RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179773
ทั้งหมด:13491005
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - โครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

โครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 21, 22, 23 ... 25, 26, 27  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/11/2020 11:57 am    Post subject: Reply with quote

ทุนฝรั่งเศสเล็งPPPรถไฟฟ้า-ทางด่วน-MedHubจ.ภูเก็ต
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

นักลงทุนฝรั่งเศสตั้งแท่นรอลงทุน 3 โครงการยักษ์ PPP จังหวัดภูเก็ต "รถไฟรางเบา ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง และ Medical Hub" หลังกงสุลฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และคณะ ยกคณะพบรองผู้ว่าฯภูเก็ต เผยสนใจติดตามโครงการพัฒนาภูเก็ต เตรียมนำนักลงทุนเข้าร่วมลงทุนที่ภูเก็ต

นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีสัญจรภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 ได้เห็นชอบในหลักการโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของ จ.ภูเก็ตหลายโครงการให้ดำเนินการในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP net cost ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ 2556 ได้แก่ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย มูลค่า 30,000 ล้านบาท, โครงการทางพิเศษกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ตของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระยะทาง 3.98 กม. วงเงิน 14,100 ล้านบาท, โครงการ ยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก หรือ Medical Hub ของ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต วงเงิน 2,967 ล้านบาท ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณารายละเอียดเพื่อดูว่า งานส่วนใดภาครัฐดำเนินการ อยู่ระหว่างพิจารณาของบประมาณ และจะเปิด ให้เอกชนเข้ามาดำเนินการในส่วนไหนต่อไป

"โครงการดังกล่าวทั้งหมดเป็นโครงการขนาดใหญ่ของภูเก็ต ทาง ครม.เห็นชอบในหลักการหมดแล้ว เพียงแต่ขั้นตอนอยู่ที่การเสนอรายละเอียดขอใช้เงิน ส่วนไหนจะเป็นโครงการที่ทำร่วมกัน คือ ภาครัฐ เอกชน ในรูปแบบ PPP"

นายพิเชษฐ์กล่าวต่อไปว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางคณะกงสุลฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้มาเข้าพบทางจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของ จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ต พร้อมกับติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ เพื่อ นำนักลงทุนฝรั่งเศสมาร่วมลงทุน ในอนาคต

"ทางคณะกงสุลฝรั่งเศสมีความสนใจในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการระบบรถไฟฟ้ารางเบา, โครงการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) ที่สะพาน ท่าเทียบเรืออ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ซึ่งเป็นท่าเรือเฟอรี่อ่าวปอ และโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ โดยรอความคืบหน้าจากทางจังหวัดภูเก็ต หากเปิดให้เอกชนเข้าดำเนินการ พร้อมนำนักลงทุนฝรั่งเศสเข้ามาลงทุน"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 30/11/2020 8:40 pm    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” เข้าใจประชาชนถล่มยับดับฝัน!! "แทรมภูเก็ต"
*ยังรอรายละเอียดสนองนี๊ดเปลี่ยนรถไฟฟ้าเป็นบีอาร์ที
*รฟม.ไม่เสียเซลฟ์แท้งโปรเจกท์แรกแจ้งเกิดได้อีก3จว.
*ดันเต็มที่ทางด่วนสายปฐมฤกษ์ของภูธร"กะทู้-ป่าตอง"
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2780506652170835
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 11/12/2020 1:50 am    Post subject: Reply with quote

ภูเก็ตแจงความคืบหน้า 2 โครงการใหญ่แก้จราจร
เศรษฐกิจภูมิภาค
วันที่ 10 ธันวาคม 2563 - 16:30 น.

สนข.ร่วมกับ รฟม.แจงความคืบหน้ารถไฟฟ้ารางเบา คาดเปิดใช้งานปี’69 ส่วนโครงการพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง คาดเปิดใช้ปี’70 ช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัด

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 1/2563 ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาโครงการสำคัญหลากหลายโครงการ และมีการชี้แจงความคืบหน้า 2 โครงการหลัก ๆ คือ โครงการรถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดภูเก็ต และโครงการทางพิเศษกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดภูเก็ต มีผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และผู้แทนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ชี้แจงความคืบหน้าว่า

ขณะนี้ทาง รฟม.ได้รับผลการศึกษาและงานออกแบบที่ สนข.ดำเนินการเสร็จแล้ว โดยมีการปรับปรุงรูปแบบให้สอดรับกับสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผู้ร่วมลงทุน

โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพอำนวยความสะดวกให้เกิดความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นเมืองต้นแบบ smart city โดยโครงการรถไฟฟ้ารางเบามีระยะทาง 58.8 กิโลเมตร รวมทั้งหมด 24 สถานี



แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จากท่าอากาศยานภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กิโลเมตร จำนวนสถานี 21 สถานี ระยะที่ 2 จากบ้านท่านุ่นถึงบ้านเมืองใหม่ ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร จำนวนสถานี 3 สถานี

ทั้งนี้ รฟม. ได้ศึกษาวิเคราะห์ให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐปี 2562 แล้ว จะต้องนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบในรูปแบบที่ศึกษาไว้ ซึ่งภายในปี 2564 จะได้เริ่มคัดเลือกผู้ร่วมลงทุน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 และแล้วเสร็จใช้งานได้ปี 2569

