RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180499
ทั้งหมด:13491733
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เล่าถึงเหล่าเพื่อนผองของตั๋วแข็ง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เล่าถึงเหล่าเพื่อนผองของตั๋วแข็ง
Goto page Previous  1, 2, 3, 4 ... 12, 13, 14  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 15/08/2006 5:33 pm    Post subject: Reply with quote

รถดีเซลรางที่ไปสุรินทร์นี่ผมเคยขึ้นแค่ไม่กี่ครั้งครับ จำได้ว่าตอนนั้นพ่อแม่ผมพาไปเที่ยวงานช้างที่สุรินทร์น่ะครับ

2 ข้างทางตอนนั้นสวยมากครับ จำได้ลาง ๆ แต่พอผมผ่านไปทางอีสานใต้อีกครั้งช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ก็เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้เลยครับ Shocked สงสัยคงเป็นอดีตที่นานมาก ๆ แล้วจริง ๆ Embarassed

ตอนนั้นยังนึกดีใจ รถสุรินทร์มีแค่ 3 ตู้เอง มีตู้แอร์ตู้เดียว รถพิษณุโลกมี 4 ตู้ ตู้แอร์ 2 แต่พอหลังจากนั้นมาหน่อย รถพิษณุโลกเปลี่ยนเป็น sprinter รถสุรินทร์กลับได้เป็น Daewoo ไปซะงั้น Shocked
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 16/08/2006 7:58 pm    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณ คุณแจน คุณเต้ย และคุณvasankp ที่ติดตามชมและร่วมรำลึกความหลังเกี่ยวกับรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศครับ ขอเล่าต่อเลยนะครับ

หลังจากบริษัทเชิดชัยดีเซลราง จำกัด รับสัมปทานให้บริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายกรุงเทพ-สุรินทร์ ได้ประมาณ ๒ ปี ในปี ๒๕๓๐ บริษัทนี้ก็รับสัมปทานให้บริการอีกรูปแบบหนึ่งต่างจากรูปแบบเดิมซึ่งเป็นการให้บริการทั้งขบวนอยู่บ้าง กล่าวคือ เป็นการรับสัมปทานให้บริการบนโบกี้รถนั่งปรับอากาศที่การรถไฟฯให้บริษัทเชิดชัยฯนำรถนอนชั้นหนึ่ง บนอ.(พัดลม)รุ่นเก่าไปดัดแปลงสภาพใหม่ สภาพภายในคล้ายๆรถทัวร์วี.ไอ.พี.สมัยนี้ แล้วนำไปพ่วงในขบวนรถที่การรถไฟฯให้บริการอยู่แล้วตามปกติ ซึ่งการให้บริการรูปแบบใหม่นี้ เริ่มสายแรก คือ สายกรุงเทพ-หาดใหญ่ โดยนำรถปรับอากาศดัดแปลงพ่วงเข้ากับรถเร็วที่ ๔๕/๔๖ (ขบวน ๑๗๑/๑๗๒ ในปัจจุบัน) กรุงเทพ-สุไหงโกลก พ่วงเป็นโบกี้แรกติดกับหัวรถจักรเลยครับ เท่าที่ผมเห็นมีแค่โบกี้เดียวนอกนั้นเป็นการพ่วงโบกี้อื่นๆตามปกติของการรถไฟฯ รถเร็วขบวนนี้เที่ยวไปออกจากกรุงเทพ ๑๒.๓๐ น. ถึงชุมทางหาดใหญ่ ๔.๓๒ น. (ใช้เวลาเดินทาง ๑๖ ชั่วโมง) เที่ยวกลับออกจากชุมทางหาดใหญ่ ๑๔.๑๕ น. ถึงกรุงเทพ ๖.๓๕ น. แหม!ดูกำหนดเวลารถเร็วขบวนนี้ในสมัยปี ๒๕๓๐ แล้ว วิ่งเร็วพอๆกับขบวนรถด่วนที่ ๑๙/๒๐ (ขบวน ๓๗/๓๘ในปัจจุบัน)เลยครับ

