RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311239
ทั่วไป:13181793
ทั้งหมด:13493032
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว Airport Link
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว Airport Link
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 159, 160, 161  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ARL)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 30/06/2006 11:10 am    Post subject: Reply with quote

พงษ์ศักดิ์"รื้อระบบประมูลรถไฟสายสีแดง

Khaosod - June 30, 3006

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมร่วมกับสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง จากเดิมที่กำหนดให้มีการจัดซื้อจัดจ้างเฉพาะเส้นทางบางซื่อ-รังสิต ซึ่งเป็นเส้นทางระยะสั้น ดังนั้น เพื่อให้มีความสะดวกในการก่อสร้างและรองรับผู้โดยสารในอนาคต จึงเปลี่ยนให้มีการจัดซื้อจัดจ้างรถไฟสายสีแดงทั้งระบบคือเส้นทางรังสิต-พญาไท-มหาชัย ซึ่งเป็นเส้นทางระยะยาว ซึ่งการประมูลจัดซื้อจัดจ้างพร้อมกันทั้งระบบจะทำให้รัฐประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมากกว่าการประมูลเพื่อก่อสร้างเป็นช่วงสั้นๆ ทั้งนี้ คาดว่าขั้นตอนการประมูลจัดซื้อจัดจ้างจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ย.2549 ส่วนสายการจัดซื้อจัดจ้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและม่วงนั้นให้ดำเนินการตามที่ทางสำนักนโยบายและแผนการขนส่งจราจร (สนข.) กำหนดไว้ ซึ่งแนวทางดังกล่าว กระทรวงคมนาคมได้วางแนวทางไว้และให้อำนาจครม.ชุดใหม่ เป็นผู้พิจารณาเพื่อเห็นชอบอีกครั้ง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 12/07/2006 5:32 pm    Post subject: Reply with quote

ย่านมักกะสันจากยอดตึกใบหยก 2 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2549 โดยนายเคนโด้
Click on the image for full size

City Air Terminal จากยอดตึกใบหยก 2 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2549 โดยนายเคนโด้
Click on the image for full size

City Air Terminal ระยะประชิดจากยอดตึกใบหยก 2 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2549 โดยนายเคนโด้
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 22/07/2006 9:59 pm    Post subject: Reply with quote

หน้าตามักกะสันคอมเพล็กซ์

Click on the image for full size

ด้านหน้ามักกดะสันคอมเพล้กซ์
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 26/07/2006 1:37 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.รับแล้วเปิดใช้แอร์พอร์ตลิงก์ไม่ทันพ.ย.50
Dailynews - July 26, 2006


รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่การรถไฟฯ มีโครงการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยาน
ในเมือง (CAT) พญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงก์) ระยะทาง 28.5 กม. ซึ่งเริ่มก่อสร้างไปตั้งแต่กลางปี 2548 นั้น ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าแล้ว 30 กว่าเปอร์เซ็นต์
ช้ากว่าแผนงาน 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่มีอัตราความก้าวหน้าที่เร็วขึ้นเพื่อชดเชยการก่อสร้างในส่วนที่ ล่าช้าไป ทั้งนี้ในส่วนของการเข้าพื้นที่ก่อสร้างโครงการขณะนี้เข้าพื้นที่ได้เกือบหมดทุกจุดแล้ว ยกเว้นบริเวณถนนราชปรารภ ที่ผู้รับเหมายังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากยังเจรจากับชาวบ้านในชุมชนเดชา กว่า 70-80 หลังคาเรือนไม่เรียบร้อย ทำให้การลงพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวต้องล่าช้าออกไปอีก ซึ่ง ส่งผลให้การก่อสร้างทั้งโครงการจะไม่แล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้ใช้บริการได้ในเดือน พ.ย. 2550 ตามที่กำหนดไว้ โดยจะล่าช้าออกไปอีก 6-7 เดือน อย่างไรก็ตามทางการรถไฟฯ แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการ รมว. คมนาคม ทราบโดยตลอดแล้ว ซึ่งนายพงษ์ศักดิ์มีนโยบายให้เจรจากับชาวบ้านด้วยความนุ่มนวล ไม่ให้ใช้ความรุนแรง แม้จะส่งผลให้การก่อสร้างเสร็จไม่ทันตามกำหนดก็ตาม

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีที่มีการตรวจพบรอยร้าวของเสา และคานในโครงการก่อสร้างนั้น ขณะนี้ผู้รับเหมาได้หาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว จะ สามารถนำ
ข้อสรุปเสนอนายพงษ์ศักดิ์ได้ปลายสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเสาที่ร้าวเบื้องต้นพบว่าเป็นรอย ร้าวเพียงผิวนอกที่อาจเกิดจากการถอดแบบโครงสร้างไม่ดี เท่านั้น ไม่ได้เกิดจาก
โครงสร้างภายใน จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่จะกังวลในส่วนของคานที่ร้าวมากกว่า ซึ่งกำลังตรวจสอบอย่างละเอียดว่าอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยสามารถใช้งานได้นานหรือไม่ หากไม่ปลอดภัยคงจะต้องทุบทิ้ง.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 29/07/2006 6:03 pm    Post subject: Reply with quote

ได้ข้อสรุปการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย เตรียมนำเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2549 14:36 น.

Click on the image for full size

รถไฟฟ้ารุ่นเดซิโร่ ของซัเมนส์ ที่นำมาใช้กะ รถไฟด่วนสนามบิน

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง คณะที่ 2 ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปใช้รูปแบบการออกแบบควบคู่การก่อสร้าง หรือ ดีไซน์แอนด์บิ้ว ในการดำเนินการโครงสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย ตามที่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สป.แนะนำ เพื่อบริษัทรับเหมาเอกชนสามารถเสนอช่องทางที่รัฐบาลสามารถหาแหล่งเงินทุนได้ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณา

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและจราจร ประชุมหารือกับ สป. ประกาศรายละเอียดขั้นตอนดำเนินการให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อเกิดความโปร่งใส


ทั้งนี้ในที่ประชุมยังมีมติขยายเส้นทางสายสีแดง จากเดิมบางซื่อ-รังสิต เป็นพญาไท-ยมราช บางซื่อ-รังสิต เพื่อสามารถเชื่อมต่อกับแอร์พอร์ตลิงก์ โดยให้ประมูลพร้อมกัน 2 สาย เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารหน้า และเชื่อว่าจะใช้เวลาเพียง 3 สัปดาห์ สามารถขายแบบได้ทันที พร้อมกำหนดประกาศยื่นซองการประมูลว่าต้องใช้เวลากี่วัน โดยคณะกรรมการร่างทีโออาร์จะเป็นผู้พิจารณาต่อไป


// ------------------------------------------------------

คลังเล็งหาทุนหนุนสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2549 16:26 น.


