Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13180604
ทั้งหมด:13491839
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวความคืบหน้าโครงการทางรถไฟสายนครพนม
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวความคืบหน้าโครงการทางรถไฟสายนครพนม
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 26, 27, 28 ... 43, 44, 45  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/01/2021 12:13 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Wisarut wrote:
จัดคิวประมูล 1 ล้านล้านปั๊มเศรษฐกิจ สภาพัฒน์เบรกทางคู่เฟส 2-โยกงบเยียวยาโควิด
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 7 มกราคม 2564 - 08:00 น.



รฟท. ลั่นเดือนกุมภาฯ ลุยประมูล รถไฟทางคู่ 2 สายใหม่ มูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท
เศรษฐกิจ
วันที่ 6 มกราคม 2564 - 15:45 น.


20 ม.ค. เปิดประมูลรถไฟทางคู่ 2 สายใหม่ 1.2 แสนล้าน
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์
วันที่ 7 มกราคม 2564 - 10:00 น.

*เด่นชัย-เชียงของ/บ้านไผ่-นครพนม 678 กม.
*รฟท.ใช้ระเบียบเดิมไม่ล็อกสเปกรายใหญ่!!

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งต่อว่า สายเด่นชัย-เชียงของ มีทั้งงานอุโมงค์ และงานรถไฟ หากทำตามระเบียบใหม่ จะมีแค่ 2-3 บริษัทเท่านั้นที่มีผลงาน และความเชี่ยวชาญทั้ง 2 ด้านรวมกันที่เข้าประมูลได้ ทั้งที่โครงการขนาดใหญ่ควรมีผู้แข่งขัน 5-6 บริษัท นอกจากนี้จะมีคำวิจารณ์ว่าทีโออาร์ล็อกสเปกให้กับ 3 บริษัทหรือไม่ ถือเป็นการประมูลที่ไม่โปร่งใส ไม่เปิดกว้าง และไม่ยุติธรรมได้ สำหรับสายบ้านไผ่-นครพนม ไม่ได้มีงานอุโมงค์ รฟท. จึงใช้ระเบียบใหม่ได้.

https://www.facebook.com/TransportDailynews/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/01/2021 7:41 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เปิดประมูล แสนล้าน ชิง 2 รถไฟทางคู่ 5 สัญญา
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564


ลิงก์มาแล้ว
https://www.thansettakij.com/content/463471
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/01/2021 5:52 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟแบ่งเค้กทางคู่ 1.28 แสนล้าน เปิดทางต่างชาติสู้ 4 บิ๊กรับเหมา
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 14 มกราคม 2564 - 16:40 น.

สนามประมูลทางคู่ 2 สายใหม่ เค้ก 1.28 แสนล้านระอุ รับเหมาร้องกำหนดผลงานอุโมงค์สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เข้าทาง 4 บิ๊ก ITD ช.การช่าง ซิโน-ไทยฯ ยูนิคฯ ปิดทางรายกลางและต่างชาติเข้าร่วม ร.ฟ.ท.ยอมปรับใหม่ใช้ผลงานต่างประเทศได้ ลดราคาลงอีกเล็กน้อย คาดได้ผู้รับเหมา เม.ย. เดินหน้าสร้างคู่ขนานเวนคืนที่ดิน เริ่มจ่ายลอตแรก ต.ค.นี้

แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ออกประกาศประชาพิจารณ์ร่างทีโออาร์ประมูลรถไฟทางคู่ 2 สายทาง ได้แก่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-นครพนม พบว่ามีการกำหนดสเป็กผลงานที่ปิดกั้นการแข่งขัน ซึ่งกำหนดให้เฉพาะเป็นผลงานในประเทศไทยเท่านั้น

โดยเฉพาะงานอุโมงค์ทั้ง 3 สัญญาของสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่กำหนดเป็นผลงานอุโมงค์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร จะมีรับเหมา 4 รายใหญ่ของประเทศไทยที่เข้าประมูลได้ เช่น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บมจ.ช.การช่าง บมจ.ซิโนไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น

“ทำให้รับเหมารายกลางและต่างชาติไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ ทั้งที่งานก่อสร้างทางคู่เฟสแรก ไม่มีการระบุไว้แบบนี้ เช่นเดียวกับระเบียบของกรมบัญชีกลางที่ออกแนวทางปฏิบัติเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 ไม่ให้ระบุผลงาน”

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างออกประกาศร่างทีโออาร์เปิดประมูล e-Bidding ก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่เส้นทางสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม รวม 5 สัญญา วงเงิน 128,374 ล้านบาท

ทั้ง 2 โครงการ จะกำหนดให้ผู้รับเหมาสามารถยื่นซองประมูลทั้งรูปแบบเดี่ยวและกิจการร่วมค้า (จอยต์เวนเจอร์) แต่ต้องให้บริษัทรับเหมาไทยเป็นแกนนำ เนื่องจากโครงการใช้เงินกู้ในประเทศก่อสร้าง จึงต้องการให้เงินหมุนเวียนในประเทศ

โดยสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีจำนวน 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599.28 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913.78 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ 87 กม. ราคากลาง 19,406.43 ล้านบาท

เนื้องานเป็นงานก่อสร้างทางสายใหม่ ประกอบด้วย งานก่อสร้างทางรถไฟ งานก่อสร้างงานอุโมงค์รถไฟ งานก่อสร้างสถานีรถไฟและป้ายหยุดรถ งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนลอดใต้รถไฟ และงานรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างและอุปสรรคต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการ พร้อมสร้างรั้วสองข้างทางตลอดแนวเส้นทาง เพิ่มความรวดเร็ว ความปลอดภัยในการบริการ และติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง มีระยะเวลาก่อสร้าง 72 เดือน จะส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้แล้วเสร็จใน 2 ปี


“สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ผลประชาพิจารณ์รอบแรกวันที่ 25 ธ.ค. 2563 มีผู้รับเหมาร้องเรื่องผลงานอุโมงค์ที่ต้องการให้ใช้ผลงานต่างชาติที่เป็นจอยต์เวนเจอร์ต่างชาติได้ เพื่อเปิดกว้างในการแข่งขันให้รับเหมารายกลางที่เข้าร่วมได้ หลังกังวลจะมีเฉพาะรายใหญ่ของไทยที่มีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่เข้าได้เท่านั้น เราก็ปรับใหม่ให้ใช้ผลงานต่างชาติได้ แต่ต้องเป็นสมาชิกร่วมค้าและยังคงให้รับเหมาไทยเป็นแกนนำ”

ในส่วนผลงานงานโยธาและทางรถไฟให้ใช้ผลงานภายในประเทศ ยังปรับลดราคากลางสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 ลงอีกสัญญาละประมาณ 100,000 บาท จะเสนอให้ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.อนุมัติเพื่อปิดประกาศรอบที่ 2 วันที่ 13 ม.ค. 2564

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม แบ่ง 2 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กม. ราคากลาง 27,123.62 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 175 กม. ราคากลาง 28,333.93 ล้านบาท


