RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311279
ทั่วไป:13260911
ทั้งหมด:13572190
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - โครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

โครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 23, 24, 25, 26, 27  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44493
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/01/2022 8:22 pm    Post subject: Reply with quote

ภูเก็ตเดินหน้ารถไฟฟ้า แก้ปัญหาจราจรและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรองรับเมืองท่องเที่ยว
เผยแพร่: 21 ม.ค. 2565 18:55 ปรับปรุง: 21 ม.ค. 2565 18:55 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

ศูนย์ข่าวภูเก็ต – มอ.ภูเก็ต ร่วมกับ กฎบัตรไทย จัดเสวนาหัวข้อ “นำเทคโนโลยีและระบบขนส่งมวลชนที่มีความเหมาะสมกับกายภาพพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต” พร้อมเดินหน้ารถไฟฟ้า แก้ปัญหาจราจรและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรองรับเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

วันนี้ (21 ม.ค.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมกับ กฎบัตรไทย และสมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย จัดการเสวนาในข้อหัว นำเทคโนโลยีและระบบขนส่งมวลชนที่มีความเหมาะสมกับกายภาพพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเปิดการประชุม ณ ห้องประชุมเก็ตโฮ่ ชั้น 5 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ทั้งนี้เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและระบบขนส่งมวลชนที่มีความเหมาะสมกับกายภาพพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต

Click on the image for full size

โดยมีการปาฐกถา เรื่อง นโยบายการสนับสนุนให้เกิดระบบขนส่งมวลชนที่เหมาะสมกับลักษณะกายภาพของพื้นที่ โดยดร.พิเชษฐ์ คุณาธรรมรักษ รองอธิบดีกรมกรมขนส่งทางราง และการนำเสนอระบบขนส่งมวลชนระบบรางสำหรับเมืองรอง เพื่อสร้างความเข้าใจพื้นฐานด้านเทคนิคและความเหมาะสมกับพื้นที่ และพื้นฐานการลงทุน ค่าใช้จ่ายในการเดินรถและซ่อมบำรุงระบบ โดย นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) เรื่อง ระบบขนส่งมวลชน ช่วยเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างไร โดย รศ.ดร. ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและ นวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และปิดท้ายด้วยการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง การยกระดับรูปแบบการขนส่งมวลชน จังหวัดภูเก็ต

Click on the image for full size

รองศาสตราจารย์ ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า บพท.มีความพร้อมในการสนับสนุนงบประมาณวิจัยและองค์ความรู้นวัตกรรมสุขภาพเพื่อให้การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่สำคัญได้แก่ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนส่งมวลชนเป็นหัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

ด้านนายก้าน ประชุมพรรณ์ ประธานกรรมการบริษัท อันดามันพัฒนาเมือง จำกัด กล่าวว่าบริษัทในฐานะภาคเอกชนที่สนับสนุนการลงทุนเพื่อการพัฒนาเมืองมีความพร้อม ขณะนี้บริษํทได้ประสานเอกชนเพื่อเสนอรายละเอียดการลงทุนระบบขนส่งมวลชนเชื่อมต่อ โดยเป็นการต่อยอดการศึกษาของ สนข.และ รฟม.นับเป็นการสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจนโครงการหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44493
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/05/2022 9:50 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคม จี้ รฟม. ทบทวนแผนสร้างรถไฟฟ้าภูเก็ต กำชับค่าโดยสารไม่เกิน 40 บาท
ไทยโพสต์ 11 พฤษภาคม 2565 เวลา 9:21 น.

‘คมนาคม’สั่ง รฟม.แผนสร้างรถไฟฟ้าภูเก็ต จี้ รฟม.ศึกษาความเหมาะสมแนวเส้นทางและรูปแบบพัฒนาใหม่ ย้ำต้องไม่ขุดอุโมงค์หรือสร้างทางยกระดับ หวังลดงบลงทุน – ราคาค่าโดยสารไม่เกิน 40 บาท

11 พ.ค. 2565-รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ช่วงสนามบินภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ว่า ขณะนี้กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปศึกษาทบทวนโครงการดังกล่าวใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และปรับลดวงเงินการลงทุนให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้โครงการนี้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ สามารถใช้บริการได้ในราคาที่เหมาะสม เช่น ราคาเริ่มต้น 20 บาท และสูงสุดไม่เกิน 40 บาท

ทั้งนี้เนื่องจากผลการศึกษาของ รฟม.ก่อนหน้านี้ แนวเส้นทางของโครงการจะมีการพัฒนาในส่วนของงานขุดเจาะอุโมงค์ และทางยกระดับ ซึ่งเป็นการลงทุนค่อนข้างสูง ส่งผลให้การคำนวณราคาค่าโดยสารมีราคาแพง ไม่ดึงดูดการใช้งาน โดยเฉพาะหากเทียบกับระบบขนส่งอื่นๆ ในจังหวัดภูเก็ต อาจทำให้โครงการนี้เมื่อเปิดให้บริการแล้ว จะมีเพียงผู้โดยสารกลุ่มนักท่องเที่ยว ในขณะที่ประชาชนในจังหวัดอาจจะไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

