View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44326
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/01/2023 5:39 am Post subject:
เมื่อไหร่จะเปิดใช้รถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน อีก 5 เส้นทาง
การรถไฟแห่งประเทศไทย Official
Jan 26, 2023
https://www.youtube.com/watch?v=XVWpKzSgjdU
นับจากปี 2559 ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เริ่มเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่
ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กิโลเมตร โดยก่อสร้างแล้วเสร็จ
จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่
- ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา-ชุมทางคลองสิบเก้า-ชุมทางแก่งคอย
ระยะทาง 106 กิโลเมตร เปิดให้บริการปี 2562
- ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร
เปิดให้บริการปี 2563
ในขณะที่อีก 5 เส้นทาง ความคืบหน้า ณ เดือนตุลาคม 2565 มีดังนี้
*ช่วงนครปฐม หัวหิน แบ่งเป็น 2 สัญญา ได้แก่
- ช่วงนครปฐม- หนองปลาไหล ผลงาน 96.647 %
- ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ผลงาน 94.949 %
*ช่วงหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ผลงานแล้วเสร็จ 100 %
*ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร แบ่งเป็น 2 สัญญา ได้แก่
- ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ผลงาน 90.189 %
- ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร ผลงาน 91.713%
ภาพรวมรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร
คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567
ส่วนอีก 2 เส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีความคืบหน้าดังนี้
*ช่วงมาบกะเบา ชุมทางถนนจิระ แบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่
- ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ผลงาน 95.44 %
- งานอุโมงค์รถไฟ ผลงาน 93.72 %
- งานระบบอาณัติสัญญาณ ผลงาน 15.73 %
- ส่วนช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปรียบเทียบ
แนวเส้นทางของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ กับแนวเส้นทาง MR MAP ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม
ภาพรวมรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ คาดว่าจะเปิดให้บริการ
ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ได้ในปี 2566
- รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร
แบ่งการก่อสร้างเป็น 3 สัญญา มีผลงานดังนี้
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม ผลงาน 80.06 %
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ผลงาน 74.57 %
และสัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ผลงาน 25.920 %
คาดว่าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ จะแล้วเสร็จ
พร้อมเปิดให้บริการในปี 2566
ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มั่นใจว่า
เมื่อเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ครบทุกเส้นทาง ประชาชนผู้ใช้บริการ
รวมถึงผู้ประกอบการในภาคส่วนต่างๆ จะเดินทางด้วยความสะดวกรวดเร็ว
ตรงเวลา เพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากไม่ต้องรอหลีกขบวนเหมือนทางเดี่ยว
สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางโดยรถไฟ
ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจที่ดีของประเทศ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 30/01/2023 1:47 pm Post subject:
ความก้าวหน้างานก่อสร้าง ผลงานถึงวันพฤหัสบดี ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2566
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
วันศุกร์ ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 15:48 น.
👉สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
แผนงานสะสม = 100.00 %
ผลงานสะสม = 96.921 %
ช้ากว่าแผน = -3.079 %
👉สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 100.00 %
ผลงานสะสม = 95.171 %
ช้ากว่าแผน = -4.829 %
👉สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
ผลงานแล้วเสร็จ = 100.00%
👉สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
แผนงานสะสม = 99.530 %
ผลงานสะสม = 91.158 %
ช้ากว่าแผน = -8.372 %
👉สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี
แผนงานสะสม = 100.00 %
ผลงานสะสม = 93.198 %
ช้ากว่าแผน = -6.802 %
https://www.facebook.com/southernlinetrackdoublingproject/posts/640769134516679
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 30/01/2023 8:19 pm Post subject:
"ศักดิ์สยาม"ลงพื้นที่จ.อุบลฯ ติดตามคืบหน้าพัฒนาโครงข่ายคมนาคม - ดันแผนสร้างรถไฟทางคู่ 2 สาย
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 17:03 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 17:03 น.
