะคล้ายกับการเปิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และเปิดเชิงพาณิชย์เก็บค่าโดยสารในเดือนต.ค.2564 เริ่มต้น16-42บาทและเปิดตลอดสายเดือนต.ค. 2565”

เหลืองราบรื่นเปิดจริง ก.ค. 65
ส่วนสายสีเหลือง ความคืบหน้ารวมอยู่ที่ 60% แบ่งเป็นงานโยธา 70% และงานระบบ 50% เช่นเดียวกับสายสีชมพู แต่เนื่องจากสายสีเหลืองไม่ติดปัญหาด้าน EIA แบบเดียวกับสายสีชมพู เพราะจุดที่เป็นปัญหาคือสะพานข้ามแยกบางกะปิได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว

“ทำให้ไทม์ไลน์การเปิดให้บริการจะเร็วกว่าสายสีชมพู คือจะเปิดทดสอบเดินรถในเดือนเม.ย. 2564 จากนั้นในเดือนก.ค. 2564 จะเปิดทดลองเดินรถเสมือนจริงให้ประชาชนร่วมใช้บริการช่วงสำโรง – วพัฒนาการก่อน และเก็บค่าโดยสารในเดือนต.ค.2564 เริ่มต้น16-42 บาท และจะเปิดให้บริการตลอดสายในเดือนก.ค. 2565”

สำหรับขบวนรถที่รับมา เป็นขบวนรถไฟฟ้ารุ่น Bombardier Innovia Monorail 300 รูปแบบ 4 ตู้ น้ำหนักตัวรถไฟอยู่ที่ 14,500-15,000 กก./ตู้ มีความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม.กว้าง 3.162 เมตร ความสูงจากผิวบนคานรางวิ่งถึงจุดบนสุดของตัวรถไฟอยู่ที่ 3.019 เมตร ใช้แรงดันไฟฟ้าแบบกระแสตรง 750 โวลด์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์แม่เหล็กแบบถาวร ไร้คนขับรองรับผู้โดยสารได้ 568 คน/ตู้ และหากคิดเป็น 1 ขบวนจะรองรับผู้โดยสารได้ 1,009 คน/ขบวน


Last edited by Wisarut on 02/10/2020 6:04 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 02/10/2020 12:23 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
"ลุงตู่" รับมอบรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่ท่าเรือแหลมฉบัง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13:02
นายกฯ”รับมอบ "รถไฟฟ้าโมโนเรล" ขบวนแรก
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15:42



รถไฟฟ้า‘สีชมพู-เหลือง’มาแล้ว พร้อมทดสอบวิ่งก่อนเปิดบริการปี’64
วันศุกร์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 06.00 น.



เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และผู้บริหารระดับสูงร่วม

สำหรับรถไฟฟ้าซึ่งจะนำมาวิ่งให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เป็นรุ่น Bombardier Innovia Monorail 300 ควบคุมด้วยระบบอาณัติสัญญาณ CITYFLO 650 แบบไร้คนขับ ภายในห้องโดยสารของขบวนรถมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างครบครัน อาทิ กล้อง CCTV เครื่องตรวจจับควัน ปุ่มติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ควบคุมรถ ถังดับเพลิง และที่เปิดประตูฉุกเฉิน ฯลฯ โดยบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู จำนวนรวม 42 ขบวน และในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จำนวนรวม30 ขบวน มายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนครบจำนวนภายในปี 2564


ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีแนวเส้นทางพาดผ่านตอนเหนือของกรุงเทพฯในแนวตะวันตก-ตะวันออก จากถนนติวานนท์ ผ่านถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา ไปสิ้นสุดบนถนนสีหบุรานุกิจ ระยะทางรวม 34.5 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการรวม 30 สถานี มีจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่สถานีมีนบุรีโดยมีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุงฯ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีมีนบุรี

ส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีแนวเส้นทางพาดในแนวเหนือ-ใต้ ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จากถนนลาดพร้าว ผ่านถนนศรีนครินทร์ ไปสิ้นสุดบนถนนเทพารักษ์ ระยะทางรวม 30.4 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการรวม 23 สถานี มีจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ที่สถานีรัชดา เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟสายตะวันออก ที่สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่สถานีแยกลำสาลี และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีสำโรง โดยมีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุงฯ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีศรีเอี่ยม