“กระทรวงฯ ได้สั่งให้ รฟม.ไปปรับปรุงแผนโครงการใหม่ โดยให้ไปหารือร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) ในความเป็นไปได้ของการปรับใช้พื้นที่ถนนทางหลวงเป็นแนวเส้นทางเดินรถ อาจจะเวนคืนที่ดินไหล่ทางเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เป้าหมายเพื่อปรับไม่ให้โครงการต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างอุโมงค์หรือทางยกระดับที่ต้องใช้งบประมาณเยอะ”แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังเสนอให้ รฟม.ศึกษาแนวทางในการจัดเก็บค่าโดยสาร จากเดิมที่ รฟม.พิจารณาใช้โมเดลค่าโดยสารคล้ายกับรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ที่มีการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง โดยกระทรวงฯ มองว่าโมเดลดังกล่าวอาจไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้โดยสารในจังหวัดภูเก็ต เพราะอาจไม่ได้เดินทางในระยะใกล้ ดังนั้นไม่ควรจัดเก็บค่าโดยสารปรับเพิ่มเป็นอัตราขั้นบันไดจากจำนวนสถานี แต่ให้ศึกษาใช้โมเดลปรับราคาค่าโดยสารแบ่งเป็นโซนพื้นที่ อาทิ การเดินทาง 3 โซน มีค่าโดยสารจัดเก็บ 3 ราคา เป็นต้น

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต โดยมีความชัดเจนว่าจะปรับระบบขนส่งจากเดิมเป็นรถไฟฟ้าล้อเหล็ก ให้เป็นรถไฟฟ้าล้อยาง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการลงทุนลดลง เนื่องจากไม่ต้องทำแนวเส้นทางเดินรถให้เป็นรางเหล็ก จะพัฒนาเพียงการตีแนวเส้นทางเพื่อนำทางเดินรถเท่านั้น

นอกจากนี้ รฟม.ยังอยู่ระหว่างหารือร่วมกับ ทล. เพื่อศึกษาความเหมาะสมของการใช้พื้นที่ถนนทางหลวงในการปรับเพิ่มช่องจราจรเพื่อรองรับการเดินรถไฟฟ้าล้อยาง เพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงฯ ลดการลงทุนส่วนของเส้นทางเดินรถที่เป็นพื้นที่ต่างระดับ และอุโมงค์ เบื้องต้นคาดว่าการหารือร่วมกับ ทล.จะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้ และรายงานไปยังกระทรวงคมนาคม

ขณะเดียวกัน หากแผนพัฒนาโครงการที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้แล้วเสร็จ รฟม.จะต้องเสนอไปยังคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อทบทวนการลงทุนใหม่ รวมทั้งต้องเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) เพื่อปรับรายงานใหม่ หากได้รับการอนุมัติจึงจะเริ่มต้นขั้นตอนประกวดราคาได้ โดยเบื้องต้น รฟม.ประเมินว่าขั้นตอนต่างๆ อาจจะแล้วเสร็จทันปีนี้ เพื่อเริ่มต้นร่างเอกสารประกวดราคา

“ตอนนี้ขั้นตอนเหมือนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เราต้องปรับแบบพัฒนาเพื่อลดต้นทุนและทำราคาค่าโดยสารให้เหมาะสม นอกจากนี้ต้องศึกษาโอกาสของการหารายได้เพิ่มขึ้น จากการพัฒนาจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารตามแนวสถานีต่างๆ ทำให้เป็นคอมเมอร์เชียลพื้นที่เชิงพาณิชย์ ก็เชื่อว่าจะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จให้เร็วที่สุด หากได้รับการอนุมัติ รฟม.ก็พร้อมดำเนินการขั้นตอนประกวดราคา”นายภคพงศ์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 11/05/2022 5:10 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
คมนาคม จี้ รฟม. ทบทวนแผนสร้างรถไฟฟ้าภูเก็ต กำชับค่าโดยสารไม่เกิน 40 บาท
ไทยโพสต์ 11 พฤษภาคม 2565 เวลา 9:21 น.


สถานะ“แทรมภูเก็ต”จากปากผู้ว่ารฟม.ให้นับหนึ่งใหม่
*”คมนาคม” สั่งตัดงบลงทุนอีกต่ำกว่า 2 หมื่นล้าน
*ปรับแบบเป็นART-หั่นค่าตั๋วเริ่ม20บาทไม่เกิน40
* เลิกทางวิ่งอุโมงค์-ลอยฟ้าเจรจาทล.ขอเลนถนน
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/550719786505260


ฝันสะดุด! บอร์ด รฟม.แตะเบรกแทรมป์ภูเก็ตช่วงสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ให้ศึกษาทบทวนใหม่เพื่อความเหมาะสม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:40 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16:40 น.


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ฝันสะดุด! บอร์ด รฟม.แตะเบรกโปรเจกต์แทรมป์ภูเก็ต ช่วงสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ให้ศึกษาทบทวนโครงการใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และปรับลดวงเงินการลงทุนให้ได้มากที่สุด

สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบา หรือแทรมป์ภูเก็ต เป็นโครงการที่มีการผลักดันกันมาอย่างยาวนาน มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเป็นไปได้นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่นับวันเริ่มมีการจราจรติดขึ้นเพราะความเติบโตของเมืองที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการเดินหน้าผลักดันโครงการดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เมื่อทางกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเจ้าภาพในการดำเนินโครงการ

และหลังได้รับมอบหมาย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เข้าหารือจังหวัดภูเก็ต เพื่อเร่งศึกษา PPP ร่วมทุนโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ตามแผนเดิมจะสามารถลงนามสัญญาได้ประมาณกลางปี 2563 และมีแผนจะเริ่มก่อสร้างในปีเดียวกัน โดยใช้เวลาในการก่อสร้าง 3.5 ปี สามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 66 โดยให้ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี แต่หลังจากนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนและตีกลับโครงการมาอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งแต่ล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ ฝันต้องสะดุดอีกครั้ง เมื่อกระทรวงได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปศึกษาทบทวนโครงการดังกล่าวใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และปรับลดวงเงินการลงทุนให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้โครงการนี้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ สามารถใช้บริการได้ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งมีค่าโดยสารเริ่มต้น 20-40 บาท โดยให้ไปหารือร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) ถึงความเป็นไปได้ของการปรับใช้พื้นที่ถนนทางหลวงเป็นแนวเส้นทางเดินรถ อาจจะเวนคืนที่ดินไหล่ทางเพิ่มขึ้นบ้าง โดยเป้าหมายโครงการต้องปรับการใช้งบประมาณในการก่อสร้างอุโมงค์ หรือทางยกระดับลดลง