ส่วนโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชี้แจงความคืบหน้าว่า หลังจากที่เทศบาลเมืองป่าตองได้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการดังกล่าวแล้ว ทาง กทพ.ได้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดพร้อมจัดทำรายงาน PPP และส่งรายงาน EIA ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา

โดยผ่านการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จำนวน 9 ครั้ง ล่าสุดกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าเรียบร้อยแล้ว โดยทาง กทพ.จะได้ดำเนินการตามขั้นตอน PPP คาดว่าจะสามารถนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

เพื่ออนุมัติให้ กทพ.ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ภายในปี 2565 ภายหลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนจะได้ดำเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ในปี 2570

สำหรับโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มีระยะทาง 3.98 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ตำบลป่าตอง บริเวณถนนพระเมตตา เป็นทางยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์จนถึงเขานาคเกิดระยะทาง 0.9 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นอุโมงค์ ระยะทาง 1.85 กิโลเมตร

ต่อด้วยทางยกระดับ ระยะทาง 1.23 กิโลเมตร สิ้นสุดโครงการที่ตำบลกะทู้บริเวณจุดตัดกับทางหลวงหมายเลข 4029 หากโครงการนี้แล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 01/02/2021 10:56 pm    Post subject: Reply with quote

ประวิตร เคาะสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 “อนุพงษ์” ฉะค่ารถเมล์เหมา 30 บาทไม่ตอบโจทย์รากหญ้า
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 - 19:07 น.

“ประวิตร” เคาะสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 “อนุพงษ์” ฉะคมนาคมค่ารถเมล์เหมา 30 บาท ตอบโจทย์ประชาชนหรือไม่




ขอ 1 เดือน จบปม “แทรมภูเก็ต”
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อไปว่า ด้านโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กม. วงเงิน 35,201 ล้านบาท ได้รายงานในที่ประชุมทราบว่า หลังจากที่เสนอไอเดียเปลี่ยนจากระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Tram) เป็นระบบรถโดยสารด่วนพิเศษระบบไฟฟ้า (ART) โดยใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนนั้น ส่วนท้องถิ่นของ จ.ภูเก็ต ได้คัดค้านแนวคิดดังกล่าว โดยเรียกร้องให้กลับไปใช้ Tram เหมือนเดิม

ดังนั้น จึงขอให้ท้องถิ่นมาคุยกัน เพราะโครงการนี้เป็น PPP หากลงทุนแบบ Tram จะทำให้ภาระการลงทุนไปตกกับประชาชนมากเกินไป และจะทำให้ค่าโดยสารแพงตามมาด้วย จึงให้ สนข.และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปคุยกับท้องถิ่นของ จ.ภูเก็ตให้จบใน 1 เดือน

“สิ่งที่จะคุยกันมี 2 เรื่อง 1. ค่าโดยสาร เพราะต้นทุนของทั้ง 2 แบบต่างกัน Tram วงเงินรวมอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท ส่วน ART วงเงิน 17,000 ล้านบาท ถ้าท้องถิ่นยืนยันว่าจะเอา Tram และรับได้กับค่าโดยสาร ก็พร้อมจะสนับสนุน และ 2.ผมบอกกับ รฟม.ไปว่า ART ควรร่นระยะเวลาศึกษาให้สั้นลงมา เพราะกำหนดที่วางไว้เปิดปี 2570 นานไป ถ้าเร่งเวลาศึกษาโดยตัดแนวเส้นทางอะไรออก เพราะผ่านหมดแล้วก็ไปทำแผนศึกษาใหม่มาเสนอ” นายศักดิ์สยามกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 10/02/2021 7:46 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคม สั่ง สนข. ทำแอคชั่นแพลนระบบขนส่งภูเก็ต เสนอภายใน 1 เดือน ปรับแผนสร้าง ถนน ก่อน แทรม
เศรษฐกิจ
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 16:06 น.
คมนาคม สั่ง สนข. ทำแอคชั่นแพลน ระบบขนส่งภูเก็ต เสนอภายใน1 เดือน – สั่งเร่งทำโครงข่ายถนนก่อนแทรม ป้องกับปัญหารถติดหนัก

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ช่วงสนามบินภูเก็ต – ห้าแยกฉลองวันนี้(10ก.พ.) ว่าได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กลับไปจัดทำแอคชั่นแพลนภาพรวมระบบขนส่งภายในจังหวัดภูเก็ตทั้งหมด และ นำกลับมาเสนอให้กระทรวงพิจารณาภายใน 1 เดือน ก่อนที่ รฟม.จะดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ช่วงสนามบินภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการบูรณาการโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดภายในจังหวัดภูเก็ต

เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงคมนาคม มีแผนที่จะพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในจังหวัดภูเก็ตหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงข่ายทางถนนคือโครงการทางพิเศษ(ทางด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) มทางหลวงแนวใหม่ สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว และ เกาะแก้ว-กะทู้ ของกรมทางหลวง( ทล. )


