Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180195
ทั้งหมด:13491429
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รถสินค้า 852 แหลมฉบัง-ICDชนรถทัวร์ที่คลองแขวงกลั่น(11/10/63)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รถสินค้า 852 แหลมฉบัง-ICDชนรถทัวร์ที่คลองแขวงกลั่น(11/10/63)
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 14/10/2020 11:38 pm    Post subject: Reply with quote

ฟังข้อมูลอีกด้าน! ชาวบ้านพื้นที่แฉเหตุม้าเหล็กขยี้ทัวร์กฐินเกิดจากสัญญาณเตือนบกพร่อง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 14 ตุลาคม 2563 เวลา 19:01



ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านแฉยับ! เหตุบัสทัวร์กฐินถูกม้าเหล็กขยี้เละ เกิดจากสัญญาณเตือนทางข้ามทั้งระบบบกพร่อง ทำคนต่างพื้นที่ซึ่งยึดเครื่องหมายสัญญาณเตือนเป็นหลักเข้าใจผิดคิดว่าไม่มีขบวนรถไฟผ่านในเส้นทางจุดตัด เป็นที่มาโศกนาฏกรรมใหญ่

วันนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ริมทางรถไฟใกล้สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ถึงมูลเหตุสำคัญอีกประการที่น่าจะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุรถบัสคณะทำบุญกฐิน จ.สมุทรปราการ ถูกรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 852 พุ่งชนบริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ซึ่งอยู่ห่างจากวัดบางปลานัก ที่เป็นจุดหมายปลายทางเพียงแค่ 4 กิโลเมตร ว่า ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากสัญญาณไฟแจ้งเตือนที่ถูกนำมาติดตั้งไว้นานกว่า 4 ปีไม่สามารถใช้งานได้ทั้งด้านขาไปและขากลับนับตั้งแต่มีการติดตั้ง

โดยเสาสัญญาณไฟแจ้งเตือนขบวนรถแบบอัตโนมัติชนิดที่ถูกนำมาติดตั้งต้องใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือระบบโซลาร์เซลล์ ซึ่งหากระบบดังกล่าวสามารถใช้งานได้จริงจะมีเสียงสัญญาณเสียงเตือนดัง “โป๊ง โป๊ง” รวมทั้งจะมีหลอดไฟสีแดงกะพริบเตือนบริเวณทางข้ามอยู่ตลอดเวลา

และหากไม่มีขบวนรถไฟผ่านมา เสาไฟสัญญาณเตือนพร้อมระบบเสียงดังกล่าวจะเงียบและไม่ทำงาน ซึ่งจะทำให้คนขับรถที่เดินทางมาจากต่างถิ่น หรือผู้ที่มีอาชีพขับรถเดินทางไกลข้ามถิ่น เข้าใจว่าไม่มีขบวนรถไฟที่กำลังจะวิ่งมา



“แต่เสาสัญญาณไฟเตือนและไซเรนที่นำมาติดตั้งบริเวณสถานีรถไฟแห่งนี้กลับไม่มีเสียงเตือนมานานถึง 4 ปีแล้ว ซึ่งชาวบ้านไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานใด โดยเรื่องสัญญาณไฟเตือนเสียเป็นสิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่รู้กันเป็นอย่างดี จึงไม่มีใครเชื่อฟังหรือยึดถือเครื่องหมายสัญญาณเตือนจากเสาไฟไซเรนทั้ง 2 ต้น แต่คนต่างถิ่นที่ไม่รู้ว่าระบบเสีย หรือใช้งานไม่ได้จะพากันขับผ่านเส้นทางนี้”

ชาวบ้านรายเดิมยังระบุอีกว่า นอกจากเสาสัญญาณเตือนขบวนรถล่วงหน้าก่อนที่จะมีขบวนรถไฟผ่านมาใช้งานไม่ได้แล้ว จุดเกิดเหตุยังมีเสาไฟกะพริบสีส้มที่ใช้เป็นเครื่องแจ้งบอกผู้ใช้ถนนว่าให้ระวังทางรถไฟอยู่ข้างหน้า

แต่ชาวบ้านพบว่า ไม่สามารถใช้งานได้จริงเช่นกัน เนื่องจากเสาดังกล่าวใช้ระบบโซลาร์เซลล์ จึงทำให้เห็นแสงกะพริบเฉพาะในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น ส่วนในเวลากลางคืนหรือช่วงฟ้ามืดครึ้ม เสาดังกล่าวจะไม่มีไฟกะพริบแต่อย่างใด



ชาวบ้านยังบอกอีกว่า จากการได้ฟังเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ที่ลงพื้นที่ปรับปรุงแก้ไขทัศนวิสัย และสภาพภูมิทัศน์ต่างๆ บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ทราบว่า สาเหตุที่ทำให้เสาสัญญาณไฟเตือนขบวนรถและไซเรนใช้งานไม่ได้เกิดจากบัซเซอร์ไหม้ และแบตเตอรี่ที่อยู่ภายในเสื่อมสภาพ

และจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของผู้สื่อข่าวนับตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา รวมถึงตลอดเวลาของการลงพื้นที่เพื่อรายงานเหตุการณ์ พบว่าขณะขบวนรถไฟวิ่งผ่านจุดเกิดเหตุ เสาสัญญาณไฟกะพริบแจ้งเตือนขบวนรถล่วงหน้าไม่มีการแจ้งเตือนตรงตามที่ชาวบ้านบอกเช่นกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 14/10/2020 11:47 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ผู้รอดชีวิตเล่านาทีรถบัสถูกรถไฟชน เห็นคนตายนอนเกลื่อน ล่าสุดยอดเสียชีวิต 18 ศพ บาดเจ็บ 35 ราย
ช่อง 3 11 ตุลาคม 2563


ผู้รอดชีวิตรถบัสคณะกฐิน เผย มีหวูดรถไฟแล้วก็โครมสนั่นรถหมุนคว้างคนกระจาย (คลิป)
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐออนไลน์
11 ตุลาคม 2563 เวลา 15:56 น.


กลุ่มผู้รอดชีวิตเหตุรถไฟชนรถบัสคณะกฐิน เผย มาถึงรางรถไฟก็ได้ยินแต่เสียงหวูด จากนั้นก็เป็นเสียงดังสนั่นมาจากข้างหน้า ก่อนที่จะหมุนคว้าง แล้วมีการกระแทกจนคนกระเด็นออกจากรถนอนร้องขอคนช่วยระงม

กรณีเวลาประมาณ 08.30 น. วันนี้ (11 ต.ค. 63) ภาพวงจรปิดบริเวณจุดกั้นรถไฟสถานีชุมทางคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถบัสคณะกฐินพยายามเร่งเครื่องรถวิ่งข้ามจุดตัดทางรถไฟ ก่อนจะถูกรถไฟขนสินค้าขบวน 5102 บรรทุกสินค้ามากว่า 30 โบกี้ ชนเข้ากลางลำ จนมีผู้เสียชีวิต 18 ศพและบาดเจ็บ 29 ราย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น


ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ไม่ได้บาดเจ็บ ที่เดินทางมากับคณะกฐินในรถบัส ให้ข้อมูลว่า คณะกฐินทั้งหมดเดินทางมาจากโรงงานที่ย่านสำโรง จ.สมุทรปราการ ทั้งคันมีประมาณ 60 กว่าคน โดยทั้งหมดกำลังเดินทางไปทอดกฐินที่วัดบางปลานัก อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยพอมาถึงรางรถไฟก็ได้ยินแต่เสียงหวูด จากนั้นก็เป็นเสียงดังสนั่นมาจากหน้ารถ แล้วรถก็หมุนคว้างแล้วยังมีแรงกระแทกอีกหลายครั้งก่อนจะมีเสียงกรีดร้อง แล้วคนกระจายออกไปนอกรถ นอนร้องขอให้ช่วยกันระงม

ทั้งนี้ จุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ห่างจาก ที่วัดบางปลานัก อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จุดหมายปลายทางที่คณะทอดกฐินจะไปเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น.
https://www.youtube.com/watch?v=JjgxiMaN2XA
https://www.youtube.com/watch?v=Map-NSyGbp4

ผบ.ตร.กำชับผู้การฉะเชิงเทราดูแลคดีรถไฟชนรถบัสกฐิน ให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐออนไลน์
12 ตุลาคม 2563 เวลา11:23 น.
ผบ.ตร. ได้กำชับให้ ผู้การฉะเชิงเทรา ดูรายละเอียดของคดีและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมทั้งประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดี รถไฟชนรถบัสคนงานไปทอดกฐินตาย 18 ศพ


เมื่อวันที่ 12 ต.ค.63 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีรถไฟขบวนบรรทุกสินค้าชนกับรถบัสคณะกฐินที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ตรวจสอบโดยเฉพาะรายละเอียดทางคดี และให้อำนวยความยุติธรรมทางคดีแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งให้ประสานการปฏิบัติกับผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางจังหวัดฉะเชิงเทราอย่างใกล้ชิด

เยาวชนปลดแอกโคราชแห่ขึ้นรถบัสเข้า กทม.
ปู่นักกีฬาที่ระยอง อายุเกิน 100 แต่ยังแข็งแรง เผยเคยลงแข่งมาหลายรายการ
รถพ่วงชน จยย.ทับอดีตทหารดับ ชาวบ้านพบทะเบียนรถ 2 คัน เลขตรงกัน
โดยในเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.ชาคริต พร้อมด้วย พ.ต.อ.กนกศักดิ์ สิงห์ทอง รรท.ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เข้าพบ นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ณ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา และทาง พล.ต.ต.ชาคริต จะได้ร่วมกับทางจังหวัดแถลงผลการดำเนินการดังกล่าวต่อไป.

ดับอีกศพ รถบัสทัวร์บุญ ยังโคม่า 2 เผยค่าประกันชดใช้เจ็บตายส่อเกินวงเงิน
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
13 ตุลาคม 2563 เวลา 05:06 น.

