View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44620
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/07/2014 9:08 pm Post subject: |
|
|
เวียงจันทน์-ปากเซ มีทางหลวง 13 (ใต้) ลาดยางดีอยู่แล้ว ยากที่จะลงทุนสร้างทางรถไฟอีกครับ
ทำนองเดียวกับหนองคาย-อุบลราชธานี ก็มีทางหลวง 212 เช่นกัน |
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 22/07/2014 9:58 am Post subject: |
|
|
เรื่องที่กล่าวถึงเนี่ย ผมเคยเข้าร่วมสัมมนาและร่วมลงพื้นที่สำรวจความต้องการ / ความเป็นไปได้ของโครงการหลายโครงการที่พาดผ่าน สปป.ลาว มีข้อคิดเห็นจากที่ประชุมสัมมนาและรายงานสำรวจความเป็นไปได้ของโครงการไปในแนวทางคล้ายๆกัน กล่าวคือ
*** เหตุผลหลักที่จะทำทางรถไฟในพื้นที่ของ สปป.ลาว นั้น เพื่อเชื่อมการขนส่งระหว่างประเทศเป็นหลัก แต่ก็จะได้การขนส่งทั้งคนและสินค้าสำหรับในประเทศเป็นผลพลอยได้ ... ซึ่งส่วนใหญ่ (จริงๆแล้วก็ทุกโครงการนั่นแหละ) ก็จะมี "เจ้าภาพ" จากต่างประเทศที่ประสงค์จะเชื่อมเครือข่ายการขนส่งเป็นผู้ลงทุน และแน่นอน เมื่อเขาลงทุน-เขาก็ต้องสร้างงานสร้างเงิน ฯลฯ ให้คุ้มกับการลงทุนอยู่แล้วแหละ
*** จากประเด็นหลักข้างต้น "เจ้าภาพ" ก็มักจะกำหนดเงื่อนไขต่างๆนาๆ เพื่อให้คุ้มค่าแก่การลงทุน ซึ่งชาวบ้านชาวเมืองของลาวนั้นส่วนมากไม่เห็นด้วย เพราะดูเหมือนกับว่าข้อกำหนดต่างๆนั้นเอาเปรียบกันมากมาย เป็นเหตุให้โครงการต่างๆ ล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ เพราะเรื่องเงื่อนไขที่ต่างฝ่ายต่างก็หาข้อสรุปกันไม่ได้ซักที
** กรณีนี้ ให้ดูตัวอย่างที่ "ท่านาแล้ง" ซึ่งเป็นโครงการนำร่่องเลยละ สำหรับ สปป.ลาว - ขณะที่ลานและย่านสถานีสำหรับขนถ่ายสินค้ากำลังก่อสร้างไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้กันซักทีว่า ในอนาคตหากมีการขยายทางไปถึงเวียงจันทน์แล้วจะขนกันยังไงต่อ จะใช้รถจักรของไทยขับไปส่งถึงที่ในรูปแบบไหน จะเช่าแล้วมีเจ้าหน้าที่ฝั่งโน้นขับ, เช่าทั้งรถทั้งคนขับ, ซื้อรถจักรมาลากจูงต่อไปเอง ฯลฯ ยังถกกันไม่เสร็จครับ - เขาเคยส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาศึกษาดูงานกรณีรถจักรมาเลเซียลากตู้สินค้ามาเลเซียมาถึงบางซื่อหลายครั้งแล้วนะ แต่ก็ยังวางแผนกันไม่เสร็จซักที
อ.เอก : Quote: | เวียงจันทน์-ปากเซ มีทางหลวง 13 (ใต้) ลาดยางดีอยู่แล้ว ยากที่จะลงทุนสร้างทางรถไฟอีกครับ
ทำนองเดียวกับหนองคาย-อุบลราชธานี ก็มีทางหลวง 212 เช่นกัน |
ใน สปป.ลาว นั้น ปริมาณการขนส่งสินค้าภายในประเทศจากภาคเหนือไปยังภาคใต้ ยังมีปริมาณไม่มากพอที่จะขนส่งโดยระบบราง อีกทั้งแต่ละแขวงยังมีวิธีการบริหารที่เป็นอิสระจากกัน ดังนั้นความคิดเห็น / ความต้องการในระบบรางก็จะมีไม่เท่ากัน .... และที่สำคัญคือ การขนส่งสินค้าในปัจจุบันส่วนมากจะเป็นการ Import / Export กับประเทศที่มีเขตแดนติดกันซะมากกว่า
