Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311277
ทั่วไป:13258538
ทั้งหมด:13569815
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 292, 293, 294 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 10/06/2021 9:37 pm    Post subject: Reply with quote

“สันติสุข” ซัดประมูลรถไฟทางคู่ 5 สัญญา กับ 5 นายทุน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก!
เผยแพร่ : พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 09:14 น.

วันที่ 9 มิ.ย. 64 สันติสุข มะโรงศรี ผู้ประกาศข่าวช่อง ท็อปนิวส์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีรถไฟทางคู่ว่า อะไรที่บังเอิญเกินไป มักไม่บังเอิญจริง
1. ผมเชียร์รถไฟทางคู่ 2 เส้นทางใหม่ เด่นชัย-เชียงของ (สายเหนือ) กับบ้านไผ่-นครพนม (สายอีสาน) มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย คณะเศรษฐศาสตร์
2. ผมเซ็งนักการเมืองขี้โม้ก่อนหน้านี้ ที่ไม่ทำให้มันเกิดขึ้นจริงซะที (ศึกษากันมาตั้งแต่ผมยังแก้ผ้าวิ่งเล่น)
3. เมิ่อรัฐบาลชุดนี้ลงมือผลักดันจริง ล่าสุด พรฏ กำหนดแนวเวนคืนออกมาแล้ว เปิดประมูลแล้ว จึงชื่นชม
4. ก่อนหน้านี้ ยุครัฐบาล คสช มีการประมูลทางคู่สายใต้ ออกแบบทีโออาร์ให้แข่งกัน ช่วยรัฐประหยัดได้หลายพันล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 5%
5. ล่าสุด รัฐบาลเลือกตั้ง ไม่ใช้แนวทางทีโออาร์เหมือนตอนประมูลสายใต้ แต่กำหนดจำนวนสัญญาการประมูลเท่ากับจำนวนผู้รับเหมาขนาดใหญ่พอดี

บังเอิญ?
สายเหนือ แบ่งการประมูลออกเป็น 3 สัญญา
สายอีสาน แบ่งออกเป็น 2 สัญญา
รวมเป็น 5 สัญญา เท่ากับจำนวนผู้รับเหมาขนาดใหญ่
แล้วก็ผู้รับเหมาขนาดใหญ่เข้าประมูล 5 ราย และชนะการประมูลทุกราย
ปรากฏว่า เสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง 0.08% ทั้งสายเหนือและสายอีสาน
บังเอิญ?

อะไรที่บังเอิญมากไป มันไม่บังเอิญจริงหรอก
6.นักธุรกิจไม่ชั่วร้าย แต่ไม่ใช่นักบุญทุกคน
ถ้าอยากให้เขาแข่งขัน ต้องออกแบบทีโออาร์กับหลักเกณฑ์ที่เอื้อและจูงใจให้เกิดการแข่งขัน
7. ในยุคที่มีหัวหน้า คสช เป็นนายกฯ ชื่อลุงตู่ทำให้เกิดการสู้ราคาจนประหยัดได้หลายพันล้าน ทำไมยุคที่มีนายกฯ จากเลือกตั้ง ชื่อลุงตู่ จะทำไม่ได้ ? ใครขวาง?
8. ถ้ามีการสู้ราคาต่ำกว่าราคากลางสัก 5% พอๆ กับสายใต้ ก็จะประหยัดงบประมาณกว่า 7,000 ล้านบาท
9. ถ้าขวางไม่ได้จริงๆ ลุงกลับไปเป็นหัวหน้า คสช ดีกว่า

ปล.ข้อมูลในภาพประกอบชัดเจนมาก จัดทำโดย ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ผู้เคยทักท้วงการประมูล จนหัวหน้า คสช ขยับให้ซุปเปอร์บอร์ดจัดการ กระทั่งประหยัดเงินแผ่นดินหลายพันล้านตอนประมูลรถไฟทางคู่สายใต้
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44465
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/06/2021 2:55 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
11 มิ.ย. 64

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม
(ทางรถไฟยกระดับ)
ความก้าวหน้าสะสม = 53.54 %
แผนงานสะสม = 34.52 %
เร็วกว่าแผน = +19.02 %
*มีการปรับแผนงานการก่อสร้างให้สอดคล้องกับการดำเนินงานก่อสร้างจริง
·
อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ
ความก้าวหน้าสะสม = 66.29 %
แผนงานสะสม = 67.13 %
ช้ากว่าแผนงาน = -0.84 %
*มีการปรับแผนงานการก่อสร้างให้สอดคล้องกับการดำเนินงานก่อสร้างจริง

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564
สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (ST8)
ความก้าวหน้าสะสม = 6.947 %
แผนงานสะสม = 22.770 %
ช้ากว่าแผนงาน = -19.823 %
*มีการปรับแผนงานการก่อสร้างให้สอดคล้องกับการดำเนินงานก่อสร้างจริง

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/784225822289842
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2021 2:42 am    Post subject: Reply with quote

ประมูลทางคู่สายใต้VS "สายเหนือ-อีสาน" ฮั้ว...ไม่ฮั้วดูเอา?
หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 18:09 น.

ประมูลรถไฟทางคู่ สายใต้VSสายเหนือ-อีสาน ฮั้ว...ไม่ฮั้วดูเอา หลัง คมนาคม ออกโรงชี้แจง การประมูล 2ทางคู่เหนือ-อีสาน 1.28แสนล้าน โปร่งใส ถูกระเบียบพัสดุตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดประมูลรถไฟทางคู่ใหม่ 2เส้นทาง มูลค่า1.28แสนล้านบาท แบ่ง5สัญญา ประกอบด้วยสายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323กิโลเมตร ราคากลาง 72,918 ล้านบาท และ ทางคู่สายอีสาน ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355กิโลเมตรราคากลาง 55,456 ล้านบาท วันที่ 18พ.ค.และ25พ.ค. 64 ตามลำดับ ผลประมูลช็อกสายตาผู้ชม ราคาที่เสนอต่ำกว่าราคากลางเพียง 0.08% แสดงว่าคู่แข่ง ที่ยื่นประมูลด้วย2-3ราย ที่อ้างว่า ลงสนามด้วย จะต้องเสนอราคาเกือบชิดราคากลางมากๆเป็นแน่ ซึ่งในทางปฏิบัติย่อมเป็นไปได้ยาก และหากเทียบผลประมูลสายใต้ช่วง นครปฐม-ชุมพรระยะทาง421กิโลเมตร เมื่อปี2560 ราคากลาง 36,021ล้านบาท ราคาประมูลต่ำสุด อยู่ที่ 33,982ล้านบาท ห่างราคากลาง5.66%เสียงยี้ เสียงเอะอ่ะ ที่ตามมาจึงท่วมท้น ล้นสนาม เมื่อ นักกีฬาพากันวิ่งกอดคอเข้าเส้นชัยพร้อมกัน แม้ กระทรวงคมนาคม ,รฟท. ในฐานะกรรมการจะออกมาชี้แจง หลายครั้งว่าเป็นเรื่องปกติ โปร่งใส ถูกต้องตามกติกา ระเบียบพัสดุ อีกทั้งต้นทุนวัสดุสูง แต่ทุกครั้งที่หันกลับมามองผลการประมูลสายใต้ อดสงสัยไม่ได้ ว่าแบบนี้.... ฮั้วหรือไม่ฮั้ว? ใครรู้ช่วยตอบที


"ศักดิ์สยาม "ยัน ! รถไฟทางคู่ สาย "เหนือ - อีสาน " ดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 11:01 น.

รมว.ศักดิ์สยาม ยัน ! โครงการ รถไฟทางคู่ สายเหนือ - สายตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินการตามระเบียบพัสดุ สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง รถไฟทางคู่ โครงการที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการ ด้วยกันกับรถไฟมีอยู่ 2 สาย สายเหนือ คือสาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ กับสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านไผ่ - นครพนม ซึ่งทั้ง 2 สาย ทางการรถไฟได้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ที่เรียกว่า e-bidding ในการชี้แจงในการขั้นตอนพิจารณางบประมาณ 2565 ตนก็ได้ชี้แจงไปแล้ว และการรถไฟก็ได้ดำเนินการทำคลับเฮ้าส์ และเชิญบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเช่น องค์กรต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ, อธิการบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ลาดกระบัง มีตัวแทนสื่อมวลชน

อีกทั้งยังมีบุคคลจากทีดีอาร์ไอเข้าร่วมพูดคุยในห้องคลับเฮ้าส์ด้วย ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร จากที่ทราบ ได้มีการศึกษามาตั้งแต่ปี 55 และราคากลาง ก็มีการอนุมัติ ปี 61 และมีการปรับปรุงในปลายปี 63 หลังจากนั้นราคาวัสดุก่อสร้างขึ้นราคา เหล็กขึ้นมา 50% ซึ่งผู้รับจ้างทั่วไปยื่นมาว่า อยากให้พิจารณาในเรื่องการปรับราคากลาง แต่โครงการรถไฟทางคู่ ทั้ง 2 โครงการ ไม่มีการปรับราคา ยังยืนตามราคาที่ ได้มีการศึกษาไว้ และการดำเนินการยังคงยึดขั้นตอน การปฏิบัติทุกอย่างตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีคณะกรรมการจริยธรรมเข้ามาร่วมด้วยในการ e-bidding เป็นเรื่องของทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการทางการรถไฟ มีหน้าที่เพียงแค่รับผลการ ประมูลมา ส่วนประเด็นที่ว่าราคาเสนอมาใกล้เคียงกัน ถ้าสงสัยก็ต้องไปดูในเรื่องของผู้รับจ้าง ว่าผู้รับจ้างทำไมถึงเสนอราคาใกล้เคียงกัน เพราะเรื่องอย่างนี้คิดว่าเป็นเรื่องที่สอบถามได้อยู่แล้ว และในเรื่องของการประมูลแบบ e-bidding ไม่ใช่มีแค่การรถไฟ เท่านั้น เฉพาะในหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า กรมท่าอากาศยาน กรมทางหลวง หรือรัฐวิสหากิจ ก็ใช้ e-bidding ทั้งนั้น และกระทรวงอื่นๆ ก็ใช้เหมือนกัน เพราะเป็นระบบที่คิดว่าดีที่สุดในการประมูลงานของประเทศไทยในขณะนี้

