แว้บไปบ้านท่านประธาน RFT (ขุดกรุ)

[KTTA-50-L]

สะพานใหม่ที่สร้างคู่ขนานกับสะพานเสาวภา ทอดตัวข้ามแม่น้ำนครชัยศรี



สถานีนครชัยศรี ตั้งอยู่ที่ กม.35.13 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 3 เลขรหัส 4013 ตัวย่อ รช. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลหมู่ชนิดบังคับด้วยเครื่องกลไฟฟ้าสัมพันธ์ หรือสายลวด กับสัญญาณไฟสี ก.2 และใช้ป้ายเขตสถานี ง. (ในปี พ.ศ.2548) ที่ตั้ง ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

[KTTA-50-L]

สถานีท่าแฉลบ ตั้งอยู่ที่ กม.40.02 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4014 ตัวย่อ ฉล. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลหมู่ชนิดบังคับด้วยเครื่องกลไฟฟ้าสัมพันธ์ หรือสายลวด กับสัญญาณไฟสี ก.2 และใช้ป้ายเขตสถานี ง. (ในปี พ.ศ.2548) ที่ตั้ง ต.ศรีษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม



อันนี้ตัวจริงครับ นายสถานีกับพนักงานสถานีอยู่กันที่นี่ครับ ทั้งให้สัญญาณ สับประแจ ขายตั๋ว อันบนเป็นแค่ห้องเก็บของ เหอๆๆ อยู่ถัดจากตัวอาคารสถานีใหม่ไปเล็กน้อย

[KTTA-50-L]

สถานีต้นสำโรง ตั้งอยู่ที่ กม.44.30 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4015 ตัวย่อ โร. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลหมู่ชนิดบังคับด้วยเครื่องกลไฟฟ้าสัมพันธ์ หรือสายลวด กับสัญญาณไฟสี ก.2 และใช้ป้ายเขตสถานี ง. (ในปี พ.ศ.2548) ที่ตั้ง ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม

อาคารสถานีที่เห็นในรูปนี้เป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนอาคารสถานีหลังเดิมที่ถูกรื้อถอนออกไป ซึ่งอาคารสถานีต้นสำโรงหลังเก่าจะอยู่ก่อนถึงอาคารสถานีใหม่เล็กน้อย




มาถึงแล้วครับ สถานีนครปฐม 8) บ้านใครหว่า อาหารอร่อย สาวๆน่ารักด้วยครับที่นี่ เดินออกจากสถานีไปเล็กน้อยก็ถึงองค์พระปฐมเจดีย์แล้วครับ

สถานีนครปฐม ตั้งอยู่ที่ กม.48.12 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 1 เลขรหัส 4016 ตัวย่อ คฐ. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยดีเลย์ และสัญญาณไฟสี ก.1ก (ในปี พ.ศ.2548) ที่ตั้ง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

ปัจจุบัน (ปี พ.ศ.2550) ตั้งแต่ชุมทางตลิ่งชันถึงสถานีนครปฐมได้เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณเป็นแบบใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ และสัญญาณไฟสี ก.1ข ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ



ในวันนั้นขบวนรถธรรมดาที่ 259 ของผมต้องหลีกกับขบวนรถธรรมดาที่ 254 หลังสวน - ธนบุรี โดยมีรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสธอม รุ่น AHK หมายเลข 4211 ลากจูงมา ที่สถานีนครปฐม

[KTTA-50-L]

ที่หยุดรถพระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ที่ กม.50.13 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เลขรหัส 4017 ตัวย่อ สจ. ที่ตั้ง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

เดินข้ามถนนตรงหลังที่หยุดรถนี้ ก็จะเจอกับมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ และสามารถทะลุไปยังพระราชวังสนามจันทร์กับอนุสาวรีย์ย่าเหลได้ด้วยครับ



สถานีโพรงมะเดื่อ ตั้งอยู่ที่ กม.55.36 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4018 ตัวย่อ พด. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลหมู่ชนิดบังคับด้วยเครื่องกลไฟฟ้าสัมพันธ์ หรือสายลวด กับสัญญาณไฟสี ก.2 ที่ตั้ง ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม

[KTTA-50-L]

สถานีคลองบางตาล ตั้งอยู่ที่ กม.58.97 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4019 ตัวย่อ บา. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลหมู่ชนิดบังคับด้วยเครื่องกลไฟฟ้าสัมพันธ์ หรือสายลวด กับสัญญาณไฟสี ก.2 ที่ตั้ง ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี



ชุมทางหนองปลาดุก ตั้งอยู่ที่ กม.64.19 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4020 ตัวย่อ ปด. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลหมู่ชนิดบังคับด้วยเครื่องกลไฟฟ้าสัมพันธ์ หรือสายลวด กับสัญญาณไฟสี ก.2 ที่ตั้ง ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

ชุมทางหนองปลาดุกเป็นชุมทางที่มีขนาดเล็กแต่มีถึง 3 แยกที่มุ่งหน้าออกจากเขตกรุงเทพฯ คือ ชุมทางหนองปลาดุก - สุพรรณบุรี , ชุมทางหนองปลาดุก - น้ำตก , ชุมทางหนองปลาดุก - สุไหงโกลก/ปาดังเบซาร์ และที่นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายมรณะไทย - พม่าที่โด่งดังไปทั่วโลกด้วยครับ

ทางรถไฟสายมรณะนี้เป็นเส้นทางที่สำคัญมาก กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑเชลยศึกพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชียจำนวน 275,000 คน มาสร้างทางรถไฟสายนี้เพื่อลำเลียงเสบียงไปยังประเทศพม่า มีความยาวทั้งหมด 415 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นจากสถานีรถไฟหนองปลาดุก ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีที่สะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ และเส้นทางรถไฟจะขนานไปตามแม่น้ำแควน้อยข้ามชายแดนเข้าสู่ประเทศพม่า ที่ด่านเจดีย์สามองค์ และตัดผ่านไปทางทิศเหนือเชื่อมกับเครือข่ายเส้นทางรถไฟของพม่าที่สถานีทันบูยาซายัท
การก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ต้องผ่านป่าดงดิบในเมืองกาญจนบุรีทำให้เชลยศึกต้องทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำเพื่อให้ทันเสร็จตามกำหนดของกองทัพญี่ปุ่น ทำให้เชลยศึกนับหมื่นต้องเสียชีวิตลง ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะโรคภัยไข้เจ็บและไม่มียารักษาเพียงพอ
ทางรถไฟที่สร้างลำบากที่สุดตอนหนึ่งคือ บริเวณสะพานถ้ำกระแซ การก่อสร้างทางรถไฟในช่วงนี้มีเทือกเขาสูงชันติดกับลำน้ำแควน้อย วิศวกรญี่ปุ่นจำเป็นต้องสร้างเลียบลำน้ำ ทางรถไฟจะลัดเลาะไปตามภูเขา ยาว 400 เมตร ซึ่งเป็นช่วงที่เชลยศึกต้องเสียชีวิตมากที่สุด คือประมาณ1,000 กว่าคน
การสร้างทางรถไฟเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1943 ใช้เวลาทั้งหมด 17 เดือน ทางรถไฟสายนี้ได้ใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น จนถึง วันที่ 15 สิงหาคม ปี ค.ศ 1945 ญี่ปุ่นก็แพ้สงคราม ทางรถไฟจึงตกเป็นของรัฐบาลอังกฤษ ทางรัฐบาลไทยจึงได้ขอซื้อทางรถไฟสายนี้ในราคา 1,250,000 ปอนด์สเตอร์ลิง และได้ทำการรื้อรางออกไปบางส่วน บริเวณรอยต่อชายแดนไทยพม่า
เมื่อทางรัฐบาลไทยได้ซื้อทางรถไฟสายนี้แล้ว จึงทำการซ่อมแซมทางรถไฟจนถึงสถานีน้ำตกเท่านั้น เพราะเส้นทางที่เหลือรัฐบาลไม่มีงบประมาณพอ ที่ทำการซ่อมแซม ทำให้เส้นทางที่เหลือซึ่งก่อสร้างด้วยวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องทรุดโทรมอย่างหนักจนปัจจุบันทางรถไฟที่เหลือจึงกลายเป็นป่าปกคลุมตลอดทาง
ปัจจุบัน การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเดินรถบนเส้นทางสายนี้ทุกวัน และจัดขบวนรถพิเศษสายกรุงเทพ - น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 223-7010 และ 223-7020

ที่มา : สงครามมหาเอเชียบูรพา กาญจนบุรี : ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวุธ สุวรรณฤทธิ์

[KTTA-50-L]

ออกจากชุมทางหนองปลาดุกมา ทางรถไฟสายน้ำตกหรือทางรถไฟสายมรณะก็ตีคู่กับทางสายใต้มาได้ซะระยะ ทางก็เริ่มตีโค้งออกจากกันครับ



