Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311277
ทั่วไป:13258622
ทั้งหมด:13569899
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - พาชมสถานีบ้านทุ่งหล่อ / โคกคราม เก็บตกเส้นทางสาย ธำ.
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

พาชมสถานีบ้านทุ่งหล่อ / โคกคราม เก็บตกเส้นทางสาย ธำ.
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สถานีรถไฟและสถาปัตยกรรมสำคัญเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 14/05/2007 10:10 pm    Post subject: Reply with quote

หลังจากถ่ายรูปข้างบนเสร็จ ผมก็เดินกลับไปเตรียมตัวเก็บกระเป๋าครับ มองออกไปเห็นทางรถไฟสายหลักก็เลยเก็บภาพมาอีก ที่เห็นเป็นเสาสัญญาณออกตัวนอกของสถานีชุมทางเขาชุมทองครับ

Click on the image for full size

ต.ญ. ที่จอดเรียงกันเป็นแถวยาว จะเห็นชัดกว่านี้ถ้าอยู่บนขบวนรถที่มาจากทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ครับ

Click on the image for full size

แล้วขบวนที่ 174 ก็มาส่งผมลงที่สถานีชุมทางเขาชุมทองโดยสวัสดิภาพครับ หลังจากหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารไม่นาน เวลา 13.51 น. Alsthom 4132 ก็เร่งเครื่องนำขบวนเข้าสู่รางประธานมุ่งหน้าขึ้นเหนือกลับกรุงเทพต่อไปครับ

Click on the image for full size

สถานีชุมทางเขาชุมทอง ในเส้นทางสายใต้
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ ชท. รหัสสถานี 4300
ตั้งอยู่ในตำบลควนเกย อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 797.01 กิโลเมตร*

* อ้างอิงจาก file station_south.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 14/05/2007 10:24 pm    Post subject: Reply with quote

ส่วนผมกับเจ้าตัวแสบ ก็ต้องอยู่ที่สถานีชุมทางเขาชุมทองนี้จนกว่าขบวนที่ 86 จะมาถึงครับ ว่าแล้วก็หาทำเลจัดการกับมื้อกลางวัน ก็คือข้าวมันไก่ที่แวะซื้อมาก่อนจะขึ้นขบวนที่ 174 ครับ อาจจะสงสัยกันว่าทำไมผมถึงไม่ขึ้นขบวนที่ 86 จากสถานีนครศรีธรรมราชเลยทีเดียวไม่ต้องขึ้นหลายขบวน เหตุผลก็เป็นเพราะว่า ผมต้อง check out ออกจากโรงแรมก่อนเที่ยงตรงครับ กว่าขบวนที่ 86 จะออกจากสถานีนครศรีธรรมราช ก็เหลือเวลาอีกตั้ง 3 ชั่วโมง ผมก็เลยเลือกที่จะมารอที่สถานีชุมทางเขาชุมทองดีกว่า เพราะที่นี่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เดินไปถ่ายรูปก็สะดวกกว่าที่สถานีนครศรีธรรมราชครับ

หลังจากที่จัดการยัดข้าวมันไก่ลงท้องไปสักพักใหญ่ ๆ ประมาณ 15.10 น. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 457 ต้นทางสถานีนครศรีธรรมราช - ปลายทางสถานีพัทลุง ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4131 นำขบวนมาก็เข้ามาถึงสถานีชุมทางเขาชุมทองครับ

Click on the image for full size

ถ้าจะวิ่งย้อนลงไปทางจังหวัดพัทลุง สงขลา รถจักรก็ต้องไปลากจากอีกด้านหนึ่งของขบวนรถ เพราะฉะนั้นก็จะเห็นดูรถจักรวิ่งไปบนรางประธาน แล้วเข้าประแจทางด้านทิศใต้เพื่อมาพ่วงกับอีกด้านหนึ่งของขบวนรถครับ

