RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181245
ทั้งหมด:13492480
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 412, 413, 414 ... 471, 472, 473  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/12/2021 6:04 pm    Post subject: Reply with quote

ชม "คุณทวด" รถไฟหัวจักรไอน้ำขบวนพิเศษ
Dec 5, 2021
Thai PBS News

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดรถไฟขบวนพิเศษ ซึ่งเป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำ จากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีประชาชนจำนวนมาก มาถ่ายรูป และนั่งขบวนรถไฟขบวนนี้


https://www.youtube.com/watch?v=Ha38u5iQ_yY
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/12/2021 11:11 am    Post subject: Reply with quote

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
8 ธ.ค. 64 10:38 น.
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/5257509740930521

ผู้ว่าการรถไฟฯ ลงพื้นที่ภาคเหนือ กรุงเทพ-นครลำปาง ร่วมรับฟังปัญหาของชาวชุมชนช่องแค จ.นครสวรรค์ ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง บูรณะสะพานดำ เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่

เมื่อวันที่ 3-5 ธันวาคม 2564 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นำคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ออกเดินทางโดยรถไฟ เพื่อสำรวจการดำเนินงานในเส้นทางรถไฟสายเหนือ กรุงเทพ-นครลำปาง ในการนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสถานีรถไฟช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ช่องแค เนื่องจากสภาพความเจริญของเมืองได้เปลี่ยนไปจากในอดีตที่บริเวณนี้เคยเจริญกว่าชุมชนใกล้เคียง จึงทำให้อัตราค่าเช่าถูกคิดบนพื้นฐานของความเจริญในสมัยนั้น แต่ในปัจจุบันความเจริญของเมืองได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ โดยสถานีรถไฟช่องแค มีอาคารพาณิชย์ตั้งอยู่โดยรอบสถานีรถไฟ เป็นอาคารไม้สองชั้นปลูกสร้างและอยู่อาศัยกันมาเป็นระยะเวลานาน

นอกจากนี้ ผู้ว่าการรถไฟฯ ยังได้ร่วมประชุมและตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เด่นชัย-เชียงของ และโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-นครพนม โดยการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่นั้น มุ่งหวังที่จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ของประเทศด้วยการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้เป็นโครงข่ายหลักในการขนส่ง สอดคล้องตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการค้าการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนการโดยสารและขนส่งสินค้า ตลอดจนเป็นการช่วยประหยัดการใช้พลังงานของประเทศในระยะยาว

ผู้ว่าการรถไฟฯและคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ได้ร่วมหารือกับนายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจังหวัดลำปาง ในการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟฯบริเวณสะพานดำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดลำปาง โดยทางการรถไฟฯ ได้ดำเนินการบูรณะสะพานดำ สะพานรถไฟสายประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ประจำจังหวัด โดยทางการรถไฟฯได้บูรณะสะพานดำและพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเรียบร้อยแล้วสำหรับแผนงานในระยะที่ 1 และจะมีการดำเนินการแผนงานระยะที่ 2 โดยได้วางแผนงานที่จะพัฒนาพื้นที่เพื่อให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ของการรถไฟฯ และเป็นพื้นที่สำหรับสันทนาการสำหรับชาวลำปาง รวมถึงนักท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นแหล่งศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชนและสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนและเป็นการตอกย้ำว่า การรถไฟฯ อยู่คู่ชุมชนและประชาชนตลอดไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2021 8:28 pm    Post subject: Reply with quote

รถบรรทุกสัมภาระ ที่ฝ่ายการช่างกลทำการดัดแปลงรถโดยสารให้เป็นรถสำหรับบรรทุกสินค้าประเภทห่อวัตถุ รถจักรยาน รถจักรยานยนต์
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4702226936502464&id=222323771159492
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 09/12/2021 5:03 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ผู้ว่าการรถไฟฯ ลงพื้นที่ภาคเหนือ กรุงเทพ-นครลำปาง ร่วมรับฟังปัญหาของชาวชุมชนช่องแค จ.นครสวรรค์ ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง บูรณะสะพานดำ เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
8 ธันวาคม 2564 เวลา 10:38 น.


ลมหนาวมาแล้ว อย่ารอช้า !! ขึ้นรถไฟแอ่วเมืองลำปาง แวะเช็คอิน “สะพานดำ” มนต์ขลังทางประวัติศาสตร์ชาติไทยในอดีต แลนด์มาร์คน้องใหม่ของลำปาง
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
9 ธันวาคม 2564 เวลา 16:14 น.

