View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 23/06/2006 3:57 pm Post subject: |
|
|
อ้อนBMCLถกซีเมนส์ฯปลดล็อกเดินรถไฟฟ้า
Thai Post 23 มิถุนายน 2549 กองบรรณาธิการ
"พงษ์ศักดิ์" เรียกบีเอ็มซีแอล-รฟม.ถกค่าโดยสารรถไฟฟ้า 3 สายก่อนเปิดประมูล วานอ้อน "ซีเมนส์" ปลดล็อกระบบเดินรถ หวังกดราคาถูกลง 10 รายจ้องประมูลระบบเก็บค่าผ่านทาง กทพ. 3 พันล้านบาท
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 23 มิ.ย. ได้เรียกบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ "บีเอ็มซีแอล" และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หารือเกี่ยวกับค่าโดยสารรถไฟฟ้าเส้นทางสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) และสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) และขอให้บีเอ็มซีแอลเจรจากับซีเมนส์เจ้าของระบบเดินรถไฟฟ้า ให้เปิดระบบล็อกการเดินรถเพื่อให้เส้นทางเดินรถไฟฟ้าเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม ก่อนจะเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ จะเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อขอให้ซีเมนส์ปลดล็อกระบบการเดินรถไฟฟ้าโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมืองหรือแอร์พอร์ตลิงค์ (สุวรรณภูมิ-มักกะสัน) เพราะต้องการเชื่อมเส้นทางดังกล่าวกับเส้นทางสายสีแดงเข้ม (มหาชัย-บางซื่อ-รังสิต) และเส้นทางสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน)
"ระบบการเดินรถไฟฟ้าที่แพงอยู่ที่ระบบล็อกและระบบรักษาความปลอดภัยการเดินรถ หากสามารถปลดล็อกได้ ทำให้การประมูลเดินรถไฟฟ้ามีราคาถูกลง ซึ่งคงต้องรอผลการเจรจาก่อนว่าจะตกลงกันได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่ได้ต้องหาวิธีอื่น" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ได้เรียกผู้บริหาร รฟม.มาให้นโยบายเกี่ยวกับการประมูลรถไฟฟ้าเส้นทางสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน โดยจะต้องยึดหลักเกณฑ์เปิดกว้างและต้องดำเนินการเฉพาะเส้นทางที่ ครม.อนุมัติงบประมาณไว้แล้ว คือ สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ วงเงิน 46,599 ล้านบาท, สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ 25,101 ล้านบาท และช่วงหัวลำโพง-บางแค 49,902 ล้านบาท
ส่วนสายสีแดงเข้มและสายสีแดงอ่อน วงเงินรวม 40,500 ล้านบาท และเส้นทางมักกะสัน-บางซื่อ ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้พิจารณา
พ.ท.ทวีสิน รักกตัญญู รองผู้ว่าการด้านการก่อสร้างและบำรุงรักษา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า โครงการจัดหาผู้ติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทาง และระบบควบคุมความปลอดภัยด้านการจราจรของทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ และทางหลวงพิเศษหมายเลข 37 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (บางพลี-บางขุนเทียน ช่วงสุขสวัสดิ์-บางขุนเทียน) วงเงิน 3,180 ล้านบาท ที่เปิดประมูลใหม่ มีผู้ซื้อซองประมูล 10 ราย กำหนดให้ยื่นซองประมูลวันที่ 12 ก.ค.นี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 24/06/2006 9:42 am Post subject: |
|
|
เล็งใช้ระบบตั๋วโดยสารร่วมรถไฟฟ้าราคาเดียวตลอดสาย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 มิถุนายน 2549 16:09 น.