อีกส่วนหนึ่งที่มีปริมาณการขนส่งหนาแน่นเพียงพอที่จะใช้ระบบราง จะเป็นการขนส่งแบบ "ข้ามแดน" กว่า 80 % ของการขนส่งโดยรวม เช่น ข้ามจากจีนมาไทย / ไทยไปจีน ผ่าน สปป.ลาว (3 แนวเส้นทางขนส่ง) .... ข้ามจากไทยไปเวียตนาม / เวียตนามมาไทย (4 แนวเส้นทางขนส่ง)
ดังนั้นผู้ประสงค์จะลงทุนระบบรางจึงมองปริมาณการขนส่งข้ามเขตแดน ซึ่งจะมีจุดคุ้มทุนที่เหมาะสมกว่าการสร้างระบบรางเพื่อใช้ในประเทศเพียงอย่างเดียว โครงการทั้งหลายที่เกิดขึ้น จึงเป็นโครงการที่มีลักษณะที่เรียกว่า Cross Country ทุกโครงการ .... ซึ่งก็แน่นอนละครับ "ชาวบ้าน" ของเขาต้องบ่นแน่ๆ ว่าไม่ได้มีประโยชน์กับบ้านเขาเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นการมองมุมใครมุมเขาละครับ
ไม่มีใครผิดหรอก ....... เพียงแต่ว่ามองกันคนละมุมเท่านั้นแหละ
Last edited by srinopkun on 22/07/2014 10:09 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 22/07/2014 10:05 am Post subject: |
|
|
หมายเหตุ : ผมไปนอนเล่นที่เมือง "ปากซัน" ซึ่งเป็นเส้นทางสาย 13 ใต้ ผ่านลงไปยังสวันเขต ไปจนถึงจำปาสัก (ปากเซ) มาหลายครั้ง พบว่ารถขนาดใหญ่ที่วิ่งผ่านไปมา จะเป็นรถโดยสารมากกว่ารถบรรทุกสินค้า หากเทียบกันก็จะเป็นขนาด 70 / 30 ทีเดียวเชียวละครับ
และรถส่วนมากจะวิ่งกลางคืน ช่วงกลางวันจะมีรถยนต์นั่ง (รถเก๋ง, รถกระบะ, รถ SUV) ซะส่วนใหญ่
แต่หลัง 21.00 น.ไปแล้วนี่รถใหญ่ๆ วิ่งกันขวักไขว่มากขึ้น ดีที่ว่าใน สปป.ลาว เขาขับกันไม่เร็ว ก็เลยไม่ค่อยจะมีอุบัติเหตุ (รถบรรทุกวิ่งกันไม่เกิน 40 - 50 กม./ชม. ครับ) |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 22/07/2014 10:24 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | เวียงจันทน์-ปากเซ มีทางหลวง 13 (ใต้) ลาดยางดีอยู่แล้ว ยากที่จะลงทุนสร้างทางรถไฟอีกครับ
ทำนองเดียวกับหนองคาย-อุบลราชธานี ก็มีทางหลวง 212 เช่นกัน |
ดูเหมือนจะเป็น ความเคยชินว่า ทางรถไฟที่จะมีมาใหม่ ต้อง ไปตามทางที่มีอยู่แต่เดิม ซึ่งขัดกับหลักการว่าทางรถไฟกะทางหลวงต้องเสริมกันไม่ใช่แข่งกัน มิน่าเล่า ถึงพวกที่ต้องการทางรถไฟจากแม่สอดไป มุกดาหารจึงอยากให้ไปตามทางหลวง 105 - ทางหลวง 12 - ทางหลวง 22 / 23 กันนักทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก ว่าผิดหลักการอย่างแรง
ส่วนกรณีการค้าระหว่างประเทศนั้น ก็น่าคิดครับ เพราะ ถ้าเป็นการขนส่งที่มีมากกว่าการขนส่งภายในประเทศเสียแล้วเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44620
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 22/07/2014 11:50 am Post subject: |
|
|
