RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311239
ทั่วไป:13181797
ทั้งหมด:13493036
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เผยโฉม รถ "สายสีแดงอ่อน"
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เผยโฉม รถ "สายสีแดงอ่อน"
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 47, 48, 49 ... 77, 78, 79  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/01/2012 9:41 am    Post subject: Reply with quote

คุก...รออยู่
เดลินิวส์ วันอังคารที่ 24 มกราคม 2555

ภาพยนตร์เรื่อง “ยิ่งลักษณ์ 2” ยังไม่ทันเปิดฉายเลยครับ แต่ดูท่านางเอกของเรื่อง ที่รับบทเป็นตัว ’ชูโรง“ เผชิญกำลังมรสุม อาจต้องกลับบ้านเก่าก่อนกำหนด

ยิ่งถ้าหากมี “ปมผลประโยชน์ทับซ้อน” เข้ามาเกี่ยวด้วย เชื่อได้เลยว่าสังคมไทยรับไม่ได้ โดยเฉพาะนโยบายของซาตานทางเศรษฐกิจ ที่จะผลักดันให้ทาง การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) และ การบินไทย พ้นสภาพจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ทำให้คนไทยเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวกันเป็นแถว เพราะมันหมายถึงการเปิดช่องทางให้เอกชนเข้ามากว้านซื้อหุ้นองค์กรที่สำคัญของประเทศ

ครับ...ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ปตท. และการบินไทย เป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องจับตามองอย่างไม่กะพริบตา ยิ่งได้ “นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” อดีต รมว.คลัง มาช่วยเปิดเผย ยิ่งมีน้ำหนักที่ต้องเงี่ยหูฟัง หรือสาเหตุที่อดีต รมว. ถูกเด้งพ้น “ยิ่งลักษณ์ 1” เพราะไปรู้เห็นข้อมูลความไม่โปร่งใสบางเรื่อง

แต่เรื่องฉาวที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังกลายเป็น “ตราบาป” ให้กับประเทศไทย แต่ถูกเก็บงำไว้เป็นความลับ โดยที่ไม่มีใครแพร่งพรายให้คนไทยได้รับรู้ กับเรื่อง “องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า)” ในฐานะเจ้าของเงินกู้เพื่อสร้าง โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ–ตลิ่งชัน ได้สั่งปรับเงินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นจำนวน 40 ล้านบาท แล้ว

การปรับครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก รฟท. ไม่สามารถเบิกกู้เงินจากบริษัทไจก้ามาก่อสร้างโครงการรถไฟสายสีแดง ได้ตามเงื่อนเวลาที่ทำข้อตกลงไว้ อ่านดูแล้วมันดูตลกดีครับ แต่มันเกิดขึ้นแล้วในบ้านเรา

คงมีคำถามตามมาว่า แล้วทำไม รฟท. ถึงไม่สามารถผลักดันโครงการให้เริ่มนับหนึ่งได้ ผมจะลองลำดับเหตุการณ์ให้ได้รับทราบกัน เชื่อว่าวิญญูชนที่ติดตามเรื่องนี้ คงพอมองเห็นว่า มันมีความผิดปกติเกิดขึ้นแน่ ๆ เริ่มตั้งแต่ผู้รับผิดชอบโครงการ ไปพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทก่อสร้างที่จะเข้ามาทำโครงการ หวังต่อรองราคาเพื่อความเหมาะสม และทำให้ประเทศได้ประโยชน์มากที่สุด

แต่วันดีคืนดีผู้รับผิดชอบโครงการสั่งยกเลิกการประมูล แถมยังนำข้อตกลงที่มีการหารือไว้ก่อน ไปบอกกับบริษัทเอกชนรายใหม่ พูดง่าย ๆ ว่าสั่งล้มเพื่อประมูล เพื่อนำงานไปมอบให้กับบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณกับผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองคนหนึ่ง

อันที่จริงโครงการรถไฟสายสีแดง บริษัทไหนจะเข้าไปทำโครงการ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สำคัญที่สุดขั้นตอนการประมูล การคัดเลือกบริษัทเข้ามาทำโครงการ ต้องมีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา ยึดหลักธรรมาภิบาล ดังนั้นผมขอเรียกร้อง “นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” รมว.คมนาคม ว่าภารกิจแรก ๆ หลังเข้าไปรับตำแหน่ง คือเข้าไปตรวจสอบโครงการรถไฟสายสีแดงอย่างเร่งด่วนที่สุด หาคำตอบให้ได้มีความผิดปกติขั้นตอนไหน ใครทำให้เกิดความไม่โปรงใส

ในที่สุด ผมเชื่อว่าโครงการรถไฟสายสีแดง ขั้นตอนสุดท้ายไปพิสูจน์กันที่ศาล ดังนั้นใครที่ผิดอย่าคิดว่าลอยนวลไปได้ เมื่อเกิดปมฉาวขึ้นมา และเป็นภาระความจำเป็นที่ “นายยุทธนา ทัพเจริญ” ผู้ว่าการ รฟท. จะต้องมีส่วนชี้แจงให้สังคมเกิดความเข้าใจ

พูดถึง โครงการรถไฟสายสีแดง ครับ ทำให้ผมนึกถึง ’โครงการรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์“ ที่ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เข้าไปตรวจสอบ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” คงจำโครงการนี้ได้ดี เพราะเคยมีข่าวว่า ผู้บริหารของ รฟท. บางคนไปให้ข้อมูลกับ คตส. เพื่อหวังให้ความผิดตกกับอดีตนายกฯ ผมก็ได้แต่หวังว่า กระบวนการสอบโครงการรถไฟสายสีแดง อย่าทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ใครผิดต้องว่าไปตามผิดไป

ข้าราชการหรือเจ้าหน้ารัฐ จะปรับตัวเปลี่ยนสี เอาใจนายใหม่ เพื่อความอยู่รอด ผมยังพอรับได้ แต่ถ้าหากมีใครใช้โครงการรัฐ มาหาประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง อย่าลืมว่า “คุก...รออยู่” ครับ.

