Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181432
ทั้งหมด:13492670
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 50, 51, 52  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 01/03/2021 1:14 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมลุยโปรเจ็กต์แสนล้าน ”แลนด์บริดจ์” เชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย-EEC
ไฮไลท์ประชาชาติ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 - 12:09 น.

1 มีนาคมนี้ ”ศักดิ์สยาม”เป็นประธานจ้าง 6 บริษัทที่ปรึกษา นำโดยทีมกรุ๊ป วงเงิน 67.8 ล้าน เดินหน้าศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ ทำEIA โปรเจ็กต์แลนด์บริดจ์ ดึงเอกชนร่วม PPP กว่า 1 แสนล้าน สร้างท่าเรือน้ำลึกชุมพร ระนอง รถไฟทางคู่สายใหม่ ปลุกระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อม EEC

วันที่ 28 ก.พ.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 มี.ค. 2564 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะลงนามสัญญาจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ ,บจ.ดีเคด คอนซัลแตนท์,บจ.พีเอสเค คอนซัลแทนส์ ,บมจ. อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ,บจ.ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ และบจ.ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ วงเงินกว่า 67.8 ล้านบาท

เพื่อศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน

โดยบริษัทที่ปรึกษามีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2564 ถึงวันที่ 1 ก.ย. 2566 ภายในต้นปี 2565 จะออกแบบเบื้องต้นแล้วเสร็จ พร้อมกำหนดกรอบวงเงินลงทุน หลังจากนั้นจะเป็นการเตรียมเอกสารทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม( EIA) และเตรียมเอกสารสำหรับการประกวดราคา

จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนPPPทั้งโครงการ วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อลดภาระงบประมาณของรัฐบาล ประกอบด้วย สร้างท่าเรือน้ำลึกระนองและท่าเรือชุมพรแห่งใหม่ ,พัฒนาแลนด์บริดจ์เชื่อมท่าเรือชุมพรและระนอง โดยสร้างมอเตอร์เวย์ขนานไปกับรถไฟทางคู่สายใหมช่วงพานทอง-หนองปลาดุก และรถไฟทางคู่สายใหม่ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ตามแผนจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2566-2570


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ ที่กระทรวงคมนาคมกำลังเดินหน้าศึกษาโครงการ เป็นนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์และพัฒนาเมืองในภาคใต้ให้ต่อเชื่อมกับการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกที่กำลังเดินหน้าการพัมนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติงบประมาณสำหรับศึกษาโครงการให้แล้ว จำนวน 74.71 ล้านบาท


สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยขยายขีดความสามารถการพัฒนาทางเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ สามารถเชื่อมประเทศไทย อาเซียน จีน อินเดีย ตลอดจนเชื่อมโยงประเทศกลุ่มประเทศตะวันออกไกล เข้ากับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และสภาพยุโรปให้สะดวกยิ่งขึ้น



Mongwin wrote:
คมนาคมลุย'แลนด์บริดจ์' เชื่อมขนส่ง2ฝั่งทะเล'ระนอง-ชุมพร'
แนวหน้า ฉบับวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564


ลิงก์มาแล้วครับ: เริ่มแล้วแลนด์บริดจ์แสนล้าน! พลิกโฉมขนส่งทางน้ำโลก
*ทางลัดใหม่ฉิวขึ้น2วันแทนช่องแคบมะละกา
*จุดหัวเชื้อแล้ว68ล้านเร่งศึกษาย้ำว่าเกิดแน่ๆ
*ผูกมัด3โปรเจกท์ท่าเรือ+ทางคู่+มอเตอร์เวย์
*วางไทม์ไลน์สร้างปี67เสร็จปี69 ดันใต้โตพุ่ง
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2849620328592800
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 01/03/2021 7:18 pm    Post subject: Reply with quote

#Landbridge ระนอง-ชุมพร เส้นทางเชื่อม 2 มหาสมุทร
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
1 มีนาคม 2564 เวลา 19:20 น.

โอกาสใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) เพิ่มศักยภาพการแข่งขันระหว่างประเทศ
วันนี้เอาความคืบหน้า ของ Landbridge ระนอง-ชุมพร ซึ่งได้เซ็นสัญญาจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาในรายละเอียด และทำ EIA
ซึ่ง Landbridge นี้เป็นเส้นทางหลักของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ซึ่งรวมหลายๆโครงการ ได้แก่
- การพัฒนาท่าเรือระนองปัจจุบัน
- การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกระนองแห่งใหม่
- การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกชุมพร
- การพัฒนาร่องน้ำเข้าท่าเรือระนอง
- การก่อสร้างทางรถไฟเชื่อม ระนอง-ชุมพร
- ก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายใหม่ ระนอง-ชุมพร
ซึ่งทั้งหมดนี้ เพื่อก่อสร้าง Land Bridge หรือ สะพานเชื่อม 2 มหาสมุทร ทางบก เพื่อช่วยลดการเดินทางผ่านช่องแคบมะละกา และสิงคโปร์
คลิปประชาสัมพันธ์โครงการ
https://youtu.be/gBrnR8RZfwE
—————————
ก่อนหน้านี้ ผมเคยพูดเรื่อง โครงการ Landbridge ระนอง-ชุมพร นี้มาแล้วรอบนึง
จากที่เราทราบกันแล้ว ว่า ลาว-จีน กำลังทำ ทางรถไฟ จากจีนตอนใต้ มาถึง เวียงจันทน์ มาจบที่สถานีรถไฟ ท่านาแล้ง ตะวันออก ซึ่งเชื่อมกับสถานี ท่านาแล้ง เดิม ซึ่งเป็นศูนย์ขนถ่ายสินค้า (CY)
ดังนั้น เมื่อไหร่ที่ทางรถไฟ สายลาว-จีน เสร็จถึงท่านาแล้ง เราก็จะเชื่อมต่อกับระบบรถไฟของจีน ไปโดยปริยาย
ถ้าเราต่อกับระบบรถไฟจีนแล้ว สินค้าต่างๆ ที่ส่งมาจากจีนก็จะเชื่อมโยงเข้ากับระบบการขนส่งของเราต่อ ซึ่งตรงนี้แหละครับ เป็น ประเด็นสำคัญ ของทางรถไฟ สาย ชุมพร-ระนอง ซึ่งถ้าเสร็จ จะสามารถรับสินค้า จากท่านาแล้ง วิ่งยาวมาถึงท่าเรือ ระนอง และลงเรือที่ท่าเรือระนองได้
หลังจากสินค้า ลงที่ท่าเรือระนอง ก็สามารถ ขนสินค้า ไปที่ท่าเรือ Colombo หรือ ท่าเรือ มหินทรา ราชปักษา ของศรีลังกา ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญ ของโครงการ (belt and road initiative) ที่หลายๆ คนเคยได้ข่าวว่า โดนจีนบังคับเช่าท่าเรือ แทนการจ่ายหนี้ที่ไปกู้จีนมา
ดังนั้น น่าจะพอมองเห็นภาพ ความสำคัญ ของเส้นทางรถไฟ ชุมพร-ระนอง และ ท่าเรือ ระนองแล้วนะครับ
โพสต์เดิมเกี่ยวกับทางรถไฟสาย ระนอง-ชุมพร
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/704731489965333/?d=n
รายละเอียดขุดร่องน้ำระนองเพื่อเพิ่มศักยภาพท่าเรือระนอง
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/741482549623560/?d=n
—————————
ซึ่งในโครงการศึกษานี้ ได้ทำการศึกษารวมเป็นโครงการเดียวกัน ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ
ทางเรือ
- ท่าเรือชุมพรใหม่
- ท่าเรือระนองปัจจุบัน
- ท่าเรือระนองใหม่
- ลองร่องน้ำระนอง
ทางถนน
- มอเตอร์เวย์ระนอง-ชุมพร
ทางราง
- ทางรถไฟสายใหม่ ระนอง-ชุมพร
ทางท่อ
- ท่อส่งน้ำมันเชื่อม ระนอง-ชุมพร
ซึ่งส่วนถนน ระบบราง และทางท่อ จะอยู่ในเขตทางโครงข่ายเดียวกันตามแผน (MR-Map)
โดยในการลงทุนในหลายๆส่วนจะเป็น เอกชนร่วมลงทุนในหลายๆส่วนของโครงการ
—————————
รายละเอียดประชาสัมพันธ์โครงการ
ศักดิ์สยามสั่ง สนข. เดินหน้าพัฒนาโครงการ Land Bridge ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ สู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาค
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษา ความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 ณ ห้องราชดำเนิน อาคารสโมสรและหอประชุม กระทรวงคมนาคม
โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคมและสื่อมวลชน เข้าร่วมงานดังกล่าว
นายศักดิ์สยามฯ กล่าวว่า ปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศทางด้านมหาสมุทรอินเดีย ต้องเปลี่ยนถ่ายสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกผ่านช่องแคบมะละกา (สิงคโปร์) ซึ่งเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางที่อ้อมและมีระยะไกล การจราจรทางน้ำคับคั่ง มีความหนาแน่นของปริมาณเรือสูงถึง 100,000 ลำ/ปี และคาดว่าในปี 2567
การรองรับปริมาณเรือของช่องแคบมะละกาจะเต็มศักยภาพ โดยคาดการณ์ว่าปี 2593 ปริมาณเรือที่ผ่านจะมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่า
จึงได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษา ความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land bridge)
ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม โดยมีขอบเขตการศึกษา ประกอบด้วย
1.ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ การเงิน วิศวกรรม สังคม
2.ออกแบบรายละเอียดเบื้องต้นและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
3.จัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ
4.วิเคราะห์จัดทำรูปแบบการพัฒนาและการลงทุน
5.สร้างความเข้าใจ พร้อมรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านตลอดระยะเวลาดำเนินงาน
ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการศึกษาแล้วเสร็จภายในปี 2565
นายศักดิ์สยามฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการดังกล่าว กระทรวงคมนาคมจะบูรณาการรูปแบบการขนส่งเชื่อมโยง 2 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือระนองแห่งใหม่ และท่าเรือชุมพร
โดยออกแบบให้เป็นท่าเรือที่ทันสมัยหรือ Smart Port ควบคุมการบริหารจัดการด้วยระบบออโตเมชั่น
รวมทั้งการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) และรถไฟทางคู่ ตลอดจนวางระบบการขนส่งทางท่อ โดยทำการก่อสร้างไปพร้อมกันในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องตามแผนบูรณาการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเชื่อมต่อแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ (MR-MAP) ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินของภาคประชาชน
โดยประมาณการวงเงินลงทุนทั้งโครงการ ประมาณ 100,000 ล้านบาท
ซึ่งจะให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนกับภาครัฐในรูปแบบ PPP ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จ
จะสามารถลดระยะเวลาการขนส่งทางเรือลงได้ถึง 2 วัน ช่วยยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาค เปิดเส้นทางเดินเรือแห่งใหม่ของมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ช่วยสร้างโอกาส สร้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/03/2021 7:08 am    Post subject: Reply with quote

ปักธง'แลนด์บริดจ์'บูมศก-ใต้
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564

เอกชนแดนใต้หนุนแลนด์บริดจ์ แสนล้าน ดันสู่ประตูตะวันตกสนข.คาดเริ่มก่อสร้างในปี 67 เป้า 10 ปี ดันจีดีพี พื้นที่โต 10% ในปี 79 2.4 หมื่นล้านเป็น 1.2 แสนล้านบริษัทที่ปรึกษา ประชาพิจารณ์มี.ค.นี้

กระทรวงคมนาคมลงนามสัญญาจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้นประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้หรือแลนด์บริดจ์เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามันด้วยการพัฒนาท่าเรือระนองกับชุมพรเป็นท่าเรือทันสมัยเมื่อวันที่1มีนาคม2564 ที่ผ่านมา

