Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180080
ทั้งหมด:13491312
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 125, 126, 127 ... 147, 148, 149  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/03/2022 3:36 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
ลุ้น!4มี.ค.นัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด รับ-ไม่รับรื้อ‘คดีโฮปเวลล์’
วันพุธ ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.32 น.

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำขอพิจารณาใหม่"คดีโฮปเวลล์"
บ้านเมือง
วันศุกร์ ที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.45 น.


ด่วน!ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำขอพิจารณาใหม่‘คดีโฮปเวลล์’
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.37 น.

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ให้รับคำขอ‘คมนาคม-รฟม.’พิจารณา‘คดีโฮปเวลล์’ใหม่ ชี้ข้อกฎหมายที่ใช้ในการทำคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ การยื่นพิจารณาคดีใหม่จึงชอบด้วยกฎหมาย

ด่วน! ศาลปกครองสูงสุด สั่งรื้อคดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4หมื่นล้าน
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15:27 น.

ด่วน! ศาลปกครองสูงสุด สั่งรื้อ"คดีค่าโง่โฮปเวลล์" 2.4หมื่นล้าน รับคำขอคดีใหม่ไว้พิจารณาชี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปมนับระยะเวลาฟ้องคดี ทำข้อกฎหมาย ที่ใช้ในการทำคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ การยื่นพิจาณณาคดีใหม่จึงชอบด้วยกฎหมาย

เปิดรายละเอียดคำสั่งศาลปกครองสูงสุดรื้อคดีโฮปเวลล์
หน้าเศรษฐกิจMega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 18:18 น. 176

เปิดรายละเอียดคำสั่งศาลปกครองสุงสุด วันที่4มีนาคม 2565 รื้อคดีค่าโง่โฮปเวลล์ มีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ (คดีโฮปเวลล์)

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ (คดีโฮปเวลล์) ไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565ศาลปกครองสูงสุดโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีคำร้องที่ 394 – 396/ 2565 ระหว่าง กระทรวงคมนาคม ผู้ร้องที่ 1 และ การรถไฟแห่งประเทศไทยผู้ร้องที่ 2.กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน



อันเป็นคดีที่กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ไว้พิจารณา



โดยอ้างว่า การนับระยะเวลาหรืออายุความในการยื่นข้อเรียกร้องของบริษัท โฮปเวลล์(ประเทศไทย) จำกัด ต่ออนุญาโตดุลาการในคดีนี้ ตามมาตรา 51แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด




รู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้องคดี คือ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2541 ซึ่งเป็นวันที่หนังสือบอกเลิกสัญญาของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ไปถึงบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด มิใช่นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2544 อันเป็นวันที่ศาลปกครองเปิดทำการ ซึ่งกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย เห็นว่า ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่กล่าวอ้างเข้าหลักเกณฑ์และองค์ประกอบ






การพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 75 (1) (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 กรณีในคดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ อ. 221 – 223 2562ให้ยกคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย



ที่ขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการและบังกับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าตอบแทนตามสัญญาสัมปทาน จำนวน2,850,000,000 บาท คืนหนังสือค้ำประกัน และค่าธรรมเนียมการออกหนังสือค้ำประกัน จำนวน38,749,800 บาท กับเงินที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ใช้ในการก่อสร้างโครงการ จำนวน9,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย แก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด



ศาลปกครองสูงสุดโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า แม้ว่าที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดเคยมีมติในคราวประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2545เมื่อวันที่ 27พฤศจิกายน2545 ว่า "ในกรณีที่เหตุแห่งการฟ้องคดีเกิดขึ้นก่อนตาลปกครองเปิดทำการ แต่ผู้ฟัองคดีมิได้นำคดีไปฟัองต่อศาลยุติธรรมซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาในขณะนั้น ต่อมา หลังจากที่ศาลปกครองเปิดทำการเมื่อวันที่ 4มีนาคม 2544 แล้ว ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง





โดยขณะที่ยื่นพัองคดีต่อศาลปกครอง อายุความฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมยังไม่ครบกำหนด แต่การนำคดีดังกล่าวมาฟ้องต่อศาลปกครองนั้น จะเป็นการฟ้องคดีปกครองเมื่อพันกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดี ตามมาตรา 49 มาตรา 5หรือมาตรา 51แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แล้วแต่กรณี



ในกรณีเช่นนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้เริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม2544 ซึ่งเป็นวันที่ตาลปกครองเปิดทำการเป็นต้นไป" ก็ตาม และต่อมา ศาลปกครองสูงสุดได้มีคาลปกครองคำพิพากษาคดีนี้ โดยวินิจฉัยว่า บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด รู้ว่ามีข้อพิพาทเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30มกราคม 2541อันเป็นวันที่ได้รับหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาจากกระทรวงคมนาคม



เมื่อสัญญาระหว่างคู่พิพาทไม่ได้กำหนดเรื่องระยะเวลาการเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการไว้โดยเฉพาะ การเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ จึงกระทำได้ภายในอายุความการฟ้องคดีต่อศาล เมื่อข้อพิพาทได้เกิดขึ้นก่อนที่ศาลปกครองเปิดทำการ การนับอายุความการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มีนาคม 2544 เมื่อบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด



ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโดตุลาการเมื่อวันที่ 24พฤศจิกายน 2547 อันเป็นการยื่นภายในกำหนดระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่มีข้อโด้แย้งเกี่ยวกับสัญญา ข้อพิพาทนี้จึงเป็นข้อพิพาทที่เสนอต่อคณะอนุญาโตตุลาการภายในระยะเวลาโดยชอบแล้วจากคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว เห็นได้ว่า เป็นกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา



โดยอาศัยข้อกฎหมายกรณีการเริ่มนับระยะเวลาการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ โดยไม่ได้เริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดีตามมาตรา 5, แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แต่เริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2544



แม้ว่าคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวจะไม่ได้ระบุถึงมติที่ประชุมใหญ่ฯ ดังกล่าวโดยตรง แต่ก็เริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการตามที่กำหนดในมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 14/2545 เมื่อวันที่ 27พฤศจิกายน 2545



ต่อมา ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยว่า มติของที่ประชุมใหญ่ฯดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ และตาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ฯ เกี่ยวกับการเริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองดังกล่าว ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และโดยที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญย่อมเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา211 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย



ดังนั้น การที่ศาลปกครองสูงสุดในคดีดังกล่าวมีคำพิพากษา โดยเริ่มนับระยะเวลาการฟ้องคดีตามแนวทางที่กำหนดโดยมติที่ประชุมใหญ่ฯ แล้วต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติที่ประชุมใหญ่ฯ ดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงเป็นกรณีที่ข้อกฎหมายที่ศาลปกครองสูงสุดใช้ในการทำคำพิพากษาหรือคำสั่งเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ



ซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังดับอยู่ในขณะนั้น กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทยจึงชอบที่จะขอให้ศาลปกครองพิจารณพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองใหม่ได้ ตามมาตรา 75วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัดิจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542



แม้ว่ามาตรา 212วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จะบัญญัติไว้ว่า ดำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ใช้ได้ในคดีทั้งปวง แต่ไม่กระทบต่อคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดแล้ว เว้นแต่ในคดีอาญา ให้ถือว่าผู้ซึ่งเคยถูกศาลพิพากษาว่ากระทำความผิดดามบทบัญญัติ แห่งกฎหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยมาตรา 5 นั้น เป็นผู้ไม่เคยกระทำความผิดดังกล่าว หรือถ้าผู้นั้นยังรับโทษอยู่ก็ให้ปล่อยตัวไป แต่ทั้งนี้ไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะเรียกร้องค่าชดเชยหรือค่เสียหายใดๆ



ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญข้างตัน คงมีความหมายแต่เพียงว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่า บทบัญญัติใดของกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีผลทำให้คำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุดแล้วซึ่งทำขึ้นโดยอาศัยบทบัญญัติของกฎหมายนั้น เป็นคำพิพากษาที่ใช้บังคับมิได้หรือต้องสิ้นผลบังดับผูกพันลงเท่านั้น