ตั๋วโดยสารรถนั่งปรับอากาศสายนี้ มีลักษณะเดียวกันกับตั๋วโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายกรุงเทพ-สุรินทร์ ที่บริษัทเชิดชัยฯรับสัมปทานให้บริการ คือ เป็นตั๋วสามส่วนมีรอยปรุแยกแต่ละส่วนออกจากกัน ส่วนแรกเป็นต้นขั้ว ส่วนที่สองสำหรับผู้โดยสาร ส่วนที่สามสำหรับเทรนโฮสเตทฉีกตอนตรวจตั๋ว ตามภาพตั๋วที่ผมนำมาให้ชมเป็นตั๋วที่ผมลองไปใช้บริการตอนช่วงปิดเทอมแรก(เดือนตุลาคม)ปี ๒๕๓๐ ความจริงมีแผนจะนั่งรถไฟเที่ยวไปถึงหาดใหญ่ด้วย แต่ผมมีให้ชมแค่ส่วนที่สองสำหรับผู้โดยสารนะครับ ส่วนที่สามถูกเทรนโฮสเตทฉีกไปแล้ว จะลงทุนซื้อทั้งใบเอาไว้สะสมแบบตั๋วขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายกรุงเทพ-สุรินทร์ ดังที่เคยนำเสนอให้ชมมาแล้ว ก็ไม่ไหวเนื่องจากมีกำลังทรัพย์ไม่พอครับ แม้ว่าตอนนั้นผมขึ้น ม.๔ แล้วได้ค่าขนมเพิ่มเป็นวันละ ๕๐ บาทก็ตาม เลยเหลือสมบัติมาโชว์ได้แค่นี้ครับ

Click on the image for full size

ตั๋วตามภาพข้างต้นนั้น บริษัทเชิดชัยฯเรียกว่า “บัตรโดยสาร” (อีกแล้ว) มีลวดลายสัญลักษณ์ของการรถไฟฯสีม่วงอ่อนกระจายทั่วไปในตั๋วทั้งสามส่วน โดยมีตราสัญลักษณ์ของบริษัทเชิดชัยดีเซลราง จำกัด อยู่คาบรอยปรุระหว่างตั๋วส่วนที่สองกับส่วนที่สาม เป็นตั๋วที่พิมพ์เอาไว้แบบเดียวว่าจากกรุงเทพ-หาดใหญ่ ราคา ๔๐๐ บาท หมายความว่า ถ้าโดยสารในระยะทางใกล้กว่านั้นก็ใช้ตั๋วแบบพิมพ์เดียวกันนี้เหมือนกัน เพียงแต่เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วจะขีดฆ่าราคา ๔๐๐ บาท ออกไปแล้วเขียนราคาตามระยะทางที่โดยสารจริง อย่างตั๋วตามภาพดังกล่าวผมใช้โดยสารจากกรุงเทพ-ชุมพร เจ้าหน้าที่ก็ขีดฆ่าราคาที่พิมพ์ไว้หน้าตั๋ว ๔๐๐ บาท ออกแล้วเขียนราคาตั๋วจากกรุงเทพ-ชุมพร ๓๕๐ บาทให้แทน ราคาดังกล่าวเป็นราคาขั้นต่ำที่บริษัทนี้คิดจากผู้โดยสาร หากจะเดินทางในระยะสั้นกว่านี้ เช่น กรุงเทพ-หัวหิน กรุงเทพ-ประจวบฯ ก็ต้องเสียค่าโดยสารในราคาขั้นต่ำ ๓๕๐ บาทเช่นเดียวกันครับ ผมเข้าใจว่าบริษัทเขาก็ต้องคิดในเรื่องความคุ้มค่าและผลกำไรถึงได้คิดค่าโดยสารในลักษณะนี้ แพงหรือไม่แพง ยุติธรรมหรือไม่ ลองเทียบกับราคาค่าตั๋วรถนั่งชั้นสองปรับอากาศ (บชท.ป.)ของการรถไฟในยุคนั้น ต่อให้เป็นรถ บชท.ป.ที่พ่วงกับขบวนรถด่วนด้วยนะครับ ถ้าเป็นระยะทางจากกรุงเทพ-หาดใหญ่ ราคารวมค่าธรรมเนียมเบ็ดเสร็จ ๓๘๓ บาท ผมว่ายังพอรับได้ถ้าเทียบกับการจ่าย ๔๐๐ บาท แต่มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม วีดิโอ เพลงฯลฯจากเทรนโฮสเตทสาวสวยตลอดการเดินทาง แต่ถ้าเป็นระยะแค่ประมาณครึ่งทางอย่างกรุงเทพ-ชุมพร ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับค่าตั๋วรถ บชท.ป.รวมค่าธรรมเนียมรถด่วนของการรถไฟฯ เป็นราคาแค่ ๒๔๒ บาทเองแล้ว การเดินทางด้วยโบกี้ปรับอากาศของบริษัทเชิดชัยฯจะแพงกว่าตั้ง ๑๐๘ บาท เชียวนะครับ (ยุคนั้นราคาข้าวแกงโดยเฉลี่ยจานละ ๑๐ บาท)

ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ในวันที่ผมเดินทางด้วยรถโบกี้นี้ มีผมเพียงคนเดียวที่ลงสถานีชุมพร เพราะผู้โดยสารปกติทั่วไปที่เดินทางแค่กรุงเทพ-ชุมพร เขาจะไม่ใช้บริการโบกี้ปรับอากาศของบริษัทเชิดชัยฯให้เปลืองเงินกันหรอกครับ มีแต่ผู้โดยสารไม่ปกติ(หมายถึงมีเหตุผลพิเศษ ไม่ใช่ว่าเป็นคนบ้านะครับ)อย่างผมที่อยากทดลองนั่งรถเพิ่งจะดัดแปลงเสร็จใหม่ๆ อยากดูให้ชัดๆว่ายังเหลือเค้าเดิมของรถ บนอ.หรือไม่ เพียงใด กับอีกเหตุผลหนึ่ง คือ อยากจะสะสมตั๋วโดยสารถึงยอมจ่ายแพงเพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ อ่านถึงตรงนี้บางท่านอาจจะสงสัยว่าในเมื่อผมจะนั่งรถไฟเที่ยวจนถึงหาดใหญ่อยู่แล้ว ถ้าผมกลัวขาดทุน ไม่คุ้มเงินที่จ่ายไป ๓๕๐ บาท แต่นั่งได้แค่ชุมพร ทำไมไม่จ่ายเพิ่มอีก ๕๐ บาท รวมเป็น ๔๐๐ บาท แล้วนั่งไปถึงหาดใหญ่เสียเลยล่ะ แหม! จะบอกเหตุผลที่แท้จริงให้ฟังก็เขินๆอยู่ แต่ไหนๆก็อยู่ในแวดวงพี่ๆน้องที่ต่างก็ชอบ(บ้า)รถไฟเข้าขั้นทั้งนั้น เล่าเรื่องต่างๆ(และบ่น)ให้ท่านฟังมาตั้งเยอะแล้ว สารภาพเลยก็ได้ครับว่า ในการเดินทางครั้งนี้ผม(คิดแบบเด็กๆไม่เอาเหตุผลเรื่องความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ-การเงินแบบผู้ใหญ่เขาคิดกันมาใช้)อยากได้ตั๋วมาสะสมให้มากที่สุด เลยตัดสินใจซื้อทั้งตั๋วโบกี้ปรับอากาศของบริษัทเชิดชัยฯจากกรุงเทพ-ชุมพร และซื้อตั๋วรถนอนพัดลม (บนท. ๓๒ ที่) (สมัยนั้นรถเร็วขบวนนี้มีรถ บนท. พ่วงโบกี้เดียว ไม่มีรถ บนท.ป.พ่วงนะครับ) ในระยะทางที่เหลือจากชุมพร-หาดใหญ่ เดินทางต่อไปโดยขบวนรถเดียวกัน ถือเสียว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เดินทางเที่ยวเดียวได้ตั๋วสองประเภทมาสะสม ได้นั่งทั้งรถปรับอากาศดัดแปลงและนอนหลับสบายบนรถ บนท.ครับ ตกลงการเดินทางจากกรุงเทพไปหาดใหญ่ครั้งนี้ ผมจ่ายค่าตั๋วไปทั้งหมดประมาณ ๗๐๐ บาท (บ้าสะสมตั๋วเข้าขั้นไหมครับ) ตอนลงรถที่หาดใหญ่ยังจำได้ว่าเทรนโฮสเตทเห็นผมแล้วทำท่างงงง คล้ายกับว่าเด็กคนนี้มันลงที่ชุมพรนี่หว่า แล้วมันมาโผล่ที่หาดใหญ่ได้อย่างไรกัน Surprised Shocked

โปรดติดตามชมตอนต่อไปนะครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 16/08/2006 9:38 pm    Post subject: Reply with quote

