View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/06/2022 4:35 pm Post subject:
คมนาคม แฮปปี้! เอกชนญี่ปุ่นสนใจโปรเจคท์คมนาคม พัฒนารถไฟฟ้าในกรุง
เดลินิวส์ 22 มิถุนายน 2565 16:11 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
คมนาคม แฮปปี้! นักลงทุนญี่ปุ่นสนใจโปรเจคท์คมนาคม พัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ย้ำความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ศักดิ์สยาม โชว์แผนพัฒนาบก น้ำ ราง อากาศ ลุยเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจไทย เชื่อมการเดินทางประเทศเพื่อนบ้าน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) และนายทาเคโอะ คะโต้ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCCB) พร้อมคณะผู้บริหาร JCCB เข้าพบ เพื่ออำลาในโอกาสที่นายอัทสึชิ จะพ้นจากหน้าที่ และร่วมหารือพัฒนาแนวทางในการสนับสนุนการดำเนินการภาคธุรกิจของภาคเอกชนญี่ปุ่นในประเทศไทย ทั้งนี้ JETRO Bangkok และ JCCB ได้รายงานผลสำรวจความเห็นของเอกชนญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทย พร้อมเสนอข้อคิดเห็นจากภาคเอกชนญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทย มีประเด็นความสนใจของภาคเอกชน เช่น การพัฒนารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และการพัฒนาโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า โดยได้นำเสนอการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยในปัจจุบัน ประกอบด้วย ทางถนน ทางระบบราง ทางน้ำ และทางอากาศ ได้แก่ การพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) การพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ การพัฒนารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ การพัฒนาระบบรถไฟระหว่างเมือง โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงจิระ-ขอนแก่น และ ช่วงมาบกะเบา-จิระ การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองหลัก การพัฒนารถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเรือ F โครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือระนอง ระยะที่ 2 การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ท่าอากาศยานอู่ตะเภา การพัฒนาแนวโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (MR-Map) โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมอ่าวไทยและอันดามันที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง (Land Bridge) และได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นและไทย เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมายาวนาน ซึ่งกระทรวงคมนาคม พร้อมเดินหน้าโครงการต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการพัฒนาสาธารณูปโภคเชื่อมโยงพื้นที่อีอีซีที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนของภาครัฐและเอกชน และเร่งพัฒนาความร่วมมือส่งเสริมในทุกด้านโดยเฉพาะโลจิสติกส์ และการเชื่อมต่อการเดินทางกับประเทศเพื่อนบ้าน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Posted: 22/06/2022 6:26 pm Post subject:
'เจโทร' เผยเอกชนญี่ปุ่นสนใจลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน-รถไฟเร็วสูงในไทย
หน้าเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล
21 มิถุนายน 2565 เวลา 17:09 น.
"ทาเคทานิ อัทสึชิ" ประธานเจโทรฯ อำลาตำแหน่งหลังครบวาระ 3 ปี ชื่นชมไทยร่วมผลักดันการหารือทวิภาคีจนความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น มีทั้งความใกล้ชิดและแข็งแกร่ง ยันเอกชนญี่ปุึ่นสนใจลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและรถไฟความเร็วสูงในไทย พร้อมดันไทยเป็นฮับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (21 มิ.ย.) ภายหลังนายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธาน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ (Japan External Trade Organization - JETRO Bangkok) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสครบวาระการดำรงตำแหน่ง รายละเอียดมีดังนี้
นายกรัฐมนตรีชื่นชม ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้พบหารือกันในหลายโอกาส ตลอดจนบทบาทที่แข็งขันของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงเจโทรมีส่วนช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณประธานเจโทรฯ ที่มุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับญี่ปุ่นตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ดำรงตำแหน่ง และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนและให้ร่วมมือแก่ประธานเจโทรฯ คนใหม่ด้วยดีเช่นกัน
