RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179757
ทั้งหมด:13490989
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 89, 90, 91 ... 147, 148, 149  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 16/10/2020 7:10 pm    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” เดินหน้าสู้ค่าโง่โฮปเวลล์ ชงนายกฯ ตั้งคณะ กก.สอบสวนฟันคนทำผิด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 15 ตุลาคม 2563 เวลา 18:14


“ศักดิ์สยาม” ลุยคดีโฮปเวลล์ ชงนายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบหาคนผิด ต้นตอทำให้เกิดค่าโง่ ยังสู้ประเด็นจดทะเบียนบริษัทไม่ถูกต้อง ย้ำต้องเดินให้สุดทุกทาง พร้อมสั่งปลัดเร่งตั้งผู้บริหารแทนที่ว่างใน ต.ค.นี้ เร่งขับเคลื่อนงบปี 64

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงเรื่องโครงการโฮปเวลล์ว่า ขณะนี้ได้รายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแต่งตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด เพื่อสอบสวนหาบุคคลที่ทำให้เกิดปัญหาคดีโฮปเวลล์โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน และมีตนเป็นรองประธาน ส่วนคณะกรรมการจะมีผู้แทนจากสำนักงบประมาณ อัยการสูงสุด ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

ส่วนกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่คำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ขอให้พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ซึ่งฝ่ายรัฐจะถือปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด แต่ยังคงแสวงหาข้อมูลใหม่เรื่องวัตถุประสงค์การจดทะเบียน และความไม่สมบูรณ์ของการจดทะเบียน บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เพื่อดำเนินการอุทธรณ์ซึ่งยังมีขั้นตอนอีกมาก

นอกจากนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว และกระทรวงคมนาคม รฟท. ยังพิจารณาในการเสนอไปสู่องค์กรอื่นๆ อีก เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลแพ่ง ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อดำเนินการในทุกช่องทางให้จบและครบถ้วน

“เรามีความเห็นว่าต้องยึดข้อเท็จจริงตามกฎหมาย อะไรผิดก็ต้องผิดอะไรถูกก็ต้องถูก เราจะไม่ทำผิดให้ถูก และไม่ทำถูกให้ผิด” นายศักดิ์สยามกล่าว

เร่งตั้งผู้บริหารแทนตำแหน่งเกษียณใน ต.ค.นี้

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งให้ปลัดกระทรวงคมนาคมพิจารณาสรรหาแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงแทนผู้เกษียณอายุ คาดว่าจะเรียบร้อยในเดือน ต.ค.นี้ และจะมอบนโยบายในการขับเคลื่อนนโยบายในปี 2564

ขณะที่ได้เร่งให้ทุกหน่วยงาน เสนอกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ให้กระทรวงพิจารณาในเดือน ต.ค.นี้ โดยยึดหลักเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, นโยบายรัฐบาล และเป็นโครงการที่มีความจำเป็น สามารถดำเนินการต่อเนื่อง รวมถึงต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินงาน เพื่อนำมาจัดลำดับความสำคัญและสรุปนำเสนอตามขั้นตอนต่อไป

โดยปกติแต่ละปีจัดตั้งกรอบงบประมาณเสนอไป 100% จะได้รับประมาณ 40% ดังนั้น ทุกโครงการที่นำเสนอต้องพร้อมดำเนินการ หากไม่งบตามที่เสนอ โครงการมีความจำเป็นจะต้องปรับแผนทยอยการลงทุนเป็นตอนๆ และต้องกระจายงบประมาณการลงทุนไปทุกภาคทั่วประเทศ ไม่เกิดการลงทุนที่กระจุกตัว เราต้องสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนทั่วประเทศ โดยในปี 2564 กระทรวงคมนาคมได้รับงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมที่ว่าง ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อธิบดีกรมการขนส่งทางราง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ผู้ตรวจราชการอีกหลายตำแหน่ง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 19/10/2020 10:09 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.ปรับกรอบลงทุน “สายสีแดง” เป็น 9.7 หมื่นล้าน เจอภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.1 พันล้าน-ยืดสัญญาทางคู่สายใต้อีก 15 เดือน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: จันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563 เวลา 07:56

บอร์ดรฟท.เคาะเพิ่มวงเงิน “สายสีแดง” 3.1 พันล.
เผยแพร่: จันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563 เวลา 13:31:33

บอร์ดรฟท.เห็นชอบวงเงินลงทุนรถไฟฟ้าสายสีแดง 3,143 ล้านบาท หลังเกิดภาษีแวต-ผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน กระทบกรอบวงเงินเพิ่ม 97,093 ล้านบาท คาดทดสอบเดินรถภายในเดือนมี.ค.2564 ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่สายใต้ 2 เส้นทาง ขยายเวลาออกไป 15 เดือน เหตุปรับแบบใหม่