นอกจากนี้ แนวนโยบายของกระทรวงคมนาคม ต่อจากนี้จะประมูลอะไรก็ตามนอกจากที่ต้องทำตามระเบียบก็คือ นำ TOR ขึ้นมา ต้องรับฟังความคิดเห็นก่อน ให้ทำคลับเฮาส์เชิญผู้สงสัยเข้ามาร่วมด้วย

" อย่างเรื่องคลับเฮาส์ของการรถไฟก็เชิญ แต่ท่านไม่ได้มา ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อันนี้เป็นประเด็นที่ชี้แจง เพราะฉะนั้นเรื่องการรถไฟดำเนินการ ก็ให้เป็นไปตามระเบียบ ส่วนจะมีการตรวจสอบอะไรเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สามารถที่จะตรวจสอบได้ ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรที่จะทำให้โครงการนี้มีปัญหาในการไม่สามารถดำเนินการได้" นายศักดิ์สยาม กล่าว

"ศักดิ์สยาม" เคลียร์ชัดประมูลทางคู่ 2 สาย ฮั้วประมูลหรือไม่
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 09:27 น.

"ศักดิ์สยาม" เผย ประมูลรถไฟทางคู่ 2 สาย สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน หลังผู้รับเหมาวอนปรับราคากลาง เหตุราคาเหล็กพุ่ง 50%

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการ ด้วยกันกับรถไฟมีอยู่ 2 สายประกอบด้วย สายเหนือ คือสาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านไผ่ - นครพนม ซึ่งทั้ง 2 สาย ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ที่เรียกว่า e-bidding ในการชี้แจงในการขั้นตอนพิจารณางบประมาณ 2565 ตนก็ได้ชี้แจงไปแล้ว และการรถไฟก็ได้ดำเนินการทำคลับเฮ้าส์ และเชิญบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเช่น องค์กรต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ, อธิการบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ลาดกระบัง มีตัวแทนสื่อมวลชน อีกทั้งยังมีบุคคลจากทีดีอาร์ไอเข้าร่วมพูดคุยในห้องคลับเฮ้าส์ด้วย ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร จากที่ทราบ ได้มีการศึกษามาตั้งแต่ปี 55 และราคากลาง ก็มีการอนุมัติ ปี 61 และมีการปรับปรุงในปลายปี 63 หลังจากนั้นราคาวัสดุก่อสร้างขึ้นราคา เหล็กขึ้นมา 50% ซึ่งผู้รับจ้างทั่วไปยื่นมาว่า อยากให้พิจารณาในเรื่องการปรับราคากลาง แต่โครงการรถไฟทางคู่ ทั้ง 2 โครงการ ไม่มีการปรับราคา ยังยืนตามราคาที่ ได้มีการศึกษาไว้ และการดำเนินการยังคงยึดขั้นตอน การปฏิบัติทุกอย่างตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีคณะกรรมการจริยธรรมเข้ามาร่วมด้วย

ส่วนการ e-bidding เป็นเรื่องของทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการทางการรถไฟ มีหน้าที่เพียงแค่รับผลการ ประมูลมา ส่วนประเด็นที่ว่าราคาเสนอมาใกล้เคียงกัน ถ้าสงสัยก็ต้องไปดูในเรื่องของผู้รับจ้าง ว่าผู้รับจ้างทำไมถึงเสนอราคาใกล้เคียงกัน เพราะเรื่องอย่างนี้คิดว่าเป็นเรื่องที่สอบถามได้อยู่แล้ว และในเรื่องของการประมูลแบบ e-bidding ไม่ใช่มีแค่การรถไฟ เท่านั้น เฉพาะในหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า กรมท่าอากาศยาน กรมทางหลวง หรือรัฐวิสหากิจ ก็ใช้ e-bidding ทั้งนั้น และกระทรวงอื่นๆ ก็ใช้เหมือนกัน เพราะเป็นระบบที่คิดว่าดีที่สุดในการประมูลงานของประเทศไทย "แนวนโยบายของกระทรวงคมนาคม ต่อจากนี้จะประมูลอะไรก็ตามนอกจากที่ต้องทำตามระเบียบก็คือ นำ TOR ขึ้นมา ต้องรับฟังความคิดเห็นก่อน ให้ทำคลับเฮาส์เชิญผู้สงสัยเข้ามาร่วมด้วย ขณะเดียวกันเรื่องคลับเฮาส์ของการรถไฟก็เชิญ แต่ไม่ได้เข้าร่วม ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อันนี้เป็นประเด็นที่ชี้แจง เพราะฉะนั้นเรื่องการรถไฟดำเนินการ ก็ให้เป็นไปตามระเบียบ ส่วนจะมีการตรวจสอบอะไรเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สามารถที่จะตรวจสอบได้ ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรที่จะทำให้โครงการนี้มีปัญหาในการไม่สามารถดำเนินการได้"
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2021 2:49 am    Post subject: Reply with quote

ร้อง สตง. - ป.ป.ช. สอบประมูลรถไฟฟ้าทางคู่
ลึกแต่ไม่ลับ | THAN TALK
วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 14:40 น.



ร้อง สตง. - ป.ป.ช. สอบประมูลรถไฟฟ้าทางคู่ ติดตามได้ในช่วง ลึกแต่ไม่ลับ ในรายการ THAN TALK ทุกวัน จ-ศ เวลา 11.00-11.50 น.
https://www.youtube.com/watch?v=Vas-2ERfreA


ถึงมือผู้ตรวจการแผ่นดิน-ป.ป.ช.สอบ‘รถไฟทางคู่’ ส่อฮั้วประมูลเอื้อ 5 บริษัทเอกชน
หน้า Politics
วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 13:30 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3,686 หน้า 10
วันที่ 10 - 12 มิถุนายน 2564

ถึงมือผู้ตรวจการแผ่นดิน-ป.ป.ช.สอบ‘รถไฟทางคู่’ ส่อฮั้วประมูลเอื้อ 5 บริษัทเอกชน
ข้อกังขาส่อฮั้วประมูล "โครงการรถไฟฟ้าทางคู่” เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของทั้ง “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” และ ป.ป.ช.แล้ว

การประมูล “โครงการรถไฟฟ้าทางคู่” ของกระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งประเทศ ไทย ที่สร้างข้อกังขาไปทั่วบ้านทั่วเมือง ได้มีคนร้องเรียนนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของทั้ง “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว

โดยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ขนานของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ใน 2 เส้นทาง รวมระยะทาง 678 กิโลเมตร วงเงินกว่า 127,605 ล้านบาท แบ่งเป็น เส้นทางสายเหนือช่วงเด่นชัย-เชียงราก-เชียงของระยะทาง 232 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท และ เส้นทางสายอีสาน ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร มูลค่าก่อนสร้าง 54,684 ล้านบาท การประมูลครั้งนี้พบพิรุธโดยมีการจัดทำ “ทีโออาร์” ในลักษณะ “ล็อกสเปก” เอื้อผู้ประกอบการรายใหญ่ 5 รายเท่านั้น ให้เข้าสู่การประมูล ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางเข้าร่วมการประมูลได้ ไม่สามารถแข่งขันให้ราคาถูกลง ส่งผลให้รัฐเสียประโยชน์นับหมื่นล้านบาท หากเทียบกับการเส้นทางรถไฟในพื้นที่ภาคใต้ ในปี 2560 ที่เขียนทีโออาร์ให้ผู้ประกอบการขนาดกลางสามารถเข้าร่วมการประมูล จึงมีผู้เข้าร่วมประมูลมาก ทำให้รัฐได้ราคาถูกลง ประหยัดงบประมาณลงประมาณ 2-3 พันล้านบาท การที่ทีโออาร์ล็อกสเปกให้เฉพาะ 5 บริษัทใหญ่ คือกำหนดให้บริษัทที่สามารถจะเข้าร่วมประมูลงานได้ต้องผ่านงานโครงการของรัฐร้อยละ 10 หรือไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ของมูลค่าโครงการ จึงทำให้ได้ราคาประมูลใกล้เคียงกับราคากลางที่กรมบัญชีกลางกำหนด เข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล จึงมายื่นเรื่องต่อ สตง.ให้ตรวจสอบการจัดทำทีโออาร์ ว่าเอื้อต่อบริษัทใดหรือไม่ “สิ่งที่ผมได้รับรู้ข้อมูลมาก่อนหน้านี้ คือ ก่อนที่จะมีการเปิดประมูล มี “ผู้กว้างขวางในจังหวัดบุรีรัมย์” เรียกผู้ประกอบการรายใหญ่ ทั้ง 5 บริษัทไปพูดคุยกัน ตกลงกัน และก็จัดสรรปันส่วนแบ่งเค้กก่อน ในที่สุดผลประมูลออกมาทั้ง 5 บริษัท ต่าง ชนะการประมูล รวมทั้ง 5 สัญญาไปคนละสัญญา ผมคิดว่าการประมูลครั้งนี้น่าจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล โดยชัดเจน จึงต้องร้องต่อ สตง.ให้ตรวจสอบว่า การทำทีโออาร์ หรือการเขียนทีโออาร์ในลักษณะนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นการเฉพาะหรือไม่ ทำให้ผลประโยชน์ของประเทศชาติเสียหาย” นายศรีสุวรรณ ยังระบุว่า หากผลการตรวจสอบพบมีความผิดตามที่ร้อง ก็จะนำไปสู่การยกเลิกประมูลและจัดทำทีโออาร์ และจัดการประมูลขึ้นใหม่


