View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 19/05/2021 9:34 pm Post subject: |
|
|
สถานีเด่นชัย ช่วงปี 2490 อาคารสถานีหลังแรกเหมือนจะแปลนเดียวกับสถานีแม่พวก
สถานีรถไฟเด่นชัย เปิดการเดินรถครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2455 พร้อมกับการเปิดการเดินรถจากสถานีแม่พวกถึงสถานีปากปาน อาคารสถานีหลังแรกเป็นอาคารไม้ต่อมามีสภาพชำรุดทรุดโทรมลงและคับแคบ ทั้งบริเวณย่านสถานีเดิมก็ไม่เพียงพอกับขบวนรถต่างๆที่จะมาหลีกและพักค้างคืน ตลอดจนการมารอการบรรทุกสินค้าได้สะดวก นอกจากนั้นในช่วงปี 2500 ยังมีทางหลวงตัดใหม่ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จากอำเภองาวผ่านอำเภอสองเข้าบรรจบทางหลวงสายแพร่และน่าน มุ่งเข้าสู่สถานีเด่นชัยอีกสายหนึ่ง ทางหลวงสายนี้ย่อมนำผลผลิตต่างๆ จากเชียงราย น่าน พะเยา และงาวเข้าสู่ตลาดกรุงเทพฯ โดยนำมาส่งทางรถไฟที่สถานีเด่นชัยเพิ่มปริมาณขึ้นมากอีก เพราะมีระยะทางใกล้และสะดวกกว่าการนำไปส่งที่สถานีนครลำปาง นอกจากนี้การรถไฟฯยังมีโครงการที่จะสร้างทางรถไฟแยกจากสถานีเด่นชัยไปสู่ น่าน เชียงราย และเชียงแสนหลวงอีกด้วย จึงนับได้ว่าสถานีเด่นชัยในอนาคต ย่อมจะต้องเป็นสถานีชุมทางที่มีความสำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง
ดังนั้นในปี พ.ศ.2498 การรถไฟฯจึงได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการก่อสร้างอาคารสถานี อาคารที่ทำการรับส่งสินค้าตลอดจนการขยายย่านสถานีเสียใหม่ ในการก่อสร้างได้เรียกประกวดราคารับเหมาทำการ ผลของการประกวดราคาตัวอาคารสถานี ได้แก่ นายสม นันทสาร อาคารที่ทำการรับส่งสินค้าได้แก่ นายเจตน์ พูลประพันธ์ อาคารทั้ง 2 หลังได้เริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อวันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2500 แล้วเสร็จเมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายน 2500 ค่ามช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งสิ้นเป็นเงิน 560,312.15 บาท
ในการทำพิธีเปิดอาคารทั้ง 2 หลัง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2500 เวลา 07.25 น.โดยมี มล.กร อิศรางกูร วิศวกรกำกับการกองบำรุงทางอุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธี และนายวิมล เลิศศิริ หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 3 เป็นผู้อ่านรายงานการก่อสร้าง ในการนี้มีข้าราชการฝ่ายบ้านเมือง พ่อค้า และประชาชนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ตามบันทึกกรมรถไฟหลวงในอดีต เดิมเรียกชื่อ สถานีเด่นใจ ซึ่งน่าจะมาจากการพูดออกเสียง ช ของคนเหนือจะออกเสียงเป็น จ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเปลี่ยนมาใช้คำว่า สถานีเด่นชัย ตั้งแต่เมื่อใด
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/6046706572010024 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 20/05/2021 12:13 am Post subject: |
|
|
"ช่ า ง ไ ฟ 1"
SL Team
19 พฤษภาคม 2564 เวลา 19:51 น.
