View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44601
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/09/2022 9:02 am Post subject:
อัพเดท ไทม์ไลน์ รถไฟฟ้า-ไฮสปีดเทรน 14 เส้นทาง สีชมพู-เหลือง เปิดปีนี้
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 15 กันยายน 2565 - 08:36 น.
อัพเดท ไทม์ไลน์ ความคืบหน้ารถไฟฟ้า-ไฮสปีดเทรน 14 เส้นทาง 554 กิโลเมตร สายสีเหลือง-สีชมพู เปิดให้บริการปีนี้-เต็มระบบปี 66
วันที่ 15 กันยายน 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศไปสู่ความยั่งยืน สร้างระบบขนส่งคมนาคมเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในภูมิภาคต่าง ๆ
นายอนุชากล่าวว่า สำหรับการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อผลักดันให้ระบบขนส่งทางรางเป็นระบบขนส่งสาธารณะ และแก้ปัญหาการจราจรติดขัดอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้ครบ 14 เส้นทาง ระยะทางรวม 554 กิโลเมตร (กม.) ให้เสร็จโดยเร็ว
นายอนุชากล่าวว่า มี 2 สายที่จะเริ่มเปิดใช้ในปีนี้ คือโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) สายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) หลังจากนั้นจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งสองเส้นทางในปลายปี 2566 รวมถึงการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ ให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดของไทยและอาเซียน ถือเป็นต้นแบบสถานีอัจฉริยะ ด้วยระบบ 5G แห่งแรกของไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายอนุชากล่าวว่า นอกจากนี้ การขับเคลื่อนรถไฟความเร็วสูง Hi-Speed Train สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทางรวมกว่า 600 กม. โดยระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กม. คาดจะเปิดให้บริการปี 2569 สำหรับระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย 356 กม. คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะเสนอ ครม. อนุมัติโครงการในช่วงปลายปี 2565 และจะเปิดให้บริการในปี 2571
นายอนุชากล่าวว่า ส่วนเส้นทางสายตะวันออก รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เชื่อมกรุงเทพฯ-EEC 220 กม. ความเร็วสูงสุด 250 กม. ต่อชั่วโมง ปัจจุบันสามารถส่งมอบพื้นที่เพื่อเตรียมการก่อสร้างได้แล้ว 100%
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาในปี 2565 นี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569
นายอนุชากล่าวว่า ทั้งนี้รถไฟทางคู่จำนวน 4 โครงการ ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว ได้แก่ 1) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 2) ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 3) ช่วงนครปฐม-หัวหิน และ 4) ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
นายอนุชากล่าวว่า สำหรับการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ รัฐบาลได้เพิ่มศักยภาพการขนส่งทางทะเล ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่งเสริมบทบาท EEC เชื่อมทั่วโลก คาดเปิดให้บริการปี 2568 ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ศูนย์กลางขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG Hub ในกลุ่มประเทศ CLMV คาดเปิดให้บริการปี 2569 ส่วนทางอากาศ ได้พัฒนาท่าอากาศยานทั่วประเทศ เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร เพิ่มเป็น 139 ล้านคน โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 คาดจะเปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคม 2565 นี้
นายอนุชากล่าวว่า รวมทั้งการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวใน EEC อีกทั้งการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ส่งเสริมบทบาทไทยให้เป็น ศูนย์การบิน Aviation Hub ในภูมิภาคอีกด้วย
ความคืบหน้าการดำเนินการและความสำเร็จที่เกิดขึ้นของโครงการเมกะโปรเจ็กต์ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ ทั้งทางถนน ระบบราง น้ำ และอากาศ ดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะสามารถเชื่อมต่อเมือง รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางแล้ว ยังจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และกระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาคของประเทศไทย
ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศให้สูงขึ้น ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่สำคัญ ส่งผลดีต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการบริการของภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคตนายอนุชากล่าว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Posted: 15/09/2022 1:42 pm Post subject:
รัฐบาลย้ำเปิดแน่ปีนี้รถไฟฟ้าสาย 'สีชมพู-สีเหลือง'
วันพฤหัสบดี ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 7:58 น.
