View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
Posted: 22/06/2021 7:33 pm Post subject: |
|
|
จากกรุงเทพฯ-อีอีซีความท้าทาย ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน
โดย ประธาน จิวจินดา หัวหน้าส่วนวิจัยนโยบายรัฐและปัจจัยทางธุรกิจ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
21 มิถุนายน 2564
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้นำเสนอความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้นำเสนอความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ภายหลังได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2562 เป็นโครงการสัญญาร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 2 แสนล้านบาท ปัจจุบันมีความคืบหน้าทั้งด้านความพร้อมส่งมอบพื้นที่ซึ่งมีความคืบหน้า 86% ให้กับบริษัทเอกชนคู่สัญญาภายในเดือนก.ย.นี้
ขณะที่บริษัทเอกชนคู่สัญญาก็ได้ดำเนินการออกแบบและเริ่มงานเตรียมการก่อสร้าง (early work) แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4-5 ปี และจะเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ ถึงอู่ตะเภา ในปี 2568
นอกจากนี้ ยังจะมีการส่งมอบระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ให้กับบริษัทเอกชนคู่สัญญาภายในวันที่ 24 ต.ค.2564 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินด้วย โดยใช้แนวเส้นทางแอร์พอร์ต เรลลิงก์ เดิมที่เปิดให้บริการในปัจจุบันระยะทาง 29 กม. และการก่อสร้างส่วนต่อขยาย 2 ช่วงรวมระยะทาง 191 กม. คือจากสถานีพญาไทไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีสุวรรณภูมิไปยังสนามบินอู่ตะเภา รวมแนวเส้นทางผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
หลังการส่งมอบระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การปรับปรุงระบบไฟฟ้า การปรับปรุงสถานี ตลอดจนการปรับเปลี่ยนตู้ขนสัมภาระจำนวน 4 ตู้ ให้เป็นตู้รองรับผู้โดยสารทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น และลดการรอคอยขบวนรถไฟในชั่วโมงเร่งด่วน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างน้อย 4 ประการ คือ ประการแรก การพลิกสถานะแอร์พอร์ตลิงก์จากขาดทุนเป็นกำไร ซึ่งโครงการแอร์พอร์ตลิงก์เดิมมีหนี้ประมาณ 33,000 ล้านบาท และขาดทุนทุกปี ปีละประมาณ 300 ล้านบาท (ข้อมูลจากสกพอ.)
ประการที่สอง การพัฒนาสถานีมักกะสัน 150 ไร่โดยประมาณ และสถานีศรีราชา 25 ไร่ ให้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งหมายถึงการเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ต้องส่งเสริมให้เกิดการใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นอย่างยั่งยืนด้วย ประการสำคัญต้องตระหนักถึงพฤติกรรมผู้บริโภคอาจเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่หลังโควิด-19
ประการที่สาม โครงการนี้เป็น PPP net cost กล่าวคือ เอกชนได้รับสิทธิในการจัดเก็บรายได้และจัดสรรผลตอบแทนบางส่วนให้แก่ภาครัฐตามข้อตกลง ทั้งนี้ เอกชนต้องลงทุนก่อสร้างก่อนใน 5 ปีแรก แล้วรัฐลงทุนตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นเวลา 10 ปี แต่เอกชนก็ต้องรับความเสี่ยงจากการดำเนินงานทั้งภาระดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงแรก รวมถึงในช่วงหลังหากเกิดกรณีจำนวนผู้โดยสารไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ประการสุดท้าย การเวนคืนที่ดินและการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างหากมีความล่าช้า ก็อาจส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างและระยะเวลาการเปิดให้บริการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนต่อขยายช่วงพญาไท-ดอนเมือง ระยะทาง 21.8 กม.ซึ่งจำเป็นต้องใช้ปรับปรุงรูปแบบทางวิ่งบางช่วงที่ร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีแดงที่เป็น Missing Link
อย่างไรก็ดี เมื่อโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเสร็จสมบูรณ์ จะช่วยสนับสนุนให้สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับสนามบินอู่ตะเภาเกิดเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่ของอีอีซีด้วย คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น การจ้างงานตลอดช่วงเวลาก่อสร้างสูงถึง 16,000 อัตรา รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ท่องเที่ยว วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ตลอดจนในอนาคต รถไฟความเร็วสูงเส้นนี้ก็จะเชื่อมโยงภูมิภาคทั้งใน CLMV อาเซียน และโครงการ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือ One Belt One Road ของจีนอีกด้วย
สถานีลาดกระบัง เริ่มมีการเคลียร์พื้นที่สำหรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแล้วครับ
https://www.facebook.com/ThaiRailNews/posts/4048158791932749 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 23/06/2021 7:34 am Post subject: |
|
|
เปิดดีเทล12หัวข้อทำHIAสถานีอยุธยา
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จับเวลา6เดือนอัพเดท'ยูเนสโก'ทุก30วัน
ลดไซซ์สถานีเหลือ20ม.หั่นทางวิ่งสูง15ม.