ทั้งนี้ พิรุธการประมูล 2 โครงการ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ เคยออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้แล้วว่า มี 5 บริษัท ไปตกลงกับผู้กว้างขวางของจังหวัดบุรีรัมย์ ว่าจะจัดสรรปันส่วนให้ได้คนละสัญญา เมื่อเปิดซองประมูลทั้ง 2 สาย ก็ตรงตามที่ ส.ส.คนดังกล่าวออกมาให้ข้อมูล ทั้งนี้ ทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะนำเอกฐานหลักฐานไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิดกับบุคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไปด้วย ถึงมือผู้ตรวจการแผ่นดิน-ป.ป.ช.สอบ‘รถไฟทางคู่’ ส่อฮั้วประมูลเอื้อ 5 บริษัทเอกชน
ถึงมือผู้ตรวจการแผ่นดิน-ป.ป.ช.สอบ‘รถไฟทางคู่’ ส่อฮั้วประมูลเอื้อ 5 บริษัทเอกชน

ก่อนหน้านี้ นพ.ระวี มาศฉมาดล ออกมาแถลงถึงการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างโครงการรถไฟทางคู่ 5 สัญญา โดยการประมูลเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ประมูลโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ราคากลางอยู่ที่ 27,123,620,000 บาท ราคาตํ่าสุด 27,100,000,000 ส่วนต่าง 23,620,000.00 ส่วนลด 0.09% โดยผู้เสนอราคาตํ่าสุด คือ บริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด และโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ราคากลาง 28,333.930,000 ราคาตํ่าสุด 28,310,000,000 ส่วนต่าง 23,930,000.00 ส่วนลด 0.08% ผู้เสนอราคาตํ่าสุด คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)

นพ.ระวี กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้แถลงข่าวถึงการประมูล 3 โครงการแรก และมีเพียงแค่ 5 บริษัทที่สามารถนำผลงานเข้ายื่นเสนอราคาได้ คือ 1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท อินยิเนียริ่ง (1964) จำกัด “วันนี้ชี้ชัดแล้วว่าแบ่งกันลงตัวบริษัทละ 1 โครงการ ซึ่งราคาประมูลในแต่ละสัญญาที่มีราคาใกล้เคียงกับราคากลางอย่างมาก เสมือนบริษัทผู้ประมูลมีตาทิพย์” นพ.ระวี ระบุการประมูลโครงการดังกล่าวที่ “ส่อฮั้วการประมูล” ขณะนี้ข้อกังขาต่างๆ ได้ถูกยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “ตรวจสอบ” แล้ว ผลจะลงเอยอย่างไรต้องติดตาม...


หมอวรงค์ ร้อง“นายกฯ” ยกเลิกประมูลรถไฟทางคู่ สายเหนือ-อีสาน
หน้า Politics
วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 12:44 น.


หมอวรงค์ ร้องนายกฯ ยกเลิกประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน พบเอื้อประโยชน์ ทีโออาร์​ 5 บริษัท แนะลดขนาดโครงการเปิดช่องให้มีการแข่งขัน

วันที่ 10 มิ.ย. 2564 นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมด้วยสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ยื่นหนังสือถึง พลเอก ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​นายก​รัฐมนตรี ​ผ่าน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ยกเลิกโครงการ รถไฟฟ้าทางคู่สายเหนือช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เขียงของ และสายอีสาน ช่วงบ้านไผ่- มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม

พร้อมกับขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการประมูล เนื่องจากพบว่าราคาที่ได้จากการประมูลต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย และ ยังเป็นสัดส่วนที่เท่ากัน แค่ร้อยละ 0.08 เท่านั้น



นายแพทย์​วรงค์​ ยังระบุว่า สามารถรับได้ หากมีหลาย​บริษัท​ที่คุณสมบัติตรงตามทีโออาร์​ แม้การประมูลต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย แต่โครงการดังกล่าวกลับพบมีเพียง 5 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติ​ สามารถประมูลงานได้จาก 5 สัญญา​เท่านั้น จึงตั้งข้อสังเกต​ว่าอาจมีการเอื้อประโยชน์​หรือไม่ สำหรับเหตุผลที่ทำให้ผลการประมูลเป็นเช่นนี้ เพราะการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)​ ไม่นำทีโออาร์ ที่เคยใช้ในการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์​-ชุมพรในปี2560 สมัยรัฐบาล คสช. ที่สามารถประหยัดงบประมาณ 2,039 ล้านบาทจากวงเงิน 36,100 ล้านบาท แต่ ร.ฟ.ท. กลับเปลี่ยนทีโออาร์​ ส่งผลให้เสียโอกาศที่จะประหยัดงานค่าก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท
นายแพทย์ วรงค์ เชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจและจัดการในเรื่องนี้ เพราะมีรายละเอียดขั้นตอนอยู่ การทุจริตถ้าหากจับได้สามารถระงับยับยั้งได้ทันที
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2021 3:11 am    Post subject: Reply with quote

สยอง ตอม่อทรุด สะพานเหล็กรถไฟรางคู่ กว่า 100 ตัน ทับคนงานดับคาที่ 1
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐออนไลน์
ศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลา 03:20 น.

สะพานเหล็กรถไฟรางคู่ ที่ชะอำ กำลังก่อสร้าง หนักกว่า 100 ตัน หล่นทับร่างคนงานตายคาที่ ขณะประกอบโครงสร้างใต้สะพาน เพื่อนคนงานเผย ปูนตอม่อทรุดตัว เป็นเหตุสะพานไหลทับร่างดับ

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.64 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เพชรบุรี รับแจ้งเหตุคนงานสร้างทางรถไฟรางคู่ ถูกสะพานเหล็กทับร่าง เสียชีวิต 1 ราย บริเวณสะพานดำบ้านม่วง ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงประสาน ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ รักสัตย์ ร้อยเวร สภ.ชะอำ เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.ชะอำ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพ็ชญธรรมสถาน



ที่เกิดเหตุเป็นจุดก่อสร้างสะพานข้ามคลอง ของโครงการรถไฟทางคู่ พบศพ นายณัฐอนันต์ เศษสุวรรณ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/4 ซอยเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ สภาพถูกสะพานรถไฟเหล็กน้ำหนักกว่า 100 ตัน ทับร่างกายบริเวณท่อนบน ตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไปถึงท้อง นอนเสียชีวิตอยู่ใต้สะพาน


จากการสอบถาม นายมนตรี กรีทาสันต์ อายุ 35 ปี ชาว ต.คอหงษ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ตนกับเพื่อนรวม 5 คน ช่วยกันประกอบสะพานเหล็กกับตอม่อสะพานซึ่งเป็นปูน นายเพชร (ผู้ตาย) กำลังใช้แม่แรงขนาดใหญ่ทำงานอยู่ใต้สะพาน แต่ปรากฏว่าปูนบริเวณตอม่อเกิดทรุดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ตัวสะพานเหล็กไหลไปทับนายเพชรจนเสียชีวิต ตนพยายามตะโกนเตือนนายเพชรให้หลบ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก นายเพชรไม่สามารถหลบทัน จึงถูกสะพานทับเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้ติดต่อนำเครนขนาด 120 ตัน มายกตัวสะพานออก เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา และมอบให้เจ้าหน้าที่นำส่งชันสูตร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
Wisarut wrote:
สะพานเหล็กหล่นทับคนงานเสียชีวิต
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4142082802505300
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 13/06/2021 4:48 am    Post subject: Reply with quote

ACTตั้ง5ข้อสังเกตไม่โปร่งใสรถไฟทางคู่เหนือ-อีสาน จี้เปิดประมูลใหม่

หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
เสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลา 14:25 น.

