View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 28/09/2022 2:06 am Post subject: |
|
|
กระผมอาจารย์ตะวัน ผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาหลักสูตรช่างเทคนิคระบบขนส่งทางราง
: ขอนำเสนอ : มหาวิทยาลัยนราธิวาสขยับขึ้นอีกขั้นนึงแล้วนะครับ โดยมีห้องโดยสารจำลองเสหมือนจริง รถไฟความเร็วสูงโดยอ้างอิงจากรถไฟความเร็วสูงCRHของประเทศจีน ประกอบไปด้วยชุดถอดประกอบซ่อมบำรุงเบาะเก้าอี้ ชุดฝึกขนาด1:1 และห้องน้ำ ระบบชักโครกแบบVacuummของจริง
https://www.facebook.com/required.tng/posts/5193138897457747 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/09/2022 8:35 am Post subject: |
|
|
ขร.เร่งเครื่อง รถไฟไทย-จีน คืบหน้า15%
Source - ไทยโพสต์
Thursday, September 29, 2022 05:39
ไทยโพสต์ * กรมรางฯ เร่งงาน ก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เฟส 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา คืบ หน้า 15% ปักหมุดเปิดให้บริการภายในปี 69 เล็งเสนอ ครม.พิจารณา EIA เฟส 2 ช่วงนคร ราชสีมา-หนองคาย ภายในปีนี้
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการ ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการ พัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพ มหานคร-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะ ทาง 253 กิโลเมตร (กม.)
ทั้งนี้ แบ่งสัญญางานโยธาออกเป็นทั้งหมด 14 สัญญา ก่อ สร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 9 สัญญา เตรียมการก่อสร้าง 1 สัญญา และอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง 3 สัญญา เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราช กฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะ เวนคืนแล้ว ปัจจุบันความก้าว หน้าโดยรวม 15% คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2569
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. มีสถานีทั้งหมด 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย ปัจจุบันได้ออก แบบงานโยธาแล้วเสร็จ โดยอยู่ระหว่างจัดทำรายงานผลกระทบด้าน สิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในปี 2565 และจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2572.
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 29 ก.ย. 2565 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/09/2022 8:37 am Post subject: |
|
|
แก้สัญญาร่วมทุนไฮสปีดยังไม่จบ คาดเลื่อนแผนตอกเข็มไปต้นปีหน้า
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Thursday, September 29, 2022 05:27
แก้สัญญาร่วมทุนไฮสปีดยังไม่จบ คาดเลื่อนแผนตอกเข็มไปต้นปีหน้า
ผู้จัดการรายวัน360 - แก้สัญญาร่วมทุน "รถไฟ 3 สนามบิน" ยังรอคณะทำงานฯ กบอ. พิจารณาประเด็นการเงิน ทั้งผ่อนจ่ายค่าแอร์พอร์ตลิงก์และรัฐจ่ายคืน ค่าร่วมทุนเร็วขึ้น คาดประชุมนัดแรกใน ต.ค.นี้ ส่งผลให้ต้องขยับแผนเลื่อน ออก NTP จาก ต.ค. 65 ไปเป็นต้นปี 66 แม้ ครม.จะไฟเขียวมหาดไทยแก้ระเบียบ เคลียร์ปมลำรางสาธารณะแล้ว
ผู้จัดการรายวัน360 - แก้สัญญาร่วมทุน "รถไฟ 3 สนามบิน" ยังรอคณะทำงานฯ กบอ. พิจารณาประเด็นการเงิน ทั้งผ่อนจ่ายค่าแอร์พอร์ตลิงก์และรัฐจ่ายคืนค่าร่วมทุนเร็วขึ้น คาดประชุมนัดแรกใน ต.ค.นี้ ส่งผลให้ต้องขยับแผน เลื่อนออก NTP จาก ต.ค. 65 ไปเป็นต้นปี 66 แม้ครม.จะไฟเขียวมหาดไทยแก้ระเบียบ เคลียร์ปมลำรางสาธารณะแล้ว
รายงานข่าวเปิดเผยถึงความคืบหน้าแก้ปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท ว่า หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 27 ก.ย. 2565 มีมติเห็นชอบเรื่องการแก้ไขปัญหาส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินบริเวณพื้นที่โรงงานมักกะสัน โดยให้กรมที่ดิน และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการแก้ไข ทบทวน หรือปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน สามารถดำเนินการขออนุญาตการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และขออนุญาตก่อสร้างได้
ซึ่งปัจจุบันสำนักงานคณะกรรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้ดำเนินการยื่นขอเพิกถอนลำรางสาธารณะดังกล่าวแล้ว
สำหรับปัญหาลำรางสาธารณะบริเวณมักกะสัน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไม่สามารถ ส่งมอบพื้นที่และให้บริษัท เอเชีย เอราวัณ (เอกชนคู่สัญญา) เอกชนคู่สัญญาเริ่มงาน (NTP) ได้ ขณะที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เตรียมความพร้อมในการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างในช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง แล้ว
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อเดือน ส.ค. 2565 คณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน
ได้ประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท หลังจากที่คณะกรรมการ 3 ฝ่าย โดย รฟท.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และ บริษัท เอเชีย เอรา วัณ (เอกชนคู่สัญญา) เจรจาได้ข้อยุติร่วมกัน ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มอบหมายให้แก้ปัญหา 4 ประเด็นคือ การทับซ้อนงานโยธาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน กับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน) สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง และการชำระเงินค่าสิทธิเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตเรลลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ และกรณีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ และการส่งมอบพื้นที่และปัญหาลำรางสาธารณะ
โดยที่ประชุมได้มีตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบและพิจารณาความเหมาะสมของทางแก้ปัญหา 4 ข้อ โดยมีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งคณะทำงานฯ ดังกล่า ยังไม่ได้มีการประชุมหารือ โดยคาดว่าจะมีการประชุมนัดแรกในเดือน ต.ค. 2565 นี้ ดังนั้น ที่ประเมินว่า จะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนเริ่มก่อสร้างในเดือน ต.ค. 2565 จะต้องเลื่อนไปเป็นเดือน ม.ค. 2566
เนื่องจาก หลังคณะทำงานชุดปลัดกระทรวงคลังพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา 4 ประเด็นแล้วเสร็จ และรายงานกบอ.เห็นชอบ เพื่อเสนอ กพอ.พิจารณาและคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ จากนั้นจะทำสัญญาร่วมทุนใหม่เสนออัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาและต้องเสนอ กพอ. และ ครม.เห็นชอบร่างสัญญาก่อนลงนามแก้ไขสัญญา ถือว่ายังต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกหลายขั้นตอน.
ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 29 ก.ย. 2565 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/10/2022 7:07 am Post subject: |
|
|
รู้จัก "รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก" ประโยชน์ที่มากกว่า "เชื่อม 3 สนามบิน"
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 03 ต.ค. 2565
หลายคนอาจเข้าใจว่า รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก หรือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นเพียงระบบรางเชื่อมสนามบินดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา และเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เท่านั้น
ทว่ายังมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจอีกมาก รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ผลักดันโครงการนี้ เล็งเห็นผลประโยชน์ในอีกหลายด้านที่จะตามมา เช่น การจ้างงานในอุตสาหกรรมต่อเนื่องกว่า 1 แสนตำแหน่ง เกิดเมืองใหม่ที่เป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ smart city ตามสองข้างทางที่รถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่าน สามารถเชื่อมต่อภูมิภาคอาเซียนได้ เป็นต้น
รู้จักเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ อีกครั้ง
เส้นทางของรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะมีระยะทางรวม 220 กม. แบ่งเป็น ทางวิ่งยกระดับ 211 กม. ทางวิ่งระดับพื้นดิน 1 กม. และทางวิ่งใต้ดิน 8 กม. วิ่งผ่าน 5 จังหวัด กทม. สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มีสถานี 9 สถานี ได้แก่ สถานีสนามบินดอนเมือง สถานีกลางบางซื่อ สถานีมักกะสัน สถานีสนามบินสุวรรณภูมิ สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสถานีสนามบินอู่ตะเภา
ขนาดของรางจะอยู่ที่ 1.435 เมตร เท่ากันกับรางของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ดังนั้นรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินใช้รางร่วมกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้ จึงจะมีเส้นทางเดินรถรวมกันระหว่างโครงสร้างของระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เดิม กับส่วนต่อขยาย 2 ช่วงที่จะสร้างขึ้น คือ ช่วงสถานีพญาไทไปยังสนามบินดอนเมือง และช่วงสถานีลาดกระบังไปยังสนามบินอู่ตะเภา โดยการเดินรถจะตั้งต้นที่สถานีสนามบินดอนเมือง เดินทางด้วยรถไฟฟ้าธรรมดา(City Line) วิ่งตรงเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสถานีมักกะสัน แล้วไปยังสถานีสุวรรณภูมิ ด้วยความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. จากสถานีสนามบินสุวรรณภูมิ เปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟความเร็วสูง (HSR) ใช้ความเร็ว 250 กม./ชม. วิ่งตามแนวรถไฟสายตะวันออก เข้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา ผ่านแม่น้ำบางปะกง สู่สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา ลอดอุโมงค์ช่วงเขาชีจรรย์แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
โดยจะเป็นการเดินรถของผู้ประกอบการรายเดียว ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมด 1 ชั่วโมง จึงจะเป็น 1 ชั่วโมงของการเดินทางเชื่อมทางอากาศกับระบบรางแบบไร้รอยต่อนั่นเอง
ประโยชน์ที่มากกว่าเชื่อม 3 สนามบิน
นอกจากจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักเชื่อมการเดินทางระบบรางกับทางอากาศระหว่าง 3 สนามบิน เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักใน EEC และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิเอชีย-แปซิฟิก แล้ว รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อนี้ จะมาพร้อมกับโครงการพัฒนาพื้นที่ตลอดสองข้างทางรถไฟฯ ให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือSmart City โดยเฉพาะในเขตEEC ฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง อันจะนำมาซึ่งความเจริญของพื้นที่ภาคตะวันออก เป็นการกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น ลดปัญหาความแออัดในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งยังเป็นการสร้างงานใหม่ และรายได้ให้กับประชาชน
จากการคาดการณ์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ผลตอบแทนที่ประเทศจะได้จากการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แบบไร้รอยต่อมีดังนี้
การจ้างงาน จะทำให้เกิดการจ้างงานจากการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมด้านการขนส่ง อุตสาหกรรมการเดินรถไฟความเร็วสูง อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ ในเมืองอัจฉริยะที่จะเกิดขึ้น รวมไม่น้อยกว่า 1 แสนตำแหน่งใน 5 ปี และเกิดการจ้างงานในภาคแรงงานการก่อสร้างไม่น้อยกว่า 16,000 อัตรา รถไฟความเร็วสูงฯ จึงช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่นอย่างมั่นคง
ด้านการท่องเที่ยว สนามบินอู่ตะเภาจะกลายเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3 ของประเทศ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 15 ล้านคนใน 5 ปีแรก 30 ล้านคนใน 10 ปี และ 60 ล้านคนใน 15 ปี รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในรูปแบบเดียวกับสนามบินนาริตะเข้ากรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น และ สนามบินอินชอนเข้ากรุงโซล ของเกาหลีใต้ ดังนั้นรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังไทยได้มากขึ้นตรงตามเป้าของแต่ละสนามบินและส่งผลดีต่อการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประเทศ
เดินทางสะดวก โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินถูกออกแบบให้เดินทางได้โดยสะดวก ไร้รอยต่อ ลดปัญหาการตกเครื่อง (Transit Delay) ลดต้นทุนการเดินทาง ลดอุบัติเหตุ ลดมลพิษ ลดความแออัดของกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งการเดินทางที่ล้ำสมัยสะดวกรวดเร็วขึ้นนี้ยังจะช่วยจูงใจนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นด้วย
เมื่อสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน 50ปี ทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทจะตกเป็นของรัฐ เป็นประโยชน์ที่กลับสู่ประเทศอย่างถาวร
สถานะล่าสุดของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
แม้จะมีประโยชน์มากมายหลายด้านดังที่กล่าวมา แต่โครงการนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง เพราะนับตั้งแต่ปี2562 ที่มีการลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชน ต่อมาก็ได้รับผลกระทบด้านแรงงานและเศรษฐกิจชะงักจากการล็อกดาวน์ช่วงโควิดระบาดหนัก, ปัญหาการเวนคืนที่ดินก่อสร้าง ,ปัญหาการแบ่งจ่ายค่าใช้สิทธิรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่ยังไม่ลงตัว ,ปัญหาเส้นทางทับซ้อนบางช่วงกับรถไฟความเร็วสูงสายอีสาน จนนำมาสู่การแก้ไขสัญญา อย่างไรก็ตามปัญหาต่างๆได้คลี่คลายเกือบหมดแล้ว จึงคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้บางช่วงภายในปีนี้และจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2572
ทั้งนี้รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการพัฒนาระบบรางตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 และอยู่ในแผนยุทธศาตร์ชาติ 20ปี พ.ศ.2561-2580 เมื่อสร้างเสร็จสามารถเชื่อมต่อกลุ่มประเทศ CLMV ( กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) เข้ากับจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอื่นๆทั่วโลกได้ เนื่องจากรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และรถไฟความเร็วสูงสายใต้ของไทย(มีเป้าหมายสร้างในอนาคต)
เมื่อถึงจุดที่สามารถเชื่อมต่อกับหลาย ๆ ประเทศได้สำเร็จ กอปรกับประโยชน์นานัปการที่จะเกิดขึ้นจากภายในประเทศดังที่กล่าวมาแล้ว จึงเรียกได้ว่า รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก จะมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ฯ มากมายมหาศาลกว่าการเชื่อม 3 สนามบิน อย่างแน่นอน
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : วีระเดช คชเสนีย์
ผู้เรียบเรียง : วีระเดช คชเสนีย์
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/10/2022 2:18 pm Post subject: |
|
|
'อีอีซี' ส่งคลังเคาะข้อสรุป แก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน
กรุงเทพธุรกิจ 04 ต.ค. 2565 เวลา 6:05 น.