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), กรมการขนส่งทางราง (ขร.), กรมศิลปากร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อหารือถึง กรอบแนวทางการจัดทำการศึกษาประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรณีการก่อสร้างสถานีอยุธยา ในโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด)ไทย-จีน ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ- นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า มีขอบเขต การศึกษา 12 บท ได้แก่
1.การอธิบายคุณค่าความสำคัญของแหล่ง มรดกโลกฯ
2.สภาพปัจจุบันและสิ่งแวดล้อมของแหล่งมรดกโลกฯ
3.การอธิบายลักษณะพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องกับเส้นทางรถไฟ
4.รายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย
5.การกำหนดเกณฑ์และวิธีในการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลกฯ
6.การประเมินผลกระทบโครงการรถไฟความเร็วสูงที่มีต่อแหล่งมรดกโลกฯ
7.แนวทางและมาตรการ ลดผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลกฯ
8.ผลที่ อาจเกิดขึ้นในวงกว้าง ทั้งเชิงบวกและลบ
9.กรอบระยะเวลาในการดำเนินงานทุกขั้นตอน
10.เอกสารอ้างอิง
11.ภาคผนวก และ
12.องค์กรหรือบุคคลที่ให้คำปรึกษาแนะนำ
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งอีกว่า จะใช้เวลาศึกษาประมาณ 6 เดือน โดยกระทรวงคมนาคมเสนอที่ประชุมว่า จะรายงานผลความคืบหน้าการศึกษาทุก 1 เดือนให้องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ทราบทันที จะไม่รอให้ผลการศึกษาแล้วเสร็จทั้งหมดจึงจะรายงาน เพื่อลดข้อกังวลของยูเนสโก รวมถึงให้ยูเนสโกได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และมีความใหม่อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมยินดีรับฟังทุกข้อเสนอแนะ ซึ่งการประชุมครั้งนี้กรมศิลปากรยอมรับว่า ยูเนสโกไม่ได้ระบุว่าต้องสร้างอุโมงค์ลอดพื้นที่มรดกโลก หรือเปลี่ยนเส้นทางใหม่อ้อมเมือง เพียงแค่กังวลว่าอาจกระทบต่อแหล่งมรดกโลกหรือไม่ จึงให้ทำ HIA ซึ่งกระทรวงคมนาคมไม่ได้ขัดข้อง และพยายามจะทำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะความสูงของตัวสถานีอยุธยา และโครงสร้างทางวิ่ง (สันราง) ซึ่งจะลองปรับลดขนาดลง และศึกษาดูว่าหากปรับแล้วจะมีผลกระทบใด ๆ หรือไม่
เบื้องต้นจะลองปรับขนาดตัวสถานีลงอีกเป็นครั้งที่ 2 จากเดิมครั้งแรกสูง 45 เมตร เหลือ 32 เมตร หรือลดลง 13 เมตร และล่าสุดจะให้เหลือไม่เกิน 20 เมตร หรือลดลงไปอีก 12 เมตร โดยจะใช้วิธีตัดพื้นที่ชั้น 2 ที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสารออกไป และย้ายมาจำหน่ายตั๋วที่ชั้น 1 ในจุดเดียวกับจุดที่จำหน่ายตั๋วรถไฟทางคู่ ดังนั้นสถานีจะเหลือแค่ 2 ชั้นคือ ชั้นที่ 1 จำหน่ายตั๋ว และชั้น 2 ชานชาลา ส่วนโครงสร้างทางวิ่งเดิมสูง 19 เมตร จะลดลงไป 4 เมตรเหลือ 15 เมตร ทั้งนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง เพราะยังมีปัจจัยเรื่องสะพานเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นบางจุดใกล้สะพานอาจยังต้องสูง 19 เมตรอยู่ แต่จะลองดูว่าหากข้ามสะพานแล้วลดระดับลงทันทีได้หรือไม่ ซึ่งน่าจะปลอดภัย แต่ผู้โดยสารอาจรู้สึกหวาดเสียวเล็กน้อย. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
Posted: 24/06/2021 5:16 pm Post subject: |
|
|
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายจีน โครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย จีน
วันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย ประชุมทางไกล (Video Conference) กับหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายจีน เกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินงานของโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ นครราชสีมา) การจัดทำร่างบันทึกแนบท้ายสัญญา 2.2 ความก้าวหน้าการออกแบบโครงการฯ และความร่วมมือของโครงการ ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย เพื่อนำข้อสรุปในการหารือร่วมกันเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 29 ในวันที่ 25 มิถุนายน 2564 (รูปแบบการประชุมทางไกล Video Conference) โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ร่วมประชุม
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4180747028638877
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายจีน โครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย จีน
วันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 น. นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย ประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายจีน เกี่ยวกับการเชื่อมโยงโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงหนองคาย - เวียงจันท์ และข้อกำหนดในการออกแบบ (Design Criteria) ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง เพื่อนำข้อสรุปในการหารือร่วมกันเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 29 ในวันที่ 25 มิถุนายน 2564 (รูปแบบการประชุมทางไกล Video Conference) โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ร่วมประชุม
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4180853758628204 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
Posted: 25/06/2021 6:21 pm Post subject: |
|
|
ลุยรถไฟไทย-จีน เชื่อมโยงอนุภูมิภาคลุ่มน้ําโขง-อาเซียน
หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
วันที่ 25 มิถุนายน 2564 19:24 น.