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ โดยกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และได้มีการผลักดันให้เกิดโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายใหม่ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไป
Monorail
โดย Wassana Nanuam
คลิป:PMOC
เผยแพร่: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18:38

“บิ๊กตู่”รับ รถไฟฟ้าโมโนเรล “ขบวนแรก คุยทุกเรื่อง ถ้าได้รับแรงใจจากประชาชน เดินหน้าได้หมด

ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการเชื่อมโยง “ท่าเรือแหลมฉบัง” กับ นานาชาติ โครงการท่าเรือบก (Dry Port) ท่าเรือแหลมฉบัง โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อรองรับจำนวนประชากรที่จะเพิ่มขึ้น และการเชื่อมต่อกับทั่วโลก

พล.อ. ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ ติดตามความก้าวหน้าการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังกับ นานาชาติ​ จ.ชลบุรี

โครงการท่าเรือบก (Dry Port) ท่าเรือแหลมฉบัง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ภายใต้เชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน

พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุม กับนักลงทุนไทยและต่างประเทศ
เช่น ปตท. จำกัด Mitsubishi Motor (Thailand) QMB Co., Ltd เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการลงทุนใน EEC ในยุค New Normal

โดยยืนยันว่ารัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง โดยจะเชื่อมโยงการขนส่งในทุกด้าน จึงอยากให้นักลงทุนเข้าใจตรงกัน เพราะนี่คือโอกาสในการลงทุนและเป็นความท้าทายของรัฐบาล ในการจะขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยเฉพาะให้กับคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่

นี่คือแผนพัฒนาประเทศต่อไป ถึงแม้ว่าจะเจอกับปัญหาที่เพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลไม่เคยหยุดคิด แต่กลับวางยุทธศาสตร์ชาติเพื่อวันข้างหน้า เพื่อเป็นอนาคตของประเทศและทุกๆ คน

พร้อมรับมอบรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ระบุทุกเรื่องถ้าได้รับแรงใจจากประชาชนเดินหน้าได้หมด

รับขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล ขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นผู้กำกับการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ในรูปแบบ PPP Net Cost ตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556

โดย พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนเชื่อมต่อเส้นทางคมคมทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ และหลายเรื่องประเทศไทยต้องเร่งรัดให้ตรงความต้องการในอนาคต ขณะเดียวกันวันนี้ก็ได้มีโอกาสพบกับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีหลายอย่างที่ระบุว่าอยากให้เราพิจารณาเพิ่มเติม

โดยยืนยันตนจะทำทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ของประเทศชาติให้มากที่สุด อะไรที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต้องคลี่คลาย โดยเฉพาะวันนี้ที่โลกเปลี่ยนเราต้องปรับ ต้องเปลี่ยนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะมีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามาทำให้มีการเปลี่ยนหลายอย่าง ทำให้ประเทศไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่นอกจากเรื่องท่องเที่ยวและการส่งออก ต้องก็ต้องส่งเสริมในด้านอื่นๆ เช่น การผลิต เพื่อเป็นประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลางให้ได้

นายกฯ มายินดีคนเดียวไม่ได้แต่ทุกคนมาร่วมแสดงยินดี และต้องทำให้คนไทยได้ร่วมยินดีโดยได้ใช้ประโยชน์จากโครงการนี้

อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง2 สายนี้จะพร้อมให้บริการประชาชนในปี 2022 สิ่งเหช่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลก่อนและรัฐบาลนี้ดำเนินการ ซึ่งทุกเรื่องถ้าได้รับแรงใจจากประชาชนเราก็จะเดินหน้าและแก้ปัญหาได้ วันนี้เชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมดแล้ว แต่ปัญหาเราคือปัญหาการจราจร จึงขอความร่วมือภาคประชาชนด้วย

นอกจากนี้เห็นรถขบวนใหม่นี้แล้วถือว่ามีความสวยงามและต้องปลอดภัย วันหน้าไทยต้องผลิตเองได้แล้วหรือผลิตชิ้นส่วน เพื่อสร้างอุตสาหกรรม จึงต้องคิดต่อยอดไปเรื่อยๆ ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าและทั้งหมดได้กำหนดในแผนยุทธศาสตร์ชาติ และต้องเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่กำหนดไว้ก็ไปไม่ได้