เข้าสู่ช่วงปลายปี ช่วงที่หลายท่านเริ่มแพ็คกระเป๋าเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยว..... โดยในทุกปีภาคเหนือของไทย ยังคงเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ ด้วยขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นสดชื่น ส่งท้ายปี แต่หากจะเดินทางท่องเที่ยวให้ได้อรรถรสครบถ้วน ก็ต้องยกให้บริการขนส่งสุดคลาสสิคอย่าง “รถไฟ” ที่ไม่เพียงแต่จะนำไปยังปลายทางอย่างปลอดภัยแล้ว นักท่องเที่ยวจะยังได้สัมผัสกับอากาศ บรรยากาศ และวิถีชีวิตของชุมชนต่างๆ ตลอด 2 ข้างทางที่รถไฟเคลื่อนผ่านอีกด้วย
จังหวัดในภาคเหนือ ที่ขบวนรถไฟของเราจะพานักท่องเที่ยวทุกท่านไปเยือนในครั้งนี้ ก็คือ จังหวัดลำปาง เมืองรถม้า จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะไปไหว้พระธาตุลำปางหลวง ชมธรรมชาติบนอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน หรือจะแวะ
ช้อปกระจายรายได้ที่กาดกองต้า เป็นต้น แต่วันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ที่อาจจะยังไม่คุ้นหูคนทั่วไป แต่รับประกันได้ถึงความคุ้มค่า น่ามาเยือน สถานที่แห่งนี้ก็คือ “สะพานดำ” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดลำปาง
สะพานดำหรือสะพานรถไฟจังหวัดลำปาง เป็นสะพานเหล็กแบบโครงสี่เหลี่ยมคางหมู 5 ช่วง เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนในพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นสะพานประวัติศาสตร์คู่บ้าน คู่เมือง มากว่า 105 ปี ตัวสะพานพาดข้ามแม่น้ำวัง อยู่ระหว่างสถานีรถไฟนครลำปาง กับ สถานีรถไฟบ่อแฮ้ว ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 หลังจากการต่อขยายทางรถไฟจากลำปางไปเชียงใหม่ เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2459 และถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดใส่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ยังคงสภาพสมบูรณ์ จึงถูกบูรณะใหม่ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง โครงสะพานจะทาสี 6 ชั้นเพื่อกันสนิมตามมาตรฐานของการรถไฟฯ มีสีดำเป็นชั้นนอกสุด จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกติดปากกันว่า “สะพานดำ” นั่นเอง
ปัจจุบันสะพานดำยังคงมีรถไฟวิ่งผ่านทุกวัน และการรถไฟฯ ได้บูรณะสะพานดำและพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเรียบร้อยแล้วสำหรับแผนงานในระยะที่ 1 ถูกพัฒนาพื้นที่ ปรับภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงามตามนโยบายความร่วมมือของการรถไฟแห่งประเทศไทย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ออกกำลังกาย ตัวสะพานดำที่อยู่เหนือแม่น้ำวัง ตัดกับสีของท้องฟ้าทั้งยามเช้าและยามเย็น จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักถ่ายภาพ โดยเฉพาะการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคู่รัก และจะมีการดำเนินการแผนงานระยะที่ 2 โดยได้วางแผนงานที่จะพัฒนาพื้นที่เพื่อให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ของการรถไฟฯ และเป็นพื้นที่สำหรับสันทนาการสำหรับชาวลำปาง รวมถึงนักท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นแหล่งศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชนและสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนและเป็นการตอกย้ำว่า การรถไฟฯ อยู่คู่ชุมชนและประชาชนตลอดไป
นโยบายการผลักดันสะพานดำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย จะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าสู่จังหวัดลำปางมากขึ้น เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดและช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่ สำหรับใครที่ยังไม่มีแผนรับลมหนาวที่ไหนในช่วงปลายปีนี้ แนะนำเตรียมเสื้อหนาๆ และลองนั่งรถไฟมาเที่ยวจังหวัดลำปาง แวะเช็คอินที่สะพานดำ รับลมหนาว ไปพร้อมๆกับเรียนรู้ประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็น ผ่านสถาปัตยกรรมอันสวยงามของสะพานดำแห่งนี้
ข้อมูลการเดินทาง
สะพานดำ ตั้งอยู่ใกล้กาดเก๊าจาว ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง ห่างจากสถานีรถไฟนครลำปาง 1 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถไฟ ไปยังสถานีนครลำปาง เดินลัดเลาะเส้นทางวัฒนธรรมกาดเก๊าจาว ด้วยเวลาเพียง 10 นาทีก็ถึงแล้ว สามารถเยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
เวลาขบวนรถไฟ (ให้บริการทุกวัน)
เที่ยวไป
ขบวน 7 ออกกรุงเทพ 08.30 น. ถึงลำปาง 17.30 น.
ขบวน 109 ออกกรุงเทพ 13.45 น. ถึงลำปาง 01.54 น.
ขบวน 9 ออกกรุงเทพ 18.10 น. ถึงลำปาง 04.57 น.
ขบวน 13 ออกกรุงเทพ 19.35 น. ถึงลำปาง 06.30 น.
เที่ยวกลับ
ขบวน 102 ออกลำปาง 08.27 น. ถึงกรุงเทพ 21.10 น.
ขบวน 8 ออกลำปาง 10.38 น. ถึงกรุงเทพ 19.25 น.
ขบวน 10 ออกลำปาง 20.12 น. ถึงกรุงเทพ 06.50 น.
ขบวน 14 ออกลำปาง 19.24 น. ถึงกรุงเทพ 06.15 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 13/12/2021 11:28 am    Post subject: Reply with quote


" ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ป้ายแดง รถโบกี้ปั้นจั่นกล (บปก.) หรือรถเครนราง) KIROW 3 คัน Made in Germany ที่ รฟท. ได้ลงนามสัญญากับบริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซิสเต็ม จำกัด (GTS) ในเครือบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) (FORTH) ในการจัดหารถเครนราง ขนาดยกน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 80 ตัน และรายละเอียดสเปคอื่นๆ ตามที่ต้องการใน TOR จำนวน 3 คัน เป็นเงิน 798 ล้านบาท (ราคากลาง 810 ล้านบาท) ที่ รฟท. ได้ทำสัญญาซื้อขาย เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2563 เพื่อนำมาทดแทนของเดิมที่มีอายุการใช้งานยาวนาน เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

โดยรถโบกี้ปั้นจั่นกลชุดใหม่ ทั้ง 3 คันจะมาทดแทน รถโบกี้ปั้นจั่นกลรุ่นเก่าจำนวน 3 คัน ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 57 ปี มีความสามารถในการยก 35 ตัน ใช้เครื่องต้นกำลังเป็นไอน้ำ ซึ่งปัจจุบันรถจักรและรถพ่วงรุ่นใหม่ มีน้ำหนักมากขึ้น และเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องใช้รถปั้นจั่นกล ที่มีความสามารถในการยกสูงขึ้นกว่าเดิม และพ่วงในขบวนรถที่ใช้ความเร็วมากขึ้นได้ โดยรถโบกี้ปั้นจั่นกลใหม่นี้ สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 90 กม./ชม. เมื่อพ่วงในขบวน

วันที่ 9 ธันวาคใ ก็แถลงเรื่องนี้รวมด้วย น่าจะรอพิธีการทางศุลกากร กำหนดการออกวันที่14-15ธ.ค.นี้ืย้ายไปพลูตาหลวงเพื่อ ใส่และตรวจสอบพวกของเหลวและทดสอบทั้ง static testและ dynamic test ประกอบการตรวจรับงานครับ

เตรียมประจำการต้นปีหน้า 3แขวง (บางซื่อ แก่งคอย/นครราชสีมา ศรีราชา/อุตรดิตถ์/ชุมพร เพื่อรองรับเส้นทางรถcsr 20ตัน/เพลา)
ป.ล.ในรูปจะเห็นได้ว่าด้านท้ายรถขยายยาวออกได้ เพื่อเพิ่มความกว้างฐานในการรับ Balance
- Clip : https://www.youtube.com/watch?v=Jre0JiKaeks
https://www.facebook.com/gon.kfc/posts/4644081312351204
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4691577970889111
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4608211435966703&id=100003336779122
https://www.facebook.com/gon.kfc/posts/4648054005287268

รถโบกี้ปั้นจั่นกลใหม่ของการรถไฟ ลงรางที่ประเทศไทยครั้งแรก ณ สถานีรถไฟแหลมฉบัง
Made In Germany #มือ1เริ่มมาบ้าง
https://www.facebook.com/game.northgear/posts/4134131563357937

Wisarut wrote:
วันนี้ (5 มี.ค.63) หลังจากที่มีเคสรถไฟตกรางย่านสถานีกรุงเทพ เลยถามความคืบหน้าเรื่องรถโบกี้ปั้นจั่นกล 3 คัน จึงได้รับทราบว่า รฟท. เพิ่งได้ลงนามสัญญากับบริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซิสเต็ม จำกัด (GTS) ในเครือบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) (FORTH) ในการจัดหารถเครนราง จาก Kirow Ardelt GmbH ขนาดยกน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 80 ตัน และรายละเอียดสเปคอื่นๆ ตามที่ต้องการใน TOR จำนวน 3 คัน เป็นเงิน 798 ล้านบาท (ราคากลาง 810 ล้านบาท) โดยบริษัทฯ จะต้องนำรถมาส่งมอบภายใน 18 สิงหาคม 2564
รูปแบบรถเครนที่จัดหามา จะเป็นแบบแขนบูมยืดได้หดได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยกและกู้รถได้สะดวกมากขึ้น
Note: นับถอยหลังอีกประมาณ 5 เดือน รฟท. จะได้รับรถโบกี้ปั้นจั่นกล (รถเครนราง) ขนาดยกน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 80 ตัน จำนวน 3 คัน จาก Kirow Ardelt GmbH มาใช้งานแล้ว
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3859148994132017
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2887591774621082