เขื่อนขันธ์
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 26/01/2012 9:57 am    Post subject: Reply with quote

สายสีแดงเสี่ยงสร้างขัดกฎหมาย
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้าอสังหา REAL ESTATE - อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 24 มกราคม 2012 เวลา 10:51 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,708 26-28 มกราคม พ.ศ. 2555

สายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันยังส่อเค้าวุ่นไม่เลิก วงในเผยสร้างเขื่อนนานเป็นปี เหตุศาลปกครองสูงสุดชี้สัญญาเป็นโมฆะ อีกทั้งมติครม.ยังไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้รับเหมาไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น แต่ร.ฟ.ท.ยังเดินหน้าว่าจ้างที่ปรึกษาบริหาร แถมยังส่อแววไม่มีหัวรถจักรวิ่งให้บริการเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ลุ้น"จารุพงศ์" ชี้ขาดส่วนช่วงบางซื่อ-รังสิต เรื่องทุบทิ้งตอม่อโฮปเวลล์ยังเป็นปัญหา เผย AIT ยืนยันใช้งานได้อีก 50 ปี ล่าสุดมีเอกชนพร้อมทุบให้ฟรีแลกกับการนำเหล็กไปขาย

แหล่งข่าวระดับสูงการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันและช่วงบางซื่อ-รังสิต ยังส่อเค้าวุ่นไม่จบโดยเตรียมนำเสนอให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ชี้ขาดในการดำเนินการต่อไป สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดชี้สัญญาเป็นโมฆะ เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งผู้รับเหมาที่เข้าแข่งขันมีเพียง 2 ราย โดย 1 รายไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น โดยไม่มีหนังสือรับรองแต่ยังพบว่าการรถไฟฯให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ก่อสร้างนานกว่า 1 ปีแล้วซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงว่าสร้างไปโดยไม่ถูกต้อง

"ล่าสุดยังพบอีกว่าการรถไฟฯเตรียมว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการรถไฟชานเมืองช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ทั้งๆที่เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จยังไม่แน่ใจว่าจะมีหัวรถจักรมาวิ่งให้บริการเนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ในการดำเนินการยังไม่ได้รับการแก้ไขและยังไม่มีความชัดเจนอีกหลายเรื่องโดยเฉพาะประเด็นการจัดซื้อหัวรถจักรและเรื่องระบบอาณัติสัญญาณที่ต้องไปใช้ร่วมกับช่วงบางซื่อ-รังสิต แต่ช่วงดังกล่าวอาจล่าช้าหรือไม่ได้ก่อสร้างเนื่องจากทับซ้อนพื้นที่โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ปัจจุบันโครงการช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันนี้ยังล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้มาก มีการประมูลล่าช้าไปถึง 2 ปีจนส่งผลต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ไจก้าเป็นค่าเบิกเงินกู้ล่าช้าไปแล้วกว่า 40 ล้านบาท"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าสำหรับความชัดเจนในโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตนั้น จนถึงขณะนี้การพิจารณาสัญญาต่างๆ ทั้งในส่วนของการรถไฟฯและไจก้ายังไม่คืบหน้าโดยเฉพาะสัญญา 3 ที่คณะกรรมการพิจารณาสัญญาในส่วนของการรถไฟฯเสนอให้จัดประมูลใหม่เนื่องจากรายละเอียดของผู้รับเหมาบางรายเกี่ยวโยงกันส่อไปในทางผิดระเบียบเงื่อนไขแต่ไจก้ายังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ
ประเด็นสำคัญยังมีการพิจารณาต่อไปอีกในเรื่องการทุบทิ้งเสาตอม่อโฮปเวลล์ที่กีดขวางการก่อสร้างซึ่งต้องใช้งบประมาณมากถึง 11,000 ล้านบาท ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาจะสร้างเสาตอม่อใหม่ ล่าสุดนั้นสถาบันเอไอทีก็ยืนยันว่าสามารถใช้งานได้อีก 50 ปี ไม่ต้องทุบทิ้งทั้งหมด มีเพียงบางต้นเท่านั้นที่จำเป็นต้องทุบทิ้งไป

"ขณะนี้ยังรับทราบว่ามีเอกชนเสนอทุบทิ้งให้ฟรีพร้อมกับมอบเงินอีกจำนวนหนึ่งให้การรถไฟฯเพื่อขอแลกกับการนำเหล็กที่ได้จากการทุบตอม่อไปขายแทน แต่ที่ยังเป็นปัญหามากกว่านั้นคือไปกีดขวางพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ที่จะเริ่มต้นจากสถานีกลางบางซื่อ โดยคาดว่าอาจต้องมีการพิจารณาทบทวนโครงการรถไฟชานเมืองในช่วงบางซื่อ-รังสิตอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเนื่องจากช่วงที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็ได้นำเสนอให้ไปก่อสร้างสถานีไฮสปีดเทรนที่เชียงราก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแทน แต่ยังต้องรอความชัดเจนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่อีกครั้ง"

ทั้งนี้รถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันผู้รับเหมาในการก่อสร้างเส้นทางนี้คือ กลุ่มกิจการร่วมค้ายูนิค-ซุนวู (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือUNIQ และ CHUNWO CONSTRUCTION & ENGINEERING CO.,LTD) ผู้รับจ้างเริ่มปฏิบัติงานตามสัญญา เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2552 โดยมีกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง วงเงินค่าก่อสร้าง 8,749 ล้านบาท มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 17.77% อัตราตอบแทนทางด้านการเงินที่ประมาณ 8% เป็นโครงการที่สืบเนื่องมาจากโครงการระบบขนส่งมวลชนและทางด่วนเชื่อมโยงฝั่งกรุงเทพมหานครและธนบุรี โดยใช้พื้นที่เขตทางรถไฟในการพัฒนาโครงการ แนวเส้นทางโครงการมีทั้งทางรถไฟระดับดินและทางรถไฟยกระดับ โดยระดับดินเริ่มต้นจากบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนสวนผัก ไปตามแนวทางรถไฟสายใต้ผ่านถนนราชพฤกษ์ ข้ามคลองบางกอกน้อยไปจนถึงซอยหมู่บ้านภาณุรังสี ระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นทางยกระดับข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ แม่น้ำเจ้าพระยา ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี ถนนประชาชื่น ข้ามคลองประปา สิ้นสุดที่จุดเชื่อมต่อกับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทางประมาณ 7.7 กิโลเมตร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 03/02/2012 1:32 am    Post subject: Reply with quote

