View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/01/2022 11:19 am Post subject:
ส่องแผนเชื่อมเศรษฐกิจไทยกับรถไฟลาว-จีน แต่ละกระทวงทำงานคืบหน้าแค่ไหน
กรุงเทพธุรกิจ 22 ม.ค. 2565 เวลา 8:04 น.
โครงการรถไฟไฟจีน ลาวที่เชื่อมโยงจากตอนใต้ของจีนมาถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว ที่เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.2564 โดยเริ่มมีการขนส่งสินค้าระหว่างกัน 1 ซึ่งต้องมีการเริ่มวางแผนเชื่อมโยงเส้นทางเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
การเริ่มขนส่งคน และสินค้าผ่านรถไฟจีน - ลาว ก็เริ่มมีโอกาสทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย รัฐบาลจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน มีมูลค่านำเข้าส่งออกที่ด่านหนองคายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากมีรถไฟลาว - จีนเกิดขึ้น ปัจจุบันมีการเพิ่มรถไฟเป็นจาก 4 ขบวนต่อวันเป็น 14 ขบวนต่อวัน และจากการขนส่งขบวนละ 12 แคร่ เป็น 25 แคร่ ซึ่งจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่า แต่ยังมีปริมาณการขนส่งทางรถไฟไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ครม.เห็นชอบแผนการดำเนินการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน เช่น แผนการก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา โครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย และโครงการรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น - หนองคาย
การบริหารจัดการใช้ทางรถไฟและการใช้สะพาน ได้แก่ การบริหารจัดการสะพานเดิม ระหว่างรอการก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ และการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่
การพัฒนาย่านขนถ่ายสินค้า โดยพื้นที่ด่านศุลกากรหนองคายคาดว่ามีความสามารถในการรองรับรถบรรทุกสูงสุด 650 คันต่อวัน ทั้งนี้ แนวทางพัฒนาย่านขนถ่ายสินค้าของฝั่งไทย - ลาว เพื่อเชื่อมต่ออย่างไร้รองต่อในการขนส่งสินค้าข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์ แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน : การพัฒนาย่านสถานีหนองคายเป็นพื้นที่เปลี่ยนถ่ายสินค้า และระยะยาว : การพัฒนาพื้นที่นาทาเพื่อเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าและย่านกองเก็บตู้สินค้า (เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าในอนาคต)
นอกจากนี้ในส่วนการกำกับติดตามเพื่อขับเคลื่อนดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้
1.กระทรวงคมนาคม
ได้แก่ กรมทางหลวงที่อยู่ระหว่างดำเนินการพื้นที่สำหรับการตรวจปล่อยสินค้าขาออกบริเวณหนองสองห้อง โดยระยะเร่งด่วนจะดำเนินการปี 2565 วงเงินงบประมาณ 10 ล้านบาท และขอรับงบประมาณในปี 2566 จากพื้นที่ที่ดินสงวนฯ เดิม 87 ไร่ เหลือพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ประมาณ 80 ไร่ วงเงินงบประมาณ 280 ล้านบาท รองรับรถบรรทุกได้ประมาณ 201 คัน พร้อมห้องน้ำ และจุดพักคอย รถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปได้ 82 คัน ที่จอดรถสำหรับคนพิการ 6 คัน
2.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ การยางแห่งประเทศไทย ซึ่งได้มีแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการระยะสั้น โดยการครอบคลุมเรื่องการลงนามพิธีสารฯ ระหว่างไทย - จีน และการอบรมพัฒนาบุคลากร เตรียมความพร้อมในพื้นที่ด่าน ระยะกลาง
โดยการครอบคลุมการเตรียมความพร้อมที่ด่านและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในการกักกันและตรวจปล่อยสินค้าเกษตรขาเข้า - ออก รวมถึงแผนการเพิ่มบุคลากรประจำด่าน และการพัฒนาระบบเชื่อมโยงด้าน IT และการออกใบรับรองสุขอนามัยอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และในระยะยาวอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ
3.กระทรวงการคลัง
กรมศุลกากร ดำเนินโครงการระบบตรวจสอบ Mobile X-Ray ภายในวงเงินไม่เกิน 130 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ ครั้งที่ 1/2564 มีมติให้ กรมศุลกากรจัดเตรียมความพร้อมในด้านกระบวนการและพิธีศุลกากร ซึ่งด่านศุลกากรหนองคายขอรับการสนับสนุนระบบตรวจสอบตู้สินค้าด้วยเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ได้จำนวน 1 คัน รุ่น MT1213DE โดยสามารถใช้ได้ทั้ง Standard Mode ที่มีขีดความสามารถ 20-25 คัน/ตู้ ต่อชั่วโมง และ Drive-through Mode มีขีดความสามารถที่ 150 คัน/ตู้ ต่อชั่วโมง
4.กระทรวงการต่างประเทศ
ได้มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการในฝั่งลาวเพื่อแลกเปลี่ยนและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ใช้ประกอบการวางยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมการส่งออกของไทย และอำนวยความสะดวกให้ฝ่ายไทย สามารถใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงในภูมิภาคได้เต็มประสิทธิภาพ
และหยิบยกในการหารือระดับสูงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของลาวและจีน เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลักดันการเชื่อมต่อรถไฟลาว - จีน กับระบบรางของไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกอบการ และส่งเสริมการส่งออกของไทยผ่านทางรถไฟต่อไป
5.กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างดำเนินการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี โดยมีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมาตรฐาน และศูนย์กระจายสินค้าทางรางเพื่อรองรับรถไฟจากลาวและจีน ซึ่งประเภทอุตสาหกรรมเป้าหมายประกอบด้วย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ยาง อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง และศูนย์กระจายสินค้า เป็นต้น
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/01/2022 6:28 pm Post subject:
ดีเดย์ 26 ม.ค.เปิดเดินรถไฟสายจีน-ลาวเที่ยวปฐมฤกษ์ ส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีน
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 22 ม.ค. 2565 เวลา 14:46 น.
อลงกรณ์หารือทูตลาวขยายความร่วมมือขนส่งผลไม้รถไฟสายจีน-ลาวพร้อมประชุมสมาคมผลไม้ภาคตะวันออกเร่งเครื่องรับมือผลไม้ฤดูกาลผลิตปี2565
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบเปิดเผยวันนี้(22ม.ค.)ว่า ในวันที่26 มกราคมนี้ ขบวนรถขนส่งสินค้าจากสถานีเวียงจันทน์ใต้จะออกเดินบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวเข้าจีนที่ด่านรถไฟโมฮ่านในตอนใต้ของมณฑลยูนนานสู่มหานครฉงชิ่งในภาคตะวันตกของจีนโดยใช้เวลาประมาณ3-4วันเร็วกว่าการขนส่งทางเรือถึง4เท่าตัว นับเป็นขบวนรถสินค้าปฐมฤกษ์ที่ขนส่งสินค้าเกษตรของไทยไปยังประเทศจีนผ่านสปป.ลาวเป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่3ธันวาคมที่ผ่านมาโดยสินค้าเกษตรล็อตแรกเป็นข้าวเหนียวหัก20ตู้น้ำหนัก500ตันจากบริษัทกล้าทิพย์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานจากหน่วยงานต่างประเทศคลาดเคลื่อนว่า ได้มีการขนส่งไปฉงชิ่งแล้วเมื่อวันที่20มกราคม แต่เมื่อตนตรวจสอบย้อนกลับในวันเดียวกันทราบว่าข้าวล็อตดังกล่าวได้ส่งออกจากประเทศไทยผ่านด่านหนองคายไปฝั่งสปป.