'อนุชา' แจงรัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เร่งสร้างระบบขนส่งคมนาคม เชื่อมโยงถนน-ราง-น้ำ-อากาศ อย่างไร้รอยต่อ เร่งกระจายความเจริญสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44601
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/09/2022 5:52 pm Post subject:
Wisarut wrote: รัฐบาลย้ำเปิดแน่ปีนี้รถไฟฟ้าสาย 'สีชมพู-สีเหลือง'
วันพฤหัสบดี ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 7:58 น.
'อนุชา' แจงรัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เร่งสร้างระบบขนส่งคมนาคม เชื่อมโยงถนน-ราง-น้ำ-อากาศ อย่างไร้รอยต่อ เร่งกระจายความเจริญสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ
รัฐดันระบบราง แก้ปัญหาจราจรในพื้นที่กทม. เชื่อมภูมิภาค l ย่อโลกเศรษฐกิจ 15 ก.ย.65
Sep 15, 2022
TNN Online
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลมุ่งพัฒนาระบบราง เพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งอื่นๆ อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดย 2 เส้นทางในกรุงเทพฯ จะเปิดให้บริการในปีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=SpqTpwj_v8I
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Posted: 28/09/2022 1:09 am Post subject:
ครม.ทุ่ม 3.85 พันล้าน สร้างอาคารรักษาพยาบาล บนที่ดิน ร.ฟ.ท.เชื่อม รพ.ศิริราช
การเมือง
วันอังคาร ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 16:03 น.
ครม.อนุมัติ 3.85 พันล้าน พัฒนาสถานีศิริราชเป็นอาคารรักษาพยาบาลและสถานีรถไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศ เชื่อมรถไฟสายสีแดงอ่อน-รถไฟฟ้าสายสีส้ม
วันที่ 27 กันยายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการดำเนินโครงการอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล งบประมาณรวมทั้งสิ้น 3,851.27 ล้านบาท แบ่งเป็นงบฯลงทุนค่าก่อสร้าง 2,338.27 ล้านบาท ครุภัณฑ์การแพทย์ 1,400 ล้านบาท และงบฯบุคลากร (หมวดเงินเดือน) 113.01 ล้านบาท โดยขออนุมัติงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2566-2569 จำนวน 2,552.50 ล้านบาท และเงินสมทบจากเงินนอกงบประมาณ จำนวน 1,298.77 ล้านบาท ในลักษณะเป็นเงินอุดหนุน
สเปรย์พ่นจมูกยับยั้งโควิด วางขายในไทย 1 ต.ค. นี้
กอบศักดิ์ ชี้ วิกฤตเศรษฐกิจโลกเริ่มแล้ว คาดรอบนี้กินเวลานาน 3 ปี
รักไม่ใช่ดวงดาวเมื่อพราวแสง ไวรัลที่หลายแบรนด์ ไม่ยอมตกขบวน
รัชดา ธนาดิเรก
รัชดา ธนาดิเรก
น.ส.รัชดากล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช เพื่อให้เป็นสถานีขนส่งมวลชนเพื่อสุขภาพและสาธารณสุขแห่งแรกของประเทศไทย
โดยพัฒนาจุดเชื่อมโยงการเดินทางโดยรถไฟฟ้าบริเวณโรงพยาบาลศิริราช จำนวน 2 สถานี คือ สถานีศิริราช รถไฟฟ้าสายสีส้มของ รฟม. และสถานีธนบุรี-ศิริราช รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนของ ร.ฟ.ท. และเพิ่มประโยชน์การใช้งานนอกเหนือจากสถานีรถไฟฟ้าด้วยการบริการรักษาพยาบาล เช่น งานบริการผู้ป่วยนอก งานบริการผู้ป่วยใน งานบริการตรวจผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องพักค้าง เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาการเดินทางและลดความแออัดของผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลศิริราช ด้วยการเป็น One Stop Service และ Best Integrated Care
น.ส.รัชดากล่าวว่า โครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ ร.ฟ.ท. ซึ่งต่อเนื่องกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล บริเวณสถานีรถไฟธนบุรี-ศิริราช ช่วงเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เลียบคลองบางกอกน้อย โดยเป็นการเช่าที่ดินของ ร.ฟ.ท. บนพื้นที่ 4.67 ไร่ (7,456 ตารางเมตร) ระยะเวลาเช่า 30 ปี