สกู๊ป : สร้อยทิพย์...กับรถไฟฟ้าสีแดง
โดย นายสบาย
หน้าการเมือง
บ้านเมืองออนไลน์ เมื่อเวลา 10:18:00 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555

ผู้หญิงกำลังครองโลก

ใช้คำนี้ไม่ผิดแน่ เพราะเวลานี้มีผู้หญิงมากมายเหลือเกินในทั่วโลก ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทในระดับนำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในไทย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มีแต่เพิ่มความฉูดฉาดยิ่งขึ้น ทั้งในประเทศ และระดับสากล

น่ารักมาก...ก็คือเหตุการณ์ที่ นายกฯ ปู ไปร่วมชมภาพยนตร์เรื่อง The Lady หนังอัตตะประวัติชีวิตการต่อสู้ทางการเมืองของ “อองซาน ซูจี” ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยแห่งประเทศพม่า

ที่ “เผด็จ หงส์ฟ้า” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส นำมาฉายในรอบสื่อมวลชนที่โรงภาพยนตร์สยามพาวาลัย ชั้น 6 สยามพารากอน เมื่อค่ำ 31 ม.ค.2555 ให้ชื่อหนังเป็นภาษาไทยว่า

“อองซานซูจี ผู้หญิงท้าอำนาจ”

“มิเชลล์ โหย่ว” ดาราหนังชาวมาเลเซีย ที่ได้ไปเป็นดาราดังในฮอลลีวูด สหรัฐอเมริกา ซึ่งรับบทเป็นซูจี ในหนัง ได้มารอรับที่หน้าโรงหนัง และมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ปู ซึ่งเป็นฉากเหตุการณ์ที่น่ารักมากๆ

ว่ามายืดยาว ใช่ว่าวันนี้จะเขียนเรื่องหนังอองซาน ซูจีนะ เขียนมายาวก็เพื่อเดินเข้าไปสู่เรื่องราวของผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งในไทยที่มีชื่อว่า

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์

“นายสบาย” เคยเขียนเรียกร้องให้ “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” รมว.คมนาคม คนใหม่เข้าไปดูแลโครงการ รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ที่ประมูลเสร็จแล้ว และต่อรองราคาเสร็จแล้ว ได้ราคาต่ำกว่าราคากลางไปตั้งแต่ 7 ก.ย.2554 แต่ลงมือก่อสร้างไม่ได้

เพราะมี “ผู้บริหาร รฟท.คนหนึ่ง” ขวาง ด้วยการไม่ยอมรับราคาที่ต่อรองเสร็จ และดึงดันจะเรียกผู้เข้าประกวดราคารายที่ 2 มาต่อรองราคา ซึ่ง “ไจก้า” ญี่ปุ่นเจ้าของเงินให้กู้ ทนรับพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องนี้ไม่ได้ ส่งหนังสือมาทักท้วงแล้ว แต่ยังไม่ยอมหยุด

ทำไม่ได้หรอก ทำก็ติดคุก

เพราะเมื่อต่อรองได้ราคาต่ำกว่าราคากลางแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะราคากลางคือมาตรฐานที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดขึ้นมา

“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้รับการโหวตจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย 5 ส.ค.2554 แล้ววันที่ 13 ธ.ค.2554 พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ในขณะนั้นก็ได้เสนอต่อที่ประชุม ครม.ตั้ง นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ให้เป็น ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่

และใน ครม.เดียวกันก็ได้ตั้งผู้หญิงอีกคน นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ให้เป็นประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

แค่ผู้หญิง 2 คน ได้เป็นประธานบอร์ด 2 รัฐวิสาหกิจใหญ่ ก็น่าปลื้มใจไปกับผู้หญิงไทยทั้งประเทศอยู่แล้ว

และวันนี้มีเรื่องที่น่าปลื้มยิ่งขึ้นมาเล่าสู่ฟัง

จากการที่ “ไจก้า” ทำหนังสือมาทักท้วงว่า หาก รฟท.จะเรียกผู้เข้าประกวดราคารายที่ 2 โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง มาต่อรองราคา เป็นการไม่ถูกต้องนั้น ยังปรากฏว่า คณะอนุกรรมการหลายฝ่าย ที่ร่วมพิจารณาการประกวดราคาโครงการนี้ ได้พากันทักท้วงด้วยว่า ทำไม่ได้ ทำไปก็ไม่ถูกต้อง

โดยมีการทำบันทึกกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

ทุกคนรู้คือ...คุก

แต่ “ผู้บริหาร รฟท.” เจ้าเก่า ก็มิได้ลดละ ปฏิบัติการกล่อม ประธานบอร์ด รฟท.สร้อยทิพย์

ให้สั่งคนของกระทรวงคมนาคมในบอร์ดเล็ก ถอนเรื่องคัดค้านออกไปซะ

อ้างเป็นประสงค์ของฝ่ายการเมืองที่สั่งลงมา

แต่สร้อยทิพย์ไม่เล่นด้วย

เป็นผู้หญิงที่ตรงมาก

นี่คือวีรกรรมของสร้อยทิพย์ สตรีที่นายกฯ ปูตั้งให้มาเป็นประธานบอร์ด รฟท. คนใหม่

จึงนำเรื่องราวมาเล่าสู่คนไทยฟัง

“นายสบาย” จะรอว่า นายกฯ ปู จะสนใจและเรียกเรื่องนี้มาดูรึไม่ เพราะงานล่าช้ามากแล้ว รฟท.เองก็ต้องเสียค่าปรับให้ “ไจก้า” ฐานเบิกเงินออกมาใช้ล่าช้าไปแล้ว 50 ล้านบาท

ที่สำคัญคือ คนกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงซะที

นายกฯ ปูคงจำได้นะ มีคน รฟท.ไล่บี้ไล่กระทืบ “พี่ทักษิณ” มาตั้งแต่ตอน คมช.รัฐประหาร 19 ก.ย.2549 หอบข้อมูลโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ไปให้ คตส. ตื้บๆๆๆ

ถ้าปูสนใจเรื่องนี้จะดีแก่ประเทศชาติและประชาชนไม่น้อย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 07/02/2012 10:37 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.ผ่าทางตันประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดง เปิดทาง ITD ดั๊มพ์ราคาสู้ ซิโน-ไทย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2555 22:12 น.