“จะต้องพัฒนาโครงการข่ายของ กทพ.และ ทล.ก่อน จึงจะเริ่มโครงการแทรมของ รฟม. เพราะแทรมจะต้องใช้พื้นที่ก่อสร้างบนถนน และหากไม่พัฒนาถนนให้เสร็จก่อน แล้วมาสร้างแทรม จะทำให้เกิดปัญหารถติดหนักในจังหวัดภูเก็ต ไม่มีทางเลี่ยงสำหรับการเดินทางให้กับประชาชน ซึ่งหลังจากนี้ สนข.จะกลับหารือกับ ทล.,รฟม.และ กพท. เพื่อจัดทำแอคชั่นแพลนและวางไทม์ไลน์การก่อสร้างให้เหมาะสม และนำกลับมาเสนอกระทรวงคมนาคม ภายใน 1 เดือน”

รายงานข่าวแจ้งว่าจากนโยบายดังกล่าวอาจทำให้โครงการแทรมของ รฟม. อาจต้องล่าช้าออกไปจากแผนเดิม เนื่องจากต้องรอให้โครงการก่อสร้างโครงข่ายทางถนนของ กทพ.และ ทล.ดำเนินการก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีโครงการใดเริ่มเปิดประมูล

แทรมภูเก็ตหลบไป!! ถนน-ทางด่วนต้องเกิดก่อน
*"คมนาคม” สั่งสนข.รื้อแอคชั่นแพลนทำใหม่
* เดินหน้าทางพิเศษกะทู้-ป่าตองตัดนิวไฮเวย์่
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2835880349966798
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2021 1:42 am    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” สั่งเร่งหาข้อยุติแทรมป์ภูเก็ต - กางต้นทุนรถโดยสารไฟฟ้าต่ำกว่าเท่าตัว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13:17 น.
ปรับปรุง: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13:17 น.




“ศักดิ์สยาม” ดันใช้ระบบรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า (ART) ที่ภูเก็ต ชี้ลงทุนน้อย กำหนดค่าโดยสารได้ถูก อนาคตผู้โดยสารเพิ่มค่อยขยายระบบ ดีกว่าลงทุนเกินความจำเป็น ด้าน รฟม.เตรียมหารือผู้ว่าฯ ภูเก็ตปลาย ก.พ.นี้ กางต้นทุน รถแทรมป์ 3.3-3.5 หมื่นล้าน ขณะที่ ART แค่ 1.7 หมื่นล้าน เร่งสร้างเปิดปี 70

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ว่าจากที่ได้มีข้อสั่งการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกในการใช้เทคโนโลยีรถไฟฟ้า เพิ่มเติมและพิจารณากรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการและทบทวนผลการศึกษาใหม่ เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลต่อการกำหนดค่าโดยสารที่ถูกลง นอกจากนี้ยังมีนโยบายในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนในภูมิภาคเป็นระบบล้อยางทั้งหมด เพราะต้องการประหยัดค่าลงทุน และทำให้ค่าโดยสารถูกที่สุด โดยหากในอนาคตปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจนเพียงพอและมีความเหมาะสมค่อยปรับรูปแบบไปรองรับได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการลงทุนมาเกินความจำเป็น และเป็นภาระแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ

แต่เนื่องจากมีข้อเสนอจากทางจังหวัดภูเก็ตที่ต้องการใช้รูปแบบแทรมป์ล้อเหล็กตามการศึกษาเดิม ดังนั้นจึงให้ รฟม.และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เร่งประชุมร่วมกับจังหวัดภูเก็ตในเรื่องต้นทุนและค่าโดยสาร ระหว่างรถแทรมป์ล้อเหล็ก ระบบ ART เพื่อให้ได้ข้อยุติใน 1 เดือน โดยเฉพาะกับระบบแทรมป์ว่าจะรับภาระได้แค่ไหน

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า อยู่ระหว่างประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คาดว่าจะสามารถประชุมร่วมกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องตามนโยบายได้ช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผลการศึกษาโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กม. มีจำนวน 21 สถานี เป็นสถานียกระดับ 1 สถานี สถานีใต้ดิน 1 สถานี และสถานีระดับดิน 19 สถานี โดยเปรียบเทียบกรอบวงเงินลงทุนของ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก (แทรมป์) วงเงินรวม 35,201 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,499 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 24,774 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,514 ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 2,921 ล้านบาท (3 คัน/ขบวน มี 22 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 1,065 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 1,428 ล้านบาท

2. รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง (แทรมป์) วงเงินรวม 33,600 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,499 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 22,339 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,514 ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 3,955 ล้านบาท (3 คัน/ขบวน มี 22 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 990 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 1,363 ล้านบาท

3. รถโดยสารประจำทางอัจฉริยะ (ART) วงเงินรวม 17,754 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,447 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 10,861 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,000 ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 1,236 ล้านบาท (มี 44 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 518 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 692 ล้านบาท

ขณะที่พบว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตลอดระยะ 30 ปี แทรมป์ล้อเหล็ก อยู่ที่ 25,839 ล้านบาท แทรมป์ล้อยางอยู่ที่ 28,026 ล้านบาท และ ART 25,580 ล้านบาท