ทั้ง 2 สัญญาเป็นการก่อสร้างทางสายใหม่ ประกอบด้วยงานทางรถไฟ งานก่อสร้างสถานีรถไฟ และ stabling yard งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนลอดใต้ทางรถไฟ และงานรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างและอุปสรรคต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการ

พร้อมสร้างรั้วสองข้างทางตลอดแนวเส้นทางรถไฟ เพิ่มความรวดเร็วและความปลอดภัยในการบริการให้รองรับปริมาณผู้โดยสารและสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 48 เดือน จะส่งมอบพื้นที่ภายใน 2 ปี

“สายบ้านไผ่-นครพนม จะประชุมประเมินผลการวิจารณ์ทีโออาร์วันที่ 15 ม.ค.นี้ หากปรับใหม่ต้องออกประกาศรอบที่ 2 ทั้งนี้เมื่อ 2 สายทางไม่มีผู้ร้องแล้วจะประกาศขายซองประมูล 1 เดือน โดยสายเด่นชัย-เชียงของจะเริ่มก่อนในเดือน ก.พ.-มี.ค. จากนั้นเป็นบ้านไผ่-นครพนม คาดว่าจะได้ผู้รับเหมาในเดือน เม.ย.นี้”

ทั้งนี้งานก่อสร้างจะเริ่มหลังเซ็นสัญญา 2 เดือน จะเดินหน้าคู่ขนานไปกับเวนคืนที่ดิน ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2565 แล้ว แบ่งจ่าย 2 ครั้ง เริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2564 ในส่วนของสายเด่นชัย-เชียงของ 70% อีก 30% จ่ายในปีถัดไป ส่วนบางไผ่-นครพนม จ่ายครั้งแรก 55% อีก 45% จ่ายในปีถัดไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 10/02/2021 1:48 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ด BOI อนุมัติขนส่ง เปิด PPP ศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม 846 ล้าน
ข่าวอสังหาริมทรัพย์

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.45 น.

บอร์ด BOI อนุมัติกรมการขนส่งทางบก ให้การส่งเสริมแก่เอกชนผู้ร่วมลงทุน PPP ศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม เนื้อที่ 121 ไร่ หนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดีเดย์ เม.ย.ประมูล วงเงิน 846 ล้าน เสร็จปี’68

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

โดยมีวาระการพิจารณาการขออนุมัติในหลักการส่งเสริมการลงทุนแก่เอกชนผู้ร่วมลงทุน โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ด BOI) ได้อนุมัติในหลักการให้การส่งเสริมแก่เอกชนที่จะร่วมลงทุนโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ของกรมการขนส่งทางบก ใน 3 ประเภทกิจการ

ได้แก่ (1) กิจการสถานที่ตรวจปล่อยและบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก หรือโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้าและบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทนเนอร์นอกเขตท่าเทียบเรือ (รพท.) (Inland Container Depot : ICD)

(2) กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย (Distribution Center : DC) และ (3) กิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและ/หรือคลังสินค้า

ซึ่งเอกชนที่จะเข้าร่วมทุนกับกรมการขนส่งทางบกในรูปแบบ Public Private Partnership (PPP) ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีสิทธิ์ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละกิจการตามที่ BOI กำหนด อาทิ การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และการได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล


โดยพื้นที่โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เอกชนมีสิทธิที่จะขอรับการยกเว้นและลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงสุดถึง 13 ปี ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เอกชนมีความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนภายในโครงการมากยิ่งขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบกจะได้กำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ไว้ในประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนต่อไป

ทั้งนี้ โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม จัดเป็นหนึ่งในโครงการตามแผนการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal) ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ตั้งอยู่ที่ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม บนเนื้อที่กว่า 121 ไร่

ซึ่งจะทำหน้าที่รองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทางสาย R12 เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย – สปป.ลาว – เวียดนาม – จีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)


รวมถึงรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) ระหว่างทางถนนกับทางราง ผ่านแนวการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล

และได้เน้นย้ำให้กรมการขนส่งทางบก เร่งรัดดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมให้เป็นไปตามแผนและดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

โดยปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างกระบวนการเวนคืนที่ดิน คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ในส่วนของกระบวนการ PPP คาดการณ์ว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ในเดือนเมษายน 2564 และลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ในช่วงปลายปี 2564 ก่อนเริ่มกระบวนการก่อสร้าง

ซึ่งมีวงเงินลงทุนกว่า 846 ล้านบาทต่อไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 ปี และมีแผนเปิดให้บริการในปี 2568 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน

บอร์ด BOI ไฟเขียว หนุนเอกชนร่วมลงทุนศูนย์ขนส่งนครพนม
พุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 11.01 น.

บอร์ด BOI ไฟเขียวส่งเสริมแก่เอกชนผู้ร่วมลงทุน ศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม เร่งจ่ายค่าเวนคืน พร้อมลุยประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน เม.ย.นี้ เริ่มสร้างปี 65 และเปิดให้บริการปี 68 ช่วยลดต้นทุนขนส่งสินค้า บูมโลจิสติกส์พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษผ่านเส้นทาง R12 เชื่อมไทย-ลาว-เวียดนาม-จีนตอนใต้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ด BOI) โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม โดยมีวาระการพิจารณาการขออนุมัติในหลักการส่งเสริมการลงทุนแก่เอกชนผู้ร่วมลงทุน โครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า บอร์ด BOI ได้อนุมัติหลักการให้การส่งเสริมแก่เอกชนที่จะร่วมลงทุนโครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม ของ ขบ. ใน 3 ประเภทกิจการ ได้แก่ 1.กิจการสถานที่ตรวจปล่อยและบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก หรือโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้าและบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทเนอร์นอกเขตท่าเทียบเรือ (รพท.) (Inland Container Depot : ICD) 2.กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย (Distribution Center : DC) และ 3.กิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและ/หรือคลังสินค้า

ซึ่งเอกชนที่จะเข้าร่วมทุนกับ ขบ. ในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (Public Private Partnership) หรือ PPP ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีสิทธิที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละกิจการตามที่ BOI กำหนด อาทิ การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และการได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยพื้นที่โครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เอกชนมีสิทธิที่จะขอรับการยกเว้นและลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงสุดถึง 13 ปี ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เอกชนมีความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนภายในโครงการมากยิ่งขึ้น โดย ขบ. จะได้กำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ไว้ในประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ให้ ขบ. เร่งรัดดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม เป็นไปตามแผนและดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการเวนคืนที่ดิน คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 64 ส่วนกระบวนการ PPP คาดว่าจะออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ในเดือน เม.ย.64 และลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ช่วงปลายปี 64 ก่อนเริ่มกระบวนการก่อสร้างในปี 65 ซึ่งมีวงเงินลงทุนกว่า 846 ล้านบาทต่อไป ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี และเปิดให้บริการปี 68 ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน

สำหรับโครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม เป็นหนึ่งในโครงการตามแผนการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal) ตั้งอยู่ที่ ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม พื้นที่กว่า 121 ไร่ ทำหน้าที่รองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทางสาย R12 เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม-จีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) รวมถึงรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) ระหว่างทางถนนกับทางราง ผ่านแนวการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียง เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันประเทศ และสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล.