นี่ครับแหล่งข่าวจาก Kirow Ardelt GmbH ที่บอกว่าสั่งซื่้อปั้นจั่น 80 ตัน ส่งมอบสิงหาคม 2021
https://www.facebook.com/KirowArdeltGmbH/posts/3330559680305066


Last edited by Wisarut on 15/12/2021 1:58 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2021 1:54 pm    Post subject: Reply with quote

#รวบขี้ยาถอดหมุดรางรถไฟขายเป็นเศษเหล็กแลกยาบ้า
ดาวแปดแฉก
15 ธันวาคม 2564 เวลา 13:16 น.

ตำรวจรถไฟ รวบขี้ยาแอบถอด"หมุดรางรถไฟ" หาเงินเสพยาบ้า
คมชัดลึก ออนไลน์
15 ธันวาคม 2564 เวลา 13:00 น.

รวบขี้ยาลักหมุดรางรถไฟ ยึดของกลางมูลค่าครึ่งแสน
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: 15 ธันวาคม 2564 เวลา 15:21 น.
ปรับปรุง: 15 ธันวาคม 2564 เวลา 15:21 น.



MGR Online - ตำรวจรถไฟ บุกรวบหนุ่มใหญ่วัย 51 ปี ย่องขโมยหมุดรางรถไฟ ยึดของกลางมูลค่าครึ่งแสน รับสารภาพนำไปขายร้านของเก่า นำเงินที่ได้ซื้อยาบ้ามาเสพ


จากการเปิดเผยของ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. ว่าเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2564 เวลาประมาณ 17.30 น. ตำรวจรถไฟ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.2 บก.รฟ. สั่งการให้ พ.ต.ต.กิจจา จันทาทับ สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ และฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับนายมนัส อายุ 51 ปี ชาว อ.เด่นชัย จ.แพร่ พร้อมของกลาง ตะปูราง 50 ปอนด์ จำนวน 64 ตัว จานรองราง 50 ปอนด์ จำนวน 7 แผ่น จานรองรางชุดประแจ 50 ปอนด์ จำนวน 1 แผ่น สกรูเกียวปล่อยจำนวน 3 อัน ตะปูแผงจำนวน 5 แผ่น รวมราคาประมาน 50,000 บาท โดยกล่าวหาว่า "ลักทรัพย์ในสถานีรถไฟ"

จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหารับว่า เข้ามาลักทรัพย์บริเวณหลังหอสัญญาณสถานีรถไฟเด่นชัยหลายครั้ง เมื่อได้ของมาจะนำไปขายร้านรับซื้อของเก่าได้เงินมาจะไปซื้อยาบ้าเสพ ซึ่งวิธีการลักทรัพย์จะใช้อุปกรณ์งัดเอาทรัพย์สิน ที่ยึดติดอยู่กับรางรถไฟไป
พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า ตำรวจรถไฟรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รถไฟอยู่เป็นประจำว่ามีคนเข้ามาลักทรัพย์โดยถอดเอาหมุดรางรถไฟอยู่เป็นประจำ ต้องทำการซ่อมบำรุงอยู่ตลอด เพราะหากไม่ซ่อมอาจทำให้เสียหายได้ เช่น อาจทำให้รถไฟตกรางเนื่องจากรางดังกล่าวจะใช้สำหรับจอดรถสินค้าเก่า จึงกำชับให้ตำรวจรถไฟสืบสวนหาผู้กระทำผิด และหมั่นออกตรวจบริเวณดังกล่าวให้บ่อยขึ้น จนมาพบตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางจึงจับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เด่นชัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย.
https://www.facebook.com/policetv.tv/posts/4662740843808526
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/12/2021 7:09 am    Post subject: Reply with quote

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
18 ธ.ค. 64 23:41 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดจัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายภายใต้โครงการ “Hua Lamphong In Your Eyes” ในหัวข้อ “Hua Lamphong (หัวลำโพง) Through the Lens”
ชิงรางวัลรวมกว่าหนึ่งแสนบาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศจากผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
-
รายละเอียดเพิ่มเติม / ส่งภาพ :
http://www.rpst.or.th/hualamphong/
-
ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 19 - 26 ธันวาคม 2564 (ปิดระบบรับภาพเวลา 17:00 น.)
-
รางวัล :
รางวัลชนะเลิศ เงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศจากผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง เงินสด 15,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศจากผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
รองชนะเลิศอันดับสอง เงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศจากผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
ชมเชย 20 รางวัล เงินสด 3,000 บาท พร้อมของที่ระลึกจากการรถไฟแห่งประเทศไทย
-
สอบถามเพิ่มเติม :
rpst.info@gmail.com หรือ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690