เหยื่อบัสมรณะตายเพิ่มอีก 1 ศพ รวมเป็น 19 ศพ คนเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลเหลือ 39 ราย อาการสาหัสอยู่ห้องไอซียู 2 ราย ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา แจง 6 องค์ประกอบชนวนเหตุรถไฟขยี้รถทัวร์บุญ ผลคดีอาญาระบุคนขับรถบัสประมาทแต่คดีสิ้นสุดเพราะคนขับเสียชีวิต แต่ยังสามารถใช้สิทธิทางแพ่งเรียกร้องจากเจ้าของรถ ด้าน ผอ.คปภ.ภาค 6 (ชลบุรี) ยันวงเงินประกันประเภท 3 ไม่เพียงพอจ่ายให้ผู้เสียชีวิตรายละ 5 แสนบาท อาจต้องเฉลี่ยจ่าย “ศักดิ์สยาม” สั่งล้อมคอกตรวจจุดตัดรถไฟทั่วประเทศเตรียมของบ กปถ.ติดตั้งไม้กั้น ด้าน กมธ.กิจการศาลฯ เตรียมเรียกผู้ว่าการ รฟท. ชี้แจงถึงเหตุที่เกิดขึ้น อัดถึงมีงบติดตั้งเครื่องกั้นทางรถไฟแต่หาก รฟท.ไม่อนุญาตก็ทำไม่ได้


ตำรวจสรุปต้นตออุบัติเหตุสยองรถบัสทัวร์บุญยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา พาพนักงานโรงงานย่านสำโรง จ.สมุทรปราการ ไปทอดกฐินสามัคคีที่วัดบางปลานัก อ.เมืองฉะเชิงเทรา ถูกขบวนรถไฟ 852 ดีเซล เลขที่ 5102 บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 30 ตู้ ชนเต็มแรงขณะรถบัสมรณะเร่งเครื่องข้ามจุดตัดรถไฟสถานีชุมทางคลองแขวงกลั่น หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ รวมทั้งนายบุญส่ง สวนยิ้ม โชเฟอร์รถบัส มีผู้บาดเจ็บ 42 คน เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค. ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จ.ฉะเชิงเทรา และนางสายขวัญ เกตุดำ ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 6 ชลบุรี (คปภ.ภาค 6) แถลงข้อมูลผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเหตุจากรถไฟชนรถบัสทัวร์บุญ โดย พล.ต.ต.ชาคริต กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย คือนายสุปัญญา สีลารัตน์ เสียชีวิตที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ หลังย้ายไปรักษาที่กรุงเทพมหานครเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา มียอดผู้เสียชีวิตรวม 19 ศพ ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 39 ราย รักษาตัวที่ รพ.พุทธโสธร รพ.บ้านโพธิ์ รพ.เกษมราษฎร์ และ รพ.คลองเขื่อน คนเจ็บที่อาการหนักต้องอยู่ห้องไอซียู 2 ราย คือนายฤทธิ์ เวียงคำ และนายจักรพงษ์ ภูครองผา

ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรากล่าวต่อว่า ส่วนการวิเคราะห์สาเหตุนั้นเกิดจาก
1.ผู้ขับขี่รถบัสไม่คุ้นชินเส้นทาง โดยเฉพาะจุดตัดรถไฟ
2.ในรถบัสโดยสารมีการเปิดเพลงเสียงดัง อาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ
3.จุดเกิดเหตุไม่มีเครื่องกั้นทางรถไฟ แต่มีป้ายเตือนและสัญญาณไฟชัดเจน
4.จุดเกิดเหตุมีลักษณะเป็นทางลาดชัน ผู้ขับขี่ต้องเร่งความเร็วเพื่อขับรถผ่าน
5.รถบัสบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าปกติ จึงเร่งเครื่องขึ้นเนินได้ช้ากว่าปกติ และ
6.รถไฟวิ่งมาด้วยความเร็วส่งผลให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทัน
ส่วนในเรื่องของคดีความเมื่อผู้ขับขี่รถบัสได้เสียชีวิต ในทางคดีความอาญาคงสิ้นสุดลง แต่ทางแพ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บยังคงเรียกร้องจากบริษัทรถบัสคันดังกล่าวได้


พล.ต.ต.ชาคริตกล่าวต่อว่า ส่วนเงินที่ผู้เสียชีวิตจะได้รับจะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือเงินจากประกันสังคม จะได้ค่าปลงศพ 80,000 บาท และค่ารักษาตามสิทธิประกันสังคม ส่วนที่ 2 คือ ประกันภัยจากรถยนต์โดยสาร ที่มีประกันภัยอยู่คือประกันภัยคุ้มภัยผู้ประสบภัยจากรถ และประกันภัยประเภทสมัครใจ คุ้มครองประเภท 3

ด้านนางสายขวัญ เกตุดำ ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน ภาค 6 (ชลบุรี) กล่าวว่า โดยประกันภัยประเภทสมัครใจคุ้มครองประเภท 3 กรณีเสียชีวิตสูงสุดจะได้เงินเยียวยาจำนวน 500,000 บาทต่อราย ความคุ้มครองต่อครั้งไม่เกิน 10 ล้านบาท และสัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน พ.ร.บ.กรณีเสียชีวิต 50,000 บาทต่อราย โดยมีค่ารักษา 50,000 บาทต่อวัน โดย คปภ.ยึดผลคดีตามตำรวจคือรถบัสประมาท ซึ่งในกรมธรรม์ประกันภัย จะต้องมาจ่ายชดใช้ 500,000 บาทต่อคน ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ราย รายละ 500,000 บาท เมื่อรวมกับค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บก็จะเกินวงเงินคุ้มครอง 10 ล้านบาท อาจใช้หลักในการเฉลี่ยเงินกันให้ได้ทุกคนในวงเงิน 10 ล้านบาท เบื้องต้นสามารถจ่ายเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ญาติก่อนรายละ 35,000 บาท