ที่ผ่านมาจากผลการศึกษาของ รฟม.พบว่าแนวเส้นทางของโครงการมีการพัฒนาในส่วนของงานขุดเจาะอุโมงค์ และทางยกระดับซึ่งเป็นการลงทุนค่อนข้างสูง ส่งผลให้การคำนวณราคาค่าโดยสารมีราคาแพง ไม่ดึงดูดการใช้งาน โดยเฉพาะหากเทียบกับระบบขนส่งอื่นๆ ในจังหวัดภูเก็ต อาจทำให้โครงการนี้เมื่อเปิดให้บริการแล้วจะมีเพียงผู้โดยสารกลุ่มนักท่องเที่ยว ในขณะที่ประชาชนในจังหวัดอาจจะไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

นอกจากนี้ กระทรวงได้เสนอให้ รฟม.ศึกษาแนวทางในการจัดเก็บค่าโดยสาร จากเดิมที่ รฟม.พิจารณาใช้โมเดลค่าโดยสารคล้ายกับรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ที่มีการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ซึ่งมองว่าโมเดลดังกล่าวอาจไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้โดยสารในจังหวัดภูเก็ต เพราะอาจไม่ได้เดินทางในระยะใกล้ ดังนั้นไม่ควรจัดเก็บค่าโดยสารเป็นอัตราขั้นบันไดจากจำนวนสถานี แต่ให้ศึกษาใช้โมเดลปรับราคาค่าโดยสารแบ่งเป็นโซนพื้นที่ เช่น การเดินทาง 3 โซน มีค่าโดยสารจัดเก็บ 3 ราคา เป็นต้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต โดยมีความชัดเจนว่าจะปรับระบบขนส่งจากเดิมเป็นรถไฟฟ้าล้อเหล็ก ให้เป็นรถไฟฟ้าล้อยาง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการลงทุนลดลง เนื่องจากไม่ต้องทำแนวเส้นทางเดินรถให้เป็นรางเหล็ก จะพัฒนาเพียงการตีแนวเส้นทางเพื่อนำทางเดินรถเท่านั้น นอกจากนี้ รฟม.ยังอยู่ระหว่างหารือร่วมกับ ทล. เพื่อศึกษาความเหมาะสมของการใช้พื้นที่ถนนทางหลวงในการปรับเพิ่มช่องจราจรเพื่อรองรับการเดินรถไฟฟ้าล้อยาง เพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวง ลดการลงทุนส่วนของเส้นทางเดินรถที่เป็นพื้นที่ต่างระดับ และอุโมงค์

เบื้องต้นคาดว่าการหารือร่วมกับ ทล.จะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้ และรายงานไปยังกระทรวงคมนาคม หากแผนพัฒนาโครงการที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้แล้วเสร็จ รฟม.จะต้องเสนอไปยังคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อทบทวนการลงทุนใหม่ รวมทั้งต้องเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) เพื่อปรับรายงานใหม่ หากได้รับการอนุมัติจึงจะเริ่มต้นขั้นตอนประกวดราคาได้ เบื้องต้น รฟม.ประเมินว่าขั้นตอนต่างๆ อาจจะแล้วเสร็จทันปีนี้ เพื่อเริ่มต้นร่างเอกสารประกวดราคา

นายภคพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ขั้นตอนเหมือนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เพราะต้องปรับแบบพัฒนาเพื่อลดต้นทุนและทำราคาค่าโดยสารให้เหมาะสม นอกจากนี้ต้องศึกษาโอกาสของการหารายได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารตามแนวสถานีต่างๆ ทำให้เป็นคอมเมอร์เชียลพื้นที่ เชิงพาณิชย์ เชื่อว่าจะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จให้เร็วที่สุด หากได้รับการอนุมัติ รฟม.พร้อมดำเนินการขั้นตอนประกวดราคาต่อไป

สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต รถไฟฟ้ารางเบา หรือแทรมป์ภูเก็ต แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง มีระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี แบ่งเป็นสถานีระดับพื้นดิน 19 สถานี สถานียกระดับ 1 สถานี และสถานีใต้ดิน 1 สถานี และระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ มีระยะทางประมาณ 16.5 กิโลเมตร ซึ่ง รฟม. จะเริ่มดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 เป็นลำดับแรก ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐาน พร้อมรองรับการเดินทางและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในอนาคต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 13/06/2022 4:15 pm    Post subject: Reply with quote

โถๆๆๆ 3 ปีผ่านไปยังไม่เริ่มก่อสร้าง ”แทรมภูเก็ต”
*รฟม.ทำได้แค่ลงพื้นที่ฟังเสียง ART 15-21 มิ.ย.
*คมนาคมเร่งรัดติดตามโครงการ (ผู้ว่าฯกล่าว)
*”ค่าโดยสาร-ขยายถึงท่าฉัตรไชย”มาก่อนกาล
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/572480367662535

รฟม.ลงภูเก็ต 15-21 มิ.ย.ฟังเสียงสร้างระบบ "แทรมป์ หรือ ART"-“ศักดิ์สยาม” สั่งกางต้นทุนและค่าโดยสาร ตัดสินรับไหวหรือไม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 17.32 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 17.32 น.