ศักดิ์สยาม ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้าน รถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 29 ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงอนุภูมิภาคลุ่มน้ําโขง และอาเซียน ความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย จีน การเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ .
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้าน รถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 29 ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงอนุภูมิภาคลุ่มน้ําโขง และอาเซียน ความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย จีน การเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์
.
วันที่ 25 มิถุนายน 2564 การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ ๒๙ จัดขึ้นใน รูปแบบของการประชุมทางไกล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายนิ่ง จีเจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เป็นประธานร่วมการประชุม โดยมีผู้แทนกรมการขนส่งทางราง การรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวว่า ภายใต้นโยบายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเทศไทย ส่งเสริมความเชื่อมโยงภายในประเทศไทย อนุภูมิภาคลุ่มน้ําโขง และอาเซียน ตลอดจนได้มีการเสนอประเด็นที่ไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนสามารถขยายความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และระหว่างประเทศ ที่สอดคล้องกับนโยบายและวาระแห่งชาติของไทย รวมทั้งวิสัยทัศน์และแผนงานที่เกี่ยวข้องของนายศักดิ์สยามฯ ภายใต้ กรอบความร่วมมือรถไฟไทย-จีน โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน และนําไปสู่ การสร้างใหม่ให้ดีกว่าเดิม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งมีข้อสรุปสําคัญจากการประชุม ดังนี้
.
1. ฝ่ายไทยแจ้งความก้าวหน้างานโยธา ระยะแรก สําหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ฝ่ายจีน รับทราบความก้าวหน้างานโยธาระยะแรกในช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ซึ่งงานโยธาส่วนใหญ่ได้เริ่มดําเนินการ แล้ว ฝ่ายไทยได้จัดตั้งสํานักงานบริหารโครงการเพื่อเร่งรัดการดําเนินการ ทั้งสองฝ่ายจะใช้ความพยายามอย่าง สูงสุดเพื่อให้สามารถดําเนินการก่อสร้างได้ตามแผนงาน
.
2. ฝ่ายจีนรับทราบความก้าวหน้าของโครงการช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ซึ่งอยู่ระหว่างการ ดําเนินการ ฝ่ายไทยได้ข้อสรุปสําหรับงานออกแบบรายละเอียดแล้ว โดยผลการศึกษาใกล้ที่จะแล้วเสร็จ ฝ่าย ไทยขอให้ฝ่ายจีนจัดหาที่ปรึกษาตรวจสอบแบบ ฝ่ายจีนเห็นว่างานบริการที่ปรึกษาควรดําเนินการในรูปแบบ การลงนามในสัญญาบริการที่ปรึกษา ซึ่งจะต้องดําเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองฝ่ายจะหารือใน ประเด็นดังกล่าวต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานงานโยธาและระบบไฟฟ้าและเครื่องกล
.
3. ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับการเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ฝ่ายไทยเสนอให้มี การประชุมไตรภาคีระหว่างราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐ ประชาชนจีน เพื่อหารือเกี่ยวกับเส้นทางการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างหนองคาย - เวียงจันทน์ ทั้งสองฝ่ายจะ หารือกับฝ่ายลาวเพื่อผลักดันให้มีการประชุมระดับคณะทํางานสามฝ่ายและจัดการประชุมทุกเดือนเพื่อให้มี ความคืบหน้าในการเชื่อมโยงต่อไป
4. ทั้งสองฝ่ายได้หารือการดําเนินการช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง โครงการความร่วมมือ ด้านรถไฟ ระหว่างไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบิน ได้ใช้ทางวิ่งและโครงสร้างร่วม โดยจะพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติตามสัญญา ๒.๓ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะปรับงานออกแบบรายละเอียดของช่วงดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรฐานจีน และสนับสนุนฝ่ายไทยในการแก้ปัญหาประเด็นทางด้าน เทคนิค คณะทํางานด้านเทคนิคจะหารือประเด็นดังกล่าวต่อไป
5. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในร่างบันทึกแนบท้ายสัญญา ครั้งที่ ๑ ของสัญญาที่ปรึกษาควบคุมงาน การก่อสร้างงานโยธาที่ได้หารือกันไว้ ทั้งสองฝ่ายจะลงนามในร่างบันทึกแนบท้ายสัญญาฯ หลังจากการประชุม คณะกรรมการร่วมฯ ครั้งที่ ๒๙ แล้วเร็วโดยเร็วต่อไป
.