โดยใช้เวลาศึกษา 30 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงนามสัญญา ทั้งนี้นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า โครงการนี้จะก่อสร้างภายในปี 2567 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี และเปิดให้บริการภายในปี 2569 หลังเปิดดำเนินการครบ 10 ปีคือในปี 2579 จะช่วยผลักดันมูลค่าจีดีพีภาคใต้เพิ่มขึ้นจาก 2.4 หมื่นล้านบาท เป็น 1.2 แสนล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือ จีดีพีภาคใต้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% ของจีดีพีภาพรวม เพราะเมื่อโครงการแล้วเสร็จ ช่วยลดเวลาขนส่งทางเรือลงถึง 2 วัน ยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาคเปิดเส้นทางเดินเรือแห่งใหม่มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทร แปซิฟิกส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนช่วยสร้างโอกาสสร้างงานสร้างรายได้มูลค่าโครงการกว่า 1แสนล้านบาท สำหรับการลงทุนเน้นรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนภาครัฐตามพระราชบัญญัติ (พรบ.) ร่วมลงทุน ปี2562 (PPP) ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มั่นใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์ จะได้รับความสนใจจากภาคเอกชน

นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง สะท้อนว่าโครงการแลนด์บริดจ์สอดรับกับแผนพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้(SEC) ที่จะให้จังหวัดระนองในอีก20 ปีข้างหน้า เป็นเมืองท่าสำคัญของโลกเป็นยุทธศาสตร์ที่ตรงกับความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง

โดยแผนงานการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ คือการพัฒนา 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตั้งเป้าให้จังหวัดระนองเป็นท่าเรือทางฝั่งตะวันตก เชื่อมเมียนมา อินเดีย ลังกา บังกลาเทศ ชุมพรเป็นเมืองการเกษตรและแหล่งท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่เกษตรและแปรรูปสินค้าเกษตร

ทั้งนี้ แลนด์บริดจ์ คือโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ข้ามคาบสมุทรระหว่างฝั่งอ่าวไทยที่ชุมพรกับฝั่งอันดามันที่ระนอง ที่จะมีท่าเรือที่ทันสมัยที่ปลายทั้ง 2 ด้าน เชื่อมโยงกันด้วยระบบรถไฟทางคู่และมอเตอร์เวย์ ซึ่งนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจ และประธานคณะอนุกรรมการวิเคราะห์และเสนอแนะมาตรการบริหารเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในระยะปานกลาง-ยาว ในศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) เสนอให้กระทรวงคมนาคมเดินหน้าศึกษาและก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่นี้ ซึ่งจะเป็นทางรถไฟสายแรกที่เชื่อมตอนในของประเทศเข้ากับท่าเรือฝั่งอันดามัน

นายไพบูลย์ ลิ้มเลิศวาที ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ทางหอการค้า ภาคเอกชน กลุ่มการเมืองท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ 80-90 % เห็นด้วยกับโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อเชื่อมท่าเรือ 2 ฝั่งทะเลระหว่างชุมพรกับระนอง ทั้งนี้ก่อนหน้านี้กรมเจ้าท่าเคยจ้างที่ปรึกษามาศึกษาและทำประชาพิจารณ์ ซึ่งชาวชุมพรผ่านความเห็นชอบให้การสนับสนุน ด้านอีไอเอก็ผ่าน โดยมีแผนจะก่อสร้างท่าเรือที่แหลมคอกวาง อ.เมืองชุมพร น้ำลึก 12-13 เมตรอยู่แล้ว แต่สุดท้ายถูกตีตกไปว่า ไม่คุ้มการลงทุน

ขณะที่บริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด (ยูเออี)หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาระบุว่า เนื่อง จากโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องสร้างท่าเรือ น้ำลึกที่มีความลึกราว 15 เมตร อีกทั้งต้อง ประเมินพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการสร้างท่าเรือ ขณะเดียวกันต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และภายในเดือนมีนาคมนี้ จะลงพื้นที่เปิดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 04/03/2021 10:44 am    Post subject: Reply with quote

จุดพลุ “แลนด์บริดจ์” แสนล้าน สะพานเศรษฐกิจเชื่อมภาคใต้-อีอีซี
เศรษฐกิจในประเทศ
วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 08:02 น.

หลังรัฐบาลประยุทธ์ขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หาเอกชนมาร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ได้ ทั้งรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ สนามบิน หวังปลุกความเชื่อมั่นนักลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ล่าสุดกำลังเดินหน้าอภิมหาโปรเจ็กต์เชื่อมพื้นที่ภาคใต้ EEC ผ่านท่าเรือระนอง ชุมพร แหลมฉบังเฟส 3 พร้อมหนุนการค้าไทยกับนานาชาติให้เติบโตยิ่ง ๆ ขึ้น
เปิดแนวเชื่อมโยงแหลมฉบัง

ในแผนงานมีหลายโครงการที่จะพัฒนา โดยเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP อาทิ โครงการเชื่อมระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท โครงการสะพานเชื่อมแหลมฉบังถึงเพชรบุรี วงเงิน 990,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่สายใหม่ พานทอง-หนองปลาดุก อีก 95,000 ล้านบาท

ปัจจุบันมีโครงการ “แลนด์บริดจ์” ที่กำลังเริ่มนับหนึ่ง โดยมี “กระทรวงคมนาคม” เป็นเจ้าภาพ หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 68 ล้านบาท ศึกษาโครงการเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2564 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เซ็นจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาแล้ว นำทีมโดย “บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์” เพื่อศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์โมเดลการลงทุน

“ประยุทธ์” ไฟเขียว 5 เรื่อง บูมลงทุน EEC รอฟังข่าวดียักษ์ใหญ่ 5G มาไทย


เร่งแลนด์บริดจ์แสนล้าน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการในแผนงานปี 2564 ที่กระทรวงคมนาคมจะต้องเดินหน้า หลังได้ที่ปรึกษาแล้ว จะใช้เวลาศึกษาโครงการ 30 เดือน นับจากวันที่ 2 มี.ค. 2564 ถึงวันที่ 1 ก.ย. 2566

การออกแบบเบื้องต้นและกรอบวงเงินจะแล้วเสร็จต้นปี 2565 จากนั้นจะเร่งสรุปผลศึกษาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปิดประมูลในปี 2565 คู่ขนานไปกับทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จะให้เอกชนทั้งไทยและต่างชาติร่วมลงทุน PPP เหมือนโครงการใน EEC