กระทรวงการคลังเตรียมหาแหล่งเงินทุนรองรับการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ระบุธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) ให้เงื่อนไขเงินกู้ผ่อนปรน เพราะไม่มีเงื่อนไขเรื่องบริษัทก่อสร้างต้องเป็นของญี่ปุ่น ดอกเบี้ยต่ำ และระยะเวลาผ่อนชำระนาน แต่ข้อสรุปสุดท้ายต้องรอเงื่อนไขการประมูลจากกระทรวงคมนาคมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีก่อน



นายทนง พิทยะ


นายทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลมีมติเร่งก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง แม้ยังอยู่ระหว่างการร่างเงื่อนไขสัญญาการประมูล (ทีโออาร์) ซึ่งกระทรวงคมนาคมกำลังดำเนินการอยู่ และหากสามารถสรุปรูปแบบเงื่อนไขทีโออาร์และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว กระทรวงการคลังก็พร้อมจัดหาแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินต่างประเทศ ซึ่งการระดมทุนเพื่อรองรับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ต้องให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เป็นผู้จัดหาแหล่งเงินทุน ด้วยออกเครื่องมือทางการเงิน ที่เคยดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งเห็นว่าไม่ควรหานวัตกรรมทางการเงินแบบใหม่ที่ยุ่งยาก เพราะต้องการเร่งจัดหาเงินทุน

นายทนง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เจรจากับเจบิกไว้บ้างแล้ว ซึ่งเจบิกได้เสนอเงื่อนไขเงินกู้ผ่อนปรน เพราะไม่ได้กำหนดเงื่อนไขต้องใช้บริษัทก่อสร้างหรือนำเข้าวัสดุก่อสร้างจากญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว ซึ่งที่ผ่านมาเจบิกได้ปล่อยกู้ให้กับไทยด้วยวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน ที่มีอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.75 มีอายุการกู้ยาวนานถึง 40 ปี และมีระยะเวลาปลอดชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยร้อยละ 10 นับว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก แต่การจะกู้เงินจากเจบิกทั้งหมดเต็มจำนวนหรือไม่ ยังไม่สามารถยังบอกได้ เพราะต้องรอดูทีโออาร์ที่กระทรวงคมนาคมจะเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในเร็ว ๆ นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 29/07/2006 6:12 pm    Post subject: Reply with quote

ดูผังการใช้ที่ดินมักกะสันปัจจุบัน โดยคุณ Chad ดูสิครับ
Click on the image for full size

ดูภาพผังแปลนมักกะสันคอมเพล้กซ์สิครับ โดยคุณ Chad

Click on the image for full size

มาเทียบกะภาพกูเกิลเอิร์ธดูเอาก็แล้วกันนะ โดยคุณ Chemon
[img]http://i14.photobucket.com/albums/a307/cHemon2/Makkasan11.jpg [/img]
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 30/07/2006 12:04 am    Post subject: Reply with quote

"สุริยะ" ขี่ "ทักษิณ" ฮุบ1.6 แสนล้าน
กดปุ่มเทิร์นโครงการรถไฟฟ้าแฟนซี 3 สาย
สยามธุรกิจ 29 กรกฎษคม 2549

ทำเนียบรัฐบาล/สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจฯ - “ทักษิณ” หัก “พงษ์ศักดิ์ “ หงอ “สุริยะ” เลิกนั่งหัวโต๊ะประชุมลงทุนรถไฟฟ้า 3 สาย มูลค่า 1.6 แสนล้านบาท แฉประมูลแบบ”เทิร์นคีย์” เป็นกลวิธีทุจริตที่ถูกกฎหมาย และทำงบบานปลายได้มากถึง 1,000% ระบุถ้าต้องการผลักดันให้โครงการสำเร็จต้องจ่ายค่า “ยุ่งยาก”บวกค่าประชาสัมพันธ์อีกบานตะไท ด้านผู้ประกอบการระบุ รูปแบบประมูลไม่ใช่ปัญหา ขอเพียงต้องกำหนดสเปกและให้ชัดเจน

ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานจะพิจารณาการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย โดยนายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าใต้ดินมีความคืบหน้าพอสมควร แต่รายละเอียดปลีกย่อยได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ซึ่งจะต้องมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองก่อน เพื่อให้ได้ข้อสรุปและเสนอเข้าที่ประชุมครม.ต่อไป ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความล่าช้า หรือมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างตนเองกับ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแต่อย่างใด โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการฯร่วมกับนายกรัฐมนตรีในที่ 28 กรกฎาคม นี้

“ทักษิณ”ผวาฤทธิ์”สุริยะ”เลิกล้วงลูก

ด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากปรารภในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคมที่ผ่านมาว่า การพิจารณาก่อสร้างรถไฟฟ้าของรัฐบาลล่าช้ามาก จึงจะมานั่งเป็นประธานพิจารณาเอง ได้สั่งยกเลิกการประชุมหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทางในวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาอย่างกระทันหัน โดยให้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ชุดที่มีนายสุริยะ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงคมนาคมเป็นประธานพิจารณารายละเอียด

สำหรับการลงทุนรถไฟฟ้า 3 สาย มูลค่าประมาณ 1.6 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดร่างขอบเขตเงื่อนไขการลงทุน หรือทีโออาร์ ประกอบด้วย 1.สายสีแดงช่วงพญาไท-ดอนเมือง-รังสิต ระยะทาง 32 กิโลเมตร มูลค่า 4.05 หมื่นล้านบาท 2.สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กิโลเมตร มูลค่า 4.65 หมื่นล้านบาท และ 3. โครงการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน แบ่งเป็นช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 14 กิโลเมตร มูลค่า 4.99 หมื่นล้านบาท และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 13 กิโลเมตร มูลค่า 2.51 หมื่นล้านบาท รวมระยะทางสองสาย 27 กิโลเมตร มูลค่า 7.50 หมื่นล้านบาท

ส่วนวิธีลงทุนได้ข้อสรุปจะใช้วิธีจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (เทิร์นคีย์) ในลักษณะดีไซน์ แอนด์ บิลด์ หรือออกแบบไปก่อสร้างไป โดยรัฐบาลเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินทุนให้ แต่เปิดโอกาสให้เอกชนเสนอแหล่งเงินทุนมาให้พิจารณาได้ เพื่อเปรียบเทียบข้อเสนอทางการเงินแล้วเลือกแนวทางที่ดีที่สุด คาดจะเปิดเชิญชวนได้เอกชนดำเนินการในเดือนสิงหาคมนี้

แฉประมูล”เทิร์นคีย์”ทุจริตถูกก.ม.