ดันเปิดPPP”ศูนย์ขนส่งชายแดนนครพนม”เม.ย.นี้ -บอร์ดบีโอไอเคาะมาตรการภาษีจูงใจเอกชน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15:58 น.
ปรับปรุง: วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15:58 น.

บอร์ดบีโอไอไฟเขียวมาตรการภาษีส่งเสริมเอกชนร่วมลงทุน โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม“ศักดิ์สยาม”สั่งเร่งเวนคืนเสร็จในไตรมาส3/64 จ่อเปิดประมูล PPP เม.ย.นี้ ลงนามปลายปี 64 วงเงินลงทุน 846 ล้านบาทสร้าง 3 ปีเปิดปี 68 ลดต้นทุนโลจิสติกส์หนุนศก.ชายแดน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ด BOI) โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ (10 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมอนุมัติในหลักการให้การส่งเสริมแก่เอกชนที่จะร่วมลงทุนโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ใน 3 ประเภทกิจการ ได้แก่ 1. กิจการสถานที่ตรวจปล่อยและบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก หรือโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้าและบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทนเนอร์นอกเขตท่าเทียบเรือ (รพท.) (Inland Container Depot : ICD)

2. กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย (Distribution Center : DC) และ 3. กิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและ/หรือคลังสินค้า
ซึ่งเอกชนที่จะเข้าร่วมทุนกับ ขบ.ในรูปแบบ Public Private Partnership (PPP) ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีสิทธิ์ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละกิจการตามที่ BOI กำหนด

ได้แก่ การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และการได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยพื้นที่โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เอกชนมีสิทธิที่จะขอรับการยกเว้นและลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงสุดถึง 13 ปี ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เอกชนมีความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนภายในโครงการมากยิ่งขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบกจะได้กำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ไว้ในประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนต่อไป

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ ขบ. เร่งดำเนินโครงการฯให้เป็นไปตามแผนและดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างกระบวนการเวนคืนที่ดิน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2564

ในส่วนกระบวนการ PPP คาดว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ในเดือนเมษายน 2564 และลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ในช่วงปลายปี 2564 ก่อนเริ่มกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งมีวงเงินลงทุนกว่า 846 ล้านบาทต่อไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 ปี และมีแผนเปิดให้บริการในปี 2568
ทั้งนี้ โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม เป็นหนึ่งในโครงการตามแผนการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal) ของกรมการขนส่งทางบก ตั้งอยู่ที่ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม บนเนื้อที่กว่า 121 ไร่ ซึ่งจะทำหน้าที่รองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทางสาย R12 เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย - สปป.ลาว - เวียดนาม - จีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)

รวมถึงรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) ระหว่างทางถนนกับทางราง ผ่านแนวการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล

ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/03/2021 10:54 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.ไม่สน!!เสียงประชาชนต้านสร้างชานชาลาต่ำ
*ประมูลทางคู่2สายใหม่ชานฯ50-80ซม.
*”เด่นชัย-เชียงของ”/“บ้านไผ่-นครพนม”
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2861984657356367
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 19/03/2021 7:34 pm    Post subject: Reply with quote

เริ่มยกแรก! ชิงเค้กทางคู่ “เด่นชัย-เชียงของ” 7.29 หมื่นล. ขายซอง 3 สัญญา 19 มี.ค. ตั้งเป้า ส.ค.ลงนามผู้รับจ้าง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:00 น.
ปรับปรุง: 19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:00 น.


รฟท.เปิดขายซองประมูลรถไฟทางคู่ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” ชิงเค้กก่อสร้าง 3 สัญญา วงเงิน 7.2 หมื่นล้าน เคาะราคา e-bidding 18 พ.ค. ส่วน “บ้านไผ่-นครพนม” แบ่งงานเป็น 2 สัญญา ขายซอง 24 มี.ค. ตั้งเป้าลงนามได้ใน ส.ค. 64 ใช้เวลาก่อสร้าง 42 เดือน - 72 เดือน

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า หลังจาก รฟท.ได้เปิดรับฟังคำวิจารณ์ร่างขอบเขตของงาน (TOR) ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการทางรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. กรอบวงเงินรวม 72,920 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ไปตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2563 โดยได้มีการรับฟังคำวิจารณ์ร่างTOR และนำมาปรับปรุงรวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง จนได้ TOR ที่สมบูรณ์แล้ว ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. กรอบวงเงินรวม 55,458 ล้านบาท ซึ่งเปิดรับฟังคำวิจารณ์เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2563 อยู่ในขั้นตอนการสรุป TOR ฉบับสมบูรณ์ซึ่ง รฟท.ได้รายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.รับทราบเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2564 แล้ว โดยมีเป้าหมายจะได้ตัวผู้รับจ้างทั้ง 2 โครงการภายในปีนี้
ล่าสุด รฟท.ได้มีการประกาศขายเอกสารประกวดราคา รถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ แล้ว โดยเผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคา วันที่ 19 มี.ค. - 17 พ.ค. 2564 และกำหนดให้กรอบเวลาในการประกวดราคา ให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจัดทำเอกสารข้อเสนอ วันที่ 19 มี.ค. - 17 พ.ค.2564 โดยผู้ประสงค์จะเสนอราคาส่งคำถามผ่านทางอีเมลการรถไฟฯ วันที่ 19 มี.ค. - 2 เม.ย. 2564 การรถไฟฯตอบคำถามในระบบเครือข่ายสาระสนเทศของกรมบัญชีกลางและของการรถไฟวันที่ 5 เม.ย. - 11 พ.ค. 2564

ให้ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 18 พ.ค. 2564 ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 19 พ.ค. 2564 วางหลักการประกันเสนอราคาวันที่ 18 พ.ค. 2564 คณะกรรมการ พิจารณาเห็นชอบ วันที่ 24 มิ.ย. - 8 ก.ค. 2564 ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาวันที่ 9 ก.ค. 2564 และ ลงนามในสัญญาวันที่ 2 ส.ค. 2564
โดยสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ แบ่งการก่อสร้าง 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599.16 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 7 กม. พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมทั้งสายทาง งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง
โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 3,989 ล้านบาท มีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 403 ล้านบาท ซึ่ง รฟท.จะสำรวจและเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ และทยอยส่งมอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างภายในเวลา 24 เดือนนับแต่วันที่ผู้รับจ้างได้รับแจ้งให้เริ่มทำงานจาก รฟท. โดยมีระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 72 เดือน (6 ปี)

สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913.78 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้าง อุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 3 กม. งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 72 เดือน

โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 4,037 ล้านบาท มีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 182 ล้านบาท
สัญญา 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. ราคากลาง 19,406.31 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟระยะทาง 3 กม. งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้าง ไม่เกิน 72 เดือน

ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกวา 2,910 ล้านบาท มีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 163 ล้านบาท

สาย “บ้านไผ่-นครพนม” ขายซอง 26 มี.ค. คาดลงนามผู้รับเหมา ส.ค. 64



สำหรับโครงการก่อทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงินรวม 55,458 ล้านบาท จำนวน 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กม. ราคากลาง 27,123.62 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 175 กม. ราคากลาง 28,333.93 ล้านบาท คณะกรรมการทีโออาร์นำทีโออาร์เผยแพร่ทางเว็บไซต์ครั้งที่ 3 วันที่ 4- 9 มีนาคม 2564 และจะประกาศและเอกสารประกวดราคา ในวันที่ 26 มี.ค. - 24 พ.ค. 2564 กำหนดให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจัดทำเอกสารข้อเสนอ วันที่ 26 มี.ค. - 24 พ.ค. 2564

ผู้ประสงค์จะเสนอราคาส่งคำถามผ่านทางอีเมลการรถไฟฯ วันที่ 26 มี.ค. - 9 เม.ย. 2564 การรถไฟฯ ตอบคำถามในระบบเครือข่ายสาระสนเทศของกรมบัญชีกลางและของการรถไฟวันที่ 12 เม.ย. - 17 พ.ค. 2564

ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 25 พ.ค. 2564 ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 27 พ.ค. 2564 วางหลักการประกันเสนอราคาวันที่ 25 พ.ค. 2564 พิจารณาเห็นชอบ วันที่ 1-22 ก.ค. 2564 ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาวันที่ 23 ก.ค. 2564 ลงนามในสัญญาวันที่ 17 ส.ค. 2564

Wisarut wrote:
รฟท.เปิดขายซอง TOR สร้างทางรถไฟ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” 7.29 หมื่นล้านวันนี้

19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 11:45 น.


รฟท.จะเปิดขายซองประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง รวม 1.28 แสนลบ.คาดเสร็จในปีนี้
ข่าวทั่วไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:22 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 22/03/2021 3:00 pm    Post subject: Reply with quote

ได้นั่งแน่! 2 รถไฟทางคู่ “เหนือ-อีสาน” รฟท.เปิดประมูลปีนี้
หน้าอสังหาริมทรัพย์
20 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 12:07 น.


ที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ดรฟท.) เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 เห็นชอบให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ออกประกาศประกวดราคา รถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323กิโลเมตร (กม.) วงเงินรวม 72,920 ล้านบาท และรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงินรวม 55,458 ล้าน เมื่อวันที่19มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาหลัง เปิดรับฟังคำวิจารณ์ร่าง หลักเกณฑ์เงื่อนไขการประมูลหรือ TOR เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรฟท.ระบุว่า ได้ประกาศประกวดราคา โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) และหลังจากนั้นจะประกาศประกวดราคา สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ในลำดับต่อไป โดยมีเป้าหมายจะได้ตัวผู้รับจ้างทั้ง 2 โครงการภายในปีนี้


โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ แบ่งการก่อสร้าง 3 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 7 กม. พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมทั้งสายทาง งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทางโดยรฟท.ทยอยส่งมอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างภายในเวลา 24 เดือนนับแต่วันที่ผู้รับจ้างได้รับแจ้งให้เริ่มทำงานจาก รฟท. โดยมีระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 72 เดือน (6 ปี)
สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้าง อุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 3 กม. งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ(Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 72 เดือน
สัญญา 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. ราคากลาง 19,406 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟระยะทาง 3 กม. งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้าง ไม่เกิน 72 เดือน

ทั้งนี้ รฟท.ออกประกาศ การประกวดราคา e-bidding สัญญา 1-3 โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของโดยได้เผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคา วันที่ 19 มีนาคม ถึง 17 พฤษภาคม 2564 ซึ่งผู้ประสงค์จะเสนอราคาจัดทำเอกสารข้อเสนอ วันที่ 19 มีนาคม ถึง 17 พฤษภาคม 2564กำหนดวันยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 18 พฤษภาคม 64 และ ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 19 พฤษภาคม 64 ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 และลงนามในสัญญาวันที่ 2 สิงหาคม 2564โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. จำนวน 2 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กม. ราคากลาง 27,123 ล้านบาท รูปแบบก่อสร้างทางรถไฟใหม่เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ ก่อสร้างสถานี และ Stabling Yard ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้าง ไม่เกิน 48 เดือน (4 ปี)
สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 175 กม. ราคากลาง 28,333 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ ก่อสร้างสถานี และ Stabling Yard ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้าง ไม่เกิน 48 เดือน (4 ปี)

ส่วนการประกวดราคา e-bidding สัญญา 1 – 2 สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สถานะปัจจุบัน คณะกรรมการทีโออาร์นำทีโออาร์เผยแพร่ทางเว็บไซต์ครั้งที่ 3 วันที่ 4- 9 มีนาคม 2564 และจะเผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคา วันที่ 26 มีนาคมถึง 24 พฤษภาคม 2564 ซึ่งผู้ประสงค์จะเสนอราคาจัดทำเอกสารข้อเสนอ วันที่ 26 มีนาคมถึง 24 พฤษภาคม 2564กำหนดยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 25 พฤษภาคม 2564และยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 27 พฤษภาคม 2564 กำหนดประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 และลงนามในสัญญาวันที่ 17 สิงหาคม 2564

Wisarut wrote:
เริ่มยกแรก! ชิงเค้กทางคู่ “เด่นชัย-เชียงของ” 7.29 หมื่นล. ขายซอง 3 สัญญา 19 มี.ค. ตั้งเป้า ส.ค.ลงนามผู้รับจ้าง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:00 น.
ปรับปรุง: 19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:00 น.


รฟท.เปิดขายซอง TOR สร้างทางรถไฟ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” 7.29 หมื่นล้านวันนี้

19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 11:45 น.


รฟท.จะเปิดขายซองประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง รวม 1.28 แสนลบ.คาดเสร็จในปีนี้
ข่าวทั่วไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
19 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:22 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/03/2021 12:51 pm    Post subject: Reply with quote

http://procurement.railway.co.th/auction/system/download/docbidding/2564/BD6442007.pdf

ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.05/ปก./2564

การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะ ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ ๑ ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๗,๑๒๓,๖๒๐,๐๐๐.๐๐ บาท (สองหมื่นเจ็ดพันหนึ่งร้อยยี่สิบสามล้านหกแสนสองหมื่นบาทถ้วน)

