RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311239
ทั่วไป:13181773
ทั้งหมด:13493012
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 410, 411, 412 ... 471, 472, 473  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/11/2021 6:42 pm    Post subject: Reply with quote

คนแห่สมัครเข้าทำงาน “การรถไฟฯ” ทะลุ 8.9 พันคน รับแค่ 480 คน!
เดลินิวส์ 12 พฤศจิกายน 2564 16:32 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

คนแห่สมัครชิงเข้าทำงานการรถไฟฯ เพียบ 8,967 คน รับแค่ 480 คน ผู้ว่าฯ กำชับเข้มต้องไม่มีเส้นสาย ใช้หน่วยงานภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ เตรียมลงสนามสอบข้อเขียน 28 ธ.ค.นี้

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท. ได้ปิดรับสมัคร และประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบคัดเลือกแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยพบว่า มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมสอบคัดเลือกทำงานกับ รฟท. มากถึง 8,967 ราย มากกว่าตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 480 อัตรา ถึง 18-19 เท่าตัว สำหรับตำแหน่งที่มีผู้สนใจสมัครจำนวนมาก เช่น พนักงานการเดินรถ 6 (นายสถานี) สังกัดฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ เปิดรับ 264 อัตรา มีผู้สมัคร 3,600 คน, พนักงานเทคนิค 4 เปิดรับ 26 อัตรา มีผู้สมัคร 1,196 คน และพนักงานการเดินรถ 6 (พนักงานควบคุมการเดินรถ) สังกัดฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ เปิดรับ 5 อัตรา มีผู้สมัคร 1,195 คน เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่า รฟท. เป็นองค์กรระดับชั้นนำที่ได้รับการยอมรับ ทำให้มีผู้สนใจต้องการสมัครสอบคัดเลือกเข้าร่วมงานจำนวนมาก

Click on the image for full size

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า การเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าทำงานกับ รฟท. ครั้งนี้ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. มีนโยบายและกำชับให้ดำเนินการกระบวนการสอบคัดเลือกอย่างโปร่งใส ซึ่ง รฟท. ได้ใช้ระบบคัดเลือกด้วยวิธีการสอบข้อเขียน และการสัมภาษณ์ โดยให้สถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นหน่วยงานภายนอกที่มีความเป็นกลางเข้ามาดำเนินการในทุกขั้นตอนของการสอบคัดเลือกทั้งหมด เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการคัดเลือกต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้มีการใช้เส้นสายภายใน รฟท. เด็ดขาด เพื่อให้สามารถสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีความพร้อมในการทำงานเข้าร่วมปฏิบัติงานกับ รฟท.อย่างแท้จริง ทั้งนี้การสอบคัดเลือกภาคข้อเขียนจะมีขึ้นในวันที่ 28 ธ.ค.64

นายเอกรัช กล่าวด้วยว่า การเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้าทำงานใน รฟท. 480 อัตรา ถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการเปิดรับคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมทำงาน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิการเดินรถ การให้บริการแก่ประชาชน ตลอดจนรองรับแผนเพิ่มขีดความสามารถระบบขนส่งทางรางของประเทศในอนาคต ซึ่ง รฟท. ได้มีการขยายการให้บริการเดินรถ และลงทุนโครงการเมกะโปรเจคท์ขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟทางคู่หลายเส้นทาง โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา การพัฒนาระบบขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านทางราง รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างในปัจจุบัน.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 12/11/2021 6:45 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
คนแห่สมัครเข้าทำงาน “การรถไฟฯ” ทะลุ 8.9 พันคน รับแค่ 480 คน!
เดลินิวส์ 12 พฤศจิกายน 2564 16:32 น.


แข่งเดือด!! สอบบรรจุพนักงานเดินรถไฟ 1 ต่อ 239 คน
*รฟท.เปิดรับทุกตำแหน่ง 480 แห่สมัคร 8,967คน
*ผู้ว่าฯลั่น”ไม่มีเส้นใช้ความสามารถส่วนตัวล้วนๆ”
*สิงห์ลงสนาม 28 ธ.ค.นี้ขอให้ผู้สมัครโชคดีสู้ๆน๊า
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3044790632409101
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/11/2021 10:40 am    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.วางฐานโลจิสติกส์ รับไฮสปีดจีน - ลาว 2 ธ.ค.นี้
กรุงเทพธุรกิจ 13 พ.ย. 2564 เวลา 10:00 น.
By วรรณิกา จิตตินรากร

โครงการรถไฟจีน – สปป.ลาว เตรียมเปิดดำเนินการในวันชาติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 2 ธ.ค.นี้ เชื่อมต่อที่เมืองบ่อเต็น สปป. ลาว และมีปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทน์ซึ่งอยู่ใกล้กับจังหวัดหนองคาย

นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อเตรียมความพร้อมเชื่อมต่อโครงข่ายการขนส่งดังกล่าว บูรณาการแผนงานยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์เพื่อรองรับการขยายตัวขนส่งเชื่อมต่อจีน – สปป.ลาว ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว พร้อมระบุว่า การเปิดให้บริการขบวนรถไฟขนส่งสินค้าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ถือเป็นความสำเร็จในการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระบบรางของทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกัน

อีกทั้งการเปิดบริการรถไฟสายดังกล่าว ยังสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตลอดจนรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายหลังการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน ช่วงเดือน ธ.ค.นี้

สำหรับการเตรียมความพร้อมของ ร.ฟ.ท.ได้ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องของจังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย นายด่านศุลกากรหนองคาย แขวงทางหลวงหนองคาย กองบังคับการตำรวจภูธรหนองคาย และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย เร่งทดลองขบวนรถไฟขนส่งสินค้าความยาว 25 แคร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟ ช่วงหนองคาย-ท่านาแล้ง

นอกจากนี้ ยังวางแผนเดินรถขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเพื่อรองรับการขยายตัวของการขนส่ง แบ่งออกเป็น ในปี 2564-2565 มีการเพิ่มขบวนรถไฟขนส่งสินค้า ,ปี 2566-2568 จะปรับเพิ่มขบวนรถขนส่งสินค้าเป็นวันละ 16 ขบวน

"ร.ฟ.ท.ยังมีแผนงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีหนองคาย และพื้นที่ CY หรือศูนย์รวบรวมและเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่สถานีรถไฟนาทา หนองคาย เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทางรถไฟ จากท่าเรือแหลมฉบัง มายังสถานีหนองคายและต่อขยายถึงที่ลานตู้สินค้า ที่ท่านาแล้ง สปป.ลาว ได้โดยตรง รองรับการลงทุนในอนาคต"

ทั้งนี้ แผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย จะมีการพัฒนาพื้นที่สถานีทั้งหมด 80 ไร่ รองรับการขนส่งผ่านสะพานเดิม และการเปลี่ยนถ่ายจากถนนสู่ระบบรางเชื่อมโยงภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมศักยภาพระบบขนส่งในภูมิภาค สร้างงานสร้างอาชีพ ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น และสนับสนุนให้ไทย เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคตามนโยบายรัฐบาล

ด้านกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในฐานะคณะอนุกรรมการพัฒนาการเชื่อมต่อและการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์ ได้จัดทำข้อเสนอในการเชื่อมต่อและการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟช่วงหนองคาย – เวียงจันทน์ เพื่อสนับสนุนการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์ และรถไฟสปป.ลาว - จีน โดยกำหนดออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 ฝ่ายไทยจะเร่งพัฒนาสถานีหนองคายให้รองรับการขนส่งผ่านสะพานเดิม โดยพัฒนาบริเวณสถานีที่มีพื้นที่ประมาณ 80 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ตรวจปล่อยสินค้าระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนถ่ายจากถนนสู่ราง โดยให้เอกชนเช่าบริหารจัดการพื้นที่ 4 แปลง อีก 1 แปลงเป็นพื้นที่ส่วนกลาง

และระยะที่ 2 ฝ่ายไทยจะดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากสะพานเดิมประมาณ 30 เมตร โดยเป็นสะพานรถไฟที่มีทั้งทางขนาด 1 เมตร และ 1.435 เมตร โครงสร้างสะพานจะเป็นรูปแบบสะพานคานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่องก่อสร้างโดยวิธีคานยื่นสมดุล เพื่อรองรับการขนส่งทางราง

รวมทั้งจะจัดเตรียมพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับศูนย์ย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transshipment Yard) สามารถรองรับการแลกเปลี่ยนสินค้าจากรถไฟที่เข้ามาจากจีนและสปป.ลาว และส่งออกไปยังสปป.ลาวและจีน โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านหลังของลานขนถ่ายสินค้า สำหรับกองเก็บตู้สินค้าประเภทต่างๆ รวมถึงอาคารสำนักงาน, คลังสินค้า และอาคารประกอบอื่นๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก รวมถึงศูนย์เอ๊กซเรย์ตู้สินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการแบบ One-Stop Service

ส่วนการพัฒนาระบบรถไฟเชื่อมต่อระหว่างไทย - ลาว - จีน ปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1ช่วง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/11/2021 7:00 pm    Post subject: Reply with quote

เอกชนระยอง จับมือ รฟท.เปิดเส้นทางขนส่งสินค้าทางรางเชื่อมมาบตาพุด- สปป.ลาว
เผยแพร่: 15 พ.ย. 2564 16:43 ปรับปรุง: 15 พ.ย. 2564 16:43 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เปิด "ขบวนรถไฟ" ทดลองขนส่งสินค้า มาบตาพุด (ระยอง) ถึงสถานีท่านาแล้ง สปป.ลาว
คมชัดลึก 15 พ.ย. 2564 15:00 น.


