Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13261739
ทั้งหมด:13573019
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เล่าถึงเหล่าเพื่อนผองของตั๋วแข็ง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เล่าถึงเหล่าเพื่อนผองของตั๋วแข็ง
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 12, 13, 14  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 06/08/2006 5:15 pm    Post subject: Reply with quote

ผมจะรอชมเรื่องราวอันน่าสนใจเกี่ยวกับตั๋วรถไฟสายปากน้ำ กระดาษที่ใช้ทำตั๋ว ตลอดจนเรื่องฮาๆ(ถ้าเปิดเผยได้) ที่คุณnathapong และอาจารย์Cummins จะกรุณาเล่าให้ฟัง ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ ถ้าผมเล่าเรื่องช้าไปบ้างก็ขออภัยด้วยนะครับ

ขอบคุณน้องMahachai และท่านผู้ชมทุกท่านที่ให้ความสนใจติดตามชมครับ Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 06/08/2006 8:50 pm    Post subject: Reply with quote

เล่าต่อนะครับ

ต่อมาประมาณปี ๒๕๒๙ มีการขยายปลายทางขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายนี้จากเดิม ไปสุดปลายทางที่สถานีอุดรธานี โดยปรับเปลี่ยนกำหนดเวลาเดินรถดังนี้ เที่ยวไปขบวนแรกขบวน ๙๔๕ ออกจากกรุงเทพ ๘.๒๐ น. ถึงอุดรธานี ๑๖.๕๐ น. ขบวนที่สองขบวน ๙๔๗ ออกจากกรุงเทพ ๒๒.๓๐ น. ถึงอุดรธานี ๗.๐๕ น. เที่ยวกลับขบวนแรกขบวน ๙๔๖ ออกจากอุดรธานี ๘.๒๕ น. ถึงกรุงเทพ ๑๗.๐๐ น. ขบวนที่สองขบวน ๙๔๘ ออกจากอุดรธานี ๒๑.๐๐ น. ถึงกรุงเทพ ๖.๐๐ น. ทุกขบวนยังใช้เส้นทางสายชุมทางแก่งคอย-นครราชสีมา-ชุมทางบัวใหญ่ เช่นเดิม

สำหรับตั๋วรถสายนี้ เมื่อมีการขยายปลายทางไปถึงสถานีอุดรธานีแล้ว นอกจากจะยังใช้ตั๋วสีสันเดิมคือ ขาว-น้ำเงิน สันปกตั๋วสีฟ้าแล้ว ยังมีอีกสีหนึ่งออกมาจำหน่ายเพิ่มเติม คือ สีขาว-เหลือง สันปกตั๋วสีเหลืองอ่อน โดยยังมีขนาดกว้าง ยาว ข้อความบนปกหน้าตั๋ว โฆษณาที่ปกหลังตั๋วเหมือนเดิม ตามภาพนี้ครับ

Click on the image for full size

เมื่อสีปกหน้าตั๋วเป็นสีเหลือง สันปกก็เป็นสีเหลืองอ่อนแล้ว เปิดมาแผ่นที่สองที่เป็นแบบฟอร์มตั๋ว ถ้ายังเป็นสีฟ้าเหมือนอย่างตั๋วแบบแรกที่ปกหน้าเป็นสีขาว-นำเงิน สันปกตั๋วสีฟ้า ก็คงดูขัดๆกันอยู่ เลยมีการเปลี่ยนสีแบบฟอร์มตั๋วแผ่นที่สองเป็นสีเหลืองอ่อนตามไปด้วย ส่วนข้อความอื่นๆยังอยู่ในลักษณะเดิมดังภาพนี้ครับ

Click on the image for full size

ส่วนปกหลังด้านในตั๋วในยุคแรกๆที่ขยายปลายทางไปถึงสถานีอุดรธานี ไม่ว่าจะเป็นตั๋วหน้าปกสีขาว-น้ำเงิน หรือสีขาว-เหลือง จะพิมพ์ข้อมูลตารางเดินรถเอาไว้อย่างเดียว ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์สถานีและสถานที่จำหน่ายตั๋วอย่างที่เคยมีหายไปแล้วครับ สังเกตการพิมพ์ชื่อสถานีที่ขบวนรถจอดในปกหลังจะเห็นได้ว่า มีการเรียกชื่อสถานีตามแบบ “ประชานิยม” คือเรียกตามที่ประชาชนนิยมเรียกน่ะครับ ได้แก่สถานี หัวลำโพง โคราช แทนที่จะเรียกอย่างเป็นทางการแบบการรถไฟฯเรียกว่า สถานีกรุงเทพ สถานีนครราชสีมา นอกจากนี้ยังเพิ่มการหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีเมืองคง และสถานีหนองบัวลาย เฉพาะเที่ยวกลางวันอีกด้วย รายละเอียดตามภาพนี้ครับ

Click on the image for full size

โปรดติดตามชมตอนต่อไปนะครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
Mahachai
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 05/07/2006
Posts: 407
Location: ชั.

