View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44530
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 23/06/2008 2:23 pm Post subject: |
|
|
นสพ.โฟกัสภาคใต้ ฉบับที่ 546 ประจำวันที่ 21-27 มิ.ย. 51
ได้ลงบทความให้ผมแล้วครับ ต้องขอขอบพระคุณคุณสุพจ จริงจิตร บรรณาธิการครับ
http://www.focuspaktai.com/
บนเส้นทางรถไฟเก่าสายหาดใหญ่ - สงขลา
Quote: | หากมีโอกาสนั่งรถไปตามถนนหาดใหญ่ - สงขลาสายเก่า หรือถนนกาญจนวนิช ผ่านบ้านน้ำน้อย หลายท่านคงสังเกตเห็นสะพานโครงเหล็กสีดำทอดตัวขนานไปกับถนน ข้ามคลองน้ำน้อย นั่นคือสิ่งที่เหลือเป็นอนุสรณ์ว่าครั้งหนึ่งเคยมีเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่-สงขลา
ทางรถไฟสายนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยเปิดเดินรถเพื่อการโดยสารและขนส่งสินค้าครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2456 มีระยะทางวัดได้จากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ถึงสถานีสงขลา 29 กิโลเมตร มีสถานีรายทางดังนี้คือ ชุมทางอู่ตะเภา เขาบันไดนาง น้ำน้อย ควนหิน น้ำกระจาย และสุดปลายทางที่สถานีสงขลา (ต่อมาสถานีชุมทางอู่ตะเภาได้ถูกยุบเป็นสถานีธรรมดา เนื่องจากอยู่ในที่ลุ่ม น้ำท่วมได้ง่าย จึงย้ายทางแยกไปสงขลาจากอู่ตะเภาไปยังชุมทางหาดใหญ่ปัจจุบันแทน)
นับตั้งแต่เปิดเดินรถ ทางรถไฟสายนี้มี บทบาทในการอำนวยความสะดวกและสร้างความเจริญให้แก่ชาวบ้านในอำเภอหาดใหญ่และสงขลาตลอดมา เห็นได้จากนิราศรับพัชนิ์ ที่ประพันธ์โดยพระครูวิจารณ์ศีลคุณ หรือพ่อท่านเฒ่า วัดจะทิ้งพระ เมื่อปี พ.ศ. 2464 มีความตอนหนึ่งว่า
" ...พอรุ่งเจ็ดนาฬิการถสงขลาออก ไปบางกอกข้ามเขตประเทศสถาน นายรถรีบถีบรถบดทะยาน จากสถานสงขลาถึงสถานี ที่น้ำกระจายเจ็ดนาฬิกาเศษ ตามสังเกตทางรถกำหนดที่ สองข้างทางสร้างสวนมะพร้าวมี อ้วนงามดีพึงปลูกตกลูกลาย ยังคิดถางสร้างป่าต่อต่อไป รอยเอาไฟเผาลนเหมือนปรนไร่ ความโลภะของมนุษย์สุดแรงร้าย ไม่คิดกายว่าจะเหนื่อยเมื่อยกายา จากน้ำกระจายถึงสถานีบ้านควนหิน เห็นเจ็กจีนจับหมูยืนอยู่ถ้า จ้างรถไฟทุกไปเป็นสินค้า อนิจจาไม่คิดบาปปิดบัง แล้วเลื่อนรถเร็วมาอีกสถานี น้ำน้อยอีกที่ดังใจหวัง เขาน้ำน้อยรอยแร่แม่เหล็กยัง ขุดไปตั้งสูบเผาเอาตีชะแลง บ้างตีจอบตีพร้าพาไปขาย ซื้อไปใช้ทุกตำบลทุกหนแห่ง ความโลภะของบุคคลนี้รนแรง อุตส่าห์แสวงหาจะให้มี จากน้ำน้อยถึงชุมทางอู่ตะเภา สิ้นเขตเขาระหว่างคีรีศรี คนเดินไขว่ไปมาที่สถานี สถานที่เปลี่ยนรถปลดไปมา..."
