ข่าวรถไฟ สปป.ลาว

[Mongwin]

คนไทยกับรถไฟลาว : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา
คมชัดลึก 24 ต.ค. 55

3-4 เดือนที่แล้ว ทั่วนครหลวงเวียงจันทน์ ข่าวลือแพร่สะพัดว่า มีการเลื่อนแผนการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อระหว่างลาวกับจีนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินสองข้างทางรถไฟ โดยจีนต้องการพัฒนาที่ดินข้างละ 1 กิโลเมตร ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นไม่พอใจ และได้สะท้อนความเห็นผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคประจำแขวง

ผู้นำรัฐบาลลาวทราบปัญหาดี และพยายามเจรจาต่อรองกับรัฐบาลจีน พร้อมยืนยันจะดำเนินโครงการนี้ต่อไป เพราะทางรถไฟเชื่อมต่อลาว-จีน เป็นเส้นทางที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์

"ประเทศลาวจะเป็นประเทศตำอิด (ประเทศแรก) อยู่ในเอเชียอาคเนย์ ที่มีรถไฟความไวสูงตามมาตรฐานสากล"

สมสะหวาด เล้งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี วาดหวังจะให้การก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีระยะทางยาวถึง 421 กิโลเมตร แล้วเสร็จภายในปี 2015 ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ส.ป.ป.ลาว)

ในบทบันทึกความเข้าใจร่วมกันเบื้องต้นว่า จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบในการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง โดยรัฐบาลลาวจะถือหุ้นลงทุนในสัดส่วน 30% ส่วนอีก 70% เป็นการถือหุ้นโดยฝ่ายจีน

ที่สุดรัฐบาลลาวตัดสินใจนำโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อลาว-จีน นับตั้งแต่บ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทาถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เข้าสู่ที่ประชุมสมัยสามัญของสภาแห่งชาติลาว เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง ส.ส.ลาวก็ลงมติรับรองเอาโครงการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าว

รัฐบาลลาวเป็นผู้ถือหุ้นเต็ม 100% มูลค่าการลงทุนก่อสร้างนั้น 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลจะกู้เงินจากธนาคารข้าเข้า-ข้าออกของประเทศจีน ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ซึ่งรัฐบาลลาวต้องชดใช้คืนภายใน 30 ปี มีระยะปลอดหนี้ 10 ปี โดยจะลงมือก่อสร้างปี 2013 แล้วเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า

นั่นหมายถึงว่า รัฐบาลลาวไม่ยอมเวนคืนที่ดินตามที่กลุ่มทุนจีนร้องขอ พร้อมกระโจนเข้าถือหุ้น 100% เป็นเจ้าของทางรถไฟสายประวัติศาสตร์แบบไม่มีหุ้นส่วน

พลันที่มีคนลาวนำเอาข่าวนี้ไปโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก "ฮูปพาบปะเทดลาว" ก็มีคอมเม้นต์จากคนลาวมากพอควร มีทั้งบวกและลบ

"บ่มีการเวนคืนที่ดิน เพื่อจ่ายเป็นค่าก่อสร้างแม่นบ่ ดีใจเด้ แฮงย่านบ่มีดินให้คนลาวอยู่"

"เห็นดีทุกอย่าง แต่ห่วงการก่อสร้าง ต้องใช้บริษัทจากจีนเป็นฝ่ายก่อสร้าง แต่เป็นเงินรัฐบาลยืมมา...รัฐบาลลาวที่ถือหุ้น 100 นั้น จีนอ้างมีปัญหาด้านการเงิน ทั้งที่จีนมีเศรษฐกิจพัฒนาเร็วกว่าเพื่อน หรือว่าเป็นการหลอกให้ลาวยืมเงิน เพื่อสร้างแทนจีนหรืออย่างไร"

ในข่าวเดียวกันนั้น แอดมินของเนชั่นสุดสัปดาห์ได้นำมาโพสต์ไว้ที่หน้าเพจ ก็มีคนไทยเข้าแสดงความคิดเห็นอย่างคึกคัก

"แล้วพี่ไทยล่ะ ชาตินี้คนไทยอย่าฝันว่าจะมี พวกมันเเ-กกันไม่พอ อันนี้สิฮั้วแน่นอน จะมีใครใจกล้าหน้าด้านฆ่าตัวตายเหมือนฟ้อง 3จี มั้ย เอิ๊กกกกก"

"โอวเยี่ยม! ทีนี้จะได้รู้กันว่ารัฐบาลไทยมันห่วยแตกขนาดไหน เหอๆๆๆ ประเทศไทยตามไม่ทันแล้ว"

"ล้าหลังอีกแล้วเรา ตายกี่ชาติเนี่ย ประเทศไทยถึงจะมีใช้กับเค้า"

"อ้าว..แล้วของไทยแลนด์จะสร้างเมื่อไหร่ ฉึกๆ ฉักๆ ฉึกๆ ฉักๆ กันต่อไป ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง ถ้าของเราสร้างก็ต้องใช้เงินมากกว่านี้อีก 3 เท่า เพราะเอาไว้ให้นักการเมืองมันถลุงกัน"

"เฮ้อ อยากย้ายแผ่นดิน..."