ดังนั้น คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2564ลงวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่วินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่27 พฤศจิกายน 2545ขัดหรือแยังต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีผลทำให้คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีดำที่ อ. 410 – 412/2557 หมายเลขแดงที่ 221 – 223/2562 ซึ่งทำขึ้นที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว ใช้บังคับมิได้หรือต้องสิ้นผลบังคับผูกพันลง



บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญข้างตัน มิได้มีผลเป็นการห้ามมิให้คู่กรณีหรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในคดีตามคำพิพากษาศาลปกครองคดีหมายเลขดำที่ อ. 410 – 512/2557หมายเลขแดงที่ อ. 221-223/2566 นำผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ (5/2564 ลงวันที่ 17มีนาคม 2564 มาใช้เป็นข้ออ้างในการ



ขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีนี้ใหม่ ดามมาครา 75 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แต่อย่างใดศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ไว้พิจารณา

#สำนักงานศาลปกครอง 4มีนาคม 2565


Last edited by Wisarut on 07/03/2022 8:03 pm; edited 4 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44324
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/03/2022 5:01 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ พร้อมเดินหน้าสู้คดีโฮปเวลล์ หลังศาลปกครองสั่งรื้อพิจารณา
กรุงเทพธุรกิจ 04 มี.ค. 2565 เวลา 16:45 น.

การรถไฟฯ พร้อมเดินหน้าสู้คดีโฮปเวลล์ หลังศาลปกครองสั่งรื้อพิจารณา
การรถไฟฯ พร้อมเดินหน้าสู้คดีค่าโง่ “โฮปเวลล์” 2.4 หมื่นล้านบาท “ศักดิ์สยาม” สั่งลุยสู้ประเด็นอายุความ การจดทะเบียน และลงนามสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับคดีโฮปเวลล์ วันนี้ (4 มี.ค.) โดยกลับคำสั่งศาลปกครองกลาง และให้รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณานั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับภาครัฐ และหลังจากนี้จะต้องเตรียมความพร้อมในการเดินหน้าต่อไปตามกฎหมาย ซึ่งยืนยันว่าทางกระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท. มีความพร้อมในเรื่องนี้ และพร้อมปรับตัวกับให้เข้ารูปคดีที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุดต่อไป
    “ส่วนตัวผมมั่นใจว่าการต่อสู้คดีในครั้งนี้ เราจะได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมในครั้งต่อไป จากการเตรียมตัวในเรื่องกฎหมายแล้ว ทาง ร.ฟ.ท.ยังได้มีการหารือกัน ในเรื่องของการวางรูปคดีของเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ศาลได้ค้นหาความจริงได้อย่างเต็มที่ จนนำไปสู่ดุลพินิจที่ถูกต้อง และเราในฐานะองค์กรของรัฐเราพร้อมเคารพในคำตัดสินของศาลฯ โดยถึงที่สุดอย่างเต็มที่อยู่แล้ว”
ส่วนหลังจากนี้ภาครัฐจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ คงต้องรอให้กระบวนการการตัดสินอีกที

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด สั่งรื้อคดีโฮปเวลล์นั้น ตนมองว่าเรื่องนี้ยังไม่จบกระบวนการยุติธรรม แต่เป็นเรื่องดี เนื่องจากช่วยเปิดโอกาสให้ภาครัฐได้ดำเนินการต่อสู้คดีใหม่ ซึ่งประเด็นที่จะนำมาต่อสู้หลังจากนี้ อาทิ เรื่องอายุความของคดี มติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) การจดทะเบียนวัตถุประสงค์ บริษัทฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเรื่องการลงนามในสัญญา ผู้ลงนามไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน เป็นต้น

สำหรับคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ กลับคำสั่งศาลปกครองกลาง และให้รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา โดยเห็นว่าต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามมาตรา 75(4) แห่ง พรบ. จัดตั้งศาลปกครองฯ และไม่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคสาม เพราะมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดมิใช่บทบัญญัติแห่งกฎหมาย

สืบเนื่องจากกระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท.ได้ยื่นขอให้พิจารณาในคดีหมายเลขดำที่ 107/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366/2557 ระหว่างกระทรวงคมนาคม ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน (ผู้ร้อง) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้คัดค้าน) (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา) โดยศาลปกครองสูงสุดสั่งรื้อคดีโฮปเวลล์ที่รัฐบาล และ ร.ฟ.ท. ต้องจ่ายค่าเสียหาย (ค่าโง่) ให้เอกชน 2.4 หมื่นล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/03/2022 5:18 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
การรถไฟฯ พร้อมเดินหน้าสู้คดีโฮปเวลล์ หลังศาลปกครองสั่งรื้อพิจารณา
กรุงเทพธุรกิจ วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:45 น.


ลุยต่อ คมนาคม-รฟท. ยันชนะคดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน
หน้าเศรษฐกิจ คมนาคม
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:59 น.

"คมนาคม-รฟท.มั่นใจชนะคดี ลุยเดินหน้าสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท หลังศาลปกครองสั่งรื้อคดีฯ ยันกระบวนการยังไม่จบ รอศาลตัดสินรอบใหม่

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 107/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366/2557 ระหว่างกระทรวงคมนาคม ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน (ผู้ร้อง) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้คัดค้าน) (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา) โดยศาลปกครองสูงสุด สั่งรื้อคดี โฮปเวลล์ ที่รัฐบาล และรฟท. ต้องจ่ายค่าเสียหาย (ค่าโง่) ให้เอกชน 2.4 หมื่นล้านบาท นั้น ถือว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังไม่จบกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งช่วยเปิดโอกาสให้ภาครัฐได้ดำเนินการต่อสู้คดีใหม่ได้อีกครั้ง

" เรามั่นใจว่าชนะคดีนี้ โดยต้องนำหลายประเด็นมาต่อสู้หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุความขอคดี มติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) การจดทะเบียนวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งการลงนามในสัญญา ผู้ลงนามไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน เป็นต้น"


นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า กรณีที่ศาลปกครอง สั่งรื้อคดี โฮปเวลล์ นั้น ทางรฟท.มองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับภาครัฐ หลังจากนี้จะต้องเตรียมความพร้อมในการเดินหน้าต่อไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าทางกระทรวงคมนาคม และรฟท. มีความพร้อมในเรื่องนี้ และพร้อมปรับตัวให้สอดคล้องต่อรูปคดีที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุดต่อไป

“เรามั่นใจว่าการต่อสู้คดีในครั้งนี้ จะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมในครั้งต่อไป ทั้งนี้ จากการเตรียมตัวในเรื่องกฎหมายแล้ว ทาง รฟท.ได้มีการหารือกันในการวางรูปคดีของเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ศาลได้ค้นหาความจริงได้อย่างเต็มที่ จนนำไปสู่ดุลพินิจที่ถูกต้อง และเราในฐานะองค์กรของรัฐเราพร้อมเคารพในคำตัดสินของศาลฯ โดยถึงที่สุดอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนหลังจากนี้ภาครัฐจะต้องจ่ายค่าโง่ ให้กับบริษัทโฮปเวลล์หรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอให้กระบวนการการตัดสินอีกที"


“ศักดิ์สยาม”เปิดเกมส์สู้ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน
*ลุย4ประเด็นหลังศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่ง
*ผู้ว่ารถไฟฯเดินหน้ามั่นใจได้รับความยุติธรรม
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/508240194086553

‘ศักดิ์สยาม’สั่งลุย กางประเด็นเดินหน้าสู้ต่อสาง‘คดีโฮปเวลล์’
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 18.07 น.

