Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180009
ทั้งหมด:13491241
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ฟุดฟิดฟอไฟ ด่วนพิเศษ ENGLISH & SPANISH ภาษาพาเพลินมาแล้ว
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ฟุดฟิดฟอไฟ ด่วนพิเศษ ENGLISH & SPANISH ภาษาพาเพลินมาแล้ว
Goto page Previous  1, 2, 3, 4 ... 13, 14, 15  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สัพเพเหระ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Aishwarya
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007
Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

PostPosted: 17/09/2008 10:04 am    Post subject: Reply with quote

pattharachai wrote:
น่าสนใจมากเลยสำหรับกระทู้นี้

เรื่องนี้ ขอร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยคนครับ

British English และ American English

เรื่องภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ กับภาษาอังกฤษแบบอเมริกันมีหลายประเด็นน่าสนใจมาก ไว้โอกาสต่อไป จะมาเล่าให้ฟังต่อ

มีประเด็นอะไร แลกเปลี่ยน โต้แย้ง อภิปราย กันได้ตลอดครับ

น่าสนใจจริงๆ น่าสนใจจริงๆ

มาร่วมเสริมในประเด็นของ "พี่ Boy พัธฯ" อีก ๑ ตัวอย่างที่น่าสนใจ และพลาดไม่ได้เด็ดขาดที่จะ present ในเรื่องว่าด้วย British English และ American English ... ไปๆ มาๆ ก็ไม่พ้นเรื่อง "รับประทาน" อีกแล้วค่ะ. Embarassed

วันนี้เราจะพูดถึง "มันฝรั่ง (potato)" กันนะคะ --- but ... hold on a moment ... อย่าใจร้อนไปค่ะ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เคยทราบกันมั๊ยคะ ว่า the United Kingdom รวมทั้งประเทศในกลุ่มเครือจักรภพสหราชอาณาจักร จะเรียกอาหารแปรรูปที่มาจาก "มันฝรั่ง" แตกต่างจากชาว American ค่ะ

ใน the UK. เค้าจะเรียกมันฝรั่งที่เป็นแผ่นๆ ทอดกรอบ เหมือนที่เราหาซื้อโดยทั่วไป อย่าง "Lay," "Testo," หรือแม้แต่ "ก๊อบ กอบ" ว่า ----- "Crisps" นะคะ ในขณะที่ มันฝรั่งแท่งยาวๆ ที่ทอดกัน ที่เรามักจะได้ทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับ fast food ทั่วไป เช่น "Pizza Hut," "McDonald's," "Burger King" ว่า ----- "Chips"

ในทางตรงกันข้าม ในสหรัฐ America (the United States of America) ในดินแดนที่เรียกตัวเองว่า "Land of the Free, and Home of the Brave." เค้าจะเรียกมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบว่า ----- "Chips" ในขณะที่จะเรียกมันฝรั่งแท่งยาวทอดกรอบว่า "French Fries" ค่ะ

ซึ่งนั่นหมายความว่า คนไทยเราได้รับ influence จาก the U S A มาเต็มๆ เลยนะคะ เพราะว่า ไปที่ไหน ก็ได้ยินแต่คนไทยเรียกมันฝรั่งแท่งยาวทอดกรอบว่า "French Fries" ไม่เห็นมีใครเรียกมันว่า "Chips" เลยซักคน Embarassed Embarassed

แต่ ... เอาเถอะค่ะ ... ในเมืองไทยเรา อาจจะไม่มีปัญหาในการสั่งมันฝรั่งมาทาน แต่ถ้าหาก เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้มีโอกาสเดินทางไป the U S A ไป the U K หรือแม้แต่ Australia และ New Zealand แล้วล่ะก็ ก่อนจะสั่ง "มันฝรั่ง" ในรูปแบบ รูปทรงต่างๆ มาทานให้ตรงใจ ก็ต้องพิจารณาไตร่ตรองดีๆ ก่อนนะคะ Very Happy Laughing Very Happy ไม่อย่างนั้น อาจจะได้ "มันฝรั่ง" ในรูปแบบที่ไม่ตรงกับที่คิดได้ค่ะ.