สำหรับลักษณะของโครงการ เป็นการก่อสร้างอาคารสูง 15 ชั้น ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น รวมความสูงของอาคารเท่ากับ 81 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 51,853 ตารางเมตร แบ่งเป็น 1.พื้นที่โรงพยาบาล 47,537 ตารางเมตร 2.พื้นที่รถไฟสายสีแดงอ่อน 3,410 ตารางเมตร และ 3.พื้นที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม 906 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถ 79 คัน ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 32 เดือน รวมระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 ปี
ปัจจุบันโรงพยาบาลศิริราช เป็นโรงพยาบาลขนาด 2,100 เตียง ให้บริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ยประมาณ 3 ล้านคนต่อปี และบริการผู้ป่วยในเฉลี่ยประมาณ 8.3 หมื่นคนต่อปี ซึ่งการดำเนินการโครงการอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราชนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและลดความแออัดในโรงพยาบาลศิริราช อีกทั้งเป็นการยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุขไทย ในรูปแบบสถานีขนส่งมวลชนเพื่อสุขภาพและสาธารณสุขแห่งแรกของประเทศด้วย น.ส.รัชดากล่าว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Posted: 29/09/2022 2:15 pm Post subject:
ที่ผ่านมาได้มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับ คานทางวิ่งรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ชิดสะพานลอยมากจนเกินไป ทำให้เกิดความกังวลต่อประชาชน
ทางโครงการได้ติดตั้ง "แผงป้องกันภัย" ไว้เหนือสะพานลอย บางจุดแล้ว และจะติดตั้งให้ครบทั้งโครงการเร็วๆนี้ครับ 😉👍
ช่วยได้หลายอย่าง เช่น ป้องกันคนสติไม่ดีไปสัมผัสกับทางวิ่งและรางจ่ายกระแสไฟฟ้า และยังช่วยปกป้องสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะหล่นใส่ประชาชนได้ครับ
#รถไฟฟ้าสายสีเหลือง #รถไฟฟ้าสายสีชมพู
https://www.facebook.com/bkkmetrolife/posts/218523077171665
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44601
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 05/10/2022 6:26 am Post subject:
'สภาพัฒน์'ตีกลับ สั่งทบทวนศึกษา'ทางด่วนขั้น 3' 1.7 หมื่นล้าน
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, October 05, 2022 05:38
กทพ.ทบทวนผลศึกษาประมูล "ทางด่วนขั้น 3 สายเหนือ" นำร่อง N2 จากแยก เกษตร-นวมินทร์ 1.7 หมื่นล้านบาท หลังสภาพัฒน์ตีกลับทบทวนความเห็นเพิ่ม ลุ้นครม.ไฟเขียวต้นปีหน้า เล็งประมูล-ก่อสร้าง ปลายปี 66 เร่งศึกษาสร้างอุโมงค์ทางด่วน รับช่วง N1 บริเวณ ม.เกษตร คาดได้ข้อสรุปปี 66
การทางพิเศษแห่งประเทศ ไทย (กทพ.) ปัดฝุ่น โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ หลังจากที่ปล่อยให้ตอม่อถูกทิ้งร้างหลาย 10 ปี โดยโครงการฯจะช่วยแบ่งเบาปัญหาจราจรติดขัดบนถนนประเสริฐมนูกิจ และ ถนนประดิษฐ์มนูธรรมบริเวณทางแยกต่างระดับฉลองรัช ลดการคับคั่งของจราจรบริเวณแยกสัญญาณไฟ จราจรบนถนนประเสริฐมนูกิจ และเพิ่มการ กระจายปริมาณการจราจรไปทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ได้
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ความคืบหน้าโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพ มหานครด้านตะวันออก ปัจจุบันสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้พิจารณาข้อมูลประกอบการอนุมัติโครงการลงทุนช่วง N2 จากแยกเกษตร-นวมินทร์ เชื่อมไปยังวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร วงเงินลงทุนราว 1.7 หมื่นล้านบาท แล้ว โดยให้ความเห็นว่า อยากให้กทพ.เร่งศึกษาช่วง N1 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อโครงข่ายทางพิเศษโดยรอบอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างบริเวณใดบริเวณหนึ่งก่อนก็สามารถเสนอขออนุมัติโครงการช่วงนั้นได้ ซึ่งจะต้องนำไปพิจารณาเพิ่มเติมราว 2-3 เรื่อง เช่น มาตรการบรรเทาปัญหาการจราจรระหว่างการก่อสร้าง ฯลฯ