ทั้งโครงการจะใช้เงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท ประกอบด้วยการพัฒนาท่าเรือระนองแห่งใหม่ให้เป็นท่าเรือสินค้าคอนเทนเนอร์และเป็นประตูการค้าฝั่งอันดามันของประเทศ สามารถขนส่งสินค้าเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือรองกับท่าเรือกลุ่มประเทศในแถบเอเชีย หรือ BIMSTEC นำระบบออโตเมชั่นมาใช้และพัฒนาให้เป็นท่าเรือทันสมัย (smart port)

สร้างท่าเรือชุมพรให้เป็นท่าเรือน้ำลึกที่ทันสมัย ก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ขนานไปกับมอเตอร์เวย์ ระยะทาง 120 กม. จากชุมพร-ระนอง เชื่อม 2 ท่าเรืออย่างไร้รอยต่อ รวมถึงมีการขนส่งท่อน้ำมันที่กระทรวงจะศึกษาและให้กระทรวงพลังงานเป็นผู้ดำเนินการต่อไป

เปิด PPP ญี่ปุ่นสนใจ
“มีหลายประเทศสนใจโครงการ โดยเฉพาะเอกชนและรัฐบาลญี่ปุ่น เพราะมีฐานการลงทุนในไทยอยู่แล้ว เราจะเปิด PPP โครงการเดียว สัญญาเดียว จะเป็นแบบจอยต์เวนเจอร์กับเอกชนไทยก็ได้ เมื่อได้เอกชนลงทุน จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี”

นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า เมื่อมีโครงการแลนด์บริดจ์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องขุดคลองคอคอดกระ เพราะการขุดคลองถือเป็นสิ่งที่ล้าสมัยไปแล้วในปัจจุบัน ซึ่งการสร้างท่าเรือน้ำลึกที่ชุมพรและระนอง โดยมีระบบขนถ่ายสินค้าที่เป็นระบบออโตเมชั่น แล้วใช้แลนด์บริดจ์ โดยทำรถไฟทางคู่และมีมอเตอร์เวย์อยู่ด้านข้าง เชื่อมท่าเรือน้ำลึกฝั่งอันดามันกับอ่าวไทย จะใช้เวลาวิ่งไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทำให้ประหยัดเวลาได้

และการเดินหน้าโครงการนี้ ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยที่จะมีการพัฒนาท่าเรือ ทางรถไฟ มอเตอร์เวย์ เนื่องจากเป็นการสร้างและพัฒนาในจังหวัดและพื้นที่ข้างเคียง


โดยเฉพาะการหาพื้นที่สร้างท่าเรือใหม่ทั้ง 2 แห่ง จะมีการขยับออกจากจุดเดิม ทางบริษัทที่ปรึกษาจะต้องศึกษาความเหมาะสมให้จบก่อน ถึงจะรู้ตำแหน่ง หรืออีกแนวทางหนึ่ง อาจจะแค่ปรับปรุงท่าเรือเดิมให้เป็นท่าเรือน้ำลึกแทน

ลดเวลาขนส่ง 2 วัน
ปัจจุบันการขนส่งสินค้าของไทยกับกลุ่มประเทศแถบมหาสมุทรอินเดียต้องเปลี่ยนถ่ายสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกผ่านช่องแคบมะละกา ประเทศสิงคโปร์ เป็นเส้นทางที่อ้อมและไกล อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวมีการจราจรทางน้ำคับคั่ง โดยมีเรือหนาแน่นสูงถึง 100,000 ลำ/ปี และมีการประเมินว่าช่องแคบมะละกาจะมีศักยภาพรองรับเรือเต็มจำนวนในปี 2567

โดยคาดการณ์ว่าภายใน 30 ปี หรือในปี 2593 ปริมาณเรือจะเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่า หรือ 400,000 ลำ/ปี ดังนั้นการพัฒนาโครงการนี้จะเป็นการเปิดเส้นทางการคมนาคมที่ประหยัดต้นทุน เวลาการเดินทาง ลดการเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกาถึง 2 วัน

อีกทั้งโครงการนี้จะกระจายการพัฒนาไปสู่ภาคกลางและภาคใต้ เชื่อมกับ EEC ซึ่งการพัฒนาจะมีระยะเวลาใกล้เคียงกับ EEC ที่จะแล้วเสร็จในปี 2568 ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งทางน้ำของภูมิภาค ลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศได้ในอนาคต


PlayvolumeTruvid00:15Ad

รวมถึงทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในพื้นที่ภาคใต้จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 10% จากเดิม 2% ภายใน 10 ปีนับจากเปิดบริการ

หนุนไทยฮับอาเซียน
ด้าน นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการตามยุทธศาสตร์ชาติ และสนับสนุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ในพื้นที่ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่บนศูนย์กลางของกลุ่มประเทศอาเซียน มีชายฝั่งทะเลติดกับมหาสมุทร 2 ด้าน คือฝั่งอ่าวไทยด้านตะวันออกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ฝั่งอันดามันด้านตะวันตกติดกับมหาสมุทรอินเดีย มีความได้เปรียบทางที่ตั้งและภูมิศาสตร์ที่มีลักษณะทางกายภาพสามารถเปิดสู่ทะเลทั้งสองด้าน

จึงเป็นโอกาสที่จะได้ใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งดังกล่าวเพื่อนำมาพัฒนาเป็น “สะพานเศรษฐกิจ” ในการเชื่อมโยงฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน

และเป็นทางเลือกในการขนส่งสินค้าทางทะเลนอกเหนือจากเส้นทางการขนส่งสินค้าผ่านช่องแคบมะละกาในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยกับกลุ่มประเทศที่อยู่ทางด้านมหาสมุทรอินเดียในอนาคต

โครงการแลนด์บริดจ์ที่รัฐบาลประยุทธ์กำลังปัดฝุ่นเคยมีการริเริ่มโครงการมาแล้วในยุครัฐบาลทักษิณ จะใช้เงินลงทุน 1.5 ล้านล้าน ใกล้กับท่าเรือปากบารา จ.สตูล และ อ.จะนะ จ.สงขลา ต่อมาเมื่อปี 2551 กระทรวงคมนาคม MOU กับ “ดูไบ เวิลด์” ศึกษาความเหมาะสมพัฒนาท่าเรือระหว่างประเทศ 2 ฝั่งทะเล สะพานเศรษฐกิจระหว่างท่าเรือ ประกอบด้วย ถนน ทางรถไฟ ท่อส่งน้ำมัน เขตเศรษฐกิจพิเศษ ปลอดภาษี นิคมอุตสาหกรรม
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 30/06/2021 11:33 pm    Post subject: Reply with quote