OH MY GOD! !! ... พูดถึงเรื่องอาหารการกิน แล้วอดไม่ได้จริงๆ หิวขึ้นมาเชียวค่ะ ขอตัวไปทานอะไรๆ อร่อยๆ ก่อนนะคะ. Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 17/09/2008 10:17 am    Post subject: Reply with quote

Aishwarya wrote:

น่าสนใจจริงๆ น่าสนใจจริงๆ
มาร่วมเสริมในประเด็นของ "พี่ Boy พัธฯ" อีก ๑ ตัวอย่างที่น่าสนใจ และพลาดไม่ได้เด็ดขาดที่จะ present ในเรื่องว่าด้วย British English และ American English ... ไปๆ มาๆ ก็ไม่พ้นเรื่อง "รับประทาน" อีกแล้วค่ะ. Embarassed

วันนี้เราจะพูดถึง "มันฝรั่ง (potato)" กันนะคะ --- but ... hold on a moment ... อย่าใจร้อนไปค่ะ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เคยทราบกันมั๊ยคะ ว่า the United Kingdom รวมทั้งประเทศในกลุ่มเครือจักรภพสหราชอาณาจักร จะเรียกอาหารแปรรูปที่มาจาก "มันฝรั่ง" แตกต่างจากชาว American ค่ะ

ใน the UK. เค้าจะเรียกมันฝรั่งที่เป็นแผ่นๆ ทอดกรอบ เหมือนที่เราหาซื้อโดยทั่วไป อย่าง "Lay," "Testo," หรือแม้แต่ "ก๊อบ กอบ" ว่า ----- "Crisps" นะคะ ในขณะที่ มันฝรั่งแท่งยาวๆ ที่ทอดกัน ที่เรามักจะได้ทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับ fast food ทั่วไป เช่น "Pizza Hut," "McDonald's," "Burger King" ว่า ----- "Chips"

ในทางตรงกันข้าม ในสหรัฐ America (the United States of America) ในดินแดนที่เรียกตัวเองว่า "Land of the Free, and Home of the Brave." เค้าจะเรียกมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบว่า ----- "Chips" ในขณะที่จะเรียกมันฝรั่งแท่งยาวทอดกรอบว่า "French Fries" ค่ะ

ซึ่งนั่นหมายความว่า คนไทยเราได้รับ influence จาก the U S A มาเต็มๆ เลยนะคะ เพราะว่า ไปที่ไหน ก็ได้ยินแต่คนไทยเรียกมันฝรั่งแท่งยาวทอดกรอบว่า "French Fries" ไม่เห็นมีใครเรียกมันว่า "Chips" เลยซักคน Embarassed Embarassed

แต่ ... เอาเถอะค่ะ ... ในเมืองไทยเรา อาจจะไม่มีปัญหาในการสั่งมันฝรั่งมาทาน แต่ถ้าหาก เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้มีโอกาสเดินทางไป the U S A ไป the U K หรือแม้แต่ Australia และ New Zealand แล้วล่ะก็ ก่อนจะสั่ง "มันฝรั่ง" ในรูปแบบ รูปทรงต่างๆ มาทานให้ตรงใจ ก็ต้องพิจารณาไตร่ตรองดีๆ ก่อนนะคะ Very Happy Laughing Very Happy ไม่อย่างนั้น อาจจะได้ "มันฝรั่ง" ในรูปแบบที่ไม่ตรงกับที่คิดได้ค่ะ.

OH MY GOD! !! ... พูดถึงเรื่องอาหารการกิน แล้วอดไม่ได้จริงๆ หิวขึ้นมาเชียวค่ะ ขอตัวไปทานอะไรๆ อร่อยๆ ก่อนนะคะ. Laughing


ก็อิทธิพล Yankee (Yanqui หรือ Gringo ในภาษาสเปน หรือ God dxxxed Yankee ถ้าคนพูดเป็นชาว Dixie - 11 รัฐทางใต้ที่ทะนงองอาจหาญจะแยกตัวจากสหภาพ) มันแรงแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วนี่ แต่ก่อน เมืองสยามเราอิทธิพลเมืองแก้วอังกฤษมันแรง ตามล้นเกล้า ร.6 และ ร.7 ที่ทรงศึกษายังเมืองแก้วที่ว่านี้
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/09/2008 12:05 pm    Post subject: Reply with quote

pattharachai wrote:
น่าสนใจมากเลยสำหรับกระทู้นี้

เรื่องนี้ ขอร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยคนครับ

British English และ American English

ขอร่วมด้วยคนครับคุณบอย
คนรักรถไฟแบบพวกเรา American English เรียกว่า railfan
ส่วน British English เรียกว่า railway enthusiast ครับ Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Aishwarya
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007
Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

PostPosted: 17/09/2008 1:27 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Dixie - 11 รัฐทางใต้ที่ทะนงองอาจหาญจะแยกตัวจากสหภาพ