Click on the image for full size

ระยอง –ผู้ประกอบการขนส่งระยอง จับมือร่วม รฟท. เปิดทดลองขบวนรถขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ระบบรางเส้นทางมาบตาพุด - ท่านาแล้ง สปป.ลาว ก่อนขยายเส้นทางเชื่อมต่อไปจีน ประเดิมขนเม็ดพลาสติกส่งขายก่อนขยายตลาดสินค้าผลไม้และอาหารทะเลภาคตะวันออกเชื่อมต่อถึงคุนหมิง วันที่ 2 ธ.ค.นี้

วันนี้ ( 15 พ.ย.) ที่ นายปัญญา ปะพุธสะโร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เก้าเจริญทรานสปอร์ต จำกัด พร้อมด้วย นายณรงค์ ชูสลับ นายสถานีรถไฟมาบตาพุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ทดลองขนส่งสินค้าประเภทเม็ดพลาสติกจากสถานีรถไฟมาบตาพุด จ.ระยอง ไปยังสถานีท่านาแล้ง สปป.ลาว เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง

ทั้งนี้ เนื่องจากการขนส่งทางรางในเส้นทางดังกล่าวจะใช้เวลาเพียงครึ่งวัน – หนึ่งวันครึ่ง และมีความรวดเร็วกว่าการขนส่งทางถนนที่ต้องใช้เวลานาน 2-3 วัน ส่วนการขนส่งทางทะเลใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน

นายปัญญา เผยว่าบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทรนเนอร์ในระบบราง มาตั้งแต่ปี 2562 และ 2564 ยังได้รับการ อนุมัติให้เป็นผู้ขอถ่ายลำและผู้ขอผ่านแดนทางรถไฟ จากกรมศุลกากร และการรถไฟแห่งประเทศไทย และได้เริ่มให้บริการขนส่งสินค้าผ่านแดนทางรถไฟมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2564 โดยนำตู้สินค้าเข้ามาทางท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อส่งต่อไปยัง สปป.ลาว ทางระบบรางจากท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังสถานีหนองคาย รวมระยะทาง 718 กิโลเมตรใช้เวลา 14 ชั่วโมง และจะส่งต่อสินค้าโดยขบวนรถไฟข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ระยะทางอีก 3.5 กิโลเมตรโดยใช้เวลาเพียง 15 นาที

Click on the image for full size

สำหรับการเปิดทดลองเดินขบวนรถไฟพิเศษจากสถานีมาบตาพุด ถึงสถานีท่านาแล้ง จะใช้ระยะทาง 780 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทาง 15 ชั่วโมงและในอนาคตยังมีแผนที่จะขนส่งสินค้าทางรางไปยังประเทศจีนตามโครงการรถไฟลาว-จีน จาก สปป.ลาว เชื่อมต่อนครหลวงเวียงจันทร์และคุนหมิง

“ จึงนับเป็นโอกาสของ จ.ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ในโครงการ EEC ที่จะพัฒนาระบบรางเพื่อให้เชื่อมต่อไปถึงประเทศจีนได้ และยังเป็นการสนับสนุนการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ บริษัทฯยังจะขนส่งสินค้าประเภทผลไม้และอาหารทะเลจากภาคตะวันออกมีไปยังนครหลวงเวียงจันทร์กและคุนหมิง อีกด้วย” นายปัญญา กล่าว

ด้าน นายชัยยุทธ มณีรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินโดรามา จำกัด ซึ่งร่วมดำเนินธุรกิจกับบริษัทเก้าเจริญ มาตั้งแต่ปี 2559 ด้วยการให้บริการขนส่งสินค้าทางรางจากสถานีรถไฟมาบตาพุด-สถานีบ้านป่าหวาย จ.ลพบุรี และเส้นทางสถานีมาบตาพุด- วัดงิ้วราย จ.นครปฐม เผยว่าการทดลองเดินขบวนรถไฟในเส้นทางใหม่จะประหยัดค่าใช้จ่าย ให้กับภาคขนส่ง และยังช่วยลดมลพิษรวมทั้งอุบัติเหตุทางถนน อีกดทั้งยังช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อีกด้วย

เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ ที่ปรึกษาบริษัทเก้าเจริญ จำกัด เผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบขนส่ง ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของคนไทยที่จะได้มีความปลอดภัยในการเดินทาง และลดการเกิดปัญหาด้านมลพิษได้อีกทางหนึ่งด้วย


Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/11/2021 7:37 pm    Post subject: Reply with quote

ภาคธุรกิจหนองคาย ปรับตัวหันมาขนส่งด้วยรถไฟแทนรถบรรทุก เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ไทยรัฐออนไลน์ ข่าวในประเทศ 18 พ.ย. 2564 15:34 น.