บริเวณจุดตัดรถไฟสถานีชุมทางคลองแขวงกลั่น หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา จุดเกิดเหตุ บรรดาญาติๆของ น.ส.สุภัสสร แดงอุ้ย กับ น.ส.รำไพ พาไธสง ทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้านด้วยสีหน้าเศร้าสลด โดยนายภานุเดช พาไธสง อายุ 44 ปี อาผู้ตาย กล่าวว่า หลานสาวทั้งสองทำงานที่เดียวกัน เป็นคนชอบทำบุญ ทราบว่าจะไปทอดกฐินที่ฉะเชิงเทราด้วยกัน ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายต้องเสียหลานทั้งสองคนไปอย่างไม่มีวันกลับ ขณะเดียวกัน น.ส.ปิยะดา เฉียงทอง อายุ 27 ปี ภรรยาของนายปัญจพล ตรุสมุล ดีเจที่มาเปิดเพลงบนรถบัสดังกล่าว กับญาติมาเดินหาโทรศัพท์มือถือและโน้ตบุ๊กของผู้ตาย เพื่อเก็บไว้เป็นของดูต่างหน้าสามี กล่าวว่า พระที่นิมนต์ไว้ไม่ว่างมาทำพิธีเรียกวิญญาณสามีต้องเลื่อนไปทำพิธีในวันรุ่งขึ้น


ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ มีผู้เสียชีวิตจากรถบัสมรณะถูกส่งมาตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ 8 รายการ เป็นศพชายชาวพม่า 5 ศพ และเป็นหญิงชาวพม่า 1 ศพ อีก 2 รายการเป็นชิ้นส่วนศพท่อนบนกับท่อนล่าง 2 ชิ้น ญาติมายืนยันแล้วว่าเป็นศพของ น.ส.รจนา คำมูล อายุ 44 ปี และได้ขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ขณะเดียวกัน น.ส.วันทษา สลีอ่อน ผู้ประสานงานแรงงานเมียนมา กับญาติมาขอรับศพนาย kyaw swar htay กลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

น.ส.เอ มิ ซาน อายุ 33 ปี ชาวพม่า หัวหน้าคณะกฐินหนึ่งในผู้รอดตาย กล่าวว่า ทำงานโรงงานผลิตขวด พลาสติกมานาน 3 ปี เป็นคนนัดแนะรวมตัวกันไปทำบุญ โดยเหมารถบัสออกจากโรงงานตั้งแต่เช้า ระหว่างทางเปิดเสียงเพลงจังหวะครึกครื้นเพื่อนร่วมงานต่างออกมายืนเต้นตรงทางเดิน แต่ตนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เบาะ ฝนก็ตกปรอยๆส่วนใหญ่ปิดกระจก ตอนเกิดเหตุมันเร็วมาก ไม่ได้ยินเสียงเตือนใดๆ จู่ๆได้รับ แรงกระแทกอย่างแรงลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นคนนอนแน่นิ่งเลือดกระจายไปหมด ตนคลานออกทางหน้าต่างที่แตกมาอยู่ด้านนอกตัวรถไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ คิดว่าไม่น่ารอดมาได้

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน มอบหมายให้นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน พร้อมด้วยนางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษาฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกันตน 9 ราย ที่รักษาตัวใน รพ.พระพุทธโสธร จากนั้นไปวัดบางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มอบสิทธิประโยชน์ทดแทนแก่ครอบครัวของนายบุญส่ง สวนยิ้ม คนขับรถบัสที่เสียชีวิต เป็นค่าทำศพ 40,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการทำงาน 1,260,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 57,467 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,357,467 บาท

นางธิวัลรัตน์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจมายังครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 19 รายและมีความห่วงใยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 41 ราย กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้ลงพื้นที่ทันที โดยผู้เสียชีวิต 19 ราย เป็นผู้ประกันตนใช้สิทธิกองทุนประกันสังคม 14 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว 2 ราย และอีก 6 รายกำลังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ตัวตน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 41 ราย เป็นผู้ประกันตน 38 ราย ในส่วนของผู้เสียชีวิตจะได้ประสานญาติพี่น้องหรือบุคคลในครอบครัวเพื่อจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงเหตุการณ์รถไฟชนรถบัสกฐินมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากว่า จุดเกิดเหตุเป็นจุดตัดที่ไม่ได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนเป็นจุดตัด ได้สั่งการไปให้สำรวจว่ามีจุดตัดในลักษณะนี้ ทั่วประเทศเท่าไหร่ ที่ยังไม่มีอุปกรณ์ป้องกันความ ปลอดภัย ขณะนี้กรมการขนส่งทางรางได้ของบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เพื่อดำเนินการติดตั้งให้ครบถ้วนทั่วประเทศ หากไม่เพียงพอจะต้องไปขอจากงบกลาง ส่วนจุดไหนถ้าไม่มีความจำเป็นเราก็จะปิด ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้มีการเสนองบประมาณติดตั้งเครื่องกั้น แต่ถูกตัดงบฯออกไป นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ถูกต้อง แต่ไม่เป็นไร เราพยายามทำงานเต็มที่ แก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ต่อไปต้องระมัดระวังมากกว่านี้เพื่อความปลอดภัย