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบกําหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมครั้งที่ 30 หลังการประชุม ไตรภาคีระหว่างราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4183842238329356
หมุดหมายรถไฟไทย!! ยังวิ่งไปแผ่นดินจีนผ่านเวียงจันทน์
*คมนาคม ประชุมกรรมการอัพเดทการก่อสร้าง
*เตรียมปรับแบบช่วงพื้นที่ร่วมเส้นเชื่อม3สนามบิน
*ลุยเฟส 2ถึงหนองคายจ้างที่ปรึกษาจีนตรวจแบบ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2936681976553301 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/06/2021 6:44 am Post subject: |
|
|
รถไฟไทยยังพุ่งสปีดไปจีน
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 29 ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบของการประชุมทางไกล โดยมีนายนิ่ง จี่เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เป็นประธานร่วมว่า ฝ่ายไทยโดยกระทรวงคมนาคม ได้แจ้งความก้าวหน้างานโยธาระยะแรกสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งฝ่ายจีนรับทราบความก้าวหน้างานโยธาระยะแรกช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ส่วนใหญ่เริ่มดำเนินการแล้ว ฝ่ายไทยได้จัดตั้งสำนักงานบริหารโครงการเพื่อเร่งรัดการดำเนินการ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะใช้ความพยายามอย่างสูงสุด เพื่อให้ก่อสร้างได้ตามแผนงาน(เปิดบริการเต็มระบบปี 69)
2. ฝ่ายจีนรับทราบความก้าวหน้าของโครงการช่วงนครราชสีมา- หนองคาย ฝ่ายไทยได้ข้อสรุปสำหรับงานออกแบบรายละเอียดแล้ว โดยผลการศึกษาใกล้แล้วเสร็จ ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายจีนจัดหาที่ปรึกษาตรวจสอบแบบ ฝ่ายจีนเห็นว่างานบริการที่ปรึกษาควรดำเนินการในรูปแบบการลงนามในสัญญาบริการที่ปรึกษา ตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองฝ่ายจะหารือในประเด็นดังกล่าวต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานงานโยธา และระบบไฟฟ้าและเครื่องกล
3. ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับการเชื่อมทางรถไฟระหว่าง หนองคาย-เวียงจันทน์ ฝ่ายไทยเสนอให้ประชุมไตรภาคีระหว่างราชอาณาจักรไทย สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือเกี่ยวกับ เส้นทางการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ทั้งสองฝ่าย จะหารือกับฝ่ายลาว เพื่อผลักดันให้มีการประชุมระดับคณะทำงานสามฝ่าย และจัดการประชุมทุกเดือนเพื่อให้มีความคืบหน้าในการเชื่อมโยงต่อไป
4.ทั้งสองฝ่ายได้หารือช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง โครงการความ ร่วมมือ ด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้ใช้ทางวิ่งและโครงสร้างร่วม โดยจะพยายามไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติตามสัญญา 2.3 (สัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ) รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะปรับงานออกแบบรายละเอียดของช่วงดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรฐานจีน และสนับสนุนฝ่ายไทยในการแก้ปัญหาประเด็นทางด้านเทคนิค โดยคณะทำงานด้านเทคนิคจะหารือต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า 5.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในร่างบันทึกแนบท้ายสัญญา ครั้งที่ 1 ของสัญญาที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้างงานโยธาที่ได้หารือกันไว้จะลงนามในร่างบันทึกแนบท้ายสัญญาฯ โดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบกำหนดประชุมคณะกรรมการร่วม ครั้งที่ 30 หลังการประชุมไตรภาคีระหว่างไทย สปป.ลาว และจีนต่อไป. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
Posted: 28/06/2021 1:55 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | รถไฟไทยยังพุ่งสปีดไปจีน
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564
|
ลิงก์มาแล้วครับ
"คมนาคม" ถกจีนอัพเดทสร้างรถไฟไทย-จีน
ศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2564 เวลา 18.10 น.
คมนาคม ถกจีน อัพเดทสร้างรถไฟไทย-จีน เตรียมปรับแบบช่วงพื้นที่ร่วมไทยจีน-เชื่อม 3 สนามบิน บางซื่อ-ดอนเมือง ลุยต่อช่วง โคราช-หนองคาย จ้างที่ปรึกษาจีนตรวจสอบแบบก่อสร้าง เร่งเข็นรถไฟเชื่อมหนองคาย-เวียงจันทน์..