Click on the image for full size

เอกชน ร่วมกับ รฟท. และการรถไฟลาว ทดสอบขนสินค้าจากหนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จากไทยไปลาวเตรียมขยายต่อสู่จีน ชี้แนวโน้มความต้องการส่งทางรางเพิ่มขึ้น เชื่ออนาคตสดใสไปได้เร็วและประหยัดกว่า

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 64 ที่สถานีรถไฟหนองคาย ขบวนรถสินค้าทดสอบข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ได้เดินทางกลับเข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟหนองคาย หลังจากได้ทำการเดินรถทดสอบไปเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการขนตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกยางพาราของบริษัทศรีตรัง ทำการขนยางพาราจาก จ.บึงกาฬ จำนวน 30 ตู้สั้น น้ำหนักประมาณ 20 ตัน ขึ้นขบวนรถไฟเพื่อเดินทางไปยังแหลมฉบังด้วย

Click on the image for full size

นายปัญญา ปะพุธสะโร ประธานบริหารบริษัท เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต บริษัทเอกชน ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย และ การรถไฟ สปป.ลาว กล่าวว่า การทดสอบขนส่งสินค้าด้วยรถไฟจากไทย-ลาว ในครั้งนี้ เป็นการทดสอบร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับ การรถไฟ สปป.ลาว โดยใช้ดินบรรจุถุงที่มีน้ำหนักเท่ากับปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่ง จำนวน 25 ตู้ยาว ทำการทดสอบ 3 รอบ จะมีปัญหาติดขัดด้านใดหรือไม่ เป็นการทดสอบน้ำหนัก เพื่อป้องกันการร้องเรียนว่ายังไม่ได้ส่งออกจริงแต่ฉวยโอกาสลักลอบนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักร โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนไปด้วย ส่วนจะเริ่มส่งออกสินค้าจริงในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เพราะจะไปสอดรับกับวันชาติลาวในวันที่ 2 ธ.ค. 64 โดยจะขนส่งเม็ดพลาสติกก่อน หลังจากนั้นจะเป็นการขนส่งทุเรียน มังคุด จาก จ.ระยอง ไปประเทศจีนเพื่อส่งต่อไปยุโรป

Click on the image for full size

ประธานบริหารบริษัท เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต กล่าวต่อว่า ขณะนี้ มีภาคธุรกิจขนส่งหันมาให้ความสนใจต้องการให้ทางบริษัทขนส่งทางรางแทนรถยนต์ให้หลายราย เพื่อสู้กับน้ำมันแพง ประกอบกับประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤติของตู้คอนเทนเนอร์และสายเรือ เนื่องจากตอนนี้ตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเข้ามาในไทยค่อนข้างน้อย เพราะสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ทั่วโลกมีปัญหา เช่น ส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปอเมริกา แต่ไม่มีตู้เปล่ากลับมาเอเชีย ทำให้เกิดวิกฤติตู้คอนเทนเนอร์เปล่า เพื่อการส่งสินค้าออกต่างประเทศขาดแคลน หรือถ้าจะมีก็ราคาแพงขึ้น 4-5 เท่าตัว ก่อนหน้านี้เคยขนสินค้าจาก ไทย-ลาว-จีน ด้วยรถบรรทุก ซึ่งมีปัญหาที่ผ่านมา สถานการณ์ช่วงโควิดบริเวณชายแดนบ่อเต็น รถเทรลเลอร์ประมาณ 200 คัน ถูกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจีน ต้องถูกส่งกลับเข้าเชียงของ ประเทศไทย ส่งผลให้สินค้าเสียหาย ประกอบกับหากใช้รถเทรลเลอร์จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 วัน หากส่งสินค้าทางเรือไปจีนใช้เวลา 10 วัน

Click on the image for full size

นายปัญญา กล่าวอีกว่า แต่รถไฟจากไทยไปลาว 14 ชั่วโมง จากลาวไปจีนประมาณ 8 ชั่วโมง ดังนั้นใช้เวลาขนส่งสินค้าทางรถไฟประมาณ 24 ชั่วโมง สินค้า เช่น ทุเรียน หากไปช้าจะมีปัญหา ตอนนี้จะเอาสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน สินค้าปิโตรเคมีของไทยที่อยู่มาบตาพุด ส่งออกไปลาว-จีน และต่อไปจะส่งต่อไปยุโรป ทำให้ง่ายขึ้น เนื่องจากจีนส่งออกทุกเดือนอยู่แล้ว เส้นทางด้วยรถไฟจะง่ายกว่า ประเด็นน้ำมัน การส่งสินค้าด้วยรถไฟครั้งหนึ่ง ขนสินค้า 1 หัวจักร ประมาณ 30-60 ตู้ ใช้คนขับ 2 คัน แต่ถ้าไปรถยนต์จะใช้รถประมาณ 30-60 คัน การใช้รถไฟจะช่วยลดค่าน้ำมันไปได้โดยอัตโนมัติ, คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศลดลง เมื่อก่อนนี้ทางบริษัทขนสินค้าทางรถยนต์ ประมาณ 200-300 คัน แต่เจอปัญหาการขนส่งทางบกจะช้า เพราะใช้คนขับเยอะ การจราจรติดขัด คนขับเหนื่อย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนทุกวัน กระทบต่อสภาพถนนพังด้วย