บอร์ด รฟท.เคาะเพิ่มงบสีแดง 3.1 พันล้านจ่ายค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้กรอบลงทุนรวมเป็น 9.7 หมื่นล้าน พร้อมขยายเวลาสร้างทางคู่ใต้ 2 สัญญาอีก 15 เดือนจากปรับแบบ เผยปี 65 ตั้งของบอุดหนุนบริการสังคม 4.26 พันล้าน ส่วนตั้งบริษัททรัพย์สินแผนยังไม่คล่องตัวให้ปรับใหม่

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ได้มีมติอนุมัติปรับกรอบวงเงินลงทุนโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้แหล่งเงินกู้ ECP กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มงวด 27 ถึง 29 กรณีความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และกรณีค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรจากการนำเข้า (Import VAT & Import Duty) พร้อมทั้งขออนุมัติจัดหาแหล่งเงินรองรับ วงเงินรวม 3,143.35 ล้านบาท แบ่งเป็น ช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 2,255 ล้านบาท ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 887 ล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินโครงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2559 ที่ 93,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 97,093 ล้านบาท

โดยจะต้องนำเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป แต่ทั้งนี้ การปรับกรอบวงเงินดังกล่าวไม่เกี่ยวกับกรณีงานก่อสร้างเพิ่มเติม หรือ Variation Order (VO) สายสีแดงแต่อย่างใด ซึ่ง รฟท.อยู่ระหว่างรอความเห็นของอัยการสูงสุดในประเด็นการสั่งงานเพิ่ม

@ขยายเวลาก่อสร้างรถไฟทางคู่ “ประจวบฯ-ชุมพร” สัญญา 1, 2 ออกไป 15 เดือน

นอกจากนี้ บอร์ด รฟท.ยังได้เห็นชอบการขยายระยะเวลาสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วง ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร จำนวน 2 สัญญา ออกไปสัญญาละ 15 เดือน ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กม. งบประมาณ 6,465 ล้านบาท สัญญามีระยะเวลาก่อสร้าง 33 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค. 2563 ไปสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 2565 มีกิจการร่วมค้า เคเอส-ซี เป็นผู้รับจ้าง

สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 79 กม. งบประมาณ 5,992 ล้านบาท สัญญามีระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 2564 ไปสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย. 2565 มีกิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้าง

ทั้งนี้ เนื่องจากแบบเดิมสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ออกแบบ เมื่อเข้าพื้นที่ก่อสร้างจำเป็นต้องมีการปรับแบบในบางจุดเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริง เช่น เลี่ยงการรื้อระบบอาณัติสัญญาณและอุปกรณ์ที่อยู่ในจุดเดิมที่ทำให้มีค่าก่อสร้างเพิ่ม เป็นการขยับแนวมาก่อสร้างอีกด้าน รวมถึงต้องหยุดก่อสร้างกรณีที่เกิดอุทกภัย เป็นต้น ซึ่งการขยายระยะเวลาก่อสร้างให้ผู้รับจ้างนี้ไม่ส่งผลทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด โดยยอมรับว่าจะกระทบต่อกำหนดแผนงานเปิดเดินรถให้ล่าช้าออกไปประมาณ 1 ปี

@อนุมัติซื้อรถอเนกประสงค์ตรวจซ่อมสะพานกว่า 328 ล้าน

อนุมัติซื้อรถไฟอเนกประสงค์สำหรับตรวจสะพานและอุโมงค์ จำนวน 1 คัน จากบริษัท บรอดแคส ดี พอท (ไทยแลนด์) จำกัด วงเงิน 328.811 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว) ซึ่งเป็นรถไฟที่จะใช้ในการตรวจสภาพและซ่อมสะพาน เพื่อรองรับทางรถไฟที่เพิ่มขึ้นในอนาคตจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่


X


พร้อมกันนี้ ยังเห็นชอบข้อเสนอการรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 4,266.742 ล้านบาท เพื่อรองรับการบริการประชาชน ซึ่งเป็นการตั้งกรอบวงเงินได้มีการเจรจากับสำนักงบประมาณแล้ว

@ ตีกลับแผนบริษัทลูกทรัพย์สิน ปรับให้คล่องตัวเพื่อประโยชน์สูงสุด

สำหรับการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของ รฟท.นั้น นายนิรุฒกล่าวว่า ได้มีการเสนอบอร์ดพิจารณากระบวนการจัดตั้ง ถ่ายโอน ส่งมอบงานจาก รฟท.ไปให้บริษัทลูก และเริ่มดำเนินธุรกิจภายใน 1 ปี แต่บอร์ดยังไม่อนุมัติ โดยให้กลับไปทำรายละเอียดขั้นตอนการจัดตั้งให้กระชับมากขึ้น รวมถึงวางแผนวิธีการดำเนินธุรกิจที่มีความคล่องตัวและเกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ หลังจาก ครม.เห็นชอบแล้ว จะมีกระบวนการจัดตั้ง บริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการได้ภายในปี 2563 จากนั้นจะตั้งบอร์ดบริษัท และมีการสรรหาซีอีโอ รับพนักงาน เริ่มถ่ายโอนงาน โดยประเมินว่าในช่วง 3 ปีต้องการคนรวม 100 คน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 22/10/2020 6:09 pm    Post subject: Reply with quote