ชอบใจพี่ Wissie ตรงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ U S A จังเลยค่ะ ๑๑ รัฐทางใต้ที่เค้ามักจะเรียกกันว่า "Dixieland" ประกอบด้วย Texas, Louisiana, Mississippi, Alabama, Georgia, Florida, Oklahoma, Arkansas, Tennessee, South Carolina, และ North Carolina ใช่มั๊ยคะ ... ถ้า Cherie ตกหล่น รึว่าจับรัฐผิดเข้ามา ไม่เข้าพวก ก็ช่วยแก้ไขให้ด้วยนะคะ Very Happy

พูดถึง มลรัฐทางใต้ [Dixieland] ก็ต้องพูดถึงเอกลักษณ์อย่างนึง ที่เป็นที๋โจษจัน นั่นก็คือ ลีลาการพูด และออกเสียงที่เค้าเรียกกันว่า "Nasal Style" หรือ การเปล่งเสียงขึ้นจมูก (อย่างแรง) นั่นเองค่ะ Embarassed Embarassed Embarassed ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อย่าเข้าใจว่า U S A ทั้งชาติ มีสำเนียงในความเป็น "American Accent" เหมือนกันหมดทั้ง ๕๐ มลรัฐนะคะ ภูมิภาคต่างๆ ทั้ง South, Midwest, Northeast, Westcoast, Eastcoast ต่างก็มีสำเนียงแตกต่างกันไปค่ะ ... ยกตัวอย่าง ชาวมลรัฐ Alabama [แอ-ลึ-แบมมมมมมมมมมม-ม่า Laughing Laughing Laughing ] ก็จะพูดแตกต่างกับชาวมลรัฐ Oregon ... ชาว New Yorker ก็จะพูดต่างกับชาวมลรัฐ New Mexico ... ก็คล้ายๆ กับเมืองไทยของเรานะคะ ขนาดว่ามีพื้นที่ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่ละภูมิภาคยังมีสำเนียงแตกต่างกันเลย.

"My family always takes me around downtown." ----- ประโยคนี้ขอแอบแซว (ในเชิงน่ารัก) หากจะออกเสียงเป็นสำเนียงใต้ (Southern U S A) จะออกเสียงขึ้นจมูกสุดๆ แญว แญว แญว แญว แญว! !!! "มา แฟมมมมมมมมมมมมมม ลี อาล เวย์ส เทคส์ มี อะแรววววววววววว แดววววววววววว แทวววววว!" หากใครนึกไม่ออกว่าสำเนียงใต้ออกเสียงยังไง ให้นึกไปถึงลีลาการพูดของท่านอดีตประธานาธิบดี Bill Clinton นะคะ ท่านเป็นชาวเมือง Little Rock มลรัฐ Arkansas ... นั่นล่ะค่ะ ขอรับประกันว่านั่น คือความน่ารัก และเสน่ห์แบบฉบับปักษ์ใต้ U S A ของแท้แน่นอน Very Happy Very Happy HAHAHAHAHAHA! !!

ปล. จะว่าไปแล้ว ... พี่ Wissie และ Cherie แอบเหมือน (อย่างลงตัวเป๊ะ) กับรายการ "ฟุดฟิดฟอไฟ" ทาง Modern Nine TV เลยนะคะ ที่จัดรายการโดย ทายาท "สุนทรวัฒน์" ชื่อดัง "พี่ Job - อิศรา สุนทรวัฒน์" และนางแบบชื่อดังของไทย ผู้สูงยาวเข่าดีถึง ๑.๘๓ m. ลูกครึ่ง ไทย-New Zealander "พี่ Cara พลสิทธิ์" ... HAHAHAHA! อันที่จริง เราน่าจะมาจัดรายการด้วยกันนะคะ งานนี้ พี่ Wissie ก็เป็น "พี่ Job" ไป Cherie ก็จะสวม role เป็น "พี่ Cara" ไป ... เข้ากั๊น เข้ากัน ว่ามั๊ยคะ พี่ Wissie ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เห็นเป็นยังไงบ้างคะ?
Back to top
View user's profile Send private message
OLIVE
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 05/03/2008
Posts: 688
Location: 1001-4239-4325

PostPosted: 17/09/2008 4:38 pm    Post subject: Reply with quote

อันตัวกระผมขอฝากเป็นศิษย์เเละขอลงทะเบียนเรียนด้วยอีกคนนะครับ ติดตามอ่านมาตั้งเเต่ต้นได้เกร็ดความรู้มากมายเชียวครับ นึกเเล้วก็มองกลับมาย้อนดูตัวเอง มันน่าสะเทือนใจอย่างยิ่งครับกับความรู้ทางด้านภาษา English อยากเก่งเหมือนคุณเชอรี่บ้างครับ Very Happy