ในยุคช่วง ต้นรัชกาลที่ 9 หัวรถจักรไอน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาการดีไซน์มาจากรุ่นก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง โดยวิศวกรชาวญี่ปุ่น มีชื่อที่ พนักงานรถจักรไอน้ำสมัยนั้นขนานนามว่า "รถจักร์ ญี่ปุ่น มิกาโด้" และ "รถจักร์ ญี่ปุ่น แปซิฟิก"
ในยุคที่ รถจักรไอน้ำใช้"ฟืน"เป็นเชื้อเพลิงมาถึงจุดอิ่มตัวเนื่องจากป่าไม้เริ่มหมดลง...จึงจำเป็นที่จะหาเชื้อเพลิงอื่นทดแทนนั้นคือ "น้ำมันเตา"
จึงเป็นหน้าที่ของ "ช่างไฟ 1" ในการปรุงน้ำปรุงไอ เพื่อสร้างสตีมแก่บอยเลอร์รถจักรไอน้ำให้มากพอ ที่พขร. (พนักงานขับรถ) จะเปิดใช้ไปขับเคลื่อนลูกสูบ ให้ลูกสูบทั้งฝั่ง R.และ L.มาขับเคลื่อน"คันชักคันโยง " ก่อนส่งกำลังไปที่ ล้อกำลัง และล้อโยง...ต่อไป และยังต้องมีหน้าที่ในการดูระดับน้ำมัน ในเครื่องพ่นน้ำมันว่าสัมพันธ์กับความเร็วของรถจักรหรือไม่ รวมถึงการดู
เชื้อเพลิงในรถลำเลียงว่ามีเพียงพอต่อการทำขบวนหรือไม่....
จากที่เราเคยศึกษาในฐานะ "ผู้ศึกษา"จากผู้ที่ทันเหตุการณ์ในการเป็น"ช่างไฟ"ของรถจักรไอน้ำในยุคที่ยังใช้บริการเชิงพาณิชย์ ทำให้ทราบว่า ต้องใช้ ความรักความเข้าใจและความพยายามที่ทำให้ รถจักรไอน้ำ วิ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ.....ร่วมกับ พขร.(พนักงานขับรถ) และ ช่างไฟ 2
https://www.facebook.com/SLTeamTH/posts/4499020036784319 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 24/05/2021 10:14 pm Post subject: |
|
|
Airconditioner Tokyu car Railcar"ATR"(タイ国鉄ATR型気動車) Thailand // Tokyu Car Corporation 1985
รถดีเซลรางไม่มีห้องขับปรับอากาศ ATR ของการรถไฟแห่งประเทศไทย สมัยผลิตในโรงงาน Tokyu Car Corporation เมืองโยโกฮาม่าประเทศญี่ปุ่นปี 1985 รุ่นผลิตส่งออกมาประเทศไทย
Tokyu Car Corporation(東急車輛) Yokohama Japan 1985 // Export To Thailand
Japanese Railway Information(JORSA) 026-A
https://www.jorsa.or.jp/en/jri/detail.php?id=77 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 30/05/2021 11:15 pm Post subject: |
|
|
รถไฟไทย-จีน สมัยรัชกาลที่ 5 หนึ่งในฝันของนักจักรวรรดินิยม
ที่มา ศิลปวัฒนธรรม กันยายน 2562
ผู้เขียน ไกรฤกษ์ นานา
เผยแพร่ วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2564
วันที่ 16 พฤศจิกายน 1885 เวลาเย็น นายคอลคุฮอนหัวหน้าทีมวิศวกรนำผลสำรวจโครงการนี้เสนอต่อที่ประชุมราชสมาคมภูมิศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักร (The Royal Geographical Society of Great Britain) ที่กรุงลอนดอน โดยให้นายฮอลเล็ตต์ (Holt. S. Hallett) ผู้ช่วยของเขาอ่านรายงานความยาว 20 หน้ากระดาษต่อหน้าที่ประชุม พร้อมด้วยข้อมูลดิบที่วงการรถไฟอังกฤษไม่เคยได้ยินมาก่อน (อนึ่งได้รักษาชื่อเมืองต่างๆ และชื่อบุคคลด้วยอักษรโรมันตามชื่อเรียกเดิมในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่ออนุรักษ์หลักฐานเดิมเอาไว้ ผู้เขียน)