ผมรอรำลึกความหลังกับขบวนสุดท้าย รถพิษณุโลกอยู่ครับ อาจจะดึงความทรงจำก๊อกท้ายสุดออกมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน จะมีเหลือตรงไหนอีกน้อ... Wink
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 16/08/2006 9:59 pm    Post subject: Reply with quote

แหะแหะ...สงสัยครับ
การบริการของเชิดชัย ในสายใต้ จะเหมือนรถทัวร์ไหมครับ...
แบบว่ารถออกแล้ว แจกน้ำ แจกของกิน เปิดวีดีโอหนังจีน แจกข้าว ... แจกผ้าห่ม....นอน

เก็บผ้าห่ม...... ไล่ลง...... อะ..ไม่ใช่......แจ้งผู้โดยสารว่าถึงปลายทางแล้ว ขอบคุณที่ใช้บริการ ...
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 17/08/2006 1:15 pm    Post subject: Reply with quote

ที่พี่ณัฐสงสัยว่า
Quote:
การบริการของเชิดชัย ในสายใต้ จะเหมือนรถทัวร์ไหมครับ...


เท่าที่ผมสังเกตการบริการของเทรนโฮสเตท ก็คล้ายๆกับบัสโฮสเตทรถทัวร์ชั้นหนึ่งนะครับ แต่ออกจะทำให้ใกล้เคียงกับแอร์โฮสเตทมากกว่า ไม่ว่าจะด้านความสวยงามทั้งคนและเครื่องแบบ
ที่ต่างจากรถทัวร์ส่วนมากก็คือ การเสริฟอาหารมื้อเย็นให้บนขบวนรถ ไม่มีจอดแวะให้ลงไปรับประทานที่ร้านอาหารระหว่างทางแบบรถทัวร์ กับขอเติมเครื่องดื่มร้อน/เย็นนานาชนิดได้ แต่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสริฟอย่างบนเครื่องบินนะครับ Smile

เวลาใกล้จะถึงสถานีที่ผู้โดยสารท่านใดจะลง โดยเฉพาะสถานีระหว่างทางเทรนโฮสเตทก็จะมากระซิบบอกผู้โดยสารท่านนั้น ไม่มีการตะโกนลั่นโบกี้ ให้ผู้โดยสารอื่นที่หลับอยู่และยังไม่ลง ต้องตกใจตื่นหรอกครับ นอกจากนี้ เทรนโฮสเตทยังมีหน้าที่คอยเปิดไฟ หรี่ไฟ ปรับความเย็นเครื่องปรับอากาศ ซึ่งบัสโฮสเตทไม่ต้องทำหน้าที่ดังกล่าวเนื่องจากคนขับรถทัวร์ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว

แต่คาดว่า ไม่น่าจะมีกรณีเทรนโฮสเตทเอาขวดน้ำอัดลมโขก.... พขร.ที่ขับซิ่ง เหมือนขบวนรถบางสาย เพราะว่าคงปีนไปจัดการถึงบนหัวรถจักรไม่ไหวน่ะครับ Laughing

ขอบคุณพี่ณัฐและทุกๆท่านที่ติดตามชมนะครับ Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message
tongchit
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 28/03/2006
Posts: 1164
Location: ทับยาว เขต.ลาดกระบัง

PostPosted: 17/08/2006 5:52 pm    Post subject: Reply with quote

Quote:
อยากได้ตั๋วมาสะสมให้มากที่สุด เลยตัดสินใจซื้อทั้งตั๋วโบกี้ปรับอากาศของบริษัทเชิดชัยฯจากกรุงเทพ-ชุมพร และซื้อตั๋วรถนอนพัดลม (บนท. ๓๒ ที่) (สมัยนั้นรถเร็วขบวนนี้มีรถ บนท. พ่วงโบกี้เดียว ไม่มีรถ บนท.ป.พ่วงนะครับ) ในระยะทางที่เหลือจากชุมพร-หาดใหญ่ เดินทางต่อไปโดยขบวนรถเดียวกัน ถือเสียว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เดินทางเที่ยวเดียวได้ตั๋วสองประเภทมาสะสม ได้นั่งทั้งรถปรับอากาศดัดแปลงและนอนหลับสบายบนรถ บนท.ครับ ตกลงการเดินทางจากกรุงเทพไปหาดใหญ่ครั้งนี้ ผมจ่ายค่าตั๋วไปทั้งหมดประมาณ ๗๐๐ บาท (บ้าสะสมตั๋วเข้าขั้นไหมครับ) ตอนลงรถที่หาดใหญ่ยังจำได้ว่าเทรนโฮสเตทเห็นผมแล้วทำท่างงงง คล้ายกับว่าเด็กคนนี้มันลงที่ชุมพรนี่หว่า แล้วมันมาโผล่ที่หาดใหญ่ได้อย่างไรกัน