4 มีนาคม 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งในคดีคำร้องที่ 394-396/2564 ระหว่างกระทรวงคมนาคม ผู้ร้องที่ 1 และการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ร้องที่ 2 กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน อันเป็นคดีที่กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ไว้พิจารณา ว่า ต้องขอขอบพระคุณคณะผู้พิพากษาศาลปกครองสูงสุด เรื่องนี้ยังไม่จบกระบวนการยุติธรรม แต่เป็นเรื่องดี

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการช่วยเปิดโอกาสให้ภาครัฐได้ดำเนินการต่อสู้คดีใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งประเด็นที่จะนำมาต่อสู้หลังจากนี้ อาทิ เรื่องอายุความขอคดี มติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) การจดทะเบียนวัตถุประสงค์ บริษัทฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเรื่องการลงนามในสัญญา ผู้ลงนามไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน เป็นต้น

“ศักดิ์สยาม” เตรียม 4 ประเด็นต่อสู้คดี "โฮปเวลล์" ปลดค่าโง่ 2.4 หมื่นล้าน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 19:20 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 19:20 น.

“ศักดิ์สยาม” เตรียมงัด 4 ประเด็นเดินหน้าต่อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท ชี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรื้อคดี เปิดโอกาสให้คมนาคม-รฟท.ได้นำข้อเท็จจริงต่อสู้ มั่นใจจะได้รับความยุติธรรม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 81-83/2565 ในคดีคำร้องที่ 394-396/2564ระหว่างกระทรวงคมนาคมผู้ร้องที่ 1และการรถไฟแห่งประเทศไทยผู้ร้องที่ 2กับบริษัทโฮปเวลล์(ประเทศไทย)จำกัดผู้คัดค้าน โดยศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไว้พิจารณา

ทั้งนี้ ขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายยังไม่จบ และถือเป็นการเปิดโอกาสให้ได้ดำเนินการต่อสู้คดีกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งกระทรวงคมนาคมและ รฟท.จะร่วมกันต่อสู้ใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1. เรื่องอายุความ ซึ่งการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการคือตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 44 ผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี” ถือว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

2. การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 3. การจดทะเบียน และวัตถุประสงค์ของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 4. การลงนามในสัญญา ผู้ลงนามในสัญญาไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน

“จากคำสั่งดังกล่าว ต้องขอบพระคุณคณะผู้พิพากษาและศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อประเทศชาติและประชาชน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การต่อสู้มหากาพย์คดีโฮปเวลล์ ที่ส่อให้ภาครัฐต้องเสียค่าโง่มูลค่ากว่า 2.4 หมื่นล้านบาทนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภค.) ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินหน้าหาทางแก้ไขปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562 ที่ออกมาระบุว่า “ยุคนี้จะไม่มีค่าโง่”

กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ได้มอบหมายให้นายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจยื่นหลักฐานใหม่ต่อศาลปกครองขอรื้อคดี โดยอ้างว่า พบว่าบริษัทโฮปเวลล์เป็นบริษัทต่างด้าวจดทะเบียนไม่ถูกต้อง แต่ก็ถูกตีตกโดยศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้อง ทำให้คดีถึงที่สุด และนำไปสู่การที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ยี่นคำร้องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน

ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งคำร้องที่ขอให้วินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดนำมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งดังกล่าว ที่ไม่ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย คือไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้หรือไม่


รวมทั้งการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการคือตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2544 ซึ่งผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี” ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนมติหรือการกระทำดังกล่าว

“ศักดิ์สยาม” เปิดเกมส์สู้ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน
*มั่นใจชนะคดีลุย 4ประเด็น/ศาลฯสูงสุดกลับคำสั่ง
*ผู้ว่าการรถไฟฯเดินหน้าเต็มที่ได้รับความยุติธรรม
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/508240194086553


Last edited by Wisarut on 07/03/2022 11:29 am; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/03/2022 9:35 pm    Post subject: Reply with quote

เซฟ3หมื่นล้าน!‘พีระพันธุ์’ชูศาลสั่งรื้อใหม่‘คดีโฮปเวลล์’ ผลงานโบว์แดงรัฐบาล
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.07 น.

‘พีระพันธุ์’ชูศาลปกครองสูงสุดสั่งพิจารณา‘คดีโฮปเวลล์’ใหม่ เป็นผลงานโบว์แดงรัฐบาล แจงเริ่มสู้คดีใหม่ยึดข้อกฎหมายคดีขาดอายุความ

เมื่อเวลา 14.15 น.วันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ศาลปกครอง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับฟังการอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในคดีโฮปเวลล์ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน!ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำขอพิจารณาใหม่‘คดีโฮปเวลล์’) ว่า หลังศาลให้พิจารณาคดีใหม่ กระบวนการก็จะกลับไปพิจารณาใหม่ ซึ่งเราโต้แย้งว่าคดีขาดอายุความ และการที่ใช้มติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดมาตัดสินในทางกฎหมายเราเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการที่ใช้มติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดมาตัดสินคดีนั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เราจึงนำคำตัดสินดังกล่าวมายื่นต่อศาลให้พิจารณาคดีใหม่ และวันนี้ศาลปกครองสูงสุดก็เห็นตรงกับเรา โดยให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ในประเด็นข้อกฎหมายคือคดีขาดอายุความแล้วหรือยัง ส่วนการบังคับคดีก็จะต้องงดการบังคับคดีตามที่ศาลปกครองสูงสุดสั่ง

“สำหรับผมถือเป็นข่าวดี เพราะอย่างน้อยที่ต่อสู่กันมาไม่รู้กี่ปีเราก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย นี่เป็นครั้งแรก ซึ่งต้องขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายการเมือง รัฐมนตรีคมนาคม และนายกรัฐมนตรี ที่ให้โอกาสพวกเราทำงานต่อสู้กันอย่างเต็มที่ เป็นตัวอย่างในการร่วมมือกันทำงาน และทำให้เห็นสิ่งที่ดีๆทางการเมืองเหมือนกัน หากใช้การเมืองในการทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองในการร่วมมือกัน ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลนี้ เพราะอย่างน้อยก็ประหยัดเงินไปกว่า 3 หมื่นล้านบาท” นายพีระพันธุ์ กล่าว


ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องกลับมาพิจารณาคดีใหม่เริ่มที่ศาลปกครองชั้นต้น ซึ่งประเด็นปัญหาในข้อเท็จจริงจบไปแล้ว เท่ากับว่าวันนี้จะมีเฉพาะประเด็นข้อกฎหมายเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องรอว่าศาลปกครองกลางจะกำหนดนัดอย่างไร ทั้งนี้ต้องถือเป็นโอกาสประเทศไทย เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่มีลักษณะคล้ายแบบนี้

เมื่อถามว่าโอกาสที่เราจะไม่ต้องจ่ายเงินมีเยอะหรือไม่ นายนิติธร กล่าวว่า ในขณะนี้คิดว่าเราก็ทำให้เห็นชัดเจนมาโดยลำดับ ทั้งศาล ประชาชน และรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ และรมว.คมนาคมก็เต็มที่ ฉะนั้นเรื่องนี้ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร ทั้งนี้ถ้าตอบโดยอิงข้อกฎหมายคิดว่าเราก็น่าจะประสบผลสำเร็จ

https://www.facebook.com/Pirapan.T.Salirathavibhaga/posts/506145217550009

มันจบแล้วครับ! พีระพันธุ์ ชี้ คดีโฮปเวลล์ รัฐบาลไทยไม่ต้องเสียค่าโง่ 3 หมื่นล้านแล้ว
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:26 น.