จากบทกวีนิราศข้างต้น สะท้อนให้เห็นภาพชีวิตของชาวบ้านสองข้างทางรถไฟได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำสวนมะพร้าวที่บ้านน้ำกระจาย การขนส่งหมูเป็นสินค้าทางรถไฟที่ควนหิน และการตีเหล็กที่บ้านน้ำน้อย รวมทั้งความวิตกกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม เมื่อมีการตัดไม้ทำลายป่า
ขบวนรถไฟที่ผ่านสายสงขลานี้ มีทั้งขบวนรถระยะไกลอย่าง สงขลา - กันตัง ซึ่งใช้รถจักร
ไอน้ำลากจูงและขบวนรถเชื่อมระหว่างเมืองอย่างที่สมัยนี้เรียกว่ารถคอมมิวเตอร์ (commuter) นั่นคือวิ่งระหว่างสงขลากับหาดใหญ่ ไปกลับวันละหลายเที่ยว ขบวนรถแบบนี้ในยุค พ.ศ. 2510 ใช้รถจักรดีเซล "ดาเวนพอร์ต" 500 แรงม้าทำขบวน พ่วงตู้โดยสารเพียงสองตู้ พอเหมาะกับจำนวนผู้โดยสาร ในแต่ละเที่ยว
ภาพยนตร์ไทยขนาด 16 มม. เรื่อง ชุมทางหาดใหญ่ ออกฉายในปี 2509 นำแสดงโดย มิตรชัย บัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์ ได้ใช้ทางรถไฟสายสงขลานี้ในการถ่ายทำอีกด้วย กำกับการแสดงโดย ส.อาสนจินดา บัดนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่หาชมได้ยากมากอีกเรื่องหนึ่งสำหรับนักดูหนังไทย
กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถนนสายหาดใหญ่-สงขลา มีรถยนต์โดยสารให้บริการสะดวกสบายมากขึ้น ผู้คนเริ่มหันเหความนิยมจากการโดยสารรถไฟที่วิ่งช้า ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่มีแต่ความเร่งรีบ ค่าตั๋วโดยสารราคาถูกเพียง 3 บาทไม่ได้เป็นปัจจัยดึงดูดให้ผู้คนใช้บริการรถไฟเหมือนเดิม เป็นสาเหตุที่ทาง รฟท.ใช้ในการตัดสินใจยกเลิกการเดินรถไฟสายนี้เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2521 และแม้จะมีการทดลองเปิดเดินรถใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2527 แต่ก็พบกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ จนไม่สามารถเดินรถได้อีกต่อไป
ปี 2551 นี้ ก็ครบ 30 ปีแล้ว ที่รถไฟสายสงขลาหยุดเดินรถ นอกจากสะพานเหล็กน้ำน้อยที่ยังตั้งเด่นเป็นสง่าอย่างไม่สะทกสะท้านกับการขยายทางหลวงหมายเลข 407 และการพัฒนาที่รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว อาคารสถานีรถไฟสงขลาก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน จากกรมศิลปากร เมื่อปี 2547 โดยยืนหยัดตั้งอยู่ท่ามกลางความจอแจของตลาดนัดหลังสถานีรถไฟสงขลา แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้พัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือพิพิธภัณฑ์ แต่ผ่านมาจนบัดนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับจากภาครัฐ ซ้ำที่ดินของ รฟท. ตามแนวเส้นทางก็มีการบุกรุกของเอกชนเข้าครอบครองใช้ประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เหลืออยู่นอกจากนี้ก็มีเพียงรางรถไฟเก่าที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะ ทว่า ต้องใช้ความสังเกต หรือความมุมานะของนักสำรวจผู้รักรถไฟ บุกป่าฝ่าวัชพืชรก ที่ขึ้นปกคลุมตามกาลเวลาตลอดเส้นทางเข้าไปดู และยังคงเหลือซากเสาโทรเลขที่ไม่เหลือสายโทรเลขให้เห็นอีก
ปัจจุบัน ภาวะความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้กระแสความต้องการระบบขนส่งแบบรางเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ในอนาคตเทศบาลนครสองแห่งคือหาดใหญ่และสงขลาที่อยู่ห่างกัน 30 กม. ต้องมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยเทียบเท่ากับเมืองหลวง
การฟื้นฟูทางรถไฟสายหาดใหญ่-สงขลาขึ้นมาอีกครั้งในยุคนี้อาจจะต้องเป็นรูปแบบของรถไฟฟ้าหรือทางรถไฟยกระดับ และรองรับได้ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ไม่ใช่รถไฟในรูปแบบดั้งเดิม แม้หลายฝ่ายจะลงความเห็นว่าเป็นไปได้ยากในเชิงพาณิชย์ กับราคาค่าเวนคืนที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นเป็นลำดับ
แต่ก็อาจเป็นคำตอบสุดท้ายของการแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่น่าพิจารณา มิใช่หรือ ?