ด้านนายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธานเจโทรฯ กล่าวขอบคุณและชื่นชมนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนผลักดันความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่นที่สำคัญ และมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเจโทรเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินมาตรการอย่างมีประสิทธิภาพของรัฐบาลไทยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ประธานเจโทรฯ ยังขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ผลักดันการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมาโดยตลอด ซึ่งไทยกับญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแข็งแกร่ง มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันในหลายโอกาส นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเพิ่งเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับไทยเป็นอันดับต้น ๆ
ทั้งนี้ เจโทรฯ ยืนยันความมุ่งมั่นในการคงบทบาทที่แข็งขันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นต่อไป พร้อมทั้งสนับสนุนให้ประธานเจโทรฯ คนใหม่ สานต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนอันดับ 1 และเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย สะท้อนความเชื่อมั่นของภาคเอกชนญี่ปุ่นต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจไทย และความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งระหว่างกัน ตลอดจนยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมี ความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ห่วงโซ่อุปทาน
ทั้งนี้ ภาคเอกชนญี่ปุ่นมีความสนใจลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า เป็นโอกาสที่ดีของไทย และได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับการลงทุนของญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยในการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ทั้งสองได้หารือถึงประเด็นการพิจารณาขยายหลักสูตรการเรียนการสอนของสถาบัน KOSEN ให้ครอบคลุมสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ในไทยมากขึ้น เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภูมิภาค และจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของญี่ปุ่นในอนาคตด้วย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Posted: 23/06/2022 6:07 pm Post subject:
น้องทันใจมาแล้ว! วันนี้จะมาชวนอัปเดตรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม. ข้อมูลล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละที่จะดำเนินการสร้างและพัฒนาไปแค่ไหนบ้าง มาดูกันเลย!
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
- ความก้าวหน้างานโยธา 94.51%
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง
- ความก้าวหน้างานโยธา 93.42%
- ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 92.29%
- ความก้าวหน้าโดยรวม 92.93%
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี
- ความก้าวหน้างานโยธา 90.06%
- ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 87.02%
- ความก้าวหน้าโดยรวม 88.51%
#30ปีรฟม. เชื่อมต่อเส้นทางสู่ความยั่งยืน Completing Connection, Mission for All
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/341537484831151
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Posted: 28/06/2022 4:17 pm Post subject:
ค่าโดยสาร 'รถไฟฟ้าไทย' สูงสุดในอาเชียน
หน้า THAN DIGITAL THAN TALK TV
วันอังคาร ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 14:42 น.
การขนส่งมวลชนสาธารณะเป็นการให้บริการประชาชน ซึ่งค่าโดยสารไม่ควรที่จะสูงเกินไป แต่...ค่าโดยสารของไทยสูงมาก! และแพงกว่าที่อื่น
ค่ารถไฟฟ้าไทย สูงสุดในอาเชียน l THAN TALK l 28/06/65
ติดตามรายการฐานทอล์ก ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.10 เป็นต้นไป ทางเนชั่นทีวี 22
https://www.youtube.com/watch?v=ib3jtgnLe9k
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Posted: 30/06/2022 3:39 pm Post subject:
คอนเฟิร์มแล้วค่าาา ว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะเปิดให้บริการได้บางส่วนต้นปี 2566 นะคะ จากเดิมที่คิดว่าจะเปิดได้บางส่วนปลายปี 2565 (รอบนี้น่าจะไม่เลื่อนแล้วเนอะ)
.
วันนี้แอดมิน มีภาพอัปเดตที่สถานีมีนบุรี (สายสีชมพู) และสถานีกลันตัน (สายสีเหลือง) มาฝากกันคร่า
.
รถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย มีความคืบหน้าโดยรวมประมาณ 90%
https://www.facebook.com/Homebuyersfanpage/posts/2736041356530026
คมนาคม เล็งเปิดทดสอบรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลืองเปิดนั่งฟรี 3 เดือน เริ่ม ม.ค.-มี.ค. 66
30 มิถุนายน 2565 เวลา 16:26 น.
ศักดิ์สยาม ตรวจโมโนเรล "ชมพู-เหลือง" ทดสอบเสมือนจริง ต.ค.นี้-คาด ม.ค. 66 ให้ประชาชนทดลองฟรีก่อนเปิดบริการเป็นทางการ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 30 มิถุนายน 2565 เวลา 17:00 น.
ปรับปรุง: 30 มิถุนายน 2565 เวลา 17:00 น.