วันนี้จะสร้างวิธีคิดใหม่ เร่งรีบจากสถานการณ์จราจรต่างๆ สิ่งสำคัญทำให้คนหันใช้มากขึ้น คนส่วนใหญ่ยังใช้รถส่วนตัว จึงต้องไปดูที่จอดแล้วจอน อาจเกิดธุรกิจเหล่านี้ขึ้นมาอีกได้ โดยต้องไม่ใช่เกิดขึ้นแค่เฉพาะกรุง แต่ต้องไปสู่ทุกเมืองใหญ่ในประทศ เพราะหลายจังหวัดก็มีปัญหาเรื่องคมนาคมขนส่ง

จึงหวังความสำเร็จนี้เป็นระยะที่ 1 วันนี้รถไฟฟ้าปกติก็มีอยู่แล้วและเกิดขึ้นหลายสาย ถามว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงต้องช่วยทำความเข้าใจกันด้วย และฝากขอให้ดูแลประชาชนให้มากที่สุดในเรื่องค่าใช้จ่าย ย้ำว่ารัฐบาลขับเคลื่อนทุกอันเพื่อให้ประเทศก้าวข้ามกับดักปัญหาทุกประการ และวันนี้เราต้องรวมไทยสร้างชาติต้องรวมกันทั้งหมด เพราะเราคือคนไทยต้องรักประเทศไทยของเรา

ทั้งนี้ในช่วงท้ายนายกฯ ได้กล่าวแนะนำรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่มาร่วมงานก่อน กล่าวว่า วันนี้มาหลายคน รองนายกฯ ก็มา ซึ่งทุกคนเดินหน้ากับนายกฯ เพื่อเดินหน้าทุกอุปสรรค จึงขอให้สร้างความเข้าใจกันให้มากกว่า เพื่อร่วมกันเดินหน้าประเทศ และย้ำว่ายุทธศาสตร์ชาติต้องทำต่อเนื่อง เพราะไม่ได้อยู่แค่เรา แต่ต้องทำเพื่ออนาคตลูกหลานของเราด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/10/2020 8:18 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

รถไฟฟ้า‘สีชมพู-เหลือง’มาแล้ว พร้อมทดสอบวิ่งก่อนเปิดบริการปี’64
วันศุกร์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 06.00 น.

'ชมพู-เหลือง' ซูเปอร์โมโนเรลเมดอินไชน่า รถไฟฟ้าไร้คนขับ ไซซ์ใหญ่ไม่แพ้ BTS
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2563

สิ้นสุดการรอคอย รถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทยสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังใช้เวลาร่วมเดือนขนข้ามทะเลมาจากโรงงานผลิตที่ประเทศจีน

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2560 "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี คุมเศรษฐกิจรัฐบาล คสช. เป็นประธานในพิธี เซ็นสัญญาสัมปทานแสนล้านของรถไฟฟ้า 2 สาย 2 สี ระหว่างกลุ่ม บีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทย-ราชกรุ๊ป) กับ "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย"

ในวันที่ 1 ต.ค. 2563 "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี เดินทางไปท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเป็นประธานตัดริบบิ้นรับมอบรถขบวนแรกของทั้ง 2 สายด้วยตัวเอง พร้อมขอบคุณเอกชนที่ร่วมลงทุนกับรัฐบาล จนผลักดันโครงการสำเร็จ

ตามแผนของ "รฟม.-กลุ่มบีทีเอส" ทั้ง 2 สาย จะทดสอบเดือน เม.ย. 2564 จากนั้นเดือน ก.ค.ทดลองวิ่งเสมือนจริงให้ประชาชนร่วมใช้บริการบางช่วงเวลา ถัดมาเดือน ต.ค.เปิดบริการเชิงพาณิชย์เก็บค่าโดยสาร 16-42 บาท และเปิดตลอดสายเดือน ก.ค.-ต.ค. 2565 โดยขบวนรถจะทยอยส่งมอบจนครบทั้ง 288 ตู้ 72 ขบวน ในต้นปี 2565 แยกเป็นสายสีเหลือง 30 ขบวน และสายสีชมพู 42 ขบวน

สำหรับสายสีชมพูและสีเหลือง ออกแบบเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล แบบคร่อมราง วิ่งยกระดับ เหนือแนวเกาะกลางถนน และเป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง ป้อนผู้โดยสารเข้ารถไฟฟ้าสายหลัก