Click on the image for full size

---------------------

การรถไฟฯระดมความเห็นแผนฟื้นฟูปี 2566-2570
เผยแพร่: 19 ธ.ค. 2564 09:38 ปรับปรุง: 19 ธ.ค. 2564 09:38 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดงาน “SRT’s Next Chapter Starts Today with Us All” ร่วมระดมแลกเปลี่ยนความเห็นจากผู้บริหารของการรถไฟฯ เพื่อกำหนดบทบาท และทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน

(17ธ.ค.64 ) การรถไฟแห่งประเทศไทย สัมมนาระดมความคิดเห็นผู้บริหาร ภายใต้แนวคิด “SRT’s Next Chapter Starts Today with Us All” ณ โรงแรม สยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งการรถไฟฯ จัดขึ้นเพื่อร่วมระดมแลกเปลี่ยนความเห็นของผู้บริหารภายในองค์กร เพื่อกำหนดบทบาท และทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า งานสัมมนาระดมความเห็นครั้งนี้ จัดขึ้นตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่ต้องการเปิดรับฟังมุมมองจากผู้บริหาร ให้เข้ามามีส่วนรวมในการกำหนดบทบาท ทิศทางขององค์กรในการก้าวสู่อนาคต ซึ่งผู้ว่าการรถไฟฯ ร่วมบรรยายแสดงวิสัยทัศน์ พันธกิจ ทิศทางนโยบายของการรถไฟฯ ในการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม เชื่อมต่อการเดินทางและการขนส่งที่มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในทุกระดับ

ควบคู่กับการสร้างภูมิคุ้มกันภายในองค์กร ให้สามารถเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนแนวทางการพัฒนาต่อยอดภารกิจ บทบาทของการรถไฟฯ โดยเน้นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในทุกมิติ เพื่อตอบสนองความต้องการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละภาคส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ภายในงาน ได้หารือกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนองค์กร โดยมีการระดมความคิดเห็นจากผู้บริหาร เพื่อกำหนดเป้าหมายการดำเนินงาน ในแต่ละระยะของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และแนวทางที่การรถไฟฯ มุ่งหวัง ขณะเดียวกัน ยังร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายขององค์กรในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในอนาคตและสภาวะปัจจุบัน ภายใต้การดำเนินการโครงการจัดทำแผนวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย

ข้อมูลที่ได้จากการระดมความคิดจะถูกนำไปใช้รวบรวม วิเคราะห์สำหรับการจัดทำแผนฟื้นฟูการรถไฟแห่งประเทศไทยปี 2566-2570 ต่อไป

Click on the image for full size

Click on the image for full size

------------

ประชาชนถล่มยับรฟท.ไม่วางแผนเหลือ3วันนัดประชุมรถไฟทางไกล
Source - เดลินิวส์
Sunday, December 19, 2021 05:01

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียน "ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" ถึงความสับสนในการใช้บริการรถไฟ หลังจากนายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกาศเป็นทางการว่า ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.64 การเดินขบวนรถไฟจากสถานีชุมทางบางซื่อ ถึงสถานีรังสิต ขบวนรถไฟโดยสารทั้งหมดจะขึ้นไปใช้ทางรถไฟยกระดับเช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดง และยุติการเดินขบวนรถไฟโดยสารบนทางรถไฟระดับพื้นดิน ทำให้ไม่สามารถให้บริการที่สถานีและที่หยุดรถระดับพื้นดินรวม 5 แห่ง ได้แก่ สถานีบางเขน สถานีหลักสี่ ที่หยุดรถ กม. 11 ที่หยุดรถทุ่งสองห้อง และที่หยุด รถเคหะ กม. 19