ด้าน รศ.ต่อตระกูล ยมนาค อดีตประธานคณะทำงานติดตามและศึกษาปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ตป.) สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) เปิดเผย “สยามธุรกิจ”ว่า เมื่อ 4 ที่ผ่านมา สภาที่ปรึกษาฯ ได้เสนอข้อดีและข้อเสียของการประมูลโครงการด้วยวิธีเทิร์นคีย์ให้กับรัฐบาลไปแล้ว และให้รัฐชะลอโครงการที่จะประมูลด้วยวิธีออกไปก่อนจนกว่าจะมีระเบียบที่เข้มงวดออกมารองรับ

อย่างไรก็ตาม ตนไม่เข้าใจตอนนี้รัฐกลับมาเปิดประมูลรถไฟฟ้าด้วยวิธีเทิร์นคีย์อีก ซึ่งผลเสียของการประมูลวิธีนี้คือ การเร่งรัดจากการทางเมืองจะเป็นการเปิดช่องให้เกิดการทุจริต คอร์ปรัปชั่นที่ถูกกฎหมาย ไม่สามารถกำหนดหลักเกณฑ์ควบคุมงานได้ เนื่องจากผู้รับเหมาจะเป็นผู้ทำหน้าที่ออกแบบเอง ก่อสร้างเอง และควบคุมงานเองด้วย รัฐมีหน้าที่รอรับงานเพียงอย่างเดียว

“ในความเป็นจริงไม่ว่าจะออกระเบียบเข้มงวดมารอบรับยังไง ถ้าการเมืองและสถานการณ์การเมืองบ้านเมืองไม่พร้อมอย่างนี้ ถึงแม้ว่าจะขั้นตอนจะทำถูกก็จะมีประชาชนร้องเรียน เกิดการประท้วง ซึ่งจะทำให้เกิดอุปสรรคตามมาอย่างแน่นอน”

รศ.ต่อตระกูล กล่าวด้วยว่า การประมูลแบบเทิร์นคีย์ก็ถือว่ามีความอันตรายมาก แม้ว่าข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นคนดี แต่ถ้ามีนักการเมืองไม่ดีเข้าไปเกี่ยวข้องก็ทำให้เกิดการทุจริตได้เหมือนเดิม ที่ผ่านมาการประมูลวิธีนี้จะทำให้ค่าก่อสร้างบานปลาย เพราะการก่อสร้างเป็นลักษณะออกแบบไปก่อสร้างไป ทำให้ไม่สามารถควบคุมงานได้ ซึ่งมีตัวอย่างหลายโครงการที่ผ่านมาที่ค่าก่อสร้างบานปลาย เช่น ทางด่วนบางนา-บางประกง ค่าก่อสร้าง 2.5 หมื่นล้านบาท ได้บานปลายออกไป 6 พันล้าบาท หรือเพิ่มขึ้น 24%

โครงการก่อสร้างบ่อบำกัด คลองด่าน ที่สมุทรปราการ ค่าก่อสร้างได้ตั้งงบไว้ 2 พันล้านบาท งบได้บานปลายออกไปเป็น 2 หมื่นล้าบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,000%

“การเปิดประมูลด้วยวิธีเทิร์นคีย์ผู้รับเหมาจะต้องเตรียมงบ “ยุ่งยาก”ไว้สูงมาก บวกกับงบประชาสัมพันธ์โครงการอีกมหาศาล การก่อสร้างโครงการถึงจะสำเร็จได้”

“โคทม”ชี้เทิร์นคียังมีช่องโหว่

นายโคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวระหว่างการเปิดสัมมนาเวทีสาธารณะเรื่อง “การจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จโครงการรถไฟฟ้า 3 สายทาง” ร่วมกับผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจง โดยยอมรับว่าการสร้างรถไฟฟ้าจะอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเกิดการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์บริเวณรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน แต่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะใช้เงินลงทุนถึง 200,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีข้างหน้า หากสภาที่ปรึกษาฯ เห็นว่าเลือกใช้ระบบการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จหรือเทิร์นคีย์นับว่ายังมีช่องว่างขาดการรัดกุม เพราะจะทำให้ได้งานที่ไม่ตรงตามสเปกหรือไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีผลต่องบประมาณผูกพันและอาจมีจุดอ่อนจากเงื่อนไขตามซองด้านเทคนิค ซึ่งอาจไม่เป็นธรรมกับผู้ร่วมประมูล โดยเฉพาะผู้ประมูลอาจปรับเปลี่ยนเส้นทางระหว่างการก่อสร้างได้ รวมถึงการวางหลักประกันสัญญาจ้างร้อยละ 10 ของงานทั้งหมด แต่ผู้รับเหมาสามารถเบิกเงินล่วงหน้าได้ถึงร้อยละ 15 ซึ่งหากงานไม่เสร็จอาจเกิดปัญหาทิ้งงานได้ เมื่อรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายแล้วจะจัดประชุมสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ เพื่อหาข้อสรุปและเสนอแนวทางการคัดเลือกผู้รับเหมาต่อรัฐบาลให้นำไปพิจารณาต่อไป

การรถไฟฯยันเทิร์นคีย์เหมาะสุด

ขณะที่นายถวิล สามนคร รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ในส่วนของ รฟท.ซึ่งรับผิดชอบก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงจากช่วงบางซื่อ-รังสิต เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร มูลค่าลงทุนเบื้องต้น 38,600 ล้านบาท และช่วงบางซื่อตลิ่งชันยาว 15 กิโลเมตร เงินลงทุน 14,800 ล้านบาท ซึ่งทาง รฟท.ได้เรียกใช้วิธีการประมูลจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ หรือเทิร์นคีย์ เพราะคิดว่าผู้รับเหมาคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางได้มากนัก เนท่องจากมีการกำหนดเส้นทางไว้ชัดเจน