ต่อมานายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงจุดตัดรถไฟว่า จากข้อมูลสถิติพบว่ามีทั้งสิ้น 2,684 แห่ง แบ่งเป็นจุดตัดต่างระดับ 406 แห่ง เสมอระดับ 2,278 แห่ง โดยจุดตัดเสมอระดับที่ได้รับอนุญาตมีจำนวน 1,657 แห่ง มีเครื่องกั้นแล้ว 1,450 แห่ง มีไฟกะพริบและป้ายสัญญาณเตือน 207 แห่ง และจุดตัดเสมอระดับ ประเภททางลักผ่าน จำนวน 621 แห่ง ส่วนมากเป็นจุดตัดที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนทางลักผ่านที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบ ของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) นั้น ส่วนใหญ่มีการปรับให้เป็นทางข้าม หรือ อุโมงค์ลอดทางรถไฟหมดแล้ว

ขณะที่จุดตัดทางรถไฟที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำๆ ในปี 2558-2562 มีทั้งหมด 35 แห่ง โดยจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ได้แก่ จุดทางลักผ่านบริเวณแก่งคอย-บ้านช่องใต้, ทางลักผ่านชุมทางหาดใหญ่-คลองแงะ, หนองปลาดุก-สุพรรณบุรี, บ้านพะเนา-ชุมทางถนนจิระ และสารภี-ป่าเส้า มีทั้งจุดลักผ่านที่ไม่มีเครื่องกั้น และจุดที่มีเครื่องกั้น

ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่องเดียวกัน ว่า เตรียมนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กมธ. วันที่ 29 ต.ค. โดยเชิญผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเตรียมพิจารณาเสนอแนะให้ รฟท.ปฏิรูปการทำงาน โดยเฉพาะการทำอุปกรณ์กั้นทางรถไฟในพื้นที่ต่างๆ หลังพบว่า รฟท.ไม่อนุญาตให้ท้องถิ่นเข้าดำเนินการสร้างอุปกรณ์กั้นทางในจุดตัดรางรถไฟหลายแห่ง ส่วนที่ระบุไม่มีงบประมาณทำไม้กั้นทางจุดตัดรถไฟและถนน เพราะ กมธ.งบประมาณปี 2564 ตัดงบดำเนินการของกรมขนส่งทางรางนั้น ในฐานะโฆษก กมธ.งบประมาณปี 2564 ขอเช็ก รายละเอียดอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าต่อให้มีงบประมาณดำเนินการ แต่หาก รฟท.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ไม่อนุญาตให้หน่วยงานเข้าไปดำเนินการ หน่วยงานภายนอกก็ไม่สามารถเข้าติดตั้งอุปกรณ์กั้นทางได้ ถึงเวลาที่ รฟท.ต้องปฏิรูปจุดตัดข้ามในพื้นที่ต่างๆ

นายจิรวุฒิ บุญศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีรถไฟขนส่งสินค้าบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ชนรถบัสโดยสารที่จะไปทอดกฐิน ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 บริษัทฯ ได้เร่งส่งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่สำรวจทันที พบว่ารถบัสคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการแจ้งสิทธิความคุ้มครองกับผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อย และอยู่ในขั้นตอนเตรียมเอกสารเพื่อพิจารณาจ่ายสินไหมทดแทนโดยเร่งด่วน ตามความคุ้มครอง พ.ร.บ.ที่ได้ทำไว้กับบริษัทฯต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 16/10/2020 6:19 pm    Post subject: Reply with quote

ชาวบ้านบางเตยทำบุญใหญ่ให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุรถไฟชนบัสกฐินบริเวณจุดเกิดเหตุ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 16 ตุลาคม 2563 เวลา 13:15



ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านบางเตย ร่วมทำบุญเลี้ยงพระ และทอดผ้าบังสุกุลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถไฟพุ่งชนรถบัสทอดกฐินที่สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมจัดกองผ้าป่าสมทบเป็นเงิน 90,569 บาท อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 19 ราย

จากเหตุการณ์รถไฟบรรทุกตู้สินค้าพุ่งชนรถบัสทอดกฐินสามัคคี พนักงานโรงงาน จ.สมุทรปราการ ที่บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 40 ราย เสียชีวิต 19 ราย และ 1 ในนั้นคือ นายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี คนขับรถบัส ซึ่งมีเป้าหมายปลายทางที่วัดบางปลานัก ต.บางเตย ที่อยู่หากจากจุดเกิดเหตุเพียง 4 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ (16 ต.ค.) นายสันต์ เกษมสุข อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.บางเตย ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการวัดบางปลานัก พร้อมชาวบ้านในพื้นที่จำนวนกว่า 600 คน ได้ร่วมกันจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระและทอดผ้าบังสุกุลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยมี พระครูสมุห์สมนึก ชุติวรรณโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบางปลานัก ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาสที่ชราภาพเป็นประธานฝ่ายสงฆ์