ผมว่าปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้คนไทยไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางด้านการเรียนภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะคนไทยส่วนใหญ่(รวมทั้งผมด้วย Laughing) เวลาอ่านบทความภาษาอังกฤษหลายๆ Paragraph เรามักจะอ่านจับใจความไม่ค่อยได้เพราะมัวเเต่ไปกังวลกับการเเปลคำศัพท์ทีละตัว เเล้วเอาความหมายของคำศัพท์เเต่ละตัวมารวมกัน (ผมล่ะใช้ประจำ Shocked)สุดท้ายเเปลได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ความหมายมันก็เลยมั่วไปหมดครับ Crying or Very sad สอบทีไรเป็นอันต้องตกทุกที Crying or Very sad คุณเชอรี่ พอจะมีทางออกบ้างไหมครับ Rolling Eyes
_________________
การเดินทาง การเเสวงหา คือความสุข คือการเปิดโลกอันกว้างใหญ่ ..........(^_^)...........
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
Aishwarya
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007
Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

PostPosted: 17/09/2008 6:13 pm    Post subject: Reply with quote

OLIVE wrote:
ผมว่าปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้คนไทยไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางด้านการเรียนภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ (รวมทั้งผมด้วย Laughing) เวลาอ่านบทความภาษาอังกฤษหลายๆ Paragraph เรามักจะอ่านจับใจความไม่ค่อยได้เพราะมัวเเต่ไปกังวลกับการเเปลคำศัพท์ทีละตัว เเล้วเอาความหมายของคำศัพท์เเต่ละตัวมารวมกัน (ผมล่ะใช้ประจำ Shocked) สุดท้ายเเปลได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ความหมายมันก็เลยมั่วไปหมดครับ Crying or Very sad สอบทีไรเป็นอันต้องตกทุกที Crying or Very sad คุณเชรี่ พอจะมีทางออกบ้างไหมครับ Rolling Eyes

ต้องขอบอกตามตรงเลยค่ะ ว่าคำถามนี้ มีคนถาม Cherie แยะมากๆ เกี่ยวกับเรื่องการอ่านจับใจความ (reading comprehension) ว่าจะทำยังไงให้อ่านจับใจความได้ดี ไม่หลงจุด ... และคำตอบที่ Cherie มักจะตอบไป ก็คือว่า เราจะต้องใช้ experience และฝึกหัดอยู่บ่อยๆ ค่ะ ...

โดย nature ของ English ภาษาดังกล่าวมักจะมีการเขียนแล้วคร่อมด้วย เครื่องหมาย ,............, ,............, ,............, แยะไปหมด ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกสับสน และอาจจะงงหนักเป็นไก่ตาแตกได้ค่ะ แต่ว่าก็มีเคล็ดนะคะ เป็นต้นว่า "ให้เราเข้าใจซะก่อนว่า ส่วนมากแล้ว (๙๐%) ประโยคหรือวลีใดๆ ที่อยู่ระหว่างการคร่อมของ ,............, หรือแม้แต่ ส่วนที่อยู่ข้างหลังเครื่องหมาย ,............ ประโยคหรือวลีเหล่านี้ มักจะเป็นส่วนที่มาเต็มเติม และขยายข้อความ หรือ ประโยคข้างต้น ซึ่งบางครั้งแล้ว อาจจะไม่มีความจำเป็นใดๆ สำหรับใจความสำคัญของ paragraph เลย เพียงแต่ มีการเสริมขึ้นมา เพื่อให้ประโยคดูเนื้อหาแน่นเท่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้ Cherie ขอแนะนำว่า ให้พยายามเลี่ยง ignore ส่วนที่อยู่ระหว่าง ,............, ไปซะก่อนค่ะ แล้วก็ดูประโยคแท้ โดยมองหา "ประธาน" "กริยา" และ "กรรม" ของประโยคให้เจอ แล้วจะจับใจความได้ในสิ่งที่ paragraph หรือ passage ดังกล่าว กำลังบอกเล่าให้กับเรา หลังจากจับใจความว่า ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่แล้ว อาจจะค่อยกลับไปสนใจส่วนที่อยู่ข้างใน ,............, นั้น เพื่อจับประเด็นเสริม."

explain แบบนี้ บางทีอาจจะยังไม่เห็นภาพ ... เอาล่ะค่ะ Cherie เลยมี example มาไข doubt ตรงนี้ให้คุณ Olive และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังประสบ trouble เดียวกันนี้อยู่นะคะ.