ลาวที่ท่าบกท่านาแล้งแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งไปถึงมหานครฉงชิ่งเพราะต้องรอเคลียร์พิธีการทางศุลกากรและไฟเขียวจากกระทรวงกสิกรรมที่นครเวียงจันทน์จึงได้ประสานกับนายด่านตรวจพืชหนองคาย ผู้ส่งออก บริษัทชิ้ปปิ้งและบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของไทยและจีนจนทราบปัญหาจึงติดต่อให้คุณจันทร สิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเวียงจันทน์โลจิสติกส์ปาร์คและท่าบกท่านาแล้งช่วยสนับสนุนจนเรียบร้อยและได้รับแจ้งว่าจะเคลื่อนย้ายตู้สินค้าไปสถานีเวียงจันทน์ใต้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก่อนจะยกขึ้นแคร่รถไฟเพื่อพร้อมในการเดินทางในวันพุธที่26มกราคมนี้ในเย็นวันนี้ผมจะหารือกับท่านเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทย-ลาวเรื่องการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปจีนบนเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวเพื่อความพร้อมสำหรับการขนส่งสินค้าเกษตรอื่นๆโดยเฉพาะผลไม้ที่ใกล้จะถึงฤดูกาลผลิตปี2565เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ จะมีการประชุมทางไกลกับสมาคมผลไม้และสมาคมล้งกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในภาคตะวันออกในบ่ายวันนี้(22ม.ค.)อีกด้วย นายอลงกรณ์ยังกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีเกษตรฯ. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ประสานกับทางการลาวและเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาด่านส่งออกติดขัดจากปัญหาโควิด19อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนับแต่เกิดปัญหาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และปลายเดือนนี้จะมีการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรไทย-จีนโดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 23/01/2022 1:31 pm Post subject:
ประยุทธ์ ตั้งทีมบูรณาการเชื่อมโยงรถไฟไทย-ลาว-จีน ไร้รอยต่อ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 23 มกราคม 2565 - 13:16 น.
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานไทย เชื่อมการขนส่งสินค้าและการเดินทาง ไทย-ลาว-จีน ไร้รอยต่อ พร้อมตั้งทีม (Team Thailand) บริหารจัดการ
วันนี้ 23 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าเชื่อมต่อรถไฟไทย ลาว และจีน อย่างไร้รอยต่อ ทั้งการเดินทางและขนส่งสินค้า ในระหว่างการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาโครงข่าย
มั่นใจโครงสร้างพื้นฐานของไทยมีความพร้อมรองรับปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่งข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมต่อการขนส่งสินค้าไทย ลาว และจีน
โดยนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธาน ในลักษณะทีมประเทศไทย (Team Thailand) เพื่อบริหารจัดการสมดุลระหว่างปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่งกับความสามารถรองรับของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ระหว่าง demand และ supply เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
โดยหน่วยงานฝั่ง demand คือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ขณะที่ฝั่ง supply ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อร่วมวางแผนกำหนดนโยบายการเชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน พร้อมจัดทำแผนการขนส่งสินค้า เพื่อกำกับ ติดตามเร่งขับเคลื่อนการเชื่อมโยงทางรถไฟ พร้อมขับเคลื่อนสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา มีมติ ดังนี้
1) รับทราบสถานะการค้าการขนส่งชายแดนจังหวัดหนองคายหลังจากรถไฟลาว- จีน เปิดให้บริการปัจจุบันมีการเพิ่มรถไฟจาก 4 ขบวนต่อวันเป็น 14 ขบวนต่อวันและจากการขนส่งขบวนละ 12 แคร่ เป็น 25 แคร่ มีศักยภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่า แต่ยังมีปริมาณการขนส่งทางรถไฟไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรค Covid -19
2) รับทราบผลการประชุม 3 ฝ่ายระหว่างไทย ลาวและจีน (วันที่ 19 พ.ย. 64) เห็นชอบการลงทุนร่วมกันในสะพานแห่งใหม่ระหว่างไทยและลาวในอาณาเขตของตนเอง รวมถึงการจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาร่วมกันต่อไป
3) เห็นชอบแผนการดำเนินงานการเชื่อมโยง เช่น 1. โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ นครราชสีมาและหนองคาย 2. โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น หนองคาย 3. การพัฒนาสถานีหนองคาย โดยจะติดตั้ง MOBILE X-RAY สำหรับตรวจปล่อยสินค้าทางรถไฟในระยะเร่งด่วน ย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศที่สถานีนาทาที่จะเสนอให้เอกชนร่วมทุนภายในปี 65 นี้
โดย รฟท. จะของบกลางเพื่อเร่งรัดการออกแบบรายละเอียดของสะพานมิตรภาพแห่งใหม่และก่อสร้างที่เกิดการเชื่อมโยงต่อไป
4) เห็นชอบหลักการการจัดทำ Framework Agreement การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย ลาวและจีน
5) มอบหมาย Team Thailand ลงพื้นที่เพื่อสำรวจรวบรวมข้อมูลโครงการรถไฟความเร็วสูง ลาว -จีน เพื่อศึกษาศักยภาพพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ในแต่ละสถานี และสร้างการรับรู้ให้แก่ภาคเอกชนและภาคประชาชนต่อไป
นายธนกร ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบรางของไทยในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค และประเทศไทยกับระหว่างประเทศ เพื่อทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของอาเซียน และประชาชนได้ประโยชน์ทั้งการเดินทางและเศรษฐกิจ ตามวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
Posted: 23/01/2022 6:26 pm Post subject:
ดีเดย์!26 ม.ค.ไทยเตรียมเปิดเดินรถไฟสายจีน-ลาวเที่ยวปฐมฤกษ์ ส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน
วันเสาร์ ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.04 น.
ไทยเตรียมพร้อมดีเดย์เปิดขนส่งสินค้าเกษตร โดยรถไฟสายจีน-ลาวเที่ยวปฐมฤกษ์ 26 ม.ค.65 นี้ ขณะที่ อลงกรณ์ นำทีมหารือทูตลาวขยายความร่วมมือขนส่งผลไม้รถไฟสายจีน-ลาว พร้อมประชุมสมาคมผลไม้ภาคตะวันออกเร่งเครื่องรับมือผลไม้ฤดูกาลผลิตปี 2565
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ เปิดเผยวันว่า ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ขบวนรถขนส่งสินค้าจากสถานีเวียงจันทน์ใต้จะออกเดินบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาว เข้าจีนที่ด่านรถไฟโมฮ่านในตอนใต้ของมณฑลยูนนาน สู่มหานครฉงชิ่งในภาคตะวันตกของจีน โดยใช้เวลาประมาณ 3 - 4 วัน เร็วกว่าการขนส่งทางเรือถึง 4 เท่าตัว นับเป็นขบวนรถสินค้าปฐมฤกษ์ที่ขนส่งสินค้าเกษตรของไทยไปยังประเทศจีนผ่าน สปป.ลาวเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เปิดเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยสินค้าเกษตรล็อตแรกเป็นข้าวเหนียวหัก 20 ตู้น้ำหนัก 500 ตัน จากบริษัทกล้าทิพย์ที่จังหวัดหนองบัวลำพู
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานจากหน่วยงานต่างประเทศคลาดเคลื่อนว่า ได้มีการขนส่งไปฉงชิ่งแล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคม แต่เมื่อตนตรวจสอบย้อนกลับในวันเดียวกันทราบว่า ข้าวล็อตดังกล่าวได้ส่งออกจากประเทศไทยผ่านด่านหนองคายไปฝั่ง สปป.ลาวที่ท่าบก ท่านาแล้งแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งไปถึงมหานครฉงชิ่ง เพราะต้องรอเคลียร์พิธีการทางศุลกากรและไฟเขียวจากกระทรวงกสิกรรมที่นครเวียงจันทน์ จึงได้ประสานกับนายด่านตรวจพืชหนองคาย ผู้ส่งออก บริษัทชิ้ปปิ้งและบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของไทยและจีน จนทราบปัญหาจึงติดต่อให้นายจันทร สิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเวียงจันทน์โลจิสติกส์ปาร์ค และท่าบกท่านาแล้งช่วยสนับสนุนจนเสร็จสิ้นเรียบร้อย และได้รับแจ้งว่าจะเคลื่อนย้ายตู้สินค้าไปสถานีเวียงจันทน์ใต้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ก่อนจะยกขึ้นแคร่รถไฟเพื่อพร้อมในการเดินทางในวันพุธที่ 26 มกราคมนี้ด้วย
ในวันนี้ผมจะหารือกับท่านเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทย-ลาว เรื่องการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปจีนบนเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว เพื่อความพร้อมสำหรับการขนส่งสินค้าเกษตรอื่นๆ โดยเฉพาะผลไม้ที่ใกล้จะถึงฤดูกาลผลิตปี 2565 เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้นอกจากนี้ จะมีการประชุมทางไกลกับสมาคมผลไม้และสมาคมล้งกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในภาคตะวันออกในบ่ายวันนี้ (22 ม.ค.) อีกด้วย นายอลงกรณ์ กล่าว
นายอลงกรณ์ บอกด้วยว่าก่อนหน้านี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานกับทางการลาวและเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาด่านส่งออกติดขัดจากปัญหาโควิด19 อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นับแต่เกิดปัญหาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยปลายเดือนนี้จะมีการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรไทย-จีน โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ.เพื่อแก้ปัญหาร่วมกันด้วย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
Posted: 23/01/2022 7:06 pm Post subject:
ขบวนรถไฟสายกรุงเทพ- เวียงจันทน์
.
ขณะนี้ทางการลาวกำลังจะสร้างสถานีรถไฟ คำสวาด ซึ่งจะต่อเชื่อมกับสถานีบ้านท่านางแล้ง ซึ่งเป็นสถานีเดียวในแผ่นดินลาวที่ต่อกับรถไฟของประเทศไทย(ที่หนองคาย)
โดยสถานี คำสวาด อยู่ห่างจากสถานีท่านางแล้ง 7.5 กม.ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ ยังไม่แน่ชัดว่าเสร็จเมื่อไหร่ แต่หลังเปิดการเดินรถเราสามารถนั่งรถจากกรุงเทพฯไปลงที่เวียงจันทน์ได้เลย
แล้วจากจุดนั้นเราก็สามารถเดินทางเพียงเล็กน้อยไปยังสถานีรถไฟลาว- จีนเพื่อเข้าสู่จีนต่อไปได้
https://www.facebook.com/cadkhao/posts/1907250242794741
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
Posted: 23/01/2022 8:36 pm Post subject:
รถไฟลาวจีนมีผลกระทบกับ SME ไทย ทั้งเชิงบวกและลบ
คอลัมน์ : แตกประเด็น
ผู้เขียน : แสงชัย ธีรกุลวาณิช
ประธานสมาพันธ์ SME ไทย
วันที่ 21 มกราคม 2565 - 07:16 น.
รถไฟฟ้าจีน-ลาว กับผลกระทบเชิงบวกและลบ เอสเอ็มอีไทย
เส้นทางรถไฟฟ้าจีน-ลาว 1,035 กิโลเมตร เชื่อมคุนหมิงกับเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางราว 10 ชั่วโมง มูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท กับอนาคตเอสเอ็มอีไทยที่ต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้รองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้
เมื่อรถไฟฟ้าจีน-ลาว เข้ามาสู่แผ่นดินไทย ซึ่งส่งผลกระทบทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ต้องร่วมกันศึกษาและบริหารจัดการยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่จะมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
ประเทศจีนซึ่งมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน และเฉพาะมณฑลยูนนานมีประชากรราว 50 ล้านคน ขณะที่เมืองเอก คือ คุนหมิง และมีอีก 7 เมือง 8 เขตปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อย และมีมูลค่าเศรษฐกิจ( GDP) 510,777 ล้านหยวน
โดยมณฑลยูนนานมีการส่งออก 17,600 ล้านหยวน นำเข้า 29,050 ล้านหยวน ซึ่งน่าจะเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยในอนาคต
ปัจจัยเชิงบวกกับเอสเอ็มอีไทย
1.เส้นทางการขนส่งกระจายสินค้า และบริการใหม่ ต้นทุนที่ต่ำลงจากทางถนนถึง 2 เท่า และระยะเวลารวดเร็วขึ้น
โดยจากคุนหมิงมาถึงจังหวัดหนองคายใช้เวลาไม่เกิน 15 ชั่วโมง จากเดิม 2 วัน ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยจะได้ประโยชน์จากต้นทุนการขนส่งที่ลดลง ทำให้ต้นทุนสินค้าต่ำลงและขนส่งได้เร็วขึ้น
2.ภาคการค้า ช่องทางการตลาดใหม่ของเอสเอ็มอีไทยตามแนวรถไฟฟ้ากว่า 45 สถานี ในพื้นที่จีน-ลาว
ที่จะเป็นฐานลูกค้าใหม่ของสินค้าและบริการจากประเทศไทย รวมถึงช่องทางการนำไปขยายตลาดในภาคอื่น ๆ ของจีนและลาว
3.ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในภาคการท่องเที่ยว และภาคการบริการ การคมนาคมเดินทาง จะเป็นโอกาสเปิดช่องทางการท่องเที่ยวมูลค่าเพิ่มใหม่ ๆ
รวมถึงการให้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพครบวงจรในประเทศไทย และลาว รวมทั้งจีน ที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
และมีโอกาสเพิ่มรายได้จากการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน ลาว และประเทศอื่น ๆ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
รวมถึงการทำธุรกิจติดต่อค้าขายกับประเทศไทยได้ง่ายดายขึ้น โดยมณฑลยูนนานมีเศรษฐกิจภาคการบริการขนาดใหญ่ มูลค่า 300,767 ล้านหยวน
4.เอสเอ็มอีไทยภาคธุรกิจเกษตรกับการเชื่อมโยงตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนผลผลิตภาคการเกษตรของมณฑลยูนนานที่มีมูลค่าถึง 49,176 ล้านหยวน
5.เอสเอ็มอีไทยที่อยู่ในภาคการผลิตกับการเป็น supply chain ที่สำคัญมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมของมลฑลยูนนาน ที่มีมูลค่าถึง 160,834 ล้านหยวน
ปัจจัยเชิงลบกับเอสเอ็มอีไทย
1.การรุกคืบของจีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง มีความเสี่ยงต่อการเข้ามามีบทบาททางการค้า การลงทุน การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้น
2.ประเทศลาว สร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษรองรับอุตสาหกรรมการผลิตและการบริการในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนจากจีนที่ลงทุนในลาวอยู่แล้วเพิ่มจำนวนมากขึ้น
รวมทั้งนักลงทุนจากประเทศต่าง ๆ ที่อาจได้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในการลงทุนที่ประเทศลาว
3.การปกป้องอาชีพคนไทย แรงงานไทย การกว้านซื้อผลผลิตการเกษตร รวมถึงปัญหากดราคาสินค้าเกษตรของไทยที่ภาครัฐต้องมีความชัดเจนในการออกกฎหมายคุ้มครอง และบังคับใช้เพื่อให้เกษตรกร และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควรจากการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งสายนี้
สิ่งที่เอสเอ็มอีไทยคาดหวังจากโอกาสรถไฟฟ้าจีน-ลาว เส้นทางนี้คือ การส่งเสริม สนับสนุนอย่างจริงจังของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ที่ต้องมีสิทธิประโยชน์ทั้งที่เป็นด้านภาษีและไม่ใช่ด้านภาษี
การจับคู่เชื่อมโยงธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสให้เอสเอ็มอีไทยให้มีความพร้อมจะเติบโตขยายการค้า การลงทุน การตลาด การสื่อสารภาษา และการยกระดับขีดความสามารถผู้ประกอบการ แรงงาน รวมทั้งจัดหาช่องทางแหล่งทุนต้นทุนต่ำที่จะเป็นแต้มต่อให้สามารถแข่งขันได้
เราต้องทำโอกาสของเอสเอ็มอีไทยให้จับต้องได้ ไม่ใช่โอกาสที่เป็นอากาศ
https://www.youtube.com/watch?v=R89J8wcINvA&t=102s
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42621
Location: NECTEC
Posted: 23/01/2022 8:40 pm Post subject:
รถไฟจีน-ลาว คึกคัก ไทยเปิดเกมส่งออกข้าว-ยางพารา-ผลไม้ ฤดูผลิตปี 2565
เศรษฐกิจในประเทศ
วันศุกร์ ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 15:59 น.