X


สำหรับผลการศึกษาแนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุน หรือ PPP แทรมป์ล้อเหล็ก มีค่าลงทุนงานโยธา 26,809 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยระหว่างก่อสร้างและดอกเบี้ยระหว่างชำระคืน 10 ปี รวมเป็นเงินที่รัฐต้องชำระคืนค่างานโยธา 32,991 ล้านบาท, แทรมป์ล้อยาง มีค่าลงทุน 24,175 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยระหว่างก่อสร้างและดอกเบี้ยระหว่างชำระคืน 10 ปี รวมเป็นเงินที่รัฐต้องชำระคืนค่างานโยธา 29,770 ล้านบาท ส่วน ART มีค่าลงทุน 11,754 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยระหว่างก่อสร้างและดอกเบี้ยระหว่างชำระคืน 10 ปี รวมเป็นเงินที่รัฐต้องชำระคืนค่างานโยธา 14,490 ล้านบาท

ส่วนกรอบเวลาดำเนินงาน กรณีใช้แทรมป์ล้อเหล็กเหมือนเดิมจะเปิดประมูลใน ก.พ. 2565 และเปิดให้บริการใน ก.ค. 2569 กรณีใช้รายงาน PPP ใช้แทรมป์ล้อเหล็ก แต่กำหนด RFP เปิดกว้างให้เอกชนสามารถเสนอเป็น ART ได้ จะประมูลได้ใน ส.ค. 2565 แล้วเสร็จเปิดให้บริการ ม.ค. 2570 แต่หากศึกษาออกแบบระบบ ART ใหม่ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ ก.พ.2567 แล้วเสร็จเปิดให้บริการ ต.ค. 2570

//---------------------------------

งานเข้า “คมนาคม” สั่งเบรก แทรมภูเก็ต
เผยแพร่: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 16:26 น.

คมนาคม ถก สนข.เร่งทำแผนโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ตภายใน 1 เดือน ยันโครงการถนนต้องมาก่อน หวั่นเกิดปัญหารถติด

นายชยธรรม พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ช่วงสนามบินภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง (แทรม) ระยะทาง 42 กม.ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กลับไปจัดทำแอคชั่นแพลนโครงการขนส่งทุกระบบภายในจังหวัดภูเก็ต นำกลับมาเสนอให้กระทรวงพิจารณาภายใน 1 เดือน ก่อนที่ รฟม.จะดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ช่วงสนามบินภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการบูรณาการโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดภายในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงคมนาคม มีแผนที่จะพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในจังหวัดภูเก็ตหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงข่ายทางถนนคือโครงการทางพิเศษ(ทางด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทางหลวงแนวใหม่ สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว และ เกาะแก้ว-กะทู้ ของกรมทางหลวง (ทล.)


“เรามองว่าโครงการก่อสร้างถนนต้องมาก่อน ต้องเร่งรัดให้มีการก่อสร้างโครงการถนนของ กทพ.และ ทล.ก่อน จึงจะเริ่มโครงการ แทรม เนื่องจากแทรมจะต้องใช้พื้นที่ก่อสร้างบนถนน และหากไม่พัฒนาถนนให้เสร็จก่อน แล้วมาสร้างแทรม จะทำให้เกิดปัญหารถติดหนักในจังหวัดภูเก็ต ไม่มีทางเลี่ยงสำหรับการเดินทางให้กับประชาชน ซึ่งหลังจากนี้ สนข.จะกลับหารือกับ ทล.,รฟม.และ กทพ.เพื่อจัดทำแอคชั่นแพลนและวางไทม์ไลน์การก่อสร้างให้เหมาะสม และนำกลับมาเสนอกระทรวงคมนาคม ภายใน 1 เดือน”
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า จากนโยบายดังกล่าวอาจทำให้โครงการของ รฟม. อาจต้องล่าช้าออกไปจากแผนเดิม เนื่องจากต้องรอให้โครงการก่อสร้างโครงข่ายทางถนนของ กทพ.และ ทล.ดำเนินการก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีโครงการใดเริ่มเปิดประมูล
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 15/03/2021 6:09 pm    Post subject: Reply with quote

ระบบขนส่งภูเก็ตยังไม่สรุป “ศักดิ์สยาม” สั่งศึกษาปริมาณผู้โดยสาร-ราคาเพิ่ม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันที่ 15 มีนาคม 2564 - 19:09
ปรับปรุง: วันที่ 15 มีนาคม 2564 - 19:09



ระบบขนส่งภูเก็ตไม่สะเด็ดน้ำ “ศักดิ์สยาม” ให้ศึกษาเพิ่มเติม 4 ข้อ ทั้งการใช้พื้นที่ ประเมินปริมาณผู้โดยสารและอัตราค่าโดยสารใหม่ และเทคนิคก่อสร้างใช้เวลาสั้นและกระทบจราจรน้อย เร่ง สนข.- รฟม.ประสานหน่วยงานและท้องถิ่น ตั้งเป้าเปิดบริการปี 2569

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาคโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ว่า จากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้นำเสนอการศึกษาเบื้องต้นโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง เรื่องของเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับโครงการฯ ดังกล่าว ซึ่งมี 3 รูปแบบ ได้แก่ รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง และระบบ ART (Autonomous Rapid Transit) และได้มีการนำเสนอต่อ คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) รับทราบเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 แล้วนั้น

ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้รับทราบและมีข้อสั่งการเพิ่มเติม 4 ข้อ คือ 1. มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาภาพรวมการบริหารการจราจรของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ โดยบูรณาการโครงการทั้งของกรมทางหลวง (ทล.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหาข้อสรุปการใช้พื้นที่ถนนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน ก่อนหารือกับจังหวัดภูเก็ตในรายละเอียดต่อไป

2. มอบหมายให้ สนข.ร่วมกับ กทพ.และ รฟม.ทบทวนการประมาณการปริมาณผู้โดยสารโครงการทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชนเป็นภาพรวมการประมาณการของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทั้งสองโครงการจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการตามที่คาดการณ์ไว้

3.ให้ รฟม.พิจารณาภาพรวมการคำนวณค่าโดยสารที่ รฟม.ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นในเบื้องต้นไว้แล้ว โดยจะต้องมีอัตราที่ไม่เป็นภาระแก่ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล ในขณะที่ต้องสามารถจูงใจให้เอกชนมาร่วมลงทุนได้

4. ในขั้นตอนการก่อสร้าง ให้ รฟม.พิจารณาใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร เนื่องจากตามแนวเส้นทางของโครงการฯ จะผ่านบริเวณที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่นอยู่แล้ว

กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ รฟม.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตฯ ต่อเนื่องจาก สนข. ซึ่ง รฟม.แบ่งการดำเนินงานโครงการฯ ออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง มีระยะทาง 41.7 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี และระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ ระยะทาง 16.8 กิโลเมตร



ทั้งนี้ รฟม.จะเริ่มดำเนินการในระยะที่ 1 ก่อน ซึ่งที่ผ่านมา รฟม.ได้ดำเนินการจัดงานสัมมนาทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) จำนวน 2 ครั้ง ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งได้ทบทวนผลการศึกษาเดิมของ สนข. และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงรูปแบบโครงการให้เป็นปัจจุบัน

สำหรับการศึกษาเบื้องต้น ART Tram มีกรอบลงทุนเบื้องต้น 19,912 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1,499 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 11,622 ล้านบาท ค่างานระบบรถไฟฟ้า 2,493 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 2,966 ล้านบาท (22 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้) ค่าที่ปรึกษาโครงการ 551 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 781 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2569

ขณะที่หากเปรียบเทียบกับระบบรถแทรมป์ล้อเหล็กจะมีค่าลงทุนรวม 30,134 ล้านบาท ส่วนแทรมป์ล้อยางมีค่าลงทุนประมาณ 28,593 ล้านบาท


“ศักดิ์สยาม” สั่งคิดใหม่ทำใหม่ “รถไฟฟ้าภูเก็ต”
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 16 มีนาคม 2564 - 11:55 น.

“ศักดิ์สยาม” สั่งคิดใหม่ทำใหม่ “แทรมภูเก็ต” ศึกษาใหม่ 4 ประเด็น “จราจร-ปริมาณผู้โดยสาร-การคำนวณค่าโดยสาร-เทคนิคการก่อสร้าง” ปักธงปี 69 ได้ใช้แน่

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมเรื่อง ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาค สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อดำเนินการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาค สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง

หลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้นำเสนอการศึกษาเบื้องต้นของเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับโครงการดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย 3 รูปแบบ คือ รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง และระบบ ART (Autonomous Rapid Transit) ให้แก่คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา

โดยที่ประชุมมีข้อสั่งการเพิ่มเติม 1.ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาภาพรวมการบริหารการจราจรของ จ.ภูเก็ตทั้งระบบ โดยบูรณาการโครงการทั้งของกรมทางหลวง (ทล.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหาข้อสรุปการใช้พื้นที่ ถ.ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน ก่อนหารือกับ จ.ภูเก็ตในรายละเอียด

2.ให้ สนข. ร่วมกับ กทพ. และ รฟม. ทบทวนการประมาณการปริมาณผู้โดยสารโครงการทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชน เป็นภาพรวมการประมาณการของ จ.ภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทั้งสองโครงการจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการตามที่คาดการณ์ไว้


3.ให้ รฟม.พิจารณาภาพรวมการคำนวณค่าโดยสารที่ รฟม. ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นในเบื้องต้นไว้แล้ว โดยจะต้องมีอัตราที่ไม่เป็นภาระกับประชาชนตามนโยบายรัฐบาล ในขณะที่ต้องสามารถจูงใจให้เอกชนมาร่วมลงทุนได้

4.ในขั้นตอนการก่อสร้าง ให้ รฟม.พิจารณาใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร เนื่องจากตามแนวเส้นทางของโครงการจะผ่านบริเวณที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่นอยู่แล้ว


สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตกระทรวงคมนาคมมอบให้ รฟม. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการ ต่อเนื่องจาก สนข. โดย รฟม. แบ่งการดำเนินงานโครงการฯ ออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง มีระยะทาง 41.7 กม. มีจำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี และระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ ระยะทาง 16.8 กม. ทั้งนี้ รฟม. จะเริ่มดำเนินการในระยะที่ 1 ก่อน