"ศักดิ์สยาม"ลงพื้นที่จ.อุบลฯติดตามคืบหน้าพัฒนาโครงข่ายคมนาคม เชื่อมภาคอีสาน เร่งก่อสร้างทางหลวง, ทางหลวงชนบท 18 โครงการ ดันรถไฟทางคู่ 2 สายวงเงินกว่า4.5 หมื่นล้าน เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการขนส่ง
วันที่ 27 มกราคม 2566 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า
การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี ผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงานกระทรวงคมนาคม ร่วมลงพื้นที่โดยมี นายกำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
ad
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม เร่งรัดผลักดันเปิดให้บริการโครงข่ายคมนาคมทุกโหมดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร รองรับเชื่อมโยงการเดินทางกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนการค้าการท่องเที่ยวสู่ใน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ส่งเสริมภาคเกษตรกรรม สนับสนุนการกระจายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และสนับสนุนการค้าการท่องเที่ยวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
โดย มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญทุกโหมดการเดินทางในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ดังนี้มิติการพัฒนาทางถนน กรมทางหลวง ดำเนินการเสร็จแล้ว จำนวน 5 โครงการ วงเงินรวมกว่า 3,729 ล้านบาท
ได้แก่ 1.โครงการขยายช่องจราจร แยกบ้านจานอำเภอเดชอุดม 2. โครงการขยายช่องจราจร อำเภอตระการพืชผล-อำเภอเขมราฐ และ ตอนบ้านแสนสบาย-อำเภอเขมราฐ 3 .โครงการก่อสร้างขยายช่องจราจร แยกทางหลวงหมายเลข 2085-อุบลราชธานี 4. โครงการปรับปรุงทางหลวง อำเภอพิบูลมังสาหาร-ด่านช่องเม็ก และ 5. โครงการทางแยกต่างระดับ จุดตัด ทล.231 กับ ทล.23 (แยกดงอู่ผึ้ง) (พร้อมทางคู่ขนาน)
โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 8 โครงการ ได้แก่ บ้านสวนเขื่องใน, บ้านหนองผืออำภอเขมราฐ, ห้วยยางสองคอน, หนองผือนาไฮ, บ้านโคกธาตุกลาง, ม่วงสามสิบ พนา, ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี (กิจกรรมก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง) และถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี (กิจกรรมพัฒนาสะพานและระบบระบายน้ำ)
การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงชนบท จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการสะพานข้ามลำห้วยร่องขุม อำเภอตระการพืชผล อยู่ระหว่างดำเนินการ ผลการก่อสร้าง 91.81% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2566
2. โครงการถนนสาย อบ.3007 แยกทล.212-บ้านเหล่าเสือโก้ก อำเภอม่วงสามสิบ
อยู่ระหว่างดำเนินการ ผลการก่อสร้าง 80.10% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
3. โครงการถนนเชิงลาดสะพานข้ามลำมูลน้อย อำเภอเมือง อยู่ระหว่างดำเนินการ ผลการก่อสร้าง 57.04% อยู่ระหว่างขออนุมัติขยายระยะเวลาการก่อสร้าง
4. โครงการสะพานแม่น้ำลำเซบก อำเภอดอนมดแดง อยู่ระหว่างดำเนินการ ผลการก่อสร้าง 50.84% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567
5. โครงการสะพานข้ามลำห้วยหลวง อำเภอนาจะหลวย อยู่ระหว่างการบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
นอกจากนี้ ยังแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค MR-MAP ที่มี ถนนมอเตอร์เวย์และทางรถไฟร่วมกัน เน้นการศึกษาความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ และผลกระทบสิ่งแวดล้อมคำนึงถึงผลกระทบการเวนคืนและการแบ่งแยกชุมชนเป็นหลัก โดยมีการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคอื่นของประเทศไทย ให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ส่งเสริมการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง โดยมีเส้นทางที่ผ่านพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ MR5: กาญจนบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์)-อุบลราชธานี (สะพานมิตรภาพไทย-ล่าว แห่งที่ 6)
@ดันอนุมัติ รถไฟทางคู่"ชุมทางถนนจิระ-อุบลฯ"3.66 หมื่นล้านบาท
สำหรับ แผนพัฒนา โครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 36,683 ล้านบาท ประกอบด้วยสถานีใหญ่พิเศษ จำนวน 4 สถานี สถานีขนาดใหญ่ จำนวน 3 สถานี สถานีขนาดกลาง จำนวน 8 สถานี และสถานีขนาดเล็กจำนวน 20 สถานี อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ
และโครงการรถไฟทางสายใหม่ ช่วงอุบลราชธานี-ช่องเม็ก ระยะทาง 87 กม. มี 4 สถานี วงเงินลงทุน 9,197 ล้านบาท มีแผนของบประมาณปี 2567 เพื่อศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น
ด้านการพัฒนาทางน้ำในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ โครงการขุดลอกแม่น้ำชี
X
กม. 55 + 00 ถึง กม. 60 + 00 อำเภอเชื่องใน และโครงการขุดลอกแม่น้ำชี กม. 195 + 00 ถึง กม. 200 + 00 อำเภอพนมไพร เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง การสร้างท่าเทียบเรือในแม่น้ำโขงบริเวณเทศบาลตำบล
บ้านด่านโขงเจียม อำเภอโขงเจียม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว รวมทั้งมีการบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัย
@สนามบินอุบลฯคาดปี 66 มีผู้โดยสาร 1.5 ล้านคน
สำหรับท่าอากาศยานอุบลราชธานี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,050 คน/ชั่วโมง ซึ่งการฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้นในปี 2566 โดยคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเที่ยวบินในปี 2566 ทั้งปี กว่า 5,254 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 1.5 ล้านคน โดยมีแผนขยายขีดความสามารถ ได้แก่ โครงการงานก่อสร้างศูนย์ขนส่งผู้โดยสารและปรับปรุงลานจอดรถยนต์ ที่สามารถรองรับรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2 ช่องจอด รถเช่าขับเอง จำนวน 30 ช่องจอด รถเช่าพร้อมคนขับจำนวน 5 ช่องจอด รถแท็กซี่จำนวน 28 ช่องจอด
และลานจอดรถยนต์ จำนวน 164 คัน โครงการปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าลงใต้ดิน โครงการงานซ่อมบำรุงเสริมผิวทางวิ่ง ทางขับ และโครงการงานก่อสร้างทางขับและขยายลานจอดรถเครื่องบิน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน หากแล้วเสร็จจะสามารถรองรับลานจอดเครื่องบินจากเดิมจอดได้ 5 ลำ เพิ่มเป็นจอดได้ 10 ลำทางขับจากเดิม 2 เส้นทางขับ เพิ่มเป็น 3 เส้นทางขับ และลานจอดรถยนต์รองรับได้เพิ่ม 230 คัน
ด้าน การเชื่อมโยงระบบคมนาคมจากสถานีขนส่งผู้โดยสารไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดอุบลราชธานีและระหว่างจังหวัด ซึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี มีสถานีขนส่งรองรับ 2 สถานี คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเดชอุดม และสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอสิรินธร (ช่องเม็ก) มีรถโดยสารต่างประเทศ มี 2 เส้นทาง คือ สายที่ 3 อุบลราชธานี-ปากเซ และสายที่ 10 กรุงเทพมหานคร-อุบลราชธานี-ปากเซ
นายศักดิ์สยามกล่าวย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมต้องมีการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคประชาชน และภาคเอกชน เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยต้องจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อแปลงโยบายไปสู่การปฏิบัติ การดำเนินงานต้องคำนึงถึงปัจจัยการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และต้องสร้างความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนก่อนเริ่มการดำเนินโครงการ และควรคำนึงถึงเรื่อง Climate Change ตามนโยบายของรัฐบาลกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของโครงการ และมีมาตรการการป้องกันอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด สำหรับการสำรวจและออกแบบก่อสร้างโครงการต่าง ๆ จะต้องพิจารณาด้านอุทกศาสตร์และไม่ให้กีดขวางทางระบายน้ำ ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และ ต้องยึดกฎ ระเบียบ ข้อกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44326
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44326
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 31/01/2023 11:42 pm Post subject:
รวมที่สุด โครงการรถไฟทางคู่ของไทย
การรถไฟแห่งประเทศไทย Official
Jan 31, 2023
https://www.youtube.com/watch?v=J2SSlvIeJbg
นี่คือ ทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในประเทศไทย....
และนี่คือ ทางรถไฟยกระดับที่สูงที่สุดในประเทศไทย...
ปิดท้าย ด้วยอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย...