“ศักดิ์สยาม” สั่งเร่งฟังเสียง "ชาวภูเก็ต" กางต้นทุนและค่าโดยสาร สร้างระบบขนส่งมวลชน เลือก “แทรมป์ หรือ ART” จ่ายไหวแค่ไหน เตรียมลุยเฟส 1 "สนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง" และจ่อขยายเส้นทางถึงท่าฉัตรไชย รฟม.ลงพื้นที่ 15-21 มิ.ย.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ว่า หลังจากที่ได้ให้ข้อมูลแนวทางการพัฒนาและข้อดี ข้อด้อยในรูปแบบการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าที่เหมาะสม ระหว่าง ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อเหล็ก หรือแทรมป์ กับระบบขับเคลื่อนด้วยล้อยาง (ART) ต่อ ผู้แทนภาครัฐและเอกชนจากจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เข้าหารือเนื่องจากระบบขนส่งมวลชน เป็นปัจจัยสนับสนุนประกอบการที่จังหวัดภูเก็ตจะยื่นข้อเสนอเป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 โดยยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่มีการลงทุนที่เหมาะสมและมีอัตราค่าโดยสารที่ประชาชนสามารถยอมรับได้หรือไม่

ทั้งนี้ จากการหารือกับภาครัฐและเอกชนจังหวัดภูเก็ต ได้รับทราบเรื่องต้นทุน และเห็นด้วยกับระบบ ART ล้อยาง เนื่องจากมีข้อดี คือใช้เวลาก่อสร้างเร็ว ค่าลงทุนไม่สูง ใช้พื้นที่ถนนโดยการกั้นช่องจราจร และใช้ระบบเครื่องกั้นในการบริหารความปลอดภัย ขณะที่เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา หรือแทรมป์จะมีค่าก่อสร้างสูง ช่วงตัดกับถนนต้องทำทางยกระดับข้าม ซึ่งมีข้อจำกัดและมีค่าลงทุนสูงและจะมีความคุ้มค่าต่อเมื่อมีปริมาณผู้โดยสารสูงเช่นกัน ขณะที่ต้องกำหนดค่าโดยสารแพง ทำให้มีผู้โดยสารน้อยเพราะจ่ายค่าโดยสารไม่ไหว สุดท้าย โครงการก็ไปไม่รอด ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ภาคเอกชนเข้าใจและยอมรับ

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยนำข้อมูลทั้งหมดชี้แจงอธิบายต่อประชาชนและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (Public Hearing) เรื่องอัตราค่าโดยสารของโครงการ หากประชาชนต้องการระบบแทรมป์ ล้อเหล็ก และยอมรับค่าโดยสารที่สูงได้ ก็ยืนยันมา หรือรับค่าโดยสารแพงไม่ไหว ระบบ ART น่าจะเหมาะสม เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ตนจะลงไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อยืนยันแนวทางเพื่อเริ่มต้นโครงการต่อไป

"หลักการให้ รฟม.ไปรับฟังความเห็นประชาชนชาวภูเก็ตให้ชัดเจน ว่ามีความเห็นเรื่องค่าโดยสารอย่างไร หากต้องการระบบแทรมป์ ก็ต้องยอมรับอัตราค่าโดยสารที่สูงได้หรือไม่ โดยในการแสดงความเห็น ขอให้มีการแสดงตัวตน แสดงบัตรประชาชนด้วย เพื่อจะได้เชื่อมั่นว่าเป็นความเห็นจากคนในพื้นที่มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ระบบ ART เป็นขนส่งมวลชนที่มีความคุ้มค่าและเหมาะสม ซึ่งหากที่จังหวัดภูเก็ตสามารถได้ข้อสรุปและเดินหน้าไปได้ จะให้รฟม.นำไปดำเนินการระบบขนส่งมวลชนตามเมืองใหญ่ในภูมิภาค ที่ รฟม.มีแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชน"

@รฟม.ลงพื้นที่ภูเก็ต 15-21 มิ.ย. ฟังเสียงสะท้อนอัตราค่าโดยสารและขยายไปยังท่าฉัตรไชย

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า รฟม.เตรียมลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตระหว่างวันที่ 15-21 มิถุนายน 2565 เพื่อประชาสัมพันธ์และสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารและการขยายแนวเส้นทางโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ไปยังท่าฉัตรไชย เพื่อรองรับการเดินทางของผู้เข้าร่วมชมงาน Specialised Expo 2028

ทั้งนี้ จากที่กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายเร่งรัดและติดตามการดำเนินงานโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1ฯ อย่างใกล้ชิด โดยมอบหมายให้ รฟม.พิจารณาศึกษาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าให้เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนการก่อสร้าง รวมทั้งได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และนำเสนอรายละเอียดดังกล่าวเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนในจังหวัดภูเก็ต

สำหรับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารของโครงการฯ นั้นจะเป็นแบบอัตราคงที่ (Flat Fare) โดยแบ่งตามเขตพื้นที่ในเมืองและนอกเมือง รวมถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อขยายแนวเส้นทางโครงการฯ ไปยังท่าฉัตรไชย เพื่อรองรับการเดินทางเข้าร่วมชมงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ตอยู่ระหว่างการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอีกด้วย

หลังจากนั้น รฟม.จะนำผลการสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1ฯ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต โดยหากมีการขยายเส้นทางไปยังท่าฉัตรไชยแล้ว รฟม.จะดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก่อนนำเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่มีภูมิลำเนาหรือพำนักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต สามารถร่วมตอบแบบสอบถามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ได้ที่ https://www.mrta.co.th/phuket-form/index.html หรือสแกน QR CODE ได้ตั้งแต่วันนี้-24 มิถุนายน 2565

สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง มีระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี และระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ มีระยะทางประมาณ 16.5 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 3 สถานี ซึ่ง รฟม.จะเริ่มดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 เป็นลำดับแรก

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผลการศึกษาโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กม. เปรียบเทียบกรอบวงเงินลงทุนของ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก (แทรมป์) วงเงินรวม 35,201 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,499 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 24,774 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,514 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 2,921 ล้านบาท (3 คัน/ขบวน มี 22 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 1,065 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 1,428 ล้านบาท คาดจำนวนผู้โดยสารประมาณ 39,000 คนต่อวัน ทำให้ผลตอบแทนการลงทุน EIRR ต่ำมาก