ดังนั้น การจ้างเหมาแบบเทิร์นคีย์จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะในเบื้องต้นรัฐบาลต้องการรับเหมาด้วยวิธีดังกล่าว ซึ่งเอกชนจะเป็นผู้หาเงินทุนทั้งหมด ในส่วนของการรถไฟที่ได้จัดทำ TOR ของสายสีแดงนั้นเป็นไปในลักษณะ TURN KEY คือจะให้ผู้รับเหมาจัดหาเงินลงทุนมาก่อนแล้วทางการรถไฟจะชำระคืนการจัดสร้างพร้อมดอกเบี้ยในภายหลัง เพราะฉะนั้นแบบที่ทางการถไฟได้ทำการออกแบบไว้อาจจะใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นความจำเป็นแบบหนึ่งที่จะต้องในวิธีการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จเพราะจะต้องให้ผู้รับจ้างออกแบบและก่อสร้างพร้อมกันไปส่วนที่แตกต่างจาก รฟท. คือแทนที่จะเป็นการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ DESING AND BUILT ก็จะเป็นในลักษณะของ TURN KEY ชึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่ชัดเจนแน่นนอนถ้าเราจะดำเนินการในขันตอนนี้เพราะว่ายังจะต้องนำเสนอเข้าไปในคณะ ครม . ซึ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการกร่อนกรองรวมทั้งความเห็นชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางรัฐบาลเองรวมทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณอาจจะเห็นได้ว่าวิธีการในการหาเงินทุนอาจจะมีวิธีการอย่างอื่นที่ต้นทุนถูกกว่า อาจจะมีข้อเสนอให้เปลี่ยนแปลงวิธีการได้

รฟม.เน้น Design and Built

ด้านนายเยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว รักษาการ รฟม. กล่าวว่า ทาง รฟม.ซึ่งรับผิดชอบก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 14 กิโลเมตร เป็นทางยกระดับ 9 กิโลเมตร และอุโมงค์ใต้ดิน 5 กิโลเมตร รวมกับอุโมงค์ใต้น้ำเจ้าพระยา 1 อุโมงค์ และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งเป็นทางยกระดับ 13 กิโลเมตร รวมกับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 1 สะพาน วงเงินเบื้องต้น 62,346 ล้านบาท โดยทาง รฟม.ได้เลือกใช้การก่อสร้างแบบเทิร์นคีย์ แต่เป็นลักษณะ Design and Built ซึ่งเป็นโครงการที่มีเงินลงทุนสูงและใช้เทคโนโลยีพิเศษ โดยสามารถจัดทำโครงการได้หลายรูปแบบ และส่วนใหญ่เป็นโครงการใหม่ที่ไม่เคยดำเนินการมาก่อน จึงต้องมีความรู้ความสามารถและใช้เทคโนโลยีพิเศษ โดยรัฐจะทยอยจ่ายเงินลงทุนตามความคืบหน้าของงวดงาน โดยผู้รับเหมาก่อสร้างเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด และจะไม่เกิดปัญหาเรื่องการก่อสร้างกับการออกแบบ เพราะเป็นผู้ดำเนินการคนเดียวกัน แม้จะมีข้อเสียเรื่องความเสี่ยงทั้งหมดที่ถูกโอนไปยังผู้รับเหมา ซึ่งอาจจะทำให้มีการบวกค่าก่อสร้างในราคาสูง แต่เมื่อมีการแข่งขันในการประมูลหลายรายก็จะทำให้ราคาถูกลงได้

โครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จเป็นการดำเนินงานควบคู่กับการการสำรวจออกแบบตลอดจนการก่อสร้างโดยสมบูรณ์รวมทั้งการบำรุงลักษาในช่วงเริ่มต้นโครงการ โดยผู้รับจ้างรายเดียวซึ่งมี3ลักษณะ ประกอบด้วย

1.การจ้างออกแบบควบคู่กับการก่อสร้าง (Design and Built) คือโครงการที่มีเงินลงทุนและเทดโนยโลยีสูงสามารถจัดทำได้หลายรูปแบบส่วนใหญ่เป็นโครงการใหม่ไม่เคยดำเนินการมาก่อน จึงจำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาที่มีความรู้ความสามารถและเทคโนโลยีพิเศษและมีรูปแบบการชำระเงินตามความก้าวหน้าของงานเป็นงวดๆเป็นหนึ่งในการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ

2.การจ้างก่อสร้างพร้อมจัดหาเงินทุน (TURN KEY) คือโครงการที่จัดหาบริษัทรับเหมาก่อสร้างดำเนินการจนแล้วเสร็จจึงจะชำระเงิน ผู้ระบเหมาจะต้องจัดหาแห่เงินทุนเองโดยผู้รับเหมาจะต้องมีวงเงินในการอ้างอิงไว้ประกอบการพิจารณาด้วย

3.การจ้างออกแบบควบคู่กับการก่อสร้างพร้อมกับการจัดหาเงินทุน (Design and Built TURN KEY)เป็นโครงการที่ใช้รูปแบบทั้งข้อ1+2โดยผู้รับเหมาเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างไปพร้อมกันและขณะเดียวกันก็จัดหาเงินลงทุนมาดำเนินโครงการด้วย

ทั้งนี้ ทางรฟม .ต้องการที่จะดำเนินการแบบ Design and Built โดยรัฐจ่ายเงินเป็นงวดๆเงินมาจากสำนักงบระมาณส่วนหนึ่งและจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง แต่ว่าเปิดโอกาสให้ผู้ยื่นข้อเสนอทางการเงินที่คาดว่าเห็นว่าดีเราก็จะดำเนินการ สาเหตุที่เลือก Design and Built เพราะว่างานระบบไฟฟ้าเป็นงานที่เรายังไม่มีความชำนาญเพียงพอที่จะดำเนินการและงาน Design and Built มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรเมือเทียบกับการก่อสร้างตามปกติงานก่อสร้างตามปกติเราจะให้ที่ปรึกษามาทำการออกแบบลาดละเอีดยเสร็จแล้วก็ออกแบบรายลเอียดไปให้ผู้รับเหมาตีราคาและจัดทำสัญญาการก่อสร้างกันแบบ Design and Built เหมือนกับของเราคือเราจะทำการออกแบบค้าวๆอย่างละเอียดจะบอกความต้องการของเราไปอย่างชัดเจน และให้ผู้รับเหมาออกแบบให้สอดคล้องกับการออกแบบเบี้องต้นของเรา อันนี้คือสิ่งที่เรียกว่า Design and Built