ขณะเดียวกันกทพ.ยังอยู่ระหว่างการทบทวนตัวเลขผลตอบแทนต่างๆ ของโครงการฯ เพื่อให้ครอบคลุมการก่อสร้างช่วง N1 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ต้องดำเนินการทบทวนผลการศึกษาให้เป็นปัจจุบัน หลังจากนั้นจะเสนอขออนุมัติต่อไป คาดว่าจะเสนอโครงการช่วง N2 บริเวณแยกเกษตร-นวมินทร์ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในปีนี้ คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากครม.ภายในต้นปี 2566
หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแล้ว จะเริ่มกระบวนการเปิดประมูลและได้ตัวผู้รับจ้างลงนามสัญญาภายในปี 2566 หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ทันทีภายในปลายปี 2566 ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี เนื่องจากโครงการฯไม่มีแนวพื้นที่ที่จะเวนคืนที่ดิน คาดเปิดให้บริการภายในปี 2569 โดยการประมูลโครงการฯนี้เป็นการประมูลงานก่อสร้างในรูปแบบปกติ เป็นการใช้งบประมาณบางส่วนจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) วงเงิน 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่เหลือจากการก่อสร้างโครงการทางด่วนสายพระราม 3 ส่วนงบประมาณที่ยังขาดประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อเลือกรูปแบบการรระดมทุนที่เหมาะสม เช่น การออกพันธบัตร, การเปิดกองทุนใหม่ TFFIF หรือใช้เงินกู้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานะทาง การเงินการคลังด้วย
"การประมูลโครงการฯช่วง N2 บริเวณแยกเกษตรนวมินทร์ ในครั้งนี้ไม่ได้ประมูลฐานรากร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี เนื่องจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะก่อสร้างฐานรากใหม่ โดยใช้พื้นที่ในเขตทางเดียวกัน ขณะที่ฐานรากเดิมช่วง N2 ของกทพ.ที่ก่อสร้างไว้แล้ว 25 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ถูกออกแบบให้รับน้ำหนักทั้งรถไฟฟ้าและทางด่วนได้พร้อมกัน หากใช้ฐานรากร่วมกันจะส่งผลให้โครงสร้างพังถล่มได้ โดย กทพ.และรฟม.ได้มีการหารือในการใช้เขตทางร่วมกันในการดำเนินการก่อสร้าง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อรูปแบบและเทคนิคการก่อสร้างระหว่างกัน"
ขณะที่ความคืบหน้าช่วง N1 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เบื้องต้นกทพ.อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ควบคู่กับการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน พร้อมศึกษารูปแบบการก่อสร้างในรูปแบบอุโมงค์ทางด่วน ส่งผลให้ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ประมาณ 4-5 ปี มากกว่าการก่อสร้างในรูปแบบทางยกระดับ โดยการก่อสร้างจะมีการใช้หัวเจาะอุโมงค์รูปแบบเดียวกันกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน คาดว่าศึกษาแล้วเสร็จภายในปี 2566 หลังจากนั้นจะขออนุมัติก่อสร้างและเปิดประมูลช่วง N1 ภายในปี 2567 เริ่มการก่อสร้างภายในปี 2568 คาดเปิดให้บริการปี 2571-2572
"ปัจจุบันทางกทพ.ยัง ไม่ได้หารือถึงการศึกษาก่อสร้างในรูปแบบอุโมงค์ทางด่วนกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพราะรูปแบบการก่อสร้างไม่ได้กระทบกับทางมหาวิทยาลัยฯแล้ว แต่ทั้งนี้กทพ.ต้องหารือร่วมกัน เพราะเป็นการขอใช้พื้นที่ เขตทางของมหาวิทยาลัย ในระยะทาง 500 เมตร ซึ่งเขาอาจจะได้รับผลกระทบในด้านการก่อสร้าง"
อย่างไรก็ตามหากโครง การทางด่วนขั้นที่ 3 ก่อสร้าง แล้วเสร็จ จะเชื่อมต่อระดับเมืองในแนวตะวันออก-ตะวันตก อีกทั้งยังตัดผ่านทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์และถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งเป็นเส้นทางในแนวเหนือใต้ ที่เกิดเป็นการเชื่อมต่อเหนือ ใต้และตะวันออก ตะวันตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มทางเลือกใหม่แก่ประชาชนในการสัญจร
ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 6 - 8 ต.ค. 2565