แกะปมงบแสนล้าน “สายสีแดง” บิ๊กโปรเจ็กต์ “ยิ่งสร้าง ยิ่งช้า งบยิ่งบาน”
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 22 ตุลาคม 2563 - 11:15 น.

ใช้เวลาสร้างนานถึง 13 ปี “รถไฟชานเมืองสายสีแดง” ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 41 กม. ถือเป็นโปรเจ็กต์ทุบสถิติที่ใช้เงินก่อสร้างบานตะไท จากการปรับกรอบวงเงินถึง 5 ครั้ง

ล่าสุดกำลังจะมีครั้งที่ 6 ตามมาเร็ว ๆ นี้ จากกรอบเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22 พ.ค. 2550 อนุมัติ 52,220 ล้านบาท รวมเป็นเงินถึง 104,295 ล้านบาท

ผ่านมือหลายรัฐบาล
การปรับวงเงินลงทุนได้ผ่านการพิจารณาจากหลายรัฐบาล ตั้งแต่ “รัฐบาลประชาธิปัตย์” จนถึง “รัฐบาลประยุทธ์” ทำให้ต้องปรับแบบปรับเนื้องานใหม่ตลอดเวลา ทั้งศูนย์ซ่อมบำรุง ที่จอดรถชั้นใต้ดิน เพิ่มสถานี ซื้อขบวนรถเพิ่ม

แต่งบฯก้อนใหญ่มาจากการที่ผู้รับเหมาโยธาและงานระบบ เสนอวงเงินเกินกรอบราคากลาง รวมถึงนโยบายทางการเมืองที่โหมลงทุนรถไฟความเร็วสูง ทำให้ต้องปรับแบบ “สถานีกลางบางซื่อ” รวมถึงโครงสร้างทางวิ่ง

ผลจากการขยับกรอบวงเงิน 5 ครั้ง ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างได้งานและเงินเพิ่มโดยปริยาย ตัวเลขล่าสุดสัญญาที่ 1 งานสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง วงเงินอยู่ที่ 34,142 ล้านบาทมีกลุ่มกิจการร่วมค้า SU ประกอบด้วย บมจ.ซิโน-ไทยฯ และ บมจ.ยูนิคฯ เป็นผู้ก่อสร้าง

สัญญาที่ 2 งานโครงสร้างทางวิ่งยกระดับและระดับพื้น งานสถานี 8 แห่ง และถนนเลียบทางรถไฟ ถนนทางข้ามไซต์ก่อสร้างของ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ วงเงินอยู่ที่ 24,587 ล้านบาท

และสัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้า เครื่องกล และจัดหาตู้รถไฟฟ้า มีกลุ่มมิตซูบิชิ-ฮิตาชิ-สุมิโตโม จากญี่ปุ่น เป็นผู้ดำเนินการ วงเงินอยู่ที่ 32,399 ล้านบาท

ซึ่งการปรับกรอบวงเงินครั้งที่ 6 อีกประมาณ 10,345 ล้านบาทนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังขอ ครม.อนุมัติปรับเพิ่มกว่า 200 รายการ เช่น งานที่เปลี่ยนแปลงของสัญญาที่ 1 วงเงิน 5,566 ล้านบาท สัญญาที่ 2 วงเงิน 265 ล้านบาท

สัญญาที่ 3 วงเงิน 3,117 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาคุมงาน 154 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาบริหารโครงการ 106 ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดอีก 1,134 ล้านบาท


หวั่นค่าโง่ซ้ำซาก
ล่าสุด “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จริงมี “ชยธรรม์ พรหมศร” ปลัดคมนาคมเป็นประธาน เพื่อ “รีเช็ก” เนื้องานที่บานปลาย ว่าเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่ และใครเป็นผู้มีอำนาจสั่งการ เพื่อไม่ให้เป็นข้อพิพาท หรือค่าโง่ภายหลัง เมื่อพลิกดูเนื้องานที่เพิ่มขึ้น เป็นแบบเบี้ยหัวแตก ตั้งแต่งานเล็กยันงานใหญ่ ปัจจุบันได้ตีกลับข้อมูลให้ ร.ฟ.ท.เร่งทบทวน หลังตัวเลขไม่ตรงจากที่เสนอขอปรับก่อนหน้านี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า รอ ร.ฟ.ท.นำข้อมูลมาเสนอใหม่ ว่าสุดท้ายค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นเท่าไหร่แน่ เนื่องจากข้อมูลล่าสุดที่ส่งให้พิจารณาคนละตัวเลขกับที่เสนอมาในตอนแรก พร้อมสั่งการให้เสนอรายละเอียดกลับมาพิจารณาอีกครั้ง

ที่ประชุมตั้ง 3 คณะทำงานคือด้านกฎหมาย ด้านเทคนิค และด้านแหล่งเงิน เพื่อพิจารณาให้ครอบคลุมก่อนเข้า ครม.