มาดูประโยคนี้กันค่ะ ...
Princess Sofia of Greece and Denmark, the eldest child of the King Paul I of the Hellenes and Queen Frederika who is a former princess of Hanover, was born in 1938.

ถ้าให้แปลเนี๊ยะ หลายคนอาจจะงงมากเลยนะคะ เพราะรูปประโยคซับซ้อนไปหมด แต่อันที่จริง เราลองมาดูกันใหม่ค่ะ ดังนี้.
Princess Sofia of Greece and Denmark, the eldest child of the King Paul I of the Hellenes and Queen Frederika who is a former princess of Hanover, was born in 1938.

เห็นส่วนที่ Cherie ขีดเส้นใต้ และ mark ให้เป็นตัวเอียงมั๊ยคะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ... นั่นล่ะค่ะ คือ ส่วนเติมเต็มที่เข้ามาเป็นตัวเสริมให้ประโยคมีรายละเอียดซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว ประโยคจริงๆ เลย ของข้อความนี้ ที่เราหา ประธาน, กริยา, และกรรม ได้เจอ อยู่ที่ ...

Princess Sofia of Greece and Denmark, ......................................................................................................................., was born in 1938.

เท่านั้นเองค่ะ Very Happy ประธาน คือ Princess Sofia of Greece and Denamk [เจ้าหญิง Sofia แห่ง Greece และ Denmark] ... กริยาอยู่ตรง was born in 1938. [ทรงประสูติในปี ๑๙๓๘] แค่นั้นเองค่ะ ... สรุปง่ายๆ main idea หลักสำคัญของประโยคนี้ ไม่ได้มีอะไรมากมายเลยนอกจาก "เจ้าหญิงพระนามนี้ทรงประสูติเมื่อปีนี้นะ" เท่านั้นค่ะ ... That's all! Embarassed

นี่แหล่ะค่ะ คือ "main idea (ใจความสำคัญหลัก)" ของรูปประโยค ส่วน ............ ,the eldest child of the King Paul I of the Hellenes and Queen Frederika who is a former princess of Hanover, .............. เป็นส่วนที่มาขยายประโยคก็เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเราสังเกตดีๆ วลีดังกล่าวนี้ อยู่ระหว่างการคร่อมของ ,............, หรือที่เราเรียกอย่างสวยงามว่า "comma" นั่นเองค่ะ.

เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คงจะเห็นกันแล้วใช่มั๊ยคะ ว่าหลักการอ่านจับใจความจากข้อความ หรือเนื้อหาใน English หรือแม้แต่ ภาษาในโลกตะวันตกนั้น จะมีลักษณะคล้ายกันแบบนี้ทั้งสิ้น อันที่จริง Cherie ยังมองว่า รูปประโยคของเค้ามีการแบ่งวรรคตอนด้วย "," อย่างชัดเจน ง่ายกว่ารูปประโยคของภาษาไทยเราด้วยซ้ำ ซึ่งภาษาไทยเรา มักจะเขียนติดยาวกันเป็นพรืดค่ะ.

ได้เคล็ดการอ่านจับใจความแบบนี้แล้ว คราวนี้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็คงจะเบาใจกันได้บ้างแล้วใช่มั๊ยคะ จริงอยู่ค่ะ English อาจจะมีศัพท์ มี glossary หรือ vocabulary ยากๆ มากมาย แต่การเริ่มหัดอ่าน และไม่ละทิ้งนิสัยรักการอ่าน ก็เท่ากับเป็นการฝึกฝนให้ตัวเราเอง "คุ้นเคย" กับการอ่านในรูปหลักประโยคต่างๆ ... คราวนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน คงจะรักการอ่านเนื้อหา หน้า webpage ต่างๆ ที่เป็น English หรือแม้แต่ อยากจะหยิบหนังสือพิมพ์ Bangkok Post, The Nation มาหาอ่านกันแล้วใช่มั๊ยคะ? Laughing Very Happy Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
bassbkp
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 09/07/2008
Posts: 22
Location: บ้านกลับ - พระจอมเกล้าฯ