ACTตั้ง5ข้อสังเกตไม่โปร่งใสรถไฟทางคู่เหนือ-อีสาน จี้เปิดประมูลใหม่
เลขาธิการACT ตั้ง 5 ข้อสังเกตความไม่โปร่งใสประมูลรถไฟทางคู่เหนือ-อีสาน จี้ครม.และ รฟท. เปิดประมูลใหม่

วันนี้(วันที่ 12 มิถุนายน 2564) ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้แสดงความเห็นต่อการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า1.28 แสนล้าน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Mana Nimitmongkol หัวข้อเรื่อง ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆหน้าโดยมีเนื้อหา ดังนี้

ข่าวการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า 1.28 แสนล้านบาทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อกังขาจากสังคมถึงความไม่โปร่งใสหลายประการ โดยผู้เขียนมี 5 ข้อสังเกตดังนี้

1. กติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูล เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้เงินงบประมาณ รัฐต้องจูงใจและส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมแข่งขันประมูลให้มากที่สุด ดังนั้นในปี 2558 ครม. จึงมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง ที่มี ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธาน
กำหนดให้การประมูลรถไฟทางคู่ต้องกระจายงานออกเป็นสัญญาที่วงเงินต่อสัญญาไม่สูงเกินไปและแยกงานระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา เพื่อป้องกันการฮั้วประมูลและเปิดให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้ แต่มติ ครม. นี้กลับถูกยกเลิกไปตามข้อเสนอของรัฐมนตรีคมนาคมคนปัจจุบัน ก่อนที่การประมูลรอบใหม่จะเริ่มขึ้น เรื่องนี้ทำให้นึกถึงคดีทุจริตยาที่ศาลตัดสินจำคุกอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะใช้อำนาจสั่งให้ ‘ยกเลิก’ บัญชีราคากลางยาส่งผลให้ราคายาแพงขึ้น ถือเป็นคดีตัวอย่างคอร์รัปชันเชิงนโยบายจนถึงทุกวันนี้

2. แบ่งเค้ก– ฮั้วราคา หรือไม่?การประมูลครั้งนี้แยกเป็น 5 สัญญา ผลคือมีผู้เข้าประมูลเพียง 5 ราย แต่ละรายต่างชนะการประมูลรายละ 1 สัญญา โดยราคาประมูลนั้นเกือบเท่าราคากลาง แตกต่างเฉลี่ยเพียงร้อยละ 0.08 ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับการประมูล 7 สัญญาช่วงปี 2558 – 2560 ที่บางสัญญาราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางเฉลี่ยมาก คือ ช่วงวิหารแดง - บุใหญ่ ต่ำกว่าถึงร้อยละ 31.99 และช่วงหัวหิน - ประจวบฯ ต่ำกว่าถึงร้อยละ 20.51 ประหยัดไปกว่าสามพันล้านบาท!!!

3. กลุ่มผูกขาดการประมูลครั้งนี้กำหนดเงื่อนไขที่ทำให้มีแต่ผู้รับเหมารายใหญ่หน้าเดิมๆ ยื่นซองแล้วเอางานไปคนละสัญญาแถมได้ราคาดี แต่ทำไมงานใหญ่ขนาดนี้ไม่เปลี่ยนเกมแข่งขัน โดยเปิดให้บริษัทต่างชาติที่ทุนหนา เทคโนโลยีสูงมาร่วมประมูลจะได้มีตัวเปรียบเทียบกันมากขึ้น ผลประโยชน์และการประหยัดงบประมาณจะเกิดกับประเทศACTตั้ง5ข้อสังเกตไม่โปร่งใสรถไฟทางคู่เหนือ-อีสาน จี้เปิดประมูลใหม่
ACTตั้ง5ข้อสังเกตไม่โปร่งใสรถไฟทางคู่เหนือ-อีสาน จี้เปิดประมูลใหม่

4. ถูกกฎหมาย แต่ขัดใจประชาชนบ้านเมืองของเรามีคดีคอร์รัปชันมากมายที่กว่าจะถูกจับโกงได้ก็ผลาญชาติจนเสียหายไปมากแล้ว เพราะสังคมหลงเชื่อคนมีอำนาจที่คอร์รัปชันแต่ปากก็อ้างว่าโปร่งใส ทุกอย่างถูกกฎหมายแล้ว เช่น กรณีสนามฟุตซอล คลองด่าน โฮปเวลล์ บ้านเอื้ออาทร จำนำข้าว เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ถุงมือยาง ฯลฯบ่อยครั้งที่พบว่ามีการวางแผน ‘สมรู้ร่วมคิด ล็อคสเปค ฮั้วประมูล’ อยู่เบื้องหลัง การเปิดประมูลอีบิดดิ้งกลายเป็นเรื่องบังหน้า กลไกปกติในการป้องกันคอร์รัปชันอย่าง ป.ป.ช. และศาลก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ประชาชนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีการโกงกิน ทำให้รัฐเสียหาย ซื้อแพงเกินเหตุ ของใช้การไม่ได้ หรือไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไปก็ตาม คำอวดอ้างที่ว่า ‘ไม่มีโกง เพราะทำถูกระเบียบ เป็นไปตามขั้นตอน’ จึงอาจเป็นเพียงคำลวงที่ทาให้พวกเขาดูดี แล้วลอยนวลกอบโกยได้ต่อไป

5. อย่าปล่อยตามยถากรรมเชื่อว่า ครม. และ รฟท. มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นได้และหวังว่าจะทำด้วยจิตสานึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เปิดประมูลใหม่ทำให้มีการแข่งขันที่เปิดกว้างโปร่งใสกว่านี้ หรืออย่างน้อยก็ให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่ามีการเจรจาต่อรองกับผู้ประมูลให้ได้เงื่อนไขดีขึ้น ทำให้ถูกต้องชัดเจน นำมาตรการตาม ‘กฎหมายฮั้วประมูล’ มาใช้เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องน่ากังขาแบบนี้อีก เพราะยังมีรถไฟทางคู่สายปากน้ำโพ - เด่นชัย และสายชุมพร – ปาดังเบซาร์ เปิดประมูลอีกเร็วๆ นี้
บทสรุปถ้าเบื่อคอร์รัปชัน เราต้องสู้ เราคนไทยเจ้าของประเทศต้องไม่ถูกครอบงำ ต้องไม่นิ่งเฉยยอมรับชะตากรรม มาช่วยกันขุดคุ้ยเปิดโปง ช่วยกันโวย ปฏิเสธและก่นด่าพวกโกงชาติ พวกที่พร่ำชวนเชื่อว่าโปร่งใส แต่ไม่ยอมเปิดเผยให้ตรวจสอบ แถมไม่เปิดกว้างรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชน เพราะ ‘ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆ หน้า’


เลขาฯ ACT ตั้ง 5 ข้อสังเกต ความไม่โปร่งใสประมูลรถไฟทางคู่ เหนือ-อีสาน
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
วันที่ 12 มิถุนายน 2564 - 15:18 น.

เลขาธิการACT ตั้ง 5 ข้อสังเกตความไม่โปร่งใสประมูลรถไฟทางคู่เหนือ-อีสาน จี้ครม.และ รฟท. เปิดประมูลใหม่

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้แสดงความเห็นต่อการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า 1.28 แสนล้าน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Mana Nimitmongkol หัวข้อเรื่อง ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆหน้าโดยมีเนื้อหา ดังนี้

ข่าวการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า 1.28 แสนล้านบาทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อกังขาจากสังคมถึงความไม่โปร่งใสหลายประการ โดยผู้เขียนมีข้อสังเกตดังนี้

1. กติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูล
เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้เงินงบประมาณ รัฐต้องจูงใจและส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมแข่งขันประมูลให้มากที่สุด ดังนั้นในปี 2558 ครม. จึงมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง ที่มี ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธาน กำหนดให้การประมูลรถไฟทางคู่ต้องกระจายงานออกเป็นสัญญาที่วงเงินต่อสัญญาไม่สูงเกินไปและแยกงานระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา เพื่อป้องกันการฮั้วประมูลและเปิดให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้


แต่มติ ครม. นี้กลับถูกยกเลิกไปตามข้อเสนอของรัฐมนตรีคมนาคมคนปัจจุบัน ก่อนที่การประมูลรอบใหม่จะเริ่มขึ้น เรื่องนี้ทำให้นึกถึงคดีทุจริตยาที่ศาลตัดสินจำคุกอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะใช้อำนาจสั่งให้ ‘ยกเลิก’ บัญชีราคากลางยาส่งผลให้ราคายาแพงขึ้น ถือเป็นคดีตัวอย่างคอร์รัปชันเชิงนโยบายจนถึงทุกวันนี้

2. แบ่งเค้ก – ฮั้วราคา หรือไม่?
การประมูลครั้งนี้แยกเป็น 5 สัญญา ผลคือมีผู้เข้าประมูลเพียง 5 ราย แต่ละรายต่างชนะการประมูลรายละ 1 สัญญา โดยราคาประมูลนั้นเกือบเท่าราคากลาง แตกต่างเฉลี่ยเพียงร้อยละ 0.08 ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับการประมูล 7 สัญญาช่วงปี 2558 – 2560 ที่บางสัญญาราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางเฉลี่ยมาก คือ ช่วงวิหารแดง – บุใหญ่ ต่ำกว่าถึงร้อยละ 31.99 และช่วงหัวหิน – ประจวบฯ ต่ำกว่าถึงร้อยละ 20.51 ประหยัดไปกว่าสามพันล้านบาท!!!