PostPosted: 06/08/2006 9:36 pm    Post subject: Reply with quote

Laughing สวัสดีอีกครั้งพี่ตุ้ย ติดตามตอนต่อไปอยู่เรื่อยๆครับ วันนี้ผมเข้านอนก่อนเด้อ พรุ่งนี้ไป โรงเรียน ก๊าก 2 วันเร็วจังน่อ ไปแล้ว คนนี้ฝันดีทุกคนคร้าบ ...


ปล.รักรถไฟสุดหัวใจ 8)
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 09/08/2006 9:21 pm    Post subject: Reply with quote

เล่าต่อเลยนะครับ

ในปี ๒๕๓๐ มีการเปลี่ยนแปลงบริษัทผู้รับสัมปทานให้บริการรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายนี้จากเดิม เป็นบริษัทยูนิเวอร์สฟู้ดส์ จำกัด แหม! ถ้าดูแต่ชื่อบริษัทแล้วผมนึกว่าเป็นกิจการเกี่ยวกับขนมขบเคี้ยวของเด็กๆมากกว่าจะเป็นผู้รับสัมปทานให้บริการรถไฟ เมื่อมีการเปลี่ยนบริษัทแล้ว ตั๋วโดยสารก็มีการเปลี่ยนแปลงสีหน้าปกตามไปด้วย สำหรับขบวนรถเที่ยวไปหน้าปกตั๋วเป็นสีขาว-ส้ม ขบวนรถเที่ยวกลับหน้าปกตั๋วเป็นสีขาว-แดง ตามภาพนี้ครับ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

แม้ว่าขบวนรถสายนี้จะขยายปลายทางจากขอนแก่นไปยังอุดรธานีมานานนับปีแล้ว ที่ปกหน้าตั๋วยังใช้คำว่า “แผนกขอนแก่นดีเซลราง” อยู่เลยนะครับ เข้าใจว่าจะเป็นชื่อที่ฮิตติดปากในหมู่ประชาชนมากกว่าเลยยังคงต้องเรียกว่าขอนแก่นดีเซลรางเหมือนอย่างเดิมต่อไป นอกจากนี้ ถ้าท่านสังเกตดีๆจะเห็นการปั๊มข้อความว่า “ครบ ๑๐ ใบ ได้นั่งฟรี ๑ ที่นั่ง” เด่นชัดอยู่บนปกหน้าตั๋วอีกด้วย นับว่าเป็นโปรโมชั่นที่ดี จูงใจให้ประชาชนทั่วๆไปมาใช้บริการได้ทางหนึ่งนะครับ จะได้ไม่ต้องหวังพึ่งพาบรรดาแฟนรถไฟอย่างเราๆท่านๆที่ถึงจะไม่แถมตั๋วฟรีก็นั่งอยู่แล้วแต่เพียงอย่างเดียว กลยุทธในการดึงดูดลูกค้าขององค์การภาคเอกชนนี่เขาปรับเปลี่ยนได้เร็ว มีความแปลกใหม่ ยิ่งกว่าองค์การภาครัฐซึ่งมักจะยึดติดกฎระเบียบจนกระทั่งปรับตัวให้ทันต่อสภาพการแข่งขันในตลาดยุคปัจจุบันได้ยาก

พลิกดูปกหลังตั๋วแล้ว ยังเป็นโฆษณาเช่นเดิม แต่จะต่างไปจากโฆษณาหลังตั๋วยุคแรกเมื่อครั้งบริษัทอาณาจักรการท่องเที่ยวฯเป็นผู้รับสัมปทานอยู่บ้าง ก็ตรงที่มีโฆษณาสินค้า บริการอื่นนอกจากบริษัทในเครือของผู้รับสัมปทานด้วย ซึ่งปกหลังตั๋วตามภาพต่อไปนี้มีทั้งโฆษณาน้ำอัดลมชื่อดังที่เป็นคู่แข่งกันตลอดกาลทั้งสองยี่ห้อ แบ่งกันยึดครองพื้นที่โฆษณาที่ปกหลังตั๋วคนละเที่ยวไม่ต้องแย่งกัน บริษัทหนึ่งได้โฆษณาปกหลังตั๋วเที่ยวไป อีกบริษัทหนึ่งได้โฆษณาปกหลังตั๋วเที่ยวกลับ และยังมีโฆษณาโรงแรมซึ่งมอบส่วนลดค่าที่พักแก่ผู้นำตั๋วนี้มาแสดง แถมโรงแรมหนึ่งยังมีบริการรถตู้ปรับอากาศรอรับส่งที่สถานีอีกด้วย ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผู้โดยสารรถไฟขบวนอื่นที่ลงจากรถแล้วไม่มีรถตู้ปรับอากาศรับไปส่งโรงแรม ไม่ได้ส่วนลดค่าห้องพักโรงแรมแล้ว รู้สึกว่าน่าใช้บริการมากกว่าไหมครับ