X

2. รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง (แทรมป์) วงเงินรวม 33,600 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,499 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 22,339 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,514 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 3,955 ล้านบาท (3 คัน/ขบวน มี 22 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 990 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 1,363 ล้านบาท

3. รถโดยสารประจำทางอัจฉริยะ (ART) วงเงินรวม 17,754 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,447 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 10,861 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,000 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 1,236 ล้านบาท (มี 44 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 518 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 692 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44493
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/06/2022 7:29 am    Post subject: Reply with quote

จ่ายไหวมั้ย!ค่าตั๋วARTภูเก็ต
Source - เดลินิวส์
Thursday, June 16, 2022 07:24

ในเมือง15-20นอกเมือง50 เพิ่ม2สถานีถึง'ท่าฉัตรไชย'

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า รฟม. ได้รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร (กม.) ทั้งหมด 21 สถานี เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต แต่เนื่องจาก จ.ภูเก็ต อยู่ระหว่างเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 71 ทาง รฟม. จึงศึกษาเส้นทางส่วนต่อขยายโครงการฯเพิ่มเติมไปยังท่าฉัตรไชยเพิ่มอีก 2 สถานี ระยะทาง 16.2 กม. เพิ่มขึ้นเป็นระยะทาง 58.2 กม. 23 สถานี เพื่อรองรับการเดินทางเข้าร่วมชมงาน Specialised Expo 2028

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า รฟม. อยู่ระหว่างจัดทำแบบสอบถามความคิดเห็นต่ออัตราค่าโดยสาร และการขยายเส้นทางไปท่า ฉัตรไชย เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีภูมิลำเนา หรือพำนักอาศัยใน จ.ภูเก็ต โดยมีประเด็นความคิดเห็นที่ รฟม.ประสงค์สอบถาม 2 ประเด็น คือ 1. ความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารของโครงการฯระยะที่ 1 และ 2. ความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อขยายแนวเส้นทางไปยังท่าฉัตรไชย เพื่อรองรับการเดินทางเข้าร่วมงาน Specialised Expo 2028

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า รฟม. ได้กำหนด อัตราค่าโดยสารเป็นแบบอัตราคงที่ (Flat Fare) แบ่งตามเขตพื้นที่ดังนี้ เดินทางพื้นที่นอกเมืองอัตราค่าโดยสารคงที่ 50 บาท ตั้งแต่สถานีขนส่งถึงสถานีท่าฉัตรไชย และเดินทางพื้นที่ในเมือง ตั้งแต่สถานีขนส่งถึงสถานีฉลอง ไม่เกิน 8 สถานี ค่าโดยสารคงที่ 15 บาท และ 9-14 สถานี ค่าโดยสารคงที่ 20 บาท หากใช้บริการตลอด เส้นทาง ทั้งพื้นที่ในเมืองและนอกเมืองคิด อัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 50 บาท

สำหรับ 23 สถานีประกอบด้วย สถานีฉลอง, สถานีโคกโตนด, สถานีป่าหล่าย, สถานีเจ้าฟ้าตะวันออก, สถานีวิชิต, สถานีดาวรุ่ง, สถานีศักดิเดช, สถานีสะพานหิน, สถานีห้องสมุดประชาชน, สถานีบางเหนียว, สถานีหอนาฬิกา, สถานีเมืองเก่า, สถานีทุ่งคา, สถานีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต, สถานีขนส่ง, สถานีเกาะแก้ว, สถานีอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร, สถานีถลาง, สถานีโรงเรียนเมืองถลาง, สถานีเมืองใหม่, สถานี ท่าอากาศยานภูเก็ต, สถานีประตูเมืองภูเก็ต และสถานีท่าฉัตรไชย

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า รฟม. เปิดให้ประชาชนแสดง ความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ https://www.mrta.co.th/phuket-form/index.html ถึงวันที่ 24 มิ.ย. 65 โดยจะนำ ผลการสำรวจความคิดเห็นไปใช้เป็นแนวทางดำเนินโครงการ ให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับความคิดเห็นของประชาชน ใน จ.ภูเก็ต และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการระยะที่ 1 วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ก่อนหน้านี้เป็นรูปแบบแทรม แต่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรมว.คมนาคม มีนโยบายให้ปรับรูปแบบเป็นรถไฟฟ้าล้อยาง (Automated Rapid Transit : ART) เพื่อช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างเหลือประมาณ 2 หมื่นล้านบาท รฟม. อยู่ระหว่างปรับลดวงเงินโครงการตามนโยบายฯ และลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์รวมทั้งสำรวจความคิดเห็นของประชาชนใน จ.ภูเก็ต.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 มิ.ย. 2565 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 17/06/2022 10:40 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
จ่ายไหวมั้ย!ค่าตั๋วARTภูเก็ต
Source - เดลินิวส์
Thursday, June 16, 2022 07:24

ในเมือง15-20นอกเมือง50 เพิ่ม2สถานีถึง'ท่าฉัตรไชย'


ลิงก์มาแล้วครับ
เปิดค่าโดยสาร“ARTภูเก็ต”ตลอดสาย58กม.50บาท
*นั่งเฉพาะในเมืองเก็บ 15-20 บาท/นอกเมือง 50
*ขยายเส้นทางเพิ่ม 2สถานี 16กม.ถึง“ท่าฉัตรไชย”
*รับSpecialised Expo71ฟังความเห็นถึง24 มิ.ย.
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/574799757430596

ไหวมั๊ย! ค่าโดยสาร “ART ภูเก็ต” ตลอดสาย 50 บาท
เศรษฐกิจ-ยานยนต์...
17 มิถุนายน 2565 เวลา 10:02 น.