โดย Focus Team เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2551 23:15:14 น. |
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44530
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 23/06/2008 2:40 pm Post subject: |
|
|
rodfaithai wrote: | มีบ้านเพื่อนอยู่ในซอย ใกล้ๆ กับสถานีวิทยุ มก.
หลายปีก่อน เค้าบอกว่าเข้าไปในซอย จะมีรางรถไฟอยู่ครับ
ไม่รู้เสาโทรเลขจะยังอยู่ด้วยหรือปล่าว
และในสมัยที่การขโมยเหล็กเฟื่องฟูอย่างปัจจุบัน รางที่เค้าพูดถึงจะยังอยู่หรือไม่ |
อยู่ตรงแถวไหนนะครับพี่มิ้ง ไม่ได้เข้าไปยี่สิบกว่าปีแล้ว
จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าแถวน้ำกระจายหรือเปล่าครับ |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 23/06/2008 3:37 pm Post subject: |
|
|
rodfaithai wrote: | มีบ้านเพื่อนอยู่ในซอย ใกล้ๆ กับสถานีวิทยุ มก.
หลายปีก่อน เค้าบอกว่าเข้าไปในซอย จะมีรางรถไฟอยู่ครับ
ไม่รู้เสาโทรเลขจะยังอยู่ด้วยหรือปล่าว
และในสมัยที่การขโมยเหล็กเฟื่องฟูอย่างปัจจุบัน รางที่เค้าพูดถึงจะยังอยู่หรือไม่ |
โฮ่ย พี่มิงค์
เรื่องแฮปรางเนี่ย นี้มีในกระทู้ที่ตาเจฟ มันเดินจาก บ้านหมอ มาโรงปูนท่าหลวง.....
หลักฐานเต็มตา... ทั้งใบเลื่อย ...อุปกรณ์พร้อม ขนไปขาย
ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ เหลือรางยาวแค่ไหน อะ... |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44530
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/06/2008 6:54 pm Post subject: |
|
|
ไว้จะหาโอกาสเข้าไปดูครับ แถวๆ สถานีวิทยุ มก.ที่ว่าครับ
นี่ครับบทความที่ทาง นสพ.ท้องถิ่น "โฟกัสภาคใต้" ลงให้ครับ
|
|
Back to top |
|
|
Rakpong
President
Joined: 29/03/2006 Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
|
Posted: 24/06/2008 8:05 pm Post subject: |
|
|
อ.หม่อง รวบรวมข้อมูลลง นสพ.ด้วย สุดยอดเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44530
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/06/2008 8:56 pm Post subject: |
|
|
งานนี้ต้องขอบคุณพี่มิ้ง rodfaithai ที่จุดประกายครับ
และขอบคุณนักสำรวจสายสงขลาทุกท่านสำหรับองค์ความรู้ครับ |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 24/06/2008 9:55 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | rodfaithai wrote: | มีบ้านเพื่อนอยู่ในซอย ใกล้ๆ กับสถานีวิทยุ มก.
