ล่องใต้ตอนที่ 2 : เช้า สาย บ่าย เย็นที่สถานีชุมพร

[ExtendeD]

เดินมาตามชานชาลา หลังจากผ่านชานชาลาบริเวณที่มีหลังคามาไม่ไกล ก็จะมองเห็นตัวอาคารสถานีชุมพรได้แบบเต็ม ๆ ตา อาคารนี้เป็นอาคาร 2 ชั้นนะครับ



ใกล้ ๆ ต้นไม้ทางขวาจะเห็นเหมือนมีห้องอยู่ 1 ห้อง ถ้าหากเราต้องการจะฝากสิ่งของไปกับขบวนรถ ก็มาติดต่อที่ห้องนี้ได้เลยครับ

เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงบริเวณที่เห็นอยู่ในรูป จุดนี้เป็นชานชาลาทางด้านทิศเหนือแล้วครับ ทางซ้ายจะเป็นที่นั่งพักของผู้โดยสาร แต่ถ้ามองไกลออกไปจะเป็นพื้นที่ของร้านขายอาหารอยู่ด้านหลังชานชาลาครับ



บรรยากาศบริเวณนี้จะคึกคักมากในช่วงเวลากลางคืนที่มีขบวนรถด่วน รถเร็ววิ่งมาจอดที่สถานีนี้หลายขบวน ที่ขึ้นชื่อนักหนาก็คือ " ข้าวต้มไก่ " ไม่รู้จะมีใครคิดเหมือนผมหรือเปล่านะครับ ช่วงที่มาถึงสถานีชุมพรตอนขากลับ เหมือนกับมาถึงสถานีนครราชสีมาเลย ไม่ขยายความแล้วกันนะครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ป้ายบอกสถานีถัดไป ที่อยู่ในบริเวณชานชาลาทางด้านทิศเหนือครับ




ถ้าหันหน้าเข้าหาป้ายบอกสถานีถัดไปที่เห็นไปข้างบน มองทางซ้ายก็จะเห็นป้ายประเพณีทางด้านทิศเหนือ แล้วข้างหลังชานชาลาบริเวณนั้นก็จะเป็นที่ตั้งของ " ที่ทำการงานควบคุมการเดินรถแขวงชุมพร " ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินผ่านป้ายประเพณีไป ก็จะออกมาถึงบริเวณชานชาลาที่ไม่มีหลังคา แต่ชานชาลาบริเวณนี้ก็ยังคงมีเก้าอี้ให้ผู้โดยสารนั่งรอ วางเรียงกันไปอีกหลายตัวครับ และที่เห็นในรูปก็คือ บรรยากาศกว้าง ๆ ของสถานีชุมพร มองไปทางทิศใต้ครับ




เดินต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับป้ายชื่อสถานีอีก 1 ป้าย ถ้ามายืนบริเวณที่ผมกำลังถ่ายรูปนี้อยู่ ทางด้านซ้ายมือของผมจะมีบ้านพักของครฟ. อยู่หลายหลังครับ เห็นแล้วก็อดนึกถึงตอนที่ยังอยู่ที่บ้านพักมักกะสันไม่ได้ นี่ก็ผ่านมาจะ 3 ปีแล้ว เร็วจริง ๆ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เพียงเท่านี้ก็คงจะได้ชมบรรยากาศบริเวณชานชาลาของสถานีชุมพรกันเต็มที่แล้ว ต่อไปผมจะเดินไปที่บริเวณประแจตัวแรกทางด้านทิศเหนือครับ เพราะใกล้ ๆ กับประแจตัวนั้นมีอะไรน่าสนใจให้ดูด้วย ตามมาเลยครับ

ที่เห็นอยู่ในรูปนี้ก็คือ บริเวณปลายชานชาลาทางด้านทิศเหนือครับ ถ้ามองดี ๆ จะเห็นทางลักผ่านเล็ก ๆ อยู่ด้วย



เสาสัญญาณออกที่สถานีชุมพรจะมีด้านละ 4 ต้นครับ

มาถึงแล้วครับ ประแจตัวแรกทางด้านทิศเหนือของสถานีชุมพร สิ่งที่ผมจะพามาดูในตอนนี้ก็คือ สะพานเหล็กแบบแผงขึ้นแห่งนี้ล่ะครับ แต่ก่อนไปถึงสะพาน ทางขวามี " ป้ายหวีดรถจักรสำหรับถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ ไม่มีเครื่องกั้นถนน* " ปักอยู่ด้วย



* อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับป้ายสัญญาณต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจการรถไฟไทยได้จาก file signalsign.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ตัวสะพานแบบชัด ๆ ครับ สะพานแห่งนี้ เป็นสะพานเหล็กแบบแผงขึ้น จำนวน 6 Span มีตอม่อ 5 ต้น และรับน้ำหนักกดเพลาได้ 15 ตันครับ



จากที่เห็นในรูป ช่วง Span แรก ที่เป็นช่วงที่มีถนนที่ชื่อว่า " ถนนลอดทางรถไฟ " ลอดผ่านด้านใต้สะพาน จะไม่เหมือนกับช่วง Span ที่ 2 - 6 ครับ