REF: http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9490000081619
กระทรวงคมนาคมเจรจาบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล ใช้ระบบตั๋วโดยสารร่วม 15-20 บาทตลอดสาย รองรับรถไฟฟ้าเมื่อสร้างเสร็จแบบครบวงจร และพร้อมเปิดระบบให้รถไฟฟ้าจากบริษัทอื่นเข้าร่วมบริการในเส้นทางได้ โดยเฉพาะศูนย์ซ่อม ด้านผู้บริหารบีเอ็มซีแอลยอมรับต้องแก้สัญญาสัมปทาน แต่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐ
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หารือร่วมกับผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพแห่งประเทศไทย (รฟม.) และนายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการบีเอ็มซีแอล โดยที่ประชุมตกลงร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการใช้ราคาค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย 15-20 บาท โดยจะทดลองเมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากท่าพระ-บางแค ครบวงจรแล้ว เนื่องจากการคำนวณค่าโดยสารจากผลตอบแทนจากการลงทุนหรือไออาร์อาร์ ร้อยละ 24.75 เมื่อผู้โดยสารมีจำนวนมากขึ้น ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้น การกำหนดค่าโดยสารที่ 15-20 บาทตลอดสาย จึงไม่น่ากระทบต่อรายได้ของบีเอ็มซีแอล ซึ่งทางบีเอ็มซีแอลจะต้องไปเจรจากับสถาบันการเงินเจ้าหนี้และหารือกับผู้ถือหุ้น
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จะเริ่มใช้ค่าโดยสารราคาเดียวเต็มรูปแบบ เมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 3 เส้นทางแล้วเสร็จ ทั้งสายสีน้ำเงิน สีแดง และสีม่วง โดยคาดว่าผู้โดยสารปีแรกจะอยู่ที่ 400,000 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นถึง 500,000 คนต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 180,000 คนต่อวัน ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมาย 200,000 คนต่อวัน และเมื่อเปลี่ยนค่าโดยสารให้ไออาร์อาร์อยู่ที่ร้อยละ 10 - 14.75 จะทำให้เก็บค่าโดยสารราคาเดียว 20 บาทตลอดสายได้ โดยการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทางจะให้ผู้ก่อสร้างยื่นซองประมูลในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ สำหรับค่าโดยสารของรถไฟฟ้าใต้ดินปัจจุบันอยู่ที่ 14 - 36 บาทตามระยะทาง จะครบกำหนดการปรับราคาในวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 โดยขยับเป็น 15 - 39 บาท ซึ่งต้องใช้ค่าโดยสารระดับดังกล่าวไปก่อนจนกว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 3 เส้นทางจะแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นด้วยกับแนวทางการเปิดระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อให้ผู้ก่อสร้างและผู้ให้บริการรายเดิมนอกจากบริษัทซีเมนส์เข้าวิ่งในรางซีเมนส์ได้ เพื่อนำรถไฟฟ้าเข้าศูนย์ซ่อมเดิมของบีเอ็มซีแอลได้โดยไม่ต้องก่อสร้างใหม่
ด้านนายสมบัติ กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดไปดูรายละเอียดและแก้ไขสัญญาสัมปทาน ซึ่งจะต้องหารือกับเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้น ซึ่ง รฟม.ก็ถือหุ้นอยู่ในบีเอ็มซีแอลด้วย โดยบีเอ็มซีแอล เห็นด้วยกับแนวทางใช้ค่าโดยสารราคาเดียว แม้การคำนวณค่าโดยสารจะลดลง แต่เมื่อผู้โดยสารมีปริมาณเพิ่มขึ้นก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาได้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 27/06/2006 9:05 am Post subject: |
|
|
3ก.ค.ปรับราคารถไฟฟ้าใต้ดิน
Matichon - June 24, 2006
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ภายหลังการหารือกับนายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล และผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการใช้ราคาค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสายให้อยู่ในอัตราประมาณ 15-20 บาท จะทดลองใช้เมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจากรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (บางซื่อ-หัวลำโพง) ไปยังท่าพระ-บางแค ครบวงจรแล้ว เพราะเมื่อผู้โดยสารมีจำนวนมากขึ้น ผู้ให้บริการจะมีกำไรเพิ่มขึ้น จึงไม่น่ากระทบต่อรายได้ของบีเอ็มซีแอล จากนั้นจะเริ่มใช้ราคาเดียวเต็มรูปแบบ 20 บาทตลอดสายเมื่อก่อสร้างทั้ง 3 เส้นทางแล้วเสร็จ ทั้งสายสีน้ำเงิน สีแดงช่วงรังสิต-บางซื่อ เชื่อมต่อไปยังท่าอากาศยานสุวรรรณภูมิ และสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับค่าโดยสารของรถไฟฟ้าใต้ดินปัจจุบันอยู่ที่ 14- 36 บาท ตามระยะทาง จะครบกำหนดการปรับราคาในวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 โดยเพิ่มเป็น 15-39 บาท ซึ่งต้องใช้ค่าโดยสารระดับดังกล่าวไปก่อนจนกว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 3 เส้นทางจะแล้วเสร็จ