สปป ลาว เป็นประเทศเกษตรกรรมแบบยังชีพครับ ผลิตผลทางการเกษตรผลิตที่แขวงไหน ก็บริโภคอยู่ภายในแขวง ส่วนสินค้าอุปโภค-บริโภคและสินค้าอุตสาหกรรมที่ผลิตเองไม่ได้ จึงจะนำเข้าจากต่างประเทศ แต่เนื่องจากประชากรน้อย ความต้องการสินค้าเหล่านี้ก็น้อยด้วย
บ้านเราตั้งแต่สมัย ร.5 เป็นต้นมา ทางรถไฟนำความเจริญไปยังบริเวณที่การคมนาคมทางน้ำไม่สะดวกครับ จังหวัดไหนที่รถไฟไม่ผ่าน ก็สร้างถนนเชื่อมต่อสถานีรถไฟ
ทางรถไฟที่สร้างยุคหลัง 2500 เลยไม่ค่อยได้รับความนิยมจากชาวบ้านครับ เช่น กรณีของสายอุดรธานี-หนองคาย เพราะมีถนนคู่ขนานกันไปอยู่แล้ว
ว่าไปแล้ว ช่วงนี้ข่าวรถไฟลาวสายท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ เงียบไปจริง ๆ ครับ มีแต่ข่าวสายสหวันนะเขด-ลาวบาว ซึ่งไม่มีอะไรคืบหน้า อ้างว่ากู้ระเบิดอยู่ รอลงมือสร้างเดือนธันวาคม |
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 22/07/2014 2:39 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
ว่าไปแล้ว ช่วงนี้ข่าวรถไฟลาวสายท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ เงียบไปจริง ๆ ครับ มีแต่ข่าวสายสหวันนะเขด-ลาวบาว ซึ่งไม่มีอะไรคืบหน้า อ้างว่ากู้ระเบิดอยู่ รอลงมือสร้างเดือนธันวาคม |
ที่เงียบ มี 2 ประการหลักๆครับ คือ ... 1. ไม่ใช่โครงการใหญ่โตที่มีผลประโยชน์แฝง + ทับซ้อนมากมายเหมือนโครงการอื่นๆ และแหล่งข่าวก็ไม่ค่อยอยากจะให้ข่าวมากนัก เพราะผู้ใหญ่ขอๆกันไว้ เนื่องจากที่ผ่านมา โกลาหลกันแย่งซื้อที่ดินกันจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตกันไป 2 ยกแล้ว
และ 2.ไม่มีอะไรใหม่ หรือตื่นเต้น .. หมายความว่าทุกคนรู้กันหมดแล้วว่า "รอ" เงินสนับสนุนอย่างเดียวเลย .... ระหว่างนี้ทางฝั่งเขาก็ไปกำหนดแผนการเดินรถกันเล่นๆ แก้เหงา ว่างๆก็นั่งรถไฟบ้านเราเล่นกันสนุกสนาน นั่งมาลงโคราชมั่ง นั่งไปลงแก่งคอยกันมั่ง สร้างตารางเดินรถกันเล่นๆ ด้วย Excel แล้วเอามาลอง Simulated กันเล่นๆบ้าง
ซึ่งสรุปประเด็นได้ว่า ...... ก็ไม่มีอะไรใหม่ครับ รองบประมาณจาก "เจ้าภาพ" อย่างเดียวเลยครับ
แนวเขตทาง, จุดสร้างสถานี + ลานขนถ่ายสินค้า ฯลฯ พร้อมมา 2 ปีแล้ว
รอเจ้าภาพส่งงบประมาณมาให้ปุ้บ ทีมงานก่อสร้างก็เคลื่อนรถต่างๆที่ใช้ในการสร้างทาง + เครื่องมือ + วัสดุก่อสร้างไปกองไว้ที่ไซต์งาน (ท่านาแล้ง) โลด
4-5 คน เล่าอย่างขำๆว่า .... "เฮ้อ ... รอจนพาสปอร์ตหมดอายุแล้วนะ (5 ปี) ไม่ได้ลงไซต์งานซะที" .... ฮ่า ๆ ๆ
(บังเอิญว่า วงที่ตั้งกันเฮฮาหลังเลิกงานนั้น มีผมหลงๆไปนั่งกับเค้าด้วย)
ค่าใช้ดิน (บ้านเราเรียกว่า "เวนคืน") งวดที่ 2 - 4 ยังไม่จ่าย จนกว่าเจ้าภาพจะเริ่มส่งเงินสนับสนุนมาให้สักระยะเวลาหนึ่งก่อน ถึงจะเริ่มจ่ายค่าใช้ดิน
แฮ่ ๆ "เจ้าภาพ" เองนั้น ... "เบอร์ 1" ของหน่วยงานยังไม่เรียบร้อยเด้ออ้ายเด้อ
เรื่องงบประมาณ เอาไว้ก่อนเด้อ .....