Click on the image for full size

หลังจากที่รถจักรพร้อมที่จะทำขบวนต่อไปแล้ว ขบวนที่ 457 ก็ออกจากสถานีชุมทางเขาชุมทองไป ความเงียบเหงาก็กลับมาเยือนที่สถานีชุมทางเขาชุมทองอีกครั้ง ผมเองก็นั่งรอเวลาอยู่ที่ชานชาลาระหว่างรางที่ 1 กับรางที่ 2 เดินไปไหนไม่ได้เพราะถอดรองเท้าตากแดดเอาไว้ครับ เมื่อเช้าที่ตัวเมืองฝนตกหนักมาก ๆ แต่พอมาตอนนี้ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง ห่างออกมาอีกประมาณ 35 กิโลเมตร ท้องฟ้ากลับไม่มีวี่แววของเมฆฝนให้เห็นเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งขบวนที่ 86 มาถึง ผมก็ได้กลับบ้านพร้อมกับรถไฟขบวนนี้ล่ะครับ Razz
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 15/05/2007 2:19 pm    Post subject: Reply with quote

เอาล่ะครับ ผมพาไปเดินเที่ยวกันที่สถานีบ้านทุ่งหล่อ และสถานีโคกครามจนทั่วแล้ว ก็เปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องของรถไฟ มาดูบรรยากาศในตัวเมืองนครศรีธรรมราชกันสักเล็กน้อยเป็นการปิดกระทู้นี้ รวมถึงจบทริปเดินทางลงใต้ในครั้งนี้แบบสมบูรณ์ล่ะครับ

มาดูส่วนหนึ่งของแผนที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช จาก website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก่อนนะครับ ด้านบนจะเห็นวงกลมสีเขียว นั่นก็คือตำแหน่งที่ตั้งของสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ( มีโรงแรมรายล้อมอยู่หลายที่ครับ ) ตรงกลางก็จะเห็นวงกลมสีน้ำเงิน 1 จุด นั่นเป็นตำแหน่งของสวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช และสุดท้ายทางด้านล่างจะมีวงกลมสีน้ำเงินอีก 1 จุด นั่นเป็นตำแหน่งที่ตั้งของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารครับ

Click on the image for full size

อ่านข้อมูลทั่วไป และข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชเพิ่มเติมได้จาก
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช
3. หมูหิน.คอม
4. ทัวร์ไทย.คอม
5. ไทยตำบล.คอม


สี่แยกที่อยู่ใกล้ ๆ โรงแรมที่ผมพัก แล้วก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟนี้ชื่อว่า " แยกท่าวัง " ครับ ผมออกจากโรงแรมก็เดินมาขึ้นรถสองแถวบริเวณนี้ได้สะดวกมาก ๆ เลย เพราะมีจอดรออยู่ตลอดเวลา ทีละหลาย ๆ คันด้วยครับ รูปนี้ผมถ่ายตอนที่อยู่ท้ายรถสองแถวแล้วครับ เพิ่งจะออกจากบริเวณแยกท่าวังมาไม่ไกล ยังคงเห็นสะพานลอยข้ามถนนที่แยกนั้นอยู่เลย ปริมาณของรถบนถนนเส้นนี้ก็เยอะครับ แต่ไม่ถึงกับติดขัดเหมือนที่กรุงเทพ

Click on the image for full size

จุดหมายแรกที่ผมจะมาแวะในบ่ายวันที่ 26 เมษายน ก็คือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ตอนนี้ไปถามใคร ๆ ก็รู้จักครับ

Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 15/05/2007 2:37 pm    Post subject: Reply with quote

ที่วัดแห่งนี้มีวิหารหลังใหญ่ ๆ หลายหลังครับ ที่เห็นนี้ก็เป็นอีก 1 หลังที่อยู่ใกล้ ๆ พระบรมธาตุเจดีย์

Click on the image for full size

องค์พระบรมธาตุเจดีย์ครับ

Click on the image for full size

ใกล้ ๆ กับทางเข้าไปสู่ด้านใน จะเป็นที่ตั้งของรูปหล่อจำลองของพระแม่เจ้าเหมชาลา และพระทนทกุมาร

Click on the image for full size

ใกล้ ๆ กับรูปหล่อจำลองของพระแม่เจ้าเหมชาลา และพระทนทกุมาร จะมีป้ายบอกความเป็นมาในอดีตให้อ่านครับ