Click on the image for full size

พลิกดูทั้งปกหน้าและปกหลังตั๋วกันแล้ว ก็เปิดชมด้านในตั๋วกันเช่นเคยนะครับ ปกหน้าด้านในยังคงเป็นเงื่อนไขการเดินทาง(กฎเหล็กของบริษัทผู้รับสัมปทาน)มีเนื้อความเหมือนๆกับที่เคยเล่าไปแล้วจะขาดหายไปก็แต่ข้อความภาษาอังกฤษกำกับเท่านั้น ส่วนแบบฟอร์มตั๋วโดยสารหน้าถัดไปก็ยังคงรายละเอียดเหมือนที่เคยนำเสนอไปแล้ว เพียงแต่มีการเพิ่มช่อง “รถขบวนที่” ติดกับช่อง “ตู้ที่” (ยังไม่ยอมใช้คำว่า “รถคันที่....” ตามมาตรฐานการเรียกลำดับโบกี้ในขบวนรถของการรถไฟฯเสียที) และเปลี่ยนสีกระดาษแบบฟอร์มเป็นสีชมพูตามภาพต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็นปกหน้าสีขาว-ส้ม หรือปกหน้าสีขาว-แดงก็ตาม

Click on the image for full size

ปกหลังด้านในก็มีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจครับ คือ “บริการพิเศษ” จัดรถตู้ปรับอากาศบริการรับส่งระหว่างขอนแก่น ถึงร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ทั้งรอบกลางวัน และกลางคืนในเวลาที่สัมพันธ์กับขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายนี้เดินทางถึงสถานีขอนแก่นด้วยนะครับ แต่ตามตั๋วไม่มีข้อความบอกว่าผู้โดยสารต้องเสียค่าบริการเพิ่มเพื่อการนี้หรือไม่ เป็นราคาเท่าใด ซึ่งต่างจากสายกรุงเทพ-พิษณุโลก ที่มีบริการรถตู้ส่งผู้โดยสารต่อไปยังจังหวัดสุโขทัย จะมีการระบุราคารวมค่ารถตู้สำหรับตั๋วกรุงเทพ-สุโขทัย(คือต้องลงรถไฟที่สถานีพิษณุโลก)ไว้ชัดเจน ถ้าท่านสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีการระบุสถานที่จอดรถตู้เฉพาะที่จังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนจุดจอดรถตู้ที่จังหวัดอื่นนอกจากนี้ไม่มีการระบุไว้ สงสัยต้องสอบถามจากเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วเป็นกรณีๆไปกระมังครับ และมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ยังเรียกสถานีนครราชสีมา แบบประชานิยมว่า “โคราช” แต่เวลาเขียนแบบฟอร์มตั๋วตามภาพข้างต้น กลับใช้ตัวย่อสถานีนี้ว่า “น.ม.” สื่อความหมายว่าเป็นสถานีนครราชสีมา ซึ่งก็ไม่ตรงกับชื่อย่อของสถานีนี้ที่การรถไฟฯเรียกว่า รส. อีก แปลกดีนะครับพวกบริษัทเอกชนนี่ มาตรฐานการใช้ภาษาในตั๋วไม่ค่อยจะมีความแน่นอนเลย ชมภาพปกหลังด้านในตั๋วตามที่เล่ามากันดีกว่าครับ