“ปกติเวลาออกแบบถ้าเป็นโครงการที่ยุ่งยากอย่างรถไฟฟ้านี้มันมีหลายระบบมีงานโยธา วารราง มีระบบอานัติสัญญาณมีงานรถไฟฟ้าระบบเพาร์เวอร์ซัพพลาย ระบบเทเลคอมมิวนิเคชั่น ถ้าเราออกแบบเองเราต้องประสานงานกับซัพพลายเออร์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานาน เราคิดว่าน่าจะหาคนที่มีประสบการณ์ในการที่จะมาออกแบบ เพราะผู้รับเหมาแต่ละบริษัทเขาก็จะมีประสบการณ์ในการออกแบบ ความจริงสามารถที่จะออกแบบให้สอดคล้องกับความชำนาญของเขาก็จะมีความชำนาญในการออกแบบอย่างนี้ว่าออกแบบอย่างนี้สร้างแบบนี้ง่ายกว่าถูกกว่าจากประสบการณ์ของเขา ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแข่งขันการออกแบบ Design and Built เป็นการประกวดการออกแบบไปด้วยอีกทางหนึ่ง เราบอกสิ่งที่เราต้องการไปให้เขาแล้วให้เขาออกแบบมาแข่งขันกันแต่ต้องเป็นแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของเรา ข้อดีอีกอย่างคือระหว่างการดำเนินงานความรับผิดชอบไปอยู่ที่ผู้รับเหมาในเรื่องของการออกแบบทั้งสิน อย่างเช่นการทำงานที่ผ่านมาที่มีปัญหามากที่สุดคือระบบสาธารณูประโภค ถ้าเราออกแบบรายละเอียดเองยังไงก็ไม่สามารถควบคุมได้มีการเปลียนแปลงแบบเพื่อให้สอดคล้องกับสาธารณูประโภคต้องมีการย้ายสาธารณูประโภคมากมายสิ่งเหล่านี้ถ้าเราสามารถที่จะยกให้เป็นภาระของผู้รับเหมาได้ปัญหาก็จะไม่เกิดกับเจ้าของงาน”นายเยี่ยมชายกล่าว

สำหรับข้อเสียคือ เป็นการเอาความเสี่ยงไปไว้ที่ผู้รับเหมาเพราะฉะนั้นเขาจะมาเรียกร้องเงินเพิ่มเติมไม่ได้ ฉะนั้นผู้รับเหมาจึงอาจคิดค่าความเสี่ยงเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมา แต่เมื่อรวมแล้วจะเป็นราคาตายตัวงบไม่บานปลายและผู้รับเหมาไม่สามารถบวกค่าความเสี่ยงได้มากเพราะเป็นการประกวดราคาที่มีการแข่งขันอย่างแท้จริง แต่ละผู้ยื่นข้อเสนอไม่สามารถที่จะบวกค่าความเสี่ยงเข้าไปตามอำเภอใจได้ บริษัทไหนมีความสามารถในการบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่ามีประสบการณ์มากกว่ามองรู้ว่าตรงไหนมีความเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยเขาก็สามารถที่จะลดค่าใช่จ่ายได้ และข้อเสียอีกอย่างคือเนื่องจากยังไม่มีแบบรายละเอียด อาจมีปัญหาเรื่องการพิจารณาค่าจ้างที่เหมาะสมเพราะไม่มีแบบแล้วจะพิจารณาค่าจ้างที่เหมาะสมได้อย่างไร และความเสี่ยงอีกประการคือผู้รับเหมาพยายามที่จะลดคุณภาพในการก่อสร้างเพื่อกำไรมากขึ้น หรือเพื่อไม่ให้ขาดทุน ถ้ามีการกำหนดไว้กว้างเขาจะลดคุณภาพเองผู้รับเหมาอาจจะใช้วิธีการใช้วัสดุทดแทนในการก่อสร้างแต่ถ้ากำหนดให้ชัดเจนก็จะลดปัญหาตรงนี้ได้
เสนอแยกงานประมูล

เสนอแยกประมูลหาสิ่งที่ดีกว่า

ส่วนนายวิสุทธิ์ เจตสันติ์ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ในเรื่องของรถไฟฟ้าควรจะแยกการประมูลออกเป็นเรื่อง ๆ ในส่วนของโยธาเราก็เลือกวิธีแบบ Design and Built คือ Design แล้วเอามาประมูลเพื่อหาผู้รับจ้างในลักษณะของทางเดินรถไฟฟ้า ชึ่งปกติแล้วมันเป็นการไปละเมิดสิทธิของเจ้าของที่ดิน จะต้องมีการเวรคืน เพราะฉะนั้นความยากลำบากที่จะต้องไปเวรคืนจึงไปทำที่กลางถนน ระบบที่ให้เอกชนรับผิดชอบทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ เพราะมีผลกระทบต่อประชาชน การทำงานของ BTS มีแรงต่อต้านในทุกรูปแบบนานกว่า 5ปี ถึงได้เริ่มการก่อสร้าง ถ้ารัฐสามารถที่จะร่วมมือกับเอกชนแก้ไขปัญหาในเรื่องผลกระทบต่างๆ เหล่านี้ได้ก็เป็นการประมูลในรูปแบบ Design And Built หรือมีแบบแล้วค่อยไปหาผู้รับเหมาไม่ใช่เรื่องสำคัญ ในการก่อสร้างรัฐจะต้องทำความเข้าใจกับประชานได้ง่ายกว่าที่จะให้เอกชนหรือผู้รับเหมาไปทำความเข้าใจกับเจ้าของที่ดินหรือผู้ได้รับผลกระทบ เพราะฉะนั้นเรื่องวิธีการไม่ใช่เรื่องสำคัญ จะประมูลแบบไหนวิธีไหนก็หาคนที่เข้าไปกำกับดูแลให้ดีให้มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นและความโปร่งใสเกิดขึ้น

ในส่วนของการที่จะจัดหาตัวรถไฟฟ้าก็เหมือนกันจะต้องไม่ใช่เป็นการประมูลเหมือนการก่อสร้าง ชอบรถระดับไหนต้องการสมรรถนะแค่ไหนสามารถกำหนดได้และก็ไปเลือกชื้อได้ ตนขอยืนยันว่า สามารถแยกการประมูลระหว่างระบบเครื่องกลไฟฟ้าคือตัวรถ กับระบบโครงสร้างโยธาได้