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานศึกษาปัญหาสัญญาโฮปเวลล์ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เขียนข้อความแสดงความเห็น ความคืบหน้าคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ระบุว่า

“แสงจ้ามาแล้ว ผมเคยพูดไว้ตอนแรกๆ ของคดีค่าโง่โฮปเวลล์ที่ผมต่อสู้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 62 ว่าพอจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ต่อมาผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นด้วยกับคำร้องของกระทรวงคมนาคมที่ผมยกร่างให้เองทั้งฉบับว่าสิ่งที่ยกขึ้นมาใช้เป็นหลักตัดสินคดีในชั้นศาลปกครองสูงสุดขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงใหม่ที่มีผลต่อหลักเกณฑ์ที่เคยนำมาใช้ตัดสินคดีเดิม เราจึงขอให้ศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) พิจารณาคดีใหม่และขอให้งดการบังคับคดี เพราะเมื่อสิ่งที่นำมาใช้บอกว่าคดีไม่ขาดอายุความแล้วให้เราจ่ายเงินมันไม่ใช่กฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ แล้วจะให้เราจ่ายเงินแผ่นดินที่เป็นเงินของประชาชนไปแบบโง่ๆได้อย่างไร”

รู้จัก คดีดัง ‘โฮปเวลล์’
“แต่ศาลปกครองชั้นต้นยกคำร้องไม่ให้เราพิจารณาคดีใหม่ เราเลยอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง แบบสู้ไม่ถอย เพราะผมไม่เคยถอยและไม่เคยท้อกับความไม่ถูกต้องมาตลอดชีวิต”

“วันนี้สำเร็จแล้วครับ! บ่ายโมงครึ่งวันนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่และให้งดการบังคับคดีเดิมทั้งหมด แปลว่าคำพิพากษาเดิมมันจบไปแล้ว คดีนี้มันจบแล้วครับ กลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ต้องไปพิจารณาคดีใหม่ที่มีเพียงประเด็นหลักประเด็นเดียวคือ คดีขาดอายุความแล้วหรือยัง ซึ่งไม่ต้องเถียงกันอีกแล้วเพราะตามบทกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ มันขาดอายุความไปเรียบร้อยแล้ว”

“วันนี้พอมาถึงปลายอุโมงค์แสงที่ว่าพอมองเห็นมันกลายเป็นแสงสว่างที่เจิดจ้าสำหรับคนไทยที่รักบ้านรักเมืองรักษาพลประโยชน์ชาติอย่างทั่วถึง คิดถึงวันนี้รวมดอกเบี้ยคร่าวๆ ก็น่าจะราวๆ สามหมื่นล้านเป็นอย่างน้อยที่เราช่วยกันปกป้องไว้ครับ”


“ขอแสดงความดีใจกับคนไทยทุกท่าน ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งมาให้ผมและทีมงานในเรื่องนี้ตลอดมา และขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีและท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่สนับสนุน เชื่อมั่น และให้โอกาสผมและคณะทำงานจนสามารถนำชัยชนะมาให้คนไทยในวันนี้ได้อย่างสง่างามครับ” นายพีระพันธุ์ระบุ
'พีระพันธุ์"เปิดตัว 'ยิ้ม' ผู้ปิดทองหลังพระ ชนะคดีค่าโง่โฮปเวลล์
หน้าเศรษฐกิจ คมนาคม
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันเสาร์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14:36 น. 64

"พีระพันธุ์" โพสต์เฟซบุ๊ก ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและยินดีกับผลงานคดี “ค่าโง่โฮปเวลล์” พร้อมเผยเบื้องหลัง "ยิ้ม" นิติกร รฟท. ผู้ปิดทองหลังพระ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค - Pirapan Salirathavibhaga โดยมีเนื้อหาระบุว่า

ปิดทองหลังพระ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและยินดีกับผลงานคดี “ค่าโง่โฮปเวลล์” ที่คาราคาซังมายาวนานกว่าสามสิบปี

กว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่ง่ายเลยครับ ผมเองต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดตั้งแต่กลางปี 62 เหนื่อยไปกับการสะสาง ตรวจสอบ ตรวจทาน และเรียบเรียงเอกสารต่างๆ ที่หมักหมมมานานกว่าสามสิบปี เปลี่ยนมาหลายรัฐบาล จนขึ้นใจทุกขั้นตอน


เรื่องนี้เอาจริงๆ แล้วต้องมีคนรับผิดอีกหลายคน แม้บางคนบางรายการอาจจะขาดอายุความในการเอาผิดแต่ก็สมควรที่จะต้องกระชากหน้ากากให้รู้ว่าตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านมาใครเป็นใคร ใครทำอะไรไว้บ้าง เราถึงต้องมาตามแก้เป็นลิงแก้แหในวันนี้

แม้วันนี้เอง คดีก็ยังไม่จบนะครับ ยังต้องทำอีกหลายเรื่อง

เปิดเผยได้อีกเรื่องคือขณะนี้เรากำลังฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้พิพากษาว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคดีโฮปเวลล์เป็นโมฆะตามกฎหมาย เท่ากับว่าบริษัทนี้ไม่เคยมีตัวตนในโลกนี้ ผลคือการใดๆ ที่ทำไปในนามบริษัทนี้เป็นโมฆะทั้งหมดไปด้วย

รออีกนิดนะครับ

ตอนนี้ก็ถึงตาที่ผมจะต้องขอบคุณและชื่นชมคนๆ หนึ่งบ้าง คนที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครรู้จัก เป็นคนเล็กๆ ที่ทำงานเงียบๆ ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวหรือเป็นข่าว คนๆ นี้เป็นคนที่ผมไม่คิดว่าจะมีในโลก ผมอยากได้คนแบบนี้มาช่วยงานนานมาแล้ว นานมาก คือตั้งแต่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ เมื่อสี่สิบปีก่อน แต่ไม่เคยหาได้ ผมเลยต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างแสนเหน็ดเหนื่อยตามลำพังตลอดมา จนมาทำเรื่องโฮปเวลล์

ผมโชคดีอย่างยิ่งที่ได้เจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยคนหนึ่งมาช่วยงาน คนๆ นี้ชื่อ “สุทธิรักษ์ ยิ้มยัง” ชื่อเล่นว่า “ยิ้ม”

“ยิ้ม” เป็นพนักงานการรถไฟตำแหน่งอนาบาล เรียกง่ายๆ ว่านิติกร ยิ้มเป็นคนเดียวที่ช่วยงานเรื่องนี้ผมมาตั้งแต่ต้น

งานชิ้นนี้ถ้าไม่ได้ยิ้มก็อาจไม่มีวันนี้ เพราะผมอาจทำงานไม่เสร็จตามกำหนดเวลาตามกฎหมาย ผลคือ “ยื่นเรื่องไม่ทัน”หรือไม่อย่างนั้นผมคงไม่ต้องนอนสามสี่วันติดกันในแต่ละเรื่อง เพราะเอกสารและข้อมูลเยอะมาก กว่าจะเขียนแต่ละเรื่องเสร็จใช้เวลามากและต้องค้นเอกสารและข้อมูลแบบท่วมหัว


ปรากฏว่ายิ้มจำได้หมดทุกเรื่อง

ไม่ว่าผมจะติดขัดหรือสงสัยข้อมูลอะไรตรงไหน ถามปั๊บยิ้มตอบได้ทันทีทุกเรื่องทุกขั้นตอน ผมสามารถยกร่างเรื่องต่างๆ ได้โดยเว้นว่างข้อความหรือข้อมูลที่ยังนึกไม่ออกในเวลานั้นไว้ได้โดยไม่ต้องหยุดพักไปค้นข้อมูลก่อน เสร็จแล้วก็ส่งให้ยิ้มช่วยเติมความให้เต็มได้อย่างถูกต้อง บางเรื่องผมบอกแนวทางบอกประเด็นให้ยิ้มยกร่างเบื้องต้นมาก่อนเพื่อที่ผมจะได้ไปทำงานอื่นได้แล้วค่อยกลับมาปรับนิดหน่อยก็เสร็จ ทำให้ผมสามารถเดินหน้าเตรียมการเรื่องอื่นๆ ได้พร้อมๆ กันมากขึ้น

ผมถามยิ้มว่าทำไมตอบผมได้หมด เขาบอกว่าเขาอ่านและเตรียมการล่วงหน้าไว้หมดนานมาแล้ว

ผมหาแบบนี้มานานครับเพิ่งจะเจอ ยิ้มเขาบอกผมว่าทุกวันนี้เขาเป็นห่วงการรถไฟและบ้านเมืองกับปัญหาคดีนี้มาก ก่อนจะมารู้จักมาทำงานกับผมเขาได้ศึกษาค้นคว้าเตรียมข้อมูลตลอดมาแม้ไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ เขาบอกว่าเขาอยากทำด้วยใจจริงไม่ใช่เพราะตำแหน่งหน้าที่