คณะทำงานให้ ร.ฟ.ท.ทำข้อมูลสรุปรายละเอียดงานก่อสร้างเพิ่มเติม ที่มีมูลค่าเกิน 15% /ตรวจสอบมติบอร์ด/ ตรวจสอบการออกคำสั่ง/ให้ฝ่ายกฎหมาย ร.ฟ.ท.ตีความเรื่องค่างาน

“ร.ฟ.ท.ให้รับเหมาสร้างไปก่อน ทั้งที่เงินยังไม่ได้ ต้องแจงเพราะงบฯเพิ่มมา 5 ครั้งแล้ว โดยเน้นย้ำให้ทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและผู้อนุมัติมีอำนาจหรือไม่” แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ส่วนการเดินรถจะเปิดบริการปี 2564 ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายกระทรวงคมนาคม เพราะปัญหาเกี่ยวโยงกันหมด แล้วระหว่างที่รอสรุป เมื่อ 15 ต.ค. 2563 บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติปรับกรอบวงเงินลงทุนอีก 3,143 ล้านบาท จากภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนำเข้า และอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้วงเงินรวมของโครงการขยับมาที่ 97,093 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการปรับเล็ก ยังไม่รวมก้อนใหญ่อีก 10,345 ล้านบาท

ไทม์ไลน์ยังไม่นิ่ง
“ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ยังไม่เห็นมติบอร์ด ร.ฟ.ท.ที่เพิ่มงบฯสายสีแดงไป 3,143 ล้านบาท แต่การเพิ่มกรอบวงเงินจากภาระภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเรื่องปกติ ส่วนวันเวลาเปิดให้บริการ พ.ย. 2564 ตามที่ ร.ฟ.ท.กำหนด “ยังไม่อยากยืนยัน” เพราะปัญหาค่างานพิเศษที่เพิ่มมา 10,345 ล้านบาท ยังสรุปกันไม่ได้

ขณะนี้ได้หารือร่วมกันระหว่าง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร.ฟ.ท. และ กรมการขนส่งทางราง ร่วมกับ สำนักงานอัยการสูงสุด ถึงระเบียบและข้อกฎหมาย โดยเฉพาะประเด็นการขอเปิดใช้บริการไปก่อนระหว่างรอสรุปอำนาจในการสั่งงาน ว่าเป็นอำนาจของผู้ใดบ้าง และกระทำได้หรือไม่ เนื่องจากการเปิดให้บริการในระหว่างที่ยังจ่ายค่างานที่เพิ่มขึ้น เสี่ยงที่จะถูกเอกชนฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ จึงยังไม่อยากยืนยันว่าจะเปิดให้บริการในปี 2564 ได้หรือไม่

ร.ฟ.ท.ย้ำหมุดออกวิ่ง พ.ย. 64
“เราพยายามจะเปิดเดินรถในปี 2564 เพราะจะเดินรถช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน สร้างเสร็จมา 8 ปีด้วย แต่เพราะรองานระบบและซื้อรถทำให้การเปิดใช้ล่าช้า” แหล่งข่าวกล่าวและว่า

สำหรับการเดินรถให้บริษัทลูกคือ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด จะมาเป็นผู้เดินรถให้เป็นการชั่วคราว 2-3 ปี ช่วงเปลี่ยนถ่ายไปสู่การเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน PPP ตามที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบาย เพื่อให้เอกชนมารับภาระค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นและสร้างส่วนต่อขยายให้อีก 4 เส้นทาง รวม 67,575.37 ล้านบาท ได้แก่ 1.รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ 2.ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 3.ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช และ 4.Missing Link ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และบางซื่อ-หัวลำโพง แลกกับรับสัมปทานเดินรถ 30-50 ปี

เป็นความท้าทายอีกระลอกใหญ่ของปี 2563
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2020 3:44 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีแดง เปิดรับสมัครพนักงานรอบ 2
ข่าวอสังหาริมทรัพย์

วันที่ 28 ตุลาคม 2563 - 15:09 น.