PostPosted: 17/09/2008 7:20 pm    Post subject: Reply with quote

ก็เป็นความรู้ที่ดี และเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกระผมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย กระผมยังไม่ค่อยเก่งอังกฤษเลยครับ ถ้ามีการสอนเก็งข้อสอบแนว Reading,Error (หาจุดที่ผิดในประโยค) และ Cloze test ด้วย ก็ยิ่งจะดี เพราะข้อสอบส่วนใหญ่ออกแนวที่กล่าวนี้เยอะ โดยเฉพาะสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
pattharachai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย

PostPosted: 17/09/2008 10:48 pm    Post subject: Reply with quote

bassbkp wrote:
ก็เป็นความรู้ที่ดี และเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกระผมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย กระผมยังไม่ค่อยเก่งอังกฤษเลยครับ ถ้ามีการสอนเก็งข้อสอบแนว Reading,Error (หาจุดที่ผิดในประโยค) และ Cloze test ด้วย ก็ยิ่งจะดี เพราะข้อสอบส่วนใหญ่ออกแนวที่กล่าวนี้เยอะ โดยเฉพาะสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยครับ


อ่า.....ถ้าอย่างนั้นแล้วก็จะกลายเป็นโรงเรียนกวดวิชาไปหนะครับ เอาเป็นว่าแนะนำเบื้องต้นในการทำข้อสอบ Reading นั้นคือ อย่าพยายามอ่านทุกคำ อย่าพยายามเข้าใจคำศัพท์ทั้งหมด เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้คำศัพท์ทุกคำ ดังนั้น

1.ดูคำถามเสียก่อนว่า บรรดาคำถามทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ passage นั้น มีอะไรบ้าง

2.จากนั้นค่อยดู passage โดยอาศัย keyword จากคำถามในแต่ละข้อ แล้วก็ไล่ดูใน passage

3.หากคำถามถามถึงความหมายของศัพท์ใน passage แล้วเราไม่ทราบ ก็ดูจากบริบทรอบๆคำศัพท์นั้นหละครับ

อย่าเสียเวลาอ่านทุกคำ ทุกประโยค เพราะจะเป็นการทำให้เวลาหายไปโดยเปล่าประโยชน์
และโดยทั่วไป คำถามใน part reading comprehension มักจะมีคะแนนมากที่สุด ดังนั้นพยายามทำส่วนนี้ให้ดีครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 17/09/2008 11:25 pm    Post subject: Reply with quote

bassbkp wrote:
ก็เป็นความรู้ที่ดี และเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกระผมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย กระผมยังไม่ค่อยเก่งอังกฤษเลยครับ ถ้ามีการสอนเก็งข้อสอบแนว Reading,Error (หาจุดที่ผิดในประโยค) และ Cloze test ด้วย ก็ยิ่งจะดี เพราะข้อสอบส่วนใหญ่ออกแนวที่กล่าวนี้เยอะ โดยเฉพาะสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยครับ


ถ้ารู้เพียงแค่กวดวิชาให้ผ่านไปวันๆ เช่นที่ว่านี้ เปนความคิดที่ ไม่ดีนัก อย่าคิดเช่นนั้นอีกเลย เอาที่ใช้กันจริงๆ จังๆ เป็นการเป็นงานหน่อย
Back to top
View user's profile Send private message
Aishwarya
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007
Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

PostPosted: 18/09/2008 11:31 am    Post subject: Reply with quote

SPANISH Embarassed ESPANOL

ว่าด้วยเรื่อง ... "การทักทาย" แบบ Spanish หรือที่เรียกกันเป็นภาษา Spanish ว่า "Saludo [ซา-ลู-โด้]" ค่ะ.

เช้าๆ ของวันพฤหัสฯ แบบนี้ Cherie ขอเปิดวันใหม่ด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมแทรก จากประเทศ Spain นะคะ ... เรื่องราวของภาษา รวมถึงวัฒนธรรมแบบ Spanish จะมาสอดแทรกอยู่บ่อยๆ เป็นเหมือน break ชม TV Commercial นั่นล่ะค่ะ ... และเช้าๆ แบบนี้ เราก็ต้อง "ทักทาย" กันหน่อยแล้วล่ะค่ะ.

คนไทยเรามีวัฒนธรรมที่งดงาม อ่อนช้อย และอ่อนโยน เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องกล่าวทักทาย "สวัสดี" ต่อกัน "แสดงความขอบคุณ" "แสดงความยินดี" รวมถึง "แสดงการอำลา" ล้วนแล้วแต่ต้องมีการยกมือ"ไหว้" กันทั้งสิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับของผู้พบปะสนทนากันทั้ง ๒ ฝ่าย ว่าจะมีความอาวุโสต่างกันมากน้อยเพียงใดค่ะ ซึ่งการ "ไหว้" จัดว่าเป็นวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่งดงาม ซึ่งเราควรต้องรักษา พร้อมทั้งถนุถนอมให้คงอยู่สืบไป.