ข้าพเจ้าเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติมาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้เพื่อแถลงรายงานการเดินทางและแผนแม่บทของการสำรวจพื้นที่ในเขตดินแดนพม่า สยาม และรัฐฉาน เพื่อกำหนดเส้นทางการวางทางรถไฟ ซึ่งคณะทำงานของเราเชื่อว่าสามารถเชื่อมต่ออินเดียและจีน 2 อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกเข้าด้วยกัน
ตลอดเวลา 30 ปี มันเคยเป็นเป้าหมายของบรรดาพ่อค้าและกลุ่มนักธุรกิจอังกฤษ ตลอดจนคนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ปกครองในอินเดียของเราที่จะเปิดและพัฒนาเส้นทางการค้ากับจีนภาคใต้ เกิดเป็นโครงการหลายชุด ทว่าเนื่องจากขาดการสำรวจหาข้อมูลทางบก ดังนั้น โครงการส่วนใหญ่ต่างมุ่งไปยังเส้นทางค้าขายทางเรือตามลำแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในอินโดจีน มีอาทิ แม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวิน เป็นต้น ภายหลังที่นักสำรวจรุ่นก่อนๆ ทำความคุ้นเคยกับหนทางสายแม่น้ำเพื่อการพาณิชย์นาวี แล้วต่างก็พบกับความผิดหวังที่ไม่อาจใช้เป็นเส้นทางคมนาคมหลักได้
เราพบว่าหากวางทางรถไฟเลียบฝั่งแม่น้ำอิรวดีในพม่าสิ่งที่จะประสบก็คือ แนวภูเขาเตี้ยๆ ซึ่งทอดยาวไปสู่อ่าวเบงกอลทางตอนใต้ และถึงแม้จะสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟจากอินเดียเลาะเลียบไปตามฝั่งทะเลนั้นทำได้ แต่จะใช้ค่าใช้จ่ายสูงเกินไป เพราะระยะทางจะยาวมาก ดังนั้น ถ้าจำเป็นอาจวางเส้นทางเข้ามาทางแคว้นอัสสัมด้านตะวันตกของพม่าจะดีกว่า
เส้นทางนี้ก็คือทฤษฎีเดิมตามเส้นทางคาราวานสายบาโม (Bhamo Route) นายคอลคุฮอนและข้าพเจ้าได้ทดลองเดินทางบนเส้นนี้แล้ว พบว่าห่างออกไปเพียง 250 ไมล์ (300 กิโลเมตร) ก็ถึงเมือง Tali-Fu ในจีน (คือยูนนาน)
แต่ถ้าเป็นทางรถไฟจะต้องใช้ระยะทางถึง 600 ไมล์ (560 กิโลเมตร) เพราะต้องเชื่อมเมืองต่างๆ ระหว่างอินเดียกับจีนเข้าไว้ตามทางรถไฟ ทางสายบาโมนี้ต้องผ่านหุบเขาใหญ่ๆ 4 หุบเขาด้วยระยะความสูง 8,000-9,000 ฟิต จากระดับน้ำทะเล ทางสายนี้จะมีราคาต่ำลง 4 เท่าหากวางบนพื้นที่ราบลุ่มที่มิใช่เทือกเขาในอีกด้านหนึ่ง หรือฟากตะวันออกของพรมแดนพม่าแทน ทว่าหากพิจารณาจากทางแม่น้ำอีกสายหนึ่งคือ แม่น้ำสาละวินที่ไหลออกทะเล ณ เมืองท่ามะละแหม่ง (Moulmein) หรือฟากด้านตะวันออกของพม่าก็จะมีผลดีมากกว่าผลเสีย และมีเหตุผลมากกว่าด้านตะวันตกของประเทศซึ่งเต็มไปด้วยที่ราบสูง