ซึ่งที่ผ่านมา รฟม.ได้จัดงานสัมมนาทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) จำนวนทั้งสิ้น 2 ครั้ง ในกรุงเทพฯ และ จ.ภูเก็ต รวมทั้งได้ทบทวนผลการศึกษาเดิมของ สนข. และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงรูปแบบโครงการให้เป็นปัจจุบัน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2569

“ศักดิ์สยาม”มอบโจทย์พัฒนาระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต
*สั่งทบทวนปริมาณผู้โดยสาร-ค่าโดยสาร
*รฟม.ลุยเฟสแรก 41.7 กม.เปิดแน่ๆปี 69
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2859792964242203
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 17/03/2021 5:44 pm    Post subject: Reply with quote

"คมนาคม" สั่งทบทวนค่าโดยสารแทรมภูเก็ต ผุดโมเดล 3 รูปแบบ
วันที่ 15 มีนาคม 2564 - 18:24 น.

"คมนาคม" เดินหน้าสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาค่าโดยสารแทรมภูเก็ต เผยโมเดล 3 รูปแบบ เร่งก่อสร้างใช้เวลาน้อยที่สุด หวั่นกระทบการจราจรติดขัด คาดเปิดให้บริการปี 2569

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาค สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ด้วย Application “Zoom” โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจ ด้านการขนส่ง นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อดำเนินการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาค สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ภายหลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้นำเสนอการศึกษาเบื้องต้นของเทคโนโลยีรถไฟฟ้า




สำหรับโครงการฯ ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย 3 รูปแบบคือ รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็กรถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง และระบบ ART (Autonomous Rapid Transit) ให้แก่คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้รับทราบเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้รับทราบ และมีข้อสั่งการเพิ่มเติม ดังนี้1. มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาภาพรวมการ บริหารการจราจรของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ โดยบูรณาการโครงการทั้งของกรมทางหลวง (ทล.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหาข้อสรุปการใช้พื้นที่ถนนของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน ก่อนหารือกับจังหวัดภูเก็ตในรายละเอียด2. มอบหมายให้ สนข. ร่วมกับ กทพ. และ รฟม. ทบทวนการประมาณการปริมาณผู้โดยสารโครงการ ทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชน เป็นภาพรวมการประมาณการของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ทั้งสองโครงการจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการตามที่คาดการณ์ไว้3. ให้ รฟม. พิจารณาภาพรวมการคำนวณค่าโดยสาร ที่ รฟม. ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็น ในเบื้องต้นไว้แล้ว โดยจะต้องมีอัตราที่ไม่เป็นภาระกับประชาชนตามนโยบายรัฐบาล ในขณะที่ต้องสามารถ จูงใจให้เอกชนมาร่วมลงทุนได้4. ในขั้นตอนการก่อสร้าง ให้ รฟม. พิจารณาใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร เนื่องจากตามแนวเส้นทางของโครงการฯ จะผ่านบริเวณที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่นอยู่แล้ว
ทั้งนี้โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตฯ กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ รฟม. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการ ต่อเนื่องจาก สนข. โดย รฟม. แบ่งการดำเนินงานโครงการฯ ออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง มีระยะทาง 41.7 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี และระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น – เมืองใหม่ ระยะทาง 16.8 กิโลเมตร ทั้งนี้ รฟม. จะเริ่มดำเนินการในระยะที่ 1 ก่อน ที่ผ่านมา รฟม. ได้ดำเนินการจัดงานสัมมนาทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) จำนวนทั้งสิ้น 2 ครั้ง ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งได้ทบทวนผลการศึกษาเดิมของ สนข. และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงรูปแบบโครงการให้เป็นปัจจุบัน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2569

Wisarut wrote:
ระบบขนส่งภูเก็ตยังไม่สรุป “ศักดิ์สยาม” สั่งศึกษาปริมาณผู้โดยสาร-ราคาเพิ่ม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันที่ 15 มีนาคม 2564 - 19:09
ปรับปรุง: วันที่ 15 มีนาคม 2564 - 19:09

“ศักดิ์สยาม” สั่งคิดใหม่ทำใหม่ “รถไฟฟ้าภูเก็ต”
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 16 มีนาคม 2564 - 11:55 น.


“ศักดิ์สยาม”มอบโจทย์พัฒนาระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต
*สั่งทบทวนปริมาณผู้โดยสาร-ค่าโดยสาร
*รฟม.ลุยเฟสแรก 41.7 กม.เปิดแน่ๆปี 69
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2859792964242203
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 13/05/2021 10:05 pm    Post subject: Reply with quote

อัปเดตแทรมป์ภูเก็ตปรับเป็นรถเมล์ล้อยาง ART หั่นลงทุนเหลือ 1.5 หมื่นล้าน สร้างเร็ว-ผลกระทบน้อย
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2564 เวลา 23:44 น.
ปรับปรุง: พฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2564 เวลา 23:44 น.