แม้รถไฟสายปากบาราจะแท้ง เพราะท่าเรือปากบาราไม่ได้เกิด เด็ก มอ. ก็มีความคิดเรื่องทางรถไฟสายใหม่ไปสตูลดังวิทยานิพนธ์ต่อไปนี้ :

เรื่อง: การศึกษาระบบเส้นทางเดินรถไฟภาคใต้ตอนล่าง - การขยายบริการเข้าจังหวัดสตูล (Study of lower Southern railway lines-service extension to Satun Province) โดย ธีระ รุ่งโรจน์สุวรรณ วิทยานิพนธ์ (วศ.ม. (วิศวกรรมโยธา (การขนส่ง))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2548
https://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2553/2005
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/12/2021 8:52 am    Post subject: Reply with quote

"แลนด์บริดจ์" ชุมพร-ระนอง กับความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม
Dec 15, 2021
Thai PBS News

โครงการเชื่อมโยงชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการค้า ผ่านโครงการแลนด์บริดจ์ แม้จะยังไม่กำหนดจุดชัดเจน แต่กระทรวงคมนาคม มีพื้นที่ในใจแล้ว


https://www.youtube.com/watch?v=EH34J_lmJgk


เปรียบเทียบความคุ้มค่า แลนด์บริดจ์-คลองไทย
Dec 17, 2021
Thai PBS News


https://www.youtube.com/watch?v=2BCvmvFUWlE

แม้อาจจะปรับเปลี่ยนโครงการที่แตกต่างกัน เช่น การขุดคลองไทย หรือ การสร้างแลนด์บริดจ์เชื่อมสองฝั่ง แต่นักวิชาการ เห็นตรงกันว่าค วามเป็นไปได้ที่จะเกิดโครงการ แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง น่ามีมากกว่า เพราะการขุดคลองขนาดใหญ่ ผ่านหลายจังหวัด อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงกว่า
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 08/03/2022 2:51 am    Post subject: Reply with quote

ปัดฝุ่น!! โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14:40 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14:40 น.

กาญจนบุรี - คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก

วันนี้( 7 มี.ค.) ที่ห้องประชุมแควใหญ่ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง และคณะ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานและติดตามการดำเนินงานความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยมี นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอุดม เพชรคุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี เขต 3 หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและนำเสนอข้อมูลการดำเนินงานฯ

นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่ชายแดนกับการรองรับ AEC ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ

จึงเห็นว่าควรจะมีแผนการรองรับในระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปถึงในอนาคต และสิ่งที่ประเทศไทยจะต้องเตรียมการรองรับก็คือด้านการคมนาคม มายังจังหวัดกาญจนบุรีและโครงการทวายโปรเจกต์ จึงได้มีการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการและการใช้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมาในโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้
ทั้งนี้ ได้ติดตามในด้านการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการทั้งการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของจังหวัดกาญจนบุรี ในโครงการเศรษฐกิจพิเศษทวายเพื่อเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก โครงการเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อนและความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรที่บ้านพุน้ำร้อน ด้านการคมนาคมได้แก่ โครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และส่วนต่อขยายไปโครงการทวายโปรเจ็กต์ โครงการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคใต้ เชื่อมโยงกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภายใต้กรอบ GMS เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ

หน่วยงานที่ดำเนินการได้นำเสนอความคืบหน้าในการดำเนินการ ทั้งด้านการคมนาคมโครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในเส้น M 81 ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 72% คาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปี 2566 นี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถใช้เป็นเส้นทางหลักเชื่อมโยงในการขนส่งสินค้า จากชายแดนจังหวัดกาญจนบุรีไปยังภูมิภาคอื่นๆได้

ส่วนพื้นที่ด่านชายแดน ได้มีการตั้งส่วนของพื้นที่ที่ใช้ในราชการ ทั้งอาคารที่ทำการสำนักงานด่านศุลกากร ศูนย์ประสานงานเพื่อความมั่นคง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการก่อสร้างที่ทำงานของส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ โครงข่ายคมนาคม เครือข่ายโทรคมนาคม และจุดจำหน่ายสินค้าในโครงการก่อสร้างตลาดการค้าชายแดนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย


Wisarut wrote:
Wisarut wrote:

การรถไฟฯ ทุ่ม9.8หมื่นล้าน ผุดทางสายใหม่322กม. ผ่าน8จังหวัด เชื่อม"แหลมฉบัง-ทวาย"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
22 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 10:51:58 น.
ร.ฟ.ท.ได้ข้อสรุปเส้นทางเชื่อมรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าเทียบเรือน้ำลึกทวายแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
22 เมษายน 2558 17:06 น.


รถไฟใหม่ "พุน้ำร้อน-แหลมฉบัง" เวนคืนหมื่นไร่ เปิดหน้าดิน 8 จังหวัด
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
27 เมษายน 2558 2558 เวลา 14:58:07 น.

Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 18/03/2022 10:54 pm    Post subject: Reply with quote

สนข.เตรียมชงนายกฯ เคาะจุดสร้างท่าเรือแลนด์บริดจ์ พร้อมสรุปแผนโรดโชว์เวทีเอเปก ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:28 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:28 น.