สัญญาที่ ๑ ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก

ราคากลาง 27,123,620,000.00 บาท

ผู้มีสิทธิเสนอราคา จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
๑. มีความสามารถตามกฎหมาย
๒. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
๓. ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ
๔. ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
๕. ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของหน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย
๖. มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
๗. เป็นนิติบุคคลผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
๘. ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอราคารายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ณ วันประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้
๙. ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น
๑๐. ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ในวงเงินไม่น้อยกว่า ๔,๐๖๘,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท (สี่พันหกสิบแปดล้านบาทถ้วน) และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเชื่อถือ
๑๑. ผู้ยื่นข้อเสนอที่เสนอราคาในรูปแบบของกิจการร่วมค้า ต้องเป็นกิจการที่มีข้อตกลงระหว่างผู้เข้าร่วมค้าเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะดำเนินการร่วมกันเป็นทางการค้าหรือหากำไร ระหว่างบริษัทกับบริษัท บริษัทกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือระหว่างบริษัทและ/หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกับนิติบุคคลอื่น หรือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ โดยข้อตกลงนั้นอาจกำหนดให้มีผู้เข้าร่วมค้าหลักก็ได้
๑๒. ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง
๑๓. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง
๑๔. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องลงนามในข้อตกลงคุณธรรม กรณีโครงการที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (คณะกรรมการ ค.ป.ท.) ให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม
๑๕. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ ๑ ถึง ๑๔ และมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังนี้
(๑) ผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๔,๐๖๘,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (สี่พันหกสิบแปดล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
(๒) ผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยเป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่าร้อยละ ๕๐ (๕๐%) โดยผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) จะต้องมีสัดส่วนการร่วมค้ามากที่สุดและสัดส่วนนี้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งในวันยื่นเอกสารประกวดราคา จะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า สำหรับโครงการก่อสร้างงานสัญญาที่ ๑ ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ซึ่งต้องชี้ชัดถึงสัดส่วนของการร่วมค้าของแต่ละนิติบุคคลในกลุ่ม และต้องระบุข้อความไว้ด้วยว่า สมาชิกทุกรายของกิจการร่วมค้ายินยอมผูกพันตนในการที่จะรับผิดชอบร่วมกันและแทนกันในหน้าที่ความรับผิดชอบและหนี้ทั้งปวงต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยในทุกกรณี (Shall be jointly and severally responsible for all cases) มิฉะนั้นแล้วการรถไฟแห่งประเทศไทยจะไม่รับพิจารณาข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้น
กิจการร่วมค้าต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๔,๐๖๘,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (สี่พันหกสิบแปดล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
โดยสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) เป็นผลงานของกิจการร่วมค้าได้ และผู้เข้าร่วมค้ารายอื่นๆ ของกิจการร่วมค้าทุกรายต้องมีผลงานอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
ก) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๙๐๐,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (เก้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
ข) ผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๙๐๐,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (เก้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
กรณีผู้ร่วมค้ารายอื่นๆ ไม่มีผลงานตามข้อ ก) หรือ ข) ข้างต้น ผู้ร่วมค้ารายนั้นต้องเป็นผู้ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างไว้กับกรมบัญชีกลางตามสาขางานก่อสร้างทาง หรือสาขางานก่อสร้างสะพาน หรือสาขางานก่อสร้างทางและสะพานพิเศษ
โดย ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) หมายถึง ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ หรือ ผลงานก่อสร้างทางรถไฟฟ้า หรือ ผลงานก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง หรือ ผลงานงานปรับปรุงทางรถไฟ (Track Rehabilitation) หรือผลงานงานเสริมความมั่นคงโครงสร้างทาง (Track Strengthening) หรือผลงานก่อสร้างในลักษณะเดียวกัน โดยผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ผลงานก่อสร้างทางรถไฟฟ้า และผลงานก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง ต้องมีงานติดตั้งระบบราง (Track Work) รวมอยู่ในสัญญา ซึ่งผลงานดังกล่าวข้างต้นสามารถเป็นรูปแบบเสมอระดับ (At Grade) หรือยกระดับ (Elevated) หรือใต้ดิน (Underground)
ผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) หมายถึง ผลงานก่อสร้างถนน หรือผลงานก่อสร้างสะพาน หรือผลงานก่อสร้างทางลอด หรือผลงานก่อสร้างทางยกระดับ หรือผลงานก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงรถไฟหรือรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้าจะปฎิบัติตามแนวทางหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ที่ กค (กวจ) ๐๔๐๕.๒/ว ๕๘๑ ลงวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๓
๑๖. การพิจารณาผลงานตามข้อ ๑๐ และ ๑๕ จะยึดถือหลักเกณฑ์ ดังนี้
(๑) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) และผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) ที่นำมายื่นให้ใช้ผลงานภายในประเทศ และต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเชื่อถือ
(๒) ผลงานที่นำมายื่นต้องเป็นผลงานที่แล้วเสร็จตามเงื่อนไขสัญญาแล้ว โดยผลงานดังกล่าวต้องแล้วเสร็จเป็นเวลาไม่เกิน ๒๐ (ยี่สิบ) ปี นับถึงวันที่ยื่นข้อเสนอ โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและหนังสือรับรองผลงานที่ระบุมูลค่าของงานที่แล้วเสร็จ หากหนังสือรับรองผลงานไม่ได้ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องแสดงเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จมาด้วย
(๓) กรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอใช้ผลงานในลักษณะเป็นกิจการร่วมค้าหรือค้าร่วม (Joint Venture หรือ Consortium) ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องแสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผลงานในอดีต โดยต้องมีหนังสือรับรองที่ระบุมูลค่าของงานซึ่งออกโดยผู้ว่าจ้าง และสำเนาข้อตกลงร่วมค้าที่แสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผู้ยื่นข้อเสนอและสำเนาสัญญาจ้าง หากหนังสือรับรองผลงานไม่ได้ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องแสดงเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จมาด้วย
(๔) หนังสือรับรองผลงานและเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จตามข้อ ๑๖ (๑), (๒), (๓) ต้องออกโดยหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้มีอำนาจของหน่วยงานที่ว่าจ้าง และต้องระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จ และแสดงรายละเอียดของงานมาด้วย ซึ่งหากหนังสือรับรองหรือเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จไม่ได้แสดงรายละเอียดของงาน ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องยื่นเอกสารหลักฐานอื่นที่ทำให้การรถไฟฯ เชื่อถือและสามารถตรวจสอบรายละเอียดของงานที่สอดคล้องกับรายละเอียดคุณสมบัติผลงานตามที่กำหนดในข้อ ๑๐ และ ๑๕
(๕) หลักฐานเอกสารผลงานหรือเอกสารใดๆ ที่นำมาเสนอจะต้องแปลเป็นภาษาไทย และ/หรือภาษาอังกฤษ และต้องผ่านการรับรองเอกสารจากสถานทูตหรือกงสุลของไทยที่มีเขตอาณาในประเทศนั้น ๆ ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการรับรองเอกสาร พ.ศ.๒๕๓๙
(๖) การใช้อัตราแลกเปลี่ยน ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันที่งานนั้นแล้วเสร็จ หรือวันที่ส่งมอบงานแล้วแต่กรณี สำหรับการคิดคำนวณมูลค่างานนั้นๆ
(๗) กรณียื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้า
(๗.๑) กรณีที่ข้อตกลงฯ กำหนดให้มีการมอบหมายผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้า การยื่นข้อเสนอดังกล่าวไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ
สำหรับข้อตกลงฯ ที่ไม่ได้กำหนดให้ผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ ผู้เข้าร่วมค้าทุกรายจะต้องลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้ผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้า
(๗.๒) ให้ผู้เข้าร่วมค้าที่ได้รับมอบหมายหรือมอบอำนาจตามข้อ (๗.๑) ดำเนินการซื้อและดาวน์โหลดเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จึงจะมีสิทธิ์ในการเข้ายื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้าได้
(๗.๓) กรณีผู้เข้าร่วมค้าใช้คุณสมบัติผลงานเป็นผู้ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างไว้กับกรมบัญชีกลางตามสาขางานก่อสร้างทาง หรือสาขางานก่อสร้างสะพาน หรือสาขางานก่อสร้างทางและสะพานพิเศษ ต้องยื่นเอกสารหลักฐานการขึ้นทะเบียนที่ประกาศล่าสุดมาด้วย
๑๗. ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับ ๓ ระบบหลักของงานอาณัติสัญญาณ ได้แก่
(๑) ระบบบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Based Interlocking: CBI System)
(๒) ระบบป้องกันเหตุอันตรายของขบวนรถโดยอัตโนมัติ (Automatic Train Protection: ATP) ตามมาตรฐาน European Train Control System (ETCS) Level ๑
(๓) ระบบควบคุมการเดินรถทางไกล (Centralised Traffic Control: CTC System)
​ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นเสนอเอกสารตามแบบฟอร์มที่กำหนด โดยให้ยื่นเสนอผลิตภัณฑ์ไม่เกิน ๒ ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่ละระบบหลัก พร้อมยื่นหนังสือรับรองผลการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ที่ยื่นเสนอจากผู้ผลิตรายเดียวกันไม่น้อยกว่า ๕ ปี และหนังสือยืนยันจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่โครงการฯ อนึ่งผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายสามารถยื่นเสนอผลิตภัณฑ์เดียวกันได้



ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. ถึง ๑๖.๓๐ น.
ผู้สนใจสามารถขอซื้อเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ในราคาชุดละ ๕๐,๐๐๐.๐๐ บาท ผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์และชำระเงินผ่านทางธนาคารในระหว่างวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔ โดยดาวน์โหลดเอกสารผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ได้ภายหลังจากชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้วจนถึงก่อนวันเสนอราคา
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.railway.co.th หรือ www.gprocurement.go.th หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข ๐๒-๒๒๐-๔๗๖๖ ในวันและเวลาราชการ
การยื่นข้อเสนอเอกสารส่วนที่ ๒ ตามที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ข้อ ๓.๒ (๖) ให้ทางผู้เสนอราคายื่นเอกสารพร้อมสรุปจำนวนเอกสารดังกล่าว โดยให้ลงลายมือชื่อของผู้ยื่นข้อเสนอ พร้อมประทับตราสำคัญของนิติบุคคล (ถ้ามี) กำกับในเอกสารต้นฉบับจำนวน ๑ (หนึ่ง) ชุด และถ่ายสำเนาจากเอกสารต้นฉบับจำนวน ๔ (สี่) ชุด เย็บเล่มเรียงลำดับ พร้อมจัดทำสำเนาเอกสารในรูปแบบ DVD จำนวน ๘ (แปด) ชุดและยื่นโดยผู้มีอำนาจเท่านั้น โดยยื่นในวันที่ ๑ (วันทำการ) นับถัดจากวันเสนอราคา ระหว่างเวลา ๙.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๕.๐๐ น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย ต่อคณะกรรมการประกวดราคา ณ ตึกพัสดุ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๓๐ หรือสถานที่อื่นตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนด และเมื่อพ้นกำหนดยื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์แล้ว คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด (การกำหนดวันส่ง ให้เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อ ๔๔ วรรค ๒ และ วรรค ๓) ในกรณีที่เอกสารต้นฉบับ หรือ สำเนา หรือ สำเนาเอกสารในรูปแบบ DVD มีความขัดหรือแย้งกัน ให้ถือเอกสารต้นฉบับเป็นสำคัญ
ผู้สนใจต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดและขอบเขตของงาน โปรดสอบถามมายัง การรถไฟแห่งประเทศไทย ผ่านทางอีเมล์ 2tracksnew.srt@gmail.com หรือช่องทางตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดภายในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๔ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะชี้แจงรายละเอียดดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ www.railway.co.th และ www.gprocurement.go.th ในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔

ประกาศ ณ วันที่ 26 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2564

( ลงนาม ) นิรุฒ มณีพันธ์
( นิรุฒ มณีพันธ์ )
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย


สำเนาถูกต้อง
( นายธีระ รุ่งโรจน์สุวรรณ )
วิศวกรกำกับการกองมาตรฐานงานวิศวกรรมโยธา
26/03/2564 10:51:16
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/03/2021 12:53 pm    Post subject: Reply with quote

http://procurement.railway.co.th/auction/system/download/docbidding/2564/BD6442008.pdf

( สำเนา )

ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ ๒ ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ ๓ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.06/ปก./2564

การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะ ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ ๒ ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ ๓ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๘,๓๓๓,๙๓๐,๐๐๐.๐๐ บาท (สองหมื่นแปดพันสามร้อยสามสิบสามล้านเก้าแสนสามหมื่นบาทถ้วน)