Click on the image for full size

อ่านยากสักหน่อยนะครับ เพราะสีของตัวอักษรกับสีพื้นของป้ายดูแล้วอ่านยากมากเลย ยังไงก็อ่านตามข้อความข้างล่างนี้ก็ได้ครับ ( น่าจะเหมือนกันนะ แกะจากป้ายสด ๆ ) Laughing

" พระแม่เจ้าเหมชาลา พระทนทกุมาร เป็นพระราชธิดาและพระราชโอรสของพระเจ้าโคสีหราชและพระนางมหาเทวีแห่งเมืองทันทบุรี ประเทศอินเดีย เป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาฝังไว้ ณ หาดทรายแก้ว เมื่อปี พ.ศ. 854 จากนั้นพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้สร้างพระมหาเจดีย์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุคงได้ปรากฏอยู่จนทุกวันนี้ "
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 15/05/2007 2:54 pm    Post subject: Reply with quote

ต่อจากนั้นก็ได้เวลาเดินเข้าไปข้างในแล้วล่ะครับ พุทธศาสนิกชนที่ต้องการจุดธูปกราบไหว้องค์พระบรมธาตุเจดีย์ ก็ต้องมากราบไหว้บริเวณนี้ครับ

Click on the image for full size

แหงนหน้าขึ้นไปก็มองเห็นยอดของพระบรมธาตุเจดีย์ได้อย่างชัดเจน

Click on the image for full size

มองไปข้างหน้าจะเป็นประตูทางเข้าไปสู่ด้านในของ " วิหารพระทรงม้า " ที่ด้านในมีบันไดขึ้นสู่ลานประทักษิณรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ครับ

Click on the image for full size

เดินตรงเข้าประตูเมื่อสักครู่มา ก็จะเข้ามาถึงด้านในบริเวณนี้ ที่เคยเห็นกันในโทรทัศน์ บริเวณนี้จะเห็นท้าวขัตตุคาม ( เขียนแบบนี้จริง ๆ ครับ ) และท้าวรามเทพอยู่คนละฝั่งของบันได ส่วนจะรู้ได้อย่างไร ว่าองค์ไหนคือท้าวขัตตุคาม หรือองค์ไหนคือท้าวรามเทพ ก็ให้ดูที่พระหัตถ์ขวาครับ องค์ท้าวขัตตุคามที่อยู่ทางด้านซ้ายของรูปจะวางพระหัตถ์ขวาลงด้านล่าง ส่วนองค์ท้าวรามเทพจะยกพระหัตถ์ขวาขึ้นมา ตอนที่ไปเห็นด้วยตาก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงไม่ออกแบบสร้างมาให้เหมือน ๆ กัน แต่พอได้มาจากดูรายการมันแปลกดีนะ ทาง modern 9 ถึงได้รู้รายละเอียดครับ

Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 15/05/2007 3:04 pm    Post subject: Reply with quote

ขึ้นบันไดมาด้านบนจะเห็นว่ามีทางเดินล้อมรอบ พื้นที่ไม่กว้างมากนักครับ ยกมือไหว้อธิษฐานขอพร แล้วเดินดูบรรยากาศให้ทั่ว เสร็จแล้วก็รีบลงไปข้างล่างดีกว่าครับ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

จากบริเวณทางเดินรอบ ๆ พระบรมธาตุเจดีย์ ถ้าแหงนหน้ามองยอดของพระเจดีย์ ก็จะเห็นอยู่ข้างบนโน่น สูงจริง ๆ Shocked

Click on the image for full size

จริง ๆ แล้วผมตอนที่ผมมาที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผมเดินดูรอบ ๆ วัดอยู่นานเหมือนกันครับ รู้สึกว่าที่วัดแห่งนี้นอกจากได้มากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ Sathu แล้วยังมีอะไรให้ดูอีกหลายอย่างเหมือนกัน ถ่ายรูปมาก็หลายใบครับ แต่ก็ต้องลบทิ้งไป เหลือแต่รูปถ่ายบริเวณองค์พระบรมธาตุเจดีย์เท่านั้น เพราะว่าพื้นที่ว่างใน memory stick ไม่พอเก็บรูปตอนนั่งรถกลับครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 15/05/2007 3:10 pm    Post subject: Reply with quote