โดย "สายสีชมพู" วิ่งแนวตะวันตก- ตะวันออกของกรุงเทพฯ จากถนนติวานนท์ แจ้งวัฒนะ รามอินทรา สิ้นสุด มีนบุรี มี 30 สถานี เชื่อมต่อสายสีม่วง ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี สีแดงที่สถานีหลักสี่ สีเขียวที่สถานีวัดพระศรี มหาธาตุ และสีส้มที่สถานีมีนบุรี

ขณะที่ "สายสีเหลือง" วิ่งแนวเหนือ-ใต้ ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จากถนนลาดพร้าว เข้าศรีนครินทร์และเทพารักษ์ มี 23 สถานี เชื่อมต่อสายสีน้ำเงินที่สถานีรัชดา สีส้มที่สถานีแยกลำสาลี แอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีพัฒนาการ และสีเขียวที่สถานีสำโรง

สำหรับขบวนรถไฟฟ้ากลุ่มบีทีเอส เลือกบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็น ผู้ดำเนินการทั้งระบบอาณัติสัญญาณ ขบวนรถ ระบบขายตั๋วและจัดเก็บค่าโดยสาร มูลค่ารวม 4-5 หมื่นล้านบาท

ใช้รถรุ่น "Bombardier Innovia Monorail 300" ผลิตจากโรงงานประเทศจีน ซึ่ง "บอมบาร์ดิเอร์" ได้ร่วมทุน "CRRC" ผู้ผลิตรถไฟฟ้าฉางชุนและฉงชิ่งจากประเทศจีน เป็นรูปแบบ 4 ตู้ ตัวรถกว้าง 3.162 เมตร เท่ากับรถไฟฟ้าบีทีเอส มีน้ำหนักตัวรถ 14,500-15,000 กก./ตู้ วิ่งความเร็ว 35 กม./ชม. สูงสุด 80 กม./ชม. ใช้แรงดันไฟฟ้าแบบกระแสตรง 750 โวลต์ ควบคุมด้วยระบบอาณัติสัญญาณ CITYFLO 650 แบบอัตโนมัติ ไร้คนขับ

ภายในห้องโดยสารขบวนรถมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่าง ครบครัน อาทิ CCTV เครื่องตรวจจับ ควัน ปุ่มติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ควบคุมรถ ถังดับเพลิง และที่เปิดประตูฉุกเฉิน รองรับผู้โดยสารได้ 568 คน/ตู้ ในระยะแรกจะให้บริการด้วยรถไฟฟ้า 4 ตู้/ขบวน รองรับ ผู้โดยสารได้ 17,000 คน/ชม./ทิศทาง และในระยะถัดไปเพิ่มได้สูงสุด 7 ตู้/ขบวน รองรับผู้โดยสาร 28,000 คน/ชม./ทิศทาง

นับเป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายที่ 2 และ 3 ต่อจาก "สายสีทอง" สถานีกรุงธนบุรี-คลองสาน จะเปิดหวูดบริการกลางเดือน ธ.ค. 2563 นี้

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 05/10/2020 11:01 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้า สายสีชมพู-สายสีเหลือง มี “รางเดียว แคบๆ” ถ้า “เดี้ยง” ผู้โดยสาร ต้องทำอย่างไร?
จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563 เวลา 09:29 น.

สามารถ ราชพลสิทธิ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งคำถาม รถไฟฟ้า สายสีชมพู-สายสีเหลือง มี “รางเดียว แคบๆ” ถ้า “เดี้ยง” ผู้โดยสาร ต้องทำอย่างไร?

รถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลือง มี “รางเดียว แคบๆ” ถ้า “เดี้ยง”ผู้โดยสารต้องทำอย่างไร?
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte
จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563 เวลา 08:52 น.