3. กลุ่มผูกขาด
การประมูลครั้งนี้กำหนดเงื่อนไขที่ทำให้มีแต่ผู้รับเหมารายใหญ่หน้าเดิมๆ ยื่นซองแล้วเอางานไปคนละสัญญา
แถมได้ราคาดี แต่ทำไมงานใหญ่ขนาดนี้ไม่เปลี่ยนเกมแข่งขัน โดยเปิดให้บริษัทต่างชาติที่ทุนหนา เทคโนโลยีสูงมาร่วมประมูล จะได้มีตัวเปรียบเทียบกันมากขึ้น ผลประโยชน์และการประหยัดงบประมาณจะเกิดกับประเทศ

4. ถูกกฎหมาย แต่ขัดใจประชาชน
บ้านเมืองของเรามีคดีคอร์รัปชันมากมายที่กว่าจะถูกจับโกงได้ก็ผลาญชาติจนเสียหายไปมากแล้ว เพราะสังคมหลงเชื่อคนมีอำนาจที่คอร์รัปชันแต่ปากก็อ้างว่าโปร่งใส ทุกอย่างถูกกฎหมายแล้ว เช่น กรณีสนามฟุตซอล คลองด่าน โฮปเวลล์ บ้านเอื้ออาทร จำนำข้าว เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ถุงมือยาง ฯลฯ




บ่อยครั้งที่พบว่ามีการวางแผน ‘สมรู้ร่วมคิด ล็อคสเปค ฮั้วประมูล’ อยู่เบื้องหลัง การเปิดประมูลอีบิดดิ้งกลายเป็นเรื่องบังหน้า กลไกปกติในการป้องกันคอร์รัปชันอย่าง ป.ป.ช. และศาลก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ประชาชนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีการโกงกิน ทำให้รัฐเสียหาย ซื้อแพงเกินเหตุ ของใช้การไม่ได้ หรือไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไปก็ตาม คำอวดอ้างที่ว่า ‘ไม่มีโกง เพราะทำถูกระเบียบ เป็นไปตามขั้นตอน’ จึงอาจเป็นเพียงคำลวงที่ทาให้พวกเขาดูดี แล้วลอยนวลกอบโกยได้ต่อไป

5. อย่าปล่อยตามยถากรรม
เชื่อว่า ครม. และ รฟท. มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นได้และหวังว่าจะทำด้วยจิตสานึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เปิดประมูลใหม่ทำให้มีการแข่งขันที่เปิดกว้างโปร่งใสกว่านี้ หรืออย่างน้อยก็ให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่ามีการเจรจาต่อรองกับผู้ประมูลให้ได้เงื่อนไขดีขึ้น ทำให้ถูกต้องชัดเจน นำมาตรการตาม “กฎหมายฮั้วประมูล” มาใช้เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องน่ากังขาแบบนี้อีก เพราะยังมีรถไฟทางคู่สายปากน้ำโพ – เด่นชัย และสายชุมพร – ปาดังเบซาร์ เปิดประมูลอีกเร็วๆ นี้

บทสรุป…
ถ้าเบื่อคอร์รัปชัน เราต้องสู้ เราคนไทยเจ้าของประเทศต้องไม่ถูกครอบงำ ต้องไม่นิ่งเฉยยอมรับชะตากรรม มาช่วยกันขุดคุ้ยเปิดโปง ช่วยกันโวย ปฏิเสธและก่นด่าพวกโกงชาติ พวกที่พร่ำชวนเชื่อว่าโปร่งใส แต่ไม่ยอมเปิดเผยให้ตรวจสอบ แถมไม่เปิดกว้างรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชน เพราะ ‘ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆ หน้า’

ซัดแรง รถไฟทางคู่ “เหนือ-อีสาน” แบ่งเค้ก – ฮั้วราคา หรือไม่?
หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
เสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลา15:33 น.


ดร.มานะถาม ดังๆ รถไฟทางคู่ “เหนือ-อีสาน”1.28แสนล้าน แบ่งเค้ก – ฮั้วราคา หรือไม่? ตั้งคำถามซัดแรง 5ข้อ ขาใหญ่ผูกขาด-แก้กติกา จี้รัฐบาลบิ๊กตู่ ประมูลใหม่ หลัง นักวิชาการ -นักการเมือง ดร.สามารถ-หมอระวี ออกมาเทียบชัด5สัญญาเสนอราคาห่างราคากลางแค่0.08-0.09%


ภายหลังการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดประมูล 2รถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ ช่วงบ้านไผ่-นครพนม 5สัญญา วงเงิน 1.28แสนล้านบาท สร้างความเคลือบแคลงใจ ไม่น้อยให้กับหลายฝ่าย เริ่มตั้งแต่ คุณหมอนักการเมือง นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ตั้งข้อสังเกตว่า การประกวดราคาครั้งนี้น่าจะนำมาสู่การฮั้ว-ล็อกสเปก ที่ส่อไปในทางช่วยให้ผู้รับเหมารายใหญ่ทั้ง5รายผ่านผลงานนำไปขอยื่นประมูล แถมเสนอราคาต่ำสุดห่างราคากลางเพียง 0.08-0.12% แบ่งงานกันครบราวกับตาเห็นหรือราวกับมีตาทิพย์จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบและเปิดประมูลใหม่ ตามด้วย ดร. สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกโรงหลายครั้งว่า 2เส้นทางคู่สายเหนือ-อีสานทั้ง5สัญญา ราคาที่เสนอห่างราคากลาง0.08-0.09%ทั้ง5สัญญา หากเทียบกับทางคู่สายใต้ นครปฐม-ชุมพรแล้ว ราคาเสนอห่างจากราคากลางถึง5.66% ช่วยรัฐประหยัดงบกว่า2,000 ล้านบาท เบื้องลึกมีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ ทำให้แต่ละสัญญามีมูลค่าสูง ขณะที่ สหภาพรัฐวิสาหกิจการรถไฟ ก็ออกมาเรียกร้องให้รฟท.ตรวจสอบในทำนองเดียวกันเพราะมองว่าไม่ชอบมาพากล ส่อไปในทางฮั้วประมูลเอื้อประโยชน์ให้เอกชนกลุ่มดังกล่าว ราวกับจับวาง รัฐต้องควักงบประมาณที่สูงหากไม่เกิดการแข่งขัน ยังไม่รวมนักการเมืองจากพรรคก้าวไกลที่พูดคราวประชุมในสภาผู้แทนราษฎร์ เรื่อง งบประมาณปี2565 ว่าการประมูล2รถไฟทางคู่ไม่โปร่งใส ในครั้งนั้นนายกศักดิ์ สยามชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลุกขึ้นชี้แจงว่าการประมูลเป็นไปตามระเบียบวัสดุถูกต้องโปร่งใส่ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนอย่างไรก็ตาม ประเมินว่า เรื่องนี้จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องทยอยออกมา ตั้งข้อสังเกตต่อเนื่อง และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ล่าสุด นักวิชาการ อย่างดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่12มิถุนายน หัวข้อเรื่อง” ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆหน้า “พร้อมตั้งคำถามที่เกี่ยวกับการประมูลครั้งนี้ว่า “ การประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน แบ่งเค้ก –ฮั้วราคาหรือไม่” หากเป็นเช่นนี้ขอให้รัฐบาลทบทวนเปิดประมูลใหม่ ดร.มานะ กล่าวว่า ข่าวการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า 1.28 แสนล้านบาทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อกังขาจากสังคมถึงความไม่โปร่งใสหลายประการ โดยมีข้อสังเกตดังนี้

1. กติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูลเพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้เงินงบประมาณ รัฐต้องจูงใจและส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมแข่งขันประมูลให้มากที่สุด ดังนั้นในปี 2558 ครม. จึงมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง ที่มี ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธาน กำหนดให้การประมูลรถไฟทางคู่ต้องกระจายงานออกเป็นสัญญาที่วงเงินต่อสัญญาไม่สูงเกินไปและแยกงานระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา เพื่อป้องกันการฮั้วประมูลและเปิดให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้ แต่มติ ครม. นี้กลับถูกยกเลิกไปตามข้อเสนอของรัฐมนตรีคมนาคมคนปัจจุบัน ก่อนที่การประมูลรอบใหม่จะเริ่มขึ้น เรื่องนี้ทำให้นึกถึงคดีทุจริตยาที่ศาลตัดสินจำคุกอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะใช้อำนาจสั่งให้ ‘ยกเลิก’ บัญชีราคากลางยาส่งผลให้ราคายาแพงขึ้น ถือเป็นคดีตัวอย่างคอร์รัปชันเชิงนโยบายจนถึงทุกวันนี้

2. แบ่งเค้ก – ฮั้วราคา หรือไม่?การประมูลครั้งนี้แยกเป็น 5 สัญญา ผลคือมีผู้เข้าประมูลเพียง 5 ราย แต่ละรายต่างชนะการประมูลรายละ1 สัญญา โดยราคาประมูลนั้นเกือบเท่าราคากลาง แตกต่างเฉลี่ยเพียงร้อยละ 0.08 ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับการประมูล 7 สัญญาช่วงปี 2558 – 2560 ที่บางสัญญาราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางเฉลี่ยมาก คือ ช่วงวิหารแดง - บุใหญ่ ต่ำกว่าถึงร้อยละ 31.99 และช่วงหัวหิน - ประจวบฯ ต่ำกว่าถึงร้อยละ 20.51 ประหยัดไปกว่าสามพันล้านบาท!!!