ขณะที่ผู้โดยสารบางรายระบุว่าไปจองซื้อตั๋วรถไฟทางไกลตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. จะไม่รับส่งที่สถานีกรุงเทพ (สถานีหัวลำโพง) แล้ว เพราะรถไฟทางไกลจะสิ้นสุดที่สถานีกลางบางซื่อ และหลายรายระบุว่า เมื่อสอบถามสายด่วนการรถไฟฯ 1690 เพื่อขอความชัดเจนจะได้วางแผนเรื่องการเดินทาง ก็ไม่มีข้อมูลให้ว่าช่วงหลังวันที่ 23 ธ.ค. จะรับส่งที่สถานีหัวลำโพงหรือไม่ และมีขบวนใดบ้างที่ยังเข้าสถานีหัวลำโพง และไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนเรื่องการยกเลิกวิ่งรถไฟบนทางพื้นราบเช่นกัน โดยแจ้งกับประชาชนผู้สอบถามว่าต้องรอแผนงานและนโยบายจากผู้บริหารก่อน สร้างความสับสนให้กับประชาชนและวิพากษ์วิจารณ์ว่ารฟท.ทำงานเช้าชามเย็นชาม ไร้แผนการทำงาน แทนที่จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า กลับไม่ดำเนินการ ถือว่าไม่พัฒนาบริการ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายสราวุธ สราญวงศ์ รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรฟท. (สร.รฟท.) เข้ายื่นหนังสือด่วนที่สุดต่อ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ขอให้พิจารณาทบทวนชะลอแผนงานการเปิดให้บริการรถไฟทางไกล (LD) ไปที่สถานีกลางบางซื่อตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.ออกไปก่อนจนกว่ารฟท.จะมีความพร้อมเพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมากได้รับผลกระทบความเดือดร้อนในการใช้บริการที่ไม่สะดวก

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 20 ธ.ค. นี้จะ ประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการ และการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ โดยจะนำเรื่องการเปิดให้บริการ รถไฟทางไกล ที่สถานีกลางบางซื่อมาพิจารณาด้วย เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนเปิดบริการในวันที่ 23 ธ.ค.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 20 ธ.ค. 2564 (กรอบบ่าย)




ลุ้นปรับแผนวิ่งรถไฟเชิงสังคม 52 ขบวนเข้า”หัวลำโพง”หลังฟังเสียงประชาชนเดือดร้อนหนัก
เผยแพร่: 19 ธ.ค. 2564 19:16 ปรับปรุง: 19 ธ.ค. 2564 19:16 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

จับตา 20 ธ.ค. คมนาคม-รฟท.ถกแผนปิด”หัวลำโพง”รฟท.จ่อชง วิ่งรถเชิงสังคม 52 ขบวนต่อ ลดผลกระ ด้านสหภาพฯ ชี้ระบบสถานีกลางบางซื่อไม่พร้อม แถมยังมี 14 ขบวนรถเชิงสังคม หยุดแค่ดอนเมือง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าหลังจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังความเห็น หัวข้อ “อนาคตสถานีหัวลำโพง ประวัติศาสตร์คู่การพัฒนา” เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 ขณะนี้รฟท.กำลงรวบรวมข้อมูล สรุปความเห็นคิดจากทุกภาคส่วน ซึ่งกระทรวงคมนาคมนั้นพร้อมรับฟังทุกฝ่ายและนำมาประมวลผล ว่าหากดำเนินการแล้วจะเกิด ประโยชน์อะไรกับประชาชนอย่างไรบ้าง

ซึ่งการเปิดเวทีสาธารณะเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้รู้ว่า มีการเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างไร ซึ่งยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมไม่มีแนวคิดทุบสถานี หัวลำโพง และเรื่องการพัฒนาสถานีหัวลำโพงไม่ใช่แนวคิดผม เป็นเรื่องที่เกิดมาก่อนแล้ว มีการศึกษา ตั้งแต่มีการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ผมเพียงแค่นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาการบริหารงานของ รฟท. ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ประสบภาวะขาดทุนเท่านั้น เพราะหลายประเทศทำสำเร็จแล้ว เช่า ญี่ปุ่น ซึ่งหากข้อมูล ยังไม่ตกผลึก ก็ยังจะไม่ดำเนินการ

ส่วนเรื่องการเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง ในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ขณะนี้ ขืนยันว่า จะมีการเดินรถเข้าไป สถานีหัวลำโพง จำนวน 22 ขบวน ตามแผนของ รฟท. ซึ่งได้ให้ โจทย์ รฟท. ไปพิจารณาและวิเคราะห์ว่า จะมีแนวทางอย่างไรที่ทำให้การเดินรถทั้ง 22 ขบวนลดผลกระทบกับการจราจรทางบก ได้อีกหรือไม่อย่างไร หากมีก็ให้เสนอมา แต่หากไม่มีและวิ่ง 22 ขบวน ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุดแล้ว ก็ดำเนินการตามแผนนี้

ส่วนกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ขอให้ รฟท. พิจารณาทบทวนชะลอแผนงานการเปิดให้บริการรถไฟทางไกล(LD)ไปที่สถานีกลางบางซื่อ และคงการเดินรถชานเมืองทั้งหมด เข้าสถานีหัวลำโพงต่อไปก่อน เนื่องจาก ยังไม่มีความพร้อม เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบนั้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทุกเรื่องทุกแนวคิดต้องมีเหตุผลและหลักการสนับสนุน จะใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาสนับสนุน หรือตัดสินใจไม่ได้ ผมไม่เคยทำงานแบบนั้น คงต้องนำข้อมูลมาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งการปรับแผนเดินรถต่างๆ ขณะนี้รฟท.กำลังเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ

อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่าย วันที่ 20 ธ.ค.64 จะมีการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการ และการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ โดยจะนำเรื่องการเปิดให้บริการรถไฟทางไกล ที่สถานีกลางบางซื่อมาพิจารณาด้วย

@รฟท.จ่อเสนอวิ่งรถเชิงสังคม 52 ขบวนเข้าหัวลำโพงไปถึงปีใหม่ ลดผลกระทบ

รายงานข่าว แจ้งว่า จากการที่รฟท.ได้เปิดเวทีรับฟังข้อมูล ข้อคิดเห็นของประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงมีข้อเรียกร้องจากสหภาพฯรฟท.ให้ชะลอกรณีการย้ายรถไฟทางไกลและรถไฟชานเมืองจากสถานีหัวลำโพงไปให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ ออกไปจากที่กำหนดเริ่มในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ดังนั้น รฟท.จะสรุปรายละเอียดข้อคิดเห็น เสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อขอเดินรถบริการเชิงสังคม ที่มีทั้งหมด ประมาณ 52 ขบวน /วัน เข้าสถานีหัวลำโพงต่อไปก่อน เพื่อลดผลกระทบกับผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยรถไฟจำนวนมาก

หลังจากนั้น ควรเปิดรับฟังความเห็นประชาชนอีกครั้งเพื่อพิจารณาปรับรายละเอียดและแนวทางใดที่เกิดประโยชน์สุงที่สุด

@ไม่ให้รถเชิงสังคมเข้าสถานีกลางบางซื่อ 14 ขบวนต้องไปขึ้นที่”ดอนเมือง”

รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป ตามแผนเบื้องต้น รถไฟทางไกลสายเหนือ สายอีสาน จะหยุดบริการ ที่สถานีกลางบางซื่อ ไม่เข้าสถานีหัวลำโพงแล้ว จำนวน 42 ขบวน /วัน (ไป 21 ขบวน กลับ 21 ขบวน) เช่น กรุงเทพ -เชียงใหม่ ,กรุงเทพ-เด่นชัย ,กรุงเทพ-ศิลาอาสน์ ,กรุงเทพ-หนองคาย , กรุงเทพ-อุบลราชธานี เป็นต้น

ส่วนสายใต้ จะหยุดที่สถานีบางซื่อ (สถานีเก่า) ไม่เข้าสถานีกลางบางซื่อ จำนวน 26 ขบวน/วัน (ไป 13 ขบวน กลับ 13 ขบวน) ได้แก่ กรุงเทพ-หาดใหญ่,กรุงเทพ-สุราษฏร์ธานี,กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช กรุงเทพ-ตรัง , กรุงเทพ-สุไหงโกลก
สำหรับขบวนรถธรรมดา อีก 14 ขบวน (ไป7 ขบวน กลับ 7 ขบวน) จะหยุดบริการที่สถานีดอนเมือง ไม่วิ่งเข้าสถานีกลางบางซื่อ ได้แก่ กรุงเทพ-นครสวรรค์ ,กรุงเทพ-บ้านภาชี, กรุงเทพ-ลพบุรี ,กรุงเทพ-แก่งคอย,กรุงเทพ-พิษณุโลก,กรุงเทพ-ตะพานหิน ,กรุงเทพ-สุรินทร์

โดยสถานีดอนเมือง จะเป็นสถานีต้นทาง/ปลายทาง ดงนั้น ผู้โดยสารที่ต้องการจะเข้าบางซื่อ จะต้องลงที่สถานีดอนเมืองและเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าสายสีแดง โดยรฟท.ระบุว่า สามารถใช้ตั๋วโดยสารเดิมในการใช้บริการสายสีแดงได้

สาเหตุที่รถไฟธรรมดา 14 ขบวนดังกล่าว ไม่สามารถเข้าสถานีกลางบางซื่อได้ เนื่องจากเป็นรถไฟดีเซล และเป็นบริการรถเชิงสังคม ซึ่งผู้อำนวยการฝ่ายการโดยสาร รฟท. ระบุว่า รถดีเซลไม่ให้เข้าสถานีบางซื่อ จะให้เข้าเฉพาะขบวนรถเชิงพาณิชย์ เพื่อลดจำนวนรถและผู้โดยสารเนื่องจากการ Operate สถานีกลางบางซื่อ ยังไม่พร้อม