หมายเหตุ .... "รถงาน" (บรรดารถบำรุงทางทั้งหลาย)นั้น .....บางคันวิ่งไม่ออกแล้วจ้า (จอดรองาน นานเกิน)
จบข่าว
|
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 22/07/2014 2:50 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | Mongwin wrote: | เวียงจันทน์-ปากเซ มีทางหลวง 13 (ใต้) ลาดยางดีอยู่แล้ว ยากที่จะลงทุนสร้างทางรถไฟอีกครับ
ทำนองเดียวกับหนองคาย-อุบลราชธานี ก็มีทางหลวง 212 เช่นกัน |
ดูเหมือนจะเป็น ความเคยชินว่า ทางรถไฟที่จะมีมาใหม่ ต้อง ไปตามทางที่มีอยู่แต่เดิม ซึ่งขัดกับหลักการว่าทางรถไฟกะทางหลวงต้องเสริมกันไม่ใช่แข่งกัน มิน่าเล่า ถึงพวกที่ต้องการทางรถไฟจากแม่สอดไป มุกดาหารจึงอยากให้ไปตามทางหลวง 105 - ทางหลวง 12 - ทางหลวง 22 / 23 กันนักทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก ว่าผิดหลักการอย่างแรง
ส่วนกรณีการค้าระหว่างประเทศนั้น ก็น่าคิดครับ เพราะ ถ้าเป็นการขนส่งที่มีมากกว่าการขนส่งภายในประเทศเสียแล้วเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก |
เฮียหมี (วิซซี่) ....
อ.เอก ไม่ได้หมายความว่า จะไปสร้างทางรถไฟขนานไปกับ"ทางระหว่างแขวง" (บ้านเค้าไม่เรียกทางหลวง) .... อ.เอก คงหมายถึงการเปรียบเทียบเส้นทาง / ถนนหนทาง ..... ซึ่งเป็นเสมือน "คู่แข่ง" ของการขนส่งระบบรางตะหากล่ะ
คาดว่า อ.เอก คงแสดงความคิดเห็นประมาณว่า หากจะสร้างทางรถไฟไปตามเมือง/แขวงต่างๆ ที่ทางรถยนต์ผ่าน ก็อาจจะ"เรียกลูกค้า" สู้ทางรถยนต์ไม่ได้
ทางรถไฟยุคหลังๆนี่ จะตัดตรงดิ่งจากเมืองสู่เมืองไปเลย ไม่สนใจจะเกาะติดกับถนนหรอก-เพราะถนนโค้งไปโค้งมา รถไฟทำได้ยากกับการโค้งไปโค้งมา อีกทั้งการสร้างสะพาน/อุโมงค์ เดี๋ยวนี้มีเครื่องจักรทันสมัย ใช้เวลาและต้นทุนต่ำกว่าสมัยก่อนมากมาย
แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปน่ะแหละ (ข้อมูลเพียบ ทั้งงานสำรวจ ทั้งงานวิจัย ฯลฯ) .... ภาพรวมคือ ROI (Return of Investment) นั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน สำหรับการสร้างทางจากทางเหนือมาทางใต้ เขาก็เลยไม่คิดจะทำกัน .... แต่หากในอนาคต เมื่อทางสาย Cross Country สำเร็จและสร้างเงินให้กับทางเขาให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว ไม่แน่ อาจจะได้เห็นทางสายใหม่จากเหนือล่องใต้ของสปป.ลาวก็ได้นะเออ |
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 22/07/2014 2:55 pm Post subject: |
|
|
ส่วน Traffic สำหรับการเดินทางระหว่างแขวง (เมือง) ของเขานั้น ก็ยังไม่มากนัก
คิดดูสิครับ เอาแค่การเดินทางระหว่าง กทม.- อุดรธานี ในบ้านเราเนี่ยนะ ปริมาณการบริการโดยสารนั้น พอๆกับบริการโดยสาร(ที่เป็น"ประจำทาง" นะครับ ไปกันเองหรือเช่าเฉพาะกิจไม่นับ) ของบ้านเขาที่ออกจากเวียงจันทน์ไปในทุกสายทางเชียวนะเออ |
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 23/07/2014 8:40 am Post subject: |
|
|
"ทางโน้น" กระซิบมาว่า ....