ทั้งหมดคือความเป็นที่สุดของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วนของไทย
สำหรับทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คือ
ไฮไลท์ของโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
ที่มีการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับระยะทาง 19 กิโลเมตร
โดยเหตุผลที่ต้องก่อสร้างเป็นทางยกระดับเลี่ยงเมืองลพบุรี เพื่อให้แนวเส้นทางไม่ผ่าน
พระปรางค์สามยอดและศาลพระกาฬ ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญ ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม EIA
จึงต้องสร้างทางรถไฟเลี่ยงเมือง
โดยใช้พื้นที่ทางหลวงหมายเลข 366 ของกรมทางหลวง
และต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมบางส่วน จึงจำเป็นต้องก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ
เพื่อให้สามารถก่อสร้างได้ในเขตพื้นที่ทางหลวง และป้องกันน้ำท่วมทางรถไฟ
ซึ่งมีความสูงจากระดับพื้นดินถึงระดับสันรางรถไฟประมาณ 10-20 เมตร
และเริ่มลดระดับลงก่อนเข้าสู่สถานีโคกกะเทียม จ.ลพบุรี
ส่วนทางรถไฟยกระดับที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ
ไฮไลท์สำคัญของโครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
ด้วยสภาพพื้นที่ อ.มวกเหล็กเป็นแอ่งกระทะ มีขอบภูเขาสองฝั่ง
ทำให้ต้องก่อสร้างสะพานรถไฟยกระดับข้ามเพื่อลดระยะเวลา ที่ขบวนรถไฟ
จะต้องเดินรถผ่านแอ่งกระทะดังกล่าว โดยการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ
ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร และมีช่วงความสูงที่สูงที่สุดประมาณ 50 เมตร
จากระดับดินเดิม ช่วงบริเวณคลองมวกเหล็ก
เมื่อโครงการแล้วเสร็จคาดว่า รถไฟจะเดินรถข้ามแอ่งกระทะ โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของรถไฟทางคู่ คืออุโมงค์รถไฟที่มีความยาวมากที่สุด
ในประเทศไทย
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
เป็นการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟลอดเทือกเขาดงพญาเย็น
โดยมีระยะทางรวมถึง 5.850 กิโลเมตร อยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบา สถานีผาเสด็จ
และสถานีหินลับ จังหวัดสระบุรี
นอกจากความเป็นที่สุดของการก่อสร้างแล้ว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ยังเน้นย้ำถึงประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดแก่ประเทศชาติและประชาชน
ทั้งด้านความสะดวกรวดเร็วในการคมนาคมขนส่ง และด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจ
โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่ติดตาม
ความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้บริการรถไฟทางคู่
ระยะเร่งด่วน ทั้ง 5 สายทางที่อยู่ระหว่างก่อสร้างได้ ภายในปี 2566
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 01/02/2023 3:38 pm Post subject:
ไม่ยกเลิก สถานีลพบุรี เปิดให้บริการตลอดไปจ้าา
*ประสานขนส่งจังหวัดจัดรถเชื่อมสถานีลพบุรี 2
*กรมรางลงพื้นที่เช็กสถานะรถไฟทางคู่สายเหนือ
*ลพบุรี-ปากน้ำโพ77%สร้างเสร็จปีนี้ได้ใช้ปีหน้า
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/734049794838924 Last edited by Wisarut on 22/02/2023 10:57 am; edited 2 times in total
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44326
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 01/02/2023 4:58 pm Post subject:
ท้าทายสุด สะพานคานขึงรถไฟแห่งแรกในไทย
การรถไฟแห่งประเทศไทย Official
Feb 1, 2023
https://www.youtube.com/watch?v=j_eSQg87SZE
จากประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง
พื้นที่อำเภอเมืองราชบุรี สู่การก่อสร้างสะพานคานขึง สำหรับรถไฟแห่งแรก
ของประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย....
สำหรับการก่อสร้างสะพานรถไฟแห่งใหม่ ในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล เป็นการสร้างคู่ขนานกับสะพานรถไฟเดิมหรือสะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟทางคู่สายใต้
ก่อนการก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการสำรวจพื้นที่บริเวณสะพาน พบวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขนาด 1,000 ปอนด์ จำนวน 7 ลูก
ซึ่งจมอยู่ในแม่น้ำแม่กลอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 บริเวณเดียวกับพื้นที่ก่อสร้างสะพาน
หากจะก่อสร้างสะพานในรูปแบบเดิม จำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิด
ออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีความเสี่ยงสูง
ทีมก่อสร้างโครงการฯ จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างสะพานรถไฟใหม่
เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากวัตถุระเบิด จึงเป็นที่มาของการออกแบบด้วยเทคนิคทางวิศวกรรมพิเศษ ให้โครงสร้างสะพานรถไฟใช้คานขึง ที่มีตอม่ออยู่บนฝั่งแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง แทนรูปแบบเดิมที่มีตอม่ออยู่กลางแม่น้ำ โดยรูปแบบการสร้างสะพานรถไฟแบบคานขึง (Extradosed Bridge) เรียกสั้นๆ ว่า สะพานขึง
นับเป็นงานก่อสร้าง ที่ท้าทายทีมวิศวกรของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นอย่างมาก แต่ได้มุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้สะพานคานขึงสำหรับรถไฟแห่งแรกของประเทศไทยมีความสมบูรณ์แบบที่สุด
สะพานคานขึง แห่งนี้ มีความยาวสะพานรวม 340 เมตร
โดยช่วงสะพานที่ข้ามแม่น้ำแม่กลองมีความยาว 160 เมตร ขนานไปกับสะพานจุฬาลงกรณ์
สำหรับสถานะล่าสุด การก่อสร้างงานโยธา รถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล
มีกำหนดแล้วเสร็จ ในเดือนเมษายน 2566
นอกจากความท้าทายด้านการก่อสร้างแล้ว นายนิรุฒ มณีพันธ์
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ยังเชื่อมั่นว่า
สะพานรถไฟแห่งนี้ จะเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ของประเทศไทย ที่มีความสวยงาม
และเรื่องราวในอดีต จะนำพาผู้คน ให้เดินทางมาท่องเที่ยว
เพื่อศึกษา และหวนรำลึกถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44326
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 01/02/2023 7:47 pm Post subject:
กรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/64429
.....