https://www.dailynews.co.th/economic/852408
รถไฟไทย-จีนเตรียมลุยเฟส 2 โคราช-หนองคาย,ผลักดันเจรจาไตรภาคีเชื่อมโยงเวียงจันทน์
ข่าวเศรษฐกิจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 11:22น.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 29 ผ่านระบบการประชุมทางไกล กับนายนิ่ง จี๋เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 179,413 ล้านบาท
ฝ่ายไทยแจ้งความก้าวหน้างานโยธาระยะแรก 14 สัญญา ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มดำเนินการแล้ว และฝ่ายไทยได้จัดตั้งสำนักงานบริหารโครงการเพื่อเร่งรัดการดำเนินการ โดยทั้งสองฝ่ายจะใช้ความพยายามอย่างสูงสุดเพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผนงาน
ADVERTISEMENT
ส่วนแผนงานระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม.ฝ่ายจีนรับทราบความก้าวหน้าของโครงการ ซึ่งฝ่ายไทยจะสรุปงานออกแบบรายละเอียดในเร็ว ๆ นี้ โดยไทยขอให้ฝ่ายจีนจัดหาที่ปรึกษาตรวจสอบแบบ ขณะที่ฝ่ายจีนเห็นว่าควรมีการลงนามในสัญญาบริการที่ปรึกษา ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจะหารือในประเด็นดังกล่าวต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานงานโยธาและระบบไฟฟ้าและเครื่องกล
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับการเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งฝ่ายไทยเสนอให้มีการประชุมไตรภาคีระหว่างไทยลาว และ จีน เกี่ยวกับเส้นทางการเชื่อมโยง โดยทั้งสองฝ่ายจะหารือกับฝ่ายลาวเพื่อผลักดันให้มีการประชุมระดับคณะทำงานสามฝ่ายและจัดการประชุมทุกเดือนเพื่อให้มีความคืบหน้าต่อไป
ADVERTISEMENT
สำหรับการดำเนินการช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งเป็นความร่วมมือของโครงการรถไฟไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อใช้ทางวิ่งและโครงสร้างร่วม ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะปรับงานออกแบบรายละเอียดให้เป็นไปตามมาตรฐานของจีน และสนับสนุนฝ่ายไทยในการแก้ปัญหาประเด็นทางด้านเทคนิค คณะทำงานด้านเทคนิคจะหารือประเด็นดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติตามสัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ)
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในร่างบันทึกแนบท้ายสัญญา ครั้งที่ 1 ของสัญญาที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้างงานโยธาที่ได้หารือกันไว้ ทั้งสองฝ่ายจะลงนามในร่างบันทึกแนบท้ายสัญญาฯ โดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมครั้งที่ 30 ในช่วงเดือนพ.ย.64 หลังการประชุมไตรภาคีระหว่างไทย ลาว และจีนต่อไป
Last edited by Wisarut on 28/06/2021 2:58 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
|
Posted: 28/06/2021 10:42 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | รถไฟไทยยังพุ่งสปีดไปจีน
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 |
ไฮสปีดไทย-จีนสะดุด!มรดกโลกอยุธยา ศักดิ์สยามชงนายกฯ ผ่าทางตัน จ่อหารือยูเนสโกแจงข้อเท็จจริงช่วยปลดล็อก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 07:32 น.
ปรับปรุง: วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 07:32 น.
เช็กสถานะโครงการก่อสร้างไฮสปีดไทย-จีน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย) ระยะที่1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาทซึ่งมีงานโยธา 14 สัญญา ล่วงเลยกว่า 6 ปีครึ่ง ก่อสร้างเสร็จแค่ 1 สัญญา คือ ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง 6 สัญญา ผู้รับเหมาเตรียมเข้าพื้นที่ก่อสร้าง 3 สัญญา รอเซ็นสัญญา 1 สัญญา อุทรธณ์ 1 สัญญา ติดปัญหาปรับแบบ 1 สัญญาและยังไม่ได้ประมูลอีก 1 สัญญา
โดยผลงานก่อสร้าง ณ สิ้นเดือนพ.ค. 2564 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. เซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 2562
คืบหน้า 62.18 % ล่าช้ากว่าแผนถึง 37.82 % จากปัญหาขาดแคลนแรงงาน และโควิด-19 ทำให้มีการขยายเวลาก่อสร้างแล้ว 1 ครั้งส่วนสัญญาอื่นๆ เพิ่งได้เข้าพื้นที่ งานยังคืบหน้าไม่มาก และยังมีอุปสรรคเรื่องเวนคืนที่ดินและการขอใช้พื้นที่จากทั้งกรมป่าไม้กรมชลประทาน และกรมธนารักษ์