ไหวไหม! ค่าโดยสาร “ART ภูเก็ต” ตลอดสาย 50 บาท นั่งเฉพาะในเมือง 15-20 บาท ส่วนนอกเมือง 50 บาท เล็งขยายเส้นทางเพิ่มอีก 2 สถานี ถึง “ท่าฉัตรไชย” รองรับงาน Specialised Expo ปี 71 รฟม. เปิดฟังความคิดเห็นชาวภูเก็ตถึง 24 มิ.ย.นี้


https://www.dailynews.co.th/news/1155409/


'ล้อเหล็กหรือล้อยาง?' อัพเดท..รถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต
https://www.youtube.com/watch?v=-ItQnmZNaE0
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44493
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/08/2022 8:16 am    Post subject: Reply with quote

อวดโฉมใหม่แยกท่าเรือภูเก็ต2,365ล้าน
Source - เดลินิวส์
Tuesday, August 02, 2022 04:10

ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร สร้างทางลอดอนุสาวรีย์งามสง่า

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักสำรวจและออกแบบ ได้จัดทำโครงการสำรวจและออกแบบทางแยกต่างระดับสี่แยกท่าเรือ ที่ตั้งอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร จุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 (ทล.402 สายโคกกลอย-เมืองภูเก็ต หรือถนนเทพกระษัตรี) กับ ทล.4027 (สายท่าเรือ-เมืองใหม่) โดยจ้างที่ปรึกษาศึกษาจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เสร็จแล้ว จะเสนอรายงาน EIA ให้หน่วยงานรับผิดชอบพิจารณาเห็นชอบ และเร่งจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 67 เบื้องต้นโครงการใช้งบประมาณค่าก่อสร้าง 2,365 ล้านบาท และเปิดบริการปี 70

ปัจจุบันแยกท่าเรือมีปริมาณการจราจรหนาแน่น และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะเป็นจุดตัดทางหลวงสายหลักใน จ.ภูเก็ต จัดการจราจรในลักษณะวงเวียน ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเดินทาง มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการขยายถนน ทล.จึงได้ออกแบบปรับปรุงทางแยกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการจราจรและลดอุบัติเหตุ รวมทั้งปรับภูมิทัศน์ด้านสถาปัตยกรรมเพื่อให้อนุสาวรีย์คงความสง่าและสวยงาม โดยสำรวจและวิเคราะห์ทางวิศวกรรมอย่างละเอียด รับฟังความคิดเห็น การมีส่วนร่วมประชาชน เพื่อพิจารณาร่วมกับข้อจำกัดด้านเขตทางคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ แหล่งโบราณสถานในพื้นที่และโครงการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เช่น รถไฟฟ้ารางเบาของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มาประกอบการออกแบบ

สรุปรูปแบบทางแยกต่างระดับสี่แยกท่าเรือประกอบด้วย
1.การออกแบบยกระดับลานอนุสาวรีย์ด้านบนให้สูงขึ้นจากระดับถนนประมาณ 0.90 ม. โดยยกฐานองค์อนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อความสง่า สวยงามและเพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้ทางได้ออกแบบทางเดินลอดบริการประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะองค์อนุสาวรีย์ฯ ข้ามไปอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่ มีความจำเป็นต้องเวนคืนพื้นที่ก่อสร้างทางขึ้นลงรวม 1,574 ตร.ม. แบ่งเป็นพื้นที่ หัวมุมห้างโรบินสัน 967 ตร.ม. และพื้นที่หัวมุมห้างขาย ปลีกเครื่องประดับ 607 ตร.ม. โดยมีจุดขึ้นลงทางลอดบริเวณหน้าห้างขายปลีกเครื่องประดับ เซาท์อีสต์ เอเชีย คาเธ่ย์ เจมส์ ภูเก็ต และห้างโรบินสัน

บริเวณอาคารจุดขึ้นลงจะมีบันได ลิฟต์ สำหรับบริการประชาชนทุกวัย และจัดพื้นที่ลานสักการะให้เปิดโล่งบางส่วน และอยู่ระดับเดียวกับหลังคาทางลอด ปรับภูมิทัศน์ด้านบนให้ดูโล่ง ไม่วุ่นวาย สร้างทัศนวิสัยที่ดีแก่ผู้ใช้เส้นทางและทัศนียภาพด้านหน้าบริเวณลานสักการะให้ประชาชนขึ้นไปสักการะที่ระดับลานฐานอนุสาวรีย์ฯ ได้บางส่วน โดยเล่นระดับของผนังกำแพงด้านหน้าอนุสาวรีย์ฯ ไม่ให้ดูทึบตันและให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับองค์อนุสาวรีย์ฯ มากขึ้น

2.พื้นที่ภายในบริเวณอนุสาวรีย์ ประกอบด้วย
1.โถงอเนกประสงค์ (จัดแสดงเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ได้)
2.ลาน สักการะองค์อนุสาวรีย์ฯ (กดลงที่ระดับหลังคาทางลอด)
3.ทางเดินลอด
4.ห้องเครื่องงานระบบไฟฟ้า-เครื่องกล และ
5.ทางออก เช่น บันไดหรือประตูหนีไฟ ทั้งนี้ประชาชนมีทางเลือกจอดรถไว้ที่พิพิธภัณฑ์ถลาง ห้างขายปลีกเครื่องประดับ เซาท์อีสต์ เอเชีย คาเธ่ย์ เจมส์ ภูเก็ต หรือห้างโรบินสันได้