ขณะที่นายวัชระ แสงหะวัฒนา ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบการในเรื่องของ Design And Built ทางบริษัทก็เคยได้ดำเนินการมาหลายโครงการ ถามว่ามีความเหมาะสมกับโครงการขนายใหญ่แบบนี้หรือไม่ Design And Built ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ก็มีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะต้องทำให้เป็นโครงการ Design And Built ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ ที่สำคัญคือเจ้าของงานต้องบอกความต้องการที่ชัดเจน และให้เวลาในการเตรียมงานให้เหมาะสม ทางเจ้าของงานก็จะได้ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ที่เหมาะสม ก็สามารถที่จะได้โครงการที่กำหนดไว้ นั้นคือ Design And Built
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 31/07/2006 3:01 am    Post subject: Reply with quote

'สุริยะ' รื้อทีโออาร์ยกเลิกเทิร์นคีย์
Thairath - July 31, 2006


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 เพื่อพิจารณาจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) รถไฟฟ้า 3 เส้นทาง คือ สายสีแดง สีน้ำเงิน และสีม่วง โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม ผู้แทนจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) ผู้แทนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างทีโออาร์โครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทางที่จะเสนอให้เอกชนที่สนใจเข้ามาประมูลใช้รูปแบบการออกแบบควบคู่การก่อสร้าง หรือ Design and Build ตามข้อเสนอของ สป. และสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จัดหาเงินลงทุนเอง และยืนยันว่าจะไม่นำระบบการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จหรือเทิร์นคีย์ที่กำหนดให้เอกชนเป็นผู้ก่อสร้างและจัดหาแหล่งเงินทุนมาใช้ ซึ่งหลักการ
ที่สรุปจะนำเสนอที่ประชุม ครม.วันที่ 1 ส.ค.นี้


นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม กล่าวว่า สาเหตุที่เปลี่ยนรูปแบบการประมูลมาใช้วิธีการออกแบบควบคู่ไปกับการก่อสร้าง เพื่อป้องกันการผูกขาดให้กับผู้รับเหมาบางราย และเพื่อเปิดกว้างให้กับผู้รับเหมาทั่วไป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และให้ขยายเส้นทางสีแดงจากเดิม บางซื่อ-รังสิต เป็นขยายช่วงพญาไท-ยมราช-บางซื่อ เพื่อเชื่อมโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ไปยังดอนเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ประชุมคณะกรรม-การกลั่นกรองฯ ว่า ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นเรื่องความเหมาะสมที่รัฐบาลรักษาการจะดำเนินโครงการขึ้นมาพิจารณา ซึ่งนายสุริยะเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดประโยชน์ และเชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาสานต่อโครงการ


ด้าน นายทนง พิทยะ รมว.คลัง กล่าวว่า มีความพร้อมเต็มที่ในการที่จะระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย ภายจากหลังที่ ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอเกี่ยวกับข้อยุติของร่างเงื่อนไขสัญญาการเปิดประมูล หรือทีโออาร์ ในช่วงที่ผ่านมาคลังได้เตรียมความพร้อมโดยได้ติดต่อธนาคารเพื่อความร่วมระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือเจบิค เพื่อเป็นแหล่งระดมเงินทุนในโครงการดังกล่าว

“ที่ผ่านมาเจบิคได้ปล่อยกู้ในโครงการก่อสร้างพื้นฐานให้กับประเทศไทยหลายแห่ง เช่น สนามบินหนองงูเห่า และโครงการรถไฟฟ้าสายแรก เป็นวงเงินหลายหมื่นล้านบาทแล้ว และถ้าจะกู้เงินจากเจบิคเพื่อใช้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าอีก 3 สาย ก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะอัตราที่เจบิคกู้นั้นผ่อนปรนมากๆ และไม่มีเงื่อนไขหรือพันธะใดๆในการใช้บริษัทก่อสร้าง หรือวัสดุก่อสร้างจากญี่ปุ่น”


นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กล่าวว่าโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ถือเป็นโครงการที่ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นโครงการที่เจบิคให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.75% ต่อปี มีระยะเวลาปลอดชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 10 ปี และกู้เงินได้ยาวถึง 40 ปี โดยเบื้องต้น คาดว่าโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย จะใช้เงินก่อสร้างทั้งหมด 200,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ จะกู้เงินจากเจบิค 40% ของจำนวนเงินก่อสร้าง หรือประมาณ 80,000 ล้านบาท อีก 120,000 ล้านบาทที่เหลือ จะเป็นกู้เงินภายในประเทศด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงินกู้เฉลี่ยตั้งแต่ 5 ปี จนถึง 20 ปี โดยจะทยอยออกพันธบัตรรัฐบาลเป็นงวดๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงิน เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยมาเป็นภาระกับงบประมาณมากนัก


“ตอนนี้ สำนักหนี้ฯได้ดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินของเจบิคไว้เรียบร้อยแล้ว และทางเจบิคก็พร้อมที่จะปล่อยกู้ได้ทันที ที่ไทยมีทีโออาร์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าในวันอังคารที่ 1 ส.ค. กระทรวงคมนาคมน่าจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้ ครม.อนุมัติ และหลังจากนั้น กระทรวงการคลังจะรับเรื่องดังกล่าวมาดำเนินการทันทีโดยเป็นการใช้จ่ายของงบลงทุนปี 2550 ที่ผูกพันมาจากปี 2549”.

// --------------------------------------------------

เออ, ไม่ต้องใช้ผู้รับเหมาญี่ปุ่นกะซื้อ และ เช่า เครื่องจักรญี่ปุ่รนก็จริงว แต่ก็ไม่พ้นแบบรรมเนีมคือต้องใช้ Supplier ที่เป็นพันธมิตรกะญี่ปุ่นถึงจะไปได้สวยน่อ Embarassed Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 01/08/2006 8:09 pm    Post subject: Reply with quote

เอาหละ ครม. อนุมัติแผน ก่อสร้าง 3 สายแล้วน่อ ดูข่าวนี้สิครับ
เอาเป็นว่า รถไฟชุมชนสนามบินจะยาวถึง 60 กิโลเมตร (รังสิต - บางซื่อ - พญาไท - มักกะสันใหม่ สุวรรณภูมิ) ... แต่รถไฟด่วนสนามบินจะเชื่อมดอนเมืองกะสุวรรณภูมิหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ชัด

// -----------------------------------------------------
ครม.สั่งเดินหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายทาง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2549 17:39 น.

คณะรัฐมนตรีไฟเขียวเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า 3 สายทาง ระบุจะยึดวิธีออกแบบควบคู่การก่อสร้าง หรือ Design and Build และจัดจ้างด้วยวิธีการประกวดราคาแบบนานาชาติ พร้อมสั่งกระทรวงการคลังไปจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ขณะที่ 'พงษ์ศักดิ์' แจงต่อ ครม.ใช้เงินสร้างสนามบินสุวรรณภูมิทั้งสิ้น 113,774 ล้านบาท


น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอให้ ครม.พิจารณาโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งสายสีม่วง สายสีน้ำเงิน และสายสีแดง ซึ่งวันนี้กระทรวงคมนาคมได้มีการนำเสนอเข้าไปสู่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม. คณะที่ 2 ฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีรองนายกฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานคณะกรรมการกลั่นกรองชุดนี้ ซึ่งได้มีการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา และได้มีประเด็นในแง่ของการอภิปราย ทั้งในส่วนของรายละเอียด ทั้งที่มาจากกระทรวงคมนาคม และในส่วนของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งได้ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายทาง ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีรายละเอียดที่มากพอสมควร และคณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ 2 ได้มีมติดังต่อไปนี้

ข้อแรก ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร และสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 27 กิโลเมตร และให้ดำเนินการประกวดราคาในลักษณะของการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ โดยให้ออกแบบรายละเอียดและก่อสร้างไปพร้อมกัน หรือ Design and build ซึ่งเป็นไปตามที่สภาที่ปรึกษาฯ ได้เสนอ และดำเนินการจัดจ้างด้วยวิธีการประกวดราคาแบบนานาชาติ

ซึ่งสำหรับการคัดเลือกผู้รับเหมา ก็จะพิจารณาภายใต้เงื่อนไขราคาค่าก่อสร้าง ระยะเวลาก่อสร้าง รูปแบบวิธีการก่อสร้าง และข้อเสนอด้านการเงิน ซึ่งจะรวมถึงข้อเสนอการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือบาร์เตอร์เทรด แบบไม่เต็มจำนวนด้วย โดยที่ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ภายใต้กรอบวงเงินลงทุนค่าก่อสร้างงานโยธาและระบบรถไฟฟ้า 103,136 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้ผู้ยื่นข้อเสนอจัดทำข้อเสนอด้านการเงินมาประกอบการพิจารณาด้วย

ข้อสอง อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงพญาไท-ยมราช-บางซื่อ-ดอนเมือง-รังสิต ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแอร์พอร์ตลิงก์ส่วนขยาย ที่ ครม.ได้เคยอนุมัติเส้นทางไว้แล้ว ให้ดำเนินการการประกวดราคาในลักษณะการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ โดยให้ออกแบบรายละเอียดและก่อสร้างไปพร้อมกัน คือ Design and build เหมือนกัน และดำเนินการจัดจ้างด้วยวิธีการประกวดราคาแบบนานาชาติ ซึ่งการคัดเลือกผู้รับเหมาจะพิจารณาภายใต้เงื่อนไขราคาค่าก่อสร้าง ระยะเวลาก่อสร้าง รูปแบบวิธีการก่อสร้าง และข้อเสนอด้านการเงิน ซึ่งรวมถึงข้อเสนอการแลกเปลี่ยนสินค้าแบบไม่เต็มจำนวนด้วย

โดยสำนักงบประมาณจะจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง และกระทรวงการคลังก็จะจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมและค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ภายใต้กรอบวงเงินลงทุนค่าก่อสร้าง งานโยธา และระบบเดินรถ รวมทั้งจัดหาตัวรถ รวมทั้งค่ารื้อย้ายสาธารณูปโภคภายในวงเงิน 42,300 ล้านบาท ในส่วนนี้คือวงเงิน 42,300 ล้านบาท ทั้งนี้ให้ผู้ยื่นข้อเสนอจัดทำข้อเสนอด้านการเงินประกอบการพิจารณามาด้วย

ข้อสาม ให้ทั้ง รฟม. และ รฟท. ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวโดยยกเว้นขั้นตอน การดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของคู่มือการพิจารณาการจ้าง โดยกระทรวงการคลัง และให้ยกเว้นการดำเนินการตามขั้นตอนในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ 2549 เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินการตามขั้นตอนของการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งในส่วนนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการอภิปรายถึงเรื่องเกี่ยวกับที่มาของแหล่งเงินกู้ แต่ยังไม่มีข้อสรุป ก็ถือเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังจะได้ไปจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมต่อไป

เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่ใช่ระบบสัมปทาน เพราะในช่วงอดีตที่ผ่านมาที่มีการทำโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนนั้น รัฐลงทุนสร้างถึงแสนกว่าล้าน แต่เอกชนมาเดินรถโดยใช้เงินหมื่นกว่าล้าน แต่เป็นผลทำให้รัฐไม่สามารถกำหนดราคาค่าโดยสารได้ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ถึงเป็นระบบจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ เพื่อที่รัฐจะสามารถกำหนดราคาค่าโดยสารในอนาคตได้ ตามนโยบายที่จะให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในการโดยสาร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 09/08/2006 11:55 pm    Post subject: Reply with quote

แอร์พอร์ตลิงค์เข็นไม่ขึ้นคืบแค่ 38% รับเหมาจุกเบิกจ่ายไม่ได้ร่วมพันล.
ฐานเศรษฐกิจ 10-12 สิงหาคม 2549

แอร์พอร์ตลิงค์ สะเทือนหนักต้องเลื่อนแผนเปิดใช้ถึง 1 ปี "การรถไฟฯ" รับมีส่วนทำให้งานช้า เพราะยังส่งมอบพื้นที่ได้ไม่ครบ โดยเฉพาะบริเวณถนนราชปรารภ อ้างชาวบ้านเรียกร้องเงินค่าชดเชยเพิ่มร่วม 20 ล้าน ประกอบกับต้องตามแก้ปัญหาเสาตอม่อ-คานร้าว ฉุดงานช้ากว่าแผนถึง 18.52% เผยยังไม่เซ็นรับงานร่วม 1 พันล้าน หวั่นกระทบสภาพคล่องของผู้รับเหมา ด้านซิโน-ไทย รับมีผลกระทบต้นทุนเพิ่ม แต่ยังคุมได้ วอนไฟเขียวขยายเวลาเพิ่ม เพื่อเร่งงานด่วน


แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link Project) ช่วงพญาไท-มักกะสัน/อโศก-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 28 กิโลเมตร เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ว่าขณะนี้ผลงานความก้าวหน้าในการก่อสร้างโครงการ ระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link Project) ช่วงพญาไท-มักกะสัน/อโศก-สุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ มีผลงานความคืบหน้ารวมเพียง 38% จากแผนงานที่กำหนดไว้ที่ 56.52%