Click on the image for full size

ประธานบริหารบริษัท เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต กล่าวถึงการขนส่งทางรางว่า พอเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งมาทางราง บริษัทตนอยู่ที่ระยอง ก็จะใช้รถไฟจากนิคมมาบตาพุดไปยังท่าเรือแหลมฉบัง 30 ตู้ยาว หรือ 60 ตู้สั้น ไม่ต้องใช้รถ 60 คันเหมือนเมื่อก่อน แต่ใช้รถไฟคันเดียวจบ ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทเปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งทางรางหมดแล้วทุกเส้นทาง แต่ปัญหาที่พบ บางทีรถไฟยังปรับตัวไม่ทันกับเอกชน เพราะรถไฟไม่คาดว่าจะมีการใช้งานเยอะขนาดนี้ เอกชนต้องเข้าไปช่วยเหลือ เช่น เอกชนต้องลงทุนในสถานี ปรับพื้นที่คอนเทนเนอร์ยาร์ดเอง เทปูน ปรับพื้นเอง เพราะรถไฟขาดทุนและไม่มีงบประมาณตรงนี้

Click on the image for full size

นายปัญญา กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลต้องการลดเครดิตคาร์บอนฯ ต้องการให้ใช้น้ำมันน้อยลง หรือต้องการให้รถบรรทุกไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯ มากนัก ก็หันมาลงทุนกับรถไฟแทน เช่น พิจารณาว่าจังหวัดไหนมีการลงทุนมากน้อยเพียงใดก็ให้มีการเทปูน ทำ CY อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ แต่ตอนนี้พอไม่มีงบ รถไฟก็ทำอะไรไม่ได้ เอกชนต้องทำเอง ต้องเทปูนเอง เอาเครื่องจักรสำหรับยกของไปใช้เอง รัฐบาลต้องหันมาให้ความสนใจรถไฟเป็นหลักเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทางบริษัทตนก็จะเอาน้ำมัน และเม็ดพลาสติก ขยายพื้นที่ไปที่ขอนแก่น และบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/11/2021 7:22 am    Post subject: Reply with quote

เอกชนมั่นใจขนส่งทางราง"ไทย-ลาว-จีน"ไปโลด ต้นทุนถูก-ย่นเวลา-วอนรัฐจัดงบหนุนทำCY
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Friday, November 19, 2021 05:50

หนองคาย - บริษัทขนส่งโลจิสติกส์ ทดสอบขนสินค้าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จากไทยไปลาว เตรียมขยายต่อสู่จีน ขณะที่ความต้องการขนส่งทางรางมีสูงขึ้น วอนรัฐทุ่มงบให้ รฟท.บริหารจัดการจุดกระจายสินค้าคอนเทนเนอร์ยาร์ด ภาคเอกชนมั่นใจการขนส่งทางรางสดใสจากไทยไปจีนต่อยุโรปได้เร็วและประหยัดกว่า

วานนี้ (18 พ.ย.) ที่สถานีรถไฟหนองคาย ขบวนรถสินค้าทดสอบข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ได้เดินทางกลับเข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟหนองคาย หลังจากได้เดินรถทดสอบไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังขนตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกยางพาราของบริษัทศรีตรัง ทำการขนยางพาราจาก จ.บึงกาฬ จำนวน 30 ตู้สั้น น้ำหนักประมาณ 20 ตัน ขึ้นขบวนรถไฟเพื่อเดินทางไปยังแหลมฉบังด้วย

นายปัญญา ปะพุธสะโร ประธานบริหารบริษัทเก้าเจริญเทรนด์ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็น บริษัทเอกชน ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟ สปป.ลาว กล่าวว่า การทดสอบขนส่งสินค้าด้วยรถไฟจากไทย-ลาวครั้งนี้ เป็นการทดสอบร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับการรถไฟ สปป.ลาว โดยใช้ดินบรรจุถุงที่มีน้ำหนักเท่ากับปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่ง จำนวน 25 ตู้ยาว ทำการทดสอบ 3 รอบ จะมีปัญหาติดขัดด้านใดหรือไม่

เป็นการทดสอบน้ำหนัก เพื่อป้องกันการร้องเรียนว่ายังไม่ได้ส่งออกจริง แต่ฉวยโอกาสลักลอบนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักร โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนไปด้วย ส่วนจะเริ่มส่งออกสินค้าจริงในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เพราะจะไปสอดรับกับวันชาติลาวในวันที่ 2 ธ.ค.64 โดยจะขนส่งเม็ดพลาสติกก่อน หลังจากนั้นจะเป็นการขนส่งทุเรียน มังคุด จาก จ.ระยอง ไปประเทศจีนเพื่อส่งต่อไปยุโรป