ดังนั้นเมื่อได้พิจารณาถึงสภาพแวดล้อมและเหตุผลด้านภูมิศาสตร์ด้วยหลักการแล้ว เราจึงลงความเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะวางทางรถไฟจากมะละแหม่งผ่านเนินเขาลูกเตี้ยๆ แถบเมือง Maing Loongyee [คือ เมืองแม่สะเรียง ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน] ซึ่งน่าจะเป็นแนวเขาแนวเดียวตรงไปยังเมืองตาก (ฝรั่งเรียกเมือง Raheng) แถบลุ่มแม่น้ำปิง (Meh Ping River) ในเขตแดนสยาม อนึ่ง ความสูงของภูเขาในละแวกนี้มีความสูงเพียง 1,600 ถึง 2,287 ฟิต จากระดับน้ำทะเลเท่านั้น ซึ่งเตี้ยกว่าเทือกเขาในพม่าตอนหนือเป็นอย่างมาก ดังที่ข้าพเจ้ากราบเรียนท่านไปแล้ว
เส้นทางรถไฟจะหักเหข้ามพรมแดนจากสยามเข้าสู่ชายแดนจีนที่บริเวณเมืองเชียงแสน จากนั้นก็จะวิ่งต่อไปริมฝั่งแม่น้ำโขง ผ่านเมืองเชียงแขงแล้ววิ่งตรงต่อไปยังเมืองเชียงรุ้ง ข้ามแคว้นอิสระที่เรียกว่าสิบสองปันนา (Sipsong Pana) หรือ Independent Shan States
เชียงรุ้ง (Kiang Hung) นั้นอยู่ห่างจากเมืองชายแดนของจีนเรียกซูเมา (Ssumao) ประมาณ 50 ไมล์ (80 กิโลเมตร) ซูเมาเป็นเมืองป้อมปราการหน้าด่านของจีน และเป็นชุมทางการค้าขนาดใหญ่ที่สุดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ณ ที่นี้ทางรถไฟของอังกฤษก็จะเชื่อมต่อกับทางรถไฟของจีน และนี่แหละคือแผนแม่บทที่เราเชื่อว่าเป็นเส้นทางบกที่เป็นไปได้ดีที่สุดเข้าสู่ประเทศจีนทางประตูหลัง
รัฐฉานอิสระ หรือสิบสองปันนา มีประชากรราว 1 ล้านถึงล้านห้าแสนคน ส่วนแคว้นล้านนาของสยามมีประชากรราว 2 ล้านห้าแสนคน ส่วนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาใต้ลงมามีประชากรประมาณ 3 ล้านห้าแสนคน
การสำรวจครั้งนี้พิสูจน์ว่าเส้นทางมะละแหม่ง-ตาก-เชียงแสน-เชียงรุ้ง-ซูเมา เป็นเส้นทางเยี่ยมที่สุดสำหรับการสร้างทางรถไฟเข้าสู่ประเทศจีนในราคายุติธรรม โดยใช้วิธีลัดเข้ามาวิ่งภายในดินแดนล้านนาของสยาม แผนงานนี้ถูกยอมรับและรับรองโดยคณะวิศวกรโยธาของกรมรถไฟอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คณะของเราได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลสยามเป็นอย่างดีเกินความคาดหมาย คงไม่เกินเลยไปที่จะกล่าวว่าพระมหากรุณาธิคุณที่พระเจ้ากรุงสยามพระราชทานแก่เราเป็นผลลัพธ์จากความจริงใจ และความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลอังกฤษกระทำต่อสยามเป็นเวลายาวนาน
ข้าพเจ้าและชาวคณะได้รับความช่วยเหลือและอนุเคราะห์ตลอดการสำรวจในพรมแดนสยาม จากบรรดาเจ้าเมืองและกรมการเมืองที่เราเดินทางผ่านไป ทุกฝ่ายดูตื่นเต้นกับข่าวการเปิดเส้นทางการค้าใหม่แทนเส้นทางคาราวานที่ใช้กันมาเป็นร้อยๆ ปี เจ้าหลวงเชียงใหม่ และเจ้าฟ้าเมืองเหนือแห่งลำปาง ลำพูน เชียงแสน เชียงราย เมืองฝาง เชียงดาว และที่อื่นๆ ส่งพนักงานและล่ามมาอำนวยความสะดวกแก่เราอย่างอบอุ่นและต่างก็มุ่งหวังให้โครงการนี้สำเร็จสมประสงค์