Click on the image for full size

เล่าเรื่องเกี่ยวกับตั๋วรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายนี้มามากแล้ว เดี๋ยวสายอื่นจะน้อยใจ ก็ผมมีข้อมูลภาพตั๋วขบวนรถสายนี้มากที่สุด แถมมีโอกาสได้ใช้บริการบ่อยกว่าขบวนรถสายอื่นที่เอกชนรับสัมปทานไปนี่ครับ ก่อนจะขึ้นหัวข้อต่อไป ขอเล่าส่งท้ายถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับขบวนรถสายนี้หลังจากบริษัทเอกชนไม่ได้รับสัมปทานให้บริการ กิจการเป็นของการรถไฟอย่างเต็มตัวเช่นเดียวกับขบวนรถอื่นๆทั่วไปว่า การรถไฟยังคงเดินรถสายนี้ต่อมาไป-กลับรวม ๔ ขบวนเช่นเดิม เพียงแต่เปลี่ยนเส้นทางจากเดิมที่ผ่านนครราชสีมาทุกขบวน เป็นเส้นทางสายชุมทางแก่งคอย-ลำนารายณ์-ชุมทางบัวใหญ่สำหรับขบวนรถเที่ยวกลางวัน ส่วนขบวนรถเที่ยวกลางคืนยังวิ่งเส้นทางสายชุมทางแก่งคอย-นครราชสีมา-ชุมทางบัวใหญ่เหมือนเดิม มีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขขบวนรถจากขบวน ๙๔๕ เป็นขบวน ๗๕ ขบวน ๙๔๗ เป็นขบวน ๗๗ ขบวน ๙๔๖ เป็นขบวน ๗๖ ขบวน ๙๔๘ เป็นขบวน ๗๘ และขยายปลายทางขบวน ๗๖-๗๗ จากอุดรธานีเป็นหนองคาย

รถที่ใช้ทำขบวนยังเป็นรถดีเซลรางรุ่นเดิม เพียงแต่รถดีเซลรางชั้นสามบางครั้งจะมีรุ่นที่นั่งไฟเบอร์(คันหมายเลข ๑๒๐๑-๑๒๖๔) มาใช้ทำขบวนอยู่บ่อยครั้ง ขบวนรถพ่วงยาวกว่าเดิมแต่ยังคงรถดีเซลรางนั่งปรับอากาศไว้สองคันเช่นเดิม ความจริงช่วงประมาณปี ๒๕๔๒ ผมเคยนั่งขบวน ๗๕/๗๘ ที่ใช้รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศแดวูทำขบวนด้วยครับ(เวลารถวิ่งทางสายแก่งคอย-บัวใหญ่ ช่วงที่เป็นทางสภาพเดิม รถวิ่งกระแทกโครมครามมากจนผมเสียดายรถจริงๆ) แต่เป็นเช่นนั้นไม่นานนักก็กลับไปใช้รถดีเซลรางรุ่นเดิมทำขบวน ระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพ-ขอนแก่น สมัยก่อนประมาณ ๗ ชั่วโมง ก็เพิ่มเป็นประมาณ ๘ ชั่วโมงกว่าๆครับ ซึ่งก็พอเหมาะกับที่ปัจจุบันเรียกรถขบวนนี้ว่า “ขบวนรถด่วนดีเซลราง” มิใช่ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางฯอย่างแต่ก่อน

โปรดติดตามชมตอนต่อไปนะครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 11/08/2006 8:53 pm    Post subject: Reply with quote

เล่าต่อนะครับ

๑.๒ สายกรุงเทพ-สุรินทร์

บริษัทที่ได้รับสัมปทานให้บริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายนี้ คือ บริษัท เชิดชัยดีเซลราง จำกัด มีข้อสังเกตว่า ชื่อขบวนรถที่เรียกอย่างเป็นทางการในสมัยนั้นจะเรียกว่า “รถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ส่วนผู้โดยสารนิยมเรียกกันเป็นภาษาพูดว่า “รถดีเซลรางแอร์” บ้าง ทั้งๆที่รถขบวนนี้มิได้มี “ตู้แอร์” ทุกคันเหมือนอย่างรถดีเซลรางปรับอากาศในยุคต่อมา คือ รถสปรินเตอร์หรือรถแดวูนะครับ บางคนก็เรียกว่า “รถด่วนดีเซลราง” บ้างตามสะดวก ตามข้อมูลตารางเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ ฉบับลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๒๘ ซึ่งเป็นวันเริ่มเปิดบริการขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศทั้งสามสาย (กรุงเทพ-ขอนแก่น , กรุงเทพ-สุรินทร์ และกรุงเทพ-พิษณุโลก) ปรากฎว่ามีขบวนรถเที่ยวไปสองขบวน ขบวนแรกขบวนที่ ๙๓๑ ออกจากกรุงเทพ ๑๐.๕๕ น. ถึงสุรินทร์ ๑๗.๐๕ น. ใช้เวลาประมาณ ๖ ชั่วโมง ขบวนที่สองขบวนที่ ๙๓๓ ออกจากกรุงเทพ ๒๑.๕๐ น. ถึงสุรินทร์ ๕.๐๐ น. ขบวนรถเที่ยวกลับมีสองขบวน ขบวนแรกขบวนที่ ๙๓๒ ออกจากสุรินทร์ ๘.๐๐ น. ถึงกรุงเทพ ๑๔.๓๐ น. ขบวนที่สองออกจากสุรินทร์ ๒๐.๔๐ น. ถึงกรุงเทพ ๔.๐๕ น. การจัดริ้วขบวนสายนี้ ทุกขบวนประกอบไปด้วยรถดีเซลรางชั้นสามจำนวน ๒ คัน และรถดีเซลรางนั่งปรับอากาศหนึ่งคัน ขบวนรถสายนี้หยุดรับส่งผู้โดยสารสถานีกรุงเทพ สามเสน ดอนเมือง สระบุรี นครราชสีมา ชุมทางถนนจิระ ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ต่อมาปี ๒๕๓๐ หยุดรับส่งผู้โดยสารเพิ่มอีก ๒ สถานี คือ สถานีห้วยแถลง และสถานีกระสัง