ASTVผู้จัดการรายวัน-“คมนาคม”จี้ร.ฟ.ท.เร่งเคลียร์ปัญหาประมูลรถไฟฟ้าสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ล่าช้า “ยุทธนา”เตรียมชงบอร์ด 13ก.พ. ผ่าทางตัน ประมูลสัญญา 1 แก้ปมผู้รับเหมาเสนอค่าก่อสร้างสูงกว่ากรอบครม.อนุมัติ เปิดทางเจรจากลุ่ม ITD รายที่ 2 ดั๊มพ์ราคาสู้ ขณะที่ปัญหาสัญญา 3 รอ กวพ. ชี้ส่อฮั้วหรือไม่

นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ยังมีปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้โครงการมีความล่าช้า คือ กระบวนการประกวดราคา 3 สัญญา ปัญหาแนวก๊าซและท่อน้ำมัน ของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) กีดขวางการก่อสร้าง โดยภายในสัปดาห์นี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้องจากกระทรวงพลังงาน และปตท.มาหารือ รวมถึงปัญหาการรื้อย้ายผู้บุกรุกล่าช้า ซึ่งได้มอบหมายให้ร.ฟ.ท. เร่งดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆ โดยเร็ว

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการฯร.ฟ.ท.กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง26 กิโลเมตรว่า ขณะนี้จะต้องเร่งแก้ปัญหาการประกวดราคาสัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) กรณีที่ผู้รับเหมาเสนอราคาสูงกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ โดยจะรายงานความคืบหน้าปัญหาอุปสรรคของโครงการต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.วันที่ 13 ก.พ. นี้ เพื่อพิจารณาหาทางออก

ทั้งนี้ ปัญหาของสัญญาที่ 1 คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า SU ซึ่งประกอบด้วย บมจ.ซิโนไทย-เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เสนอราคาต่ำสุดที่ 3.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่กรอบวงเงินที่ครม.อนุมัติไว้ที่ 27,170 ล้านบาท ดังนั้น แนวทางที่จะดำเนินการ คือ เจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้า SU ให้ถึงที่สุด ซึ่งเป็นไปตามความเห็นขององค์การเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศไทยแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) และหากตกลงกันไม่ได้ ต้องเจรจากับกลุ่ม บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ผู้เสนอราคาอันดับ 2 แต่หากราคายังสูงกว่ากว่ากรอบ ก็จะใช้ระเบียบร.ฟ.ท.โดยเชิญผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายมาเจรจา อย่างไรก็ตาม หากราคาสุดท้ายยังสูงกว่ากรอบ ก็จำเป็นต้องเสนอครม.พิจารณาเพิ่มกรอบวงเงิน ส่วนการยกเลิกและเปิดประกวดราคาใหม่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย เนื่องจากจะยิ่งทำให้โครงการยิ่งล่าช้าออกไป

นายยุทธนากล่าวว่า หากได้ข้อสรุปสัญญาที่ 1 แล้ว จะทำให้สามารถเปิดซองข้อเสนอราคาของสัญญาที่ 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) ระยะทาง 21 กิโลเมตร มูลค่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ยื่นซอง 3 ราย คือ

1.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
2.บมจ.ช.การช่าง และ
3.กิจการร่วมค้า SU ได้

ส่วนสัญญาที่ 3 (งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้าทั้งช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน) มูลค่า26,272 ล้านบาท ขณะนี้มีปัญหาเนื่องจากผู้ยื่นประมูลมีผลประโยชน์ร่วมกัน ทำให้ขัดต่อเงื่อนไขการประมูล ซึ่งอยู่ระหว่างรอความเห็นจาก คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กพว.) ในการพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่า กรณีที่ 2 บริษัทมีกรรมการคนเดียวกัน เข้าข่ายเรื่องฮั้วหรือไม่ ซึ่งหากขัดกฎหมายฮั้วก็ต้องเปิดประกวดราคาใหม่

โดยผู้ยื่นซอง 4 ราย ประกอบด้วย

1. กลุ่มกิจการร่วมค้าMHSC Consortium ประกอบด้วย บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd ,Hitachi, Sumitomo Corporation
2. กลุ่มกิจการร่วมค้า SMCK Consortium ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน), บริษัท SIEMENS Ak piengesellschaft , บริษัท SIEMENS LIM ITED, บริษัท MITSUBISHI CORPORATION

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัญหาความล่าช้าของโครงการฯ ทำให้การเบิกจ่ายเงินกู้ไจก้าล่าช้า ซึ่งตามเงื่อนไขไจก้าจะต้องมีการเบิกจ่ายเงินหลังลงนามสัญญาเงินกู้ 6 เดือน หากล่าช้ากว่ากำหนด จะต้องเสียค่าธรรมเนียมทางการเงินประมาณ 2ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ ได้มีการลงนามสัญญาเงินกู้กับไจก้าเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2552
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2012 12:43 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมจี้ร.ฟ.ท.เคลียร์ปมรั้งรถไฟสายสีแดงอืด ระบุปัญหาการรื้อย้ายผู้บุกรุกล่าช้า
มติชน วันที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 10:43:40 น.

นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้จะเชิญผู้แทนจากกระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้าหารือ หลังจากพบว่าแนวท่อก๊าซและน้ำมันของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (เอฟพีที) กีดขวางการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขณะที่กระบวนการประกวดราคาทั้ง 3 สัญญา และปัญหาการรื้อย้ายผู้บุกรุกล่าช้า ร.ฟ.ท.ในฐานะเจ้าของโครงการควรจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว

"โครงการดังกล่าวมีความล่าช้ามาก ร.ฟ.ท.ควรเร่งแก้ปัญหาต่างๆ เช่น การรื้อย้ายผู้บุกรุก การลงนามสัญญาก่อสร้าง และเร่งเบิกจ่ายเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) รวมถึงทำตารางการดำเนินโครงการ แนวทางแก้ปัญหาอุปสรรคในแต่ละเรื่องให้ชัดเจน" นายจำรูญกล่าว

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งแก้ปัญหาการประกวดราคาสัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) กรณีที่ผู้รับเหมาเสนอราคาสูงกว่ากรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติ โดยจะรายงานความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรคของโครงการต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้

ทั้งนี้ ปัญหาของสัญญาที่ 1 คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสยู ประกอบด้วย บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุดที่ 3.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ ครม.อนุมัติวงเงินไว้ 27,170 ล้านบาท ดังนั้นจะพยายามเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสยูให้ได้ หากไม่ได้ก็ต้องเจรจากับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้เสนอราคาต่ำเป็นอันดับ 2 แต่หากราคายังสูงอยู่ ก็จะเชิญผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายมาเจรจา และอาจเสนอ ครม.พิจารณาเพิ่มกรอบวงเงิน ส่วนการยกเลิกและเปิดประกวดราคาใหม่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะจะทำให้โครงการยิ่งล่าช้าออกไปอีก

นายยุทธนากล่าวว่า หากสัญญาที่ 1 ได้ข้อสรุป จึงจะสามารถเปิดซองข้อเสนอราคาของสัญญาที่ 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) ระยะทาง 21 กิโลเมตร มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีผู้ยื่นซอง 3 ราย คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้าเอสยู
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2012 12:43 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมจี้ร.ฟ.ท.เคลียร์ปมรั้งรถไฟสายสีแดงอืด ระบุปัญหาการรื้อย้ายผู้บุกรุกล่าช้า
มติชน วันที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 10:43:40 น.

นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้จะเชิญผู้แทนจากกระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้าหารือ หลังจากพบว่าแนวท่อก๊าซและน้ำมันของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (เอฟพีที) กีดขวางการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขณะที่กระบวนการประกวดราคาทั้ง 3 สัญญา และปัญหาการรื้อย้ายผู้บุกรุกล่าช้า ร.ฟ.ท.ในฐานะเจ้าของโครงการควรจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว

"โครงการดังกล่าวมีความล่าช้ามาก ร.ฟ.ท.ควรเร่งแก้ปัญหาต่างๆ เช่น การรื้อย้ายผู้บุกรุก การลงนามสัญญาก่อสร้าง และเร่งเบิกจ่ายเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) รวมถึงทำตารางการดำเนินโครงการ แนวทางแก้ปัญหาอุปสรรคในแต่ละเรื่องให้ชัดเจน" นายจำรูญกล่าว

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งแก้ปัญหาการประกวดราคาสัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) กรณีที่ผู้รับเหมาเสนอราคาสูงกว่ากรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติ โดยจะรายงานความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรคของโครงการต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้

ทั้งนี้ ปัญหาของสัญญาที่ 1 คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสยู ประกอบด้วย บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุดที่ 3.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ ครม.อนุมัติวงเงินไว้ 27,170 ล้านบาท ดังนั้นจะพยายามเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสยูให้ได้ หากไม่ได้ก็ต้องเจรจากับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้เสนอราคาต่ำเป็นอันดับ 2 แต่หากราคายังสูงอยู่ ก็จะเชิญผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายมาเจรจา และอาจเสนอ ครม.พิจารณาเพิ่มกรอบวงเงิน ส่วนการยกเลิกและเปิดประกวดราคาใหม่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะจะทำให้โครงการยิ่งล่าช้าออกไปอีก

นายยุทธนากล่าวว่า หากสัญญาที่ 1 ได้ข้อสรุป จึงจะสามารถเปิดซองข้อเสนอราคาของสัญญาที่ 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) ระยะทาง 21 กิโลเมตร มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีผู้ยื่นซอง 3 ราย คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้าเอสยู
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2012 12:43 am    Post subject: Reply with quote

‘อิตัลไทย’ลุ้นงานรถไฟฟ้าสายสีแดง
ข่าว(อสังหาริมทรัพย์)
หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 13 ฉบับที่ 3225
ประจำวัน ศุกร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2012

กรุงเทพฯ : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ได้ออกบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ กรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เจรจาขอลดค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงสัญญาที่ 1 กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC โดย ร.ฟ.ท. เร่งความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาการประกวดราคาสัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) กรณีที่ผู้รับเหมาเสนอราคาสูงกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า SU (STEC และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ U NIQ) เสนอราคาต่ำสุดที่ 31,000 ล้านบาท สูงกว่าวงเงินที่ ครม. อนุมัติไว้ที่ 27,000 ล้านบาท จึงเจรจากับกลุ่ม SU เพื่อต่อรองราคา แต่หากตกลงกันไม่ได้ ต้องเจรจากับกลุ่มบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้เสนอราคาอันดับ 2 แต่หากราคายังสูงกว่ากรอบ ร.ฟ.ท. จะใช้ระเบียบของ ร.ฟ.ท. โดยเชิญผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายมาเจรจา อย่างไรก็ตาม หากราคาสุดท้ายยังสูงกว่ากรอบ ก็จำเป็นต้องเสนอ ครม. พิจารณาเพิ่มกรอบวงเงิน ส่วนการยกเลิกและเปิดประกวดราคาใหม่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่อาจเปลี่ยนมืองานเป็น ITD จากนโยบายของ STEC ที่ต้องการรับงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 8-9% ทำให้การขอต่อรองราคาของสายสีแดงดังกล่าวมีผลต่อการตัดสินใจไม่รับงานของ STEC ได้ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา STEC ค่อนข้างบาดเจ็บจากโครงการ Airport Rail Link พอควร ทำให้งานดังกล่าวผ่านต่อไปยัง ITD ได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีงานอื่นต่อเนื่อง เช่น สัญญาที่ 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) ระยะทาง 21 กิโลเมตร มูลค่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ยื่นซอง 3 รายคือ ITD, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และกิจการร่วมค้า SU ซึ่ง STEC ร่วมประมูลเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นข่าวอาจเอื้อประโยชน์ให้กับ ITD ในแง่การรับงานที่เพิ่มขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2012 3:05 pm    Post subject: Reply with quote

ITDรอเสียบรถไฟสายสีแดง
ข่าวหน้าหนึ่ง
ข่าวหุ่้น
วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555