สัญญาที่ ๒ ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ ๓

ราคากลาง 28,333,930,000.00 บาท

ผู้มีสิทธิเสนอราคา จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
๑. มีความสามารถตามกฎหมาย
๒. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
๓. ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ
๔. ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
๕. ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของหน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย
๖. มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
๗. เป็นนิติบุคคลผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
๘. ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอราคารายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ณ วันประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้
๙. ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น
๑๐. ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ในวงเงินไม่น้อยกว่า ๔,๒๕๐,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท (สี่พันสองร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเชื่อถือ
๑๑. ผู้ยื่นข้อเสนอที่เสนอราคาในรูปแบบของกิจการร่วมค้า ต้องเป็นกิจการที่มีข้อตกลงระหว่างผู้เข้าร่วมค้าเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะดำเนินการร่วมกันเป็นทางการค้าหรือหากำไร ระหว่างบริษัทกับบริษัท บริษัทกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือระหว่างบริษัทและ/หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกับนิติบุคคลอื่น หรือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ โดยข้อตกลงนั้นอาจกำหนดให้มีผู้เข้าร่วมค้าหลักก็ได้
๑๒. ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง
๑๓. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง
๑๔. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องลงนามในข้อตกลงคุณธรรม กรณีโครงการที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (คณะกรรมการ ค.ป.ท.) ให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม
๑๕. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ ๑ ถึง ๑๔ และมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังนี้
(๑) ผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๔,๒๕๐,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (สี่พันสองร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
(๒) ผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยเป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่าร้อยละ ๕๐ (๕๐%) โดยผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) จะต้องมีสัดส่วนการร่วมค้ามากที่สุดและสัดส่วนนี้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งในวันยื่นเอกสารประกวดราคา จะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า สำหรับโครงการก่อสร้างงานสัญญาที่ ๒ ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ ๓ ซึ่งต้องชี้ชัดถึงสัดส่วนของการร่วมค้าของแต่ละนิติบุคคลในกลุ่ม และต้องระบุข้อความไว้ด้วยว่า สมาชิกทุกรายของกิจการร่วมค้ายินยอมผูกพันตนในการที่จะรับผิดชอบร่วมกันและแทนกันในหน้าที่ความรับผิดชอบและหนี้ทั้งปวงต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยในทุกกรณี (Shall be jointly and severally responsible for all cases) มิฉะนั้นแล้วการรถไฟแห่งประเทศไทยจะไม่รับพิจารณาข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้น
กิจการร่วมค้าต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๔,๒๕๐,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (สี่พันสองร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
โดยสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) เป็นผลงานของกิจการร่วมค้าได้ และผู้เข้าร่วมค้ารายอื่นๆ ของกิจการร่วมค้าทุกรายต้องมีผลงานอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
ก) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๙๐๐,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (เก้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
ข) ผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๙๐๐,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (เก้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
กรณีผู้ร่วมค้ารายอื่นๆ ไม่มีผลงานตามข้อ ก) หรือ ข) ข้างต้น ผู้ร่วมค้ารายนั้นต้องเป็นผู้ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างไว้กับกรมบัญชีกลางตามสาขางานก่อสร้างทาง หรือสาขางานก่อสร้างสะพาน หรือสาขางานก่อสร้างทางและสะพานพิเศษ
โดย ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) หมายถึง ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ หรือ ผลงานก่อสร้างทางรถไฟฟ้า หรือ ผลงานก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง หรือ ผลงานงานปรับปรุงทางรถไฟ (Track Rehabilitation) หรือผลงานงานเสริมความมั่นคงโครงสร้างทาง (Track Strengthening) หรือผลงานก่อสร้างในลักษณะเดียวกัน โดยผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ผลงานก่อสร้างทางรถไฟฟ้า และผลงานก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง ต้องมีงานติดตั้งระบบราง (Track Work) รวมอยู่ในสัญญา ซึ่งผลงานดังกล่าวข้างต้นสามารถเป็นรูปแบบเสมอระดับ (At Grade) หรือยกระดับ (Elevated) หรือใต้ดิน (Underground)
ผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) หมายถึง ผลงานก่อสร้างถนน หรือผลงานก่อสร้างสะพาน หรือผลงานก่อสร้างทางลอด หรือผลงานก่อสร้างทางยกระดับ หรือผลงานก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงรถไฟหรือรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้าจะปฎิบัติตามแนวทางหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ที่ กค (กวจ) ๐๔๐๕.๒/ว ๕๘๑ ลงวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๓
๑๖. การพิจารณาผลงานตามข้อ ๑๐ และ ๑๕ จะยึดถือหลักเกณฑ์ ดังนี้
(๑) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) และผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) ที่นำมายื่นให้ใช้ผลงานภายในประเทศ และต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเชื่อถือ
(๒) ผลงานที่นำมายื่นต้องเป็นผลงานที่แล้วเสร็จตามเงื่อนไขสัญญาแล้ว โดยผลงานดังกล่าวต้องแล้วเสร็จเป็นเวลาไม่เกิน ๒๐ (ยี่สิบ) ปี นับถึงวันที่ยื่นข้อเสนอ โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและหนังสือรับรองผลงานที่ระบุมูลค่าของงานที่แล้วเสร็จ หากหนังสือรับรองผลงานไม่ได้ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องแสดงเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จมาด้วย
(๓) กรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอใช้ผลงานในลักษณะเป็นกิจการร่วมค้าหรือค้าร่วม (Joint Venture หรือ Consortium) ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องแสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผลงานในอดีต โดยต้องมีหนังสือรับรองที่ระบุมูลค่าของงานซึ่งออกโดยผู้ว่าจ้าง และสำเนาข้อตกลงร่วมค้าที่แสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผู้ยื่นข้อเสนอและสำเนาสัญญาจ้าง หากหนังสือรับรองผลงานไม่ได้ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องแสดงเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จมาด้วย
(๔) หนังสือรับรองผลงานและเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จตามข้อ ๑๖ (๑), (๒), (๓) ต้องออกโดยหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้มีอำนาจของหน่วยงานที่ว่าจ้าง และต้องระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จ และแสดงรายละเอียดของงานมาด้วย ซึ่งหากหนังสือรับรองหรือเอกสารหลักฐานอื่นที่ระบุมูลค่าผลงานที่แล้วเสร็จไม่ได้แสดงรายละเอียดของงาน ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องยื่นเอกสารหลักฐานอื่นที่ทำให้การรถไฟฯ เชื่อถือและสามารถตรวจสอบรายละเอียดของงานที่สอดคล้องกับรายละเอียดคุณสมบัติผลงานตามที่กำหนดในข้อ ๑๐ และ ๑๕
(๕) หลักฐานเอกสารผลงานหรือเอกสารใดๆ ที่นำมาเสนอจะต้องแปลเป็นภาษาไทย และ/หรือภาษาอังกฤษ และต้องผ่านการรับรองเอกสารจากสถานทูตหรือกงสุลของไทยที่มีเขตอาณาในประเทศนั้น ๆ ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการรับรองเอกสาร พ.ศ.๒๕๓๙
(๖) การใช้อัตราแลกเปลี่ยน ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันที่งานนั้นแล้วเสร็จ หรือวันที่ส่งมอบงานแล้วแต่กรณี สำหรับการคิดคำนวณมูลค่างานนั้นๆ
(๗) กรณียื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้า
(๗.๑) กรณีที่ข้อตกลงฯ กำหนดให้มีการมอบหมายผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้า การยื่นข้อเสนอดังกล่าวไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ
สำหรับข้อตกลงฯ ที่ไม่ได้กำหนดให้ผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ ผู้เข้าร่วมค้าทุกรายจะต้องลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้ผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้า
(๗.๒) ให้ผู้เข้าร่วมค้าที่ได้รับมอบหมายหรือมอบอำนาจตามข้อ (๗.๑) ดำเนินการซื้อและดาวน์โหลดเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จึงจะมีสิทธิ์ในการเข้ายื่นข้อเสนอในนามกิจการร่วมค้าได้
(๗.๓) กรณีผู้เข้าร่วมค้าใช้คุณสมบัติผลงานเป็นผู้ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างไว้กับกรมบัญชีกลางตามสาขางานก่อสร้างทาง หรือสาขางานก่อสร้างสะพาน หรือสาขางานก่อสร้างทางและสะพานพิเศษ ต้องยื่นเอกสารหลักฐานการขึ้นทะเบียนที่ประกาศล่าสุดมาด้วย
๑๗. ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับ ๓ ระบบหลักของงานอาณัติสัญญาณ ได้แก่
(๑) ระบบบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Based Interlocking: CBI System)
(๒) ระบบป้องกันเหตุอันตรายของขบวนรถโดยอัตโนมัติ (Automatic Train Protection: ATP) ตามมาตรฐาน European Train Control System (ETCS) Level ๑
(๓) ระบบควบคุมการเดินรถทางไกล (Centralised Traffic Control: CTC System)
ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นเสนอเอกสารตามแบบฟอร์มที่กำหนด โดยให้ยื่นเสนอผลิตภัณฑ์ไม่เกิน ๒ ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่ละระบบหลัก พร้อมยื่นหนังสือรับรองผลการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ที่ยื่นเสนอจากผู้ผลิตรายเดียวกันไม่น้อยกว่า ๕ ปี และหนังสือยืนยันจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่โครงการฯ อนึ่งผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายสามารถยื่นเสนอผลิตภัณฑ์เดียวกันได้



ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. ถึง ๑๖.๓๐ น.
ผู้สนใจสามารถขอซื้อเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ในราคาชุดละ ๕๐,๐๐๐.๐๐ บาท ผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์และชำระเงินผ่านทางธนาคารในระหว่างวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔ โดยดาวน์โหลดเอกสารผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ได้ภายหลังจากชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้วจนถึงก่อนวันเสนอราคา
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.railway.co.th หรือ www.gprocurement.go.th หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข ๐๒-๒๒๐-๔๗๖๖ ในวันและเวลาราชการ
การยื่นข้อเสนอเอกสารส่วนที่ ๒ ตามที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ข้อ ๓.๒ (๖) ให้ทางผู้เสนอราคายื่นเอกสารพร้อมสรุปจำนวนเอกสารดังกล่าว โดยให้ลงลายมือชื่อของผู้ยื่นข้อเสนอ พร้อมประทับตราสำคัญของนิติบุคคล (ถ้ามี) กำกับในเอกสารต้นฉบับจำนวน ๑ (หนึ่ง) ชุด และถ่ายสำเนาจากเอกสารต้นฉบับจำนวน ๔ (สี่) ชุด เย็บเล่มเรียงลำดับ พร้อมจัดทำสำเนาเอกสารในรูปแบบ DVD จำนวน ๘ (แปด) ชุดและยื่นโดยผู้มีอำนาจเท่านั้น โดยยื่นในวันที่ ๑ (วันทำการ) นับถัดจากวันเสนอราคา ระหว่างเวลา ๙.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๕.๐๐ น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย ต่อคณะกรรมการประกวดราคา ณ ตึกพัสดุ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๓๐ หรือสถานที่อื่นตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนด และเมื่อพ้นกำหนดยื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์แล้ว คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด (การกำหนดวันส่ง ให้เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อ ๔๔ วรรค ๒ และ วรรค ๓) ในกรณีที่เอกสารต้นฉบับ หรือ สำเนา หรือ สำเนาเอกสารในรูปแบบ DVD มีความขัดหรือแย้งกัน ให้ถือเอกสารต้นฉบับเป็นสำคัญ
ผู้สนใจต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดและขอบเขตของงาน โปรดสอบถามมายัง การรถไฟแห่งประเทศไทย ผ่านทางอีเมล์ 2tracksnew.srt@gmail.com หรือช่องทางตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดภายในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๔ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะชี้แจงรายละเอียดดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ www.railway.co.th และ www.gprocurement.go.th ในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔

ประกาศ ณ วันที่ 26 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2564

( ลงนาม ) นิรุฒ มณีพันธ์
( นิรุฒ มณีพันธ์ )
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย


สำเนาถูกต้อง
( นายธีระ รุ่งโรจน์สุวรรณ )
วิศวกรกำกับการกองมาตรฐานงานวิศวกรรมโยธา
26/03/2564 11:04:01
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 26/04/2021 5:24 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.คาดได้ผู้ชนะประมูลรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงของ,สายบ้านไผ่-นครพนม ก.ค.นี้
ข่าวเศรษฐกิจ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
จันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 เวลา 11:11น.


นายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยกับ”อินโฟเควสท์”ว่ม รฟท.อย่ระหว่างการขายเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงินรวม 72,920 ล้านบาท และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.วงเงินรวม 55,458 ล้านบาท ซึ่งจะใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยประเมินว่าน่าจะมีเอกชนเข้าร่วมประมูล 6 ราย หรือ 6 กลุ่ม ในแต่ละโครงการ
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีทั้งหมด 3 สัญญา จะสิ้นสุดวันขายเอกสารประกวดราคาในวันที่ 17 พ.ค.64 กำหนดยื่นเอกสารรวมทั้งซองเสนอราคาในวันที่ 18 พ.ค.64 โดยจะตรวจข้อเสนอทางเทคนิคก่อนถ้าผ่านจะพิจารณาด้านราคาโดยคัดเลือกผู้เสนอราคาต่ำสุด คาดว่าจะประกาศผู้ชนะการประมูลในวันที่ 8 ก.ค. 64

ADVERTISEMENT


ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ที่มี 2 สัญญา จะสิ้นสุดการขายเอกสารประกวดราคาในวันที่ 24 พ.ค.และยื่นเอกสารประกวดราคาในวันที่ 25 พ.ค.64 และคาดว่าจะประกาศผู้ชนะการประมูลในวันที่ 15 ก.ค.64

นายสุรณเดช กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในช่วงนี้ ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการประกวดราคา เพราะยื่นข้อเสนอผ่านระบบออนไลน์ เพราะใช้ระบบ e-bidding ของกรมบัญชีกลาง ส่วนราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นก็ไม่น่ามีผลกระทบมากนักเพราะโครงการรัฐให้เงินชดเชยค่างานก่อสร้าง ตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) หรือ เพิ่มขึ้นหรือลดลง 4% ของราคาที่ยื่นข้อเสนอ แต่หากราคาปรับขึ้นมาสูงกว่า 4% เอกชนก็ต้องรับภาระเอง

โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ แบ่งการก่อสร้าง 3 สัญญา ได้แก่

สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. ราคากลาง 19,406 ล้านบาท

ส่วนโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. จำนวน 2 สัญญา ได้แก่

สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กม. ราคากลาง 27,123 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 175 กม. ราคากลาง 28,333 ล้านบาท

สำหรับโครงการงานก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) หรือรถไฟไทย-จีน สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.8 กม. นายสุรณเดช กล่าวว่า กลุ่มกิจการร่วมค้า SPTK ประกอบด้วยบจ.ซิโนไฮโดร, บจ.สหการวิศวกร และ บจ.ทิพากร เป็นผู้ชนะประมูลในวงเงิน 8,626.8 ล้านบาท แต่เอกชนไม่ยืนราคา จึงได้เรียกรายถัดไป คือ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ซึ่งตกลงในราคายื่นมา 10,570 ล้านบาท และกำลังนำเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท.พิจารณาอนุมัติต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 26, 27, 28 ... 43, 44, 45  Next
Page 27 of 45

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©