จุดขายที่บริษัทผู้รับสัมปทานซึ่งมีธุรกิจใหญ่โตที่จังหวัดนครราชสีมานำมาโปรโมทขบวนรถสายนี้ก็คือ ขบวนรถใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพ-โคราช แค่ ๔ ชั่วโมง(ผมทดลองนั่งมาแล้ววิ่งได้จริงตามเวลา) มีความรวดเร็วไม่แพ้รถทัวร์ปรับอากาศใน พ.ศ.นั้น(หรืออาจจะเร็วกว่ารถโดยสารธรรมดาสีส้ม) ที่ถนนมิตรภาพยังมีแค่สองเลนไป-กลับ รถทัวร์ทำความเร็วได้ไม่เท่าสมัยนี้ อีกทั้งขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศมีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากกว่า อย่างขบวน ๙๓๑ ออกจากกรุงเทพ ๑๐.๕๕ น. พอเวลา ๑๔.๕๕ น. ก็ถึงสถานีนครราชสีมาโดยสวัสดิภาพ อิ่มท้อง ไม่ต้องอ่อนเพลีย ตึงเครียดจากการนั่งลุ้นระหว่างเดินทางเหมือนเวลาโดยสารรถทัวร์สายนี้ ที่ชอบแซงในที่คับขันซึ่งมีอยู่มากระหว่างทางถนนมิตรภาพช่วงแก่งคอย-มวกเหล็ก-ปากช่อง ไม่ว่าจะเป็นทางโค้ง ขึ้นเนินสูง มีรถสวน โชเฟอร์อสุรบาทา(เรียกหยาบๆว่า “ตีนผี”)ล้วนแซงทั้งสิ้น เล่าถึงตรงนี้ผมก็อดนึกเสียดายไม่ได้ว่า ช่วงเวลา ๒๐ ปีที่ผ่านมามีการขยายถนนมิตรภาพเป็น ๔ เลนไป-กลับ และได้ข่าวว่าจะขยายเพิ่มอีก ในขณะที่ทางรถไฟช่วงสถานีมาบกะเบา-นครราชสีมา ยังเป็นทางเดี่ยวเหมือนเดิมในขณะที่มีขบวนรถใช้เส้นทางนี้หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะให้กิจการรถไฟเจริญได้อย่างไรล่ะครับ น่าน้อยใจแทนการรถไฟและแฟนๆรถไฟจริงๆ

เล่าๆไปชักจะบ่นมากอีกแล้ว เอาเป็นว่ามาชมตั๋วขบวนรถของเจ๊เกียว เอ๊ยไม่ใช่! เชิญชมภาพตั๋วขบวนรถสายนี้กันดีกว่าครับ