3.ทางลอดรถยนต์ขนาด 3 ช่องจราจรใต้ อนุสาวรีย์ฯ ตามแนว ทล.402 ทิศทางออกนอกเมือง 2 ช่อง ความกว้างช่องจราจรละ 3.25 เมตร และทิศทางเข้าเมือง 1 ช่องกว้าง 4.50 เมตร ส่วนด้านบนอุโมงค์มีทางขนานฝั่งละ 2 ช่อง กว้างช่องจราจรละ 3.00 เมตร มีทางเท้ากว้าง 2.1-2.7 เมตร และคงรูปแบบวงเวียนขนาด 2 ช่องรอบอนุสาวรีย์ พร้อมออกแบบระบบสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยกเพื่อความปลอดภัยเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางให้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น เพิ่มความสง่างามขององค์อนุสาวรีย์แลนด์มาร์คสำคัญรวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต ทั้งนี้สำหรับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการ ประกอบด้วย บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท วี เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท กรุงเทพเอ็นยิเนียริ่งคอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท เอ็นทิค จำกัด.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 2 ส.ค. 2565

https://www.facebook.com/100047017301335/posts/605424767701428
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44493
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/09/2022 8:37 am    Post subject: Reply with quote

ศึกษาเปลืองเงินมาก'รถไฟฟ้าภูธร'
Source - เดลินิวส์
Wednesday, September 21, 2022 07:28
นโยบายรื้อศึกษา-รื้อศึกษา

แทรมภูเก็ตจ้างอีก55ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เผยแพร่ประกาศราคากลางงานจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสมปรับปรุงแบบ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง และส่วนต่อขยายไป ท่าฉัตรไชย พร้อมบันทึกข้อความ รฟม. ขอความเห็นชอบขอจ้างที่ปรึกษาฯ โดยวิธีเฉพาะเจาะลง ซึ่งนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่า รฟม. ได้ลงนามเห็นชอบตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยจะ จ้างที่ปรึกษาวงเงิน 55.8 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินรายได้/เงินที่ รฟม. มีอยู่ ทั้งนี้จะใช้เวลาศึกษา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ระบุในหนังสือแจ้งวันเริ่มงาน (Notice to Proceed :NTP)

รฟม.ระบุสาเหตุที่ต้องศึกษาทบทวนและจ้างศึกษาโดยวิธีเฉพาะเจาะจงว่า ดำเนินงานตามข้อสั่งการของกระทรวงคมนาคม และผลการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งผลให้ข้อกำหนดและขอบเขตงานจ้างปรึกษาฯ เดิมที่ผู้ว่า รฟม. ได้เห็นชอบไว้ไม่ครอบคลุมเนื้อหาและผลดำเนินงานที่ รฟม.ต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามข้อสั่งการและผลการประชุมประกอบกับเพื่อความต่อเนื่องของข้อมูลทางเทคนิคที่ใช้สำหรับศึกษาวิเคราะห์ รฟม. จึงต้องดำเนินการต่อจากงานที่ได้ ทำไว้แล้ว เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค ซึ่งสอดคล้องตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ. 2560 มาตรา 70 (3) (ค) เป็นงานที่จำเป็นต้องให้ที่ปรึกษารายเดิมทำต่อจากงานที่ได้ทำไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กม.วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ก่อนหน้านี้จะดำเนินการในรูปแบบรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) มีแผนเริ่มก่อสร้างปี 63 เปิดบริการปี 67 แต่ต่อมานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมมีนโยบายให้ปรับรูปแบบเป็นรถไฟฟ้าล้อยาง (Automate Rapid Transit : ART) เพื่อช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง และล่าสุดกระทรวงคมนาคมยังมีนโยบายให้ขยาย เส้นทางเพิ่มเติมไปยังท่าฉัตรไชยอีกประมาณ 16.2 กม. เพื่อรองรับการเดินทางเข้าร่วมงาน Specialised Expo 2028 ซึ่งจังหวัดภูเก็ต อยู่ระหว่างเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 71 ด้วย

ส่วนสถานะโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทาง 15.8 กม. และโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว ช่วงตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ ระยะทาง 11.17 กม. ซึ่งมีรูปแบบเดิมเป็น แทรมนั้น รฟม. ได้ให้ที่ปรึกษาศึกษางานระบบเทคโนโลยีรถไฟฟ้า เพิ่มเติม ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 65 ใช้เวลา 5 เดือน ศึกษาแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ต.ค. 65

การศึกษาได้ศึกษาเปรียบเทียบเทคโนโลยีรถไฟฟ้า 3 ระบบที่เป็นไปได้มากที่สุด ได้แก่ 1.รถ ไฟฟ้ารางเบา (Steel Wheel Tram), 2.รถรางชนิดใช้ล้อยาง (Tire Tram) และ 3.รถโดยสารไฟฟ้า เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน (Electric Bus Rapid Transit : E-BRT) โดยศึกษาด้านเทคโนโลยี ศักยภาพ การเดินรถ และวงเงินลงทุนแบบคร่าวๆ เบื้องต้น จ.นครราชสีมา ยังใช้เส้นทางเดิม แต่ จ.เชียงใหม่อาจต้องปรับเปลี่ยนบางส่วน ทั้งนี้ก่อนสรุปผลศึกษาจะประชุมร่วมกับประชาชนในพื้นที่ และจะเลือกระบบที่เหมาะสมที่สุดเสนอ รฟม.ต่อไป ส่วนโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดพิษณุโลก สายสีแดง (มหาวิทยาลัยพิษณุโลก-เซ็นทรัลพลาซ่า) ระยะทาง 12.6 กม. ยังไม่มีความ คืบหน้า.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 ก.ย. 2565 (กรอบบ่าย)

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/638611514382753
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 21/09/2022 11:10 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ศึกษาเปลืองเงินมาก'รถไฟฟ้าภูธร'
Source - เดลินิวส์
Wednesday, September 21, 2022 07:28
นโยบายรื้อศึกษา-รื้อศึกษา

แทรมภูเก็ตจ้างอีก55ล้าน

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 ก.ย. 2565 (กรอบบ่าย)