*** เฟสแรก ... สร้างลานขนถ่ายสินค้า @ ท่านาแล้ง แล้วขนสินค้า (ตู้คอนเทนเนอร์) มากองไว้ที่นี่ เมื่อผ่านกรรมวิธีทางศุลกากร + ฯลฯ แล้ว ก็ให้ขนถ่ายไปยังภูมิภาคต่างๆ โดยใช้เส้นทาง ถ.450 ปี เป็นเส้นทางหลักเพื่อส่งสินค้าไปเหนือ / ใต้ โดยไม่ต้องเข้าเวียงจันทน์
** การขนส่งขึ้นไปทางเหนือ ก็ใช้ ถ.450 ปี ไปจนถึงแยกดงโดก ตรงผ่านหน้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติไปบรรจบกับ ถ.สาย 13 (เหนือ) ที่แยกสีเกต เลี้ยวขวาขึ้นเหนือ (ไม่เข้าเวียงจันทน์) / การขนส่งไปทางใต้ ก็ใช้ ถ.450 ปี ไปจนถึงแยกดงโดก เลี้ยวขวาไปจนถึงแยกดอนนูน แล้วเลี้ยวขวาวิ่งผ่านหน้าสนามกีฬาแห่งชาติ บน ถ.สาย 13 (ใต้) ลงไปทางใต้ต่อไป
** สำหรับเส้นทางรถไฟจากท่านาแล้งถึงเวียงจันทน์นั้น วัตถุประสงค์หลักคือการบริการขนส่งผู้โดยสาร, นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ, สินค้าที่ไม่ใหญ่โตนัก ... เข้ามาสู่เวียงจันทน์โดยตรง ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกต่อเนื่องกับการรถไฟของไทย
(ผมเข้าใจว่า คงจะประสานกับ รฟท. ในการให้ขบวนรถของไทยวิ่งเข้ามาถึงสถานีเวียงจันทน์ - ผู้เขียน)
*** เฟสที่สอง - หากการขนส่งทางราง มีความชัดเจนและมีปริมาณมากขึ้น ก็จะดำเนินการสร้างทางรถไฟต่อจากสถานีเวียงจันทน์ เพื่อขึ้นไปทางเหนือหรือลงมาทางใต้ หรือทั้งสองทาง ทั้งนี้ให้ศึกษาปริมาณการขนส่งทั้งสินค้าและผู้โดยสาร ให้มีการศึกษาทั้งความเป็นไปได้แต่ละสายทางและความคุ้มค่าในการลงทุนว่าควรจะเริ่มเมื่อไหร่จึงจะเหมาะสม
-------------------------------------------------------------------
อืม ..... ผมว่าเค้าก็วางแผนได้ดีนะครับเนี่ย
ค่อยๆทำ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ต้องหวือหวาลงทุนทีเดียวโครมๆ แล้วก็ทิ้ง"ซาก" ไว้รอการพัฒนาต่อ ... หรือไม่ก็รอการทุบทิ้ง
(เอ๊ ... คล้ายๆที่ไหนนะนั่น - 55)
--------------------------------------------------------------------
แนบท้าย :
ถ.จากแยกดงโดก ผ่านหน้า ม.แห่งชาติ ถึงแยกตาลมีไชย ระยะทางประมาณ 3 กม. ... มีกำหนดปรับปรุงขยายถนนแล้ว (ป้ายโครงการไว้จะแวะถ่ายรูปมาให้ครับ เห็นแว๊บๆอยู่เหมือนกัน) และก็จะขยายถนนจากตาลมีไชยไปถึงแยกสีเกตในลำดับถัดไป
ตอนนี้ ถ.หน้าม.แห่งชาติ เละเทะมากครับ หน้าฝนนี่ไม่อยากขี่รถจักรผ่านเลยแหละ ยังดีที่ถนนเค้าโค้งนูนกลางถนน น้ำจึงไม่ขังบนผิวจราจร ก็จะมีเพียงแค่น้ำขังอยู่ในหลุมเล็กๆ ซึ่งเราเห็นและหลบเลี่ยงได้ แต่ต้องระวังรถที่แซงขึ้นไป เพราะพี่แกไม่หลบน่ะนะ วิ่งแซงเราไปที่ก็ทั้งเละทั้งเลอะเลยแหละครับ
หน้า ม. นี่น่าจะ พ.ศ.2559 คงแล้วเสร็จ (มั้ง)
ถ. 450 ปี นั้นกว้างขวางมากครับ ถนน คสล.มีช่องทางข้างละ 3 ช่องจราจรแน่ะ
Last edited by srinopkun on 23/07/2014 11:08 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|