ทำงานกันมาหลายปีผมก็เห็นยิ้มอยู่ที่เดิมตำแหน่งเดิม ทั้งๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาโฮปเวลล์ให้การรถไฟต้นสังกัดและช่วยผมแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้คนทั้งประเทศมานาน ผมถามยิ้มว่าที่ทำงานไม่มีตำแหน่งว่างที่จะโยกย้ายสูงขึ้นเลยหรือ เขาบอกว่ามี หัวหน้าเขาเพิ่งจะเกษียณพอดี

ผมบอกว่าคิวคุณขึ้นตำแหน่งนี้ได้ไหมเขาบอกว่าได้แต่ขอให้อีกคนหนึ่งขึ้นจะดีกว่า เพราะหากต่อไปต้องสู้คดีโฮปเวลล์ในศาลแล้ว อีกคนหนึ่งจะทำงานได้ดีกว่าเขา ผมบอกว่าคุณลองไปคิดดูว่าคุณจะไปไหนได้บ้าง เขากลับมาบอกผมในเวลาต่อมาว่าคิดได้แล้วว่าจะขอไปอยู่แผนกพยาบาล

ผมงงมากว่าจะไปทำอะไรที่แผนกพยาบาล คำตอบคือ เขาคิดว่าที่แผนกพยาบาลไม่มีงานอะไรมากเขาจะได้ใช้เวลาเตรียมข้อมูลต่างๆ เรื่องโฮปเวลล์มาช่วยผมได้เต็มที่ ถ้ายังอยู่ที่เดิมก็ต้องทำงานอื่นด้วย ถ้าเขาทำเรื่องนี้เรื่องเดียวก็ต้องกินแรงเพื่อนให้ทำเรื่องอื่นแทนเขา

ผมถามว่าไปอยู่แผนกพยาบาลแล้วต่อไปจะกลับไปแผนกอื่นได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร ผมบอกว่าแล้วมันจะก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร

ผมถามว่าคุณคิดอะไรของคุณ เขาบอกว่าเขาคิดเพียงว่าขอให้เขามีเวลาทำงานเรื่องโฮปเวลล์ให้สำเร็จแค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว แม้เขาต้องหยุดชีวิตราชการไว้ที่แผนกพยาบาลเขาก็ยอม

เชื่อไหมครับว่าคนแบบนี้ยังมีในโลกจริงๆ

เวลายิ้มมารายงานเรื่องต่างๆ กับผม จะมีเพื่อนมาด้วยคนหนึ่ง แรกๆ ผมคิดว่าเป็นทีมงานของเขาแต่สังเกตุว่านายคนนี้ไม่ค่อยพูดจาอะไร ผมเลยถามว่าคนนี้เป็นใคร คำตอบคือเป็นเพื่อนที่ขับรถพาเขามาหาผมเพราะเขาขับรถไม่เป็นเวลาไปไหนมาไหนเขาใช้รถเมล์ แต่มาหาผมต้องรีบกลัวผมรอนานเลยวานเพื่อนให้ขับรถมาให้ หลายครั้งที่ประมาณสี่โมงเย็นผมจะตามยิ้มไม่เจอ วันหนึ่งผมถามยิ้มว่าคุณหายไปไหนตอนเย็นๆ เขาบอกว่าต้องขอโทษเพราะเขาต้องไปดูแลแม่ที่แถวรังสิต ผมถามว่าแล้วไปอย่างไร คำตอบคือนั่งรถไฟแล้วไปต่อรถเมล์

นี่คือ “ยิ้ม” คนที่ทำงานทุ่มเทกับการต่อสู้คดีให้บ้านเมืองเป็นหมื่นล้าน แต่ยังไปไหนมาไหนด้วยรถเมล์ตลอดเวลา

เมื่อวานพอฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเสร็จผมบอกยิ้มว่าเห็นมีนักข่าวรออยู่ข้างล่างเดี๋ยวช่วยอธิบายเรื่องราวให้นักข่าวฟังด้วย ยิ้มขอโทษผมบอกว่าเขาเป็นแค่พนักงานการรถไฟและต้องรีบกลับไปทำงาน

นี่แหละครับที่เรียกว่า “ปิดทองหลังพระ” ตัวจริง

วันนี้หลายคนชื่นชมและชมเชยผม แต่ผมขอชื่นชมและขอชมเชยยิ้ม “นายสุทธิรักษ์ ยิ้มยัง” พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย

พนักงานตัวเล็กๆ ที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ปิดทองหลังพระเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง

หมายเหตุ : ผมอยากลงรูป”ยิ้ม”ด้วย แต่เพราะที่ผ่านมามัวแต่ยุ่ง ทำงานกัน ไม่เคยคิดเรื่องถ่ายรูปกันเลย วันหลังจะเอารูปยิ้มมาลงให้ดูกันนะครับ


Last edited by Wisarut on 07/03/2022 8:44 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/03/2022 4:19 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เลื่อนระดับ”ยิ้ม”นิติกรผู้ปิดทองหลังพระคดี”โฮปเวลล์”จนศาลปค.สูงสุดรับฟื้นคดีใหม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:30 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:30 น.

รฟท.เลื่อนระดับให้”ยิ้ม”หรือ “สุทธิรักษ์ ยิ้มยัง”นิติกร รฟท. ผู้ปิดทองหลังพระ มือทำงานเบื้องหลังข้อมูลเอกสารสู้คดี”ค่าโง่โฮปเวลล์”จนศาลปกครองสูงสุดให้รับคำขอฟื้นคดีพิจารณาใหม่ ช่วยเซฟงบหลวงและภาษีประชาชน

รายงานข่าว เปิดเผยว่า จากที่ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 คดีข้อพิพาทโฮปเวลล์ โดยศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไว้พิจารณา ซึ่งถือเป็นการปลดล็อกคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ให้กลับไปเริ่มต้นกระบวนการต่อสู้กันใหม่

โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ก ถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำขอพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ในหัวข้อ”ปิดทองหลังพระ” ซึ่งได้เล่าถึงการทำงานของผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กลางปี 2562 กับข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมากกว่า 30 ปี และเบื้องหลังว่ามีความยากลำบากในการแก้ไขปัญหาและต่อสู้คดี อย่างไร

ทั้งนี้ ยังได้พูดถึง”สุทธิรักษ์ ยิ้มยัง” หรือ”ยิ้ม”พนักงาน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตำแหน่งอนาบาล หรือนิติกร ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญ ที่ทุ่มเทกำลังกาย และเสียสละในการจัดทำข้อมูลเอกสาร จนนำไปสู่การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งรับคำขอพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่

โดยตอนหนึ่ง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค “เล่าว่า ยิ้มเขาบอกผมว่าทุกวันนี้เขาเป็นห่วงการรถไฟและบ้านเมืองกับปัญหาคดีนี้มาก ก่อนจะมารู้จักมาทำงานกับผมเขาได้ศึกษาค้นคว้าเตรียมข้อมูลตลอดมาแม้ไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ เขาบอกว่าเขาอยากทำด้วยใจจริงไม่ใช่เพราะตำแหน่งหน้าที่

ทำงานกันมาหลายปีผมก็เห็นยิ้มอยู่ที่เดิมตำแหน่งเดิม ทั้งๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาโฮปเวลล์ให้การรถไฟต้นสังกัดและช่วยผมแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้คนทั้งประเทศมานาน ผมถามยิ้มว่าที่ทำงานไม่มีตำแหน่งว่างที่จะโยกย้ายสูงขึ้นเลยหรือ เขาบอกว่ามี หัวหน้าเขาเพิ่งจะเกษียณพอดี

ผมบอกว่าคิวคุณขึ้นตำแหน่งนี้ได้ไหมเขาบอกว่าได้แต่ขอให้อีกคนหนึ่งขึ้นจะดีกว่า เพราะหากต่อไปต้องสู้คดีโฮปเวลล์ในศาลแล้ว อีกคนหนึ่งจะทำงานได้ดีกว่าเขา ผมบอกว่าคุณลองไปคิดดูว่าคุณจะไปไหนได้บ้าง เขากลับมาบอกผมในเวลาต่อมาว่าคิดได้แล้วว่าจะขอไปอยู่แผนกพยาบาล