อัปเดตระบบขนส่งภูเก็ตปรับแทรมป์เป็นรถโดยสารไฟฟ้าล้อยาง (ART) ชี้ลดค่าลงทุนเหลือ 1.5 หมื่นล้าน สร้างเร็วขึ้น 9 เดือน อัตราค่าโดยสารถูก ส่วนทางด่วนกระทู้-ป่าตองเดินตามแผน “ศักดิ์สยาม” สั่งทำไทม์ไลน์เทียบสร้างทางด่วนก่อนหรือทำพร้อม ART เปิดฟังเสียงประชาชนก่อนตัดสินใจ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตด้วย Application “Zoom” ว่า ได้ติดตามผลการดำเนินการตามข้อสั่งการจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา ใน 3 ประเด็น คือ 1. การทบทวนการคาดการณ์การเดินทางและผู้โดยสารของจังหวัดภูเก็ต และแนวทางการบริหารการจราจรขณะก่อสร้างทั้งระบบ ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้บูรณาการความร่วมมือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการทบทวนการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารและการเดินทาง โดยได้ดำเนินการวิเคราะห์ภาพรวมการเดินทางของจังหวัดภูเก็ต และความสอดคล้องกับโครงการระบบขนส่งมวลชน และโครงการทางพิเศษ สรุปได้ว่ามีทางเลือกที่มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจและสังคม 2 ทางเลือก

โดยทางเลือกที่ 1 คือ ดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชน และโครงการทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง ตามแผนงานเดิมที่มีกำหนดการเปิดให้บริการในปี 2569 และปี 2571 ตามลำดับ ซึ่งมีข้อดีคือ โครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนงาน แต่ในระหว่างการก่อสร้างจะมีผลกระทบด้านการจราจรมาก

ทางเลือกที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างทางด่วนตามแผนงานเดิม (เปิดให้บริการปี 2571) แต่ชะลอแผนการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชน (กำหนดเปิดให้บริการปี 2573) เพื่อรอให้โครงการทางพิเศษบางส่วนเปิดให้บริการก่อน (กำหนดเปิดให้บริการปี 2571) ซึ่งกรณีนี้จะทำให้มีผลกระทบด้านการจราจรระหว่างการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนน้อย เนื่องจากประชาชนมีโครงการทางพิเศษเป็นทางเลือกในการเดินทาง

2. เรื่องความคืบหน้าการใช้พื้นที่ถนนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับดำเนินโครงการฯ นั้น รฟม.ได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่จากเทศบาลนครภูเก็ต และเทศบาลนครภูเก็ตได้มีหนังสือยินดีให้การสนับสนุนพื้นที่บริเวณถนนเทพกระษัตรีและถนนภูเก็ตแล้ว ส่วนการใช้พื้นที่ของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ได้มีการบูรณาการความร่วมมือในเบื้องต้นร่วมกันแล้ว และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยจะได้จัดทำรายละเอียดเพื่อให้ทั้งสองหน่วยงานพิจารณาอนุญาตต่อไป

3. แนวทางการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามนโยบายและรายละเอียดเทคนิคการก่อสร้างเพื่อลดผลกระทบ ซึ่ง รฟม.ได้พิจารณาทบทวนรูปแบบโครงการเป็นระบบ Automated Rapid Transit (ART) พบว่า จะทำให้กรอบวงเงินลงทุนโครงการลดลงประมาณ 15,289 ล้านบาท และลดระยะเวลาการก่อสร้างจากเดิม 9 เดือน ซึ่งผลจากต้นทุนที่ต่ำลงจะส่งผลให้ รฟม.สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงได้

ในเบื้องต้นมีแนวคิดจะกำหนดอัตราค่าโดยสาร โดยแบ่งเป็นการเดินทางในเขตเมืองภูเก็ต การเดินทางนอกเขตเมือง และการเดินทางระหว่างเขตเมือง สำหรับเทคนิคการก่อสร้างจะเลือกใช้วิธีการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุดเพื่อลดผลกระทบ เช่น การใช้คอนกรีตหล่อสำเร็จ และการใช้ Launching Gantry เป็นต้น

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ รฟม.และ กทพ.จัดทำแผนงานในรายละเอียดแผนปฏิบัติการ (Action Plan) และไทม์ไลน์ ทั้งสองทางเลือกที่นำเสนอภายใน 2 สัปดาห์ และเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลายลงแล้ว ให้ทั้งสองหน่วยงานลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 2 ทางเลือก โดยให้กำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ครบทุกกลุ่ม ก่อนสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาตัดสินใจต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม ให้ รฟม.คำนึงถึงประชาชนเป็นลำดับแรก และเนื่องจากเป็นโครงการแรกที่จะใช้เทคโนโลยี ART ให้นำข้อมูลโครงสร้างอัตราค่าโดยสารของโครงการ ART จากต่างประเทศประกอบการพิจารณาด้วย โดยจะต้องเป็นอัตราที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและต้องไม่เป็นภาระต่อประชาชน รวมถึงให้พิจารณาลดต้นทุนและระยะเวลาการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยพิจารณานำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีต้นทุนต่ำมาปรับใช้เพื่อให้สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารได้ต่ำที่สุด

ดับฝันสนิท!! ”แทรมภูเก็ต“เหลือแค่ARTรถบัสไฟฟ้าล้อยาง
*ศักดิ์สยามลดต้นทุน1.5หมื่นล้านสร้างเร็วขึ้น9เดือน
*สั่งรฟม.-กทพ.ทำแผน2ทางเลือกฟังเสียงประชาชน
*สร้างทางด่วนกะทู้-ป่าตองก่อนหรือทำพร้อมกันไป
*เก็บค่าโดยสาร 3โซน/ใน-นอกเมือง/ระหว่างเมือง
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2903124889909010
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 16/05/2021 12:39 am    Post subject: Reply with quote

เปิดสาเหตุ “คมนาคม” สั่งพับแผนแทรมภูเก็ต
หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
14 พฤษภาคม 2564 เวลา 20:45 น.

