RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263836
ทั้งหมด:13575119
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - แผนปฏิบัติการด้านคมนาคม พ.ศ.2566-2570
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

แผนปฏิบัติการด้านคมนาคม พ.ศ.2566-2570
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 9, 10, 11  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 19/09/2022 1:47 am    Post subject: Reply with quote

ConsBuild ASIA 2022 งานแสดงสินค้า และเทคโนโลยีด้านก่อสร้างอาคาร และเหมืองแร่ ล่าสุด!!!
จัดที่ Bitec บางนา 29-30 พฤศจิกายน 65 พร้อมรับผู้ออกงานรายใหม่…
วันนี้เอางานด้านการก่อสร้าง มาประชาสัมพันธ์กับเพื่อนๆ อีกงานคือ ConsBuild ASIA 2022 ซึ่งเราเป็น Media Partner ของงาน
โดยในงานได้รวบรวมเทคโนโลยีด้านการก่อสร้างมาไว้ในงานได้แก่ Site งานก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง, เทคโนโลยีเหมืองแร่, ผู้ให้บริการด้านการก่อสร้าง และการบริหารงานก่อสร้าง
โดยงานจัดที่ Bitec บางนา วันที่ 29-30 พฤศจิกายน 65 นี้!!!
—————————
สำหรับผู้ต้องการร่วมออกงานแสดงสินค้า
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊ก 👉https://forms.office.com/r/jE6af861Qh
ผู้จัดงาน: บริษัท เอ็มบี โกลบอล มาร์เก็ตติ้งส์ จำกัด
📣WhatsApp: +66949968312
☎️เบอร์มือถือ: 094-996-8312
📧อีเมล์: info@mbmarketings.com
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1513565219081952
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 19/09/2022 1:50 am    Post subject: Reply with quote