เกษตรฯเดินหน้าขับเคลื่อนประตูอีสาน อีสานเกตเวย์ เชื่อมค้าโลก เฉลิมชัย ส่ง อลงกรณ์ ลงพื้นที่หน้าด่านหนองคาย-อุดรฯ สัปดาห์หน้า ประสานผู้ประกอบการ ไทย-ลาว-จีน ร่วมมือส่งออกข้าว-ยางพารา-ผลไม้ บนเส้นทางรถไฟสายใหม่ รับมือฤดูกาลผลิตปี 2565
วันที่ 21 มกราคม 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) และประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ เปิดเผยวันนี้ (21 ม.ค.) ว่าในวันพฤหัสบดีที่ 27 ม.ค. จะเดินทางไป จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี เพื่อหารือกับผู้ประกอบการ ไทย-ลาว-จีน ด้านโลจิสติกส์
เพื่อร่วมมือกันในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ผัก ผลไม้ กล้วยไม้ สินค้าประมง และสินค้าปศุสัตว์ บนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวสำหรับฤดูกาลผลิตปี 2565 ตามข้อสั่งการของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งการติดตามความคืบหน้าของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีทางด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร และโครงการโลจิสติกส์ปาร์ค ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ไนโตรเจนฟรีสเซอร์ และระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อการส่งออก
ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสารจำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 500 ตัน โดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว โดยมีจุดหมายปลายทางที่มหานครฉงชิ่ง (Chongqing) ในภาคตะวันตกของจีนเป็น Shipment แรก ซึ่งสามารถผ่านการตรวจตราและออกใบรับรองจากด่านตรวจพืชที่หนองคายขนส่งถึงท่าบก ท่านา และผ่านการเห็นชอบของด่านศุลกากรลาวแล้ว รอขบวนรถขนส่งสินค้าเพื่อเดินทางออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้ไปมหานครฉงชิ่ง ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานคลาดเคลื่อนจากหน่วยงานว่าขนส่งไปฉงชิ่งแล้ว
ซึ่งได้ช่วยประสานงานกับทางลาวและได้รับความร่วมมืออย่างดีในการอนุมัติผ่านด่านศุลกากรและกระทรวงเกษตรของลาว เมื่อขบวนรถไฟขนส่งมาถึงก็พร้อมออกเดินทางได้ทันที ซึ่งการขนส่งระบบรางเป็นระบบใหม่จากไทยผ่านแดนลาว เพื่อขยายโอกาสทางการค้า ภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกรและภาคเอกชน
ตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ กับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทั้ง 2 ท่าน ได้ดำเนินการเจรจากับทางการจีนและลาวทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการตลอดมา
โดยเฉพาะในภาวะที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด19 ระลอกแล้วระลอกเล่า ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกฝ่ายจึงสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ และถอดบทเรียนปัญหามาสู่การขับเคลื่อนไปข้างหน้าร่วมกัน ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯกล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ภาคอีสานจะเปลี่ยนไปภายใต้ยุทธศาสตร์อีสานเกตเวย์ (ESAN Gateway) เชื่อมไทย-เชื่อมโลก อีสานไม่เพียงแต่เป็นประตูโลจิสติกส์การค้าหน้าด่าน แต่จะเป็นฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเกษตรอาหารในการผลิตเกษตรมูลค่าสูงตามโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารของ กรกอ.ทั้งกลุ่มอีสานเหนือ อีสานกลางและอีสานใต้ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและประเทศโดยรวม
Back to top