“คมนาคม” เบรกแทรมภูเก็ต สั่งรฟม.-กทพ.ทำแอคชั่นแพลน 2 ทางเลือก ด้านรฟม.ดันแผนรูปแบบใหม่ใช้รถเมล์ล้อยาง ART หวังประหยัดต้นทุนโครงการ 1.5 หมื่นล้าน คาดลดระยะเวลาก่อสร้าง 9 เดือน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาค สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ว่า เบื้องต้นที่ประชุมรายงานผลการพิจารณาแนวทางการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามนโยบายและรายละเอียดเทคนิคการก่อสร้างเพื่อลดผลกระทบ รฟม.ได้พิจารณาทบทวนรูปแบบโครงการเป็นรถเมล์ล้อยาง ระบบ Automated Rapid Transit (ART) พบว่า จะทำให้กรอบวงเงินลงทุนโครงการลดลงประมาณ 15,289 ล้านบาท และลดระยะเวลาการก่อสร้างจากเดิม 9 เดือน ซึ่งผลจากต้นทุนที่ต่ำลง จะส่งผลให้รฟม.สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงได้ โดยมีแนวคิดจะกำหนดอัตราค่าโดยสารโดยแบ่งเป็น การเดินทางในเขตเมืองภูเก็ต การเดินทางนอกเขตเมือง และการเดินทางระหว่างเขตเมือง สำหรับเทคนิคการก่อสร้างจะเลือกใช้วิธีการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุดเพื่อลดผลกระทบ เช่น การใช้คอนกรีตหล่อสำเร็จ และการใช้ Launching Gantry เป็นต้น
ADVERTISEMENT

ขณะเดียวกันสรุปได้ว่ามีทางเลือกที่มีความเหมาะสมทางเศรษฐกิจและสังคม 2 ทางเลือก ประกอบด้วย ทางเลือกที่ 1 ดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชน ที่มีกำหนดการเปิดให้บริการในปี 2569 โดยกรณีนี้ มีข้อดีคือ โครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนงาน แต่ในระหว่างการก่อสร้างจะมีผลกระทบด้านการจราจรมาก ขณะที่ทางเลือกที่ 2ดำเนินการก่อสร้างทางพิเศษตามแผนงานเดิม ที่เปิดให้บริการปี 2571 แต่ชะลอแผนการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชน กำหนดเปิดให้บริการปี 2571 เพื่อรอให้โครงการทางพิเศษบางส่วนเปิดให้บริการก่อน กำหนดเปิดให้บริการ ปี 2571 ซึ่งกรณีนี้จะทำให้มีผลกระทบด้านการจราจรระหว่างการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนน้อย เนื่องจากประชาชนมีโครงการทางพิเศษ เป็นทางเลือกในการเดินทาง ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่จากเทศบาลนครภูเก็ต และเทศบาลนครภูเก็ตได้มีหนังสือยินดีให้การสนับสนุนพื้นที่บริเวณถนนเทพกษัตรีย์และถนนภูเก็ตแล้ว ส่วนการใช้พื้นที่ของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้มีการบูรณาการความร่วมมือในเบื้องต้นร่วมกันแล้ว และรฟม.จะได้จัดทำรายละเอียดเพื่อให้ทั้ง 2 หน่วยงานพิจารณาอนุญาต ต่อไป นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้มีข้อสั่งการให้รฟม.และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จัดทำแผนงานในรายละเอียด (Action Plan และ Timeline) สำหรับทั้ง 2 ทางเลือกที่นำเสนอไว้ ภายใน 2 สัปดาห์ และเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว ให้ทั้ง 2 หน่วยงานลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในประเด็นทางเลือกการดำเนินโครงการทั้ง 2 ทางเลือก ทั้งนี้ ให้กำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ครบทุกกลุ่ม ก่อนสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาตัดสินใจ ต่อไป อย่างไรก็ตามในการพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม ให้รฟม.คำนึงถึงประชาชนเป็นลำดับแรก และเนื่องจากเป็นโครงการแรกที่จะใช้เทคโนโลยี Automated Rapid Transit (ART) ให้การรถฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยคิดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารของโครงการ ART จากต่างประเทศ ประกอบการพิจารณาด้วย โดยจะต้องเป็นอัตราที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและต้องไม่เป็นภาระต่อประชาชน ทั้งนี้ ให้รฟม.พิจารณาลดต้นทุนและระยะเวลาการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยพิจารณานำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีต้นทุนต่ำมาปรับใช้ เพื่อให้สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารได้ต่ำที่สุด
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 21, 22, 23 ... 25, 26, 27  Next
Page 22 of 27

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©