3. กลุ่มผูกขาดการประมูลครั้งนี้กำหนดเงื่อนไขที่ทำให้มีแต่ผู้รับเหมารายใหญ่หน้าเดิมๆ ยื่นซองแล้วเอางานไปคนละสัญญาแถมได้ราคาดี แต่ทำไมงานใหญ่ขนาดนี้ไม่เปลี่ยนเกมแข่งขัน โดยเปิดให้บริษัทต่างชาติที่ทุนหนา เทคโนโลยีสูงมาร่วมประมูลจะได้มีตัวเปรียบเทียบกันมากขึ้น ผลประโยชน์และการประหยัดงบประมาณจะเกิดกับประเทศ

4. ถูกกฎหมาย แต่ขัดใจประชาชนบ้านเมืองของเรามีคดีคอร์รัปชันมากมายที่กว่าจะถูกจับโกงได้ก็ผลาญชาติจนเสียหายไปมากแล้ว เพราะสังคมหลงเชื่อคนมีอำนาจที่คอร์รัปชันแต่ปากก็อ้างว่าโปร่งใส ทุกอย่างถูกกฎหมายแล้ว เช่น กรณีสนามฟุตซอล คลองด่าน โฮปเวลล์ บ้านเอื้ออาทร จำนำข้าว เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ถุงมือยาง ฯลฯ บ่อยครั้งที่พบว่ามีการวางแผน ‘สมรู้ร่วมคิด ล็อคสเปค ฮั้วประมูล’ อยู่เบื้องหลัง การเปิดประมูลอีบิดดิ้งกลายเป็นเรื่องบังหน้า กลไกปกติในการป้องกันคอร์รัปชันอย่าง ป.ป.ช. และศาลก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ประชาชนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีการโกงกิน ทำให้รัฐเสียหาย ซื้อแพงเกินเหตุ ของใช้การไม่ได้ หรือไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไปก็ตาม คำอวดอ้างที่ว่า ‘ไม่มีโกง เพราะทำถูกระเบียบ เป็นไปตามขั้นตอน’ จึงอาจเป็นเพียงคำลวงที่ทาให้พวกเขาดูดี แล้วลอยนวลกอบโกยได้ต่อไป

5. อย่าปล่อยตามยถากรรมเชื่อว่า ครม. และ รฟท. มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นได้และหวังว่าจะทำด้วยจิตสานึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เปิดประมูลใหม่ทำให้มีการแข่งขันที่เปิดกว้างโปร่งใสกว่านี้ หรืออย่างน้อยก็ให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่ามีการเจรจาต่อรองกับผู้ประมูลให้ได้เงื่อนไขดีขึ้น ทำให้ถูกต้องชัดเจน นำมาตรการตาม ‘กฎหมายฮั้วประมูล’ มาใช้เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องน่ากังขาแบบนี้อีก เพราะยังมีรถไฟทางคู่สายปากน้ำโพ - เด่นชัย และสายชุมพร – ปาดังเบซาร์ เปิดประมูลอีกเร็วๆ นี้บทสรุป…ถ้าเบื่อคอร์รัปชัน" เราต้องสู้ เราคนไทยเจ้าของประเทศต้องไม่ถูกครอบงำ ต้องไม่นิ่งเฉยยอมรับชะตากรรม มาช่วยกันขุดคุ้ยเปิดโปง ช่วยกันโวย ปฏิเสธและก่นด่าพวกโกงชาติ พวกที่พร่ำชวนเชื่อว่าโปร่งใส แต่ไม่ยอมเปิดเผยให้ตรวจสอบ แถมไม่เปิดกว้างรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชน" เพราะ ‘ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆ หน้า"


Last edited by Wisarut on 14/06/2021 12:47 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44465
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/06/2021 10:47 am    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ เคลียร์ทุกปม ประมูลรถไฟทางคู่
Jun 14, 2021
การรถไฟแห่งประเทศไทย Official


https://www.youtube.com/watch?v=lBFi7_KQFOU

นายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
รฟท. ชี้แจงเคลียร์ทุกปม ประมูลรถไฟทางคู่

ที่มา :

ตามที่มีประเด็นการกล่าวอ้างของนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน โดยการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Mana Nimitmongkol หัวข้อ เรื่อง “ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆ หน้า” โดยตั้งข้อสังเกตว่าการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า 1.28 แสนล้านบาท มีความไม่โปร่งใส อาจมีการล็อคสเปค ฮั้วประมูลอยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่การเปิดประมูล e-bidding บังหน้า ขณะที่กลไกตรวจสอบปกติในการป้องกันคอร์รัปชันอย่าง ป.ป.ช.และศาลกลับทำอะไรไม่ได้
ข้อเท็จจริง :

การรถไฟฯ ขอเรียนชี้แจง ดังนี้
1. กติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูล
การกล่าวหาว่ากติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูล การรถไฟฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนการแบ่งสัญญา 6+1 ของซูปเปอร์บอร์ด เป็น 3 สัญญารวมการติดตั้งอาณัติสัญญาณ เหมือนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติรอบแรก เพราะมีประสบการณ์เปรียบเทียบสัญญาใหญ่รวม SNL ในทางคู่เส้นทางสายชุมทางจิระ กับชุมทางแก่งคอย เป็นโครงการที่มีความสำเร็จเสร็จใกล้เคียงเป้าหมายล่าช้าเพียง 6 เดือน จากปัจจัยภายนอก เช่น การเวนคืน และการปรับแบบสถานีบ้านไผ่ที่มีชาวบ้านเรียกร้องมา ส่วนทางคู่เฟส 1 ทั้ง 3 สายทาง แบ่งแยก SNL ปัจจุบันพบว่า กำหนดแล้วเสร็จของโครงการจะล่าช้าออกไปมากกว่า 2 ปี เพราะมีความล่าช้าตั้งแต่การประกวดราคา inter bid ของงานระบบอาณัติสัญญาณ และการประสานการทำงาน การส่งต่อข้อมูล การมอบพื้นที่ ระหว่างงานโยธากับ SNL จึงเป็นประสบการณ์ว่าการแบ่งสัญญาใหญ่รวม SNL มีผลกับความสำเร็จในการดำเนินงานมากกว่าการแบ่งเป็นสัญญาย่อย ซึ่งไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะเกิดการแข่งขันราคาได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งด้วยสถานการณ์ที่ค่าวัสดุเหล็กปรับตัวสูงขึ้นถึง 40% ในการประกวดราคาครั้งนี้

2. แบ่งเค้ก – ฮั้วราคา หรือไม่?
การกล่าวหาว่ามีการแบ่งเค้ก และฮั้วราคา เป็นเรื่องของการคาดเดาและเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของผู้กล่าวหา ในส่วนของการรถไฟฯ ได้ดำเนินการทุกอย่างตามระเบียบขอบเขตของการรถไฟฯ เรามีการตรวจสอบการมีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ยื่นข้อเสนออย่างครบถ้วน ในส่วนของการยื่น ไม่ยื่น หรือยื่นอย่างไรของผู้ประกอบการเราไม่รู้ได้ การรถไฟฯ ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนของการประกวดราคา ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัดแล้ว ซึ่งระบบการประกวดราคาแบบ e-Bidding เป็นระบบที่ได้พัฒนารูปแบบจากการประกวดราคาด้วยวิธีการยื่นซอง เป็นการประกวดราคาแบบ e-Auction จนกระทั่งเป็นการประกวดราคาแบบ e-Bidding ซึ่งถือว่าเป็นระเบียบที่มีความโปร่งใสมากที่สุดในปัจจุบันของทางราชการ

3. กลุ่มผูกขาด ไม่เชิญต่างชาติเข้าแข่งขัน
การรถไฟฯ ดำเนินการตามนโยบาย Thai First ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน เป็นการสนับสนุนการจ้างงานในประเทศไทย จึงกำหนดให้ถ้ามีบริษัทที่ยื่นประมูลเป็นคนไทยสามารถยื่นประมูลได้ แต่หากยื่นเป็นกลุ่มผู้นำกลุ่มต้องเป็นคนไทย อย่างไรก็ตามงานก่อสร้างอุโมงค์ต้องมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เพิ่มการแข่งขันของงานก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย เชียงราย เชียงของ ซึ่งกำหนดให้งานอุโมงค์ผู้ที่จะยื่นประมูลสามารถนำผลงานในไทยหรือใช้ผลงานจากต่างประเทศได้ และหากผู้ร่วมประมูลเป็นต่างชาติก็สามารถเข้าร่วมกับบริษัทของไทยที่มีผลงานทางรถไฟ นอกจากนั้นแล้ว 2 โครงการนี้ การรถไฟฯ ใช้เงินกู้ภายในประเทศ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ยังซบเซาคงต้องส่งเสริมและกระตุ้นธุรกิจภายในประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ

4. ถูกกฎหมายแต่ขัดใจประชาชน
การรถไฟฯ ขอยืนยันว่าการดำเนินงานทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด ในช่วงเผยแพร่เอกสารประกวดราคา แบบ ราคากลาง และเอกสารอื่นๆ ทั้งหมด ได้มีการนำลงในเวบไซต์กรมบัญชีกลาง และการรถไฟฯ ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 พร้อมกับมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน ผู้ประกอบการ และผู้สนใจ สามารถเข้าดูและโหลดเอกสารได้ อีกทั้ง สามารถให้ความเห็นผ่านช่องทางที่กำหนด จริงๆ ผู้ที่วิจารณ์ในตอนนี้ก็สามารถเข้าดู และแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่ช่วงดังกล่าว แล้วผู้กล่าวอ้าง มั่นใจอย่างไร ว่าขัดใจประชาชนไปทั้งหมด ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ต่างรอคอย เฝ้ารอโครงการอย่างจดจ่อ โดยเฉพาะสายเด่นชัย – เชียงราย - เชียงของ ประชาชนรอคอยกันมาหลายสิบปี นับตั้งแต่ริเริ่มโครงการ ในสายบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ก็เช่นเดียวกัน ประชาชนต่างเฝ้ารอคอยการเกิดขึ้นของโครงการทางรถไฟในเส้นทางสายนี้ที่จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในจังหวัด

5. อย่าปล่อยตามยถากรรม
รฟท. รับหน้าที่จากรัฐบาลให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 2 เส้นทางนี้ ให้ลุล่วงตามเป้าหมายและแผนงานที่วางไว้ หากจะมองแต่เรื่องการประมูลงานอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องมองความสำเร็จภาพรวมของงานที่ได้รับมอบหมาย และเป็นไปตามเวลาที่วางไว้เป็นสำคัญอีกด้วย

การแก้ไขปัญหา : สำหรับประเด็นการกล่าวหาดังกล่าว การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการมอบหมายให้ที่ปรึกษาการประกวดราคาตรวจสอบยืนยัน ความเหมาะสมของเงื่อนไข และราคากลางของงาน พบว่า ราคากลาง ราคาค่าก่อสร้างทั้ง งานโยธา/งานทางรถไฟ และอาณัติสัญญาณฯ เฉลี่ย ต่อ กม. ของโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ และทางคู่สาย บ้านไผ่ - มุกดาหาร – นครพนม มีราคาต่อ กม. ต่ำกว่าโครงการทางคู่ที่ก่อสร้างมาก่อนหน้านี้ทุกสาย และยังพบว่า ราคาค่าก่อสร้างอุโมงค์ ต่อ กม.ของคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ต่ำกว่างานก่อสร้างอุโมงค์ ช่วงมาบกะเบาในทางคู่ ระยะที่ 1 ของสายตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆ ที่สภาพพื้นดินสายเด่นชัยฯ เป็นชั้นหินผุ ซึ่งทำงานยากกว่า จึงพิสูจน์ได้ว่าราคากลางของโครงการทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ และทางคู่สาย บ้านไผ่ - มุกดาหาร – นครพนม มีราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทางราชการสูงสุด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44465
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/06/2021 2:20 pm    Post subject: Reply with quote

ศึกรถไฟทางคู่เหนือ - อีสาน ร้อนถึงกรรมการ “ประยุทธ์”
กรุงเทพธุรกิจ 14 มิถุนายน 2564 วรรณิกา จิตตินรากร

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ประกอบด้วย สายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่า 7.29 หมื่นล้านบาท และสายอีสาน ช่วงบ้านไผ่ - นครพนมมูลค่า 5.46 หมื่นล้านบาท

ขณะนี้ คณะกรรมการคัดเลือกอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ ประเมินคุณสมบัติด้านเทคนิค และข้อเสนอด้านราคา ตามไทม์ไลน์คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ประกาศผลผู้ชนะประมูลในเดือน ก.ค.นี้ และลงนามในสัญญาช่วงเดือน ส.ค.2564 ก่อนจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี เพื่อเร่งเปิดให้บริการรถไฟสายใหม่ในปี 2569

การเปิดประมูลรถไฟทางคู่สายใหม่ครั้งนี้ อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจหลังชะงักจากพิษโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินก้อนใหญ่ระดับแสนล้าน และสร้างขีดความสามารถของระบบขนส่งทางรางไทยให้เพิ่มขึ้น

แต่ก็มีกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่าหนาหูภายหลัง ร.ฟ.ท.ประกาศผลผู้เสนอราคาต่ำสุด พบว่ารายชื่อนั้นเป็น “บิ๊กรับเหมา” เบอร์ต้นๆ ของประเทศ โดยมีการเสนอราคาที่ต่ำกว่าราคากลางไม่มากนัก และขณะนี้ร้อนหนักถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากการยื่นหนังสือของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 5 สัญญา “ส่อฮั้วประมูล” มีไอ้โม่งขาใหญ่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ???

สาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ระบุในเวทีเสวนา ประมูลรถไฟทางคู่ บทพิสูจน์ นายกฯ เดินหน้าต่อต้านทุจริต เป็นวาระแห่งชาติ? เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่ากระบวนร่างเอกสารประกวดราคา หรือทีโออาร์ มีการรับฟังความคิดเห็น และปรับปรุงหลายครั้ง แต่ผลออกมากลับพบว่าราคาข้อเสนอต่ำกว่าราคากลางน้อยมาก อยู่ที่ 0.08% เท่ากันทั้ง 2 สาย จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก

อีกทั้งรถไฟทางคู่สายเหนือ และสายอีสานนี้ ถือเป็นเส้นทางใหม่ สายเหนือเป็นเส้นทางที่ต้องใช้เทคนิคสูง มีงานเจาะอุโมงค์ผ่านภูเขา มูลค่าโครงการจึงสูงกว่าสายอื่นๆ แต่ประเด็นที่ราคาประมูลออกมาต่ำแค่ 0.08% ถือเป็นเรื่องที่ผิดสังเกต ซึ่งยังพอมีเวลาตรวจสอบความถูกต้องโปร่งใส

สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในผู้ร่วมเวทีเสวนาครั้งนี้ ระบุว่ากังขาและประหลาดใจ จากราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางแบบเฉียดฉิว อีกทั้งการประมูลนี้มีมูลค่าสูง ผู้รับเหมาขนาดใหญ่เท่านั้นที่ยื่นประมูลได้ ส่วนผู้รับเหมาขนาดกลาง หากจะเข้าร่วมต้องไปร่วมมือกับรายใหญ่ในลักษณะของกิจการร่วมค้า

ด้านศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาในวาระงบประมาณประจำปี 2565 และข่าวประชาสัมพันธ์ว่า การประมูลนี้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ที่เรียกว่า e-bidding กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนประเด็นที่ว่าราคาเสนอมาใกล้เคียงกัน ถ้าสงสัยก็ต้องไปดูในเรื่องของผู้รับจ้าง ว่าผู้รับจ้างทำไมถึงเสนอราคาใกล้เคียงกัน เพราะเรื่องอย่างนี้คิดว่าเป็นเรื่องที่สอบถามได้อยู่แล้ว

จากเวทีโต้วาทีที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ในระยะเวลาระหว่างการพิจารณาข้อเสนอเอกชนราว 1 เดือนที่เหลืออยู่ โครงการประมูลรถไฟสายใหม่เหนือ - อีสาน จะขับเคลื่อนฉลุย จะติดหล่ม หรือต้องรอกรรมการกลางมาตัดสิน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 14/06/2021 6:31 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.โต้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ชี้ประมูลทางคู่รวมอาณัติสัญญาณแก้ก่อสร้างล่าช้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: จันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 14:55 น.
ปรับปรุง: จันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 14:55 น.

รฟท.โต้ “องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น” ครหาฮั้วแบบคาดเดา ยันรวมงานอาณัติสัญญาณประมูลทางคู่เหมาะสม ยันแยกสัญญาย่อยไม่ได้ประกันว่าได้ราคาถูก ชี้เทียบต่อ กม.ต่ำกว่าทุกสาย รวมถึงค่าอุโมงค์สายเด่นชัยต่ำกว่าสายมาบกะเบาทั้งที่งานยากกว่า

จากกรณีที่นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน โดยการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Mana Nimitmongkol หัวข้อ เรื่อง “ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆ หน้า” โดยตั้งข้อสังเกตว่าการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า 1.28 แสนล้านบาทมีความไม่โปร่งใส อาจมีการล็อกสเปก ฮั้วประมูลอยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่การเปิดประมูล e-bidding บังหน้า ขณะที่กลไกตรวจสอบปกติในการป้องกันคอร์รัปชันอย่าง ป.ป.ช.และศาลกลับทำอะไรไม่ได้ พร้อมเรียกร้องประชาชนให้ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในประเทศ

นายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงว่า
กรณีระบุว่ามีกติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูลนั้น รฟท.ได้มีการปรับเปลี่ยนการแบ่งสัญญา 6+1 ของซูเปอร์บอร์ด เป็น 3 สัญญารวมการติดตั้งอาณัติสัญญาณ เหมือนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติรอบแรก เพราะมีประสบการณ์จากการเปรียบเทียบสัญญาใหญ่ที่รวมงานระบบอาณัติสัญญาณ SNL ในทางคู่เส้นทางสายชุมทางจิระ กับชุมทางแก่งคอย ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำเร็จเสร็จใกล้เคียงเป้าหมายล่าช้าเพียง 6 เดือนจากปัจจัยภายนอก เช่น การเวนคืน และการปรับแบบสถานีบ้านไผ่ที่มีชาวบ้านเรียกร้องมา