จริงๆ แล้ว ระบบการปกครองของสองชาติไทย-ลาว มีความแตกต่างกันเยอะ ฝั่งซ้ายมีพรรคการเมืองพรรคเดียวคือพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ใช้อำนาจผ่านคณะรัฐบาล รัฐสภา และศาลสถิตยุติธรรม

ฝั่งขวาเป็นระบอบประชาธิปไตย มีหลายพรรค มีหลายก๊กการเมือง มีอำนาจหลังม่าน มีผู้กุมอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ และผู้กุมอำนาจนอกประเทศ

การบริหารประเทศจึงมีลักษณะเฉพาะของใครของมัน มิอาจลอกเลียนแบบกันได้

[Wisarut]

^^^
ไอ้คนที่เอะอเไม่ได้อย่างจก็จะย้ายแผ่นดิน ก็จะโดนต้มใน กระทะทองแดง จะว่ากระไร

[Mongwin]

รองนายกรัฐมนตรีลาวระบุ โครงการรถไฟลาว-จีนจะนำประโยชน์ใหญ่หลวงมาสู่ลาว
CRI 2012-10-24 17:11:03 Xinhua

เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐสภาลาวจัดการประชุมพิเศษ เพื่ออนุึมัติเปิดโครงการรถไฟระหว่างเมืองบ่อเต็น-เวียงจันทน์ที่สามารถเชื่อมกับทางรถไฟของจีนได้ ซึ่งจะเริ่มการก่อสร้างในเร็วๆ นี้ นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีลาวกล่าวในที่ประชุมว่า โครงการร่วมมือระหว่างลาว-จีนนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของลาว

นายสมสะหวาด เล่งสะหวัดระบุว่า โครงการนี้จะลงทุน 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยธนาคารนำเข้าส่งออกจีนจะให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะ 30 ปี และฝ่ายจีนจะรับผิดชอบการก่อสร้าง คาดว่าปีแรก ทางรถไฟนี้สามารถสร้างรายได้จากการขนส่งถึง 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเมื่อถึงปีที่ 50 รายได้สุทธิจะเป็น 16,390 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

[Mongwin]

Laos Says China to Finance Rail Link
The Wall Street Lournal CHINA NEWS October 24, 2012, 7:32 a.m. ET
By JACOB GRONHOLT-PEDERSEN

A Laotian official said China has agreed to finance a $7 billion railway link in Laos that will ship raw materials to the Chinese border.

There was no confirmation of the agreement from Chinese officials. The two countries have failed to reach a deal on the railway link for several years.


Agence France-Presse/Getty Images
A 2011 photo shows trucks transporting timber toward the Chinese border on a road at Bopiat village in the Northern province of Louang Namtha where Chinese workers are carrying out drilling works for soil analyses in preparation of building a railway linking China to Laos.

Laos's Energy and Mining Minister Soulivong Dalavong said in an interview that under the new agreement, which is expected to be signed within days, Chinese banks will provide financing to build a 418-kilometer rail link from the capital Vientiane to the Chinese border.

Beijing is seeking to secure raw materials from neighboring countries to feed massive infrastructure investment and its manufacturing industry. Other projects already built, under construction or planned include twin oil and gas pipelines from nearby Myanmar, a crude pipeline from eastern Siberia and a railway project to bring in coal from Mongolia.

A revival of the railway link would come amid uncertainty over a $15 billion bid by China's state-owned energy giant Cnooc Ltd. to take over Nexen Inc., one of Canada's largest independent energy producers, prompted by the Canadian government's ruling last week against Malaysian national oil company Petroliam Nasional Bhd.'s acquisition of Progress Energy Resources Corp., and worries in some Western countries about the scale of Chinese investments globally in energy and mining assets.

In return for financing the project, China will secure supply of around 5 million tons a year of mineral resources, mainly potash, by 2020, along with other raw materials such as timber and agricultural products that may be shipped to China, Mr. Dalavong said.

The link, which will be built mainly by Chinese contractors, is also expected to serve as a passenger route, Mr. Dalavong said. The minister said the railway will run north through the towns of Phonhong, Vangvieng, Luang Prabang Oudomxay and Luang Namtha before reaching the Chinese border.

It is unclear which Chinese banks will provide the financing. An article by the Vientiane Times posted on the Laos government's website quoted Laotian Deputy Prime Minister Somsavat Lengsavad as saying the credit line will be provided by state-owned Export-Import Bank of China. Exim Bank did not respond to requests for comment.



The move to more closely tie Laos to China comes as neighboring Myanmar is moving in the opposite direction—cutting some economic links with China and opening itself to investment from Western countries by instituting a series of political reforms.

"Everyone is selling to China, so why shouldn't we do the same," Mr. Dalavong said, saying the country has limited opportunities for exports due to its land-locked geography and infrastructure. "I think we have to sell to China," he said.

Laos—a small Southeast Asian country locked between China, Vietnam, Myanmar, Cambodia and Thailand—has gained some attention in recent years due to its significant untapped mineral resources. Although now mainly a producer of copper and gold, it has 10 mines under development that will produce potash, a key ingredient in fertilizer production, along with other minerals like iron ore, zinc and lead. Total production is expected to reach close to 7 million tons a year, with most of this destined for China via the planned railway.

The long-discussed project, which was approved by the Laotian parliament last week, was originally presented as being jointly owned with the Chinese government. But according to the Vientiane Times, the Laotian government has now assumed sole ownership of the project, which it considers central to the future development of the nation.

Initial plans envisaged a high-speed railway, but due to the mountainous terrain extending through about two-thirds of the route, the link will carry passenger trains at a speed of up to 160 kilometers per hour and freight trains at 120 kilometers per hour, the energy and mining minister said.

The link is expected to be complete in 2017, with the ground-breaking ceremony scheduled to take place during the 9th Asia-Europe Meeting, or ASEM, that will gather top officials from Europe and Asia in Laos the first week of November.

Construction of the rail link was due to have started in early 2011 with completion in 2014, but the project was bogged down in disagreements over land rights along the line and other issues, according to people familiar with the matter.

While the railway will provide a much-needed link to the outside world, Mr. Dalavong cautions that current market conditions aren't favorable.

"Of course, we have to be competitive. If our potash cannot compete on price, then the Chinese will buy from Canada," he said. "But since we are borrowing from Chinese banks to build the railroad, I think there is a good reason for the Chinese to buy our potash."

—Kersten Zhang contributed to this article.

A version of this article appeared October 25, 2012, on page A10 in the U.S. edition of The Wall Street Journal, with the headline: Laos, China Revive Deal for Rail Link.

[Mongwin]

จีนอัดฉีดทุน 7 พันล้าน $US ให้ลาว สร้างทางรถไฟความเร็วสูงคุนหมิง-เวียงจันทน์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2555 16:45 น.