ด้านนายสมบัติกล่าวว่า บีเอ็มซีแอลเห็นด้วยกับแนวทางค่าโดยสารราคาเดียว แต่ต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดไปดูรายละเอียดและแก้ไขสัญญาสัมปทาน และจะต้องหารือกับเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นก่อน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 28/06/2006 1:27 pm Post subject: |
|
|
เศรษฐกิจ
รัฐกระเตงBMCL จ่ายค่าเชื่อมต่อ ปลดล็อกรถไฟฟ้า
Thaipost 28 มิถุนายน 2549 กองบรรณาธิการ
นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอลว่า
ทางบีเอ็มซีแอลยินดีจะปลดล็อกระบบการเดินรถไฟฟ้าใต้ตินเพื่อต่อเชื่อมระบบการเดินรถในอนาคต
โดยรัฐบาลจะจ่ายค่าเชื่อมต่อระบบให้กับบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้วางระบบอาณัติสัญญาณรถไฟฟ้าใต้ดิน นอกจากนี้ รัฐจะประกันความเสี่ยงรายได้ให้กับบีเอ็มซีแอลหากตกลงจะจัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 15-20 บาทตลอดสาย ไม่ว่าบีเอ็มซีแอลจะลงทุนส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินหรือไม่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม วันที่ 30 มิ.ย. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม จะลงนามในเอ็มโอยูกับบีเอ็มซีแอล ในการแก้ไขสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินสายเฉลิมรัชมงคล (หัวลำโพง-บางซื่อ) เพื่อรองรับส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค เพราะในอนาคตต้องการให้ค่าโดยสารใช้อัตราเดียวคือ 15-20 บาท จากปัจจุบันที่เก็บ 14-39 บาท
ภายหลังการต่อเชื่อมเส้นทาง จะจำนวนผู้โดยสารเพิ่มจากปัจจุบัน 180,000-190,000 คน เป็น 300,000 คน ในปีแรก และเพิ่มเป็น 500,000-600,000 คนในปีต่อไป ดังนั้น การลดค่าโดยสารเหลือ 15-20 บาทตลอดสาย จะไม่ส่งผลต่อรายได้ของบีเอ็มซีแอล
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มซีแอล กล่าวว่า กรอบของภาครัฐที่จะทำในครั้งนี้มีความชัดเจนว่าไม่ได้ทำให้บริษัทสูญเสียสิทธิ์ แต่เป็นความพยายามในการสร้างเครือข่ายรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งบริษัทยังได้รับการประกันว่ากำไรจะอยู่ในระดับมาตรฐาน ก็มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับเรื่องการกระจายหุ้นของบริษัท และเชื่อว่านักลงทุนเข้าใจถึงสิ่งที่บริษัทจะได้รับจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มในอนาคต ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วย. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 29/06/2006 12:49 pm Post subject: |
|
|
The 30-day Pass for SUbway Issued
Dailynews - June 30, 2006
MRTA/BMCL is goign to introduce 30-day pass with a price of 700 Baht to encourage more regular customer to ride subway ....
Note: It would be a lot better if BMCL/BTSC could come up with 30-day pass... but BTS has to install hte smart card system alogn with the joitn ticket system for this matter. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 02/07/2006 10:21 pm Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้าใต้ดินปรับค่าโดยสาร มีผลพรุ่งนี้
Manager Daily 2 กรกฎาคม 2549 17:24 น.
Bangkok Biznews 2 กรกฎาคม 2549 17:24 น.
รฟม.ล้มเหลวเจรจาบีเอ็มซีแอล ตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน ปรับค่าโดยสารใหม่ มีผลวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) เริ่มต้น 15-39 บาท
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะกรรมการ รฟม. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ใช้ความพยายามในการเจรจากับบีเอ็มซีแอลเพื่อให้ช่วยตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินต่อไปอีกระยะเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้รถไฟฟ้า และจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบรางมากขึ้นในภาวะน้ำมันแพง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบถึงการตัดสินใจของบริษัทว่าจะช่วยตรึงราคาหรือไม่ แต่ถ้ามีการปรับราคาก็จะเป็นไปตามสัญญาที่ภาครัฐมีไว้กับเอกชน