นอกจากนั้น ชาวบ้านยังได้จัดตั้งกองผ้าป่าสมทบ จำนวน 3 กอง รวมเป็นเงิน 90,569 บาท แทนกองผ้าป่าของคณะทำบุญที่เดินทางมาไม่ถึงวัด เพื่อทอดต่อยอดและอุทิศบุญกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 19 ราย ก่อนจะทำพิธีบังสุกุลทอดผ้าป่าถวายแด่พระสงฆ์ และยังได้มีการจุดพลุ จำนวน 19 นัด อีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/10/2020 11:01 am    Post subject: Reply with quote

ปลื้มไทย เยียวยาคนงานเสียชีวิต เหตุรถไฟชนรถบัส
กรุงเทพธุรกิจ 16 ตุลาคม 2563

รมว.แรงงานเผย ทูตแรงงานเมียนมาประจำประเทศไทย ปลื้ม!! ขอบคุณรัฐบาลไทย ช่วยเยียวยาด้านสิทธิประโยชน์กรณีคนงานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัส คุ้มครองสิทธิมนุษยชน บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ญาติและครอบครัว

วันนี้ (16 ต.ค. 2563)นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังที่ได้มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางไปมอบสิทธิประโยชน์ทดแทนแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าชนรถบัสขณะไปงานกฐินที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว จำนวน 6 รายได้แก่ เป็นค่าทำศพรายละ 50,000 บาท เป็นเงิน 300,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพรวม 70,888 บาท

รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 370,888 บาท ณ วัดด่านสำโรง ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม เข้าร่วมด้วย

นายมิว เมียน นาย (Myo Myint Naing) ทูตแรงงานเมียนมาประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือเยียวยาด้านสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิตและการจ่ายค่าทำศพให้แก่ญาติและครอบครัวของคนงานสัญชาติเมียนมาที่มาทำงานในประเทศไทยจำนวน 6 คน ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าชนรถบัสขณะไปงานกฐินที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา

ทูตแรงงานเมียนมาฯ กล่าวอีกว่า รู้สึกปลื้มใจที่รัฐบาลไทยกระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ทอดทิ้งคนงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศ ในวันนี้จึงขอขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงแรงงานที่ได้ให้การดูแลสิทธิประโยชน์ของพลเมืองชาวเมียนมาให้ได้รับความคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน แม้ว่าคนงานจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่สิทธิประโยชน์ที่ได้รับในวันนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวญาติพี่น้องให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 21/10/2020 2:19 pm    Post subject: Reply with quote

จุดเดิมกับที่เพิ่งจะเกิดเหตุใหญ่ไป ขนาดมีคนมาคอยห้ามแต่ก็ไม่ สนใจ สัญญาณ เตื่อนก็มีครบ ยังไม่รักชีวิตกันเลยครับ อย่าโทษแต่รถไฟอย่างเดียว
https://www.facebook.com/kampon.khongphet.9/posts/178432163840751
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/10/2020 11:07 am    Post subject: Reply with quote

โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟคลองแขวงกลั่น ใน จ.ฉะเชิงเทรา
เรื่องจริงผ่านจอ
26 ตุลาคม 2563 เวลา 14:00 น.

เมื่อรถบัสที่มีคณะทำบุญงานทอดกฐินวัดบางปลานัก ถูกรถไฟบรรทุกสินค้าตู้คอนเทรนเนอร์ พุ่งชนเข้าอย่างแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย
...
ซึ่งนี่ไม่ใช่การสูญเสียครั้งแรกที่เกิดขึ้นบนจุดตัดทางรถไฟ ไปเจาะลึกถึงสาเหตุของเรื่องนี้ในรายการเรื่องจริงผ่านจอ
https://www.facebook.com/Thairealtvhd/posts/2799660933628778
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2020 6:11 pm    Post subject: Reply with quote

Piyamin Muangsong
ตั้งแต่ 15 ต.ค. 63 จนถึงวันนี้วันที่ 28 ต.ค. 63 เป็นเวลา 14 วันกับงานซ่อมรถจักร 5102 อุบัติเหตุ ทั้งวันทั้งคืนจริงจังมากครับทั้งวิ่งซื้อของ, วาระประจำวันปกติ, งานนอกวาระ และงานซ่อมรถจักรคันนี้ ขอขอบคุณทีมเฉพาะกิจ ศช.-สม.พี่ทิพี่กบพี่น้อยพี่เอไอบอล, หน่วยซ่อมรถจักรศรีราชา และบางซื่อ
กลับไปกอดลูกกอดเมียได้แล้วครับทุกคน
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3516015625112024
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3348301701890094&id=100001308918421
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/01/2021 8:23 am    Post subject: Reply with quote

“อาคเนย์-สินมั่นคง” จ่ายเยียวยาอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัสดับ 17 รายแล้ว
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 23 มกราคม 2564 - 18:43 น.