เส้นทางรถไฟความเร็วสูงคุนหมิง-เวียงจันทร์ หนึ่งในเส้นทางสายเอเชียที่จีนวางแผนขยายต่อผ่านไทยไปจนถึงสิงคโปร์ (ภาพ-เอเยนซี่)

เฟิ่งหวง-จีนเตรียมเซ็นสัญญากับลาวในการเป็นผู้จัดหาเงินทุน 7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ สร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายคุนหมิง-เวียงจันทร์ ซึ่งเป็นสายสำคัญสายหนึ่งในโครงการทางรถไฟสายเอเชียที่จีนวางแผนเชื่อมต่อไปจนถึงสิงคโปร์ในอนาคต

สื่อออนไลน์จีนรายงาน เมื่อวันที่ 25 ต.ค.นายสุลิวง ดาลาวง (Soulivong Dalavong) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาวเผยว่า ประเทศจีนได้ตกลงเห็นชอบในการเป็นผู้จัดหาเงินทุนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง เส้นทางระหว่างจีนและลาว มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ (2.2 แสนล้านบาท)

รายงานข่าวกล่าวว่า สภาแห่งชาติลาวได้อนุมัติแผนงานการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีพ.ศ.2553 แต่เงินทุนที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ทำให้โครงการดำเนินไปอย่างล่าช้า ซึ่งจีนเห็นว่าทางรถไฟสายนี้มีความสำคัญจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือดังกล่าว

เมื่อเส้นทางรถไฟสายนี้เปิดใช้จะเป็นเส้นทางซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนัน และนครเวียงจันทร์ของลาว ซึ่งนอกจากใช้ขนส่งวัตถุดิบ แร่ธาตุ อีกทั้งสินค้าต่างๆระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับชายแดนจีนแล้ว ยังเป็นเส้นทางสำคัญส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟสายเอเชียหรือหรือTrans-Asian Railway Network ที่มีความยาวร่วม 3,900 กม.ซึ่งจีนมีแผนขยายเส้นทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์

นายสุลิวง ดาลาวงกล่าวว่า ความร่วมมือกับจีนครั้งใหม่นี้คาดว่าจะมีการลงนามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ภายใต้ข้อตกลงให้ธนาคารจีนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาเงินทุนสำหรับก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจากเวียงจันทร์ถึงคุนหมิง ความยาวทั้งสิ้น 418 กม. โดยลาวจะจัดส่งแร่ธาตุเช่น แร่โพแทสเซียม ไม้ สินค้าการเกษตร และสินค้าอื่นๆให้จีนเป็นจำนวน 5 ล้านตันต่อปีไปจนถึงปีพ.ศ.2563 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า

โครงการนี้บริษัทก่อสร้างในจีนเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยวางแผนไว้ว่าจะแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2558 และคาดว่าจะเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าและเส้นทางโดยสารที่สำคัญสายหนึ่งในเอเชีย

ล่าสุดยังไม่มีความแน่ชัดว่าจีนได้จัดหาเงินทุนจากธนาคารใด สื่อออนไลน์แห่งหนึ่งของลาวรายงานโดยอ้างจากบทความของรองนายกรัฐมนตรีลาว นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด (Somsavat Lengsavad) ถอดความได้ว่า แหล่งเงินทุนก้อนนี้มาจากธนาคารเพื่อการนำเข้า-ส่งออกจีน (Export-Import Bank of China)


คลิปโครงการทางรถไฟความเร็วสูงคุนหมิง-เวียงจันทร์ ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติลาว ใน เดือนธันวาคม ปีพ.ศ.2553

[Wisarut]

จีนย้ำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมลาว-อาเซียนเกิดแน่
โดย ทรงฤทธิ์ โพนเงิน
Mekong Corridor หน้า 83
เนชันสุดสัปดาห์
ปีที่ 21 ฉบับที่ 1062 วันที่ 5 ตุลาคม 2555

จีนยืนยันจะเริ่มลงมือก่อสร้างรถไฟความไวสูงสูงเชื่อมต่อลาว
Voice of American - 20 กันยายน 2012

ลี ซาง จิน ประธานกลุ่มบริษัททางรถไฟแห่งประเทศจีน ได้ให้การยืนยันในระหว่างการเข้าเยี่ยมคำนับ ทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีลาว เมื่อไม่นานมานี้ ว่าการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมต่อจากจีนมาลาวและอาเซียนจะเริ่มลงมือดำเนินการในเร็วๆ นี้ โดยรัฐบาลจีนได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัททางรถไฟจีนเป็นผู้รับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม ลี ซาง จิน ก็ยอมรับว่าการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในส่วนที่อยู่ในเขตประเทศลาวนั้น ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากที่สุดเขตหนึ่งในโลก เนื่องจากว่าพื้นที่ที่จะก่อสร้างทางรถไฟในลาวส่วนใหญ่เป็นทั้งเขตภูเขาและแม่น้ำ ซึ่งทำให้ต้องมีการเจาะอุโมงค์คิดเป็นระยะทางยาวรวมถึง กว่า 190 กิโลเมตร ทั้งก็ยังจะต้องสร้างสะพานหลายสิบแห่งที่มีระยะทางยาวรวมกันกว่า 90 กิโลเมตรด้วยนั้น จึงไม่เพียงแต่จะทำให้ต้องใช้เวลาในการดำเนินงานมากขึ้นเท่านั้น หากแต่ยังจะต้องใช้เงินทุนมากกว่าปกติอีกด้วย

ทั้งนี้ทางการจีนคาดว่าการก่อสร้างทางรถไฟความไวสูงจากชายแดนจีนกับลาว
ที่ด่านบ่อหาน (Mo Han) - บ่อแตน ในแขวงหลวงน้ำทามายังนครหลวงเวียงจันท์จะต้องใช้เงินลงทุน 7 พันล้านดอลลาร์ โดยถ้าหากอิงการแถลงก่อนหน้านี้ของท่านรองนายกรัฐมนตรี สมสวาด เล่งสวัสดิ์ ผู้ชี้นำเวียกงาน (ผู้ดำเนินงาน) ด้านเศรษฐกิจของลาวจะร่วมทุนในสัดส่วน 30% ต่อ 70% นั้นก็จะได้ว่าทางการลาวจะร่วมทุนถึง 2100 ล้านดอลลาร์นั้นเอง หากแต่ว่า การจัดหาเงินลงทุนในมูลตค่าดังกล่าวนี้บ่แม่นเรื่องง่ายสำรับรัฐบาลลาว

ด้วยเหตุนี้ จึงเฮ็ดให้รัฐบาลลาวร่วมลงทุน กับจีนในรูปของทรัพย์สินและการอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ ให้กับโครงการดังที่ท่านสมสะหวาด ได่้ให้การชี้แจงว่า:

"บริษัทร่วมทุนนี้ได้เว้ากันว่าฝ่ายจีนแม่นจะประกอบเป็นเงินสดและอุปกรณ์ถือหุ่นก็แม่น 70% ส่วนฝ่ายลาว จะถือหุ้น 30% ในนี้ก็รวมถึงค่าเวนคืนที่ดิน บ่ ยกย้ายจัดสรรประชาชนหรือว่าค่าเก็บกู้ระเบิดบ่ทันแตก"


การสำรวจดินเพื่อสร้างรถไฟความไวสูงเชื่อมต่อลาวและจีน
​
ทางรถไฟในเขตลาว (ก่อนการเปลี่ยนแปลง) จะมีระยะทางยาว 421 กิโลเมตรซึ่งตามแผนการก่อสร้าง จะเชื่อมต่อจากจีนที่ด่านชายแดนบ่อแตน ในแขวงหลวงน้ำทา นั้นมีการก่อสร้างสถานีใหญ่ 5 แห่งที่ ด่านบ่อแตน อุดมไซย หลวงพระบาง วังเวียงและนครหลวงเวียงจันท์ นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างสถานีย่อยอีก 16 แห่งที่อยู่ระหว่างสถานีใหญ่ทั้ง 5 แห่งดังกล่าวนี้

ส่วนการก่อสร้างอยู่ในประเทศจีนนั้น ทางการจีนก็ได้เริ่มลงมือก่อสร้างนับแต่เดือนตุลาคม 2010 เป็นต้นมาแล้ว โดยเป็นการเริ่มก่อสร้างจาก เขต (ปกครองตัวเอง) สิบสองปันนา ในแขวง (มณฑล) ยูนนาน เพื่อจะต่อมายังชายแดนลาวที่ด่านบ่อแตนให้ได้ภายในปี 2013

ทางด้านท่านนาง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ก็ได้ให้การยืนยันเมื่อไม่นานมานี้ว่า โครงการที่รัฐบาลไทยได้ให้บุริมสิทธิ์ ในอันดับต้นๆ ก็คือการเชื่อมต่อทางรถไฟความไวสูงกะจีนและอาเซียนโดยเฉพาะ การเชื่อมต่อทางรถไฟความไวสูงจากเมืองคุนหมิงของจีนมายังนครหลวงเวียงจันท์ ผ่านหนองคาย มาที่บางกอกนั้น ถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ท่านเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ได้ให้การยืนยันในโอกาสที่ท่านนายกรัฐมนตรี ทองสิง ธรรมวงศ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมยามปักกิ่งอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า การสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อลาว กะ จีน ยังจะดำเนินต่อไป นั้นยังถือว่าเป็นการ รับประกันว่าทางรถไฟความไวสูงเชื่อมต่อระหว่าง จีน - ลาว - ไทย จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอนอีกด้วย

จีนฉลาดสุดๆ ให้ลาวเป็นลุกหนี้ สร้างรางให้รถไฟจีน
โดย ทรงฤทธิ์ โพนเงิน
Mekong Corridor หน้า 83
เนชันสุดสัปดาห์
ปีที่ 21 ฉบับที่ 1065 วันที่ 26 ตุลาคม 2555

ขณะนี้ จีนไม่ขอเป็นหุ้นส่วนในการทำรถไฟความไวสูงลาว - จีน เนื่องจากพบว่า
1. จีนหมายใจจะขอเช่าที่ดิน 2 ข้างทางรถไฟจากบ่อแตนไปเวียงจันท์ ยาว 421 กิโลเมตร ข้างละ 1 กิโลเมตร รวมเป็นพื้นที่ 842 ตารางกิโลเมตร
(84200 เฮกตาร์) เป็นระยะเวลา 90 ปี โดยสามารถต่อสัญญาได้ แต่ รัฐบาลลาวให้ที่ แค่ 3058 เฮกตาร์หรือ 30.58 ตารางกิโลเมตร ตามทางรถไฟ
417.68 กิโลเมตร โดยกำหนดว่า

1.1 ย่านสถานีใหญ่ ทั้ง 7 (บ่อแตน - อุดมไซย - หลวงพระบาง - วังเวียง - โพนโฮง - เวียงจันท์เหนือ - เวียงจันท์ใต้) ให้พื้นที่ในแต่ละสถานี ขนาด
3000 x 250 ตารางเมตร (75 เฮกตาร์ - 0.75 ตารางกิโลเมตร)

1.2 ย่านสถานีย่อย ที่เหลือ ให้พื้นที่ในแต่ละสถานี ขนาด 2000 x 100 ตารางเมตร (20เฮกตาร์ - 0.2 ตารางกิโลเมตร)

1.3 พื้นที่เขตทาง (ไม่นับตอนอุโมงค์) ให้กว้างข้างละ 50 เมตร (รวม 100 เมตร) (1536.8 เฮกตาร์ - 15.368 ตารางกิโลเมตร)

1.4 พื้นที่เขตทางตอนอุโมงค์ ทั้ง 76 แห่ง ระยะทาง 195 กิโลเมตร ให้กว้างข้างละ 100 เมตร (รวม 200 เมตร) (3900 เฮกตาร์ - 39 ตารางกิโลเมตร)
[ไม่รู้ว่ารวมเขตสะพาน 154 แห่งรวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำโขง ที่หลวงพระบางสองแห่ง ระยะทาง 70 กฺิโลเมตรด้วยหรือเปล่า]

1.5 ห้ามการก่อสร้างทั้งปวงที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการรถไฟ ในเขตทางดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น

2. จากการประเมินผล แล้วถ้าลงทุนไป 7 พันล้านดอลลาร์กะเงื่อนไขดังกล่าว กว่าจะได้กำไรก็ปีที่ 38 ถ้าให้สัมปทานแค่ 50 ปี ท่าจะไปไม่รอด
แม้จะต่อสัญญาไปอีก 50 ปี

ดังนั้น รัฐบาลจีนเสนอเงินกู้ 7 พันล้านดอลลาร์ ดอกเบี้ย 2% เวลาชำระหนี้ 30 ปี ปลอดการชำระหนี้ 10 ปี แรก จากธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก
ของจีนโดยกำหนดเงื่อนไขว่า
1. รัฐบาลลาวต้องค้ำประกันเงินกู้ 100%
2. รัฐบาลลาวต้องตั้งบริษัทมาบริหารโครงการ โดยให้มีสถานะเป็นลูกหนี้ธนาคาร จีนโดยตรง
3. รัฐบาลลาวต้องเอารายรับ (ที่ได้จากการเดินรถโดยสารและสินค้า) และสินทรัพย์ของโครงการรถไฟ ลาว - จีนค้ำประกันหนี้
4. รัฐบาลลาวต้องค้ำประกันเงินต้น 100% โดย เอา รายได้ที่รัฐบาลลาวได้รับจากเหมืองแร่ทองคำกับ เหมืองแร่ทองแดงที่เซโปน และ
เหมืองแร่บ็อกไซด์ (ถลุงทำอลูมิเนียม) ที่จำปาศักด์ มาค้ำประกันหนี้

แม้ตอนนี้รัฐบาลลาวยังไม่มีท่าที่กะเงื่อนไขเงินกู้ แต่เชื่อได้แน่ว่าสภาแห่งชาติ ต้องรับรองเงื่อนไขการเงินกู้ 7 พันล้านดอลลาร์ (44,500 ล้านหยวน)
เพื่อให้โครงการรถไฟความไวสูงสำเร็จผล และ ต้องประสงค์จีนแดงที่จะมีรายได้ที่แน่นอน จากเงินต้นและดอกเบี้ย และ ให้รถไฟจีนวิ่งฟรีๆ เพราะ
รายได้จากการให้รถไฟจีนวิ่ง ก็จะส่งไปเป็นเงินค้นและดอกเบี้ย

[Wisarut]

ลาวตกลงให้จีนจัดหาเงินทุนสร้างทางรถไฟความเร็วสูงชื่อมคุนหมิง-เวียงจันทร์
โดย กอง บก.ออนไลน์
ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวต่างประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2555 เวลา 21:35 น.

สื่อออนไลน์จีนรายงาน เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ระบุ นายสุลิวง ดาลาวง (Soulivong Dalavong) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาวเผยว่า ประเทศจีนได้ตกลงเห็นชอบในการเป็นผู้จัดหาเงินทุนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง เส้นทางระหว่างจีนและลาวชื่อมระหว่างเมืองคุนหมิง -เวียงจันทร์ มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ (2.2 แสนล้านบาท) ทั้งนี้ สภาแห่งชาติลาวได้อนุมัติแผนงานการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีพ.ศ.2553 แต่เงินทุนที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ทำให้โครงการดำเนินไปอย่างล่าช้า ซึ่งจีนเห็นว่าทางรถไฟสายนี้มีความสำคัญจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือดังกล่าว


ลาวลุยรถไฟความเร็วสูง เปลี่ยน "แลนด์ล็อก" เป็น "แลนด์ลิงก์"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 29 ตุลาคม 2555 เวลา 11:21:47 น.


รัฐบาล สปป.ลาวเตรียมเดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อกับประเทศจีน แม้ภาคเอกชนจีนจะถอนตัวออกจากบริษัทร่วมทุนเวียงจันทน์ ไทมส์ รายงานว่า รัฐสภา สปป.ลาวมีมติอนุมัติโครงการดังกล่าวในการประชุมวาระพิเศษเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังได้ข้อสรุปว่าระบบรถไฟความเร็วสูงจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะเมื่อการรวมกลุ่มเศรษฐกิจระหว่างกัน ได้รับการคาดหมายว่าเป็นอนาคตของภูมิภาคนี้

ก่อนหน้านี้ลาวกับจีนวางแผนลงขันกันสร้างทางรถไฟ ซึ่งจะเชื่อมโยงกรุงเวียงจันทน์กับชายแดนลาว-จีนในจังหวัดหลวงน้ำทา แต่โครงการดังกล่าวซึ่งมีกำหนดเริ่มก่อสร้างต้นปี 2554 และแล้วเสร็จปี 2557 มีอันต้องล่าช้าออกไปเพราะความขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์เหนือทางรถไฟและประเด็นอื่น ๆ จนในที่สุดบริษัทก่อสร้างจากแดนมังกรประกาศถอนตัวโดยอ้างว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน


ทางการลาวจึงตัดสินใจเดินหน้าโครงการตามลำพังโดยเป็นผู้ถือหุ้นเพียงผู้เดียว แม้ว่าโครงการนี้จะไม่มีผู้ถือหุ้นโดยตรงรายอื่น ๆ แต่หน่วยงานของจีนจะเป็นผู้ให้เงินกู้สำหรับการดำเนินงาน

สมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการนี้ในแง่จะช่วยเปลี่ยนลาวเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงภาคพื้นดิน (land link) ในภูมิภาคนี้ ซึ่งจะช่วยดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ อันจะมีส่วนกระตุ้นการเติบโตของประเทศอีกต่อหนึ่ง

พิธีลงนามของโครงการนี้อย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (ASEM) ครั้งที่ 9 ในวันที่ 5-6 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งลาวเป็นเจ้าภาพ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งฝ่ายลาวและจีนมีกำหนดมาร่วมพิธีด้วย

นายสมสะหวาดระบุว่า ทางรถไฟจะมีระยะทาง 420 กิโลเมตร ใช้ต้นทุนการก่อสร้างราว 4.425 หมื่นล้านหยวน (7 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งคาดว่าทั้งหมดจะได้รับสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของจีน (Exim Bank of China)