แต่อุปสรรคเหล่านี้ไม่น่าหนักใจเท่า ประเด็นมรดกโลก สถานีอยุธยา ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. ที่ประมูลได้ผู้รับจ้างมาเป็นปีแล้ว ได้ยังเซ็นสัญญากันไม่ได้
กรมศิลปากร หวั่นแบบสถานีอยุธยา จะกระทบมรดกโลกทางวัฒนธรรม และที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญามรดกโลก เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2564 ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ รฟท. จัดทำรายงาน เรื่อง HIA (Heritage Impact Assessment) ผลกระทบมรดกวัฒนธรรม
ขณะที่ 5 แนวทางในการก่อสร้างที่กระทรวงคมนาคมเสนอ กรรมการมรดกโลกและกรมศิลปากร เห็นด้วยกับแนวทางที่1 และ 2 คือ 1. ก่อสร้างเป็นลักษณะสถานีและทางวิ่งใต้ดิน ค่าก่อสร้างขยับเป็น 15,000 ล้านบาท เวลาเพิ่มอย่างน้อย 5 ปี
2. เปลี่ยนแนวเส้นทาง อ้อม เลี่ยงพื้นที่มรดกโลก ซึ่งจะทำให้ระยะทางเพิ่มประมาณ 30 กม. ค่าใช้จ่ายบานกว่า 26,000 ล้านบาท ต้องเวนคืน เวลาดำเนินการเป็น 7 ปี
3. ก่อสร้างสถานีที่บ้านม้าก่อนถึงสถานีรถไฟอยุธยาเดิม หรือสร้างเลยออกไป เวนคืนเพิ่ม ใช้เวลาเพิ่ม ราว1 ปี
4. ก่อสร้างสถานีในตำแหน่งเดิม โดยจัดทำผังเมืองเฉพาะ ใช้เวลาเพิ่มประมาณ 1 ปี
5. ก่อสร้างเฉพาะทางวิ่งไปก่อน โดยจะกำหนดที่ตั้งสถานีภายหลัง เวลาดำเนินการตามแผน
@ ปรับแบบสถานีใหม่ ใหญ่ อลังการ จนเป็นปัญหา
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เดิมสถานีอยุธยาเสร็จแล้ว มีสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องและไม่มีปัญหาเรื่องทัศนียภาพและมรดกโลก รวมถึงผ่าน EIA เรียบร้อย ต่อมาเมื่อปี2562 รฟท.มีการปรับแบบสถานีอยุธยาใหม่ร่วมกับจีน ซึ่งสถานีอยุธยาจะเป็นจุดจอดของรถไฟความเร็วสูงและรถไฟสายสีแดงในอนาคตด้วย
ดังนั้น รูปแบบสถานีใหม่ ใหญ่โต อลังการ จนทำให้มองว่า แบบใหม่ของสถานีอยุธยา ไปข่ม!!!สถาปัตยกรรมในพื้นที่...กลายเป็นปัญหาใหญ่
แต่เมื่อมีเสียงท้วงติงรฟท.ได้ปรับแก้ โดยถอยกลับไปใช้แบบสถานเดิมก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นรูปแบบสถานีรถไฟธรรมดา ตัดโครงสร้างที่กระทบต่อภูมิทัศน์ และสถาปัตยกรรม เช่น ปรับส่วนหลังคาใช้วัสดุ เป็นกระจก และเรซินพลาสติกใส
มีการปรับสถานีลดจาก 3 ชั้นเหลือ2 ชั้น โดยตัดพื้นที่ชั้นที่2 (ชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร) มาใช้ชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร ร่วมกับ รถไฟทางคู่ ทำให้ลดระดับความสูงจาก 46 เมตรเหลือ 37.45 เมตร ลดระดับสันรางมาอยู่ที่ 15 เมตร
ตำแหน่งสถานี อยู่ห่างจากจุดอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ประมาณ 1.5 กม. ขณะที่บริเวณใกล้เคียงกับสถานี มีอาคารสูง 10 ชั้น ของโรงแรมกรุงศรีริเวอร์ และอาคารสูง 8 ชั้น ของโรงแรมอโยธยาริเวอร์ไซด์ ใกล้กัน จากการทำภาพจำลองมุมอง สามารถเปรียบเทียบผลกระทบด้านทัศนียภาพได้ชัดเจน
ลดขนาด ลดความสูง ปรับวัสดุ แต่กรมศิลปากร ยังไม่ยอม!!!
@ศักดิ์สยามยันใช้แบบเดิมชงนายกฯตัดสินใจ
ศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า เรื่องสถานีอยุธยาได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางราง(ขร.) เร่งประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปข้อมูลรายละเอียดแนวทางทั้งหมด เพื่อเสนอพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจ ในเร็วๆนี้
ตอนนี้ มี 2 ความเห็นคือ ความเห็นของคณะกรรมการมรดกโลก กับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเราจะเสนอ 5 ทางเลือกเดิม และจะทำรายละเอียดทางเลือกที่ 6 เพิ่มเติม คือการก่อสร้างในระดับดิน พร้อมชี้ให้เห็นถึงจุดดี จุดด้อย ในแต่ละทางเลือกเพื่อให้นายกฯ พิจารณาตัดสินใจ ในขณะเดียวกันได้มอบหมายให้นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ศึกษาเรื่องกฎหมาย มรดกโลกอย่างละเอียด เพื่อดูว่าจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างไร
ชาวอยุธยา ต้องการให้มีการก่อสร้างตามที่รฟท.ออกแบบ แต่ติดเรื่องมรดกโลก ซึ่งคนอยุธยาเองก็มองว่า กรณีความสูงรถไฟไทย-จีน มีความสูงที่ 12 เมตร แต่ในขณะที่ มีอาคารที่สูงกว่า อีกหลายแห่ง แต่ไม่มีปัญหาทางกรรมการมรดกโลก อ้างว่าตึกสูงแต่ลักษณะเป็นจุดๆ แต่รถไฟสูง เป็นแนวยาว ขณะที่ ความเป็นมรดกโลก การมีระบบขนส่งมวลชนเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวจะยิ่งเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่อีกด้วย