ขณะที่นางอัญชลี ชวนิชย์ ประธานกรรมการ รฟม. กล่าวว่า ในการเจรจาระหว่างกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบีเอ็มซีแอล จนถึงขณะนี้ได้ข้อยุติเพียงว่าบีเอ็มซีแอลจะยังคงให้ส่วนลดร้อยละ 15 สำหรับประชาชนผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินที่ซื้อตั๋วโดยสารแบบเติมเงิน ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่ใช้บริการในส่วนนี้จะเสียค่าโดยสารในอัตรา 13-33 บาท ซึ่งยังถูกกว่าการซื้อตั๋วโดยสารแบบใช้เหรียญ
นายเยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว รักษาการผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า ในวันนี้ (2 ก.ค.) รฟม.ได้พยายามติดต่อผู้บริหารของบีเอ็มซีแอลเพื่อขอชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารไปก่อนจนกว่าประกาศอัตราค่าโดยสารใหม่จะผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ซึ่งบริษัทน่าจะสามารถรับได้ แม้ว่าบีเอ็มซีแอลจะสามารถปรับราคาค่าโดยสารตามสัญญาก็ตาม แต่ในทางกฎหมายในฐานะที่บีเอ็มซีแอลเป็นคู่สัญญาที่สัมปทานเดินรถ รฟม. และ รฟม.มีข้อผูกพันต้องปฏิบัติตามกฎมายในประเด็น อำนาจการกำหนดอัตราค่าโดยสารเป็นอำนาจที่จะต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการ รฟม. ซึ่งจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อออกเป็นประกาศไว้เป็นมาตรฐานต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากบีเอ็มซีแอลยังยืนยันที่จะปรับค่าโดยสารในวันพรุ่งนี้ รฟม.ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาในรายละเอียดว่าจะสามารถดำเนินการลงโทษบีเอ็มซีแอลในฐานะผู้รับสัมปทานอย่างไรได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเจรจาระหว่าง รฟม. กับบีเอ็มซีแอล เพื่อขอตรึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินในช่วงที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ใช้ความพยายามหลายแนวทาง ซึ่งล่าสุดได้ส่งหนังสือถึงบีเอ็มซีแอล โดยระบุว่าการปรับค่าโดยสารที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ขอให้บริษัทรอผลการพิจารณาที่จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งล่าสุดในส่วนของบีเอ็มซีแอลยังยืนยันที่จะปรับค่าโดยสารให้มีผลในวันพรุ่งนี้ โดยถือว่าสัญญาสัมปทานที่มีผลไปแล้วระหว่างภาครัฐและเอกชนนั้น ไม่มีข้อใดที่ระบุว่าการปรับค่าโดยสารแต่ละครั้งจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อนการปรับค่าโดยสารในวันพรุ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่บีเอ็มซีแอลสามารถดำเนินการได้ทันที
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ชาติชาย ประดิษพงษ์ ผู้จัดการงานส่งเสริมและเผยแพร่กิจกรรม บีเอ็มซีแอล เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้บีเอ็มซีแอลจะปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินใหม่ ซึ่งเป็นไปตามสัญญาสัมปทาน โดยอัตราค่าโดยสารใหม่
บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 15-39 บาท
เด็กและผู้สูงอายุ เริ่มต้น 8-20 บาท
แต่บีเอ็มซีแอลได้จัดโปรโมชั่นลดค่าโดยสารร้อยละ 15 สำหรับผู้ใช้บัตรโดยสารแบบเติมเงิน ประเภทบุคคลทั่วไป ร้อยละ 30 สำหรับผู้ใช้บัตรโดยสารแบบเติมเงิน ประเภทนักเรียนนักศึกษา เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งมวลชนให้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเชิญชวนให้ผู้โดยสารหันมาใช้บัตรโดยสารแบบเติมเงิน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและรวดเร็วแก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยไม่ต้องออกเป็นเหรียญโดยสารทุกครั้งที่ต้องการเดินทาง ซึ่งอัตราค่าโดยสารสำหรับบัตรเติมเงิน
บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 13-33 บาท
นักเรียนนักศึกษา เริ่มต้น 10-27 บาท
เด็กและผู้สูงอายุ เริ่มต้น 8-20 บาท
ขณะเดียวกันจากการสอบถามพนักงานของบีเอ็มซีแอลที่ประจำตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินก็ได้รับการยืนยันว่ามีคำสั่งจากบีเอ็มซีแอลให้เก็บค่าโดยสารในอัตราใหม่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 04/07/2006 10:23 pm Post subject: |
|
|
บีเอ็มซีแอลยิ้มร่า!! ครม.เปิดทางขยับขึ้นราคารถไฟฟ้าใต้ดิน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 กรกฎาคม 2549 16:19 น.