ส่วนทางคู่เฟส 1 ทั้ง 3 สายทาง แบ่งแยกงานระบบอาณัติสัญญาณ ปัจจุบันพบว่ากำหนดแล้วเสร็จของโครงการจะล่าช้าออกไปมากกว่า 2 ปี เพราะมีความล่าช้าตั้งแต่การประกวดราคานานาชาติ หรือ inter bid ของงานระบบอาณัติสัญญาณ และการประสานการทำงาน การส่งต่อข้อมูล การมอบพื้นที่ ระหว่างงานโยธากับอาณัติสัญญาณ จึงเป็นประสบการณ์ว่าการแบ่งสัญญาใหญ่รวม อาณัติสัญญาณมีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานมากกว่าการแบ่งเป็นสัญญาย่อย ซึ่งไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะเกิดการแข่งขันราคาได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งด้วยสถานการณ์ที่ค่าวัสดุเหล็กปรับตัวสูงขึ้นถึง 40% ในการประกวดราคาครั้งนี้

กรณีข้อกล่าวหาว่ามีการแบ่งเค้ก และฮั้วราคาหรือไม่ นั้น เป็นเรื่องของการคาดเดาและเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของผู้กล่าวหา ในส่วนของ รฟท.ได้ดำเนินการทุกอย่างตามระเบียบขอบเขตของ รฟท. มีการตรวจสอบการมีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ยื่นข้อเสนออย่างครบถ้วน ในส่วนของการยื่น ไม่ยื่น หรือยื่นอย่างไรของผู้ประกอบการเราไม่รู้ได้ รฟท.ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนของการประกวดราคา ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัดแล้ว ซึ่งระบบการประกวดราคาแบบ e-Bidding เป็นระบบที่ได้พัฒนารูปแบบจากการประกวดราคาด้วยวิธีการยื่นซอง เป็นการประกวดราคาแบบ e-Auction จนกระทั่งเป็นการประกวดราคาแบบ e-Bidding ซึ่งถือว่าเป็นระเบียบที่มีความโปร่งใสมากที่สุดในปัจจุบันของทางราชการ

ประเด็นกลุ่มผูกขาด ไม่เชิญต่างชาติเข้าแข่งขันนั้นเนื่องจาก รฟท.ดำเนินการตามนโยบาย Thai First ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน เป็นการสนับสนุนการจ้างงานในประเทศไทย จึงกำหนดให้ถ้ามีบริษัทที่ยื่นประมูลเป็นคนไทยสามารถยื่นประมูลได้ แต่หากยื่นเป็นกลุ่มผู้นำกลุ่มต้องเป็นคนไทย

อย่างไรก็ตาม งานก่อสร้างอุโมงค์ต้องมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เพิ่มการแข่งขันของงานก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย เชียงราย เชียงของ ซึ่งกำหนดให้งานอุโมงค์ผู้ที่จะยื่นประมูลสามารถนำผลงานในไทยหรือใช้ผลงานจากต่างประเทศได้ และหากผู้ร่วมประมูลเป็นต่างชาติก็สามารถเข้าร่วมกับบริษัทของไทยที่มีผลงานทางรถไฟ นอกจากนั้นแล้ว 2 โครงการนี้การรถไฟฯ ใช้เงินกู้ภายในประเทศ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ยังซบเซา คงต้องส่งเสริมและกระตุ้นธุรกิจภายในประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ

ส่วนกรณีทถูกกฎหมาย แต่ขัดใจประชาชนนั้น ขอยืนยันว่าการดำเนินงานทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด ในช่วงเผยแพร่เอกสารประกวดราคา แบบราคากลาง และเอกสารอื่นๆ ทั้งหมด ได้มีการนำลงในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง และการรถไฟฯ ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 พร้อมกับมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน ผู้ประกอบการ และผู้สนใจสามารถเข้าดูและโหลดเอกสารได้ อีกทั้งสามารถให้ความเห็นผ่านช่องทางที่กำหนด จริงๆ ผู้ที่วิจารณ์ในตอนนี้ก็สามารถเข้าดู และแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่ช่วงดังกล่าว แล้วผู้กล่าวอ้าง มั่นใจอย่างไรว่าขัดใจประชาชนไปทั้งหมด ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ต่างรอคอย เฝ้ารอโครงการอย่างจดจ่อ โดยเฉพาะสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ประชาชนรอคอยกันมาหลายสิบปี นับตั้งแต่ริเริ่มโครงการ ในสายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ก็เช่นเดียวกัน ประชาชนต่างเฝ้ารอคอยการเกิดขึ้นของโครงการทางรถไฟในเส้นทางสายนี้ที่จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในจังหวัด



ซึ่งไม่มีการปล่อยตามยถากรรม รฟท.รับหน้าที่จากรัฐบาลให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 2 เส้นทางนี้ให้ลุล่วงตามเป้าหมายและแผนงานที่วางไว้ หากจะมองแต่เรื่องการประมูลงานอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องมองความสำเร็จภาพรวมของงานที่ได้รับมอบหมาย และเป็นไปตามเวลาที่วางไว้เป็นสำคัญอีกด้วย

นายสุรณเดชกล่าวว่า รฟท.ไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการมอบหมายให้ที่ปรึกษาการประกวดราคาตรวจสอบยืนยัน ความเหมาะสมของเงื่อนไข และราคากลางของงาน พบว่า ราคากลาง ราคาค่าก่อสร้างทั้งงานโยธา/งานทางรถไฟ และอาณัติสัญญาณฯ เฉลี่ยต่อ กม.ของโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และทางคู่สายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม มีราคาต่อ กม.ต่ำกว่าโครงการทางคู่ที่ก่อสร้างมาก่อนหน้านี้ทุกสาย และยังพบว่าราคาค่าก่อสร้างอุโมงค์ต่อ กม.ของคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ต่ำกว่างานก่อสร้างอุโมงค์ ช่วงมาบกะเบาในทางคู่ ระยะที่ 1 ของสายตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆ ที่สภาพพื้นดินสายเด่นชัยฯ เป็นชั้นหินผุ ซึ่งทำงานยากกว่า จึงพิสูจน์ได้ว่าราคากลางของโครงการทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และทางคู่สายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม มีราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการสูงสุด

Mongwin wrote:
การรถไฟฯ เคลียร์ทุกปม ประมูลรถไฟทางคู่
Jun 14, 2021
การรถไฟแห่งประเทศไทย Official
https://www.youtube.com/watch?v=lBFi7_KQFOU
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44465
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/06/2021 8:22 am    Post subject: Reply with quote

ฮือฮา! พบพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ใกล้ทางรถไฟที่นครปฐม
เผยแพร่: 15 มิ.ย. 2564 16:48 ปรับปรุง: 15 มิ.ย. 2564 16:48 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กรมศิลปากร เผยพบพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ใกล้ทางรถไฟบริเวณโบราณสถานวัดพระงาม จังหวัดนครปฐม

นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ได้ทราบข่าวว่ามีกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง พบพระพุทธรูปโบราณทิ้งอยู่ริมถนนใกล้โบราณสถานวัดพระงาม จังหวัดนครปฐม และได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐม ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าพระพุทธรูปดังกล่าวถูกพบระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางรถไฟ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ขณะที่รถแบคโฮได้ขุดลงไปที่ความลึกประมาณ 4 เมตร จึงมีการนำส่วนขององค์พระพุทธรูปไปวางไว้บริเวณป้อมของเจ้าหน้าที่กั้นทางรถไฟ และนำส่วนเศียรไปไว้ที่บริเวณเจดีย์วัดพระงาม

นายประทีป กล่าวว่าได้มอบหมายให้ สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานและนำพระพุทธรูปมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์ วิเคราะห์รูปแบบศิลปกรรมเพิ่มเติม ซึ่งผลการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า เป็นพระพุทธรูปศิลปะทวารวดีปางสมาธิ สลักจากหินสีเทา แตกเป็น 2 ชิ้น ขนาดหน้าตักกว้าง 50 เซนติเมตร สูงรวมพระเศียร 79 เซนติเมตร ประทับขัดสมาธิราบ ครองจีวรห่มคลุม บางแนบพระองค์ พระหัตถ์ข้างขวาวางซ้อนเหนือพระหัตถ์ซ้ายบนพระเพลา พระหัตถ์และพระบาทมีขนาดใหญ่ ฐานสลักเป็นรูปกลีบบัวหงาย พระพักตร์แสดงลักษณะพื้นเมือง รูปค่อนข้างยาว พระหนุป้าน พระขนงต่อกันเป็นรูปปีกกา พระเนตรเหลือบต่ำ เม็ดพระศกใหญ่ โอษฐ์หนา แบะกว้าง แย้มพระโอษฐ์ มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12-16 หรือประมาณ 1,000 – 1,400 มาแล้ว ซึ่งพระพุทธรูปทวารวดีนั้นโดยทั่วไปสร้างขึ้นในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท โดยได้รับรูปแบบแรงบันดาลใจมาจากศิลปะอินเดียแบบอมราวดี คุปตะ หลังคุปตะ และปาละ นับเป็นพุทธศิลป์รุ่นแรกในดินแดนประเทศไทย สะท้อนถึงการรับอิทธิพลศิลปกรรมจากต่างแดน เข้ามาผสมผสานกับสุนทรียภาพของท้องถิ่นจนเกิดเป็นรูปแบบของตนเอง

พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในคลังของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารและพัฒนาการจัดแสดงนิทรรศการถาวร ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2564 โดยพระพุทธรูปที่พบใหม่นี้ จะอยู่ในกลุ่มโบราณวัตถุสำคัญ ที่จะนำมาจัดแสดงในนิทรรศการถาวรในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 292, 293, 294 ... 389, 390, 391  Next
Page 293 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©