ถ้าจะให้เดา ผมก็คิดว่าช่วง Span ที่มีถนนลอดผ่านข้างใต้นี้ อาจจะเป็นช่วงที่ทำเพิ่มขึ้นมาทีหลังก็เป็นได้ จะไปดูที่ nameplate ได้หรือเปล่าหนอ ว่า Span ช่วงไหนสร้างก่อนหรือหลัง เพราะถ้าสร้างพร้อมกันแล้ว รูปร่างของสะพานก็น่าจะออกมาเหมือนกันทั้งหมด แต่ถ้าช่วง Span แรกที่เห็น มีการนำสะพานจากที่อื่นมาเปลี่ยนกับของเดิม ก็เป็นอันจบกัน
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

มาดู nameplate ของช่วง Span แรกกันครับ ตัวอักษรไม่ชัด แต่อ่านได้ประมาณว่า Yokogawa Bridge Work จากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้สร้างช่วง Span แรกนี้ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2491 ( ค.ศ. 1948 ) ครับ



มาถึง nameplate ของช่วง Span ที่ 2 - 6 กันบ้างนะครับ Dayde จากประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1927 ( พ.ศ. 2470 ) ครับ



ถ้าไม่มีการนำตัวสะพานจากเส้นทางช่วงอื่นมาเปลี่ยนแทนสะพานที่เห็นอยู่ ก็อาจจะสรุปได้ว่า ช่วง Span ที่ 2 - 6 ได้ทำการก่อสร้างขึ้นก่อน โดยที่บริเวณที่เป็นช่วง Span ที่ 1 ในขณะนั้นอาจจะยังไม่มี " ถนนลอดทางรถไฟ " เกิดขึ้น ตามอย่างที่ผมเดาเอาไว้ก็เป็นได้ครับ รอให้เจ้าถิ่นมาตอบดีกว่า จะมีผ่านมาสักคนหรือเปล่านะ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ผมเดินผ่านมาจนถึงอีกฝั่งหนึ่งของสะพานแล้วครับ ถ้ามองย้อนกลับไปทางสถานีชุมพร ก็จะเห็นบรรยากาศแบบนี้



ใกล้ ๆ กับสะพานทางฝั่งนี้ จะมี " ป้ายเตือนระบุความเร็ว* " ปักอยู่



* อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับป้ายสัญญาณต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจการรถไฟไทยได้จาก file signalsign.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ผมพยายามหาที่ยืนบริเวณคอสะพาน เพื่อที่จะเก็บรูปด้านข้างของสะพานนี้ แต่แทบหาที่ยืนไม่ได้เลยครับ



รูปที่ถ่ายได้ในตอนนั้นก็เลยมองเห็นด้านข้างของสะพานไม่ชัดเท่าที่ควร มองซ้ายมองขวาหาทำเลใหม่ ผมก็เห็นว่ามีถนนเส้นหนึ่งตัดขนานกับทางรถไฟอยู่ใกล้ ๆ กัน ก็เลยเดินไปตามถนนลอดทางรถไฟ ไปที่สะพานเทศบาล 1 ที่อยู่ใกล้ ๆ กับสะพานแห่งนี้ และนี่คือรูปที่ผมถ่ายได้จากบนสะพานเทศบาล 1 ครับ จะเห็นด้านข้างของสะพาน รวมถึงตอม่อได้อย่างชัดเจน


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

บริเวณสะพานช่วงที่มี " ถนนลอดทางรถไฟ " อยู่ข้างใต้ครับ



เอาล่ะครับ เดินจนทั่วบริเวณนี้แล้ว ต่อไปผมก็จะเดินกลับไปอีกฝั่งหนึ่งของสถานีชุมพร เพราะทางด้านโน้น ก็มีสะพานอีก 1 แห่ง ที่ใหญ่กว่าสะพานนี้รอให้เราไปดูอยู่ครับ



ความหมายของป้ายที่เห็นอยู่ทางขวานี้ ก็คงจะเป็นการบอกว่าสถานีต่อไปที่ถัดจากสถานีชุมพร จะเริ่มใช้ห่วงทางสะดวกแล้วครับ ตั้งแต่ออกจากสถานีกรุงเทพมาตลอดทาง ทุกสถานีก็ใช้สัญญาณไฟสีทั้งหมดจะมาสิ้นสุดก็ที่สถานีชุมพรนี่ล่ะครับ

ดาราหน้ากล้องหัวเกรียนปรากฎตัวอีกแล้ว เดินไม่รอเลย
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ก่อนที่เราจะเดินกลับไปที่สถานี ลองมาดูที่รางประธานกันก่อน รางประธานที่สถานีชุมพรนี้เป็นรางเชื่อม 100 ปอนด์ หมอนแบบ Mono Block ครับ



มองไปข้างหน้าจะเห็น ประแจตัวแรกทางด้านทิศเหนือ อยู่ใกล้ ๆ กับหลักกิโลเมตรที่ 468


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.