Click on the image for full size

แต่ ... เกร็ดทางด้านวัฒนธรรมในการทักทายของ Spain ในวันนี้ที่ Cherie จะ present นั้น มีอะไรเป็นพิเศษที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เหมาะที่จะรับทราบค่ะ ... จริงอยู่ที่เราทราบกันมานานว่า โลกตะวันตก เมื่อมีการพบปะกัน แสดงความขอบคุณต่อกัน และแสดงการอำลาค่อกัน มักจะ "doing hand shaking (สัมผัสมือ)" หรือแม้แต่ "cheek-to-cheek kiss (การส่งแก้มสัมผัสกัน)" แต่ ... สำหรับ Spain มีอะไรที่พิเศษกว่า ละเอียดกว่า และต่างจากประเทศอื่นในโลกตะวันตกอื่นค่ะ ... What's that? ?? ...

ที่ Spain ในกรณีที่มีการพบปะเจอกันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าทั้ง ๒ ฝ่ายจะเพศใดก็ตาม ชาย-ชาย, หญิง-หญิง, หรือ ชาย-หญิง ... หรือไม่ว่าวัยจะห่างกัน หรือเท่าเทียมกันก็ตาม จะใช้วิธี hand shaking ในการแสดงความรู้จักกันพร้อมกับประโยคติดปาก ที่หมายถึง "ยินดีค่ะ / ครับที่ได้รู้จัก" ว่า "Mucho gusto! [มุ-โช กูส-โต้]" ซึ่งเป็นคำสั้นๆ จากประโยคเต็มๆ ว่า "Mucho gusto de conocerle! [มู-โช กูส-โต้ เด โก-โน-เธ-ระ-เล]" นั่นเองค่ะ ... และในทำนองเดียวกัน เมื่อต้องมีการอำลากัน จากการพบปะกันครั้งแรก ก็ใช้วิธี hand shaking อีกเช่นเดียวกันนะคะ Very Happy Very Happy Very Happy ... การทักทายเมื่อแรกเจอเช่นนี้ อาจจะดูไม่มีอะไรซับซ้อนนัก และอาจจะคล้ายคลึงกับชาติตะวันตกอื่นๆ แต่ ... ความแตกต่าง จะเริ่มต่อจากนี้ล่ะค่ะ.

เมื่อได้รู้จักกัน คุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว สำหรับ ชาย-ชาย อาจจะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนค่ะ เพราะไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน รู้จักกันมาก - น้อย สนิทน้อย - มากอย่างไร ก็จะใช้วิธี hand shaking อยู่ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้ง (พบเห็นไม่บ่อยนัก) ในรายที่มีการสนิทสนมกันมาก สามารถที่จะสวมกอดกัน (หลวมๆ ... ขอ emphasize นะคะ ว่า หลวมๆ ... อิอิ) ได้คราวถัดๆ ไป และต่อๆ ไปของการพบปะเจอกันค่ะ

แต่ ... สำหรับ "ผู้หญิง" แล้ว ไม่ว่า จะเป็นกรณี ของการพบปะกันเป็นครั้งถัดๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นระหว่าง หญิง-หญิง, หญิง-ชาย และในวัยห่างกันแค่ไหนก็ตาม วัฒนธรรม Spanish จะใช้วิธีการ "cheek-to-cheek kiss" กันแล้วล่ะค่ะ แต่ระดับของ "การส่งแก้มชนแก้ม" กันนั้น มีการแบ่งระดับความสนิทสนมออกเป็น ๒ ระดับ ดังนี้ค่ะ ...