เส้นทางรถไฟที่คณะทำงานขอนำเสนอเพื่อเชื่อมโยงรางรถไฟจากเมืองท่ามะละแหม่งของอังกฤษก็คือเส้นทางต่อเนื่องสายสยาม-จีน ต้นทาง ณ เมืองมะละแหม่ง ต่อจากนั้นคือเมืองตากของสยามมีพลเมืองราว 20,000 คน รางรถไฟจะผ่านเมืองใหญ่น้อยและหมู่บ้านระหว่างทางรวม 481 แห่ง นอกจากนี้ทางการสยามยังเสนอให้ทำรางต่อลงไปยังเมืองท่าที่บางกอก ที่มีพลเมืองหนาแน่นประมาณ 500,000 คน รางจากมะละแหม่งและบางกอกจะวิ่งไปบรรจบกันที่เชียงแสน เมืองชายแดนของสยาม ซึ่งอยู่ห่างราว 190 ไมล์ (310 กิโลเมตร) จากชายแดนจีน โดยมีพื้นที่ของรัฐอิสระสิบสองปันนาคั่นกลางอยู่
เป็นที่น่ายินดีที่แม้นว่าภูมิประเทศในพม่าและสยามภาคเหนือจะทุรกันดารและมีอุปสรรคเพียงใด แต่พวกท่านก็สามารถสรุปให้เราเห็นเส้นทางที่ย่นย่อและใช้ได้จริงตามแผนแม่บทที่ทุกคนรอคอย โดยเฉพาะการค้นพบเส้นทางลัดผ่านราชอาณาจักรสยามซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของเรา
การประชุมในวันนี้ถือเป็นเกียรติยศอย่างสูงที่ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตสยามประจำอังกฤษ [คือสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์] ได้ประทานเกียรติมารับทราบข้อมูลด้วย ข้าพเจ้าในนามของทีมวิศวกรอังกฤษทุกคน ขอกราบขอบพระทัยในพระกรุณาธิคุณของท่านและพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้ากรุงสยาม ที่ทรงรับโครงการสำรวจครั้งประวัติศาสตร์นี้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และทางรัฐบาลอังกฤษก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะส่งผลดีและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อความเจริญทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระบบคมนาคมภายในสยามซึ่งขวนขวายที่จะดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสถานะอันมั่งคั่งและเสถียรภาพมั่นคงของสยามเอง
จากนั้นกรมหมื่นนเรศรวรฤทธิ์ก็ทรงลุกขึ้น แล้วมีพระดำรัสขอบใจที่ประชุมที่เชื้อเชิญพระองค์มารับฟังคำแถลงของคณะทำงานและทรงให้ความมั่นใจต่อที่ประชุมว่ารัฐบาลสยามจะดำเนินนโยบายเปิดประเทศและให้โอกาสโครงการนี้นำความเจริญมาสู่ภูมิภาคด้วยความจริงใจ
(แปลและเรียบเรียงโดย ไกรฤกษ์ นานา จากเอกสารต้นฉบับ) |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 22/06/2021 4:25 pm Post subject: |
|
|
"สถานีรถไฟตาคลี" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น "สถานีบ้านตาคลี" เป็นสถานีรถไฟหลวงในเส้นทางสายเหนือ ตั้งอยู่ที่ตำบลตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพ 193.017 กม. และเป็นสถานีรถไฟชั้น 1 เปิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2448
ปัจจุบันกำลังจะมีการ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการในเส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วง ลพบุรี - นครสวรรค์
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=359505255602134&id=100046279876123 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|