โดยทั่วไปรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรล มีขบวนรถไฟฟ้าวิ่งคร่อมราง ไม่มีทางเดินให้ผู้โดยสารเดินในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน แล้วผู้โดยสารจะออกจากโมโนเรลซึ่งวิ่งอยู่ที่ระดับความสูงไม่น้อยให้ปลอดภัยได้อย่างไร หาคำตอบได้จากบทความนี้
น่าดีใจที่เมื่อเร็วๆ นี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานรับมอบขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล “แบบไร้คนขับ” สำหรับใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ชี้ให้เห็นว่าอีกไม่นานเราจะได้ใช้โมโนเรลกันแล้ว นับว่าเป็นการพัฒนาระบบรางของเมืองไทยไปอีกก้าวหนึ่ง
โมโนเรลเหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีผู้โดยสารไม่มากนัก มีขีดความสามารถในการขนผู้โดยสารได้ประมาณ 30,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ในขณะที่รถไฟฟ้าขนาดหนักดังเช่น บีทีเอส และ เอ็มอาร์ที สามารถขนผู้โดยสารได้ประมาณ 50,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ต้นทุนการก่อสร้างโมโนเรลถูกกว่ารถไฟฟ้ายกระดับขนาดหนัก ประมาณ 30%-40%
มีหลายคนถามผมว่าถ้าโมโนเรลสายสีชมพูหรือสายสีเหลืองจอดเสียอยู่บนรางที่สูงจากพื้นดินเกือบ 20 เมตร ผู้โดยสารจะออกจากโมโนเรลให้ปลอดภัยได้อย่างไร? ผมขอตอบดังนี้
ทั้งโมโนเรลสายสีชมพูและสายสีเหลืองเป็นโมโนเรลที่วิ่งสวนทางกัน กล่าวคือสายสีชมพูมีรางรองรับโมโนเรล ขาไป 1 ราง และขากลับอีก 1 ราง สายสีเหลืองก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น หากเกิดเหตุขัดข้องที่สายใดสายหนึ่งผู้โดยสารจะต้องทำดังนี้
1. กรณีมีโมโนเรลกู้ภัยมารับ
โมโนเรลกู้ภัยจะมาจอดเทียบหรือขนานกับโมโนเรลที่เสีย เจ้าหน้าที่จะวางสะพานเชื่อมระหว่างโมโนเรลกู้ภัยกับโมโนเรลที่เสีย จากนั้นผู้โดยสารจะต้องเดินจากโมโนเรลที่เสียไปสู่โมโนเรลกู้ภัยซึ่งจะขนผู้โดยสารไปสู่สถานี
2. กรณีไม่มีโมโนเรลกู้ภัยมารับ-ต้องเดินบนทางเดินฉุกเฉิน
ในกรณีฉุกเฉินที่ผู้โดยสารจะต้องออกจากโมโนเรลอย่างรีบด่วน ไม่สามารถรอโมโนเรลกู้ภัยมารับได้ ในกรณีนี้ผู้โดยสารจะต้องลงจากโมโนเรลไปที่ทางเดินระหว่างรางทั้งสอง ทางเดินเป็นตะแกรงเหล็กกัลวาไนซ์เพื่อให้ผู้โดยสารเดินไปสู่สถานีที่ใกล้ที่สุด ความสูงจากพื้นโมโนเรลถึงทางเดินเกือบ 2 เมตร ดังนั้น จะต้องลงทางบันไดที่พาดจากประตูโมโนเรลไปที่ทางเดิน บันไดดังกล่าวจะถูกเก็บไว้บนรถและบนทางเดินตลอดทาง ส่วนผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์จะต้องช่วยกันอุ้มลงมาที่ทางเดินแล้วเข็นไปที่สถานี
รู้อย่างนี้แล้ว สบายใจได้เลยว่าเราจะสามารถนั่งโมโนเรลได้อย่างปลอดภัยแน่นอน


Last edited by Wisarut on 06/10/2020 10:44 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 06/10/2020 1:54 am    Post subject: Reply with quote

“ชมพู-เหลือง” ซูเปอร์โมโนเรลเมดอินไชน่า รถไฟฟ้าไร้คนขับ ไซซ์ใหญ่ไม่แพ้ BTS
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 5 ตุลาคม 2563 - 16:10 น.