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้บีเอ็มซีแอลขยับขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินได้ หลังจากครบกำหนดการเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าใหม่ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ แต่ต้องรอไปอีก 30 วัน เนื่องจาก พ.ร.บ.ระบุว่าต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบก่อน 30 วัน ส่วนที่ปรับเพิ่มไปแล้วก่อนหน้านี้ รฟม. และบีเอ็มซีแอล ต้องหารือร่วมกัน เพื่อชดเชยกับประชาชน
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการโฆษกรัฐบาล แถลงว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า สำหรับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ. ... มา เพื่อดำเนินการ ในส่วนนี้กระทรวงคมนาคมได้แจ้งว่า ขณะนี้ได้ครบเวลา 24 เดือน ของอัตราค่าโดยสารเดิม ที่ได้กำหนดไว้แล้ว ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งอัตราค่าโดยสารเดิมนั้น มีการกำหนดอัตราตั้งแต่ 14 บาท ถึง 36 บาท ซึ่งอัตราใหม่ที่ได้มีการเสนอเข้ามานั้น คือตั้งแต่ 15 บาท ถึง 39 บาท
คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้วเพื่อทำให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งได้มีการระบุว่า ค่าโดยสารต่างๆ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และจากการที่มีการกำหนดไว้ในเรื่องเกี่ยวกับสัญญา ว่าการเปลี่ยนแปลงอัตราโดยสารรถไฟฟ้านั้นจะต้องมีการประกาศให้ประชาชนทราบก่อนบังคับใช้ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามที่สัญญากำหนดไว้ เพราะฉะนั้นในวันนี้ ครม.ได้เห็นชอบที่จะให้มีการปรับอัตราค่าโดยสาร เป็น 15-39 บาท โดยที่จะต้องมีการไปออกเป็นข้อบังคับ และต้องประกาศข้อบังคับนี้ให้ประชาชน สาธารณชน ได้รับทราบ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วันก่อน จึงจะสามารถขึ้นราคาได้
"เพราะฉะนั้นการที่ขึ้นราคาโดยสารตั้งแต่เมื่อวานนี้ต้องระงับไปจนกว่าจะประกาศข้อบังคับที่ออกมาและให้ประชาชนรับทราบก่อน 30 วัน ซึ่งในที่ประชุมมีข้อสังเกตในส่วนของอัตราค่าโดยสารที่ รฟม.ประชาสัมพันธ์ว่า บุคคลทั่วไปสามารถประหยัดรายจ่ายโดยการขึ้นรถโดยสารของ รฟม.ได้ ด้วยการซื้อบัตรเติมเงิน ซึ่งจะได้ส่วนลด 15 เปอร์เซ็นต์ สำหรับบุคคลทั่วไป และบัตรเติมเงินสำหรับนักเรียน-นักศึกษา ซึ่งจะมีส่วนลด 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเด็ก ผู้สูงอายุ บัตรเติมเงินจะมีส่วนลดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางเพื่อเป็นแนวทางหนึ่งช่วยในการประหยัดรายจ่ายให้กับผู้ที่โดยสารรถไฟฟ้าด้วย" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
นอกจากนั้น ในช่วงต่อไปเมื่อมีการสร้างรถไฟฟ้าที่มีเส้นทางหลากหลายแล้วขอให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฟ้ามหานคร เจรจากับบีเอ็มซีแอล เพื่อพิจารณาในเรื่องอัตราการเชื่อมต่อมีอัตราเหมาะสมมากกว่าที่ระบุไว้ในสัญญา เพราะว่าเมื่อมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้นจากเส้นทางรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกันมากขึ้นจะทำให้ผลประกอบการดีขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องเกี่ยวกับสัญญาอัตราค่าโดยสารจะสามารถต่อรองกันได้ต่อไปในอนาคต เป็นข้อสังเกตที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้ามหานครรับไปเจรจากับบีเอ็มซีแอลต่อไป
ด้าน นายเยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว รักษาการผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ในช่วงนี้ บีเอ็มซีแอล จะต้องจัดเก็บค่าโดยสารอัตราเดิมไปก่อน แม้ว่าจะต้องปรับขึ้นค่าโดยสารตามสัญญาสัมปทาน แต่เป็นการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องหารือกับบีเอ็มซีแอล อีกครั้ง เพื่อหาข้อยุติปัญหาการเพิ่มราคาตั้งแต่วานนี้ว่าจะต้องชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้โดยสารอย่างไร. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 05/07/2006 9:35 am Post subject: |
|
|
รถไฟใต้ดินขึ้นราคา คนกรุงโอดครวญ
ไทยโพสต์ 5 กรกฎาคม 2549 กองบรรณาธิการ