หลังจากเดินเที่ยวที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารแล้ว ผมก็ขึ้นรถสองแถวนั่งย้อนกลับไปเส้นทางเดิมครับ ที่เห็นนี้เป็นบริเวณถนนด้านหน้าวัดครับ

Click on the image for full size

เมืองใหญ่ ๆ ที่ไหนก็ต้องมีหอนาฬิกากันทั้งนั้น ที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราชนี้ก็มีครับ

Click on the image for full size
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 15/05/2007 3:20 pm    Post subject: Reply with quote

ผมลงจากรถสองแถวที่บริเวณด้านหน้าสวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราชครับ สะดุดตาตั้งแต่ตอนที่นั่งรถสองแถวผ่านที่นี่วันแรกแล้ว ว่าแล้วก็มาดูรูปภาพของสวนสาธารณะแห่งนี้ที่หลงเหลืออยู่ใน memory stick เลยดีกว่า

รูปแรกนี้เป็นบรรยากาศตอนที่เพิ่งจะก้าวเข้าไปที่สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราชครับ กว้างขวางจริง ๆ

Click on the image for full size

จากจุดเดิมหันมองไปทางขวาก็จะเห็นว่ามีอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ กันครับ

Click on the image for full size

มาถึงบริเวณอนุสาวรีย์แล้วครับ เท่าที่อ่านจากป้ายแล้วก็รู้ว่าที่นี่คือ " อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช " ครับ

Click on the image for full size

website ของสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช wrote:

อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

ที่ตั้ง ประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณศรีธรรมาโศกราช บริเวณพื้นที่เรือนจำจังหวัดแต่ก่อน
ประวัติ ตามตำนาน เมืองนครศรีธรรมราชกล่าวว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เป็นกษัตริย์ปกครองเมืองอื่นมาก่อน ภายหลังเกิดไข้ห่าระบาดในเมืองนั้น จนทำให้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจนต้องอพยพผู้คนที่เหลือตาย ลงเรือสำเภามาขึ้นที่หาดทรายแก้ว ได้ตั้งบ้านเมือง ณ ที่นั้น และขนานเมืองว่า "นครศรีธรรมราชมหานคร" เมื่อสร้างเมืองเสร็จ ก็ได้ก่อสร้างสถูปเจดีย์ สำหรับบรรจุพระบรมสาริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้น คือ พระบรมธาตุเจดีย์ปัจจุบันนี้


หลังจากนั้นผมก็ไปที่ศาลหลักเมือง แล้วก็เดินดูตามถนนใกล้ ๆ บริเวณนั้น ก่อนที่จะกลับโรงแรมครับ

การเดินทางตลอด 5 วันของผมก็เล่าผ่านกระทู้นี้ รวมทั้งกระทู้ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 กระทู้ไปหมดแล้วนะครับ หลังจากนี้ก็คงได้พักยาว แต่ไม่แน่ต้นเดือนมิถุนายนผมอาจจะได้ไปทำธุระที่พิษณุโลกอีก ถ้าได้ไปจริง ๆ ก็คงมีอะไรติดไม้ติดมือมาฝากกันอีก แต่ถ้าไม่ได้ไปก็พักยาวไปจนถึงปิดเทอมเดือนตุลาคมโน่นล่ะครับ ขอบคุณทุก ๆ คนที่ติดตามมาตั้งแต่ออกจากสถานีธนบุรีนะครับ thankyou
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
kenshiro
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 09/09/2006
Posts: 950

PostPosted: 15/05/2007 8:04 pm    Post subject: Reply with quote

มีอยู่ภาพหนึ่งครับพี่เต้ย ที่พี่ถ่ายรูปโบสถ์เป็นเสากลม
ลองสังเกตุให้ดีเสาจะเอียงเข้าหาตัวโบสถ์ครับ
ซึ่งแปลกมากครับว่าทำไมถึงไม่ล้ม (ที่เคยได้ยินน่าจะสร้างสมัยสุโขทัย รึไม่ก็อยุธยานั่นแหละครับ) ลองดูให้ดีๆ
Back to top
View user's profile Send private message
Aegis_XPR
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 06/03/2007
Posts: 115