ศักดิ์สยาม ตรวจความพร้อมและร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้า "ชมพู-เหลือง" คาดเปิดทดสอบเสมือนจริง ต.ค.นี้ และให้ประชาชนร่วมใช้ฟรี ม.ค. 66 ก่อนเปิดให้บริการบางส่วนในไตรมาส 1/66 เผยค่าโดยสาร 14-42 บาทคิดตั้งแต่ปี 59 ก่อนเปิดต้องคำนวณดัชนีผู้บริโภคอีกครั้ง คาดปีแรกมีผู้โดยสาร 1.9-2 แสนคน
ศักดิ์สยามลงพื้นที่ทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพู เตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการสายสีชมพู-เหลือง เล็งเปิดให้ประชาชนทดลองนั่ง ฟรี 3 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค.66 ก่อนเปิดบริการตลอดสายเต็มรูปแบบปลายปี 66 คาดผู้โดยสาร 1.9-2 แสนคนต่อวัน
30 มิ.ย.2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ว่า ความคืบหน้า ณ ปัจจุบันของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มีความคืบหน้าในภาพรวมคิดเป็น 92.93% แบ่งเป็นงานโยธา 93.42% และงานระบบรถไฟฟ้า 92.29% ขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้รับมอบขบวนรถแล้ว 28 ขบวน จากทั้งหมด 30 ขบวน คาดว่า ขบวนรถไฟฟ้าที่เหลือจะจัดส่งถึงประเทศไทยได้ภายใน ก.ค. 2565
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี มีความคืบหน้าในภาพรวมคิดเป็น 88.51% แบ่งเป็นงานโยธา 90.06% และงานระบบรถไฟฟ้า 87.02% โดยได้รับมอบขบวนรถแล้ว 26 ขบวนจากทั้งหมด 42 ขบวน และคาดว่า ขบวนรถไฟฟ้าที่เหลือจะจัดส่งถึงประเทศไทยได้ใน ต.ค. 2565 ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายทาง อยู่ระหว่างทดสอบการเดินรถ และมีแผนกำหนดการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) เริ่มภายใน ต.ค. 2565 ก่อนจะเปิดให้บริการบางช่วงอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการฟรี 3 เดือน คือ ม.ค.-มี.ค. 2566 ก่อนที่จะเปิดเต็มรูปแบบภายในปี 2566 อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในปีแรกที่เปิดให้บริการ จะมีผู้โดยสารประมาณ 190,000-200,000 คนต่อวัน และมีศักยภาพรองรับได้ 1,000,000 คนต่อวัน
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าโดยสารนั้น เขื้องต้นจากข้อมูลเมื่อปี 2559 จะจัดเก็บในอัตรา 14-42 บาท ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการแบบเก็บค่าโดยสารต้องพิจารณาจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) อีกครั้ง ซึ่งได้มอบให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และเอกชน ไปพิจารณาค่าใช้จ่ายให้สะท้อนกับความเป็นจริงมากที่สุด ขณะเดียวกัน ได้ให้ไปพิจารณาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อนำรายได้มาลดค่าโดยสารให้ประชาชน ซึ่งตนอยากให้มีราคาที่ถูกที่สุดอยู่แล้ว ส่วนค่าแรกเข้าในการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ นั้น อยู่ระหว่างการเจรจา โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการทั้ง 2 สายแล้ว
จากการลงพื้นที่ในวันนี้ พบว่า การดำเนินการเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน โดยยืนยันว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟม. ได้เดินหน้าพัฒนาแผนโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ซึ่งคำนึงถึงการใช้ประโยชน์สูงสุด เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาการจราจร และปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้วย นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่พบในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี พบว่า บางพื้นที่มีสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทางก่อสร้างอยู่ด้วย ส่งผลให้การก่อสร้างมีความล่าช้า จึงมอบนโยบายให้เร่งประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การก่อสร้างเดินหน้าได้อย่างราบรื่นแล้วเสร็จตามกำหนด และดำเนินการคืนพื้นที่โดยเร็วเพื่อบรรเทาปัญหาจราจร ลดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนให้มากที่สุด ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2566 ที่จะเปิดให้บริการบางช่วงนั้น แบ่งเป็น สายสีชมพู ช่วงศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงภาวนา-สำโรง
สำหรับความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงศรีรัช-เมืองทองธานีนั้น ในขณะนี้ผู้รับจ้างได้เข้าพื้นที่ก่อสร้างแล้ว โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี นับจากการเปิดให้บริการสายหลักแล้ว หรือคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในปี 2568 ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าวถึงแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น อยู่ระหว่างการเจรจา พร้อมทั้งพิจารณาผลกระทบด้านรายได้ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รวมถึงการชดเชยในด้านต่างๆ
รายงานข่าวจาก รฟม. ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มีแนวเส้นทางเริ่มต้นที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว บริเวณหน้าอาคารจอดแล้วจร สถานีลาดพร้าว ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ไปตามแนวถนนลาดพร้าว ถึงทางแยกบางกะปิ เข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ข้ามทางแยกต่างระดับพระราม 9 ผ่านแยกพัฒนาการ แยกศรีนุช แยกศรีอุดม แยกศรีเอี่ยม แยกศรีเทพา เข้าสู่ถนนเทพารักษ์ และสิ้นสุดที่บริเวณแยกเทพารักษ์ รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 30.4 กิโลเมตร (กม.) ประกอบด้วย สถานีทั้งหมด 23 สถานี
ทั้งนี้ในส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีจุดเริ่มต้นบนถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณถัดจากศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ผ่านแยกแครายเข้าสู่ถนนติวานนท์ ตัดเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะที่บริเวณใกล้กับ ห้าแยกปากเกร็ด ผ่านแยกหลักสี่ เข้าสู่ถนนรามอินทราจนถึงแยกมีนบุรี เลี้ยวขวาสู่ถนนรามคำแหง ซึ่งมีสถานีสุดท้ายที่บริเวณใกล้ซอยรามคำแหง 192 ระยะทางประมาณ 34.5 กม. ประกอบด้วยสถานีทั้งหมด 30 สถานี
สรุป...โปรดฟังอีกครั้ง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เลื่อนเปิดบริการจากปลายปี 65 ไปเป็นต้นปี 66 แทนนะคะทุกคนนนน (ที่ล่าช้าก็มาจากหลายสาเหตุค่ะ หลักๆ เลย คือ อุปสรรคของงานก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทางต่างๆ)
Home Buyers TH
เผยแพร่: 30 มิถุนายน 2565 เวลา 18:00 น.
กำหนดเบื้องต้นจะเปิดให้ประชาชนชาวเรานั่งฟรี 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 66) ตอนนี้ความคืบหน้ารถไฟฟ้าทั้ง 2 สายไปกว่า 90% ++ แล้วค่ะ
.
เบื้องต้นสายสีเหลือง จะเปิดสถานีภาวนา-สถานีสำโรง ส่วนสายสีชมพู จะเปิดสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ-สถานีมีนบุรี ก่อนในระยะแรกนะคะ
.
คาดว่าจะเปิดบริการแบบเต็มรูปแบบปลายปี 66 จ้า...
โพสต์นี้มีภาพบริเวณสถานีกลันตัน (สายสีเหลือง) และสถานีมีนบุรี (สายสีชมพู) มาฝากเพื่อนๆ ด้วยค่าาา ดูเพิ่มเติมได้ในโพสต์เลยค่ะ
.
ผ่านหน้าบ้านใครตรงไหนมาคุยกัน รอกันมานานแค่ไหนก็มาเล่ากันได้เลยยย ส่วนแอดรอนานจนลืมๆ ไปก่อน แต่ก็ดีใจที่ใกล้จะได้ใช้บริการแล้ววว
.
วันนี้แอดได้ไปทดลองนั่งรถไฟฟ้า (สายสีชมพู) มาด้วยค่ะ ตื่นและดีใจมากๆ เลยยย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Posted: 05/07/2022 11:02 am Post subject:
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
24m ·
การลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้าง
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี
สายสีเหลืองคืบหน้าไปแล้ว 92.93%
สายสีชมพูคืบหน้าไปแล้ว 88.51%
โดยโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายทาง อยู่ระหว่างทดสอบการเดินรถ และมีแผนกำหนดการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) เริ่มภายในเดือนตุลาคม 2565 ก่อนจะเปิดให้บริการบางช่วงอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2566
เมื่อรถไฟฟ้าทั้งสองสายเปิดใช้บริการแล้วจะช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางจากชานเมืองมายังใจกลางเมืองได้อย่างไร้รอยต่อ ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
https://www.facebook.com/watch/?v=729891858337205
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Posted: 10/07/2022 8:08 pm Post subject:
รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง-ส้ม อัพเดตการก่อสร้าง เดือน มิ.ย.65
ในประเทศ
วันอาทิตย์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 12:05 น.