คนกรุงโอดรถไฟฟ้าใต้ดินปรับราคา บัณฑิตใหม่หันไปใช้บริการ ขสมก. จะพึ่ง รฟม.คราวจำเป็น แม่บ้านย่านคลองเตยอ้อนบีเอ็มซีแอลพิจารณาส่วนลดเด็กนักเรียน
ขณะที่โครงการเมโทรมอลล์สะเทือน ร้านค้าย้ายหนีจำต้องซอยพื้นที่แบ่งขาย และโปรโมชั่นฟรี 2 เดือน พร้อมตั้งเจ้าหน้าที่พิเศษจดบันทึกคนเดินผ่าน
ภายหลังบีเอ็มซีแอลตัดสินใจปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน เริ่มต้น 15-39 บาท โดยไม่รอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้รับฟังความคิดเห็นของผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน นายวงศ์สวัสดิ์ ไม้กลาง อายุ 24 ปี บัณฑิตใหม่จากมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ที่ผ่านมาใช้บริการรถไฟฟ้ามหานครบ่อยครั้ง เพราะสู้กับราคาเก่าได้ แต่หลังมีการปรับราคา รู้สึกว่าทาง รฟม.ไม่ควรปรับราคาในเวลานี้ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังแย่ น้ำมันขึ้น ค่าไฟแพง คาดว่าต่อไปคงจะเลือกใช้บริการรถไฟฟ้ามหานครเมื่อถึงคราวจำเป็น และจะหันไปใช้บริการ ขสมก.บ่อยขึ้น ทั้งนี้ เข้าใจว่าเป็นการปรับราคาตามสัญญา แต่หาก รฟม.คำนึงถึงประชาชน น่าจะเลื่อนเวลาปรับออกไปก่อน และเชื่อว่าการที่ รฟม.ปรับราคาตอนนี้ พอถึงช่วงสิ้นปีต้องมีการปรับอีกครั้งแน่นอน
นางวิรุณ อภิชัยมงคล อายุ 46 ปี อาชีพแม่บ้าน กล่าวว่า จะใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินก็ต่อเมื่อไปส่งและรับหลานสาวจากโรงเรียน อัตราเพิ่ม 2 บาทต่อระยะทางอาจดูไม่มาก แต่หากคำนวณต้องจ่ายทุกวัน เดือนนึงเกือบ 1,000 บาท ถือว่าเป็นการเพิ่มภาระ แต่ก็คงต้องใช้บริการต่อไป เพราะความสะดวก และกำหนดเวลานัดหมายได้ตรง ทั้งนี้ อยากให้ทางรถไฟฟ้าใต้ดินพิจารณาการปรับราคาใหม่ หรือมีส่วนลดสำหรับเด็ก คนแก่ หรือผู้ใช้บริการบ่อยครั้งจะเป็นการดีมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานผลการปรับราคาของ รฟม.ครั้งนี้ ยังได้ส่งผลถึงโครงการเมโทรมอลล์ บริเวณพื้นที่เช่าของรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพหลโยธิน ซึ่งเริ่มมีผู้เช่าพื้นที่ 3-4 รายยกเลิกเช่าพื้นที่ และทางเมโทรมอลล์ผู้รับสัมปทานต้องนำพื้นที่ดังกล่าวมาซอยแบ่งย่อย ในราคา 10,000-30,000 บาท ต่อ 3-12 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังเสริมโปรโมชั่นฟรี 2 เดือน รวมถึงได้มีการตั้งเจ้าหน้าที่เซอร์เวย์ขึ้นมาจดบันทึกสถิติประชาชนที่เดินผ่านเข้ามาในบริเวณเมโทรมอลล์
เจ้าหน้าที่จดบันทึกกล่าวว่า เข้ามารับผิดชอบจดบันทึกได้ประมาณ 1 เดือน ก่อนที่จะมีการปรับราคา โดยทางโครงการเน้นให้จดเฉพาะสถานีพหลโยธิน ซึ่งนอกจากได้เห็นร้านค้าทยอยปิดตัว หรือย้ายออกไป ข้อมูลบันทึกยังบ่งบอกอีกว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่เดินผ่านโครงการไม่ได้เป็นลูกค้ารถไฟฟ้าใต้ดิน แต่อาศัยเดินผ่านทะลุระหว่างห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว กับมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น นอกจากนี้บางรายยังนึกว่าทางตัน เพราะไม่ทราบว่าเดินทะลุกันได้ ตัวเลขที่จดบันทึกตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. มีประชาชนเดินผ่าน 1,200 ราย เชื่อว่าผลการปรับราคา ประชาชนที่เดินผ่านก็ยังเท่าเดิม มีส่วนต่างที่น้อย เพราะคนใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินส่วนน้อยจะเดินเข้ามาในโครงการเมโทรมอลล์ รวมถึงไม่สนใจสินค้าบริการ เพราะต่างรีบเร่งเดินทาง จึงหันมาใช้บริการรถใต้ดิน. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 22/07/2006 10:09 pm Post subject: |
|
|
หัวเลี้ยวหัวต่อรถไฟฟ้า 3 สาย
ประชาชาติธุรกิจ 17-20 กรกฎาคม 2549
ยังลูกผีลูกคน จะเกิดหรือไม่เกิด ! สำหรับโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย คือ สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สาย สีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ และสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค มูลค่าการลงทุนรวม 2 แสนล้านบาทที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยพยายามดันแล้วดันอีก