ขณะนี้มีภาคธุรกิจขนส่งหันมาให้ความสนใจ ต้องการขนส่งทางรางแทนรถยนต์หลายราย เพื่อสู้กับน้ำมันแพง ประกอบกับประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤตของตู้คอนเทนเนอร์และสายเรือ เนื่อง จากตอนนี้ตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเข้ามาในไทย ค่อนข้างน้อย เพราะสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกมีปัญหา เช่นส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปอเมริกา แต่ไม่มีตู้เปล่ากลับมาเอเชีย ทำให้เกิดวิกฤต ตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเพื่อการส่งสินค้าออกต่างประเทศขาดแคลน หรือถ้าจะมีก็ราคาแพงขึ้น 4-5 เท่าตัว

ก่อนหน้านี้เคยขนสินค้าจาก ไทย-ลาว-จีน ด้วยรถบรรทุก ซึ่งมีปัญหา สถานการณ์ช่วงโควิดบริเวณชายแดนบ่อเต็น รถเทรลเลอร์ประมาณ 200 คัน ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจีน ต้องถูกส่งกลับเข้าเชียงของ ประเทศไทย ส่งผลให้สินค้าเสียหาย ประกอบกับหากใช้รถเทรลเลอร์จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 วัน หากส่งสินค้าทางเรือไปจีนใช้เวลา 10 วัน แต่รถไฟจากไทยไปลาว 14 ชั่วโมง จากลาวไปจีนประมาณ 8 ชั่วโมง

ดังนั้นใช้เวลาขนส่งสินค้าทางรถไฟประมาณ 24 ชั่วโมง สินค้า เช่นทุเรียน หากไปช้าจะมีปัญหา ตอนนี้จะเอาสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน สินค้าปิโตร เคมีของไทยที่อยู่แถบมาบตาพุด ส่งออกไปลาว-จีน และต่อไปจะส่งต่อไปยุโรป ทำให้ง่ายขึ้น เนื่องจากจีนส่งออกทุกเดือนอยู่แล้ว เส้นทางรถไฟจะง่ายกว่า

นายปัญญา กล่าวต่อว่าประเด็นน้ำมัน การส่งสินค้าด้วยรถไฟครั้งหนึ่ง ขนสินค้า 1 หัวจักร ประมาณ 30-60 ตู้ ใช้คนขับ 2 คัน แต่ถ้าไปรถยนต์จะใช้รถประมาณ 30-60 คัน การใช้รถไฟจะช่วยลดค่าน้ำมันไปได้โดยอัตโนมัติ ลดคาร์บอนไดออกไซค์ในอากาศลง ก่อนนี้ทางบริษัทขนสินค้าทางรถยนต์ ประมาณ 200-300 คัน แต่เจอปัญหาการขนส่งทางบกจะช้า เพราะใช้คนขับเยอะ การจราจรติดขัด คนขับเหนื่อย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนทุกวัน กระทบต่อสภาพถนนพังด้วย

แต่เมื่อเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งเป็นทางราง บริษัทตนอยู่ที่ระยอง ก็จะใช้รถไฟจากนิคมมาบตาพุดไปยังท่าเรือแหลมฉบัง 30 ตู้ยาว หรือ 60 ตู้สั้น ไม่ต้องใช้รถ 60 คันเหมือนเมื่อก่อน แต่ใช้รถไฟคันเดียวจบ ซึ่งขณะนี้บริษัทเปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งทางรางหมดแล้วทุกเส้นทาง ปัญหาที่พบ คือรถไฟยังปรับตัวไม่ทันกับเอกชน เพราะรถไฟไม่คาดว่าจะมีการใช้งานเยอะขนาดนี้

ที่ผ่านมาเอกชนต้องเข้าไปช่วยเหลือการรถไฟ เช่นเอกชนต้องลงทุนในสถานี ปรับพื้นที่คอนเทนเนอร์ยาร์ดเอง เทปูน ปรับพื้นเอง เพราะรถไฟขาดทุนไม่มีงบประมาณตรงนี้ หากรัฐบาลต้องการลดเครดิตคาร์บอน ต้องการให้ใช้น้ำมันน้อยลง หรือต้องการให้รถบรรทุกไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯ มากนัก ก็ควรหันมาลงทุนกับรถไฟแทน เช่น พิจารณาว่าจังหวัดไหนมีการลงทุนมากน้อยเพียงใดก็ให้มีการเทปูน ทำ CY อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ

"ตอนนี้พอไม่มีงบ รถไฟก็ทำอะไรไม่ได้ เอกชนต้องทำเอง ต้องเทปูนเอง เอาเครื่องจักรสำหรับยกของไปใช้เอง รัฐบาลต้องหันมาให้ความสนใจรถไฟเป็นหลักเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทางบริษัทตนก็จะเอาน้ำมัน และเม็ดพลาสติก ขยายพื้นที่ไปที่ จ.ขอนแก่น และอ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา" นายปัญญากล่าว.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 19 พ.ย. 2564
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2021 11:43 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟลอยน้ำ! รฟท.เปิดขบวนเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เริ่ม 26 พ.ย.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 24 พฤศจิกายน 2564 22:27
ปรับปรุง: 24 พฤศจิกายน 2564 22:27



การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดให้บริการขบวนรถพิเศษนำเที่ยว รถไฟลอยน้ำต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2564-มกราคม 2565 โดยเริ่มให้บริการเที่ยวแรกวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ผู้สนใจสามารถจองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ หรือผ่านระบบ D-Ticket รวมถึงสามารถจองเดินทางเป็นหมู่คณะแบบเช่าเหมาคันได้ด้วย

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดมาตรการผ่อนคลายควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด และประกาศเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เส้นทางกรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวรถไฟลอยน้ำหนึ่งเดียวของเมืองไทย ในทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2564-มกราคม 2565

ประกอบด้วย
วันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2564 วันที่ 3-5, 10-12, 17-19, 24-26 ธันวาคม 2564 วันที่ 7-9, 14-16, 21-23, 28-30 มกราคม 2565 (ยกเว้นวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ในวันเสาร์ที่ 1 และอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2564) รวม 27 วัน โดยมีขบวนรถให้บริการทั้งรถนั่งธรรมดา ชั้น 3 และรถปรับอากาศ ชั้น 2 พ่วงให้บริการในขบวนรถ คิดอัตราค่าโดยสารผู้ใหญ่และเด็กราคาเดียวกัน ดังนี้

รถธรรมดา กรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ เที่ยวไป-กลับ ราคา 330 บาท

สระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง เที่ยวไป-กลับ ราคา 130 บาท

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ เฉพาะเที่ยวกลับ ราคา 150 บาท

รถปรับอากาศ
กรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ เที่ยวไป-กลับ ราคา 560 บาท

สระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง เที่ยวไป-กลับ ราคา 260 บาท

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ เฉพาะเที่ยวกลับ ราคา 250 บาท

สำหรับตารางการเดินรถ เที่ยวไป (ขบวนที่ 921) ขบวนรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06.00 น. จากนั้นหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ คือ สถานีสามเสน ชุมทางบางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย ถึงจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ขบวนรถจะหยุดกลางสันเขื่อน มีเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ดื่มด่ำกับความงดงาม 20 นาที และเดินทางไปที่สถานีโคกสลุง มีเวลาให้นักท่องเที่ยวชิม ชอปสินค้าพื้นเมือง OTOP ประมาณ 30 นาที จากนั้นขบวนรถจะพานักท่องเที่ยวมาที่ตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 10.35 น. นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะรับประทานอาหารกลางวันจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่น หรือท่องเที่ยวรอบนอกตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

โดยใช้บริการรถตู้ อัตราค่าบริการท่านละ 60 บาทตลอดเส้นทาง ไปชมทุ่งทานตะวัน ณ บ้านกล้วย & ไข่ ชมสวนเฟิร์นยักษ์ ณ ไร่ทรัพย์ประยูร

จากนั้นขบวนรถไฟเที่ยวกลับ (ขบวนที่ 926) ออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เวลา 15.30 น. และหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ คือ สถานีชุมทางแก่งคอย สระบุรี อยุธยา รังสิต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน ชุมทางบางซื่อ สามเสน ถึงสถานีกรุงเทพฯ เวลา 18.50 น.

ในการเปิดให้บริการขบวนรถพิเศษนำเที่ยวกรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ การรถไฟฯ ยังคงปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมกับขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวที่ร่วมเดินทางต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ซึ่งสามารถแสดงหลักฐานผ่าน Digital Health Pass บนหมอพร้อม Application หรือแสดงผลตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดคัดกรองในวันเดินทาง

“ผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ก่อนเดินทาง 30 วัน ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือระบบ D-Ticket รวมถึงสามารถจองเดินทางเป็นหมู่คณะแบบเช่าเหมาคัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย”
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/11/2021 7:45 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เดินหน้าปรับภูมิทัศน์ ช่วงสถานีกรุงเทพ - ที่หยุดรถยมราช
บ้านเมือง วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 19.03 น.