รฟม. เผยความคืบหน้า รถไฟฟ้าสายสีส้ม เหลือง ชมพู ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565
วันที่ 10 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รายงานความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
ความก้าวหน้างานโยธา 95.31%
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว สำโรง
ความก้าวหน้างานโยธา 94.18%
ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 93.22%
ความก้าวหน้าโดยรวม 93.77%
รถไฟฟ้าสายชมพู
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย มีนบุรี
ความก้าวหน้างานโยธา 91.01%
ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 87.90%
ความก้าวหน้าโดยรวม 89.43%
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/07/2022 8:34 am Post subject:
คอลัมน์ Big Data Analysis: ไทม์ไลน์คนเมืองได้ใช้รถไฟเดินทาง
Source - กรุงเทพธุรกิจ
Friday, July 22, 2022 04:47
หลังฝนถล่มเมืองกรุง ไม่กี่ชั่วโมงถนนก็กลายเป็นคลองในขณะที่ รถยนต์ที่แล่นไปมาบนท้องถนนกลายเป็นเรือที่แล่นในน้ำได้ ทำให้การเดินทางของคนกรุงเทพกลายเป็นอัมพาต การมองหารูปแบบการเดินทางใหม่ที่พอจะหลีกเลี่ยงปัญหาความไม่สะดวก อันเกิดจากเหตุปัจจัยต่างๆเป็นสิ่งที่ คนเมืองกำลังมองหา "รถไฟ"เป็นทางเลือกที่ดีทั้งในกรณีสถานการณ์ปกติที่สามารถคำนวณเวลาเดินทางได้อย่างแม่นยำ เพราะมีตารางเวลาเดินรถที่ชัดเจน ขณะที่กรณีสถานการณ์ไม่ปกติน้ำท่วมจนรถยนต์ แล่นไม่ได้ รถไฟก็ยังสามารถพามาใกล้ สู่จุดหมายปลายทางแล้ว ทั้งนี้ตามแผนของกระทรวงคมนาคมระบุว่า รถไฟฟ้าทั้ง 12 สายมีกำหนดลงทุนและเปิดใช้งานเริ่มมาตั้งแต่ ปี 2539 ไปจนถึง ปี 2571 ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
แม้โครงข่ายรถไฟฟ้าจะเป็นทาง แก้ปัญหาให้คนกรุงมีทางเลือกใน การเดินทางแต่จะช่วยแก้ปัญหาค่าใช้จ่าย ในการเดินทางของคนกรุงด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องฝากให้ต้นสังกัดเร่ง ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงอย่างสมบูรณ์แบบด้วย
ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 ก.ค. 2565
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
Posted: 30/07/2022 11:23 pm Post subject:
จ่อรื้อราคาประเมินที่ดิน แนวรถไฟฟ้าใหม่ ในรอบ 6 ปี
ข่าวรอบวัน
วันเสาร์ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14:21 น.