บ้างก็ว่าโครงการนี้ไม่มีสิทธิ์เกิดเพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นเพียงแค่รัฐบาลรักษาการเท่านั้น ตามมารยาทไม่ควรจะผลักดันโครงการขนาดใหญ่
บ้างก็ว่ามีสิทธิ์เกิด แต่คงใช้เวลาอีกหลายปี ถ้ารัฐบาลยังดึงดันจะเดินหน้าต่อเพื่อหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ช่วงนี้คงทำได้แค่เปิดขายเอกสาร ล่อใจนักลงทุนและกลุ่มผู้รับเหมาให้น้ำลายหกเล่นๆ เพราะทั้ง 3 โครงการใช้เงินลงทุนมหาศาล ขณะที่เสถียรภาพทางการเมืองของภาครัฐกำลังง่อนแง่นเต็มที
ทั้งหมดเลยเป็นคำถามที่หาบทสรุปไม่ได้
เลื่อนประมูลซ้ำซาก
แม้งานนี้ "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" หรือ "เฮียเพ้ง" รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะใช้ความพยายามผลักดันต่อเนื่องเพื่อจะได้ประมูลโดยเร็วด้วยการวาดแผนเปิดขายเอกสารประกวดราคาโดยกำหนดระยะเวลาชัดเจนหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมต่อมาเลื่อนเป็นวันที่ 18 กรกฎาคม และล่าสุดวันที่ 27 กรกฎาคม แต่สุดท้ายก็ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดตามเคย
เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แซ่ซ้องไปหมดจากหลายๆ ฝ่าย โดยเฉพาะสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ถึงความไม่โปร่งใสโดยพุ่งเป้าไปที่การเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มพวกพ้อง รวมทั้งการเปิดช่องให้ผู้รับเหมาเบิกเงินล่วงหน้าได้ถึง 25%
หลัง "พงษ์ศักดิ์" กำหนดจะเปิดประมูลแบบวิธีจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จหรือเทิร์นคีย์ และเร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลงประกาศร่างทีโออาร์ลงในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้รับเหมาที่สนใจได้ศึกษาข้อมูลก่อนจะยื่นซองประกวดราคา
จึงมีเสียงสะท้อนด้านลบตามมาจนทำให้ "พงษ์ศักดิ์" ไม่อาจตัดสินใจทำอะไรที่เด็ดขาดได้เพราะยากที่จะฝ่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน
ที่ทำได้ตอนนี้ก็เพียงอดทนรอฟังเสียงทัดทาน พร้อมๆ กับรอจังหวะเวลาเหมาะสมเพื่อจะเดินหน้าต่อ
รับเหมาต้องรอยาวไม่มีกำหนด
"คงไม่สามารถเปิดขายซองประกวดราคาได้ทันตามที่กำหนดไว้วันที่ 27 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากยังไม่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในการเปิดประมูลด้วยวิธีการแบบจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ คงจะต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด" เป็นคำชี้แจงสั้นๆ จาก รมว.กระทรวงหูกวาง
แต่ยืนยันว่าคณะทำงานได้มีการพิจารณากลั่นกรอง และมีการประชุมทำงานทั้ง 3 โครงการหลายครั้ง โดยจัดทำเป็นกรอบที่เปิดกว้างให้บริษัทผู้รับเหมา
ตามขั้นตอนเรื่องนี้จะต้องผ่านการพิจารณาจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยจะมีการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจะประกาศร่างทีโออาร์ในเว็บไซต์เพื่อเปิดกว้างให้สาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์ก่อนจะเปิดขายซอง เพื่อจะได้นำข้อมูลทั้งหมดไปแก้ไขให้มีความเหมาะสมต่อไป
"ส่วนหลักการเปิดประมูลแบบเทิร์นคีย์ยืนยันว่า ระบบการประมูลแบบนี้เหมาะสมแน่นอนเพราะไม่ได้มีการกำหนดสเป็กหรือรูปแบบที่ตายตัว และเป็นการร่างกรอบทีโออาร์ที่เปิดกว้างให้เอกชนได้นำเสนอรายละเอียดเทคนิคการก่อสร้าง ราคาที่เหมาะสม จุดคุ้มทุน ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกิดความโปร่งใส"
รอสภาที่ปรึกษาชี้ขาด 27 ก.ค.นี้
"เยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว" รองผู้ว่าการ รฟม.ฝ่ายวิศวกรรมและวางแผน รักษาการผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ตอนนี้ขั้นตอนต่างๆ เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากต้องรอความคิดเห็นจากสภาที่ปรึกษาและสังคมแห่งชาติก่อนจึงจะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ ซึ่งทางสภาที่ปรึกษาฯจะประชุมหารือโครงการนี้ในวันที่ 27 กรกฎาคม
"คงต้องรอดูผลการประชุมว่าจะออกมายังไง ตอนนั้นทางกระทรวงคมนาคมอาจจะมีกรอบเวลาออกมาว่าจะให้ดำเนินการได้เมื่อไรและอย่างไร"