ITD รอเสียบ STEC รับงานรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตสัญญา 1 หลังไม่สามารถเจรจาต่อรองลดราคาได้ จากการเสนอราคาต่ำสุด 3.1 หมื่นล้านบาท สูงกว่าราคากลาง 2.7 หมื่นล้านบาท หากราคาสุดท้ายสูงกว่ากรอบวงเงิน จำเป็นต้องเสนอครม.พิจารณาเพิ่มกรอบวงเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีมีกระแสข่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาการประกวดราคาสัญญา 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) โดยมีผู้รับเหมาเสนอราคาสูงกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ

โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า SU ประกอบด้วยบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เสนอราคาต่ำสุด 3.1 หมื่นล้านบาท สูงกว่าวงเงินที่ครม.อนุมัติไว้ 2.7 หมื่นล้านบาท จึงเจรจากับกลุ่ม SU เพื่อต่อรองราคา

ทั้งนี้หากตกลงกันไม่ได้ ต้องเจรจากับกลุ่มบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้เสนอราคาอันดับ 2 ซึ่งเสนอราคา 3.4 หมื่นล้านบาท แต่หากราคายังสูงกว่ากรอบ ร.ฟ.ท.จะใช้ระเบียบร.ฟ.ท. โดยเชิญผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายมาเจรจา อย่างไรก็ตาม หากราคาสุดท้ายยังสูงกว่ากรอบ จำเป็นต้องเสนอครม.พิจารณาเพิ่มกรอบวงเงิน ส่วนการยกเลิกและเปิดประกวดราคาใหม่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย ขณะที่เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รอความชัดเจนในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555

ด้านฝ่ายวิจัย บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า ร.ฟ.ท.เร่งความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร มีความเป็นไปได้ที่งานอาจเปลี่ยนมือเป็น ITD จากนโยบายของ STEC ที่ต้องการรับงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ระดับ 8–9% ทำให้การขอต่อรองราคาของสายสีแดงดังกล่าว มีผลต่อการตัดสินใจไม่รับงานของ STEC ได้ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา STEC ค่อนข้างบาดเจ็บจากโครงการ Airport Rail Link พอสมควร ทำให้งานดังกล่าวผ่านต่อไปยัง ITD ได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีงานอื่นต่อเนื่องเช่นสัญญา 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) ระยะทาง 21 กิโลเมตร มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีผู้ยื่นซอง 3 ราย คือ ITD CK และกิจการร่วมค้า SU ซึ่ง STEC ร่วมประมูลเช่นกัน

ทั้งนี้มองว่าประเด็นข่าวนี้อาจเอื้อประโยชน์ให้กับ ITD ในแง่การรับงานที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แนะนำเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้น คาดว่าแรงกดดันราคายังคงเกิดกับ ITD เป็นผลจากผลประกอบการที่อ่อนแอ ซึ่งคาดว่าไตรมาส 4/54 ITD ยังประสบปัญหาขาดทุน โดยราคาที่เหมาะสมของ ITD อยู่ที่ 4 บาท

สำหรับ STEC แม้ว่าจะไม่ได้รับงานสายสีแดงดังกล่าว แต่ผลประกอบการที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงน้อย จากสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง มีภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ต่ำและสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 1.67 เท่า รวมถึงการจ่ายปันผลที่ให้ผลตอบแทน 3–3.5% ทำให้คงแนะนำ ซื้อ STEC ราคาเหมาะสม 15.40 บาท

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีข่าวปัญหาประมูลรถไฟสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) สัญญา 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) กรณีที่ผู้รับเหมา คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า SU ประกอบด้วย บริษัท ซิโนไทย-เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด 3.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่กรอบวงเงินที่ครม.อนุมัติไว้ 27,170 ล้านบาท ถือว่าเป็นการเสนอราคาที่สูงกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยังไม่ได้เข้ามาคุยหรือแจ้งอะไรให้ทราบต้องให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ดูแลรับผิดชอบอยู่เข้าไปดูว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร

เบื้องต้นตามที่นโยบายของรัฐบาลที่จะให้มีการเร่งสร้างรถไฟฟ้า 10 สายให้เร็วที่สุด ฉะนั้นหากปัญหาไม่ใช่เรื่องที่ต้องแก้ไขหรือหาทางออกไม่ได้ก็ไม่อยากให้มีการล้มประมูลในสัญญาดังกล่าว เนื่องจากจะก่อให้เกิดความล่าช้าต่อการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป ยกเว้นแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง นั่นก็เป็นอีกเรื่อง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ให้นโยบายไว้แล้วว่าอยากเห็นความก้าวหน้ามากกว่าความล่าช้า

“ผมยังไม่รู้ในรายละเอียดใดๆ เพราะ ร.ฟ.ท.ยังไม่ได้เข้ามาคุยถึงปัญหาดังกล่าว แต่นโยบายของรัฐบาล คือ การเร่งสร้าง เร่งดำเนินการ จึงไม่อยากให้มีการล้มสัญญา เว้นแต่ว่ามีเหตุจริงๆ เพราะเราอยากเห็นความก้าวหน้าของทุกๆ โครงการมากกว่าการหยุดอยู่กับที่หรือการถอยหลังเริ่มใหม่” นายจารุพงศ์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2012 7:58 pm    Post subject: Reply with quote

บริษัทชุนโวฯ ร้อง "ดีเอสไอ" ตรวจสอบสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง 8 พันล้าน
มติชน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 19:48:00 น.