สกพอ.เตรียมเสนอแก้สัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินเข้า กบอ.ในเดือน ต.ค.นี้ ลุ้น สุพัฒนพงษ์ ไฟเขียว ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติลงนาม ก่อนเร่งส่งมอบพื้นที่เอกชน ม.ค.2566
โครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศเพื่อมุ่งหน้าสู่หมุดหมายการยกระดับเศรษฐกิจประเทศให้สามารถตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต แต่โครงการกำลังถูกท้าทายด้วยเงื่อนไขพื้นที่ทับซ้อนและด้านข้อกฎหมาย
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้สัญญาร่วมลงทุนฉบับใหม่ โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ซึ่งล่าสุดเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้ประชุมคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สกพอ. และบริษัท เอเชีย เอรา วัน (เอกชนคู่สัญญา) เพื่อเจรจาหาข้อยุติในร่างสัญญาร่วมกัน
ขณะนี้ สัญญาดังกล่าวยังไม่ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุม กบอ.เนื่องจากที่ประชุมได้มอบหมายให้สอบถามความเห็นไปยังกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับประเด็นทางการเงินทั้งการทยอยชำระค่าบริหารสิทธิแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และการชำระค่าก่อสร้างงานโยธาพื้นที่ทับซ้อนโครงการรถไฟไทย - จีน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กบอ.อีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ จึงคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนได้ในช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนในช่วงเดือน ม.ค.2566
สำหรับการแก้ไขสัญญาสัมปทานร่วมลงทุน เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการทับซ้อนงานโยธาโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน กับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน) สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง รวมไปถึงกรณีการชำระเงินค่าสิทธิเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เร่งแก้ปมส่งมอบพื้นที่มักกะสัน
แหล่งข่าวยังระบุถึง ความคืบหน้าการแก้ปัญหาส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการรถไฟเดียวกันนี้นั้น ครม. ได้เห็นชอบตามที่ สกพอ.เสนอเพื่อแก้ไขปัญหาการส่งมอบพื้นที่บริเวณพื้นที่โรงงานมักกะสัน ตามที่ก่อนหน้านี้พบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถส่งมอบได้เนื่องจากติดปัญหาลำรางสาธารณะ
โดยการขอความเห็นชอบจาก ครม.ครั้งนี้ เป็นไปตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2565 สกพอ. และกรมที่ดินได้ประชุมหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่เห็นชอบให้ สกพอ. กรมที่ดิน และกระทรวงมหาดไทยเร่งสรุปปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากการดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ทั้งนี้ ที่ประชุมระหว่าง สกพอ.และกรมที่ดิน เห็นควรเสนอให้มีการแก้ไขหรือทบทวนระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการขออนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 กรณีที่ใช้บังคับในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันระเบียบดังกล่าว ก่อให้เกิดความไม่สะดวก ล่าช้าซ้ำซ้อนหรือเป็นการเพิ่มภาระการดำเนินการโดยไม่จำเป็น ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการรถไฟฯ สามสนามบิน ได้เต็มศักยภาพ
โดยเสนอให้แก้ไขหรือทบทวนระเบียบกระทรวงมหาดไทย อาทิ ข้อ 25 วรรคสอง ของระเบียบดังกล่าวกำหนดให้การอนุญาต ให้อนุญาตตามกำหนดเวลา ซึ่งสมควรกับกิจการที่กระทำภายในกำหนดไม่เกินห้าปีนับแต่วันออกใบอนุญาต และข้อ 27 ของระเบียบดังกล่าว กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตต้องไม่กระทำให้พื้นดินที่ได้รับอนุญาตหรือพื้นที่ซึ่งติดต่อเสียสภาพตามสมควร เช่น ขุดพื้นดินลึกจากพื้นดินทั่วไปเกินกว่าห้าเมตร
ยื่นยกเลิกลำรางสาธารณะ
ดังนั้น หากกรมที่ดิน และกระทรวงมหาดไทยดำเนินการแก้ไขหรือทบทวนระเบียบมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ การขออนุญาตตามมาตรา 9 พ.ศ.2543 แล้ว โครงการรถไฟฯ สามสนามบิน จะสามารถพัฒนาฟื้นที่ดังกล่าวได้ตามวัตถุประสงค์โดยไม่ติดขัดปัญหาและอุปสรรค
ปัจจุบัน สกพอ. จึงได้ดำเนินการยื่นขอเพิกถอนลำรางสาธารณะดังกล่าวตามมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว โดยอยู่ระหว่างเสนอให้สภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นชอบ ก่อนดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป สกพอ. ในฐานะหน่วยงานเลขานุการ กพอ. จึงขอเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบ
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า การเสนอขอให้ ครม.อนุมัติดำเนินการแก้ไขหรือทบทวนระเบียบมหาดไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนและโครงการนี้ ว่าสามารถแก้ไขปัญหาส่งมอบพื้นที่ได้อย่างแน่นอน โดยปัญหาลำรางสาธารณะบริเวณโรงงานมักกะสัน ขณะนี้จึงไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ของการส่งมอบพื้นที่พัฒนาโครงการแล้ว และทางเอกชนคู่สัญญาปัจจุบันได้รับทราบในเรื่องนี้ และพร้อมที่จะเริ่มงานก่อสร้างในส่วนอื่นก่อน
การเพิกถอนลำรางสาธารณะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาดำเนินการในขั้นตอนกฎหมาย แต่เมื่อเรื่องได้ผ่านการอนุมัติจาก ครม.ก็เป็นการยืนยันได้ว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน หนึ่งในปัญหาที่เอกชนกังวลเรื่องการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีมักกะสันก็ได้รับการแก้ไขแน่นอน ดังนั้นหากมีการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฉบับใหม่ เอกชนก็ตอบรับว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ทันที |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/10/2022 10:23 am Post subject: |
|
|
อนุทิน-ทีมไทยแลนด์ เยือน สปป.ลาว จั๊มสายไฮสปีดเทรนหนองคาย-เวียงจันทน์
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 5 ตุลาคม 2565 - 09:22 น.
อนุทิน ควง ศักดิ์สยาม ยกคณะทีมไทยแลนด์เยือน สปป.ลาว 6-7 ต.ค. หารือวางแนวเชื่อมต่อทางรถไฟความเร็วสูงไทย-ลาว-จีน
วันที่ 5 ตุลาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 6-7 ต.ค. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย-ลาวและจีน จะนำคณะทีมไทยแลนด์ เดินทางไปร่วมประชุมกับผู้แทนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟ ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือกันทั้งในส่วนของการเชื่อมโยงผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า แนวทางการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ตลอดจนการร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านคมนาคมทางถนน ทางรถไฟ โลจิสติกส์ และการบินพลเรือน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในโอกาสนี้คณะของรองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปศึกษาดูการดำเนินงานและรับฟังข้อมูลการดำเนินงานของโครงการเวียงจันทน์โลจิสติกส์ปาร์ค (Vientiane Logistics Park : VLP) ซึ่งเป็นพื้นที่การบริหารจัดการการสินค้าที่ขนส่งระหว่าง สปป.ลาวและจีนโดยเส้นทางรถไฟ เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนงานการเชื่อมต่อขนส่งสินค้าที่จะมายังประเทศไทยในอนาคต
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับการพัฒนาศูนย์ขนส่งและกระจายสินค้าในพื้นที่จังหวัดหนองคายแล้ว ได้แก่ ย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่สถานีนาทา โดยอยู่ภายใต้การพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 (นครราชสีมา-หนองคาย) และยังมีกำหนดการรับฟังข้อมูลการดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว พร้อมเยี่ยมชม Control Room และทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงจากสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ ไปยังสถานีหลวงพระบาง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-หนองคาย เป็นแผนงานของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง เพื่อสนับสนุนเส้นทางการขนส่งสินค้า ยกระดับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ไปยังภูมิภาคและเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในระยะต่อไปจะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพื่อรองรับทั้งการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การขนส่งต่าง ๆ ตามแนวเส้นทาง เกิดงานและอาชีพอีกจำนวนมากตามมา
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า โดยปัจจุบันโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน อยู่ระหว่างการพัฒนา ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 250.77 กม. มีกำหนดแล้วเสร็จปี 2569 มีคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย-ลาว และจีน รวมถึงคณะของกระทรวงคมนาคมติดตามความคืบหน้าโครงการและรายงานให้รัฐบาลรับทราบอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทีมไทยแลนด์ ประกอบด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง กรมทางหลวง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย |
|
Back to top |
|
|
|