ที่แรกที่ขบบวนรถธรรมดาที่ 259 หยุดรับส่งผู้โดยสารคือ ป้ายหยุดรถถนนทรงพล หรือ บ้านโป่ง 2

ป้ายหยุดรถถนนทรงพล ตั้งอยู่ที่ กม.67.90 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เลขรหัส 4043 ตัวย่อ ซง. ที่ตั้ง ต.ดอนตูม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

[KTTA-50-L]

สถานีสระโกสินารายณ์ครับ เป็นสถานีแรกของเส้นทางสายนี้ พอถึงที่นี่ผมก็ชักจะเริ่มเสียวเล็กน้อยแล้วครับ เพราะว่าลมฝนก็พัดมา พอมองไปข้างหน้าก็เห็นท้องฟ้าครื้มๆด้วยครับ

สถานีสระโกสินารายณ์ ตั้งอยู่ที่ กม.73.65 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4044 ตัวย่อ สโ. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบใช้ป้ายเขตสถานี ง. ที่ตั้ง ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี



ทางรถไฟที่เห็นเป็นทางแยกเข้าโรงงานกระดาษสยามคราฟท์ครับ ปัจจุบันเลิกใช้งานไปแล้ว ในอดีตจะใช้รถตู้ใหญ่ (ตญ.) ขนไม้ที่ย่อยแล้วเข้าไปส่งในโรงงาน โดยต้นสายแห่งหนึ่งที่นำไม้ที่ย่อยแล้วมาส่งก็คือ โรงเลื่อยที่สถานีบุฤๅษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่น้องปาล์ม (palm_gea) ไปสำรวจมาครับ

สามารถเข้าไปชมได้ที่นี่ ===> ทางแยกร้างโรงเลื่อย...บุฤๅษี

[KTTA-50-L]

สถานีถัดมาครับ สถานีลูกแก (ลูกแกไม่ใช่ลูกกู ) แต่...เอทำไมขบวน 259 โดนจับเข้ารางหลีกหว่า

สถานีลูกแก ตั้งอยู่ที่ กม.77.65 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4045 ตัวย่อ ลแ. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบใช้ป้ายเขตสถานี ง. ที่ตั้ง ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี



อ่อ...ที่แท้รอหลีกกับขบวนรถธรรมดาที่ 258 น้ำตก - ธนบุรี ที่ทำขบวนมาโดยรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสธอม รุ่น ALS หมายเลข 4121 8)



ประแจที่นี่จะมีคันกลับประแจที่ตัวประแจเลยครับ ดังนั้นต้องใช้แรงงานคนในการกลับประแจ

[KTTA-50-L]

วิวข้างทางช่วงนี้ครับ จะเป็นไร่อ้อยที่เกษตรกรปลูกไว้เพื่อนำมาแปรรูปเป็นน้ำตาล ส่วนสายฝนก็เรื่อยตกครับ แต่ตกแค่ปรอยๆ



สถานีถัดมาครับ สถานีท่าเรือน้อย คนละที่กับสถานีท่าเรือ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา นะครับ

สถานีท่าเรือน้อย ตั้งอยู่ที่ กม.89.77 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เป็นสถานีระดับ 4 เลขรหัส 4048 ตัวย่อ ทน. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบใช้ป้ายเขตสถานี ง. ที่ตั้ง ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

ส่วนนี้คือ สถานีท่าเรือ ในเขต อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ในเส้นทางสายเหนือ จะเห็นได้ว่าลักษณะอาคารสถานีจะแตกต่างกันครับ



สถานีท่าเรือ ตั้งอยู่ที่ กม.102.73 (นับจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)) เป็นสถานีระดับ 3 เลขรหัส 1039 ตัวย่อ ทร. ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบประแจกลไฟฟ้าบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ก.1ข ที่ตั้ง ต.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

[KTTA-50-L]

ณ ที่หยุดรถบ้านหนองเสือ สายฝนก็ยังตกปรอยๆอยู่ครับ บริเวณนั้นยังคงมีร่องรอยบ่งบอกด้วยว่า ฝนอาจจะตกไปแล้วรอบนึงในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา

ที่หยุดรถบ้านหนองเสือ ตั้งอยู่ที่ กม.96.98 (นับจากสถานีธนบุรีเดิม) เลขรหัส 4050 ตัวย่อ บส. ที่ตั้ง ต.วังศาลา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี



ส่วนนี้คือย่านรับส่งสินค้าท่าม่วงครับ มีแต่รถสินค้าเท่านั้นที่จอดที่นี่

ย่านรับส่งสินค้าท่าม่วง เลขรหัส 4051 ตัวย่อ าม. ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี