ทริปสั้น ๆ 3 ชั่วโมงกว่าที่สถานีพิจิตร/สะพานข้ามคลองท่าหลวง

[ExtendeD]

พอลงจากขบวนที่ 111 แล้ว ผมก็มองไปทางอาคารสถานี เห็นว่ามีผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ นั่งรอกันอยู่หลายคนมาก ๆ เลยครับ ทำให้อดนึกไม่ได้ว่าใครกันหนอ ที่เคยบอกว่าสถานีพิจิตรเป็นสถานีเล็ก ๆ อันแสนจะเงียบสงบ... ทั้งหมดนี้ก็คงจะเป็นผู้โดยสารที่กำลังรอขบวนรถท้องถิ่นที่ 402 ที่ในตอนนั้นเพิ่งจะได้เวลาออกจากสถานีพิษณุโลกที่เป็นสถานีต้นทางแน่ ๆ ครับ

จากที่คิดเอาไว้ว่าจะเดินถ่ายรูปที่สถานีก่อน ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนเดินไปที่สะพานข้ามคลองท่าหลวงก่อนดีกว่า รอให้ผู้โดยสารที่นั่งรอกันอยู่ที่สถานีขึ้นไปบนขบวนรถแล้ว คงจะทำอะไรได้สะดวกกว่านี้ แต่เพื่อง่ายแก่การนำเสนอ ผมก็ขอจัดเรียงรูปภาพตามแบบฉบับของผม อย่างที่เคยทำก็แล้วกันนะครับ

ที่เห็นอยู่นี้คือ ด้านหน้าอาคารสถานีพิจิตร อาคารสถานีแห่งนี้ถึงจะเล็กกระทัดรัด แต่ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองนะครับ ผมคิดว่าถ้าใครผ่านมาที่นี่แล้ว ก็คงจะจำได้ติดตาแน่นอน



สถานีพิจิตร ในเส้นทางสายเหนือ
เป็นสถานีระดับที่ 1 อักษรย่อ พจ. รหัสสถานี 1107
ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 346.79 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณ : ประแจไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ และสัญญาณไฟสี ( ก. 1ก ) *

* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com




ถ้าดูตำแหน่งของสถานีพิจิตรในแผนที่ที่ผมตัดออกมาจาก " แผนที่ตัวเมืองพิจิตรของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย " ก็คือวงกลมสีเขียวครับ ทางรถไฟที่เฉียงซ้ายขึ้นไปข้างบนก็คือทางไปสถานีท่าฬ่อ ที่เป็นสถานีถัดไป หรือจะเรียกว่าทางที่ไปยังจังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ส่วนทางรถไฟที่ตัดเฉียงลงมาข้างล่าง ก็คือทางไปสถานีวังกรด หรือทางไปยังจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี อยุธยา และกลับสู่กรุงเทพ

ส่วนในวงกลมสีน้ำเงิน ก็คือ ตำแหน่งของสะพานข้ามคลองท่าหลวงที่หลังจากชมบรรยากาศของสถานีพิจิตรแล้ว ผมจะพาทุกคนไปเดินดูกันครับ

ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตร จาก...
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. สำนักงานจังหวัดพิจิตร
3. หมูหิน.คอม
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จากจุดที่ผมยืนถ่ายรูปด้านหน้าอาคารสถานี ถ้ามองไปทางซ้ายก็จะเห็น " สวนพักผ่อนสถานีรถไฟจังหวัดพิจิตร " ครับ



ใกล้ ๆ กับสวนนี้ก็มีบ้านพักพี่ ๆ ครฟ. อยู่อย่างที่เห็นในรูปครับ ถัดจากบ้านพักครฟ. ไปหลังต้นกล้วยก็เป็นชานชาลาของสถานีแล้วครับ เห็นบรรยากาศในรูปเงียบ ๆ แบบนี้ แต่บริเวณใกล้ ๆ กับอาคารสถานีคึกคักมากครับ ทั้งผู้โดยสาร พ่อค้าแม่ค้า วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ฯลฯ...


เดินเข้ามาข้างในอาคารสถานีกันดีกว่า ถ้ายืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้ามองไปทางขวาก็จะเห็นบรรยากาศอย่างในรูปครับ ที่เห็นนี้คือบริเวณช่องจำหน่ายตั๋ว ช่องที่ 1 ( ทางซ้าย ) จะเป็นช่องจำหน่ายตั๋วรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำหน่ายตั๋วล่วงหน้า ส่วนช่องที่ 2 ( ทางขวา ) จะเป็นช่องจำหน่ายตั๋วรถธรรมดา และรถท้องถิ่นครับ ( มีแบ่งแบบนี้ด้วย เพิ่งเคยเห็นที่นี่เป็นที่แรกเลยนะเนี่ย )



ส่วนทางด้านซ้ายของประตู ก็จะเป็นม้านั่งไม้เป็นที่พักผู้โดยสารครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ก้าวพ้นประตูอีกด้านของอาคารสถานีออกมา มองทางขวาก็จะเห็นป้ายแสดงเวลาเดินรถตั้งอยู่ครับ



ผมถ่ายมาได้แค่ด้านเดียว เพราะอีกด้านมีของวางอยู่ ( อย่างที่เห็น ) แล้วก็อยู่ใกล้ ๆ กับประตูทางเข้าห้องควบคุมประแจด้วย ก็เลยไม่อยากเข้าไปเกะกะ เอาเป็นว่า ในสถานการณ์ปกติจะมีขบวนรถโดยสารหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารทั้งหมด 26 ขบวน * แบ่งเป็น

1. ขบวนรถเที่ยวขึ้น 13 ขบวน คือ
1.1 ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 3 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 10.50 น. ) - ปลายทางสถานีสวรรคโลก ( 18.00 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 15.25 น
1.2 ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 9 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 08.30 น. ) - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ( 20.30 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 12.40 น.
1.3 ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 11 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 19.20 น. ) - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ( 07.40 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 23.36 น.
1.4 ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 19.35 น. ) - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ( 09.45 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 00.57 น.
1.5 ขบวนรถด่วนที่ 51 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 22.00 น. ) - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ( 12.45 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 03.34 น.
1.6 ขบวนรถเร็วที่ 105 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 19.50 น. ) - ปลายทางสถานีศิลาอาสน์ ( 04.00 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 01.29 น.
1.7 ขบวนรถเร็วที่ 107 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 20.10 น. ) - ปลายทางสถานีเด่นชัย ( 06.15 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 02.01 น.
1.8 ขบวนรถเร็วที่ 109 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 14.30 น. ) - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ( 05.30 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 19.59 น.
1.9 ขบวนรถเร็วที่ 111 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 07.00 น. ) - ปลายทางสถานีเด่นชัย ( 17.20 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 13.24 น.
1.10 ขบวนรถเร็วที่ 115 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 20.55 น. ) - ปลายทางสถานีพิษณุโลก ( 05.23 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 04.17 น.
1.11 ขบวนรถธรรมดาที่ 201 ต้นทางสถานีกรุงเทพ ( 09.25 น. ) - ปลายทางสถานีพิษณุโลก ( 17.50 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 17.05 น.
1.12 ขบวนรถท้องถิ่นที่ 401 ต้นทางสถานีลพบุรี ( 06.00 น. ) - ปลายทางสถานีพิษณุโลก ( 10.50 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 09.56 น.
1.13 ขบวนรถท้องถิ่นที่ 407 ต้นทางสถานีนครสวรรค์ ( 05.00 น. ) - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ( 14.50 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 06.49 น.


2. ขบวนรถเที่ยวล่อง 13 ขบวน คือ
2.1 ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 4 ต้นทางสถานีสวรรคโลก ( 19.40 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 03.30 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 22.08 น.
2.2 ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 10 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ ( 21.00 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 09.10 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 04.19 น.
2.3 ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 12 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ ( 08.45 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 20.25 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 15.42 น.
2.4 ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 14 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ ( 16.30 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 06.40 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 00.38 น.
2.5 ขบวนรถด่วนที่ 52 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ ( 15.40 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 06.15 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 00.10 น.
2.6 ขบวนรถเร็วที่ 102 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ ( 06.45 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 21.10 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 14.49 น.
2.7 ขบวนรถเร็วที่ 106 ต้นทางสถานีศิลาอาสน์ ( 07.30 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 15.05 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 09.29 น.
2.8 ขบวนรถเร็วที่ 108 ต้นทางสถานีเด่นชัย ( 19.05 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 05.10 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 22.38 น.
2.9 ขบวนรถเร็วที่ 112 ต้นทางสถานีเด่นชัย ( 07.20 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 18.00 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 10.35 น.
2.10 ขบวนรถเร็วที่ 116 ต้นทางสถานีพิษณุโลก ( 19.20 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 03.20 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 20.05 น.
2.11 ขบวนรถธรรมดาที่ 202 ต้นทางสถานีพิษณุโลก ( 06.05 น. ) - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ( 14.05 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 06.46 น.
2.12 ขบวนรถท้องถิ่นที่ 402 ต้นทางสถานีพิษณุโลก ( 13.45 น. ) - ปลายทางสถานีลพบุรี ( 18.35 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 14.29 น.
2.13 ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ ( 09.20 น. ) - ปลายทางสถานีนครสวรรค์ ( 19.45 น. ) ถึงสถานีพิจิตรเวลา 17.39 น.

* อ้างอิงจาก ข้อมูลของการรถไฟแห่งประเทศไทย
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินเลยป้ายแสดงเวลาเดินรถไป ก็จะเป็นห้องควบคุมประแจครับ ใกล้ ๆ กับประตูเข้าห้องควบคุมมีระฆังประจำสถานีอยู่ด้วย เงาวับเลยทีเดียว ประตูกระจกติดฟิล์มทางด้านซ้ายของภาพเป็นห้องของนายสถานีครับ ป้ายด้านบนพื้นสีขาวตัวอักษรสีแดงเขียนไว้ว่า
" ห้องพัก
ผู้โดยสารชั้น 2 รถนั่งปรับอากาศ รถนอน
ขอบคุณที่ใช้บริการของการรถไฟ "



ที่กระจกบานเกล็ดของห้องควบคุมประแจ จะมีป้ายพลาสติกสีน้ำเงินมีตัวอักษรติดอยู่เป็นคำขวัญประจำจังหวัดพิจิตรครับ

" ถิ่นประสูติพระเจ้าสือ แข่งเรือยาวประเพณี
พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ
ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย
ข้าวจ้าวอร่อยลือเรื่อง ตำนานเมืองชาละวัน "

แหล่งท่องเที่ยวทุกที่ที่อยู่ในคำขวัญประจำจังหวัดนั้น ภายในห้องพักผู้โดยสารในอาคารสถานี จะมีแผนที่ให้ดูด้วยครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินผ่านห้องของนายสถานีมา ก็จะเห็นม้านั่งไม้วางเรียงกันเป็นแถว ๆ ม้านั่งฝั่งนี้จะเห็นว่ามีผู้โดยสารบางตา แต่ถ้าเป็นอีกฟากหนึ่งของชานชาลานี่ คนละเรื่องเลยครับ คงเป็นเพราะฝั่งนี้แดดร้อน




จากรูปด้านบนจะเห็นว่ามีทางเดินเล็ก ๆ อยู่ด้านหลังแถวของม้านั่งไม้ ถ้าเดินตามทางนั้นมาประมาณ 10 เมตร ก็จะเห็นมีรูปปั้นของหลวงพ่อเงินอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ หลังคา และประตูสีฟ้า อย่างที่เห็นครับ



ตอนแรกผมคิดว่าจะไม่ได้ถ่ายรูปของหลวงพ่อเงินมาให้ดูกันแล้ว เพราะข้างหน้าบ้านเล็ก ๆ หลังนี้มีลุงคนหนึ่งนอนขวางอยู่ ผมนั่งรอเวลาสักพักก็มีรถสามล้อเครื่องมารับลุงคนนั้นไป ทางก็เลยสะดวกครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[KaittipsBOT]

คุณเต้ยเดินทางวันไหนครับ วันที่ 4 มี.ค. 50 4225 ทำขบวนรถธรรมดา โกลก - นครศรีฯ อยู่เลย

ส่วนในทางสายตรัง มีของชอบคุณเต้ยหลายตัวเลยครับ เริ่มจาก ทส. - ตรัง ประมาณ 4-5 ตัว ตรัง - กันตัง มี 1 ตัว ใหญ่ด้วยข้ามคลองน้ำเจ็ด อ.เมือง จ. ตรัง แต่ละอันดูเก่ามากจนน่ากลัวเลย

[ExtendeD]

รถขบวนนี้ ผมก็รอมานานเหมือนกัน ไม่ใช่รอถ่ายรูปนะครับ เพราะถ้าถ่ายจากมุมนี้ ก็ย้อนแสงพอสมควรเหมือนกัน แต่ที่ผมรอก็เพราะว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่ยังคงนั่งรอกันอยู่เต็มชานชาลา เป็นผู้โดยสารที่กำลังรอจะโดยสารไปกับรถขบวนนี้ครับ



รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4223 นำขบวนรถเร็วที่ 102 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ มาถึงสถานีพิจิตรเวลา 16.22 น. เสียเวลามากมาย ไม่รู้เป็นเพราะว่าขบวนที่ 109 เมื่อคืนเสียเวลาหรือเปล่า ก็เลยทำให้รถขบวนนี้ช้าตามไปด้วย

แต่ที่พิเศษกว่าทุก ๆ วันก็คือ ในวันนั้นขบวนที่ 102 มีโบกี้จัดเฉพาะพ่วงท้ายอยู่ด้วยครับ เริ่มรู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วที่ลงมาถ่ายรูปที่นี่ในวันนั้นก็ตอนนี้ล่ะครับ



มีผู้โดยสารอยู่บนรถจัดเฉพาะคันนี้ด้วยนะครับ สงสัยจะมากันเป็นครอบครัว เพราะเห็นเด็กตัวน้อย ๆ เกาะหน้าต่างอยู่ ก่อนที่ขบวนรถจะเคลื่อนขบวนออกไปก็เห็นมีคุณลุงมายืนอยู่ท้ายรถด้วย
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอขบวนที่ 102 วิ่งออกไปแล้ว ชานชาลาก็เริ่มว่างแล้วครับ ผมก็เลยได้โอกาสเก็บภาพบริเวณชานชาลาด้านหน้าอาคารสถานีเอาไว้อย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ

มุมนี้มองไปทางสถานีท่าฬ่อครับ




มุมนี้มองไปทางสถานีวังกรดครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

[ExtendeD]

เดินดูบริเวณชานชาลาด้านหน้าอาคารสถานีกันไปแล้ว ต่อไปก็ไปเดินดูมุมอื่น ๆ กันบ้างนะครับ เราไปเริ่มกันที่ประแจตัวแรกทางด้านทิศเหนือก็แล้วกันครับ ช่วงที่เดินไปที่ประแจทางทิศเหนือนั้น ผมก็มอง ๆ หาป้ายสถานีบอกถัดไปที่ปกติแล้วจะตั้งอยู่ที่ชานชาลาของสถานี แต่ที่สถานีนี้ผมกลับมองไม่เห็นครับ สงสัยจะไม่มี แบบนี้ก็เหมือนกับที่สถานีขอนแก่นเลย

เดินมาจนถึงป้ายประเพณีทางด้านทิศเหนือ ก็ยังคงเห็นว่ามีกองรางเหล็กวางเรียงกันอยู่เป็นแถวยาวเหยียด




เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงปลายสุดชานชาลา ก็ยังคงเห็นกองรางเหล็กวางเรียงกันยาวเลยประแจตัวแรกทางด้านทิศเหนือไปอีกครับ เยอะจริง ๆ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.