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/638611514382753


เทงบอีก 55.8 ล้าน! รฟม. จ้างรีวิวรายละเอียดปรับปรุงแบบ “แทรมภูเก็ต”
ศึกษาอีกแล้วววว! “รถไฟฟ้าภูธร” รฟม. เทงบอีก 55.8 ล้าน จ้างที่ปรึกษารีวิวรายละเอียดปรับปรุงแบบ “แทรมภูเก็ต” อีกรอบ ใช้เวลา 6 เดือน ขณะที่ “เชียงใหม่-โคราช” เคาะรูปแบบรถไฟฟ้าสิ้น ต.ค.นี้ ด้าน “พิษณุโลก” ยังเงียบ
21 กันยายน 2565
8:55 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์.. https://www.dailynews.co.th/news/1492381/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 26/09/2022 6:34 pm    Post subject: Reply with quote

“ภูมิใจไทย” ปักธงภูเก็ต ดันท่องเที่ยวยั่งยืน-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มั่นใจ 3 ผู้สมัครพร้อมทำหน้าที่ตัวแทนชาวภูเก็ต
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 07:49 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 07:49 น.

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ภูมิใจไทย” ประกาศปักธงภูเก็ต “ทำจริง เห็นผลได้” พร้อมเดินหน้าดันท่องเที่ยวยั่งยืน พัฒนาโครงสร้าง และดูแลปากท้องชาวบ้าน มั่นใจ 3 ผู้สมัคร พร้อมทำหน้าที่ตัวแทนชาวภูเก็ต



เมื่อวันที่ 25 ก.ย.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธียกเสาโกเต้ง พิธีอัญเชิญดวงไฟ 9 ดวง ณ ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง และเป็นประธานในพิธีเปิดซุ้มประเพณีถือศีลกินผักของเทศบาลเมืองกะทู้ เพื่อเข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก ของจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2565 ณ เทศบาลเมืองกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งประเพณืถือศีลกินผักภูเก็ตปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ก.ย.-4 ต.ค.2565



นายอนุทิน กล่าวภายหลังเป็นประธานยกเสาโกเต้ง และเปิดซุ้มประตูประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต ว่า สิ่งที่เราให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ตคือการควบคุมป้องกันโรคระบาด และเดินหน้าการท่องเที่ยวควบคู่กันไป ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีโครงการนำร่องการท่องเที่ยว “Phuket Sandbox” ทางสาธารณสุขมีมาตรการต่างๆ ในการป้องกัน โควิด-19 เพื่อจะรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามา โดยกระทรวงสาธารณสุขยังให้ความสำคัญในการเดินหน้าฉีดวัคซีนต่อเนื่องครอบคลุมประชากรในภูเก็ต และภูเก็ตเองยังเป็นจังหวัดแรกๆ ที่ได้รับวัคซีน ทั้งนี้ เพื่อจะเป็นการรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งเป็นไปได้ด้วยดี โดยในขณะนี้รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ จนมาถึงปัจจุบันกทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง



นอกจากนี้ ภูเก็ตยังได้โอกาสยกระดับภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลกในโปรเจกต์ใหญ่ด้านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด ด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่รัฐบาลและภาคเอกชนหมายมั่นปั้นมืออย่างมาก สำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ภายใต้ชื่องาน Expo 2028 Phuket, Thailand เพื่อผลักดันบทบาทของประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ในพื้นที่ราชพัสดุ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง และเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก



ซึ่งจะมีความสอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภูเก็ตเพื่อรองรับสิ่งที่กล่าวมา ในโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต รถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต โดยกระทรวงคมนาคม ซึ่งตามกำหนดการเราต้องการให้โครงการรถไฟรางเบาภูเก็ตเปิดใช้ได้ภายในปี 2568 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาเที่ยวภูเก็ตหลังผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 รวมถึงจะมีการจัดงานใหญ่ระดับโลกคือ World Specialised Expo 2028 ที่รัฐบาลเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงานในปี 2571 ซึ่งคาดว่าจะมีคนมาชมงานนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้ในช่วงงานประมาณ 4 หมื่นล้านบาท



อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ลืมในเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต ที่ได้รับผลกระทบยาวต่อเนื่องจากพิษเศรษฐกิจสถานการณ์ โควิด-19 เช่น กลุ่มผู้ประกอบการ SME โรงแรมขนาดเล็กภูเก็ตที่ติดเงื่อนไขข้อกฎหมาย และแหล่งเงินทุน รวมทั้ง ผู้ประกอบการสถานบันเทิงในภูเก็ต โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่างซอยบางลา ป่าตอง ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่ซอยบางลา เพื่อสอบถามความเห็นของผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้รับความเห็นว่า อยากเรียกร้องให้รัฐบาลขยายเวลาการเปิดสถานบันเทิงไปถึงตี 4 พร้อมเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีเพิ่ม เพื่อให้สอดรับบริบทกับแหล่งท่องเที่ยวนานาชาติ อย่างจังหวัดภูเก็ต



นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่าพรรคภูมิใจไทย ภายใต้กระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาเรามีผลงาน คิดจริง และทำได้จริง หากให้โอกาสเราปักธงทั้ง 3 เขต ซึ่งวันนี้ตัวผู้สมัครมีความพร้อมแล้ว จึงอยากให้คนภูเก็ตให้โอกาสเข้ามารับใช้พี่น้องชาวภูเก็ต กลับมาสานงานให้ลุล่วงต่อไป


สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ของภูเก็ตทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายนิพนธ์ เอกวานิช (โก้จ๋าย) เขต 2 นายวิวัฒน์ จินดาพล (ส.จ.ต้อม) และเขต 3 นายวงศกร ชนะกิจ (แบงค์)
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 23, 24, 25, 26, 27  Next
Page 24 of 27

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©