เมื่อวันที่ 31 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2566 ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ ที่สถานีลพบุรี สถานีลพบุรี 2 สถานีหนองทรายขาว สถานีบ้านหมี่ สถานีบ้านตาคลี สถานีนครสวรรค์ สถานีปากน้ำโพ และศูนย์ควบคุมการเดินรถนครสวรรค์ โดยมี ดร.อรรถพล เก่าประเสริฐ วิศวกรอํานวยการศูนย์โครงการพิเศษและก่อสร้าง นายไชยา วงศ์สิทธิพรรุ่ง วิศวกรโครงการฯ และนายวัชรเกียรติ สุทธิวรรณา ผู้ช่วยวิศวกรโครงการฯ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานและบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างให้การต้อนรับ
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ แบ่งเป็น 3 สัญญา ได้แก่
สัญญา 1 ช่วงบ้านกลับ - โคกกระเทียม 29 กิโลเมตร (ทางรถไฟยกระดับ 19 กม. และระดับพื้น 10 กม.) มีการก่อสร้างสถานีใหม่ 1 แห่ง คือ สถานีลพบุรี 2 บนทางหลวงหมายเลข 366 มีความก้าวหน้า ร้อยละ 81.72
สัญญา 2 ช่วงท่าแค - ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. เป็นโครงสร้างระดับพื้นทั้งหมด โดยก่อสร้างสถานีใหม่ 6 สถานี และก่อสร้างทดแทนสถานีเดิม 11 สถานี มีความก้าวหน้าร้อยละ 75.72 และอาคารควบคุมการเดินรถ (CTC) ที่สถานีนครสวรรค์ 1 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้
สัญญา 3 งานระบบอาณัติสัญญาณฯ มีความคืบหน้าร้อยละ 26.33 โดยสถานีลพบุรี 2 เป็นสถานียกระดับรองรับรถไฟทางไกลและรถสินค้า ที่ไม่ได้มีปลายทางที่จังหวัดลพบุรี ส่วนสถานีลพบุรีแห่งเดิมยังคงเปิดให้บริการสำหรับขบวนรถไฟชานเมือง เส้นทางกรุงเทพฯ - ลพบุรี ขบวนรถไฟท้องถิ่นทุกขบวน ที่ชาวลพบุรีใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน รวมทั้งขบวนรถไฟท่องเที่ยว (KIHA 183) จะยังคงให้บริการเช่นเดิม ที่สถานีเดิม ไม่มีแผนที่จะยกเลิกการใช้งานหรือการย้ายสถานีแต่อย่างใด โดยจะประสานขนส่งจังหวัดลพบุรีจัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างสถานีลพบุรีเดิมและสถานีลพบุรี 2 เพื่ออำนวยความสะดวกและลดผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟ สำหรับสถานีนครวรรค์ เป็นสถานีสร้างใหม่ขนาดใหญ่ โดยตัวอาคารของสถานีเดิมจะปรับปรุงให้สำหรับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ปฏิบัติการเดินรถและระบบอาณัติสัญญาณ ในส่วนสถานีปากน้ำโพ เป็นสถานีอนุรักษ์ (Renovate Station) ซึ่งมีความก้าวหน้าประมาณ ร้อยละ 16
โดย ขร. และ รฟท. จะได้ร่วมประสานเร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2566
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 02/02/2023 10:25 am Post subject:
รถไฟทางคู่ "ลพบุรี-ปากน้ำโพ" คืบหน้า 77% กรมรางเร่งงานโยธาเสร็จในปีนี้ ดันเปิดบริการปี 67
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 16:16 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 16:16 น.