วันที่ 13 ก.พ. "ข่าวสดออนไลน์" รายงานว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วันที่ 14 ก.พ. นายจุลสิงห์ ล่ำซำ ตัวแทนบริษัท ชุนโว คอนสตรัคชั่น แอนด์ เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด จะเดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับดีเอสไอ กรณีการรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ที่ไม่เป็นธรรม

อธิบดีดีเอสไอระบุว่า เบื้องต้น บริษัทชุนโวฯ ส่งหลักฐานให้ดีเอสไอตรวจสอบว่า บริษัทชุนโวฯ ร่วมกับและบริษัทยูนิค เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด มหาชน รับเหมางานก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล หรือโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ภายใต้ชื่อ "กิจการร่วมค้ายูนิค-ชุนโว" มูลค่าโครงการก่อสร้าง 8,748 ,399, 000 บาท และทำสัญญากับรถไฟฟ้าเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 ซึ่งบริษัทชุนโวฯ เป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศทีโออาร์ เพราะมีประสบการณ์งานรถไฟฟ้าในหลายประเทศมานานกว่า 10 ปี โดยเฉพาะวิทยาการด้านระบบวางราง ( Low Vibration Track ) ขณะที่บริษัทยูนิคฯ ตลอดจนผู้รับเหมาในประเทศไทยไม่มีคุณสมบัติและไม่มีประสบการณ์ดังกล่าว บริษัทยูนิคจึงตกลงให้บริษัทชุนโวร่วมลงทุนในสัดส่วน 15 % ส่วนบริษัทยูนิคได้ 85 %

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารร้องทุกข์ของบริษัทชุนโวฯ ระบุด้วยว่า หลังเซ็นสัญญากับการรถไฟฯ บริษัทยูนิคฯ ได้นำหนังสือมอบอำนาจของบริษัทชุนโวฯ ไปดำเนินการแต่งตั้งบริษัท เอ.เอส.แอสโซซีเอท เอนจิเนียริ่ง (1964) จำกัด เข้ามาทำงานระบบรางแทน บริษัทชุนโวฯ จึงทำหนังสือหลายฉบับแจ้งไปยังการรถไฟฯ เพื่อให้ระงับการก่อสร้าง เนื่องจากบริษัทยูนิคฯ นำระบบรางของบริษัทอื่นเข้ามาสวมสิทธิ แต่ไม่ได้รับการชี้แจงหรือตอบกลับ การกระทำของการรถไฟฯจึงถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมือชอบ ปล่อยให้มีการดำเนินการโดยผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติตามทีโออาร์ และไม่ใช่คู่สัญญา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ และอาจต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมความเสียหายจากความบกพร่องในระบบคมนาคมดังกล่าว นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวยังจะส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานักลงทุนต่างชาติอีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 14/02/2012 5:20 pm    Post subject: Reply with quote

"ซุนวู" โวยโดน "ยูนิค" หักหลังประมูลรถไฟฟ้าสีแดง แฉดึง บ.โนเนม-ไร้ประสบการณ์ สวมสิทธิงานระบบราง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2555 13:51 น.

"ซุนวู" บุกร้อง "ดีเอสไอ" สอบพิรุธประมูลรถไฟฟ้า สายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน โวยถูกกลุ่ม "ยูนิค" หักหลัง แต่งตั้ง "บ.โนเนม" เข้ามาสวมสิทธิ งานก่อสร้างวางระบบราง ยอมรับ เคยร้องเรียน "ปลัดสุพจน์" ไปแล้วแต่เรื่องเงียบหาย ยันการรถไฟฯ ปล่อยให้ผู้ไม่มีประสบการณ์สวมสิทธิงานก่อสร้าง อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ รัฐอาจต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซม หรือชดเชยความเสียหายจากความบกพร่องในระบบ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุขสันติ์ นันทกุล ตัวแทนบริษัท ชุนโว คอนสตรัคชั่น แอนด์ เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด ซึ่งมีชื่อเสียงด้านงานวางระบบรางรถไฟ สำนักงานใหญ่อยู่ในฮ่องกง เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในการรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยระบุว่า บริษัทได้ร่วมงานกับบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อ "กิจการร่วมค้า ยูนิค-ชุนโว" ในการ ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล มูลค่าก่อสร้าง 8,748,399,000 บาท และทำสัญญากับรถไฟฟ้า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551

ทั้งนี้ กลุ่มชุนโว มีประสบการณ์ในการก่อสร้างมานานกว่า 40 ปี โดยเฉพาะวิทยาการด้านระบบวางราง ทำให้กลุ่มยูนิคได้ชักชวนให้เข้าร่วมในลักษณะกิจการร่วมค้า โดยมีสัดส่วนร่วมค้าบริษัทชุนโว ก่อสร้าง 15% และกลุ่มยูนิค 85% แต่มีข้อสงสัยมิชอบ เช่นไม่มีขั้นตอน e-auction และทางกลุ่มยูนิค ได้ใช้ชื่ชุนโวเป็นข้ออ้าง เพื่อให้ครบคุณสมบัติในการเข้าร่วมประมูลยื่นแบบทีโออาร์

ทั้งนี้ หลังเซ็นสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท ยูนิคฯ ได้นำหนังสือมอบอำนาจของบริษัทชุนโวฯ ไปดำเนินการแต่งตั้งบริษัท เอ.เอส.แอสโซซีเอท เอนจิเนียริ่ง (1964) จำกัด เข้ามาทำงานระบบรางแทน บริษัทชุนโวฯ จึงทำหนังสือหลายฉบับแจ้งไปยังการรถไฟฯ เพื่อให้ระงับการก่อสร้าง เนื่องจากบริษัทยูนิคฯ นำระบบรางของบริษัทอื่นเข้ามาสวมสิทธิ

ยอกจากนี้ ยังเคยทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปถึง นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น แต่ไม่ได้รับการชี้แจง หรือตอบกลับ การกระทำของการรถไฟฯ จึงถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยให้ผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้าดำเนินการ ทั้งที่ไม่ใช่คู่สัญญา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนกับผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ และรัฐอาจต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซม หรือชดเชยความเสียหายจากความบกพร่องในระบบคมนาคม

ด้านนายธาริต กล่าวว่า จากข้อร้องเรียนดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับกรณีทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่ดีเอสไอเคยรับดำเนินการสอบสวน จึงไม่น่าจะมีความซับซ้อน เบื้องต้น จะตรวจสอบรายละเอียดเอกสารขั้นตอนการทำสัญญา พร้อมขอตรวจสอบเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

//--------------------------------------

บ.ต่างชาติร้องดีเอสไอตรวจสอบสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง 8 พันล้าน!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 กุมภาพันธ์ 2555 16:44 น.
บ.ฮ่องกงร้องสอบรฟท. บริหารรถไฟฟ้าสายสีแดง
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
ไทยรัฐออนไลน์
15 กุมภาพันธ์ 2555 03:33 น.