Click on the image for full size

บริษัทนี้ก็เรียกตั๋วว่า “บัตรโดยสาร” ทำนองเดียวกับสายกรุงเทพ-ขอนแก่น/อุดรธานีอีกแล้ว ตั๋วขบวนรถสายนี้ไม่ได้ทำเป็นเล่มอย่างสายกรุงเทพ-ขอนแก่น/อุดรธานี แต่จะเป็นตั๋วแผ่นเดียวมีรอยปรุแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรกซ้ายสุดของตั๋วเป็นต้นขั้วซึ่งเจ้าหน้าที่ขายตั๋วกรอกข้อมูลแล้วเก็บรวมไว้ในเล่มตั๋ว จึงไม่มีภาพต้นขั้วมาให้ชมครับ แต่สีสัน ลวดลายยังเป็นเหมือนกับส่วนที่สอง(ส่วนด้านซ้ายของภาพ) และส่วนที่สาม(ส่วนด้านขวาของภาพ)ซึ่งเป็นส่วนที่มอบแก่ผู้โดยสารถือขึ้นขบวนรถ เวลาเทรนโฮสเตทสาวสวยมาเชิญขึ้นรถและนำไปยังที่นั่งเรียบร้อย คุณเธอก็จะฉีกตั๋วส่วนที่สามออกไปเป็นหลักฐานว่าได้ตรวจตั๋วแล้ว คงเหลือแต่ส่วนที่สองให้ผู้โดยสารไว้เท่านั้น เล่าถึงตอนนี้บางท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมตั๋วตามภาพยังเหลือครบทั้งส่วนที่สองและสามล่ะ ผมขอชี้แจงว่า ไม่ใช่ว่าผมใช้เทคนิควิชามารอะไรกับเทรนโฮสเตทเพื่อขอไม่ให้คุณเธอฉีกตั๋วส่วนที่สามไปหรอกนะครับ ผมยอมทุ่มทุนตั้ง ๑๓๐ บาท (สมัยนั้นผมอยู่ ม.๒ ค่าขนมแค่วันละ ๓๐ บาทเอง) ซื้อตั๋วใบนี้มาเก็บสะสมไว้ เพราะเห็นว่าลวดลายสวยดียิ่งกว่าตั๋วรถไฟร่วมบริการสายอื่น(ทีแสตมป์ชุดละเป็นร้อยยังยอมอดขนมซื้อมาสะสมจนได้นี่นะ) ก็สัมฤทธิ์ผลดังคาด เนื่องจากผมยังเก็บรักษาตั๋วใบนี้มาได้ถึงปัจจุบัน(๒๐ ปีแล้ว) ในขณะที่ตั๋วใบที่ใช้โดยสารจริงซึ่งถูกฉีกออกเหลือแต่ส่วนที่สองยังหาไม่พบเลยครับ

ตามตั๋วระบุว่าเป็นตั๋วโดยสารรถดีเซลรางปรับอากาศจากกรุงเทพ-นครราชสีมา ราคา ๑๓๐ บาท ซึ่งเป็นระยะทางต่ำที่สุดที่บริษัทนี้ขายตั๋วให้ ถ้าผู้โดยสารเดินทางในระยะใกล้กว่านี้ เช่น จากกรุงเทพ-สระบุรี ก็ต้องเสียค่าโดยสารในอัตราขั้นต่ำกรุงเทพ-นครราชสีมา และได้รับตั๋วระบุว่ากรุงเทพ-นครราชสีมาตามภาพข้างต้น ดูไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยใช่ไหมครับ เดินทางแค่สระบุรี ๑๑๓ ก.ม. กลับต้องจ่ายค่าตั๋วในระยะทางถึงนครราชสีมา ๒๖๔ ก.ม. แต่ก็มีทางเลือกอื่นสำหรับผู้แสวงหาความยุติธรรมในการเดินทางด้วยรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศจากกรุงเทพไปสระบุรี ก็สามารถเดินทางด้วยขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศกรุงเทพ-ขอนแก่น/อุดรธานี ซึ่งบริษัทนี้แยกคิดราคาค่าโดยสารไปสระบุรีตามระยะทางที่แท้จริง(ประมาณ ๙๐ บาท)ได้ครับ หากเป็นตั๋วจากกรุงเทพ-สุรินทร์ สีสันด้านบนตั๋วจะเป็นแถบสีน้ำเงิน-ม่วง ส่วนลวดลาย ข้อความหน้าตั๋วเป็นเช่นเดียวกันกับตั๋วตามภาพข้างต้น ผมยังไม่เคยนั่งขบวนนี้ไปถึงสุรินทร์และไม่ได้ซื้อเก็บไว้(แค่นี้ก็อดขนมหลายวันแล้วครับ)เลยไม่มีภาพตั๋วจากกรุงเทพ-สุรินทร์มาให้ชมครับ หากท่านใดมีเก็บไว้กรุณานำมาให้ชมบ้างก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ

ส่วนข้อความที่ปั๊มลงบนตั๋วว่า “เสริม” หมายถึงที่นั่งเสริมซึ่งเป็นเก้าอี้นวมขนาดพอๆกับที่นั่งปกติซีกเดียว นำมาตั้งไว้บริเวณประตูทางขึ้นลงคันละ ๒-๓ ตัวเป็นเก้าอี้เสริมในกรณีที่ที่นั่งปกติทั้ง ๖๒ ที่เต็มหมดแล้ว ดูสิครับบริษัทเอกชนนี่ไม่ยอมปล่อยลูกค้าไปง่ายๆเพียงเพราะที่นั่งตามปกติเต็ม แต่ก็ไม่ใช่เสริมกันจนเต็มทางเดินนะครับรู้สึกว่าจะมีการจำกัดจำนวนที่เสริมอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นรถชั้นสามเก้าอี้เสริมก็เป็นแค่ม้านั่งแข็งๆไม่มีพนักพิง(แบบม้านั่งตามร้านก๋วยเดี๋ยว)เวลารถเบรกแรงๆน่ากลัวจะล้มคะมำเสียจริงๆ ดีนะครับที่การรถไฟไม่นำแนวคิดเรื่องเก้าอี้เสริมมาใช้ ไม่อย่างนั้นในช่วงเทศกาลคงได้เห็นการวางเก้าอี้/ที่นอนเสริมบนขบวนรถกันบ้าง ท่านยังจำกฎเหล็ก(เงื่อนไขการเดินทาง)ของสายกรุงเทพ-ขอนแก่น/อุดรธานีได้ไหมครับ กฎของบริษัทนี้ก็เหมือนๆกันเพียงแต่พิมพ์ไว้ด้านหลังตั๋วคาบรอยปรุระหว่างส่วนที่สองกับส่วนที่สาม เมื่อเทรนโฮสเตทฉีกส่วนที่สามออกไปข้อความตามกฎที่เหลืออยู่ในส่วนที่สองก็ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ผู้โดยสารที่อยากทราบกฎต้องรีบอ่านให้เข้าใจเสียตั้งแต่ตอนยังไม่มีการตรวจ(ฉีก)ตั๋วนะครับ ไม่อย่างนั้นท่านต้องเดาข้อความที่ขาดหายไปเอาเอง

โปรดติดตามชมตอนต่อไปนะครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 14/08/2006 2:01 pm    Post subject: Reply with quote

เล่าต่อนะครับ

พักสายตามาชมภาพเทรนโฮสเตทสายนี้กันดีกว่าครับ เครื่องแบบเทรนโฮสเตทสายนี้ในช่วงแรกเปิดบริการจะออกเป็นโทนสีม่วง สีน้ำเงิน ในขณะที่เครื่องแบบเทรนโฮสเตทสายกรุงเทพ-ขอนแก่น/อุดรธานี ในยุคแรกๆที่เปิดบริการเป็นโทนสีเหลือง สายกรุงเทพ-พิษณุโลกเป็นโทนสีชมพู(ถ้าผมจำไม่ผิด) มีภาพซึ่งผมถ่ายสำเนามาจากหน้าปกวารสารรถไฟสัมพันธ์ ฉบับเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี ๒๕๒๙

Click on the image for full size

ที่มีรอยตัดบริเวณใบหน้าของเทรนโฮสเตทสาวสวย ไม่ใช่เพราะเธอทั้งสองเป็นผู้เสียหายในคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศซึ่งต้องปกปิดใบหน้า เพื่อมิให้สาธารณชนทราบว่าเธอเป็นใครนะครับ เหตุเกิดจากเด็กมือบอนคนหนึ่ง(ใครเอ่ย)ใช้มีดคัตเตอร์กรีดประทุษร้ายถูกใบหน้าของเธอ โดยมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์เป็นภาพรถไฟที่อยู่ปกในเพื่อนำไปติดหน้าปกหนังสือเรียน ภาพเลยไม่สมบูรณ์นักต้องขออภัยด้วยครับ แต่ยังสามารถสังเกตเห็นความสวยงามของเครื่องแบบสีม่วงของเทรนโฮสเตทสายนี้ได้ ถ้าไม่นั่งริมหน้าต่างรถดีเซลรางชั้นสาม แล้วมีใครมาบอกว่าเธอทั้งสองเป็นแอร์โฮสเตทก็คงน่าเชื่ออยู่นะครับ เข็มกลัดที่ปกสูทด้านซ้ายเป็นเครื่องหมายของบริษัทเชิดชัยดีเซลราง จำกัด ผู้รับสัมปทาน แบบเดียวกับเครื่องหมายกลางภาพตั๋ว มีการนำสัญลักษณ์ล้อติดปีกของการรถไฟมาใช้ประกอบด้วย บางท่านอาจจะอยากชมใบหน้าของเทรนโฮสเตททั้งสองนี้มากกว่าให้ดูแต่เครื่องแบบ ผมเลยนำสำเนาภาพปกหน้าที่พิมพ์ในวารสารเล่มดังกล่าว ซึ่งรอดจากมือมีดคัตเตอร์เพราะเป็นภาพขาวดำแถมไม่มีภาพรถไฟอยู่ด้านหลังมาให้ชมกัน เผื่อจะเห็นเค้าความงามของเธอบ้างนะครับ