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Posted: 09/10/2022 2:03 am Post subject:
🚆ความก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม. ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 🔛 ดังนี้
1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 97.74%
2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 96.96% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 96.56% ความก้าวหน้าโดยรวม 96.79%
3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 92.82% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 91.74% ความก้าวหน้าโดยรวม 92.28%
4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 5.65% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 3.27% ความก้าวหน้าโดยรวม 4.86%
5. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 3.42% *ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการสำรวจโบราณคดีและสาธารณูปโภค
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/419166047068294
ที่กำลังก่อสร้าง 5 สาย 138 กิดลเมตร:
97.74% MRT Orange Line: 22.5 km.
96.96% MRT Yellow Line: 30.4 km.
92.82% MRT Pink Line: 34,5 km.
5.65% MRT Pink Line branch line: 2.8 km.
3.42% MRT Purple Line south extension: 23.6 km.
(Land expropriation) Airport Rail Link extension: 21.8 km.
ที่เปิด 212 กิดลเมตร
BTS Light Green Line: 55.45 km.
BTS Dark Green Line: 14 km.
MRT Blue Line: 47 km.
MRT Puple Line: 23 km.
SRT Dark Red Line: 26.3 km.
SRT Light Red Line: 15.26 km.
Airport Rail Link (ARL): 28.7 km
APM Gold Line: 1.88 km.
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/651752346402003 Last edited by Wisarut on 11/10/2022 1:21 pm; edited 1 time in total
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44601
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 10/10/2022 6:49 am Post subject:
รถไฟฟ้าหลากสี4สายถึงไหน?
Source - เดลินิวส์
Monday, October 10, 2022 05:17
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สรุปผลงานการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าหลากสี 4 สายประจำเดือน ก.ย. 65 ได้แก่ สายสีส้มผลงาน 97.74% สายสีเหลือง 96.79% สายสีชมพู 92.28% และน้องใหม่สายสีม่วงใต้ได้ผลงาน 3.42% สำหรับแผนการเปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) แม้จะสร้างเสร็จ 100% ในเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่สามารถเปิดบริการได้ ต้องรอเอกชนร่วมลงทุนติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้า และรับสัมปทานเดินรถตลอดเส้นทาง 35.9 กม. รวมทั้งก่อสร้างส่วน ตะวันตกช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ คาดว่าจะเปิดบริการส่วนตะวันออกเดือน ส.ค. 68 และส่วนตะวันตกเดือน ธ.ค. 70
โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าวสำโรง มีแผนทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ภายในเดือน ต.ค.นี้ เปิดบริการบางช่วงตั้งแต่สถานีภาวนา (YL02) ถึงสถานีสำโรง (YL23) เดือน ม.ค. 66 และเปิดบริการเต็มรูปแบบ ทุกสถานีในเดือน มิ.ย. 66 โมโนเรลสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี จะเปิดบริการบางช่วง (Partial Operation) เฟสแรกตั้งแต่สถานีมีนบุรี (PK30) ถึงสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (PK12) ต้นปี 66 ยกเว้นสถานีนพรัตน์ (PK26) สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ (PK13) และอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) จะเปิดบริการเต็มรูปแบบ (Full Operation) ทุกสถานี ในเดือน ก.ค. 66 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มีกำหนดเปิดบริการปลายปี 70 (หากสามารถเคลียร์ปัญหาการขอใช้พื้นที่โบราณสถานก่อสร้างสถานีใต้ดินจากกรมศิลปากรได้).