นับถือในความพยามของคุณตุ้ย ถึงกับยอมอดค่าข้าว ค่าขนมลงทุนเพียงเพราะอยากได้ตั๋วที่ต้องการมาเก็บไว้สะสม Shocked
_________________
ความผิดฅนอื่นเท่าขุนเขา ความผิดเราเท่าขุมขน
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 19/08/2006 8:29 pm    Post subject: Reply with quote

ใครบอกว่าบ้ารถไฟนี่ ผมถือว่าเป็นคำชมนะครับ Laughing ขอบคุณ พี่ tongchit และทุกๆท่านที่ติดตามชม Very Happy เล่าตอนต่อไปเลยนะครับ

เล่านอกเรื่องไปตั้งเยอะ กลับมาที่ตั๋วตามภาพข้างต้นอีกครั้งนะครับ มีข้อน่าสังเกตว่า บริษัทเชิดชัยฯเขาเรียกโบกี้รถปรับอากาศดัดแปลงนี้ว่า “รถปรับอากาศพิเศษ” ถ้าท่านใดได้ชมภาพซากของโบกี้รุ่นนี้ที่คุณ Alderwood กรุณานำมาให้ชมในตอนท้ายๆกระทู้ที่ผมเล่าเรื่อง “เล่าเรื่องตั๋วแข็งหลากสีหลายชนิด” แล้วจะเห็นตัวย่อเรียกโบกี้รุ่นนี้ว่า รปอ. ติดไว้อย่างชัดเจน ตามตั๋วระบุเลขที่นั่ง 10 B เพราะว่าระบบเลขที่นั่งสำหรับโบกี้รุ่นนี้ ใช้ตัวเลขเรียกลำดับแถวเก้าอี้นั่งจากต้นไปท้ายโบกี้ โดยมีอักษร A , B , C , D แสดงลำดับที่นั่งจากริมหน้าต่างด้านหนึ่งไปยังริมหน้าต่างอีกด้านหนึ่งทำนองเดียวกับการกำหนดเลขที่นั่งบนเครื่องบิน หรือรถทัวร์บางคัน ส่วนลำดับของโบกี้ในขบวนรถก็ไม่ยอมใช้คำว่า “รถคันที่....” ตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยใช้ภาษาพูดแบบประชานิยมว่า “ตู้ที่” ซึ่งตามตั๋วไม่ระบุหมายเลขเอาไว้เพราะมีอยู่คันเดียวอยู่แล้ว คงละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าผู้โดยสารน่าจะหาพบ ดีนะครับที่การรถไฟไม่เอาตรรกะแบบนี้มาใช้กับการออกตั๋วโดยสารรถบางชนิดที่ตามปกติในขบวนหนึ่งมีอยู่โบกี้เดียว เช่น บนอ.ป. ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องระบุหมายเลขรถคันที่.... กันละครับ ก็มันมีรถแบบนี้แค่โบกี้เดียวนี่ ผู้โดยสารน่าจะหาเจอ

เล่าเรื่องด้านหน้าตั๋วแล้วไม่พลิกดูด้านหลังเดี๋ยวจะไม่ครบเครื่อง ชมภาพด้านหลังตั๋วรถปรับอากาศพิเศษกรุงเทพ-หาดใหญ่กันดีกว่าครับ