PostPosted: 15/05/2007 9:02 pm    Post subject: Reply with quote

kenshiro wrote:
มีอยู่ภาพหนึ่งครับพี่เต้ย ที่พี่ถ่ายรูปโบสถ์เป็นเสากลม
ลองสังเกตุให้ดีเสาจะเอียงเข้าหาตัวโบสถ์ครับ
ซึ่งแปลกมากครับว่าทำไมถึงไม่ล้ม (ที่เคยได้ยินน่าจะสร้างสมัยสุโขทัย รึไม่ก็อยุธยานั่นแหละครับ) ลองดูให้ดีๆ

ก็คงเป็นภูมิปัญญาของผู้คนในสมัยโบราณล่ะครับ ที่นำความสวยงาม มาผสมผสานกับความมั่นคงทางสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว (ถ้าพูดถึงสมัยนี้ก็คือฟิสิกส์นั่นแหละ) น่าทึ่งจริงๆ

ส่วนด้านล่างนี้เป็นข้อมูลของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (จาก http://th.wikipedia.org ครับ)

Quote:

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดพระบรมธาตุ ตั้งอยู่ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมืองอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิด วรมหาวิหาร

พ.ศ. 854 เจ้าชายธนกุมาร และพระนางเหมชาลาและบาคู (แปลว่า นักบวช )ชาวศรีลังกา สร้างวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (เดิมชื่อ วัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช) เจดีย์องค์เดิมเจดีย์แบบศรีวิชัยคล้ายเจดีย์ กิริเวเทระ ในเมืองโบโลนนารุวะ ประเทศศรีลังกา

พ.ศ. 1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช (หมายถึง ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช) (ชื่อว่าพระเจ้าจันทรภาณุ) ได้ทำการสร้างเมืองนครศรีธรรมราช ขึ้นพร้อมการก่อสร้างเจดีย์ ขึ้นใหม่เป็น เจดีย์แบบศาญจิ

พ.ศ. 1770 พระเจ้าจันทรภาณุ (หมายถึง ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช) ได้บูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ เจดีย์แบบลังกา ทรงระฆังคว่ำ หรือ โอคว่ำ มีปล้องไฉน 52 ปล้อง สูงจากฐานถึงยอดปลี 37 วา 2 ศอก ((มาตราชั่ง ตวง วัด ของประเทศไทย) ยอดปลีของปล้องไฉน หุ้มทองคำเหลืองอร่าม สูง 6 วา (มาตราวัดไทย 1 วา เท่ากับ 2 เมตร) 1 ศอก (มาตราชั่ง ตวง วัด ของประเทศไทย 4 ศอก เท่ากับ 2 เมตร ดังนั้น 1 ศอก เท่ากับ 0.50 เมตร))แผ่เป็นแผ่นหนา เท่าใบลานหุ้มไว้ น้ำหนัก 800 ชั่ง (มาตราชั่ง ตวง วัด ของประเทศไทย เท่ากับ 960 กิโลกรัม )รอบพระมหาธาตุมีเจดีย์ 158 องค์

พ.ศ. 2155 และ พ.ศ. 2159 สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถมีการซ่อมแผ่นทองที่ปลียอดพระบรมธาตุ

พ.ศ. 2190 สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ยอดพระบรมธาตุได้ชำรุดหักลง และได้มีการซ่อมสร้างขึ้นใหม่

พ.ศ. 2275 - 2301 สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีการดัดแปลงทางเข้าพระสถูปพระบรมธาตุบริเวณวิหารพระทรงม้า

พ.ศ. 2312 สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ปฏิสังขรณ์พระอารามทั่วไปภายในวัด และโปรดให้สร้างวิหารทับเกษตรต่อออกจากฐานทักษิณรอบองค์พระธาตุ เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัด) สมัยพระบาทพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ บูรณะพระวิหารหลวง วิหารทับเกษตร พระบรมธาตุที่ชำรุด ปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บูรณะกำแพงชั้นนอก วิหารทับเกษตร วิหารธรรมศาลา วิหารพระทรงม้า วิหารเขียน ปิดทองพระพุทธรูป

พ.ศ. 2457 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ติดตั้งสายล่อฟ้าองค์พระบรมธาตุเจดีย์