คปภ.รายงานการติดตามการช่วยเหลือกรณี “อุบัติเหตุรถไฟชนรถบัส” ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พบ”อาคนเย์-สินมั่นคง” จ่ายเยียวยาแล้วทั้ง 17 ราย รวมกว่า 12 ล้านบาท

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถไฟขนส่งสินค้า เลขหัวลาก 5102 และแคร่บรรทุก จำนวน 30 แคร่ พร้อมตู้คอนเทนเนอร์ เฉี่ยวชนกับรถบัสโดยสาร หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา บริเวณสถานีรถไฟแขวงกลั่น หมู่ 7 ตำบลบางเตย อำเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 41 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 นั้น

จากการประสานงานติดตามช่วยเหลือด้านสินไหมทดแทน สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดฉะเชิงเทรา ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ได้รายงานความคืบหน้าการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ NCM19007926071 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2564 ว่า

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ
ได้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตแล้ว จำนวน 17 ราย แบ่งเป็นรายละ 311,551.72 บาท จำนวน 16 ราย และ 35,000 บาท จำนวน หนึ่งราย รวมเป็นเงิน 5,019,827.52 บาท กรณีรักษาพยาบาล จำนวน 35 ราย รวมเป็นเงิน 555,327.12 บาท รวมค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายทั้งสิ้น 5,575,154.64 บาท

สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 จากบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 63-3-6-600792 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2564

ได้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตแล้ว จำนวน 16 รายๆ ละ 311,551.72 บาท รวมเป็นเงิน 4,984,827.52 บาท กรณีรักษาพยาบาล จำนวน 42 ราย รวมเป็นเงิน 837,872.51 บาท รวมค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายทั้งสิ้น 5,822,700.03 บาท

ทั้งนี้ ในส่วนค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยรถยนต์ PA อุบัติเหตุส่วนบุคคล ได้จ่ายไปแล้ว จำนวน 17 รายๆ ละ 50,000 บาท เป็นเงิน 850,000 บาท รวมจำนวนเงินที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุดังกล่าวไปแล้ว เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 12,247,854.64 บาท

สำหรับค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิต จำนวนทั้งหมด 18 ราย ทายาทโดยธรรมได้รับแล้ว จำนวน 17 ราย ยังคงเหลือทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิตรายนางสาวเมลดา ภูครองผา ที่ยังไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทน เนื่องจากอยู่ระหว่างรอเอกสารเกี่ยวกับการจัดการมรดกจากศาลยุติธรรม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/01/2021 11:34 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“อาคเนย์-สินมั่นคง” จ่ายเยียวยาอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัสดับ 17 รายแล้ว
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 23 มกราคม 2564 - 18:43 น.


คปภ.สรุปเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุรถไฟชนรถบัส ปี'63 รวม17ราย12ล้านบาท
วันอาทิตย์ ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564, 16.50 น.

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถไฟขนส่งสินค้า เลขหัวลาก 5102 และแคร่บรรทุก จำนวน 30 แคร่ พร้อมตู้คอนเทนเนอร์ เฉี่ยวชนกับรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา บริเวณสถานีรถไฟแขวงกลั่น หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 41 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมานั้น



นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดฉะเชิงเทรา ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ได้รายงานความคืบหน้า 1.การจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ NCM19007926071 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 ก.ย.2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 ก.ย.2564 ว่าได้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตแล้ว จำนวน 17 ราย

แบ่งเป็นรายละ 311,551.72 บาท จำนวน 16 ราย และ 35,000 บาท จำนวนหนึ่งราย รวมเป็นเงิน 5,019,827.52 บาท กรณีรักษาพยาบาล จำนวน 35 ราย รวมเป็นเงิน 555,327.12 บาท รวมค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายทั้งสิ้น 5,575,154.64 บาท 2.การจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 จากบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 63-3-6-600792 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 ก.ย.2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 ก.ย.2564


ได้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตแล้ว จำนวน 16 ราย รายละ 311,551.72 บาท รวมเป็นเงิน 4,984,827.52 บาท กรณีรักษาพยาบาล จำนวน 42 ราย รวมเป็นเงิน 837,872.51 บาท รวมค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายทั้งสิ้น 5,822,700.03 บาท ทั้งนี้ ในส่วนค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยรถยนต์ PA อุบัติเหตุส่วนบุคคล ได้จ่ายไปแล้วจำนวน 17 ราย ราละละ 50,000 บาท เป็นเงิน 850,000 บาท รวมจำนวนเงินที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุดังกล่าวไปแล้ว เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 12,247,854.64 บาท

นายสุทธิพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิต จำนวนทั้งหมด 18 ราย ทายาทโดยธรรมได้รับแล้วจำนวน 17 ราย ยังคงเหลือทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิต คือ น.ส.เมลดา ภูครองผา ที่ยังไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทน เนื่องจากอยู่ระหว่างรอเอกสารเกี่ยวกับการจัดการมรดกจากศาลยุติธรรม ซึ่งสำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง และขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมในระหว่างการใช้รถใช้ถนนและหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ

ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้าไปช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ.1186
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/09/2021 10:43 pm    Post subject: Reply with quote

ใกล้ครบปีโศกนาฏกรรมรถไฟพุ่งชนบัสทัวร์กฐิน 19 ศพ ที่ฉะเชิงเทรา วันนี้อุปกรณ์ปลอดภัยยังน้อย
หน้าภูมิภาค ภาคกลาง-ตะวันออก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เผยแพร่: วันเสาร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 17:35 น.
ปรับปรุง: วันเสาร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 17:35 น.