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 ต.ค. 2565 (กรอบบ่าย)
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44601
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/10/2022 7:40 am Post subject:
รถตู้กทม.-ชานเมืองเจ๊ง500คัน
Source - เดลินิวส์
Friday, October 14, 2022 03:25
รถไฟฟ้ามาแย่งผู้โดยสาร นายกสมาคมฯเข้าใจโลก
นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารรถตู้สาธารณะ หมวด 1 และ หมวด 4 เส้นทางกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เป็นรถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งหรือคิดเป็น 50% ถ้าเทียบกับช่วงที่ไม่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 62 ที่มีผู้โดยสารใช้บริการ 100% ส่วนใหญ่ยังเป็นวัยทำงาน หนาแน่นช่วงเร่งด่วนเช้า เวลา 06.00-09.00 น. และ เร่งด่วนเย็น 16.00-20.00 น. โดยช่วงเร่งด่วนผู้โดยสารจะใช้บริการเต็มเกือบทุกเที่ยว ในจำนวนรถตู้ 13 ที่นั่งต่อคัน ส่วนนอกเวลาเร่งด่วนจะให้บริการตามความต้องการของผู้โดยสารและใช้บริการอยู่ที่ 4-5 คนต่อคันต่อเที่ยว
นายปัญญา กล่าวต่อว่า จากการให้บริการในขณะนี้ผู้ประกอบการรถตู้มีรายได้อยู่ที่ 1,200-1,500 บาทต่อคันต่อวัน ในจำนวนนี้ยังไม่หักใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งถ้าหักค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเชื้อเพลิง แล้วเหลือประมาณไม่เกิน 500 บาท ถือว่าไม่เพียงพอที่จะนำมาบริหารจัดการเดินรถได้ ทั้งนี้ยังพบว่า รถตู้ที่ให้บริการยังเดินรถทับเส้นทางขนส่งสาธารณะประเภทอื่น ๆ เช่น รถไฟฟ้า โดยสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ยังให้บริการฟรี รวมทั้งยังเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (อีวี) ของเอกชน ซึ่งสดใหม่ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทำให้กลุ่มผู้โดยสารมีทางเลือกและหันไปใช้รถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง และรถเมล์ไฟฟ้ามากกว่าใช้บริการรถตู้ เกิดการแข่งขันสูง และได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง
นายปัญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กลุ่มผู้โดยสารที่หายไป 50% นั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้บริการประจำ โดยเฉพาะกลุ่มทำงาน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ช่วงนี้แม้จะคลี่คลาย แต่ภาครัฐและเอกชนยังสลับวันทำงานให้เข้ามาทำงานที่หน่วยงานและทำงานที่บ้าน (Work From Home) ประกอบกับนักศึกษาเรียนผ่านออนไลน์ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตและเดินทางเปลี่ยนไป เช่น เดิมทีนักศึกษาพักอาศัยอยู่ชานเมือง แต่ปัจจุบันนี้ย้ายมาอยู่ในเมือง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางมากขึ้น ขณะที่อีกส่วนยังสะดวกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวซึ่งมีความปลอดภัย และไม่เสี่ยงต่อการติดโควิด-19 ในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะด้วย
ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและปัจจัยต่าง ๆ เหลือรถตู้ที่เป็นรถร่วม ขสมก. ให้บริการ 1,500 คัน จากเดิมที่มีประมาณ 2,000 กว่าคัน ส่วนที่หายไป 500 กว่าคัน รายได้ไม่พอรายจ่าย ไม่มีกำลังเงินทุนที่จะเดินหน้ากิจการต่อ โดยเฉพาะการส่งค่างวดรถ ต้องปล่อยให้รถโดนยึดจากบริษัทสินเชื่อหรือไฟแนนซ์ต่าง ๆ ถ้าอนาคตสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ผู้ประกอบการรถตู้คงทยอยหายไปเรื่อยๆ.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 14 ต.ค. 2565