รถไฟฟ้าสายสีแดง เปิดรับสมัครพนักงานรอบ 2 รับสมัครระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม-​2 พฤศจิกายน 2563


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อสอบคัดเลือกเป็นลูกจ้างชั่วคราว ปฎิบัติงานในโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ​ช่วงบางซื่อ -​รังสิต และ ช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน ประกอบด้วย

เจ้าหน้าที่ควบคุมการเดินรถไฟฟ้า (ปริญญาตรี)​
เจ้าหน้าที่ควบคุมการเดินรถด้านระบบวิศวกรรม (ปริญญาตรี)​
เจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้า (ปริญญาตรี)​
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (ปริญญาตรี)​
เจ้าหน้าที่ประจำสถานี (ปวช./ปวส.)​
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (ปริญญาตรี)​
รับสมัครระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม -​2 พฤศจิกายน 2563
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 29/10/2020 3:39 pm    Post subject: Reply with quote

คดีพิพาทถึงที่สุดแล้ว! ศาลยกเหตุไม่รับคำฟ้อง ‘รฟท.’ ขอเพิกถอน ‘บ.โฮปเวลล์’
เขียนโดย isranews
เขียนวันอังคาร ที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 13:29 น.

‘ศาลปกครองกลาง’ มีคำสั่งไม่รับฟ้องคดี รฟท.ขอให้ 'นายทะเบียน' เพิกถอนการจดทะเบียน ‘บ.โฮปเวลล์’ ยกเหตุคดีพิพาทโฮปเวลล์ถึงที่สุดแล้ว และสามารถยกเป็น ‘ข้อต่อสู้’ ในชั้นการพิจารณาของ 'อนุญาโตตุลาการ' ได้อยู่ก่อนแล้ว พร้อมระบุหาก รฟท.เห็นว่าการจัดตั้งบริษัทฯเป็นไปโดยมิชอบ ควรปฏิเสธการเซ็นสัญญาตั้งแต่แรก

...............

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคดีหมายเลขแดงที่ 1721/2563 ไม่รับคำฟ้องของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไว้พิจารณา ในคดีฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากเป็นการออกคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เพิกถอนคำสั่งจดทะเบียนนิติบุคคลดังกล่าวภายใน 30 วัน

ทั้งนี้ ศาลได้วินิจฉัยในประเด็นที่ว่า คำฟ้องดังกล่าวเป็นคำฟ้องที่ศาลรับไว้พิจารณาได้หรือไม่

ศาลพิเคราะห์ว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดี (รฟท.) ได้มีหนังสือ ที่ รฟ 1/2604/2562 ลงวันที่ 19 พ.ย.2562 ถึงผู้ถูกฟ้องคดี (นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร) และหนังสือ ที่ รฟ 1/2605/2562 ลงวันที่ 19 พ.ย.2562 ถึงอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.2533 ซึ่งเป็นวันรับจดทะเบียนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน

ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดี โดยอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีหนังสือ ที่ พณ 0805/2904 ลงวันที่ 9 ธ.ค.2562 แจ้งปฏิเสธคำขอของผู้ฟ้องคดี โดยระบุว่า บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้รับสัมปทานเดินรถไฟชุมชนและทางด่วนยกระดับสำหรับรถยนต์ ตามผลการเจรจากับบริษัท Hopewell holding Ltd. (Hong kong) เป็นบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยโดยได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไทยเป็นการเฉพาะกาล

ดังนั้น บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงสามารถประกอบธุรกิจตามที่ได้รับสัมปทานในประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 ดังนั้น การพิจารณารับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2533 และการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2533 จึงเป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบและปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแล้ว

ต่อมาผู้ฟ้องคดี (รฟท.) ได้ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการรับจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.2533 ซึ่งเป็นวันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยมิชอบด้วยกฎหมาย นั้น

ศาลเห็นว่า กรณีเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้ที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542

แต่การที่จะพิจารณาว่า คำสั่งรับจดทะเบียนบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ของผู้ถูกฟ้องคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ประการใด ย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อความเกี่ยวพันระหว่างบรรดาบุคคลผู้เป็นกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นขอบริษัทดังกล่าว

แม้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีจะมีอำนาจเพิกถอนการจดทะเบียนนั้นเอง อันเป็นการใช้อำนาจทางปกครองตามกฎหมายได้ก็ตาม แต่เนื่องจากการตั้งอยู่หรือการสิ้นไปของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ฟ้องคดี (รฟท.) ในฐานะบุคคลภายนอกผู้เข้าทำสัญญาสัมปทานกับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

เพราะหากผู้ฟ้องคดีเห็นว่า บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีสภาพบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่อาจเข้าทำสัญญาสัมปทานกับผู้ฟ้องคดีได้ ผู้ฟ้องคดีก็ชอบที่จะตรวจสอบเรื่องความสามารถของคู่สัญญาก่อนลงนามในสัญญาสัมปทานกับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือปฏิเสธการเข้าทำสัญญาดังกล่าวได้ตั้งแต่เริ่มแรก