ฉะเชิงเทรา -​ ใกล้ครบปีโศกนาฏกรรมรถไฟพุ่งชนบัสทัวร์กฐิน 19 ศพ เหตุเครื่องกั้นสัญญาณเตือนไม่มี ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เตรียมจัดทำบุญอุทิศส่วนกุศล หลายรายยังพบเรื่องชวนขนหัวลุกต่อเนื่อง ส่วนอุปกรณ์​ความปลอดภัย​ยังมีไม่มากนัก

จากเหตุ​การณ์โศกนาฏกรรมขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าพุ่งชนรถบัสคณะทัวร์กฐินที่กำลังจะเดินทางไปร่วมงานบุญที่วัดบางปลานัก บ้านคลองแขวงกลั่น ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2563 ที่ผ่านมา

โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสถานีรถไฟบ้านคลองแขวงกลั่น จนเป็นเหตุให้​มี​ผู้เสียชีวิต​ 19 ราย และจนถึงวันนี้ใกล้จะครบรอบ 1 ปีของเหตุการณ์​ ยังมีชาวบ้านในพื้นที่ยังคงพบเห็นสิ่งลี้ลับอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสันต์ เกษมสุข อายุ 63 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านคลองแขวงกลั่น ว่า ในช่วงใกล้ถึงวันครบรอบ 1 ปีของโศกนาฏกรรม ​ตนเองและชาวบ้านในพื้นที่ได้เตรียมที่จะเข้าหารือ พระสมุสมนึก รองเจ้าอาวาสวัดบางปลานัก เพื่อจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตบริเวณสถานีรถไฟ “คลองแขวงกลั่น” พร้อมถวายสังฆทานและทำพิธีบังสุกุลในช่วงเช้า

ส่วนการปรับปรุงอุปกรณ์​ด้านความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นสัญญาณเตือน และเครื่องกั้น แม้เหตุการณ์​จะผ่านมานานถึง 1 ปี แต่ยังไม่มีการพัฒนา​สิ่งใดเพิ่มเติม โดยมีเพียงป้ายเตือนขนาดใหญ่ให้ระวังอันตรายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเท่านั้น



"ที่ผ่านมา อบต.บางเตย ได้นำสัญญาณไฟและป้ายไฟกะพริบเตือนขนาดเล็กมาติดตั้งเพิ่มเติมเท่านั้น ส่วนสัญญาณไฟกะพริบพร้อมสัญญาณเสียงเตือนให้หยุดรถบริเวณจุดตัดขอบรางรถไฟ เพิ่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการซ่อมแซมจนสามารถใช้การได้ในวันศุกร์ที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการนำเครื่องกั้นมาติดตั้งให้แต่อย่างใด" นายสันต์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านคลองแขวงกลั่น กล่าว

ขณะที่ นางสวิง สุขสำอาง อายุ 51 ปี เจ้าของร้านค้าอาหารตามสั่งริมทางรถไฟซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าถึงเหตุการณ์ขนหัวลุกที่เกิดขึ้นว่าเมื่อหลายเดือนก่อน บุตรสาวของชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งทำงานอยู่ภายในโรงพยาบาลประจำ จ.ฉะเชิงเทรา และได้กลับเข้าบ้านเมื่อเวลาเที่ยงคืนได้พบเห็นชายรูปร่างอ้วนไม่มีศีรษ​ะเดินจากบริเวณป้ายสถานีรถไฟเข้าไปยังชานชาลาของสถานีรถไฟร้าง

นอกจากนั้น ยังมีชาวบ้านอีกประมาณ 2-3 ราย ได้เห็นชายรูปร่างท้วมไม่มีศีรษะนั่งอยู่บริเวณสถานีรถไฟร้างเช่นกัน

เช่นเดียวกับ นายสำราญ ทองวิจิตร อายุ 67 ปี บอกว่าตนเองต้องใช้เส้นทางเข้าออกผ่านจุดเกิดเหตุอยู่ทุกวัน โดยใช้เส้นทางด้านข้างร้านค้าเลียบแนวทางรถไฟซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ซึ่งตลอดเกือบปีที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นสิ่งผิดปกติ

แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ การมีป้ายสัญญาณเตือนขนาดใหญ่แจ้งเตือนจุดอันตรายก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟซึ่ง อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้นำมาติดตั้งไว้ รวมทั้งแผ่นยางลูกระนาดบริเวณใกล้จุดหยุดรถก่อนถึงทางข้ามรางรถไฟ ที่ขณะนี้เริ่มหลุดหายไปจนหมดแล้ว

"ในส่วนของไฟกะพริบพร้อมสัญญาณเสียงเตือนขณะที่ขบวนรถไฟกำลังจะมาถึงเพิ่งจะซ่อมเสร็จ และใช้งานได้ในวันที่ 17 ก.ย.เป็นวันแรก หลังได้เข้ามาขุดซ่อมแซมและตั้งเสาเดินสายไฟใหม่เมื่อเกือบเดือนที่ผ่านมา ซึ่งพอได้เห็นแสงไฟส่องสว่างมากขึ้นในเวลากลางคืน" นายสำราญ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5  Next
Page 4 of 5

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©