หลายปีก่อน เค้าบอกว่าเข้าไปในซอย จะมีรางรถไฟอยู่ครับ
ไม่รู้เสาโทรเลขจะยังอยู่ด้วยหรือปล่าว
และในสมัยที่การขโมยเหล็กเฟื่องฟูอย่างปัจจุบัน รางที่เค้าพูดถึงจะยังอยู่หรือไม่ |
อยู่ตรงแถวไหนนะครับพี่มิ้ง ไม่ได้เข้าไปยี่สิบกว่าปีแล้ว
จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าแถวน้ำกระจายหรือเปล่าครับ |
ถนน 407 ถ้าออกจากสงขลา ไปหาดใหญ่
เลย 5 แยกน้ำกระจายมาหน่อยก็ชิดซ้าย
จะเห็นป้ายสถานีวิทยุ หรือดูจากเสาส่ง ขาวแดงก็ได้ ครับ
แถวนั้นจะมีซอย หลายซอย เข้าใจว่าเข้าไปถึงได้ เลือกเอาซอยที่อยู่ชิดรั้ว สถานีวิทยุก็ได้ครับ
ผมไม่ถูกโรคกับหมา เลยไม่ค่อยอยากเข้าไป
เข้าใจว่ารางยังอยู่นะครับ
Quote: | อ.หม่อง รวบรวมข้อมูลลง นสพ.ด้วย สุดยอดเลยครับ |
ว่าจะซื้อไปติดบอร์ดข้าง ประชาสัมพันธ์ ลืมเลย
พรุ่งนี้ไม่รู้ยังเหลือไหม |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44530
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/06/2008 11:57 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับ
สำรวจสายสงขลา ผมก็กลัวหมามากกว่ากลัวชาวบ้านอีกครับ
นสพ.โฟกัสภาคใต้น่าจะยังมีขายนะครับ เล่มใหม่ออกทุกวันเสาร์ครับ
อยากส่งไปลงรถไฟสัมพันธ์ แต่กลัวเขาไม่รับบทความพาดพิงราชการลักษณะนี้ครับ รายสองเดือนด้วยไม่ทันใจครับ |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 25/06/2008 8:18 am Post subject: |
|
|
ชาวบ้านก็น่ากลัวครับ พี่ครฟ ที่นี่บอกว่า หลายปีก่อนเคยเดินสำรวจเส้นทาง กันหลายคน ชาวบ้านท่าทางไม่พอใจ ก็เลยสำรวจได้ ไม่ตลอดเส้นทาง
ช่วงที่ชุมชนไม่หนาแน่นคิดว่าคงไม่เท่าไหร่(ถ้าชาวบ้านอยู่คนเดียวก็ไม่หาญ) แต่ช่วงที่หนาแน่น นี่ พฤติกรรมกลุ่ม จะก่อให้เกิดความก้าวร้าวรุนแรงได้ เหมือนตอนที่ผู้เช่าที่ ไปทวงสิทธิแถวสถานีสอง เป็นไข้โป้งต่อหน้าธารกำนัล เพราะชาวบ้านอยู่กันเยอะนี่แหละครับ ขนาดอดีตนายกยังโดนชาวบ้านปากะปิใส่มาแล้วะลย (เค้าเล่าต่อๆกันมา) |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 28/06/2008 8:58 am Post subject: |
|
|
rodfaithai wrote: | ชาวบ้านก็น่ากลัวครับ พี่ครฟ ที่นี่บอกว่า หลายปีก่อนเคยเดินสำรวจเส้นทาง กันหลายคน ชาวบ้านท่าทางไม่พอใจ ก็เลยสำรวจได้ ไม่ตลอดเส้นทาง
ช่วงที่ชุมชนไม่หนาแน่นคิดว่าคงไม่เท่าไหร่(ถ้าชาวบ้านอยู่คนเดียวก็ไม่หาญ) แต่ช่วงที่หนาแน่น นี่ พฤติกรรมกลุ่ม จะก่อให้เกิดความก้าวร้าวรุนแรงได้ เหมือนตอนที่ผู้เช่าที่ ไปทวงสิทธิแถวสถานีสอง เป็นไข้โป้งต่อหน้าธารกำนัล เพราะชาวบ้านอยู่กันเยอะนี่แหละครับ ขนาดอดีตนายกยังโดนชาวบ้านปากะปิใส่มาแล้วะลย (เค้าเล่าต่อๆกันมา) |
In sduch a case, C4 Bombs plus flame thropwers will have to be applied INST EAD of bribery. |
|
Back to top |
|
|
|