View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2006 Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT
|
Posted: 23/05/2007 1:14 am Post subject: |
|
|
สะพานถ้ำกระแซครับ ค่อยๆวิ่งไปเรื่อยๆด้วยความเร็ว 10 กม.ค่อชม. |
|
Back to top |
|
|
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2006 Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT
|
Posted: 23/05/2007 1:21 am Post subject: |
|
|
ยังไม่ถึงซะที เหอๆๆ ดูวิวข้างทางกันไปก่อนครับ
ถึงสถานีน้ำตกแล้วครับ แต่เรายังไม่ลงที่นี่เพราะขบวนรถจะวิ่งต่อไปอีกไม่ถึงกิโลเมตรเพื่อไปยังป้ายหยุดรถน้ำตกไทรโยคน้อย |
|
Back to top |
|
|
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2006 Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT
|
Posted: 23/05/2007 1:28 am Post subject: |
|
|
ถึงแล้วครับป้ายหยุดรถน้ำตกไทรโยคน้อย ปลายทางของรถขบวนนี้ 8)
นักท่องเที่ยวเยอะครับในวันนั้น อากาศร้อนน่าเล่นน้ำครับ |
|
Back to top |
|
|
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2006 Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT
|
Posted: 23/05/2007 1:32 am Post subject: |
|
|
แต่เราไม่ได้เที่ยวที่น้ำตกกันครับ พวกเราเหมารถสองแถวไปที่อื่นครับ โดยมีพี่พนักงานห้ามล้อของขบวนรถนำเที่ยวเดินทางไปด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
palm_gea
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 1321
Location: ธ.ก.ส.
|
Posted: 23/05/2007 12:08 pm Post subject: |
|
|
อ๋อ ทริปนี้ผมจำได้ว่าเคยติดตามชมที่บอร์ดเก่า ยังจำได้เลยว่าพี่ตั้มนี่แซว"เพื่อน"ตัวเองได้โหดมาก ตอนนี้กระทู้นี้คงอยู่หน้าลึกๆแล้วล่ะ
ปล.ชื่อบอร์ดเก่านี่ยังพิมพ์(จิ้ม)ได้ขึ้นมือครับ
http://club.yimsiam.com/fanrotfaithai _________________
|
|
Back to top |
|
|
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2006 Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT
|
Posted: 24/05/2007 4:08 pm Post subject: |
|
|
เราไปกันที่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟสายมรณะ (ช่องเขาขาด) กันครับ ส่วนนี่คือแผนที่ที่ทางพิพิธภัณฑ์ทำไว้ครับ |
|
Back to top |
|
|
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2006 Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT
|
Posted: 24/05/2007 4:27 pm Post subject: |
|
|
เรายังไท้ได้เข้าไปยังอาคารของพิพิธภัณฑ์นะครับ เราเดินลงตามบันไดไปยังบริเวณที่เคยเป็นทางรถไฟสายมรณะกันก่อน เดินมาได้ไม่ถึง 1 กม. เราก็เจอกับช่องเขาขาดครับ (Hell Fire Pass)
ช่องเขาขาด กาญจนบุรี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารลูกพระอาทิตย์หรือญี่ปุ่น ซึ่งเข้าเป็นพันธมิตรกับเยอรมัน ซึ่งนำโดยฮิตเลอร์ ได้ฟาดหัวฟาดหางในประเทศต่างๆ ในย่านนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งก็ได้ถล่มเอาประเทศในย่านนี้ยับไปไม่เป็นท่า นอกจากนี้ ยังได้สร้างความทุกข์อยากให้กับประชาชนอย่างแสนสาหัส เช่น การบังคับสตรีมาเป็นนางบำเรอให้กับทหารของตน ส่วนผู้ชายก็ถูกบังคับใช้แรงงานอย่างทารุณ
สถานอนุสรณ์ที่แสดงถึงความโหดเหี้ยมของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศไทยคือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ในจังหวัดกาญจนบุรี และมีอีกสถานที่หนึ่งที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ ช่องเขาขาด ซึ่งก็อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีเช่นกัน
ช่องเขาขาดเป็นเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ที่ญี่ปุ่นต้องการสร้างผ่าน และดำเนินการสร้างโดยเชลยศึกชาวออสเตรเลีย และเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร เล่ากันว่าช่องทางที่เรียกว่าช่องเขาขาดนี้ ทหารญี่ปุ่นใช้ทหารเชลยเป็นทาสในการก่อสร้างทาง ชีวิตทหารเหล่านั้นล้มตายกันเป็นเบือ เพราะทำงานหนักและโรคภัยไข้เจ็บที่ชุกชุม โดยเฉพาะไข้ป่า