Click on the image for full size

ด้านหลังตั๋วตามภาพมีการระบุเงื่อนไข(กฎเหล็ก)ในการเดินทางเอาไว้ ดูกระท่อนกระแท่นหน่อยนะครับเพราะบริษัทนี้เขาพิมพ์กฎเหล็กคาบรอยปรุระหว่างส่วนที่สองกับส่วนที่สาม เวลาฉีกตั๋วส่วนที่สามไปตรวจแล้ว ผู้โดยสารก็เหลือข้อมูลไว้ศึกษากฎเหล็กเพียงแค่นี้ เหมือนอย่างที่เคยเล่าไปแล้วเกี่ยวกับตั๋วรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายกรุงเทพ-สุรินทร์น่ะครับ สาระสำคัญเท่าที่พอจับใจความได้นั้น เป็นไปทำนองเดียวกับกฎเหล็กในการโดยสารรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่บริษัทเอกชนรับสัมปทานนั่นแหละครับ อย่างข้อความในตั๋วตามภาพข้างต้นที่ว่า “นั่งละ ๑ แสนบาท” ไม่ใช่แจกเงินให้ที่นั่งละแสนบาทนะครับ(ไม่อย่างนั้นคงแย่งกันใช้บริการกันน่าดู) แต่เป็นวงเงินประกันภัยอุบัติเหตุให้แก่ผู้โดยสารทุกที่นั่ง ชื่อสถานีที่รถจอดและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อก็ขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย ผมถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการสื่อสารข้อมูลถึงผู้โดยสาร โดยอาศัยตั๋วโดยสารเป็นสื่อนั้น จะต้องวางแผนการสื่อสาร การจัดวางสาร(ข้อความ)และการใช้สื่อให้รอบคอบกว่านี้นะครับ มิฉะนั้นการสื่อสารก็จะไม่ประสบความสำเร็จและเกิดความคลาดเคลื่อนได้ง่าย เล่าๆไปชักจะกลายเป็นครูวิชาภาษาและการสื่อสารเสียแล้ว มาชมภาพภายในรถปรับอากาศดัดแปลงกันครับ เป็นภาพที่ผมสำเนามาจากโฆษณาปกหลังวารสารรถไฟสัมพันธ์ ฉบับพิเศษฯ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐

Click on the image for full size

ตามภาพข้างต้นคงพอจะเห็นได้ชัดเจนว่ารถ บนอ.(ที่รักของผม) แปลงร่างกลายเป็นรถทัวร์(เชิดชัย)ในคราบของรถไฟไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นั่ง กระจกหน้าต่าง ชั้นวางของ การติดตั้งโทรทัศน์ ล้วนถอดแบบมาจากรถทัวร์ทั้งสิ้น มีเพียงการหมุนหันหน้าเก้าอี้ไปตามทิศทางที่ขบวนรถแล่นไปที่ยังเป็นไปในลักษณะเดียวกับรถ บชท.หรือ บชท.ป. ในโฆษณาดังกล่าวยังระบุว่า จะเปิดบริการเพิ่มในสายกรุงเทพ-อุบลฯ และกรุงเทพ-เชียงใหม่ด้วย แต่ในเวลาต่อมาเท่าที่ผมเห็นมีการเปิดบริการเพิ่มเพียงสายกรุงเทพ-อุบลฯ โดยพ่วงกับขบวนรถเร็วที่ ๓๙/๔๐ (ขบวน ๑๓๙/๑๔๐ ในปัจจุบัน) เที่ยวไปออกจากกรุงเทพ ๑๘.๔๕ น. ถึงอุบลฯ ๕.๑๕ น. เที่ยวกลับออกจากอุบลฯ ๑๘.๒๐ น. ถึงกรุงเทพ ๕.๑๒ น. ส่วนสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ไม่เห็นมีการเปิดบริการนะครับ บริการรถปรับอากาศพิเศษทั้งสายกรุงเทพ-หาดใหญ่ และกรุงเทพ-อุบลราชธานี มีอยู่ในระยะสั้นๆก็ยกเลิกเสียหมด ผมยังไม่ทันได้ไปทดลองใช้บริการสายกรุงเทพ-อุบลฯ บริษัทนี้ก็เลิกกิจการรถปรับอากาศพิเศษไปก่อนคงเหลือแต่กิจการขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศกรุงเทพ-สุรินทร์ ครับ เลยไม่มีตั๋วสายกรุงเทพ-อุบลฯมาให้ท่านชม ส่วนโบกี้ปรับอากาศรุ่นนี้ก็ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีนครราชสีมาอยู่หลายปี ถูกเพลิงไหม้เหลือแต่ซาก(ดังที่คุณ Alderwood ถ่ายภาพไว้) คนรุ่นเก่าเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหวนระลึกถึงเมื่อครั้งโบกี้รุ่นนี้ยังมีสภาพเดิมเป็นรถนอนเอก (บนอ.)อย่างเต็มภาคภูมิช่วงก่อนปี ๒๕๓๐ สรรพสิ่งในโลกล้วนอนิจจังจริงๆนะครับ Sad