พร้อมกับชี้แจงว่า "โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่และเป็นเรื่องใหญ่ ใช้เงินลงทุนเป็นแสนล้านบาทจึงต้องทำให้รอบคอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด"
"เยี่ยมชาย" กล่าวต่อว่า หลังจากประกาศร่างทีโออาร์ลงในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้สนใจที่เกี่ยวข้องได้เสนอแนะ ปรากฏว่ามีผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดประมูลเยอะมาก รวมถึง รายละเอียดการจัดทำผลการศึกษาว่าเพราะเหตุใดต้องทำผลการศึกษา 10 เส้นทาง ในเมื่อ จะเปิดประมูลเพียงแค่ 3 เส้นทาง นอกจากเป็นการสอบถามเกี่ยวกับแหล่งเงินที่ให้เอกชนเสนอเข้ามา รูปแบบการก่อสร้าง เทคนิค แนวเส้นทาง เวลาเปิดซื้อเอกสารและยื่นซองประกวดราคา เป็นต้น
"เราคงต้องไปหารือกับทางการรถไฟฯ และสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับข้อสอบถามต่างๆ ที่ผู้รับเหมาเสนอแนะมานี้เพื่อให้เป็นไปในทิศทางและมาตรฐานเดียวกัน"
รับเหมาสับเละ แค่ปาหี่
ขณะที่ผู้รับเหมาซึ่งต่างก็คาดหวังและรอคอยโครงการนี้มานาน ขณะนี้เริ่มจะทำใจได้แล้วว่า ความไม่แน่นอนในการผลักดันโครงการนี้มีสูงขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เห็นได้จากมีการเลื่อนขายเอกสารมาแล้วถึง 3 ครั้ง 3 ครา รวมทั้งครั้งล่าสุด ทำให้เวลาถูกทอดยาวออกไปแบบไม่มีกำหนด
"รัฐบาลต้องการแค่ให้ผู้รับเหมาตื่นเต้นเล่นๆ เพราะดูแล้วยังไม่มีกรอบเวลาอะไรที่ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะประกาศร่างทีโออาร์ออกมาแล้ว แต่มีแนวโน้มว่าจะมีการปรับเปลี่ยนได้อีก เพราะตอนนี้มีหลายฝ่ายวิจารณ์กันมากถึงความ ไม่โปร่งใส ไม่รู้ว่าโครงการจะถูกชะลอออกไปอีกหรือไม่" แหล่งข่าวจากผู้รับเหมาก่อสร้าง ให้ความเห็นกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
แหล่งข่าวจากผู้รับเหมากล่าวต่อว่า ตอนนี้ผู้รับเหมาทุกรายรอฟังความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะทำอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตามผู้รับเหมาส่วนใหญ่ทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วระดับหนึ่ง และเริ่มศึกษาถึงความเป็นไปได้ว่าโครงการจะเกิดแน่นอนหรือเปล่า ศึกษารายละเอียดว่ารับงานแล้วจะคุ้มทุนหรือไม่ เพราะใช้วิธีประมูลแบบเทิร์นคีย์
นอกจากนี้ ผู้รับเหมาจะต้องหาแหล่งเงินทุนมาลงทุนเองด้วย จึงต้องคิดให้รอบคอบเพราะโครงการรถไฟฟ้าแต่ละสายใช้เงินลงทุนเป็นหมื่นๆ ล้านบาท แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมืองเป็นหลัก
น่าติดตามว่าบทสรุปสุดท้ายโครงการรถไฟฟ้า 3 สายนี้จะออกมาในรูปแบบไหน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 04/08/2006 6:53 pm Post subject: |
|
|
รฟท.-รฟม. เตรียมเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2549 18:01 น.
นางอัญชลี ชวนิตย์ ประธานกรรมการบริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะหารือกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ถึงร่างเงื่อนไขสัญญาในการก่อสร้างรถไฟฟ้า ในส่วนสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ และส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-ท่าพระ-บางแค รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ที่อยู่ในความดูแลของ รฟม. สำหรับการก่อสร้างในส่วนเส้นทาง ถ.จรัญสนิทวงศ์ ที่คณะรัฐมนตรีเสนอแนะให้มีการก่อสร้างใต้ดินนั้น ขณะนี้กำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง เนื่องจากติดปัญหาในระบบการเชื่อมต่อและการเวนคืนที่ดิน แม้ต้องจ่ายเพิ่มจาก 21,600 ล้านบาทเป็น 65,000 ล้านบาทก็ตามที
ด้านนายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการบริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า ขณะนี้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เสนอแนวคิดว่า ควรจะย้ายอาคารผู้โดยสาร ที่มีระบบเช็กอิน ตั๋วเดินทาง โดยเครื่องบิน จากเดิมที่อยู่สถานีรถไฟมักกะสัน ที่ขณะนี้มีการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง มาอยู่บริเวณแยกยมราชแทน โดยใช้พื้นที่กรมทางหลวง เป็นอาคารผู้โดยสารที่มีระบบเช็กอิน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีความสะดวกและกว่าที่ก่อสร้างเดิม ... |
|
Back to top |
|
|
|