หรือหากผู้ฟ้องคดีเห็นว่า บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ถูกห้ามตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 มิให้ประกอบกิจการรถไฟยกระดับอันเป็นโครงการที่ครม.มีมติมอบให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินการ เพราะกิจการรถไฟยกระดับก็คือ “กิจการขนส่งทางบก” ที่ห้ามมิให้คนต่างด้าวและนิติบุคคลต่างด้าวประกอบกิจการตามบัญชี ข. ท้ายประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 ก็เป็นเรื่องของบริษัทในการดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ของบริษัท อันมิใช่เหตุที่ผู้ถูกฟ้องคดีอาจมีคำสั่งให้เพิกถอนการรับจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยแต่อย่างใด

การที่ผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องคดีนี้ เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการรับจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเหตไทย) จำกัด โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.2533 ซึ่งเป็นวันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จึงไม่มีผลเป็นแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนหรือเสียหาย อันเนื่องมาจากการที่ผู้ฟ้องคดีต้องเข้าทำสัญญาสัมปทานกับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากผู้ฟ้องคดีสามารถหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นเป็นข้อต่อสู้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ในข้อพิพาทที่เข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการหรือศาลปกครองได้อยู่ก่อนแล้ว

ผู้ฟ้องคดีไม่อาจอ้างได้ว่าการรับจดทะเบียนดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีต้องถูกบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 64/2551 และคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.221-223/2562 ที่ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติตามคำขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลได้มีคำพิพากษาและคดีถึงที่สุดไปแล้ว

แม้ได้ความว่า ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ที่ หนังสือ ที่ รฟ 1/2604/2562 ลงวันที่ 19 พ.ย.2562 ถึงผู้ถูกฟ้องคดี (นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร) และหนังสือ ที่ รฟ 1/2605/2562 ลงวันที่ 19 พ.ย.2562 ถึงอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการรับจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.2533 ซึ่งเป็นวันรับจดทะเบียนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดี โดยอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีหนังสือ ที่ พณ 0805/2904 ลงวันที่ 9 ธ.ค.2562 แจ้งปฏิเสธคำขอของผู้ฟ้องคดี

ก็ไม่มีผลทำให้ผู้ฟ้องคดีต้องเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือเสียหายที่จะมีสิทธิฟ้องคดี เพื่อขอให้ศาลมีพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการรับจดทะเบียนบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 แต่อย่างใด

“จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ” คำสั่งศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ 1721/2563 ระบุ

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำหนังสือผู้อำนวยการสำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครอง โดยโต้แย้งกระทรวงคมนาคมและรฟท.ที่จงใจไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งมีคำพิพากษาให้ทั้งสองหน่วยงานปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในการชดเชยค่าเสียหายให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 2.4 หมื่นล้านบาท

หลังจากเมื่อวันที่ 11 ก.ย. และ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม และรฟท. มีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครอง แจ้งความความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีโอปเวลล์ ว่า การเจรจาเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ต้องชำระให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังไม่ได้ข้อยุติ และจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ ไม่ชอบด้วยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 จึงมีผลเป็นโมฆะ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 30/10/2020 6:00 pm    Post subject: Reply with quote

ตั้งแต่วันที่ 6-13 ธันวาคม 2563 การรถไฟฯ จำเป็นต้องปิดเส้นทางการเดินรถ ระหว่างสถานีเชียกราก-รังสิต-ดอนเมือง เหลือเพียงทางเดียว เพื่อทำการเชื่อมทางรถไฟเส้นทางหลักเข้ากับเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง อาจส่งผลให้ขบวนรถในเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือล่าช้า
การรถไฟฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวก และขอให้ผู้โดยสารทุกท่านตรวจสอบกำหนดเวลาเดินรถก่อนเดินทางทุกครั้งที่ CALL CENTER 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
การรถไฟฯ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อความสุขของคนไทยทุกคน
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/4009574462390728
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 04/11/2020 3:11 pm    Post subject: Reply with quote

ศักดิ์สยามยันเดินหน้าสู้คดี โฮปเวลล์
สำนักข่าวไทย
วันพุธ ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 10:45 น.
รมว.คมนาคม ยันเดินหน้าสู้คดีถึงที่สุด หลังโฮปเวลล์ทวงหนี้ 2.5 หมื่นลบ.

ข่าวการเมือง —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
วันพุธ ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 10:21 น.