วอลล์สตรีต เจอร์นัล ตั้งข้อสังเกตว่า การให้เงินกู้ครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลปักกิ่งในการสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้อนให้กับโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ โครงการอื่น ๆ ในประเทศรอบข้างที่ทางการจีนเข้าไปมีส่วนร่วม ได้แก่ โครงการท่อส่งน้ำมันและก๊าซคู่ขนานในเมียนมาร์ ท่อส่งน้ำมันดิบจากไซบีเรียตะวันออก และโครงการทางรถไฟขนส่งถ่านหินจากมองโกเลีย

นายสุลีวง ดาราวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ เปิดเผยว่า ผลประโยชน์ที่จีนจะได้รับเป็นการแลกเปลี่ยนกับการปล่อยเงินกู้ คือ ซัพพลายทรัพยากรแร่ธาตุราว 5 ล้านตันต่อปี จากลาวภายในปี 2563 ซึ่งหลัก ๆ แล้ว คือ โพแทช นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบอื่น ๆ อาทิ ไม้ และสินค้าเกษตร

ลาวซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลตั้งอยู่ระหว่างจีน เวียดนาม เมียนมาร์ ไทย และกัมพูชา ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ลาวได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติปริมาณมากที่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ แม้ว่าปัจจุบันแร่ที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะเป็นทองแดงและทองคำ แต่ลาวยังมีเหมืองอีก 10 แห่งที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่า

จะเป็นแหล่งผลิตสำคัญของโพแทชที่เป็นส่วนผสมหลักในปุ๋ย นอกจากนี้ยังมีแร่อื่น ๆ อาทิ เหล็ก สังกะสี และตะกั่ว คาดว่ากำลังการผลิตแร่ทุกชนิดรวมกันจะทะลุ 7 ล้านตันต่อปีในไม่ช้า โดยส่วนใหญ่จะขายให้กับจีนผ่านทางเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2560

"แน่นอนว่าเราจะต้องมีความสามารถในการแข่งขัน ถ้าแร่โพแทชของเราเสียเปรียบด้านราคา จีนก็จะหันไปซื้อจากแคนาดาแทน แต่เพราะเรากู้เงินจากธนาคารจีนมาสร้างทางรถไฟ ผมคิดว่าเป็นเหตุผลที่ดีที่จีนจะซื้อโพแทชจากเรา" นายสุลีวงกล่าว

ความเคลื่อนไหวเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับแดนมังกรของลาว สวนทางกับแนวนโยบายของทางการเมียนมาร์ที่พยายามลดอิทธิพลของจีนในประเทศตน โดยตัดลดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับจีน แล้วหันมาเปิดรับการลงทุนจากชาติตะวันตก โดยยินยอมปฏิรูปทางการเมืองและเศรษฐกิจเพื่อแลกกับการระงับมาตรการคว่ำบาตร

รูปแบบของรางรถไฟในลาวได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับทางรถไฟที่มีอยู่แล้วในจีน ซึ่งมีประสบการณ์เชี่ยวชาญในการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง

แม้รางรถไฟจะมีความกว้างมาตรฐาน 1.435 เมตร แต่ต้องเคลียร์พื้นที่แต่ละฝั่งของรางรถไฟออกไปอีกฝั่งละ 50 เมตร สำหรับจัดเตรียมการก่อสร้างและดูแลความปลอดภัย ส่วนจุดที่ต้องสร้างอุโมงค์รถไฟพื้นที่ขนาบข้างต้องขยายเป็น 100 เมตร และบริเวณที่เป็นสถานีหลักจะมีการจัดเตรียมพื้นที่ขนาด 3,000x250 เมตร สำหรับพัฒนาเป็นย่านการค้าและเชื่อมโยงคมนาคมในอนาคต

ตลอดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนี้ต้องมีการก่อสร้างอุโมงค์ 76 แห่ง และสะพาน 154 แห่ง ซึ่งรวมถึง 2 แห่งที่พาดข้าม
แม่น้ำโขง เฉพาะอุโมงค์และสะพาน รวมกันกินพื้นที่มากกว่า 60% ของโครงการ เนื่องจากภูมิประเทศแถบภาคเหนือของลาวเต็มไปด้วยภูเขาสูง โครงการนี้มีสถานีทั้งหมด 31 แห่ง แต่ช่วงแรกที่เปิดดำเนินการจะให้บริการเพียง 20 แห่ง ที่เหลือจะทยอยเปิดตามมา

ด้านสถานีหลักมี 7 แห่ง 2 แห่งในจำนวนนี้อยู่ในเวียงจันทน์ เมื่อออกจากเมืองหลวงทางรถไฟจะมุ่งขึ้นเหนือผ่านเมืองโพนโฮงและวังเวียง ก่อนต่อไปยังหลวงพระบาง หลวงน้ำทาและถึงชายแดนจีนในที่สุด

ในข้อตกลงเริ่มแรก ขบวนรถขนส่งผู้โดยสารจะมีความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. แต่หลังจากนั้นรัฐบาลลาวตัดสินใจลดความเร็วลงเหลือไม่เกิน 160 กม./ชม. เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ที่ทางรถไฟตัดผ่านเป็นภูเขาสูง ส่วนขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจะทำความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชม.

อย่างไรก็ตาม นายสมสะหวาดระบุว่า รถไฟบรรทุกผู้โดยสารอาจเพิ่มความเร็วถึง 200 กม./ชม.ได้ในเขตกรุงเวียงจันทน์ และเมืองวังเวียง ซึ่งเป็นพื้นที่ราบแต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกครั้งก่อนปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์

[Mongwin]

รถไฟในลาวสายยุทธศาสตร์จีนแผ่สู่อาเซียน
สุทธิชัย หยุ่น คอลัมน์คนบ้าข่าว 30 ต.ค. 55

กลับมาคุยกันอีกครั้งระหว่างลาวกับจีน มีการรื้อฟื้นความคิดที่จีนต้องการจะสร้างทางรถไฟ 418 กม. จากลาว ผ่านชายแดนจีน ไปยังพม่า

หลังมีการชะลอไปหลายปี เนื่องจากรัฐบาลลาวไม่แน่ใจว่า จีนสร้างให้ จะเกี่ยวข้องกับสิทธิครอบครองที่ดินสองฝั่งทางรถไฟอย่างไร เพราะเดิมทีจีนจะสร้างให้ แต่ขอแลกสิทธิบริหารที่ดินสองข้างทาง แต่ล่าสุดเป็นการจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้จำนวน 2 แสนล้านบาท แสดงว่าความร่วมมือกลับอีกครั้ง

จีนมีการเคลื่อนไหวคึกคักมาก เพราะต้องการเชื่อมโยงทางคมนาคม โดยสร้างทางรถไฟเข้าลาว พม่า มองโกเลีย เพิ่มการค้าขายของจีนขณะกว้างขวางมากขึ้น นับเป็นยุทธศาสตร์จีนเพื่อเอาชนะสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้

จับตาดูให้ดี เมื่อจีนต้องการลงทุนอย่างกว้างขวาง ในระบบโลจิสติกส์ เครื่อข่ายขนส่ง จากชายแดนทางตอนใต้ของจีนเชื่อมโยงสู่อาเซียน 10 ประเทศในอนาคต

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า จีนเตรียมเซ็นสัญญากับลาวในการเป็นผู้จัดหาเงินทุน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายคุนหมิง-เวียงจันทน์ ซึ่งเป็นสายสำคัญสายหนึ่งในโครงการทางรถไฟสายเอเชียที่จีนวางแผนเชื่อมต่อไปจนถึงสิงคโปร์ในอนาคต หวังเปิดเส้นทางค้าขายของจีนแผ่ขยายสู่อาเซียน

เส้นทางรถไฟสายนี้เปิดใช้จะเป็นเส้นทางซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองคุนหมิง มณฑลหวินหนัน และเวียงจันทน์ของลาว ซึ่งนอกจากใช้ขนส่งวัตถุดิบ แร่ธาตุ อีกทั้งสินค้าต่างๆระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับชายแดนจีนแล้ว ยังเป็นเส้นทางสำคัญส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟสายเอเชียที่มีความยาว 3,900 กม.ซึ่งจีนมีแผนขยายเส้นทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์

ทั้งนี้ ความร่วมมือครั้งใหม่ ภายใต้ข้อตกลงให้ธนาคารจีนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาเงินทุนสำหรับก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจากเวียงจันทน์ถึงคุนหมิง ความยาวทั้งสิ้น 418 กม. โดยลาวจะจัดส่งแร่ธาตุเช่น แร่โพแทสเซียม ไม้ สินค้าการเกษตร และสินค้าอื่นๆให้จีนเป็นจำนวน 5 ล้านตันต่อปี ในช่วงจากนี้ไป 8 ปีข้างหน้าจนถึงปี 2563

ในอดีตนั้น ทางการจีนได้ตกลงร่วมมือกับทางการลาวเข้าในการพัฒนาและก่อสร้างทางรถไฟในลาวเพื่อเชื่อมต่อกับจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2010 ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวทั้งสองฝ่ายจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาเพื่อดำเนินการร่วมกัน หากแต่ในส่วนของเงินลงทุนและเทคนิคต่างๆ ที่จะใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟ รวมไปถึงหัวจักรรถไฟและขบวนรถไฟด้วยนั้นจะมาจากฝ่ายจีนทั้งสิ้น

โดยเส้นทางรถไฟที่ทางการจีนให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือเส้นทางที่เชื่อมต่อจากด่านบ่อเต็นในแขวงหลวงน้ำทา ซึ่งติดต่อกับชายแดนจีนที่ด่านบ่อหานในเขตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน เรื่อยลงมาที่อุดมไซ-หลวงพระบาง-แขวงเวียงจันทน์และนครเวียงจันทน์แล้วต่อมาที่หนองคายมายังกรุงเทพฯแล้วมุ่งสู่มาเลเซียและสิงคโปร์หรือที่เรียกว่าเส้นทางรถไฟอาเซียน-จีนนั่นเอง

ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งซึ่งต่อเนื่องกันที่ทางการจีนได้ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ก็คือการเชื่อมต่อจากนครเวียงจันทน์ลงไปที่เมืองท่าแขกในแขวงคำม่วนแล้วเชื่อมต่อไปยังภาคกลางของเวียดนามที่เมืองวินห์ ซึ่งก็นับว่าสอดคล้องกับแผนการของทางการเวียดนามอยู่ไม่น้อย เพราะว่าทางการเวียดนามนั้นก็ได้ลงทุนลงแรงในการศึกษาสำรวจและออกแบบก่อสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อกับเมืองท่าแขกมาที่นครเวียงจันทน์ของลาวอยู่แล้วในเวลานี้

ขณะที่การลงทุนของจีนในลาวที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ในเวลานี้ ก็คือการซื้อกิจการเหมืองทองคำและทองแดงที่เมืองวีละบุลีในแขวงสะหวันนะเขต การสร้างเมืองใหม่สามเหลี่ยมทองคำในเขตเมืองต้นผึ้งแขวงบ่อแก้ว การสร้างเมืองใหม่ China Town ในเขตนครเวียงจันทน์ รวมถึงการทำเหมืองแร่บ็อกไซต์และการก่อสร้างโรงงานผลิตโลหะอลูมิเนี่ยมในแขวงจำปาสักและอัตตะปือในภาคใต้ของ

[Wisarut]

สร้างทางรถไฟที่ ขาดงบขาดความรู้
โดยมณีจันทร์
สถานีวิทยุเอเซียเสรี
29 ตุลาคม 2012

การดำเนินโครงการสร้างรถไฟความไวสูงของรัฐบาลลาวแต่เพียงผู้เดียวจะเกิดปัญหาหลายอย่างสำหรับ สปป. ลาว

ตามคำเว้าของท่านอดิศร เสริมแย้ม นักค้นคว้าชาวไทยประจำสถาบันเอเซียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในบางกอก ได้กล่าวต่อ RFA ว่า โครงการรถไฟความไวสูงที่รัฐบาลลาวเห็นว่าจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของลาวจะให้เริ่มก้าวหน้าโดยจะช่วยดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในลาวหลายขึ้น การตัดสินใจสร้างทางรถไฟความไวสูงของรัฐบาลลาวแต่เพียงผู้เดียว บ่มีจีนร่วมหุ่น 70% ตามที่ตกลงกันนั้นเป็นบุริมสิทธิ์ของรัฐบาลลาวให้การบริหารรถไฟเป็นเอกเทศ โดยจะกู้ยืมเงิน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัญหาหนึ่งคือรัฐบาลไทยจะสร้างทางรถไฟความไวสูงมาโคราชก่อน
อีกปัญหาหนึ่งคือรัฐบาลลาวบ่มีบทเรียน มีประสบการณ์เรื่องธุรกิจทางรถไฟจะทำให้ให้ดีขึ้นได้ก็ต้องพึ่งมืออาชีพ มาบริหารซึ่งก็อาจเป็นบริษัทจากจีนอีกก็เป็นไปได้

//----------------------------------------------------

ทางรถไฟและหนี้ 7 พันล้านดอลลาร์
โดยสมเน
สถานีวิทยุเอเซียเสรี
26 ตุลาคม 2012

ชาวนครหลวงเวียงจันท์เห็นดีตามรัฐบาลที่ตัดสินใจดำเนินโครงการสร้างทางรถไฟความไวสูงแต่พร้อมเดียวกัน (ขณะเดียวกัน)ก็มีความเป็นห่วงว่า ลูกหลานที่เกิดใหม่ใหญ่ลุนจะต้องแบกหามหนี้สินอันมหาศาลที่รัฐบาลลาวกู้ยืมมาจากจีน 7 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

//-------------------------------------------------------------------
ทางรถไฟเงินกู้มีแต่จะเสีย
โดยสิดนี
สถานีวิทยุเอเซียเสรี
25 ตุลาคม 2012

ถึงแม้ว่ากองประชุมสภาแห่งชาติ สปป. ลาวสมัยวิสามัญจะตกลงรับรองโครงการรถไฟความไวสูงในวันที่ 18 ตุลาคม 2012 ด้วยคะแนนสูงท่วมท้นแต่ก็ยังมีเสียงคัดค้านจากสมาชิกสภา 9 ท่าน ย่อมเห็นว่า โครงการรถไฟความไวสูงลาวจีนจะเฮ็ดให้ลาวเสียเปรียบด้วยเหตุผลที่ว่า

1- นอกจากจีนจะยกเลิกการลงทุนร่วมแล้ว จีนยังจะเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของสปป. ลาว ซึ่งจะกดดันให้ลาวปฏิบัติตามเงื่อนไขที่จีนต้องการ จีนจะได้ทางรถไฟขนสินค้าของจีนโดยบ่ต้องลงทุน ซ้ำยังจะได้ดอกเบี้ยจากเงินกู้ตามอีก ส่วนสปป. ลาว ก็ต้องการเก็บภาษี จากการส่งสินค้าจากจีนผ่านลาว เพราะ จีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในของเขต หากปราศจากการเก็บภาษี ผ่านทางรถไฟสายนี้แล้ส สปป. ลาวก็จะขาดรายได้ไปอีก

2- รัฐบาลลาวต้องได้ค้ำประกันหนี้ เงินกู้จากจีน 100% ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอยู่ในดินลาว ในอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปีในระยะเวลา 30 ปีแม้จะมีระยะเวลาปลอดการชำระหนี้ 10 ปี แรกของการกู้เงิน แต่ยังจะคิดไล่ตั้งปีเริ่มต้นของการกู้ยืม ให้เป็นเงินต้นตามอีก

3- การค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าต้องได้มาจากบ่อแร่ 2แห่งที่จีนลงทุน ซึ่งก็หมายถึงบ่อทองคำและทองแดงที่เซโปน เมืองวีระบุรี แขวงสวรรณเขต และ บ่อบ็อกไซท์ แขวงจำปาศักดิ์ ซึ่งเป็นบ่อแร่บ็อกไซท์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย
ถ้าหากรัฐบาลลาวยอมรับเอาเงื่อนไขของจีน ก็หมายความว่า รถไฟความไวสูงในลาวจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจีน โดยจีนบ่ต้องลงทุนด้วยตัวเองถึงแม้ว่าทางการลาวจะให้การยืนยันว่าโครงการรถไฟความไวสูงจะสร้างประโยชน์ให้แก่ สปป. ลาวในระยะยาวก็ตาม

//-------------------------------------------------------------------
ทางรถไฟบ่คุ้มค้าสำหรับ สปป. ลาว
โดยสิดนี
สถานีวิทยุเอเซียเสรี
22 ตุลาคม 2012

เนื่องจากลาวบ่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ เมื่อเทียบกะลาวและไทย ทำให้สินค้าที่จะลงในขบวนรถไฟจะเป็น ของจากจีนกะอาเซียนเป็นหลัก และ การท่องเที่ยวและขนส่งก็สามารถใช้ทางอื่นได้สะดวก ... นอกจากนี้การสร้างทางรถไฟสายนี้มีการโยกย้ายครอบครัวนับพันโดยไม่จ่ายค่าชดเชยในระดับที่สมเหตุผล และ ไม่ได้แจ้งว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหน

ดังนั้น ทางรถไฟสายนี้ บ่คุ้มค้าสำหรับ สปป. ลาว แม้ว่าคนลาวแถวหลวงน้ำทางจะดีใจ ก็ตามที

แต่กระนั้นก็จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการรถไฟความไวสูงในระหว่างการประชุมอาเซียนที่นครหลวงเวียงจันท์ ในวันที่ 5-6 พฤศจิกายนศกนี้

[Mongwin]

ดูแล้วไม่คุ้มจริง ๆ ครับ ว่าแต่พอมีโครงการเงินกู้จีนเข้ามา
ไม่รู้ว่า สปป.ลาว ลืมโครงการทางรถไฟธรรมดาสายท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ของ NEDA หรือเปล่านะครับ