ซึ่งหากตัดสินใจเร็ว มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการเปิดเดินรถไฟไทยจีน และเห็นว่า กรณีที่กก.มรดกโลก ให้ ทำเป็นอุโมงค์ต้องใช้เวลาก่อสร้าง 7 ปี นั้นท่านนายกฯก็คงไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้แน่นอน
@กรมรางฯนัดยูเนสโกให้ข้อมูลตรง
รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบหนังสือ ยูเนสโก ซึ่งแจ้งให้ทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก (HIA) แต่ไม่มีเรื่องให้ก่อสร้างเป็นอุโมงค์หรือปรับแนวเลี่ยงเมืองแต่อย่างใด ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ กรมรางฯจะประสานกับ ยูเนสโก กรุงเทพฯ เพื่อชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยตรง โดยเฉพาะเรื่องแบบสถานี ที่ปรับไปใช้รูปแบบเดิมและตัดส่วนที่คาดว่าจะมีผลกระทบออกหมดแล้ว
ส่วนรฟท.ต้องเดินหน้า ทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก (HIA) แต่เนื่องจากในประเทศไทยไม่เคยมีการจัดทำมาก่อน จึงต้องพยายามหาผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีเข้ามาช่วย โดยใช้เวลาดำเนินการ 180 วัน
@ เปิดหัวข้อ 12 บท ยูเนสโก ศึกษาประเมิน HIA
สำหรับขอบเขตการศึกษาประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีจำนวน 12 บท ได้แก่ 1. การอธิบายคุณค่าความสำคัญของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 2. สภาพปัจจุบันและสิ่งแวดล้อมของแหล่งมรดกโลกฯ
3. การอธิบายลักษณะพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องกับเส้นทางรถไฟ (ภาพรวมแผนแม่บทรถไฟ , การพัฒนารถไฟทางคู่,รถไฟสายสีแดง,รถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ เชียงใหม่/เชียงรายและช่วงกรุงเทพฯ หนองคาย) การพัฒนาพื้นที่โดยรอบ(TOD)
4.รายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร หนองคาย เช่น ภาพรวมของโครงการ ,ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่แหล่งมรดกโลก 5.การกำหนดเกณฑ์และวิธีในการประเมินผลกระทบ 6.การประเมินผลกระทบที่มีต่อแหล่งมรดกโลกฯทั้งเมืองประวัติศาสตร์ และโบราณสถาน
7.แนวทางและมาตรการการลดผลกระทบ 8. ผลที่อาจเกิดขึ้นในวงกว้าง ทั้งผลเชิงบวก ผลเชิงลบ 9.กรอบระยะเวลาในการดำเนินงานทุกขั้นตอน 10. เอกสารอ้างอิง 11.ภาคผนวก 12. องค์กรหรือบุคคลที่ให้คำปรึกษาแนะนำ
@จีนยอมลดสปีดบางซื่อ ดอนเมือง 160 กม./ชม.เร่งสร้างช่วงทับซ้อน3สนามบิน
สำหรับการก่อสร้างช่วงบางซื่อ ดอนเมือง สัญญา4-1 ซึ่งเป็นช่วงที่ รถไฟไทย-จีน ทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ต้องใช้ทางวิ่งและโครงสร้างร่วม ล่าสุด การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย จีน(Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 29 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2564 เห็นชอบที่จะปรับงานออกแบบรายละเอียดของช่วงดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรฐานจีนและสนับสนุนฝ่ายไทยในการแก้ปัญหาประเด็นทางด้านเทคนิค
โดยให้รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นผู้ก่อสร้างงานโยธาร่วมของ ไทย-จีน ช่วงบางซื่อ ดอนเมือง โดยฝ่ายจีนเห็นชอบการออกแบบ ลดความเร็วในช่วงดังกล่าว เป็น 160 กม./ชม. เนื่องจากเป็นการเดินรถในเขตเมือง อีกทั้งจากสถานีกลางบางซื่อถึงดอนเมืองมีระยะ15.21 กม. ซึ่งถือว่าห่างกันไม่มาก จึงไม่จำเป็นต้องเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด และพบว่า การปรับลดสปีดความเร็วไทย-จีน เหลือ160 กม./ชม. นั้น จะช้าลงแค่ 40.80 วินาที เท่านั้น
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า จะหารืออีอีซี เพื่อให้เร่งรัดซี.พี.ก่อสร้างช่วงทับซ้อนกับรถไฟไทย-จีนภายใน 2 ปี ดังนั้นงานโยธาของเฟสแรก ขณะนี้ ยังเป็นไปตามแผนงาน เหลือสถานีอยุธยาหากท่านนายกฯ ตัดสินใจ จะแก้อุปสรรคใหญ่ได้ และเชื่อว่าโครงการจะเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2569ตามแผน
@ แบบเฟส 2 เสร็จ ก.ค.นี้ เร่งสร้างสะพานเชื่อมหนองคาย-เวียงจันทน์