กรมรางตรวจไซต์ก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ คืบ 77% ยังช้ากว่าแผน คาดโยธาเสร็จในปี 66 ดันเปิดบริการก่อน ระหว่างรอติดระบบอาณัติสัญญาณ วางแผนใช้สถานีลพบุรีเก่ารับรถชานเมืองและท้องถิ่น สถานีใหม่ยกระดับรับรถทางไกล
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ 2566 ตนพร้อมเจ้าหน้าที่กรมรางได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ที่สถานีลพบุรี, สถานีลพบุรี 2, สถานีหนองทรายขาว, สถานีบ้านหมี่, สถานีบ้านตาคลี, สถานีนครสวรรค์, สถานีปากน้ำโพ และศูนย์ควบคุมการเดินรถนครสวรรค์
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 77% แล้ว โดยแบ่งงานออกเป็น 3 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม 29 กิโลเมตร (ทางรถไฟยกระดับ 19 กม. และระดับพื้น 10 กม.) มีการก่อสร้างสถานีใหม่ 1 แห่ง คือ สถานีลพบุรี 2 บนทางหลวงหมายเลข 366 มีความก้าวหน้า 81.72%
สัญญา 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. เป็นโครงสร้างระดับพื้นทั้งหมด โดยก่อสร้างสถานีใหม่ 6 สถานี และก่อสร้างทดแทนสถานีเดิม 11 สถานี มีความก้าวหน้าร้อยละ 75.72 และอาคารควบคุมการเดินรถ (CTC) ที่สถานีนครสวรรค์ 1 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้
สำหรับสัญญา 3 งานระบบอาณัติสัญญาณฯ มีความคืบหน้า 26.33%
นายพิเชษฐกล่าวว่า สถานีลพบุรี 2 เป็นสถานียกระดับรองรับรถไฟทางไกลและรถสินค้า ที่ไม่ได้มีปลายทางที่จังหวัดลพบุรี
ส่วนสถานีลพบุรีแห่งเดิมยังคงเปิดให้บริการสำหรับขบวนรถไฟชานเมือง เส้นทางกรุงเทพฯ-ลพบุรี ขบวนรถไฟท้องถิ่นทุกขบวน ที่ชาวลพบุรีใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน รวมทั้งขบวนรถไฟท่องเที่ยว (KIHA 183) จะยังคงให้บริการเช่นเดิม ที่สถานีเดิม ไม่มีแผนที่จะยกเลิกการใช้งานหรือการย้ายสถานีแต่อย่างใด
โดยจะประสานขนส่งจังหวัดลพบุรีจัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างสถานีลพบุรีเดิมและสถานีลพบุรี 2 เพื่ออำนวยความสะดวกและลดผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟ
สำหรับสถานีนครสวรรค์ เป็นสถานีสร้างใหม่ขนาดใหญ่ โดยตัวอาคารของสถานีเดิมจะปรับปรุงให้สำหรับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ปฏิบัติการเดินรถและระบบอาณัติสัญญาณ ในส่วนสถานีปากน้ำโพ เป็นสถานีอนุรักษ์ (Renovate Station) ซึ่งมีความก้าวหน้าประมาณ 16%
กรมการขนส่งทางรางและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะได้ร่วมประสานเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 พร้อมกับเร่งรัดการติดตั้งระบบ อย่างไรก็ตาม หากงานโยธาเสร็จก่อน รฟท.สามารถเปิดใช้ทางได้โดยใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบเดิมไปก่อนได้
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม แผนงานสะสม 83.20% ก่อสร้างก้าวหน้า 81.72% ช้ากว่าแผน 1.48% มีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอสเอช เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 10,050 ล้านบาท เริ่มงาน 15 มิ.ย. 2561-วันที่ 314 มิ.ย. 2565 (48 เดือน) ปัจจุบันผู้รับจ้างใช้สิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการจากผลกระทบโควิด-19
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ แผนงานสะสม 89.70% ก่อสร้างก้าวหน้า 75.72% ช้ากว่าแผนงาน 13.98% มีบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 8,649 ล้านบาท เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-วันที่ 31 ม.ค. 2564 (36 เดือน) มีการขยายอายุสัญญาอีก 17 เดือน (530 วัน) สิ้นสุด 15 ก.ค. 2565 ปัจจุบันผู้รับจ้างใช้สิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการจากผลกระทบโควิด-19
สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (ST8) แผนงานสะสม 99.55% ก่อสร้างก้าวหน้า 26.33%
ช้ากว่าแผนงาน 73.22%
Back to top