ผมงงมากว่าจะไปทำอะไรที่แผนกพยาบาล คำตอบคือ เขาคิดว่าที่แผนกพยาบาลไม่มีงานอะไรมากเขาจะได้ใช้เวลาเตรียมข้อมูลต่างๆ เรื่องโฮปเวลล์มาช่วยผมได้เต็มที่ ถ้ายังอยู่ที่เดิมก็ต้องทำงานอื่นด้วย ถ้าเขาทำเรื่องนี้เรื่องเดียวก็ต้องกินแรงเพื่อนให้ทำเรื่องอื่นแทนเขา

ผมถามว่าไปอยู่แผนกพยาบาลแล้วต่อไปจะกลับไปแผนกอื่นได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร ผมบอกว่าแล้วมันจะก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร

ผมถามว่าคุณคิดอะไรของคุณ เขาบอกว่าเขาคิดเพียงว่าขอให้เขามีเวลาทำงานเรื่องโฮปเวลล์ให้สำเร็จแค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว แม้เขาต้องหยุดชีวิตราชการไว้ที่แผนกพยาบาลเขาก็ยอม

รายงานข่าวจากรฟท.แจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2565 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯรฟท. ได้ลงนามในคำสั่ง ให้นายสุทธิรักษ์ ยิ้มยัง หัวหน้างานนิติกรรม (นิติกร 8) กองนิติการ สำนักงานอาณาบาล ไปดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองประจำการรถไฟฯ (ระดับ 10 เฉพาะตัว) โดยมีผลนับแต่วันที่ ผู้ว่าฯรฟท.ลงนาม โดยเป็นคำสั่งการรถไฟฯ เลขที่ บคบ.143/2565 เรื่อง แต่งตั้งเลื่อนระดับพนักงาน รฟท. จำนวนทั้งสิ้น 3 คน

ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการแต่งตั้งตำแน่งเฉพาะตัว โดยไปตามขั้นตอนการพิจารณา ผู้ที่มีความเหมาะสมและต้องนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท.พิจารณาอนุมัติด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/03/2022 8:30 pm    Post subject: Reply with quote

“อนุทิน”มอง"คดีโฮปเวลล์"มีช่องทางสู้ เพื่อประโยชน์ชาติ แพ้ชนะเป็นเรื่องกระบวนยุติธรรม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14:27 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14:27 น.


“อนุทิน” ชี้ คดีโฮปเวลล์ มีช่องทางนำมาต่อสู้ได้ ยืนยันทำเต็มที่เพื่อประโยชน์ของชาติ ส่วนจะแพ้หรือชนะให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ ( 7 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีศาลปกครองสั่งรับคำขอให้พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ถือว่าเป็นผลงานของกระทรวงคมนาคมหรือไม่ ว่า ถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว ซึ่งการรักษาผลประโยชน์ของชาติถือเป็นภารกิจหลัก ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้นานแล้ว และได้หารือกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่าเรื่องนี้ต้องดูให้ละเอียด เพราะไม่อยากจะต้องจ่ายค่าโง่ในยุคสมัยที่เรารับผิดชอบ และคิดว่าเราคงไม่โง่ขนาดนั้น โดยให้นายศักดิ์สยามไปรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาและหาวิถีทางในการต่อสู้ ซึ่งจะต้องทำอย่างเต็มที่ ส่วนจะแพ้หรือชนะให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่อย่างน้อยก็ได้ทำหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ของบ้านเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำถ้าสามารถทำได้ โดยอย่างน้อยได้มีโอกาสเรียกข้อมูลต่างๆมากขึ้น

“เวลาอ่านหนังสือ หรือ เวลาดูหนัง ต้องไม่ดูกลางเรื่อง ต้องดูว่าต้นเรื่องเป็นอย่างไร หลายๆ เรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ คือเราไปเริ่มนับแถวๆ กลางเรื่อง ไม่ได้ดูที่มาที่ไปตั้งแต่บทที่หนึ่ง กรณีของโฮปเวลล์ ถ้าย้อนกลับไปดูว่าเริ่มมาอย่างไร มีพัฒนาการอย่างไรและทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ทั้งที่เชื่อว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการ คงไม่มีใครอยากให้มีผลกระทบเช่นนี้ แต่ทำไมถึงออกมากลายเป็นว่าเสียหาย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้พบเหตุผล และหลายๆ เหตุที่คิดว่าจะนำมายกเป็นข้อต่อสู้ได้ ซึ่งได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไปดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและตั้งเป้าว่าประโยชน์ของชาติจะเสียหายไม่ได้ โดยขั้นตอนทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่อย่างน้อยไม่ต้องจ่ายเงินในวันนี้

นายอนุทิน กล่าวว่าที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ได้หารือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อยู่ตลอด ซึ่งนายพีระพันธุ์มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย เพราะเป็นอดีตผู้พิพากษา และมองว่าเป็นทีมเวิร์คที่ดีมาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันปกป้องผลประโยชน์

"อนุทิน" ปลื้มคดีโฮปเวลล์สำเร็จอีกขั้นหลังศาลรื้อคดีใหม่ เชื่อมั่น คมนาคม สู้คดี รอบคอบ รัดกุม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:04 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:04 น.

รองโฆษกรัฐบาล เผย รมว.สธ.ปลื้มคดี “โฮปเวลล์” สำเร็จอีกขั้น หลังศาลสั่งรื้อคดีใหม่ ไม่ต้องจ่าย 2.4 หมื่นล้าน เชื่อมั่น คมนาคม สู้คดี รอบคอบ รัดกุม

วันนี้ (7 มี.ค. 2565) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้จากหลากหลายช่องทาง และแสดงความพอใจ ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่และให้งดการบังคับคดีเดิมทั้งหมด กรณีข้อพิพาทระหว่างกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือคดีโฮปเวลล์ ทำให้รัฐบาลไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท โดยยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว นับเป็นภารกิจหลักของกระทรวงคมนาคม ที่ผ่านมานายอนุทิน ได้ให้นโยบายในการแก้ไขปัญหาแก่กระทรวงคมนาคม ว่าแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานก่อนรัฐบาลปัจจุบัน แต่การต่อสู้คดีของรัฐบาลชุดนี้ จะต้องทำอย่างจริงจัง โดยมุ่งที่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน แสดงความเชื่อมั่นในการต่อสู้คดีของกระทรวงคมนาคม ที่มีความพยายามอย่างสูงสุด ในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม พยายามดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอด โดยยึดหลักกฏหมายและข้อเท็จจริง และได้มีการตั้งคณะทำงานต่างๆ ขึ้นมาตรวจสอบและพิจารณาในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม จนศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่และให้งดการบังคับคดีเดิมทั้งหมด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกฯอนุทิน ยังขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมให้ข้อมูล ให้คำปรึกษาในแง่มุมทางกฎหมาย สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ได้มอบหมายให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อต่อสู้คดีเมื่อศาลเริ่มกระบวนการพิจารณาใหม่ พร้อมกำชับฝ่ายกฎหมายต้องทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ภาครัฐได้รับความเป็นธรรม และปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม นอกจากนี้ ยังให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม และจะต่อสู้อย่างเต็มที่ เพราะถือว่างบประมาณ คือเงินภาษีของประชาชนทุกคน

คืบหน้าโฮปเวลล์ “อนุทิน” สั่งคมนาคมเตรียมพร้อมข้อกฎหมายสู้คดี
หน้าเศรษฐกิจ คมนาคม
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:10 น.