สำหรับการออกแบบรายละเอียด ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย จะตรวจรับงานในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้ โดยมีจุดเริ่มต้นที่สถานีนครราชสีมา สิ้นสุดที่ริมแม่น้ำโขง ฝั่งไทย ระยะทาง356 กม. มี 5 สถานี คือ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่นสถานีอุดรธานี สถานีหนองคาย มีศูนย์ซ่อมบำรุง ( Depot) 2 แห่ง ที่นาทา และเชียงรากน้อย มีศูนย์ซ่อมบำรุงทาง (Maintenance Bese) 4 แห่ง ที่บ้านมะค่า หนองเม็ก โนนสะอาด และนาทา มีย่านกองเก็บตู้สินค้า(Container Yard) และย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transshipment Yard) 1 แห่งที่นาทา
ทั้งนี้ไทยขอให้ฝ่ายจีนจัดหาที่ปรึกษาตรวจสอบแบบ ฝ่ายจีนเห็นว่างานบริการที่ปรึกษาควรดำเนินการในรูปแบบการลงนามในสัญญาบริการที่ปรึกษา ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองฝ่ายจะหารือในประเด็นดังกล่าวต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานงานโยธาและระบบไฟฟ้าและเครื่องกล
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับการเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งฝ่ายไทยเสนอให้มีการประชุมไตรภาคีระหว่างไทย สปป. ลาว และจีน เพื่อหารือเกี่ยวกับเส้นทางการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างหนองคาย เวียงจันทน์
สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า หลังออกแบบ เฟส 2 ช่วง นครราชสีมา-หนองคาย จะเป็นขั้นตอนในการทบทวนรายงาน EIA เดิมเพื่อให้สอดคล้องกับการออกแบบใหม่ และ จะปรับแผน เร่งรัดดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ก่อน เพื่อให้สามารถเชื่อม หนองคาย-เวียงจันทน์ได้เร็วขึ้น เนื่องจาก ทางสปป.ลาวจะมีการเปิดเดินรถ ลาว -จีน ในเดือนธ.ค. 2564 ซึ่งคาดว่าจะมีการเดินทางทั้งคนและสินค้า เพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะศักยภาพของ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 ไม่เพียงพอ
สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ระยะทาง1,500 เมตร อยู่ในพื้นที่ฝั่งไทย 750 เมตร พื้นที่ฝั่งสปป.ลาว 750 เมตร สะพานกว้าง 7 เมตร มีรางขนาด 1.435 เมตรจำนวน 1 ราง รางขนาด 1 เมตร จำนวน 1 ราง โดยตำแหน่งอยู่ห่างจากสะพานเดิมประมาณ 30 เมตร ซึ่งจะหารือ 3 ฝ่ายเพื่อสรุปแนวเส้นทาง รูปแบบจำนวนทางวิ่ง ตำแหน่ง Port Station และ Transshipment Station การลงทุน การบริหารจัดการเดินรถ
โดยการดำเนินการมี 3 รูปแบบ คือ กรณีไทยก่อสร้างและออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประเมินค่าใช้จ่ายราว 1,700 ล้านบาท โดยมีการเวนคืนพื้นที่ฝั่งไทย 100 ไร่ ฝั่งลาว 100 ไร่ ค่าเวนคืน 200 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 1,200 ล้านบาท ค่าวางรางรถไฟ และระบบอาณัติสัญญาณ 300 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี
ข้อดี คือไทยกำหนดแผนงานและกรอบเวลาได้ชัดเจน และได้ประโยชน์จากการขนส่งสินค้า ข้อเสีย คือการที่ไทยต้องหาแหล่งเงินก่อสร้าง
กรณี ลาว/จีนก่อสร้าง และออกค่าใช้จ่าย ไทยจะต้องดำเนินการและจ่ายเวนคืนฝั่งไทยเอง ข้อดี ไม่ต้องต้ังงบก่อสร้าง แต่ เป็นไปได้ยากและอาจมีความล่าช้า
กรณี ไทย-ลาว/จีน ก่อสร้างและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง โดยจะใช้เวลา 4 ปี ไทยมีค่าใช้จ่าย 1,000 ล้านบาท เป็นค่าเวนคืน 100 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 600 ล้านบาท (ระยะทาง 750 เมตร) โดยไทยรับผิดชอบวางรางและระบบอาณัติสัญญาณ 300 ล้านบาทมีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะจะสามารถกำหนดแผนงานให้สอดคล้องกับการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน ได้
โครงการรถไฟไทย-จีน มีอุปสรรคตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งสมัยคสช.นั้น มีการใช้มาตรา 44 เข้ามาแก้ไข เพื่อให้ขับเคลื่อนไปได้ส่วนปัจจุบัน การดำเนินการ จะต้องเป็นไปตามระเบียบ ข้อกฎหมายปกติ กรณีสถานีอยุธยา ปมมรดกโลก คงอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาลว่า จะเลือกแนวทางไหน...ปลดล็อกเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ |
|
Back to top |
|
|
|