Click on the image for full size

นอกจากเครื่องแบบเทรนโฮสเตทสายนี้ในรูปแบบดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกแบบหนึ่งโดยยังคงเครื่องหมายของบริษัทประดับไว้ที่ปกสูทด้านซ้ายและบนหมวกเช่นเดิม ตามภาพที่ผมสำเนามาจากปกในวารสารรถไฟสัมพันธ์ ฉบับที่ ๒/๒๕๓๘ เครื่องแบบอย่างไหนสวยกว่ากันลองพิจารณานะครับ แต่ถ้าถามความเห็นของผม ก็ขอตอบว่าแบบแรกสวยกว่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแบบหรือผู้สวมใส่

Click on the image for full size

ถ้าท่านสังเกตด้านซ้ายของภาพตรงที่เป็นป้ายข้างรถ จะเห็นลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากป้ายข้างรถของขบวนรถอื่นๆที่บริษัทเอกชนมิได้เข้ามารับสัมปทานได้ กล่าวคือ ป้ายข้างรถของขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศไม่เฉพาะแต่สายกรุงเทพ-สุรินทร์นะครับ สายกรุงเทพ-ขอนแก่น/อุดรธานี และสายกรุงเทพ-พิษณุโลก ก็ใช้ป้ายข้างรถสีเหลืองอ่อน มีรอยโค้งครึ่งวงกลมช่วงกลางป้ายด้านบนเช่นเดียวกัน หมายเลขรถคันที่.... ระบุไว้เด่นชัดด้วยสีแดงตรงส่วนบนสุดที่เป็นครึ่งวงกลม มีการระบุในป้ายข้างรถว่าเป็น “ขบวนดีเซลรางพิเศษ” แตกต่างไปจากระบบการระบุข้อความในป้ายข้างรถของการรถไฟฯ

โปรดติดตามชมตอนต่อไปนะครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 1574
Location: เมืองช้าง

PostPosted: 14/08/2006 8:50 pm    Post subject: Reply with quote

เห็นภาพของคุณตุ้ยแล้วนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยเด็กๆ รถเชิดชัยนี่พี่ชายพาผมไปนั่งดูที่สถานีทุกวัน วัน 2 รอบ แต่ไม่ได้เก็บอะไรที่เกี่ยวข้องเอาไว้สักอย่าง

Mr. Green
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 14/08/2006 9:56 pm    Post subject: Reply with quote

ที่คุณแจนบอกว่า

Quote:
รถเชิดชัยนี่พี่ชายพาผมไปนั่งดูที่สถานีทุกวัน วัน 2 รอบ


ผมเห็นคุณแจนเคยเล่าตอนกระทู้เรื่อง เล่าเรื่องตั๋วแข็งฯ ว่ารถเที่ยวกลับจากสุรินทร์ออก ๘ โมงตรง พอเคารพธงชาติเสร็จก็ออกจากสถานี พอผมไปดูตารางเดินรถปี ๒๕๒๘ ขบวน ๙๓๒ ออกจากสุรินทร์ ๘.๐๐ น. ตามที่คุณเล่าเป๊ะเลยครับ thumbsup

ถ้าจะร่วมรำลึกความหลังของรถขบวนนี้ก็เชิญเลยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามชมครับ Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 1574
Location: เมืองช้าง

PostPosted: 14/08/2006 10:35 pm    Post subject: Reply with quote

ครับผม ปูเสื่อรอติดตามครับ

ที่ผมจำอะไรเกี่ยวกับขบวนนี้ได้เยอะหน่อยก็เพราะตอนนั้นสนใจอยู่ขบวนเดียวครับ ประมาณว่าบ้าเห่อที่บ้านเรามีรถด่วนต้นทางกับเขาสักที

และก็เป็นรถดีเซลรางรุ่นใหม่ที่ตอนนั้นเพิ่งเอามาใช้ในทางสายอีสานใต้ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อนทำให้สนใจเป็นพิเศษครับ

พอได้ขึ้นวาสนาก็ได้แค่ชั้น 3 ครับ 100 บาทขาดตัว แต่ก็หรูเฟ่แล้ว

trampoline
Back to top
View user's profile Send private message
vasankp
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 10/07/2006
Posts: 11

PostPosted: 15/08/2006 4:55 pm    Post subject: Reply with quote

ถึงตั๋วรถร่วมเอกชนจะสวยสู้ตั๋วแข็งไม่ได้ แต่ก็ยังติดตามชมเหมือนเดิมครับคุณtuie Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 12, 13, 14  Next
Page 2 of 14

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©