บริษัทต่างชาติ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบการรถไฟฯ บริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน มูลค่ากว่า 8,700 ล้านบาท ชี้การรถไฟปล่อยให้บริษัทไม่มีประสบการณ์สวมสิทธิเข้าวางรางรถไฟ ขณะที่อธิบดีดีเอสไอ ระบุเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนมาก คาดใช้เวลา 60 วันตรวจสอบข้อเท็จจริง

วันนี้(14 ก.พ.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสุขสันต์ นันทกุล และนายจุลสิงห์ เจนล่ำซำ ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทชุนโว คอนสตรัคชั่น แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ตั้งอยู่ที่อาคารฮ่องกง สปินเนอร์ส อินดัสเตรียล 601-603 ถนนไตหนานตะวันตก เกาลูน ประเทศฮ่องกง เข้ายื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ ผู้ตรวจราชการกระทรววงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมให้ดีเอสไอตรวจสอบการรถไฟแห่งประเทศไทยในการบริหารโครงการรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า (สายสีแดง) บางซื่อ-ตลิ่งชัน หลังจากบริษัทชุนโวฯ ได้ร่วมกับบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ตั้งบริษัทภายใต้ชื่อ"กิจการร่วมค้ายูนิค-ชุนโว" เข้ารับงานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง มูลค่ากว่า 8,700 ล้านบาท กับการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมตกลงให้บริษัทชุนโวฯ เป็นผู้วางระบบราง เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีคุณสมบัติตรงตามทีโออาร์(TOR) แต่ต่อมาบริษัทยูนิคฯ ได้ให้บริษัท เอ.เอส.แอส โซซิเอท เอนจิเนียริ่ง (1964 ) จำกัด เข้ามาทำงานวางระบบรางแทนโดยการรถไฟฯ ได้มีหนังสือ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.อนุญาตให้บริษัทเอ.เอส.แอสฯ เข้ามาทำงานแทน เบื้องต้นดีเอสไอรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า บริษัทชุนโวฯ ได้ร่วมกับบริษัทยูนิคฯ รับงานโครงการรับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายบางซื่อ-ตลิ่งชัน(สายสีแดง) ตามสัญญาเลขที่ กส.5/รฟฟ./2551 ลงวันที่ 12 ธ.ค. 2551 ภายใต้ชื่อ"กิจการร่วมค้ายูนิค-ชุนโว" มูลค่าโครงการก่อสร้าง 8,748,399,000 บาท กับการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยบริษัทชุนโวฯ มีคุณสมบัติตามทีโออาร์ เพราะมีประสบการณ์ในการวางระบบและทำระบบรางในต่างประเทศมากว่า 10 ปี ส่วนบริษัทยูนิคฯ ที่ไม่มีประสบการณ์ในงานระบบราง จึงได้ไปชักชวนบริษัทชุนโวฯ ให้เข้าร่วมรับงานก่อสร้างรถไฟฟ้าฯ เพื่อให้คุณสมบัติเข้าตามทีโออาร์ ก่อนจะเข้าทำสัญญากับการรถไฟฯ บริษัทซุนโวฯ ได้มอบอำนาจให้บริษัทยูนิคฯ ตั้งบริษัทกิจการร่วมค้า โดยบริษัทซุนโวฯ จะเข้ามารับผิดชอบ 15 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของการวางระบบราง มูลค่า 1,000 ล้านบาท แต่ต่อมาทางบริษัทยูนิคฯ ได้แต่งตั้งบริษัท เอ.เอส.แอส โซซิเอท เอนจิเนียริ่ง (1964 ) จำกัด เข้ามาวางระบบรางแทน ซึ่งระบบที่นำเสนอมีความแตกต่างกันในด้านวิทยาการ ราคาและคุณภาพวัสดุ

ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า บริษัทซุนโวฯ จึงต้องมอบอำนาจให้ตัวแทนเข้าขอความเป็นธรรมต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพราะเคยยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อปี 2553 และการรถไฟฯ แต่ไม่มีความคืบหน้า โดยบริษัทซุนโวฯ ได้ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงไม่มีขั้นตอนการเปิดประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์หรืออีอ็อกชั่น โดยบริษัทยูนิคฯ ได้อาศัยคุณสมบัติของบริษัทซุนโวฯ เพื่อให้คุณสมบัติครบตามทีโออาร์ ต่อมามีการให้บริษัทอื่นมาวางระบบรางแทนทั้งที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับการรถไฟฯ และการรถไฟฯ ได้ออกหนังสือให้บริษัทใหม่เข้ามาสวมงานแทนบริษัทซุนโวฯ การกระทำของผู้ว่าการรถไฟฯ ถือว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าที่กรณีรับรองให้ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติตามทีโออาร์และเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติอย่างแท้จริง บริษัทซุนโวจึงร้องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในโครงการให้ดีเอสไอตรวจสอบ

ด้านนายธาริต กล่าวว่า คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงประมาณ 60 วัน ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้ชี้ถูกชี้ผิด โดยดีเอสไอจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาเคยเกิดคดีในลักษณะดังกล่าวในกรณีของโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ที่บริษัทกิจการร่วมค้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ 5 แห่ง ไม่มีคุณสมบัติตามทีโออาร์ จึงไปนำบริษัทของประเทศอังกฤษที่มีคุณสมบัติก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียมาเป็นองค์ประกอบจนชนะประมูลโครงการก่อนจะไล่บริษัทของประเทศอังกฤษออกไป ซึ่งทำให้การก่อสร้างเสียหายจน ครม.มีมติเลิกสัญญาของบริษัทกิจการร่วมค้า โดยหลังจากนี้ดีเอสไอจะตรวจสอบพยานบุคคล เอกสารทีโออาร์ ขั้นตอนที่นำไปสู่การเซ็นสัญญา องค์ประกอบของโครงการ และการรถไฟฯ เบื้องต้นเรื่องนี้ดูแล้วการสอบสวนไม่ซับซ้อนมาก


Last edited by Wisarut on 15/02/2012 12:03 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 47, 48, 49 ... 77, 78, 79  Next
Page 48 of 79

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©