Click on the image for full size
รฟท.เดินหน้าปรับภูมิทัศน์ ช่วงสถานีกรุงเทพ - ที่หยุดรถยมราช

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมทางรถไฟ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชนในพื้นที่บริเวณริมทางรถไฟบริเวณวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร ช่วงระหว่างสถานีกรุงเทพ - ที่หยุดรถยมราช เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และปลอดภัย เพื่อป้องกันการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม โดยจะมีการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมทัศนียภาพให้สะอาด สวยงาม พร้อมมีการจัดระเบียบพื้นที่ จัดเก็บขยะมูลฝอย ติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย

Click on the image for full size

หลังจากนี้ การรถไฟฯ ยังเตรียมดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณโดยรอบโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟฯ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ ตลอดจนเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว และประชาชนที่ใช้เส้นทางในการเดินทางสัญจร รวมถึง เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้นด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/11/2021 7:49 pm    Post subject: Reply with quote

สถานี “หัวหิน” ทำบุญครบรอบ 110 ปี เปิดเส้นทางเดินรถไฟครั้งแรก
บ้านเมือง วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 19.03 น.

Click on the image for full size

วันที่ 25 พ.ย. ที่สถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพรชัย หนูสิทธิ์ นายสถานีรถไฟหัวหิน พร้อมด้วย พนักงานการรถไฟหัวหิน ตำรวจรถไฟหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติร่วมประกอบพิธีบวงสรวงศาลพระพรหม หัวรถจักรไอน้ำ 305 และทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์จำนวน 9 รูปเพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสครบรอบ 110 ปี เปิดการเดินรถไฟครั้งแรกจากสถานีบางกอกน้อยถึงสถานีหัวหิน

“สถานีรถไฟหัวหิน” ถือว่ามีความคลาสสิกและสวยงามที่สุดในเมืองไทย สถาปัตยกรรมสีครีมตัดแดงแห่งนี้สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2469 โดยพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เมื่อครั้งทรงดำรงตำแหน่งเป็น ผู้บังคับบัญชาการรถไฟแห่งกรุงสยามในสมัยนั้น อาคารหลังนี้ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมวิคทอเรียมีการสร้างลวดลายให้สวยงามประดับเสาค้ำยัน เป็นอาคารไม้ของเก่าที่หาชมได้ยาก ต่อมาในปีพ.ศ.2511 สมัย พ.อ.แสง จุลจาริตต์ เป็นผู้ว่าการรถไฟฯได้มีก่อสร้างพลับพลาสนามจันทร์อันเป็นพลับพลาจตุรมุขที่สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ขึ้นที่นี่

ซึ่งเดิมเคยตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม
เพื่อใช้เป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 สถานีรถไฟหัวหิน เป็นสถานีชั้น 1 ของรถไฟสายใต้ เปิดการเดินรถไฟครั้งแรกจากสถานีบางกอกน้อยถึงสถานีหัวหิน ปัจจุบันสถานีรถไฟหัวหินเป็นแลนด์มาร์กของเมืองหัวหินซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยวและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกปีละนับล้านคน.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/11/2021 7:50 pm    Post subject: Reply with quote

สถานี “หัวหิน” ทำบุญครบรอบ 110 ปี เปิดเส้นทางเดินรถไฟครั้งแรก
บ้านเมือง วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 19.03 น.

Click on the image for full size

วันที่ 25 พ.ย. ที่สถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพรชัย หนูสิทธิ์ นายสถานีรถไฟหัวหิน พร้อมด้วย พนักงานการรถไฟหัวหิน ตำรวจรถไฟหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติร่วมประกอบพิธีบวงสรวงศาลพระพรหม หัวรถจักรไอน้ำ 305 และทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์จำนวน 9 รูปเพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสครบรอบ 110 ปี เปิดการเดินรถไฟครั้งแรกจากสถานีบางกอกน้อยถึงสถานีหัวหิน

“สถานีรถไฟหัวหิน” ถือว่ามีความคลาสสิกและสวยงามที่สุดในเมืองไทย สถาปัตยกรรมสีครีมตัดแดงแห่งนี้สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2469 โดยพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เมื่อครั้งทรงดำรงตำแหน่งเป็น ผู้บังคับบัญชาการรถไฟแห่งกรุงสยามในสมัยนั้น อาคารหลังนี้ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมวิคทอเรียมีการสร้างลวดลายให้สวยงามประดับเสาค้ำยัน เป็นอาคารไม้ของเก่าที่หาชมได้ยาก ต่อมาในปีพ.ศ.2511 สมัย พ.อ.แสง จุลจาริตต์ เป็นผู้ว่าการรถไฟฯได้มีก่อสร้างพลับพลาสนามจันทร์อันเป็นพลับพลาจตุรมุขที่สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ขึ้นที่นี่

ซึ่งเดิมเคยตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม
เพื่อใช้เป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 สถานีรถไฟหัวหิน เป็นสถานีชั้น 1 ของรถไฟสายใต้ เปิดการเดินรถไฟครั้งแรกจากสถานีบางกอกน้อยถึงสถานีหัวหิน ปัจจุบันสถานีรถไฟหัวหินเป็นแลนด์มาร์กของเมืองหัวหินซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยวและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกปีละนับล้านคน.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 410, 411, 412 ... 471, 472, 473  Next
Page 411 of 473

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©