รองนายกฯ “อนุทิน” สั่งกระทรวงคมนาคมเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อต่อสู้คดีโฮปเวลล์ กำชับฝ่ายกฎหมายทำงานเต็มที่ปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีข้อพิพาทในคดีโฮปเวลล์ ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข โดยได้มอบหมายให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อต่อสู้คดีเมื่อศาลเริ่มกระบวนการพิจารณาใหม่



พร้อมกำชับฝ่ายกฎหมายต้องทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ภาครัฐได้รับความเป็นธรรม และปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม นอกจากนี้ ยังให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม และจะต่อสู้อย่างเต็มที่ เพราะถือว่างบประมาณ คือเงินภาษีของประชาชนทุกคน



ทั้งนี้รองนายกฯ ได้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้จากหลากหลายช่องทาง และแสดงความพอใจ ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่และให้งดการบังคับคดีเดิมทั้งหมด โดยยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว นับเป็นภารกิจหลักของกระทรวงคมนาคม


ที่ผ่านมานายอนุทิน ได้ให้นโยบายในการแก้ไขปัญหาแก่กระทรวงคมนาคม ว่าแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานก่อนรัฐบาลปัจจุบัน แต่การต่อสู้คดีของรัฐบาลชุดนี้ จะต้องทำอย่างจริงจัง โดยมุ่งที่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน



ทั้งนี้ นายอนุทิน ยังยืนยันว่า เชื่อมั่นในการต่อสู้คดีของกระทรวงคมนาคม ในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม พยายามดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอด โดยยึดหลักกฎหมายและข้อเท็จจริง



ขณะเดียวกันยังได้มีการตั้งคณะทำงานต่าง ๆ ขึ้นมาตรวจสอบและพิจารณาในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม จนศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่และให้งดการบังคับคดีเดิมทั้งหมด


ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า กรณีนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งนับเป็นภารกิจหลัก โดยแท้จริงเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มานานแล้ว และเมื่อรัฐบาลเข้ามาก็เห็นเรื่องนี้จึงได้หารือกับรมว.คมนาคม ว่า เรื่องนี้ต้องดูให้ละเอียด



“ไม่อยากเป็นคนที่ต้องจ่ายค่าโง่ในยุคสมัยที่เรารับผิดชอบ ซึ่งเราไม่ได้โง่ขนาดนั้น เลยให้รมว.คมนาคม ได้รื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมา และหาวิถีทางในการต่อสู้ ซึ่งก็ต้องทำอย่างเต็มที่ ส่วนจะแพ้ หรือชนะ ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่อย่างน้อยก็ได้ทำหน้าที่ในการพิทักษ์ผลประโยชน์ของบ้านเมืองแล้ว”


Last edited by Wisarut on 11/03/2022 3:53 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/03/2022 9:18 pm    Post subject: Reply with quote

ด่วน ! ‘คมนาคม’ ทำหนังสือถึงศาลฯของดบังคับคดีไม่จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย
วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 20:09 น.

‘ศักดิ์สยาม-รฟท.’สู้ไม่ถอย ลงนามลุยทำหนังสือถึงศาลปกครองกลาง ของดบังคับคดีไม่จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ยออกไปก่อน หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รื้อคดีใหม่

7 มี.ค.2565-รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.นี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำหนังสือถึงศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นในคดีนี้ โดยขอให้งดการบังคับคดี พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้สำนักงานบังคับคดีปกครองทราบด้วยหลังจากที่ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด

ชั้น2+ ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก!* เบี้ยประกันรถดี เช็คเลย
DirectAsia
“ดังนั้นขอให้ศาลปกครองชั้นต้นในคดีดังกล่าวนี้ ได้โปรดมีคำสั่งงดการบังคับคดี พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าว ให้สำนักบังคับคดีปกครองทราบด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 4มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 81-83/2565 ในคดีหมายเลขดำที่ 107/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366/2557 ระหว่างกระทรวงคมนาคม ที่ 1 และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้ร้องที่ 2 กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้คัดค้าน) (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา)


โดยศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคม และ รฟท. ที่ต้องจ่ายค่าเสียหาย ให้กับบริษัท โฮปเวลล์ฯ มูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาทไว้พิจารณา

สำหรับประเด็นที่จะนำมาต่อสู้คดีหลังจากนี้ ประกอบด้วย เรื่องอายุความของคดี, มติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) การจดทะเบียน และวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรื่องการลงนามในสัญญา ที่ผู้ลงนามไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน อย่างไรก็ตาม จากคำสั่งดังกล่าวนั้น จะส่งผลดีต่อประเทศชาติ และประชาชนต่อไป

เบรกจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์! คมนาคม-รฟท.ยื่นงดบังคับคดีตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 19:00 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 19:00 น.

“คมนาคม-รฟท.” ยื่นคำของดการบังคับคดีเบรกค่าโง่ "โฮปเวลล์" พร้อมดอกเบี้ยต่อศาลปกครองกลางแล้ว หลังศาลปกครองสูงสุดคำสั่งรื้อคดีใหม่ ด้าน "ศักดิ์สยาม" เตรียมรายงาน ครม.เผย 4 ประเด็นต่อสู้ใหม่

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า หลังจากที่เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีตามคำร้องที่ 394-396/2564 คำสั่งที่ 81-83/2565 โดยกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาใหม่ในคดีโฮปเวลล์แล้วนั้น ล่าสุด วันที่ 7 มีนาคม 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำหนังสือถึงศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นในคดีนี้ ขอให้งดการบังคับคดี พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้สำนักงานบังคับคดีปกครองทราบด้วย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะผู้ร้องที่ 1, ผู้ร้องที่ 2 ได้ยื่นต่อศาลปกครองกลาง ในคำของดการบังคับคดีโครงการโฮปเวลล์แล้ว โดยสำนักงานศาลปกครองกลางได้รับเอกสารคำขอไว้เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565

โดยระบุในคำขอว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟท.มีความประสงค์ขอให้ศาลปกครองกลาง (ศาลปกครองชั้นต้นในคดีนี้) ได้โปรดมีคำสั่งงดการบังคับคดี เนื่องจากเหตุที่ศาลปกครองสูงสุดโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของผู้ร้องทั้งสองไว้พิจารณาแล้ว

ทั้งนี้ ตามนัยข้อ 131 (1) แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อ 4 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562

ดังนั้น ขอประธานศาลปกครองกลาง (ศาลปกครองชั้นต้นในคดีนี้) ได้โปรดมีคำสั่งงดการบังคับคดี พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้สำนักบังคับคดีปกครองทราบด้วย

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะรายงานความคืบหน้าข้อพิพาท และคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ วันอังคารที่ 8 มีนาคม 2565 ซึ่งขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายยังไม่จบ และถือเป็นการเปิดโอกาสให้ได้ดำเนินการต่อสู้คดีกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งกระทรวงคมนาคมและ รฟท.จะร่วมกันต่อสู้ใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1. เรื่องอายุความ ซึ่งการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการคือตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 44 ผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี” ถือว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

2. การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 3. การจดทะเบียน และวัตถุประสงค์ของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 4. การลงนามในสัญญา ผู้ลงนามในสัญญาไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท.ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีรวม 25,711 ล้านบาท ภายใน 180 วัน ดังนั้น หากมีคำสั่งงดบังคับคดี จะส่งผลให้คำสั่งชดใช้ค่าเสียหายข้างต้น รวมดอกเบี้ยจะถูกชะลอออกไปก่อน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/03/2022 9:20 pm    Post subject: Reply with quote

ช่วยชาติ 2.4 หมื่นล้านบาท “คนภูมิใจไทย” ฟื้นคดีโฮปเวลล์ หมดยุคใช้ภาษีคนไทยจ่ายค่าโง่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:01 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:01 น.