ทำเนียบฯ 4 พ.ย.- “ศักดิ์สยาม” ระบุ กรณีโฮปเวลล์ ส่งจดหมายทวงหนี้ 2.5 หมื่นล้านบาท จะเดินหน้าสู้คดีถึงที่สุดเพื่อรักษาผลประโยชน์ชาติ เผยให้นายกฯ ลงนามตั้งกรรมการสอบหาผู้ทำให้รัฐเสียหาย



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งหนังสือ 4 ฉบับ ขอให้กระทรวงคมนาคม ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ต้องจ่ายค่าเสียหาย จำนวน 2 หมื่น 5 พันล้านบาท ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งได้ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และศาลปกครองเพื่อวินิจฉัย เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลปกครองชั้นต้น ทางกระทรวงได้ทำเรื่องยื่นอุทธรณ์ เพราะการรื้อฟื้นคดีถือเป็นข้อมูลใหม่ คือเรื่องความไม่ชอบตามวัตถุประสงค์ของบริษัท ขณะที่เรื่องเดิมคือเรื่องของอายุความ

ส่วนกรณีที่โฮปเวลล์ เตรียมขอบังคับคดีหากไม่ดำเนินการภายใน 15 วันนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทางกระทรวงคมนาคม ก็กำลังดำเนินการตามกระบวนการเช่นกัน และขอให้มีการบังคับคดีด้วย เพราะว่าต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นคนที่ตัดสินใจก็ต้องเป็นผู้ต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีหากรัฐเกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงต้องรักษาผลประโยชน์ให้มากที่สุด และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นเรื่องให้นายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้กระทำผิดที่ทำให้เกิดความเสียหาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างนายกรัฐมนตรีพิจารณา.-
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 11/11/2020 1:42 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ปิดเบี่ยง ถ.วิภาวดีหน้า “ไอทีสแควร์” ย้ายสะพานลอยหลักสี่ สร้างสายสีแดง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 10:49 น.
รฟท.รื้อสะพานลอยหลักสี่ สร้างรถไฟสายสีแดง
เผยแพร่: 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 14:36:02 น.
รฟท.เดินหน้าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ – รังสิต เร่งรื้อย้ายสะพานลอยหลักสี่-ถนนวิภาวดี แนะประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง

รฟท.แจ้งปิดถนนวิภาวดีรังสิตช่วง 4 ทุ่ม-ตี 4 วันนี้-22 พ.ย. เพื่อรื้อย้ายสะพานลอยหลักสี่ รถไฟสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต แนะหลีกเลี่ยง

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ได้เตรียมดำเนินการรื้อย้ายสะพานลอยหลักสี่บริเวณหน้าศูนย์การค้าไอทีสแควร์ จึงมีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตชั่วคราวในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 22 พ.ย. 63 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• ฝั่งหน้าหมวดการทางหลักสี่

เริ่มปิดช่องทางคู่ขนานฝั่งขาเข้า จำนวน 5 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 200 เมตร โดยผู้ขับขี่บนทางคู่ขนานฝั่งขาเข้าต้องเบี่ยงรถไปวิ่งช่องทางหลักทั้งหมด

จากนั้นจึงเปลี่ยนมาปิดช่องทางคู่ขนานฝั่งขาเข้า จำนวน 3 ช่องจราจร และช่องทางหลักฝั่งขาเข้าทั้งหมด ระยะทางประมาณ 200 เมตร โดยผู้ขับขี่รถบนทางหลักฝั่งขาเข้าให้เบี่ยงรถไปวิ่งช่องทางคู่ขนานทั้งหมด และช่วงสุดท้ายเปลี่ยนมาปิดช่องทางคู่ขนานฝั่งขาเข้า จำนวน 2 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 100 เมตร

• ฝั่งหน้าศูนย์การค้าไอทีสแควร์

เริ่มจากปิดช่องทางคู่ขนานฝั่งขาออก จำนวน 3 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 200 เมตร โดยผู้ขับขี่บนทางคู่ขนานฝั่งขาออกให้เบี่ยงรถไปวิ่งช่องทางหลักทั้งหมด

และช่วงสุดท้ายจึงเปลี่ยนมาปิดช่องทางคู่ขนานฝั่งขาออก จำนวน 2 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 100 เมตร

ทั้งนี้ รฟท.จะติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์งานก่อสร้างเพื่อให้ผู้ขับขี่ลดความเร็ว ป้ายบอกทางเลี่ยง และป้ายแจ้งเปลี่ยงช่องจราจรล่วงหน้าให้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เช่น กั้นบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน ติดตั้งตาข่ายป้องกันของตกจากที่สูง มีพนักงานที่ผ่านการอบรม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่ เป็นต้น

รฟท.จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สําหรับประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถ
เข้าไปดูรายละเอียดการดำเนินงานได้ที่ศูนย์ข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียนของโครงการ สำนักงานโครงการ โทร. 0-2159-8440-43 หรือ www.bangsue-rangsitredline.com