สิ้นสุดการรอคอย รถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทยสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังใช้เวลาร่วมเดือนขนข้ามทะเลมาจากโรงงานผลิตที่ประเทศจีน

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2560 “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี คุมเศรษฐกิจรัฐบาล คสช. เป็นประธานในพิธีเซ็นสัญญาสัมปทานแสนล้านของรถไฟฟ้า 2 สาย 2 สี ระหว่างกลุ่มบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทย-ราชกรุ๊ป) กับ “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย”

ในวันที่ 1 ต.ค. 2563 “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี เดินทางไปท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเป็นประธานตัดริบบิ้นรับมอบรถขบวนแรกของทั้ง 2 สายด้วยตัวเอง พร้อมขอบคุณเอกชนที่ร่วมลงทุนกับรัฐบาล จนผลักดันโครงการสำเร็จ



ตามแผนของ “รฟม.-กลุ่มบีทีเอส” ทั้ง 2 สาย จะทดสอบเดือน เม.ย. 2564 จากนั้นเดือน ก.ค.ทดลองวิ่งเสมือนจริงให้ประชาชนร่วมใช้บริการบางช่วงเวลา ถัดมาเดือน ต.ค.เปิดบริการเชิงพาณิชย์เก็บค่าโดยสาร 16-42 บาท และเปิดตลอดสายเดือน ก.ค.-ต.ค. 2565 โดยขบวนรถจะทยอยส่งมอบจนครบทั้ง 288 ตู้ 72 ขบวน ในต้นปี 2565 แยกเป็นสายสีเหลือง 30 ขบวน และสายสีชมพู 42 ขบวน



สำหรับสายสีชมพูและสีเหลือง ออกแบบเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล แบบคร่อมราง วิ่งยกระดับเหนือแนวเกาะกลางถนน และเป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง ป้อนผู้โดยสารเข้ารถไฟฟ้าสายหลัก

โดย “สายสีชมพู” วิ่งแนวตะวันตก-ตะวันออกของกรุงเทพฯ จากถนนติวานนท์ แจ้งวัฒนะ รามอินทรา สิ้นสุดมีนบุรี มี 30 สถานี เชื่อมต่อสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี สีแดงที่สถานีหลักสี่ สีเขียวที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และสีส้มที่สถานีมีนบุรี

ขณะที่ “สายสีเหลือง” วิ่งแนวเหนือ-ใต้ ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จากถนนลาดพร้าว เข้าศรีนครินทร์และเทพารักษ์ มี 23 สถานี เชื่อมต่อสายสีน้ำเงินที่สถานีรัชดา สีส้มที่สถานีแยกลำสาลี แอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีพัฒนาการ และสีเขียวที่สถานีสำโรง

สำหรับขบวนรถไฟฟ้ากลุ่มบีทีเอส เลือกบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินการทั้งระบบอาณัติสัญญาณ ขบวนรถ ระบบขายตั๋วและจัดเก็บค่าโดยสาร มูลค่ารวม 4-5 หมื่นล้านบาท



ใช้รถรุ่น “Bombardier Innovia Monorail 300” ผลิตจากโรงงานประเทศจีน ซึ่ง “บอมบาร์ดิเอร์” ได้ร่วมทุน “CRRC” ผู้ผลิตรถไฟฟ้าฉางชุนและฉงชิ่งจากประเทศจีน เป็นรูปแบบ 4 ตู้ ตัวรถกว้าง 3.162 เมตร เท่ากับรถไฟฟ้าบีทีเอส มีน้ำหนักตัวรถ 14,500-15,000 กก./ตู้ วิ่งความเร็ว 35 กม./ชม. สูงสุด 80 กม./ชม. ใช้แรงดันไฟฟ้าแบบกระแสตรง 750 โวลต์ ควบคุมด้วยระบบอาณัติสัญญาณ CITYFLO 650 แบบอัตโนมัติ ไร้คนขับ

ภายในห้องโดยสารขบวนรถมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างครบครัน อาทิ CCTV เครื่องตรวจจับควัน ปุ่มติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ควบคุมรถ ถังดับเพลิง และที่เปิดประตูฉุกเฉิน รองรับผู้โดยสารได้ 568 คน/ตู้ ในระยะแรกจะให้บริการด้วยรถไฟฟ้า 4 ตู้/ขบวน รองรับผู้โดยสารได้ 17,000 คน/ชม./ทิศทาง และในระยะถัดไปเพิ่มได้สูงสุด 7 ตู้/ขบวน รองรับผู้โดยสาร 28,000 คน/ชม./ทิศทาง

นับเป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายที่ 2 และ 3 ต่อจาก “สายสีทอง” สถานีกรุงธนบุรี-คลองสาน จะเปิดหวูดบริการกลางเดือน ธ.ค. 2563 นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 17, 18, 19 ... 71, 72, 73  Next
Page 18 of 73

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©