พ.ศ. 2515 - 2517 บูรณปฏิสังขรณ์ พระวิหารหลวงและพระอุโบสถ

พ.ศ. 2530 ซ่อมกลีบบัวทองคำที่ฉีกขาดเปราะบาง เสื่อมสภาพเป็นสนิม เสริมความมั่นคงแข็งแรงที่กลีบบัวปูนปั้น ในวันที่ 28 สิงหาคม 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมารเสด็จอัญเชิญแผ่นกลีบบัวทองคำขึ้นประดิษฐบนองค์พระบรมธาตุเจดีย์

พ.ศ. 2537 - 2538 บูรณะปลียอดทองคำพระบรมธาตุเจดีย์ และเสริมความมั่นคงปูนแกนในปลียอด ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 50 ล้านบาท สิ้นทองคำ 141 บาท (มาตราชั่ง ตวง วัด ของไทย 1 บาท เท่ากับ 15.2 กรัม)

กรมศิลปากร ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 53 ตอนที่ 34 วันที่ 27 กันยายน 2479


เมืองนครศรีธรรมราช (หรือ ตามพรลิงค์ ในอดีต (ก่อตั้งใหม่ๆ)) จัดเป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาเมืองหนึ่งในประเทศไทยครับ เนื่องจากนครศรีธรรมราชเป็นเมืองแรกของไทยที่ได้รับเอาพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์เข้ามาในประเทศไทย และเมื่ออาณาจักรสุโขทัยได้ก่อตั้งขึ้น (นครศรีธรรมราชมีฐานะเป็นประเทศราชของอาณาจักรสุโขทัย) ก็มีการเชิญพระจากเมืองนครศรีธรรมราชเข้าไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาในอาณาจักสุโขทัย จนกระทั่งกลายเป็นศาสนาที่มีคนไทยนับถือจำนวนมากในทุกวันนี้ล่ะครับ

ส่วนที่สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราชนั้น
ExtendeD wrote:

ผมลงจากรถสองแถวที่บริเวณด้านหน้าสวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราชครับ สะดุดตาตั้งแต่ตอนที่นั่งรถสองแถวผ่านที่นี่วันแรกแล้ว ว่าแล้วก็มาดูรูปภาพของสวนสาธารณะแห่งนี้ที่หลงเหลืออยู่ใน memory stick เลยดีกว่า

รูปแรกนี้เป็นบรรยากาศตอนที่เพิ่งจะก้าวเข้าไปที่สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราชครับ กว้างขวางจริง ๆ

Click on the image for full size

website ของสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช wrote:

อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

ที่ตั้ง ประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณศรีธรรมาโศกราช บริเวณพื้นที่เรือนจำจังหวัดแต่ก่อน
ประวัติ ตามตำนาน เมืองนครศรีธรรมราชกล่าวว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เป็นกษัตริย์ปกครองเมืองอื่นมาก่อน ภายหลังเกิดไข้ห่าระบาดในเมืองนั้น จนทำให้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจนต้องอพยพผู้คนที่เหลือตาย ลงเรือสำเภามาขึ้นที่หาดทรายแก้ว ได้ตั้งบ้านเมือง ณ ที่นั้น และขนานเมืองว่า "นครศรีธรรมราชมหานคร" เมื่อสร้างเมืองเสร็จ ก็ได้ก่อสร้างสถูปเจดีย์ สำหรับบรรจุพระบรมสาริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้น คือ พระบรมธาตุเจดีย์ปัจจุบันนี้


ในปัจจุบันนี้ เรือนจำถูกย้ายออกไปอยู่นอกเมืองครับ (จำไม่ได้ว่าย้ายไปที่ไหน) ซึ่งคุณ ExtendeD ก็จะเห็นอาคาร 2 หลัง ในบริเวณสวนสาธารณะ (ซึ่งในปัจจุบันเป็นชมรมผู้สูงอายุ และศูนย์สินค้า OTOP จังหวัดนครศรีธรรมราช) พร้อมกับหอสังเกตการณ์ที่ประตูด้านถนนราชดำเนิน ทั้งสองสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรือนจำเก่าครับ ซึ่งได้มีการสงวนเอาไว้
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สถานีรถไฟและสถาปัตยกรรมสำคัญเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5  Next
Page 4 of 5

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©