Click on the image for full size
๑) ระดับที่ ๑ --- "สนิทสนมในระดับการรู้จักกัน" ความสนิทสนมเช่นนี้ มีความหมายรวมถึง ความสัมพันธ์ระหว่าง "เพื่อนที่โรงเรียนที่ร่วมรุ่นด้วยกัน" "เพื่อนที่ทำงาน" "เจ้านาย - ลูกน้อง" หรือพูดกันอย่างง่าย "ฉันท์เพื่อน (แต่ไม่สนิทมาก)" ทั้ง "หญิง-หญิง" และ "หญิง-ชาย" เค้าจะทำการ cheek-to-cheek kiss กันทั้งหมด ครั้ง คือ ส่งแก้มซ้ายสัมผัสกับแก้มซ้ายก่อน จากนั้นทำการส่งแก้มขวาสัมผัสแก้มขวาของผู้สนทนาด้วยเป็นลำดับต่อไป ... ซึ่งนั่นหมายว่า จะมีการส่งแก้มชนกัน เพียง ๒ ครั้งเท่านั้นค่ะ ... กรณีดังกล่าวนี้ใช้ได้ทั้งหมดทั้งกับ การทักทาย การแสดงความขอบคุณ และการอำลา

Click on the image for full size
๒) ระดับที่ ๒ --- "สนิทสนมกันมากๆ ระดับคุ้นเคย มักจี่" ความสนิทสนมเช่นนี้ มีความหมายรวมถึง "เพื่อนสนิทมากจริงๆ (แต่ต้องคิดซื่อนะคะ HAHAHAHAHA! !!)" "พ่อ-แม่-ลูก" "ญาติพี่น้อง" การทักทาย การแสดงความขอบคุณ การแสดงความยินดี และการอำลาจากกัน จะแสดงออกด้วย cheek-to-cheek kiss แบบ ๓ steps ค่ะ ... ตรงนี้แหล่ะค่ะ ที่ชาว Spanish ค่อนข้างจะปฏิบัติแตกต่างจากชาติตะวันตกอื่นๆ หรืออาจจะมีบางประเทศมีหลักปฏิบัติเช่นนี้ด้วย แต่ก็อาจจะไม่มากนัก ยกเว้นบางชาติในกลุ่มใช้ภาษาเครือ "Romanic" อันได้แก่ Spain, Portugal, Italy, และ France ... การทักทายในแบบความสนิทสนมในระดับมาก - มากที่สุดดังกล่าวนี้ ทั้ง "หญิง-หญิง" และ "หญิง-ชาย" จะทำการ cheek-to-cheek kiss กันทั้งหมด ครั้ง คือ ส่งแก้มซ้ายสัมผัสกับแก้มซ้ายก่อน จากนั้นทำการส่งแก้มขวาสัมผัสแก้มขวา ปิดท้ายด้วยการส่งแก้มซ้ายสัมผัสกับแก้มซ้ายของคู่สนทนาเป็นลำดับต่อไป ...
Click on the image for full size

คราวนี้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คงหายสงสัยวิธีการทักทายกันอย่างถูกต้องตามหลัก tradition & culture ใน Spain กันแล้วนะคะ ... Cherie ขอ explain ให้ทราบนิดนึงว่า "การทักทายแบบฉบับ Spanish (Saludo Espanol)" นี้เป็นสิ่งที่ประพฤติปฏิบัติกันมานาน ไม่ได้มีความหมายแฝงในเชิง "พิศวาส" หรือ "เสน่หา" ไปซะทั้งหมดแต่อย่างใดนะคะ Embarassed Embarassed Embarassed ... ก็นับว่าเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ Cherie นำมาฝาก ให้พวกเราได้รับทราบกันค่ะ ไม่แน่ว่าในวันนึง เมื่อเหตุการณ์พบปะกับชาว Spanish เกิดขึ้นในวันใดวันนึง เราอาจจะต้องได้ปฏิบัติตามดังกล่าวข้างต้นก็เป็นได้ค่ะ Embarassed

"Una cultura tipica es interesante de aprender. Sin embargo se necesita para todo el mundo de comprenderla profundamente. [อุนา กุละตูร่า ติปิก้า เอส อินเตเรซันเต้ เด อะเปรนเดระ ... ซิน เอ็มบาระโก้ เซ เนเธซิต้า ปารา โตเดละ มุนโด เด กมเปรนเดระล้า โปรฟุนดาเม็นเต้.]" ---- ขอฝากปิดท้ายด้วย "คำคม" แบบฉบับ Spanish ว่า "วัฒนธรรมในแบบฉบับหนึ่งๆ เป็นสิ่งน่าสนใจในการเรียนรู้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่ต้องทำความเข้าใจกับมันโดยถ่องแท้" ค่ะ. Embarassed Embarassed Embarassed

BESITOS PARA RFT.COM! !! [เบซีโตส ปารา เอเร่ เอเฟ่ เต ปุนโต้ โกม]
(KISSES FOR RFT.COM! !!) kissing2 kiss kissing2
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สัพเพเหระ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4 ... 13, 14, 15  Next
Page 3 of 15

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©