Last edited by Wisarut on 12/11/2020 11:00 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 11/11/2020 5:59 pm    Post subject: Reply with quote

"รถไฟ"จ่อฟ้องบขส.ชงบอร์ดให้"แอร์พอร์ตลิงก์"เดินรถสายสีแดง
พุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 17.57 น.
รฟท. ทวงหนี้ บขส. ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าหมอชิต 2 กว่า 10 ปี รวมหลายร้อยล้าน หากยังดื้อเตรียมฟ้องส่งอัยการ-ไม่ต่อสัญญาเช่า 5 ปี เตรียมชงบอร์ดรถไฟ 12 พ.ย.นี้ ไฟเขียวให้ “แอร์พอร์ตลิงก์” เดินรถไฟสายสีแดง

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. วันที่ 12 พ.ย.นี้ รฟท.จะเสนอเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดิน รฟท. ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่บริเวณย่านพหลโยธิน(ริมถนนกำแพงเพชร2) หรือหมอชิต 2 ให้ที่ประชุมพิจารณา เนื่องจากที่ผ่านมา รฟท. และ บขส. มีข้อพิพาทระหว่างกันกรณีที่ บขส.ในฐานะผู้เช่า และ รฟท. ในฐานะผู้ให้เช่า ไม่ยอมรับอัตราค่าเช่าที่ดินของแต่ละฝ่ายตั้งแต่ปี 48 โดย บขส. ยืนยันจะจ่ายค่าเช่าในอัตราเดิมคงที่ปีละ21 ล้านบาท ขณะที่ รฟท. มีการปรับเพิ่มขึ้นค่าเช่าทุกปีในอัตรา 5% ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมา รฟท. เกิดความเสียหาย ต้องขาดรายได้จากค่าเช่าที่ดินหมอชิต 2 รวมเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท ในขณะที่องค์กรประสบภาวะขาดทุน ส่วน บขส.ยังมีกำไรจากการดำเนินงานต่อเนื่อง



รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งต่อว่า บขส. และ รฟท. มีข้อพิพาทกันมานาน แต่ยังหาทางออกไม่ได้ จึงจะเสนอให้บอร์ด รฟท. พิจารณาตัดสินทางออกที่เหมาะสมว่าจะเห็นชอบกับอัตราค่าเช่าของ รฟท. หรือไม่ หากเห็นชอบจะแจ้งมติให้กระทรวงคมนาคมรับทราบ พร้อมทั้งทำหนังสือแจ้งให้ บขส. รับตามเงื่อนไข ทั้งนี้หาก บขส. ไม่ตอบรับตามเงื่อนไข รฟท.จำเป็นต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องคดีต่อไป นอกจากนี้หาก บขส. ยืนยันจะไม่จ่ายค่าเช่าตามที่ปรับขึ้น รฟท. เสนอ อาจส่งผลต่อการพิจารณาต่ออายุ
สัญญาเช่าที่ดินบริเวณหมอชิต 2 เนื่องจากเป็นผลประโยชน์ตอบแทนที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง ซึ่งล่าสุด บขส. ได้หารือเตรียมเสนอขอต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินหมอชิตอีก 5 ปี คือปี 64-68 จนกว่าจะก่อสร้างและมีสถานีขนส่งหมอชิตแห่งใหม่ ดังนั้นหาก บขส. ไม่ยอมรับภาระหนี้สินค่าเช่าที่ค้างจ่ายหลายร้อยล้านบาท รฟท. ก็อาจไม่อนุมัติให้ต่อสัญญาเช่า


รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งด้วยว่า ในการประชุมบอร์ด รฟท. ครั้งนี้ จะมีการเสนอให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติจัดทำบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมแนบท้ายสัญญาจ้างบริหารการเดินรถไฟฟ้าระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารสารอากาศยานในเมือง ให้บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เป็นผู้เดินรถ โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชันด้วย.

ชงบอร์ดรถไฟ 12 พ.ย.ให้ “แอร์พอร์ตลิงก์” เดินรถสีแดง
*ลุยทวงหนี้ บขส. ค้างค่าเช่าหลายร้อยล้าน
*หากยังดื้อฟ้องอัยการฯ-ไม่ต่อสัญญา 5 ปี
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2763677487187085
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/11/2020 1:38 pm    Post subject: Reply with quote

ขุมพลังงานแห่งการขับเคลื่อนรถไฟชานเมืองสายสีแดง การเดินทางเส้นใหม่ใจกลางมหานคร
ไทยรัฐกรอบบ่าย 13 พ.ย. 63

Click on the image for full size
https://hosting.photobucket.com/images/ll8/Mongwin/C_201113039108.png
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 89, 90, 91 ... 147, 148, 149  Next
Page 90 of 149

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©