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44601
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/10/2022 7:46 am Post subject:
ร้องสายสีน้ำตาลยึดพื้นที่สีเขียว
Source - เดลินิวส์
Friday, October 14, 2022 03:27
สร้างสถานีเกษตรปิดคอนโด ขอความเห็นใจก่อนพึ่งศาลฯ
ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์ ได้รับการร้องเรียนจาก นายอรรฌ นามอรรถ เจ้าของร่วมโครงการคอนโดมิติ ชีวา เกษตร สเตชั่น ว่าได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ช่วงสถานีแยกเกษตร โดยคอนโดฯ ตั้งอยู่ริมถนนประเสริฐมนูกิจ มีจำนวนห้องชุด 200 ยูนิต ผู้อาศัยประมาณ 800 คน เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล กำหนดจุดตั้งสถานีแยกเกษตรลึกเข้ามาในพื้นที่ด้านหน้าคอนโดฯ โดยยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เข้าใจว่าจะกินพื้นที่ลึกประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 20-25 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ตามแนวร่นถนนในการก่อสร้างอาคาร ปัจจุบันใช้ประโยชน์เป็นลานน้ำพุและปลูกต้นไม้ จุดพักผ่อนของผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวตามเกณฑ์การขออนุญาตก่อสร้าง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากทางคอนโดฯ เป็นโครงการขนาดเล็ก มีที่ดินจำกัด หากมีการใช้พื้นที่ดังกล่าวก่อสร้างสถานีฯ ทางคอนโดฯ ไม่สามารถจัดพื้นที่สีเขียวอื่นแทนได้ และตัวสถานีจะปิดด้านหน้าคอนโดฯ ทั้งหมดส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของชุมชนในคอนโดฯ รวมทั้งทัศนวิสัย ทั้งที่บริเวณติดกันเป็นพื้นที่โล่งและสระน้ำของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ หากตั้งสถานีบริเวณดังกล่าวจะเพิ่มระยะการเดินไม่เกิน 100 เมตร ชุมชนคอนโดฯ มีข้อสังเกตว่าเหตุใดบริษัทที่ปรึกษารวมทั้งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จึงไม่เลือกแนวทางที่มีผลกระทบต่อชุมชนน้อยกว่า ทางชุมชนจึงขอความเห็นใจและทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
ล่าสุด สนข. มีหนังสือแจ้งกลับว่า กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ระบุความจำเป็นของสถานีแยกเกษตร (BR07) อยู่หน้าบริเวณที่ดินของโครงการคอนโดฯ เนื่องจากการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวควรมีระยะทางสำหรับการเดินที่ไม่ไกลจากตำแหน่งสถานีแยกเกษตรบริเวณหน้าโครงการ มิติ ชีวา เกษตร สเตชั่น มากนัก โดยระยะทางในการเดินจากสถานีถึงแยกเกษตรและเลี้ยวไปยังสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวประมาณ 350 เมตร ซึ่งเป็นระยะการเดินที่สามารถให้บริการต่อชุมชนบริเวณแยกเกษตรได้ ตำแหน่งสถานีแยกเกษตร (BR07) จึงเป็นตำแหน่งที่เหมาะสม
นายอรรฌ กล่าวต่อว่า จะทำหนังสือร้องเรียนถึง รฟม. และหน่วยงานอื่น ๆ หากยังไม่ได้รับความเห็นใจและความเป็นธรรมในการปรับแบบก่อสร้าง จะพิจารณาแนวทางต่อสู้ทางกฎหมาย โดยอาจยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 14 ต.ค. 2565
Back to top