60 นาทีที่ไทรโยคใหญ่ และ Hellfire Pass

CivilSpice · Posted: 31/08/2006 7:28 pm Post subject:

ว่าแล้วก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม พร้อมกับความคิดเล็กๆ ในใจ (คิดดังไม่ได้ครับ เดี๋ยวโดน ผบ.ทบ. หาว่าบ้า) ว่าสักวันนึง ผมจะต้องเดินสำรวจเส้นทางสายนี้ จากจุดเริ่มต้น ไปยังจุดสุดท้าย ในระยะทาง 4 กิโลเมตรนี้ให้ได้ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่เห็น ยังไม่ได้สัมผัส โดยเฉพาะสถานีหินตก เห็นดูจากป้ายแนะนำ บอกว่ามีทางหลีกด้วยนะครับเนี่ย ..... บังเอิญว่าตอนที่ผมถ่ายภาพแผนผังทางเดินนี้มา แสงมันก็ไม่ค่อยจะเหลือแล้ว เปิดแฟลชก็ไม่ได้ เพราะมันสะท้อนมากๆ ก็เลยต้องถ่ายทั้งที่ไม่มีแฟลชล่ะครับ ขาตั้งก็ไม่ได้หยิบไป รูปก็เลยออกมาเบลอๆ แบบนี้แหล่ะ ไว้วันหลัง ผมจะมาทำ Map ที่ชัดเจนให้ใหม่อีกที

ตอดเส้นทางนี้ ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง (ไป-กลับ) แต่ถ้าไม่อยากเหนื่อยมาก แล้วก็นำรถส่วนตัวมา ก็ให้ใครก็ได้ที่ขี้เกียจเดินขับรถไปรอ ที่จุดนัดพบก็ได้ครับ มีอยู่หลายจุดทีเดียว แต่ต้องไปนัดแนะกันเองนะ

ที่แย็บๆ กันไปเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน ตอนนี้ก็มีคุณจ้อย Southrailway และน้องอาร์ต Bradycardia ที่อยากจะมาร่วมทริปกับผมแล้วสิครับ ซึ่งคงต้องดูเวลาอีกที ว่าจะมีช่วงไหนบ้างที่ว่างตรงกัน และพร้อมจะมาลุยด้วยกันที่นี่

Click on the image for full size

ส่งท้ายกับเวลาเกือบๆ ชั่วโมง กับสถานที่แห่งความทรงจำแห่งนี้ ด้วยภาพนี้ครับ เป็นโมเดลของเส้นทางรถไฟสายมรณะ จากหนองปลาดุก ถึง ทันบีอูซายัต รู้สึกว่าจะมีให้ดูที่สะพานข้ามแม่น้ำแควด้วยเช่นกัน ... ดูแล้วก็อดทึ่งกับความพยายาม ความสามารถของเหล่าเชลยศึก และความสามารถในการควบคุมงานก่อสร้างของเหล่าบรรดาทหารในกองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิ์ไม่ได้ แต่ด้านหนึ่ง ก็รู้สึกเศร้า หดหู่ และสงสาร สำหรับเคราะห์กรรม ของเหล่าบรรดาเชลยศึกและคนงานก่อสร้างที่ต้องประสบอยู่ ทั้งสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ความยากลำบากในการก่อสร้าง ความทารุณของสงคราม ความขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค ตลอดจนโรคร้าย และความเจ็บป่วย ซึ่งทำให้ระหว่างการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ ไม่ต่างอะไรกับนรกบนดินเลยทีเดียวครับ

จบบริบูรณ์

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด สามารถดูได้ที่นี่ครับ

Click on the image for full size

KTTA-50-L · Posted: 31/08/2006 8:09 pm Post subject:

CivilSpice · Posted: 31/08/2006 10:03 pm Post subject:

ถ้างั้นก็ได้ผู้ที่มีความประสงค์จะไปแข่งเดินทน เอ๊ย ... จะไปเดินออกกำลังที่ช่องเขาขาดเพิ่มอีก 1 ที่ .... ไว้จะไปเมื่อไหร่จะบอกอีกทีนะท่าน

แว่บๆ ไปค้นข้อมูลเก่าๆ ก็ไปเจอภาพของ Hellfire Pass ในสมัยที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆ สมัยสงครามโลก ปี พ.ศ. 2486 โดยเฮียวิศเป็นผู้โพสต์เอาไว้ครับ

Click on the image for full size

Reference : http://www.cbiexpeditions.com

black_express · Posted: 01/09/2006 8:58 am Post subject:

box_car · Posted: 01/09/2006 11:34 am Post subject:

ME too! Me too!
...อ่ะอะอะ...
ไปด้วยคนนะครับ...แล้วผมจะเตรียมเสบียงให้เอง
(จะกวาดจากซูเปอร์ข้างล่างนี่แหละ เอาอะไรขอให้บอก อ่ะอะ...)
_________________
Click on the image for full size

CENTENNIAL · Posted: 01/09/2006 1:31 pm Post subject:

ถ้ามีการบูรณะวางรางเฉพาะบริเวณนี้ก็น่าจะทำให้นักท่องเที่ยว มองเห็นภาพในอดีตได้ดียิ่งขึ้น และทำให้รำลึกถึงความยากลำบากของผู้คนเมื่อคราวที่บ้านเมืองเกิดสงครามได้มากเลย

เห็นภาพเหล่านี้แล้ว เกิดหลายความรู้สึกเลยครับ .......

palm_gea · Posted: 01/09/2006 3:42 pm Post subject:

เห็นภาพแล้วน่าสงสารเหล่าเชลยศึกครับ แล้วรถจักรที่ใช้ทำขบวนในสมัยนั้นเป็นรถจักรแบบใดครับ ใช่เจ้าC56 รึเปล่า Rolling Eyes

_________________
Click on the image for full size

Wisarut · Posted: 01/09/2006 4:11 pm Post subject:

ครับ ซี 56 เป็นจักรหลัก และ ยังมี เจ้า ซี 52 ที่ฉกเอามาจากชวา และรถจักรมลายู พีคลาส และอื่นๆ แต่ก็ดันมีการเอารถซี 58 มาใช้ทั้งๆที่ โหลดหนักกว่ารางบ้านเราถึงขั้นราง 50 ปอนด์ ดุ้งเอา Shocked