โดยแบ่งเป็นความคืบหน้าในส่วนของงานด้านโยธา ที่ทำได้จริง 24% จากแผนงานที่กำหนดว่าจะต้องมีผลงาน 40% ขณะที่งานระบบอาณัติสัญญาณ ทำได้จริงเพียง 41% จากแผนงานที่กำหนดว่าจะต้องได้ผลงานถึง 65% ส่งผลให้ภาพรวมการก่อสร้างมีความล่าช้ากว่าแผนอยู่ถึง 18.52%


อย่างไรก็ดี นี่เป็นผลงานที่เป็นไปตามผลการตรวจรับงาน ถึงเมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย.49 ที่ผ่านมา ยังไม่ได้นับรวมกับผลงานในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ถึงสิ้นเดือน ก.ค.49 แต่คาดว่าเมื่อนับรวมกับผลงานที่อยู่ระหว่างรอการตรวจรับงานจากคระกรรมการตรวจรับงาน ก็คาดว่าผลงานจะคืบหน้าไม่มากนัก แหล่งข่าวกล่าวชี้แจง


สำหรับสาเหตุที่ทำให้ล่าช้านั้น แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวว่า ยังคงเป็นปัญหาเดิมๆ นั้นคือปัญหาที่เกิดจากทั้งฝ่ายผู้รับเหมาก่อสร้างเอง คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ต้องตามแก้ปัญหาเสาต่อม่อ-คาน ที่มีรอยร้าว ซึ่งในส่วนนี้เชื่อว่าส่งผลต่อสถานะทางการเงินของบริษัทพอสมควร เนื่องจากมีคานที่ติดตั้งไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เซ็นรับงานและจะต้องทำการหล่อติดตั้งใหม่ คิดเป็นเงิน 200 ล้านบาท เมื่อรวมกับคานที่หล่อเตรียมติดตั้งอยู่ในขระนี้ กับเสาตอม่อที่ต้องปรับแก้ไข และที่ต้องทุบทิ้งและทำให้อีก 2 ต้น วงเงินที่ทางบริษัทยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้จะสูงถึงประมาณ 1 พันล้านบาท


ด้านแหล่งข่าวรายหนึ่งจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้กล่าวรับว่า ขณะนี้การรถไฟฯ เองมีส่วนทำให้โครงการล่าช้าด้วย เนื่องจากว่ายังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ทั้งหมด ที่ยังเหลืออยู่คือชุมชนคลองตัน ที่กำลังอยู่ระหว่างการรื้อบ้าย คาดว่าจะออกจากพื้นที่ได้ทั้งหมดภายในวันที่ 15 ส.ค.49 นี้ ส่วนพื้นที่ชุมชนเดชา ยังไม่สามารถกำหนดแน่นอนได้ เนื่องจากมีปัญหาเรือ่งการตกลงราคาค่าชดเชย ซึ่งโดยรวมแล้วชุมชนที่ถูกรื้อย้ายได้มีการเรียกร้องเงินค่าชดเชยจากเดิมกำหนดไว้ 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นรวมเป็นงินอีก 20 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถจัดหามาจ่ายให้ครบได้


ส่วนเรื่องการขอขยายเวลาจากที่ผู้รับเหมาก่อสร้างเสนอมานั้น ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ว่าจะให้หรือไม่อย่างไร ซึ่งคงจะพิจารณา เป็นกรณี ดูที่เหตุและผลของความล่าช้า และอนุมัติให้ขยายเวลาเป็นกรณี จะไม่อนุมัติตามเวลาที่ผู้รับเหมาเสนอมาทั้งหมด ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาพิจารณาอีกนานพอสมควร เพราะต้องให้ทั้งฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายการทำสัญญา ร่วมกันพิจารณาให้รอบคอบ แหล่งข่าวกล่าว


ขณะที่ นายวรพันธ์ ช้อนทอง กรรมการรองผู้จัดการสายการเงินและบริหาร บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าจากปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นนั้นมีมีผลกระทบต่อการเบิกจ่ายเงินพอสมควร แต่ไม่ใช่ปัญหาหลักต่อการก่อสร้าง เนื่องจากการเบิกจ่ายยังคงเป็นไปตามงวดงาน ที่ล่าช้าก็จะมีในส่วนที่ทางผู้ตรวจรับงานตัดทอนการเบิกจ่ายให้ไปเบิกจ่ายในงวดถัดไป


ขณะที่ในส่วนของปัญหาของโครงสร้างเสาตอม่อที่ตรวจพบว่ามีรอบร้าว จำนวน 12 ต้นก็ได้มีการปรับแก้ไขแล้ว 9 ต้น คงเหลืออีกเพียง 3 ต้นที่ยังอยู่ในระหว่างการแก้ไข ซึ่งต้องใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการรวมเพียงแค่ 3 ล้านบาทเท่านั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสถานทางการเงินของโครงการแต่อย่างใด


"ทั้งจากปัญหาความล่าช้า ผลกระทบจากราคาน้ำมัน ราคาค่าขนส่งและวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น ยอมรับว่าส่งผลให้ต้นทุนของโครงการสูงขึ้นอย่างแน่นอน แต่คงไม่สามารบอกได้ว่าเพิ่มขึ้นเท่าใด อย่างไรก็ดีทางบริษัทจะพยายามเร่งการก่อสร้างให้เร็วขึ้นเพื่อควบคุมต้นทุนไม่ให้ได้รับผลกระทบมากนัก อีกทั้งเพื่อให้ก่อสร้างแล้วเสร็จได้เร็วด้วย"


กรรมการรองผู้จัดการสายการเงินและบริหาร บมจ.ซิโน-ไทย กล่าวต่อด้วยว่า จากที่ทางบริษัทฯ ได้เสนอขอขยายเวลาการก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากการรถไฟฯ เจ้าของงานว่าจะอนุมัติให้หรือไม่ ซึ่งไม่ได้รับการชี้แจงว่าเหตุใดจังยังไม่มีการพิจารณา อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่างานก่อสร้างคงจะล่าช้าจากกำหนดในสัญญาประมาณ 1 ปี แต่ก็ขอยืนยันว่าปัญหาหลักไม่ได้มาจากทางบริษัทฯ เพียงฝ่ายเดียว แต่ในส่วนของการรถไฟฯ เองก็มีส่วน เนื่องจากส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างให้ล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องหารือร่วมกันต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ARL) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 159, 160, 161  Next
Page 2 of 161

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©