ประชุมรับฟังความคิดเห็น MR-Map ล่าสุด!!!
พร้อม ตัด-ปรับ-แก้ เส้นทาง ใครอยากเสนอ-แก้ไข โอกาสมาแล้ว!!! 16 กันยายน - 27 ตุลาคม 65 นี้ ทั่วประเทศ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น…
วันนี้เอาข่าวของการพัฒนาแผนแม่บท มอเตอร์เวย์+ทางรถไฟ หรือ MR-Map มาฝากเพื่อนๆกันครับ หลังจากที่เราพูดถึงในหลายๆรอบ
ใครยังไม่ได้อ่านรายละเอียดเก่า ดูได้ตามลิ้งค์นี้ครับ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1347647579007051&id=491766874595130
ซึ่งแผน MR-Map เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของ พี่โอ๋แซ่รื้อ เค้าแหละ!!!
รายละเอียด การประชุมรับฟังความคิดเห็น ดังนี้
https://drive.google.com/drive/folders/1czD7OYpV9fJpo1wlK0pgda3p3kFBTZA5
—————————
โดยล่าสุด จะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นในแนวเส้นทาง ล่าสุดที่ได้ผ่านการศึกษา (ที่มีแนวเส้นทางดีกว่า และดูเป็นไปได้จริงกว่า Concept แรกมากๆ)
ซึ่งจะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็น เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ช่วงวันที่ 16-27 กันยายน 2565 นี้ โดยแบ่งไปตามภูมิภาคย่อย ได้แก่
- กลุ่มที่ 1 พื้นที่ภาคกลางตอนล่าง
วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 เวลา 09.00-1200 น.
ณ ห้องสามอ่าวแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมประจวบแกรนด์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- กลุ่มที่ 2 พื้นที่ภาคเหนือตอนบน
วันอังคารที่ 20 กันยายน 2565 เวลา 09.00-12.00 น.
ณ ห้องดอยสุเทพ ชั้น 1 โรงเรมแคนทารี ฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่
- กลุ่มที่ 3 พื้นที่ภาคตะวันออก
วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 เวลา 09.00-12.00 น.
ณ ห้อง Grand Ballroom ชั้น 7 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีท ระยะอง ซิตี้เซ็นเตอร์ จังหวัดระยอง
- กลุ่มที่ 4 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2
วันพุธที่ 5 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00-12.00 น.
ณ ห้องประดับดาว โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น จังหวัดร้อยเอ็ด
- กลุ่มที่ 5 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1
วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00-12.00 น.
ณ ห้องประชุม 1-3 ชั้น 2 อวานี ขอนแก่น โอเทล แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดข่อนแก่น
- กลุ่มที่ 6 พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00-12.00 น.
ณ ห้องวังธารา โรงแรมดิ อิมพิเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ พิษณุโลก
- กลุ่มที่ 7 พื้นที่ถาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน
วันพุธที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00-1200 น.
ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรม 42ซี เดอะชิค โฮเทล จังหวัดนครสวรรค์
- กลุ่มที่ 8 พื้นที่ภาคใต้
วันพฤหสบดีที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00-12.00 น.
ณ ห้อง S.Hall โรงแรม เอส.22 จังหวัดสุราษฏร์ธานี
- กลุ่มที่ 9 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมาณฑล
วันพฤหสบดีที่ 27 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00-12.00 น.
ณ Suanluang 1-3 ชั้น 1 โรงแรมโนเวเทล กรุงเทพ บางนา จังหวัดสมุทรปราการ
—————————
ซึ่งเบื้องต้นแผนแม่บทจะมีการปรับแก้ไข ให้สอดคล้องกับบริบทมากยิ่งขึ้น เช่น
MR5 จากเดิมตามร่างแผน จะเริ่มจาก ด่านเจดีย์ 3 - อุบลราชธานี แต่ตามแผนใหม่จะตัดให้เป็น นครสวรรค์ - อุบลราชธานี แทน
เพื่อความเหมาะสมในการพัฒนาที่เป็นไปได้จริง
แต่!!! ที่สำคัญกว่านั้น อยากให้ประชาชนในจังหวัดที่ผ่าน รวมถึงคนที่มีโอกาสจะโดนเวนคืน ควรจะเข้าร่วมประชุมครับ!!!
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1512872422484565
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 28/09/2022 7:06 pm    Post subject: Reply with quote

”ศักดิ์สยาม” หารือผู้แทนไจก้าชุดใหม่ เดินหน้าศึกษา M-MAP2 พัฒนาบางซื่อเป็น Smart City และ TOD เต็มรูปแบบ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 17:20 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 17:20 น.



ผู้แทนไจก้าพบ "ศักดิ์สยาม" แนะนำผู้บริหารใหม่ ยืนยันสานต่อความร่วมมือทางวิชาการ ศึกษา M-MAP2 โครงการความปลอดภัยทางถนน พร้อมหารือแนวทางการพัฒนาพื้นที่บางซื่อในระยะถัดไป และแนวทาง PPP ดันเป็นต้นแบบ Smart City และพัฒนา TOD เต็มรูปแบบ

วันที่ 26 ก.ย. 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ นายทากาฮิโระ โมริตะ หัวหน้าผู้แทนสำนักงานไจก้าประเทศไทย (Mr. MORITA Takahiro, Chief Representative, JICA Thailand) เข้าพบในโอกาสพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ และแนะนำ Chief Representative คนใหม่ Mr. SUZUK Kazuya และได้หารือความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง JICA กับกระทรวงคมนาคม โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และนายประภัทรเผ่า อาวะกุล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมหารือ ณ กระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ Mr. MORITA ได้อำลารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในโอกาสพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ และได้แนะนำ Chief Representative คนใหม่ Mr. SUZUKI Kazuya พร้อมนี้ได้รายงานถึงความคืบหน้าโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง JICA กับกระทรวงคมนาคม เช่น โครงการ M-MAP2 (โครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล) ที่ได้ร่วมศึกษากับกรมการขนส่งทางราง และสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) โครงการความปลอดภัยทางถนน โดยสนับสนุนการบริหารจัดการและโครงสร้างการดำเนินงานให้กับศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม (TSOC) หน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่ของกระทรวงคมนาคม และโครงการพัฒนาสมรรถนะการบริหารงานโครงการอุโมงค์ในประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคนิควิศวกรรมร่วมกับกรมทางหลวง เป็นต้น