ขณะที่การทำขบวนรถธรรมดา ดังกล่าว หากให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ. จะต้องลากขบวนออกจากเดปโป้บางซื่อขึ้นไปบนทางยกระดับ จนถึงวัดเสมียรนารี จากนั้นต้องถอยขบวนรถกลับมาที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเสียเวลา อีกทั้งหัวรถจักรมีไม่เพียงพอที่จะลากไปตั้งขบวน จึงตัดปัญหาหยุดสถานีสุดท้ายที่ ดอนเมือง เพื่อให้รถลากออกจาเดปโป้ไปทำขบวนที่สถานีดอนเมือง ไม่ต้องย้อนกลับมาที่สถานีกลางบางซื่อ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/12/2021 8:18 pm    Post subject: Reply with quote

แม่ช็อก!ลูกสาว6ขวบถูกประตูรถไฟหนีบหัว ร่างห้อยต่องแต่งข้างขบวน โชคยังดีจนท.ช่วยทัน
เดลินิวส์ 19 ธันวาคม 2564 17:35 น.
ทั่วไทย-กทม.

เกิดอุบัติเหตุประตูรถไฟหนีบหัวหนูน้อยวัย 6 ขวบขณะลงจากขบวนรถไฟที่ "สถานีรถไฟโคกมะกอก" แม่ช็อกเห็นหัวลูกติดกับประตู ขณะที่ร่างกายห้อยต่องแต่งอยู่นอกตัวรถ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกดเปิดประตูก่อนนำร่างหนูน้อยไปปฐมพยาบาล หลังเกิดเหตุฝ่ายแม่เด็กโพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊ก พร้อมตำหนิเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ถามหาความรับผิดชอบและการแก้ไข

จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) แม่ของ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) วัย 6 ขวบ ได้โพสต์ข้อความ ตำหนิการกระทำของฝ่ายงานเกี่ยวข้องทางการรถไฟ ให้ช่วยระมัดระวังในการดูแลรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสาร หลังจากเกิดอุบัติเหตุกับบุตรสาว ขณะก้าวลงจากตัวรถไฟขบวนที่ 279 กรุงเทพ-อรัญประเทศ ที่กำลังจะจอด “สถานีรถไฟโคกมะกอก” แต่ปรากฏว่า จู่ ๆ ประตูรถกลับปิดแล้วยังหนีบเอาศีรษะของหนูน้อยติดกับประตูขบวน ทำให้ร่างห้อยต่องแต่งอยู่ด้านนอก โชคยังดีที่เจ้าหน้าที่พบเห็นเข้าช่วยเหลือกดปุ่มเปิดประตู พาเด็กลงมาได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ด.ญ.บี ยังคงได้รับบาดเจ็บ ศีรษะมีรอยฟกช้ำปูดบวม และหวาดกลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. น.ส.เอ ได้เดินทางมาสอบถามฝ่ายงานเกี่ยวข้องทั้งนายสถานี และเจ้าหน้าที่รถไฟ “สถานีรถไฟโคกมะกอก” ว่าจะรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไร หรือหาทางแนวป้องกันอย่างไรได้บ้าง ปรากฏว่า ทั้งหมดยังให้คำตอบในเรื่องนี้ไม่ได้ นอกจากนี้ยังได้ถามไปถึงเรื่องที่ผู้โดยสารกำลังจะลงจากขบวนรถไฟ แต่ทำไมต้องรีบปิดประตูออกรถเหมือนจะให้ไปต่อทันที ทั้งที่ผู้โดยสารยังลงจากขบวนไม่หมด อีกทั้งสถานีดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้ไม่มีหลักฐานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไร จึงขอเรียกร้องไปยังฝ่ายงานระดับสูง ให้ช่วยสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ รวมทั้งหาทางแก้ไขเพื่อให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 21/12/2021 2:46 am    Post subject: Reply with quote


อย่างหล่อ รฟท. รับมอบหัวรถจักรใหม่ป้ายแดง 50 หัว คาดทะยอยถึงไทยต้นปีหน้า
https://www.youtube.com/watch?v=Nxo1ywKEWrM
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 21/12/2021 11:30 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

อย่างหล่อ รฟท. รับมอบหัวรถจักรใหม่ป้ายแดง 50 หัว คาดทะยอยถึงไทยต้นปีหน้า
https://www.youtube.com/watch?v=Nxo1ywKEWrM


ยินดีต้อนรับ ”อุลตร้าแมน” รถจักรดีเซลไฟฟ้า (ใหม่)
*ลำเลียงจากจีน20คันแรกถึงไทยกลางเดือนม.ค.
*คันละ130ล้านลากตู้สินค้า33คันผู้โดยสาร13คัน
*ATP พร้อมเบรกอัตโนมัติลดอุบัติเหตุจุดตัดถนน
https://mp.weixin.qq.com/s/lWdgGh3gkTyYrUTOz-rRmw

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4748670998524724&id=222323771159492

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3072505099637654
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 412, 413, 414 ... 471, 472, 473  Next
Page 413 of 473

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©