ช่องเขาขาดเป็นทางแคบๆ ที่ตัดผ่านเนินเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ และสะพานซึ่งมีอยู่มากมาย ต่อสถานที่เหล่านี้กลายมาเป็นโครงการพิพิธภัณฑสถานช่องเขาขาด เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่ต้องทุกข์ทรมานเหล่านั้น
การตัดทางผ่านภูเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ และสะพานมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทหารญี่ปุ่น ในการลำเลียงทหารและเสบียงไปช่วยทหารญี่ปุ่นในประเทศพม่า ซึ่งขณะนั้นทหารญี่ปุ่นสามารถตั้งมั่นอยู่ในประเทศพม่าแล้ว
การก่อสร้างช่องเขาขาดเริ่มด้วยแรงงานของเชลยศึกชาวออสเตรเลียจำนวน 400 คน และญี่ปุ่นได้เพิ่มเชลยศึกขึ้นอีกเพื่อให้การก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด ส่วนทหารเชลยศึกที่เพิ่มเข้ามาส่วนมากยังเป็นทหารชาวออสเตรเลีย และทหารจากสหราชอาณาจักร
มีบันทึกว่า บรรดาเหล่าเชลยศึกจะใช้ค้อนหนัก 8 ปอนด์ สว่าน ระเบิด เสียม พลั่ว จอบ และตะกร้าหวายอันเล็กๆ เพื่อขนดินออกไปเททิ้งข้างนอกทาง และพวกเขาทำงานอย่างทรมาน บางคนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาในที่ทำงาน
ในขณะที่ก่อสร้างเส้นทางสายนี้นั้น เป็นช่วงมรสุมที่รุนแรง และการก่อสร้างช่องเขาขาดยังต้องเผชิญกับความกดดันอย่างสูงจากวิศวกรชาวญี่ปุ่น และผู้คุมชาวเกาหลี ที่ได้บังคับให้พวกเขาทำงานวันละ 12-18 ชั่วโมง นับจากเดือนมิถุนายน 2486 จนเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน
ระหว่างการสร้างสะพานรถไฟให้เสร็จทันกำหนดนั้น เหล่าทหารเชลยศึกฝ่ายพันธมิตรขนานนามช่องเขาขาดว่า �ช่องนรก� ด้วยเหตุที่ผู้คุมชาวญี่ปุ่นบังคับให้นักโทษทำงานในเวลากลางคืน ใช้แสงสว่างจากคบไฟ ซึ่งให้ความรู้สึกว่าที่นี่คือขุมนรกบนโลกจริงๆ
ในช่วงที่เร่งสร้างทางรถไฟให้เสร็จตามกำหนดเรียกว่าช่วง สปิโต หรือตอนเร่งรัด
ช่องเขาขาดยังเป็นอนุสรณ์สถานที่ทหารญี่ปุ่นกระทำไว้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยากจะมีผู้ลืมเลือน
(ข้อความนี้ ได้มาจากสถานทูตออสเตรเลียที่จัดทำขึ้น เพื่อรำลึกถึงทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งพิธีดังกล่าวจัดในวันที่ 25 เมษายน 2547)
ข้อมูลบ้านเมือง http://www.banmuang.co.th |
|
Back to top |
|
|
BigBoy
3rd Class Pass
Joined: 21/08/2007 Posts: 23
Location: ชุมทางบางซื่อ
|
Posted: 31/08/2007 1:49 am Post subject: |
|
|
ผมมีภาพมาต่อที่จะช่วยทำให้ทางรถไฟสายกาญจนบุรีจบแบบสมบูรณ์ครับ
ที่ด่านเจดีย์สามองค์ ส่วนทางรถไฟพม่าที่ต่อจากไทย
|
|
Back to top |
|
|
Vetrail
3rd Class Pass (Air)
Joined: 09/08/2006 Posts: 402
Location: ไปทุกที่ ที่มีราง
|
Posted: 31/08/2007 8:10 am Post subject: |
|
|
KTTA-50-L wrote: |
และแล้วขบวนรถที่พ่อเลี้ยงจะต้องเดินทางก็มาถึงที่สถานีลำพูนครับ นั้นคือขบวนรถด่วนที่ 52 เชียงใหม่ - กรุงเทพ ซึ่งในปี 2547 ขบวน 51/52 ยังพ่วงรถนั่งนอนปรับอากาศ ชั้น 1 (บนอ.ป.) อยู่ด้วยครับ 8) |
ขบวนนี้ตู้ดีๆ มันจะหายไปเรื่อยๆนะนี่ ไม่แน่นะ ในอนาคต อาจไม่มี บชท.ป. ด้วยก็ได้
คิดแล้วก็เศร้าแฮะ เป็นรถด่วนปรับศักย์ แต่ค่าธรรมเนียมดันไม่คิดเป็นระยะทางเมือนเร็วปรับศักย์ แถมตู้ดีๆ ก็เหลือไม่กี่ตู้เอง _________________ Daewoo2528,2532 & GEA 4531 & HID 4521 & ALS4132 |
|
Back to top |
|
|
OutRun
1st Class Pass (Air)
Joined: 26/05/2006 Posts: 1187
|
Posted: 31/08/2007 12:40 pm Post subject: |
|
|
box_car wrote: | โอ้ว.....
ของหายากครับ.....
คนที่นั่งข้างๆตั้มนั้น(สมัยนั้น) พอมาปัจจุบันแล้ว............เปลี่ยนไปเยอะนะ
อ่ะอะอะ.... |
ไม่รุ ไม่ชี๊ กลัว พรร. ท้ายขบวนจะทำงานไม่สะดวก เลยเปลี่ยนจาก พห. เป็น บพห. หน่ะ _________________ นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ |
|
Back to top |
|
|
|