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางการพัฒนาพื้นที่โครงการบางซื่อในระยะถัดไป ทั้งการกำหนดขอบเขตสำหรับให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนแบบ PPP และการจัดตั้ง Smart Service Company (SSC) เพื่อรองรับพันธกิจการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะและการหมุนเวียนการใช้พลังงานในพื้นที่โครงการฯ เพื่อให้โครงการบางซื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนา Smart City และ Transit-oriented development (TOD) เต็มรูปแบบของประเทศไทย พร้อมกันนี้ ทางกระทรวงคมนาคมได้นำเสนอถึงแนวคิดการพัฒนาเชิงธุรกิจของโครงการ Land bridge ชุมพร-ระนอง ซึ่งจะเป็นโครงการสำคัญที่ช่วยพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของภูมิภาค และเป็นโครงการที่สนับสนุนแนวคิดในการพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 06/10/2022 1:56 pm    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” เตรียมชงบิ๊กโปรเจกต์เข้า ครม.โค้งสุดท้าย ต่อขยายโทลล์เวย์-ทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย และสายสีแดง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15:04 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15:04 น.



“ศักดิ์สยาม” เตรียมดันบิ๊กโปรเจกต์ ชง ครม.โค้งสุดท้ายรัฐบาล เร่งสรุปปรับแบบมอเตอร์เวย์ "บางปะอิน" 16 ตอน, ชง PPP ต่อขยายโทลล์เวย์ 2.87 หมื่นล้าน รถไฟทางคู่ "ขอนแก่น-หนองคาย" และสายสีแดงต่อขยาย 3 เส้นทาง มั่นใจงานไม่สะดุด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นโยบายในการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นรัฐบาล ซึ่งหลายเรื่องต้องใช้เวลา และมีหลายโครงการสามารถแปรไปสู่การปฏิบัติแล้ว เช่น รถขนส่งโดยสารที่ใช้พลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (รถโดยสาร EV) ซึ่งได้เปิดให้บริการนำร่องในส่วนของผู้ประกอบการเอกชนแล้ว โดยภายในปีนี้จะมีรถให้บริการรวม 1,250 คัน

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายก่อนรัฐบาลจะครบวาระนั้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคมมีงานหลายโครงการที่ต้องการผลักดัน เช่น การแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา หรือมอเตอร์เวย์ (M6) ระยะทาง 196 กม. ในกรอบวงเงิน 84,600 ล้านบาท ที่มีการปรับแบบและปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้าง จำนวน 16 ตอน คาดว่าจะเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้ โดยอาจจะทำให้การเปิดให้บริการเต็มรูปแบบล่าช้าไปประมาณครึ่งปี หรือเดิมจะแล้วเสร็จปี 2566 ไปเป็นประมาณกลางปี 2567



นอกจากนี้ กรมทางหลวง (ทล.) ยังมีโครงการส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) (M5) ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. มูลค่าโครงการ 28,700 ล้านบาท ซึ่งจะแก้ปัญหาจราจรและเชื่อมโยงกับโครงข่ายมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-ปากเกร็ด (M6) โดยจะเป็นการร่วมลงทุนเอกชน อยู่ระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติโครงการ

และโครงการสะพานเศรษฐกิจ หรือแลนด์บริดจ์ (ชุมพร-ระนอง) ซึ่งจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคใต้เชื่อมโยงสองฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน

ส่วนระบบรางจะมีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. มูลค่าโครงการ 29,748 ล้านบาทโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร มี 6 สถานี วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท

สายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร วงเงิน 4,694.36 ล้านบาท และสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร มี 6 สถานี วงเงิน 6,468.69 ล้านบาท ที่ศึกษาเสร็จเรียบร้อย พร้อมเสนอขออนุมัติ

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า การผลักดันโครงการต่างๆ จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการหยุดชะงัก แม้ว่ารัฐบาลจะครบวาระ 4 ปี เนื่องจากจะมีช่วงที่รัฐบาลยังคงทำหน้าที่รักษาการในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
https://www.youtube.com/watch?v=QDAYtoofNGU
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/10/2022 6:43 am    Post subject: Reply with quote

“อนุทิน-ศักดิ์สยาม” เยือนลาว หารือเชื่อมทางรถไฟ หนองคาย-เวียงจันทน์ ดันเศรษฐกิจพุ่ง !เจ๊รวยของคนอํานาจ
Oct 6, 2022

“อนุทิน -ศักดิ์สยาม” เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ร่วมการประชุมหารือ เกี่ยวกับ “โครงการเชื่อมต่อรถไฟ ช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์” ณ สปป.ลาว เพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2565


https://www.youtube.com/watch?v=2kLYjoPcw60
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/10/2022 12:54 pm    Post subject: Reply with quote

อนุทิน–ศักดิ์สยาม นำทีมลงพื้นที่ สปป ลาว ถกรถไฟเชื่อมขนส่ง 2 ประเทศ คุยถึงแก่น 7 ต.ค.65 #nbt2hd
NBT 2HD
Oct 7, 2022


https://www.youtube.com/watch?v=LjCCrHknsLk
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/11/2022 8:06 am    Post subject: Reply with quote

JICA สนใจเพิ่มลงทุนในไทย ทั้งระบบรางและโครงสร้างพื้นฐาน
แนวหน้า วันพุธ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำคณะเข้าร่วมการศึกษาดูงานด้านหลักประกันสุขภาพของญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศ์เกษม ไข่มุก รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ภกญ.วลัยพร พัชรนฤมล ผู้อํานวยการกองการต่างประเทศ สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน พร้อมคณะ ได้พบหารือกับนาย Akihiko Tanaka ประธาน องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และคณะผู้บริหาร ณ สำนักงานใหญ่ JICA กรุงโตเกียว และได้ใช้โอกาสนี้ในการพบปะผู้นำองค์กรต่างๆ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยและญี่ปุ่นให้มีความใกล้ชิดและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณ JICA สำหรับความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขของไทยในหลายโครงการมาโดยตลอด โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีองค์ความรู้เป็นที่ยอมรับระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีความร่วมมือระหว่างกันและญี่ปุ่นก็แบ่งปันองค์ความรู้ต่างๆ แก่ประเทศไทย อาทิ การดูแลผู้สูงอายุ การพัฒนาด้านสุขภาพโลกหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การจัดการด้านสาธารณสุขเมื่อเกิดภัยพิบัติ และ JICA ยังให้การสนับสนุนโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในประเทศไทยหลายโครงการ

นอกจากนี้ นายอนุทิน ให้ข้อมูล JICA ถึงการขับเคลื่อนโครงการลงทุนที่สำคัญในประเทศไทยในขณะนี้ ทั้งในส่วนของโครงการพัฒนาการขนส่งทางราง และโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน (Southern Land Bridge) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมทะเลอ่าวไทยกับอันดามัน สร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ในระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) และรองนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ JICA และนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาร่วมสนับสนุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะระบบรางที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ

ทางด้านประธาน JICA ระบุว่า ทางญี่ปุ่นมีความสนไทยประเทศไทยมิติต่างๆ และที่ผ่านมาก็ได้มีความร่วมมือกันหลายด้านทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจการลงทุน โดยโครงการล่าสุดที่ JICA ได้ร่วมสนับสนุนและได้เปิดดำเนินการแล้วคือโครงการรถไฟสายสีแดง ซึ่ง JICA ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสะดวกสบายและลดปัญหาจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ประเด็นที่ JICA สนใจให้ความสำคัญในประเทศไทยในระยะต่อไปคือการพัฒนาเรื่องคน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ โดยปัจจุบัน JICA มีโครงการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ในไทยหลายโครงการด้วยกัน เช่น การร่วมกับสถาบันการศึกษาในไทยตั้งสถาบันโคเซ็น เพื่อพัฒนาวิศวกร นักปฏิบัตินักเทคโนโลยี และนวัตกร ที่มีทักษะความเชี่ยวชาญสูงเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงโครงการ JICA Share ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/11/2022 1:56 pm    Post subject: Reply with quote

เปิด 10 เมกะโปรเจกต์ ปี 66 รัฐลงทุน 8.3 หมื่นล้าน
โพสต์ทูเดย์ 26 พฤศจิกายน 2565

เปิด 10 เมกะโปรเจกต์ รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินลงทุน ทะลุ 8.3 หมื่นล้าน เน้นด้านพลังงาน - ระบบขนส่ง เชื่อเป็นการรักษาแรงขับเคลื่อนจากการลงทุน นับเป็นปัจจัยสำคัญให้เศรษฐกิจในปี 2566 ขยายตัว
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รวมทั้งสิ้น 3.185 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้า 27 %

โดยแบ่งเป็นงบรายจ่ายประจำ 2,520,329.1 ล้านบาท ลดลง 0.6% จากปีก่อน และวงเงินรายจ่ายลงทุน 664,670.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% จากปีก่อน

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณางบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2566 พบว่า มีวงเงินงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจรวมทั้งสิ้น 443,351 ล้านบาท

แบ่งเป็นงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง วงเงิน 226,247 ล้านบาท และงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประเภทบริษัทมหาชนจำกัด และบริษัทในเครือ 5 แห่ง วงเงิน 217,077 ล้านบาท

เมื่อจำแนกตามสาขาการลงทุน พบว่ามีสัดส่วนงบลงทุนในสาขาพลังงาน 61% สาขาขนส่ง 24.5% ลาขาสาธารณูปการ 6% และสาขาอื่นๆ 8.5% ในปี 2566 คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในโครงการสำคัญ จำนวน 65 โครงการ วงเงินรวม 141,063.37 ล้านบาท คิดเป็น 31.8% ของวงเงินงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ

ทั้งนี้ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายสูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2566 ได้แก่ การลงทุนในสาขาขนส่ง มี 5 โครงการ สาขาพลังงาน สาขาพาพาณิชย์และสาขาบริการ มี 1 โครงการ ส่วนสาขาสาธารณูปการ มี 1 โครงการ โดยรวมคาดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบลงทุน 83,945.12 ล้านบาท คิดเป็น 59.5% ของประมาณการเบิกจายงบลงทุนโครงการสำคัญรวมจำนวน 65 โครงการ

ดังนั้นเพื่อให้การลงทุนภาครัฐสามารถขยายตัวและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2566 และระยะต่อไป จึงควรให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการลงทุนที่ผูกพันสัญญาไว้แล้ว และเร่งดำเนินการโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายลงทุนแล้วให้เป็นไปตามเป้าหมายโดยเร็ว



สำหรับโครงการลงทุนสำคัญ 10 อันดับแรกในปี 2566 มีรายละเอียดดังนี้

1.โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) วงเงิน 1432,890 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 18,138.21 ล้านบาท

2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 91,974 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 10,646.56 ล้านบาท


3.โครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2 วงเงิน 28,585.93 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 10,552.04 ล้านบาท

4.โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก วงเงิน 20,767.34 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 8,608.31ล้านบาท

5.โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร – นครพนม วงเงิน 61,273.31 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน7,498.62 ล้านบาท

6.โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พื้นที่โซน C วงเงินลงทุนรวม 17,343.86 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 6,129.02 ล้านบาท