สนข.เดินหน้าแลนด์บริดจ์ "ชุมพร-ระนอง" ชง "นายก" เคาะตำแหน่งท่าเรือพร้อมเตรียมโรดโชว์เวทีเอเปก 2565 ชวนนักลงทุนต่างชาติร่วมประมูล พร้อมเร่งผุดฟีดเดอร์ 3 เส้นทางเชื่อมสถานีรังสิต สายสีแดง เทงบ 80 ล้านปี 66 ศึกษาถนนเลียบทะเลอันดามัน “ระนอง-สตูล” 600 กม. หนุนท่องเที่ยว

นายปัญญา ชูพานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงแผนงานของสนข.ในการขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม จากปี 2564 สานต่อยังปี 2565 ว่า ในปี 2565 สนข.มีโครงการเด่นที่พร้อมเดินหน้าหลายโครงการ ได้แก่ แผนแม่บท MR-MAP เพื่อบูรณาการวางแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองร่วมกับระบบราง หรือ MR-MAP ช่วยลดผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินและผลกระทบอื่นที่มีต่อประชาชนจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ส่งเสริมการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค

โดยมีการสรุปผลการศึกษาแนวโครงข่าย ศึกษาเส้นทางนำร่อง 3 เส้นทาง และจัดทำร่างแผนแม่บทโครงข่าย MR-MAP แล้ว ส่วนในปี 2565 จะมีการศึกษา Pre-Feasibility Study เส้นทางในโครงข่ายเพิ่มเติมครบ 10 เส้นทาง และออกแบบรายละเอียดโครงการนำร่อง โดยกรมทางหลวง (ทล.)

@เดินหน้า "แลนด์บริดจ์" ชุมพร-ระนองชง "นายก" เคาะตำแหน่งท่าเรือสองฝั่ง เตรียมโรดโชว์เวทีเอเปก 2565 เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติ

สะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย -อันดามัน (Landbridge ชุมพร-ระนอง) เป็นการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยกับอันดามัน วงเงินศึกษารวม 67.8156 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและคัดเลือกทำเลที่ตั้งโครงการ ในส่วนของท่าเรือที่เหมาะสม โดยมี

ทางเลือกท่าเรือฝั่ง จ.ระนอง 3 จุด อันได้แก่ 1.เกาะตาวัวดํา 2.เกาะสน 3.แหลมอ่าวอ่าง


ท่าเรือฝั่งอ่าวไทย จ.ชุมพร ประกอบด้วย 1.แหลมประจําเหียง 2.แหลมริ่ว 3.แหลมคอเขา

ซึ่งขณะนี้เตรียมสรุปข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแนวทาง เสนอต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ภายในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อนำเสนอต่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจต่อไปเลือกตำแหน่งท่าเรือที่เหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงคมนาคม กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่าจะมีการประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาในประเด็นสิ่งแวดล้อม พื้นที่ป่าไม้ และกรณีมรดกโลก โดยในปี 2565 สนข.จะศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ออกแบบ Conceptual design ของท่าเรือ จากนั้นจึงเป็นการจัด Market Sounding ทดสอบความสนใจนักลงทุนเพื่อหารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม จากนั้นจะมีการจัดโรดโชว์ตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้มีทูตจากหลายประเทศเข้าพบและแสดงความสนใจโครงการแลนด์บริดจ์นี้อย่างมาก ส่วนในปี 2566 จะเป็นการ Business Model การทำเอกสาร RFP ต่างๆ

พร้อมกันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำเสนอโครงการแลนด์บริดจ์สู่เวทีโลก ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก 2565 หรือ APEC 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเพื่อดึงดูดนักลงทุน ดังนั้น สนข.จะต้องเตรียมข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดและประโยชน์ของโครงการ เพื่อโรดโชว์ให้นักลงทุนทั่วโลกรับทราบว่าประเทศไทยมีโครงการแลนด์บริดจ์ซึ่งจะเป็นการเปิดประมูลนานาชาติรูปแบบรัฐร่วมทุนกับเอกชน (PPP)

ซึ่งหลักการท่าเรือทั้งสองฝั่งจะต้องมีขีดความสามารถรองรับสินค้าได้อย่างน้อย 40 ล้านตู้ต่อปี เทียบกับท่าเรือสิงคโปร์โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรกจะรองรับเริ่มต้นที่ 15 ล้านตู้ต่อปี ดังนั้น การเลือกพื้นที่จุดที่ตั้งท่าเรือจะต้องรองรับขีดความสามารถที่ 40 ล้านตู้ต่อปี รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ การพัฒนาพื้นที่หลังท่า ซึ่งเป็นส่วนสร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการ และเกิดการจ้างงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงเรื่องการท่องเที่ยวอีกด้วย

โดยเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมลงทุนได้ เนื่องจากเป็นแพกเกจใหญ่ มูลค่าสูง เนื่องจากต้องลงทุนทั้งในส่วนของท่าเรือ ระบบราง และมอเตอร์เวย์ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าการลงทุน โดยจะมีการออกกฎหมายใหม่เป็นการเฉพาะ โดยนำโมเดลการพัฒนาโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งมีพระราชบัญญัติ อีอีซี ดำเนินการเป็นการเฉพาะ มาพิจารณาว่าในส่วนของการพัฒนาแลนด์บริดจ์มีประเด็นกฎหมายที่ต้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่

"เป้าหมายเพื่อให้แลนด์บริดจ์เป็นเส้นทางใหม่ในการเดินทางขนส่งสินค้าของโลก จากการศึกษา อีก 10 ปีข้างหน้าคาดว่าช่องแคบมะละกาจะเต็ม เพราะมีข้อจำกัดที่เป็นช่องแคบ เรือต้องรอ 3-4 วันเพื่อผ่านไป ซึ่งประเมินถึงโอกาสในอนาคตของแลนด์บริดจ์ที่จะมีท่าเรือระนอง และขนถ่ายสินค้าด้วยระบบราง เชื่อมต่อไปยังท่าเรือชุมพร ขณะที่สายเรือก็เดินเรือระยะทางสั้นลง ไม่ต้องแล่นอ้อมไปมะละกา" นายปัญญากล่าว

@ เทงบ 95 ล้านศึกษาเส้นทางเลียบทะเลอันดามัน “ระนอง-สตูล” 600 กม.