เรียกว่าถอดใจกันไปแล้วทั้งประเทศ กับกรณีค่าโง่คดีโฮปเวลล์ หลังจากที่ศาลปกครองชั้นต้น พิพากษาสั่งกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ โฮปเวลล์ โฮลดิ้งส์ จำกัดจำนวน 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ภายใน 180 วัน เบ็ดเสร็จ เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท

มาถึงขนาดนี้ เรียกว่าถึงทางตัน ต้องหาทางจ่ายค่าโง่กันแล้ว จะมีก็เพียง รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี(กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนา คมที่เห็นต่างออกไป

ย้อนกลับไปปี 2562 เมื่อครั้งที่นายศักดิ์สยาม เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ คำหนึ่งที่นักข่าวจำได้ดีคือ

“ยุคนี้ จะไม่มีการเสียค่าโง่”

เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทย มักจะต้องเสียงบประมาณมหาศาล ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน ไปกลับการเสียค่าปรับ เนื่องด้วยปัญหาความแล้วเสร็จของโครงการรัฐ ซึ่งมาจากสารพัดเหตุผล แต่ที่พ่ายแพ้คือประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยามนั้น หาใช่คนที่พูดเอาหล่อ แต่ได้หาช่อง หาทาง ทำได้จริง

4 มีนาคม 2565 ประวัติศาสตร์ต้องจารึก

เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ (คดีโฮปเวลล์) ไว้พิจารณา มี กระทรวงคมนาคม เป็นผู้ร้องที่ 1 และ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้ร้องที่ 2 กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน

นายศักดิ์สยาม ใช้สารพัดหนทาง กว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้น เริ่มจากการเปิดเผย 9 ข้อพิรุธ ของบริษัทโฮปเวล ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎหมาย และไม่เคยถูกรัฐ ยกมาใช้ ในการต่อสู้ทางคดีมาก่อน อาทิ

รายละเอียดโครงการไม่ตรงตามมติ ครม. การดำเนินงานของคณะกรรมการฯ รวดเร็วผิดปกติ และให้สิทธิประโยชน์มากกว่าตามหลักการที่เป็นมติ ครม.
มีการเอื้อประโยชน์ในการจดทะเบียน จัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีสิทธิได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
กระทั่งไปถึงเรื่องที่ บริษัทโฮปเวลล์ เป็นบริษัทต่างด้าวจดทะเบียนไม่ถูกต้อง แต่ทั้งหมด ก็ถูกตีตกโดยศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้อง

กระนั้น นายศักด์สยาม ยังไม่ถอดใจ มีการปรึกษากับนายอนุทิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงหนทางที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า พร้อมกับการตั้งทีมกฎหมาย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ เป็นหัวหน้าทีม และมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คอยให้คำแนะนำ

ที่สุดแล้ว ก็เจอช่องโหว่ทางกฎหมาย

เมื่อมีการพบหลักฐานว่า การตัดสินของศาลปกครอง ที่เสร็จสิ้นไปแล้วนั้น ไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย กล่าวคือ
1.การพิจารณานั้น ไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้

2.การกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการคือตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2544 ซึ่งผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี”

คำร้องทั้งหมด ถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน กระทั่งมีการชี้ขาดว่า

“มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองดังกล่าวเป็นอันใช้บังคับมิได้มาตั้งแต่ต้น”

ต่อมากระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย นำคำพิจารณาข้างต้นไปยื่นขอให้ศาลปกครองกลาง เพื่อให้รื้อคดีโฮปเวลล์มาพิจารณาใหม่ ทว่า ทางศาลไม่รับพิจารณา

แต่นี่คือ “ชนวน” ที่ทำให้วันที่ 4 มีนาคม 2565

ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งที่ 81 – 83/2565 (ซึ่งวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด) ให้กลับคำสั่งศาลปกครองกลาง โดยให้รับคำขอพิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา

X

“จึงต้องงดการบังคับคดีจ่ายค่าโง่ไว้ก่อน”

ดังนั้นเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท ที่เคยคิดว่า ประเทศไทย จะต้องเสียไปแน่ๆ

บัดนี้ ยังคงอยู่ในกระเป๋าของชาติ

ทั้งหมดยังคงเป็นไปตามที่นายอนุทิน และนายศักดิ์สยามพูดไว้เมื่อปี 2562

“ยุคนี้ จะไม่มีค่าโง่”
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44324
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/03/2022 5:03 pm    Post subject: Reply with quote

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
8 มี.ค. 65
Arrow https://www.facebook.com/pr.railway/posts/329541272537204

เจาะลึกระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง
กับแลนด์มาร์กใหม่ของการเดินทางที่สถานีกลางบางซื่อ
RED LINE THE NEW STANDARD AVAILABLE
“วารสารรถไฟสัมพันธ์ ฉบับที่ 1/2565 รวบรวม เรื่องราวความเป็นมาของสถานีกลางบางซื่อนับตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน พร้อมกับเปิดมุมมองใหม่ ในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางให้เกิดความสะดวกสบาย อันถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับประชาชน”
อ่านแบบ E-book ที่
- https://fliphtml5.com/ctvfc/illn
ดาวน์โหลดไฟล์ PDF ได้ที่
- https://drive.google.com/file/d/1ixFhA42nQjQj9K8NCFyw3aFSsMEntq0M/view

ติดต่อขอรับวารสารรถไฟสัมพันธ์ เล่มที่ 1/2565 ได้ที่...
หน่วยบริการเดินทางสถานีกรุงเทพ และสถานีรถไฟต่าง ๆ หรือ ติดต่อขอรับได้ที่...กองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟฯ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 09/03/2022 7:23 am    Post subject: Reply with quote

ศาลแจงรื้อคดีโฮปเวลล์ ระบุเข้าเงื่อนไขมีข้อกฎหมายใหม่
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
เศรษฐกิจ ข เศรษฐกิจ-นโยบาย
9 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 06:15 น.

นายวิษณุ วรัญญู รองประธาน ศาลปกครองสูงสุด ชี้แจงขั้นตอนการพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ว่าหลังศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมใหญ่มีมติให้รับรื้อคดีใหม่ คดีก็ต้องไปเริ่มที่ศาลปกครองชั้นต้น โดยต้องมีการแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งคดีนี้ไม่ใช่ข้อพิพาทระหว่างกระทรวงคมนาคม และบริษัทโฮปเวลล์โดยตรง แต่เป็นกรณีพิพาทว่าคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ให้กระทรวงคมนาคมจ่ายค่าเสียหายถูกต้องหรือไม่ จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลต้องลงไปดูรายละเอียดในข้อพิพาท ประกอบกับมีแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการนับระยะเวลาการฟ้องคดีทำให้การพิจารณาคดีมีความชัดเจนขึ้น การพิจารณาคดีคาดว่าไม่นาน ส่วนกระทรวงคมนาคมจะขอยื่นให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อระงับการจ่ายเงินตามคำพิพากษาขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะเจ้าของสำนวน แต่โดยระเบียบการบังคับคดีของศาลปกครองข้อที่ 131 เมื่อรับคำขอพิจารณาคดีใหม่สามารถงดการบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิมได้


การรับพิจารณาคดีใหม่ไม่ใช่เรื่องปกติต้องทำอย่างพิเศษมากๆ อย่างที่มีการเรียกร้องกัน หรือพูดกันว่ายื่นมาไม่รู้กี่ครั้ง ศาลก็ไม่รับเสียที กฎหมายจึงกำหนดหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาคดีใหม่อย่างเคร่งครัด โดยกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ 4 ข้อ คือ

1.มีข้อเท็จจริงใหม่

2.คู่กรณีแท้จริงไม่ได้เข้ามาในคดี หรือเข้ามาแล้วไม่ได้รับความยุติธรรม

3.มีข้อบกพร่องสำคัญในชั้นพิจารณา

4.มีข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายเปลี่ยนไปในสาระสำคัญอาจทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งโฮปเวลล์อยู่ในข้อ 4 ข้อเท็จจริงไม่ได้เปลี่ยน แต่เป็นข้อกฎหมายที่เปลี่ยนจากวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการนับระยะเวลาการฟ้องคดี

“การพิจารณาคดีใหม่ในกรณีทั่วๆไปจะไม่ทำกัน เมื่อมีคำพิพากษาจะผิดจะถูกก็ต้องปฏิบัติตามวิธีการที่ในต่างประเทศที่เขาจะทำกันในกรณีที่รับไม่ได้กับผลของคำพิพากษาจริงๆ จะต้องไปออกกฎหมาย แก้ไขหรือลบล้างคำพิพากษา ถ้าเป็นคดีอาญาต้องไปออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งในไทยมักจะกล่าวหาว่าอย่างนี้เป็นการแทรกแซงอำนาจตุลาการซึ่งไม่ใช่” นายวิษณุกล่าว.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 125, 126, 127 ... 147, 148, 149  Next
Page 126 of 149

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©