7.แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าฉบับที่ 12 ปี 2560 – 2564 วงเงินลงทุนรวม 15493.84 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 5,863.73 ล้านบาท

8.โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย - เชียงราย – เชียงของ วงเงินลงทุนรวม 76,368.66 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 5,752.88 ล้านบาท

9.โครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักครั้งที่ 9 วงเงิน 28,142.5 ล้าานบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 54,559.68 ล้านบาท

10.โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8 – 9 วงเงินลงทุนรวม 42,557.14ล้านบาท คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายการลงทุน 5,296.06 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 09/12/2022 2:35 am    Post subject: Reply with quote

ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี - PMOC
10h
·
แผนการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟไทยทั่วประเทศ และแผนการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟความเร็วสูง 5 ชาติ ไทย-ลาว-มาเลเซีย-สิงคโปร์-จีน เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด เส้นทางรถไฟสายแพน-เอเชีย (Pan-Asian Railway Network) ของสหประชาชาติ
รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมการขนส่งช่วง พ.ศ. 2558 – 2565 ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 และเริ่มการก่อสร้างก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเฟสที่ 1 กรุงเทพ-หนองคาย ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560
25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขอหารือกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างไทยและมาเลเซีย ซึ่งในการนี้ พลเอกประยุทธ์ เสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูงระหว่าง 5 ประเทศ ไทย-ลาว-มาเลเซีย-สิงคโปร์-จีน ซึ่งนายกมาเลเซียตอบรับด้วยความยินดี
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/467766622204208

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
- โครงข่ายรถไฟสายทรานส์-เอเชีย https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/403408025306735
- โครงข่ายทางรถไฟสายแพน-เอเชีย (Pan-Asian Railway Network) https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/404740001840204
- สถานะความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/406034818377389
อ้างอิง
- กระทรวงคมนาคม, “ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 1”, https://complain.mot.go.th/gis_group/pao/doc/1stMeeting.pdf
- กรมการขนส่งทางบก, “ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)”, https://web.dlt.go.th/.../atta.../2565/07/08/.-20-_-..62.pdf
- MGR Online, “ไทย-มาเลเซีย ดันตั้งคณะทำงานผุดแผนแม่บท ไฮสปีด เชื่อม 5 ประเทศ จีน-สิงคโปร์ เล็งฟื้นเดินรถ สุไหงโก-ลก - รันเตาปันยัง”, https://mgronline.com/business/detail/9650000078723
- เดลินิวส์, “รถไฟไทยในฝันเชื่อม4ประเทศ ลาว-จีน(คุนหมิง)-มาเลย์-สิงคโปร์”, https://www.dailynews.co.th/articles/1562449/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2022 8:46 pm    Post subject: Reply with quote

"คมนาคม"จับมือ 5 บริษัทฝรั่งเศส MOU ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ดันไทยฮับอาเซียน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 13:03 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 13:03 น.


"คมนาคม"จับมือกลุ่มธุรกิจระบบรางฝรั่งเศสแถวหน้า 5 บริษัท ลงนาม MOU ผนึกกำลังร่วมพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ H.E. Mr.Thierry Mathou เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยานร่วม ในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ “ผนึกกำลังพันธมิตรพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางของภูมิภาค” ระหว่าง สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) และกลุ่มธุรกิจระบบรางฝรั่งเศส โดยการสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส และมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมพิธี ในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ให้เป็นกรอบทิศทางการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้เดินหน้าไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ควบคู่กับแผนยุทธศาสตร์ กระทรวงคมนาคม โดยบูรณาการแผนงาน โครงการต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพบริการเทียบเท่ามาตรฐานสากล เชื่อมโยงการเดินทางขนส่งสินค้าจากตะวันตกถึงตะวันออก และเหนือสู่ใต้ รองรับการเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผลิตและพัฒนาบุคลากร ตลอดจนส่งเสริมการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม ครอบคลุมทุกมิติ จึงได้จัดตั้ง สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ขึ้น เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม พร้อมรับรองมาตรฐาน ระบบการทดสอบ และประเมินคุณภาพระบบราง รวมถึงเป็นศูนย์กลางด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบรางของภูมิภาค ตลอดจนพัฒนาบุคลากร และจัดทำฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีระบบราง โดยเริ่มต้นจากการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือปฏิญญาไทย - ฝรั่งเศส ว่าด้วยความร่วมมือในสาขาคมนาคมขนส่ง โดยได้ลงนามปฏิญญาแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือในสาขาคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564



สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือการผนึกกำลังพัฒนาศักยภาพบุคลากร เทคโนโลยี และนวัตกรรม ระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) และกลุ่มอุตสาหกรรมระบบรางจากประเทศฝรั่งเศส 5 บริษัท ประกอบด้วย

1. บริษัท อีจีส เรล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และมีระบบการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงาน

2. บริษัท อัลสตอม ผู้นำด้านการคมนาคมขนส่ง ด้วยระบบเทคโนโลยีอันทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

3. บริษัท วอสส์โลห์ โคจิเฟอร์ เอส.เอ ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบราง ทั้งส่วนประกอบหลัก การปรับแต่งโมดูล และการดูแลรักษา

4. บริษัท ซิสตร้า เอ็ม วี เอ (ไทยแลนด์) จำกัด กลุ่มวิศวกรรมและที่ปรึกษา ซึ่งเชี่ยวชาญทางด้านคมนาคมและการขนส่งระดับโลก ครอบคลุมงานก่อสร้าง ระบบอาณัติสัญญาณโทรคมนาคม การออกแบบสถานี และระบบตั๋วโดยสาร

5. บริษัท โพมา เอสเอเอส ผู้เชี่ยวชาญการผลิตกระเช้าลอยฟ้า และให้บริการระบบขนส่งทั้งในเมือง พื้นที่ในหุบเขา พื้นที่ท่องเที่ยว และระบบการขนส่งในโรงงาน



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า ความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดการทำงานร่วมกันที่เป็นรูปธรรมในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ 1. การสร้างสถาบันพัฒนาบุคลากรระบบราง หรือ Rail Academy ที่เป็นกลไกการพัฒนาบุคลากรระบบราง ทั้งระดับช่างเทคนิคทักษะสูง และระดับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ โดยร่วมกับสถาบันและหน่วยงานเครือข่าย เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง

2.การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนฝรั่งเศสและภาคเอกชนของไทยเพื่อสร้างอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนระบบรางภายในประเทศ หรือ Local Content ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Thai First ของ กระทรวงคมนาคม โดยไม่เพียงแค่ผลิตได้ แต่คาดหวังให้เกิดผู้ประกอบการไทยที่มีความเข้มแข็ง และสามารถแข่งขันในเวทีโลก

3. การวิจัยและพัฒนาร่วมกันและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบรางขั้นแนวหน้าระหว่างกลุ่มธุรกิจระบบรางชั้นนำของฝรั่งเศสและเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมของภูมิภาค ซึ่ง กระทรวงคมนาคม เชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะเปิดโอกาสให้ได้แบ่งปันความรู้และเทคโนโลยีที่สามารถสร้างนวัตกรรม ขีดความสามารถ โอกาสทางธุรกิจ และความร่วมมือ ที่เป็นคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยและฝรั่งเศส รวมไปถึงการร่วมพัฒนาระบบขนส่งทางรางในระดับอาเซียน ภูมิภาค และนานาชาติไปด้วยกัน

การผนึกกำลังครั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล ที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศ ให้ก้าวไกลบนเวทีโลกได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
https://www.youtube.com/watch?v=RliNkXqBS18


Last edited by Wisarut on 16/12/2022 12:46 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 9, 10, 11  Next
Page 2 of 11

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©