กรมธนารักษ์ เตรียมรีวิวราคาประเมินที่ดินใหม่ ในรอบ 6 ปี เผยข้อมูลย้อนหลังซื้อ-ขายที่ดินไม่คึกคัก
วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 มติชน รายงานว่า นายฐนัญพงษ์ สุขสมศักดิ์ ผู้อำนวยการกองประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากวันที่ 1 มกราคม 2566 กรมประกาศบังคับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่รอบปี 2566-2569 แล้ว ในระหว่างรอบปีอาจจะต้องมีการรีวิวใหม่เพิ่มเติมให้สอดรับกับสภาพพื้นที่และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากราคาที่กรมประกาศใช้ใหม่นี้เก็บข้อมูลและทำการวิเคราะห์เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
สำหรับทำราคาประเมินใหม่รอบปี 2563-2566 แต่เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจที่กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตระบาดโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้เลื่อนการประกาศใช้ราคาใหม่มาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เพราะราคาประเมินจะถูกนำไปใช้เป็นฐานการคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วย
นายฐนัญพงษ์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมทั้งประเทศราคาประเมินใหม่ที่จะใช้วันที่ 1 มกราคม 2566 ปรับขึ้น 8% โดยกรุงเทพมหานครปรับขึ้น 2.69% และต่างจังหวัดปรับขึ้น 8.81% โดยที่ผ่านมาได้เก็บข้อมูลสะสมทุกปี พบว่าการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินไม่ค่อยคึกคักเมื่อเทียบกับรอบปี 2558-2562 ขณะนี้กำลังนำข้อมูลมาวิเคราะห์ดูว่าพื้นที่ไหนราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิน 15% จะต้องมีการประกาศราคาใหม่ในระหว่างปีต่อไป
นายฐนัญพงษ์ ระบุว่า ทำเลสำคัญมีแนวโน้มจะต้องปรับราคาประเมินใหม่ เช่น แนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่เปิดใช้แล้วแต่ยังไม่ได้ประเมิน เช่น สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค สายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-คูคตและช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
รวมทั้งสายที่จะเปิดใช้ในปี 2566 คือ สายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี สายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง หรือกำลังก่อสร้างอย่างสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี รวมถึงทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว การค้าชายแดน และพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ซึ่งส่วนใหญ่ราคาประเมินจะปรับขึ้นสูงจะเป็นรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง เช่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา อู่ตะเภา
ด้านนายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลราคาซื้อขายที่ดินจากข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์จริงในพื้นที่เขต/อำเภอในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู และ สายสีเหลือง ที่ทั้งสองสายเส้นทางใกล้จะก่อสร้างเสร็จและคาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถได้ปลายปี 2565
พบว่าราคาที่ดินเฉลี่ยของทุกเขต/อำเภอในพื้นที่ที่รถไฟฟ้าทั้ง 2 สายพาดผ่าน ในแนวสายสีเหลืองมีราคาเฉลี่ยที่ 101,287 บาท/ตร.ว. สูงกว่าแนวสายสีชมพูมีราคาที่ดินเฉลี่ยที่ 55,666 บาท/ตร.ว. หรือสูงกว่าถึง 81.95 % เนื่องจากพื้นที่ที่สายสีเหลืองพาดผ่านเป็นชุมชนพาณิชยกรรม และที่พักอาศัยหนาแน่น และราคาที่ดินบริเวณนี้ ปรับตัวสูงขึ้นมากเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ส่วนพื้นที่สายสีชมพูพาดผ่านมีชุมชนที่น้อยกว่า และราคาที่ดินโดยพื้นฐานต่ำกว่า
นายวิชัยกล่าวว่า หากพิจารณาด้านอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินเฉลี่ยระหว่าง 2 เส้นทางนี้ ในช่วงระหว่างไตรมาส 1 ปี 2562 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2565 หรือในช่วง 14 ไตรมาสที่ผ่านมา พบว่าราคาที่ดินเฉลี่ยในพื้นที่เขต/อำเภอของสายสีเหลืองมีการเปลี่ยนแปลง 46.95% หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 3.61%
ขณะที่สายสีชมพู มีการเปลี่ยนแปลงถึง 76.30% หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 5.87% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าราคาที่ดินในบริวณสายสีชมพูยังมีราคาเฉลี่ยต่ำกว่าสายสีเหลือง แต่มีอัตราเร่งของราคาที่ดินที่แรงพอสมควร ทั้งนี้คาดว่า เมื่อสายสีชมพูเปิดให้บริการ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว ราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวจะมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาก
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าเมื่อเทียบปี 2563 กับ 2564 แยกเป็นบีทีเอส เพิ่มขึ้น 7.3% ส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง เพิ่มขึ้น 6.3% ส่วนต่อขยายช่วงตากสิน-บางหว้า เพิ่มขึ้น 7.2% ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพิ่มขึ้น 6.0% รถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มขึ้น 6.3% แอร์พอร์ตเรลลิงก์ เพิ่มขึ้น 4.4% สายสีม่วงเพิ่มขึ้น 4.9%
สายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพิ่มขึ้น 6.7% สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ เพิ่มขึ้น 6.3% และช่วงหัวลำโพง-บางแค เพิ่มขึ้น 7.3% สายสีเขียวหมอชิต-คูคต เพิ่มขึ้น 10.4% สายสีชมพูแคราย-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 11.7% สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง เพิ่มขึ้น 13.7% สายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 8.5%
Back to top