ก่อนจะจบตอนของรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศสายกรุงเทพ-สุรินทร์ ก็ขอกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของรถขบวนนี้ไว้พอสังเขปว่า หลังจากบริษัทเชิดชัยดีเซลราง จำกัด ไม่ได้รับสัมปทานให้บริการบนขบวนรถสายนี้แล้ว การรถไฟยังคงเดินรถขบวนนี้ต่อมา มีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขขบวนรถเที่ยวไปจากขบวน ๙๓๑ เป็นขบวน ๗๑ ขบวน ๙๓๓ เป็นขบวน ๗๓ เปลี่ยนแปลงหมายเลขขบวนรถเที่ยวกลับจากขบวน ๙๓๒ เป็นขบวน ๗๒ ขบวน ๙๓๔ เป็นขบวน ๗๔ มีการขยายปลายทางจากสุรินทร์ เป็นกรุงเทพ-ศีขรภูมิ(ขบวน ๗๒/๗๓) เป็นกรุงเทพ-อุทุมพรพิสัยและกลายเป็นกรุงเทพ-ศรีสะเกษ(ขบวน ๗๑/๗๔)ในที่สุด รถที่ใช้ทำขบวนยกระดับเป็นรถดีเซลรางปรับอากาศแดวู แต่ลดศักย์ขบวนรถจากรถด่วนพิเศษดีเซลรางฯเป็นรถด่วนฯ ความเร็วที่ใช้ในการเดินทางก็ลดลงตามไปด้วย จากเดิมสมัยเป็นขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางฯใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพไปสุรินทร์ประมาณ ๖ ชั่วโมง ก็เพิ่มเป็นประมาณ ๗ ชั่วโมงครับ

โปรดติดตามชมตอนต่อไปนะครับ Smile
Back to top
View user's profile Send private message
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 20/08/2006 5:20 pm    Post subject: Reply with quote

อ่า ติดตามชมอยู่นะครับ
ว่าแต่เรื่องกระดาษ ตอนนี้ได้มาบางส่วนแล้ว
แต่พอนึกถึงกระดาษพิเศษที่ตัดเป็นสี่เหลี่ยมเจาะเชือกฟางร้อยในสมัยก่อน
และกรรมวิธีการใช้ และท่าทางประกอบ ที่พี่ เอ๋ อัคร...เล่าให้ฟัง
คุณ tiue จะขยายความตอนนี้หรือยกยอดไปตอนท้ายๆ ดีครับ

ส่วนเรื่อง ขวดโค้ก นั้น ผมว่าติดตามที่อาจารย์ Cummins เล่าดีกว่า นะครับ. อิอิ... Laughing
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 20/08/2006 8:14 pm    Post subject: Reply with quote

ที่พี่ ณัฐ ถามว่า

Quote:
เรื่องกระดาษ ตอนนี้ได้มาบางส่วนแล้ว
แต่พอนึกถึงกระดาษพิเศษที่ตัดเป็นสี่เหลี่ยมเจาะเชือกฟางร้อยในสมัยก่อน
และกรรมวิธีการใช้ และท่าทางประกอบ ที่พี่ เอ๋ อัคร...เล่าให้ฟัง
คุณ tiue จะขยายความตอนนี้หรือยกยอดไปตอนท้ายๆ ดีครับ


ตามสะดวกเลยครับพี่ จะเล่าเลย หรือจะรอให้ได้ข้อมูลเรื่องกระดาษ และกระดาษพิเศษ(มีกลิ่น...ฟุ้งจรุงจิต) Embarassed ครบถ้วนทั้งหมด แล้วพี่ณัฐจะกรุณารวบยอดเล่าให้ฟังในตอนท้ายๆก็ได้ครับ ถ้ามีภาพประกอบ(ภาพจริงหรือภาพจำลองก็ได้)ให้ชมจักขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ 8)
Back to top
View user's profile Send private message
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 1574
Location: เมืองช้าง

PostPosted: 21/08/2006 12:47 am    Post subject: Reply with quote

เรื่องกระดาษพิเศษที่ต้องเจาะรูร้อยจะต้องเอาถึงขั้นมีภาพประกอบด้วยหรือครับ

จะกลายเป็นหนังสี่มิติไปเลยหรือเปล่า....หุหุ


pirate
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4 ... 12, 13, 14  Next
Page 3 of 14

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©