นอกจากนี้ การประชุม ครม. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ได้มอบกระทรวงคมนาคมศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเส้นทางถนนเพื่อการท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งอันดามัน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้มอบหมายให้ สนข.ดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบเบื้องต้นเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระยะทาง 600 กม. งบศึกษา 95 ล้านบาท (งบปี 2566) ใช้ ระยะเวลาศึกษา 18 เดือน คาดว่าเริ่มศึกษาเดือน ต.ค. 2565 โดย ลักษณะเส้นทางจะมีทั้งถนนพื้นราบและทางยกระดับขึ้นอยู่กับพื้นที่ เมื่อศึกษาแล้วเสร็จจะมอบให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทรับผิดชอบ เบื้องต้นอาจจะเป็นฟรีเวย์ หรือทางพิเศษ เก็บค่าผ่านทางให้เอกชนลงทุนเพื่อประหยัดงบประมาณภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาจะเห็นควรอย่างไร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ

อัพเดท “ แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง” 2.5 แสนล้าน
*สัปดาห์หน้า”คมนาคม”เคาะพิกัด 2 ท่าเรือใหม่
*ศักดิ์สยาม-สนข.ฝันระเบิดระเบ้อโปรโมทเต็มที่
*ระดมทุนต่างชาติเกิน50%ปักหมุดเปิดใช้ปี 73
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/516819379895301
ศึกษาเก่งงง! สนข.ของบ80ล้านปี66ทับโครงการทช.
*ศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งอันดามัน
*ระนอง-พังงา-ภูเก็ต-กระบี่-ตรัง-สตูล600กม.
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/516775949899644


นายปัญญา กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ชุมพร–ระนองว่า ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกตําแหน่งท่าเรือที่เหมาะสม ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน โดยจากผลการศึกษาเบื้องต้น พื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีความเหมาะสม พบว่า มีฝั่งละ 3 แห่ง ที่จะพัฒนาเป็นท่าเรือแห่งใหม่ของประเทศไทย

สำหรับทำเลที่ตั้งฝั่งละ 3 แห่ง ซึ่งเป็นทางเลือกเชื่อมท่าเรือ เพื่อรองรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ แบ่งเป็น
ฝั่งอ่าวไทย จ.ชุมพร ประกอบด้วย 1.แหลมประจําเหียง 2.แหลมริ่ว 3.แหลมคอเขา
ส่วนฝั่งอันดามัน จ.ระนอง ประกอบด้วย 1.เกาะตาวัวดํา 2.เกาะสน 3.แหลมอ่าวอ่าง
โดยในแต่ละแห่งนั้น มีทั้งข้อดี และข้อเสียแตกต่างกัน

ทั้งนี้ สนข. เตรียมสรุปผลการศึกษารูปแบบเบื้องต้นเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะเสนอไปยังคณะกรรมการร่วมฯ ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจะต้องมีการพิจารณาพื้นที่มรดกโลก และพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป

นายปัญญา กล่าวอีกว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้มอบหมายให้ สนข. เตรียมรายละเอียดของโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อนำเสนอในเวทีการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52 (APEC Transportation Working Group : TPTWG 52) ในวันที่ 14-16 ก.ย. 2565 พร้อมทั้งเตรียม Road Show ทั้งในและต่างประเทศ หรือสถานฑูตต่างๆ ตั้งแต่ มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุน

สำหรับกรอบระยะเวลาดำเนินการการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์นั้น สนข. จะศึกษารูปแบบการดำเนินการจบภายในปี 2565 จากนั้นในปี 2566 จะเขัาสู่กระบวนการวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) พร้อมทั้งจัดทำเอกสาร ควบคู่กับการจัดทำรายวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างไรก็ตาม คาดว่า การศึกษาทั้งโครงการฯ จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2567 ก่อนที่จะหาตัวผู้รับจ้างในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) และเริ่มก่อสร้างโครงการในปี 2568 พร้อมเปิดให้บริการในปี 2573

ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น จะเป็น PPP รูปแบบประกวดราคาแบบนานาชาติ (International Bidding) วงเงินลงทุนประมาณ 250,000 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมาย เนื่องจากโครงการแลนด์บริดจ์ จะการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้นแบบ (Model) โดยมีการออกกฎหมายโดยเฉพาะ หรือออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แลนด์บริดจ์ รวมทั้งจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการด้วย

อย่างไรก็ตามขณะที่สัดส่วนการลงทุนนั้น จะกำหนดให้เอกชนต่างชาติ สามารถถือสัดส่วนได้เกิน 50% และต้องมีสัดส่วนของนักลงทุนชาวไทยเป็นพันธมิตรร่วมด้วย เพื่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการห้ามนักลงทุนชาวไทยแต่อย่างใด ส่วนความคุ้มค่าในการลงทุนนั้น สนข. ได้ให้โจทย์การศึกษากับบริษัทที่ปรึกษาว่า จะดำเนินการอย่างไรให้คุ้มทุน เบื้องต้น นอกจากจะมีการลงทุน 2 ท่าเรือ รวมถึงมอเตอร์เวย์ และระบบรางแล้ว จะมีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพื่อสร้างรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยระยะเวลาการให้สัมปทาน จะใกล้เคียงกับพื้นที่ EEC

นอกจากนี้ สนข. ได้ขอจัดตั้งปีงบประมาณปี 66 วงเงิน 80 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการศึกษาความเหมาะสม และสำรวจออกแบบเบื้องต้นเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามัน ครอบคลุม พื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล เบื้องต้นระยะทางประมาณ 600 กม. หากได้รับจัดสรรงบประมาณ สนข. จะเริ่มจัดซื้อจัดจ้างหาที่ปรึกษาช่วงเดือน ต.ค.ปี 65 จากนั้นเริ่มศึกษาประมาณ ธ.ค. 65-พ.ค.67 ใช้เวลาศึกษา 18 เดือน เมื่อแล้วเสร็จจะเสนอผลการศึกษาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง (ทล.) และ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ไปดำเนินการต่อไป
https://www.thaipost.net/economy-news/106814/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 21/03/2022 12:15 am    Post subject: Reply with quote

ส่อง 6 ทำเล สร้างแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง 2.5 แสนล้าน
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันศุกร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:57 น.

สนข.เจาะ 6 ทำเล สร้างท่าเรือใหม่ 2 แห่ง อัพเกรดแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง 2.5 แสนล้านบาท เล็งชงคมนาคม-ครม.ไฟเขียว จ่อเปิดประมูลนานาชาติ ดึงเอกชนร่วมทุน

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ชุมพร–ระนองว่า ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกตําแหน่งท่าเรือที่เหมาะสม ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน โดยจากผลการศึกษาเบื้องต้น พื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีความเหมาะสม พบว่า มีฝั่งละ 3 แห่ง ที่จะพัฒนาเป็นท่าเรือแห่งใหม่ของประเทศไทย

สำหรับทำเลที่ตั้งฝั่งละ 3 แห่ง ซึ่งเป็นทางเลือกเชื่อมท่าเรือ เพื่อรองรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ แบ่งเป็น
ฝั่งอ่าวไทย จ.ชุมพร ประกอบด้วย 1.แหลมประจําเหียง 2.แหลมริ่ว 3.แหลมคอเขา
ส่วนฝั่งอันดามัน จ.ระนอง ประกอบด้วย 1.เกาะตาวัวดํา 2.เกาะสน 3.แหลมอ่าวอ่าง โดยในแต่ละแห่งนั้น มีทั้งข้อดี และข้อเสียแตกต่างกัน


ทั้งนี้ สนข. เตรียมสรุปผลการศึกษารูปแบบเบื้องต้นเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะเสนอไปยังคณะกรรมการร่วมฯ ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจะต้องมีการพิจารณาพื้นที่มรดกโลก และพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป

ขณะเดียวกัน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้มอบหมายให้ สนข. เตรียมรายละเอียดของโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อนำเสนอในเวทีการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52 (APEC Transportation Working Group : TPTWG 52) ในวันที่ 14-16 ก.ย. 2565 พร้อมทั้งเตรียม Road Show ทั้งในและต่างประเทศ หรือสถานฑูตต่างๆ ตั้งแต่ มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุน

สำหรับกรอบระยะเวลาดำเนินการการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์นั้น สนข. จะศึกษารูปแบบการดำเนินการจบภายในปี 2565 จากนั้นในปี 2566 จะเขัาสู่กระบวนการวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) พร้อมทั้งจัดทำเอกสาร ควบคู่กับการจัดทำรายวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่า การศึกษาทั้งโครงการฯ จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2567 ก่อนที่จะหาตัวผู้รับจ้างในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) และเริ่มก่อสร้างโครงการในปี 2568 พร้อมเปิดให้บริการในปี 2573

ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นจะเป็น PPP รูปแบบประกวดราคาแบบนานาชาติ (International Bidding) วงเงินลงทุนประมาณ 250,000 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมาย เนื่องจากโครงการแลนด์บริดจ์ จะการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้นแบบ (Model) โดยมีการออกกฎหมายโดยเฉพาะ หรือออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แลนด์บริดจ์ รวมทั้งจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการด้วย

ขณะที่สัดส่วนการลงทุนนั้น จะกำหนดให้เอกชนต่างชาติ สามารถถือสัดส่วนได้เกิน 50% และต้องมีสัดส่วนของนักลงทุนชาวไทยเป็นพันธมิตรร่วมด้วย เพื่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการห้ามนักลงทุนชาวไทยแต่อย่างใด ส่วนความคุ้มค่าในการลงทุนนั้น สนข. ได้ให้โจทย์การศึกษากับบริษัทที่ปรึกษาว่า จะดำเนินการอย่างไรให้คุ้มทุน เบื้องต้น นอกจากจะมีการลงทุน 2 ท่าเรือ รวมถึงมอเตอร์เวย์ และระบบรางแล้ว จะมีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพื่อสร้างรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยระยะเวลาการให้สัมปทาน จะใกล้เคียงกับพื้นที่ EEC

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศทางด้านมหาสมุทรอินเดีย ต้องเปลี่ยนถ่ายสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกผ่านช่องแคบมะละกา (สิงคโปร์) ซึ่งเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางที่อ้อมและมีระยะไกล การจราจรทางน้ำคับคั่ง จากข้อมูลปี 2561 ช่องแคบมะละกามีความหนาแน่นของปริมาณเรือสูงถึง 85,000 ลำ/ปี และในอีก 10 ปีข้างหน้า ปริมาณเรือจะเพิ่มขึ้นกว่า 128,000 ลำ ซึ่งเกินกว่าความจุของช่องแคบมะละกาที่รองรับได้ 122,000 ลำต่อปี ก่อให้เกิดปัญหาการติดขัดและเสียเวลาในการเดินทาง

อย่างไรก็ตามจากการศึกษามีการคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณสินค้าเข้ามาในแลนด์บริดจ์ มากถึงกว่า 20 ล้าน TEUs จากการรองรับได้ 40 ล้าน TEUs ซึ่งจะเทียบเท่ากับท่าเรือฮ่องกง ที่มีตู้สินค้าผ่านท่าเรือมากเป็นอันดับที่ 8 ของโลก โดยแลนด์บริดจ์ จะเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก

Wisarut wrote:
สนข.เตรียมชงนายกฯ เคาะจุดสร้างท่าเรือแลนด์บริดจ์ พร้อมสรุปแผนโรดโชว์เวทีเอเปก ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:28 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:28 น.


อัพเดท “ แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง” 2.5 แสนล้าน
*สัปดาห์หน้า”คมนาคม”เคาะพิกัด 2 ท่าเรือใหม่
*ศักดิ์สยาม-สนข.ฝันระเบิดระเบ้อโปรโมทเต็มที่
*ระดมทุนต่างชาติเกิน50%ปักหมุดเปิดใช้ปี 73
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/516819379895301
ศึกษาเก่งงง! สนข.ของบ80ล้านปี66ทับโครงการทช.
*ศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งอันดามัน
*ระนอง-พังงา-ภูเก็ต-กระบี่-ตรัง-สตูล600กม.
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/516775949899644


นายปัญญา กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ชุมพร–ระนองว่า ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกตําแหน่งท่าเรือที่เหมาะสม ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน โดยจากผลการศึกษาเบื้องต้น พื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีความเหมาะสม พบว่า มีฝั่งละ 3 แห่ง ที่จะพัฒนาเป็นท่าเรือแห่งใหม่ของประเทศไทย

https://www.thaipost.net/economy-news/106814/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 16/04/2022 5:22 pm    Post subject: Reply with quote

แม้โครงการปากบาราจะไปไม่รอดแล้ว แต่ยังคิดจัดการเดินรถไฟไไปสตูลอยู่
http://www.cuti.chula.ac.th/twwwroot/journals/old/translog4/p2.pdf
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 50, 51, 52  Next
Page 51 of 52

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©