RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311216
ทั่วไป:13150266
ทั้งหมด:13461482
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รถไฟสายบางบัวทอง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รถไฟสายบางบัวทอง
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 20, 21, 22 ... 24, 25, 26  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44250
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/05/2010 5:38 pm    Post subject: Reply with quote

ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณคลองอ้อม ปี 2495 กรมแผนที่ทหารครับ

Click on the image for full size

มองเห็นแนวคันทางรถไฟสายบางบัวทอง เป็นเส้นขาว ๆ เล็ก ๆ (สะพานคงถูกรื้อไปแล้ว)
เปรียบเทียบกับภาพถ่ายดาวเทียมครับ ซึ่งคันทางกลายเป็นถนนบางกรวย-ไทรน้อยไปแล้ว

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Rakpong
President
President


Joined: 29/03/2006
Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก

PostPosted: 17/05/2010 6:07 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
แต่ในกรณีที่เป็นสะพานคลองเปร็ง กม. 47+114.00
ผมมีข้อสงสัยว่าคลองเปร็งกับสะพานรถไฟไม่ได้ตัดกันแบบตั้งฉากครับ
แต่ตัดในแนวเฉียงดังภาพ

เมื่อเปรียบเทียบกับภาพเก่า มองเห็นคลองตัดกับสะพานค่อนข้างตั้งฉากน่ะครับ Rolling Eyes

Click on the image for full size

Click on the image for full size


แต่ดูจากภาพ น่าจะเป็นตัดแนวเฉียงนะครับ ภาพนี้น่าจะเป็นคลองเปร็งจริง ๆ เพราะทางรถไฟสายบางบัวทอง สะพานไม่น่าจะดูแข็งแรงขนาดนี้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44250
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/05/2010 9:30 pm    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณพี่หมอรักษ์พงศ์ครับที่ช่วยพิจารณา และลงความเห็นสนับสนุนอีกแรงหนึ่ง
ถ้าเฉียง ก็คงเป็นการถ่ายไปทางทิศเหนือ ทางรถไฟด้านซ้ายมือไปกรุงเทพ ขวามือไปอรัญประเทศนะครับ

เรื่องนี้ จำเป็นต้องแจ้งให้อาจารย์เอนกทราบ เพื่อแจ้งต่อไปยังคุณไพรัตน์ สุขมะโน เจ้าของหนังสือ ภาพเก่าเล่าเรื่องบางบัวทอง ให้ทราบข้อเท็จจริงว่าภาพถ่ายดังกล่าว ไม่ใช่ทางรถไฟสายบางบัวทองนะครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
OutRun
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 26/05/2006
Posts: 1187

PostPosted: 18/05/2010 1:29 am    Post subject: Reply with quote

ผมก็ว่าไม่น่าจะใช่สะพานรถไฟสายบางบัวทองนะครับ รถจักรไอน้ำที่ใช้ในทางสายบางบัวทอง ผมว่าไม่น่าจะมีขนาดใหญ่ขนาดในภาพที่ว่าหน่ะครับ
อย่างเก่งก็น่าจะขนาดรถจักรสูงเนิน

ผมไม่มีภาพรถจักรไอน้ำที่ใช้ในทางรถไฟสายบางบัวทอง แต่จากวารสารรถไฟสัมพันธ์ที่ผมมีอยู่ ได้บอกไว้ว่าหลังปี พ.ศ. 2475 ฟืนเริ่มหายาก มีราคาแพง
จึงได้จัดหารถดีเซลมาใช้การแทนครับ ซึ่งผมก็มีภาพรถจักรดีเซลที่ว่านี้อยู่ แต่ตอนนั้นดันไม่ได้สแกนเอาไว้ด้วย รถดีเซลที่ว่านี้คันเล็กมากครับ น่าจะมีแค่ 4 ล้อเท่านั้น
ยังไงรบกวนอาจารย์เอกเข้าไปชมภาพที่ผมเคยสแกนเอาไว้ที่เว็บจักรยานด้วยครับ

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=29683&st=151

ลองดูภาพจาก คห. ที่ 177 จะมีภาพรถไฟสายบางบัวทองหลีกกันอยู่ โดยขบวนที่อยู่ทางขวาจะติดภาพที่ผมว่าน่าจะเป็นรถดีเซลที่ว่าอยู่หน่อย ๆ ครับ
เมื่อเทียบกับโบกี้โดยสารแล้วตัวรถจักรดีเซลมีขนาดเล็กมากครับ เลยทำให้ผมคิดว่าสมัยที่ยังใช้รถจักรไอน้ำ ขนาดไม่น่าจะใหญ่กว่ารถจักรสูงเนิน
_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2010 2:16 am    Post subject: Reply with quote

^^^
รถจักรรถพ่วงสายบางบัวทองมันราง 75 เซนต์เมตรเหมือนสายพระพุทธบาท เลยใหญ่กว่ารถสูงเนินเล็กน้อย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44250
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/05/2010 4:38 am    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณคุณตั้มมากครับ ภาพที่เว็บจักรยานที่คุณตั้มนำมาลงไว้
ผมเคยชมตั้งแต่ปี 2550 ประทับใจมากครับ
จนนำไปตั้งกระทู้นี้ครับ
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/09/E5845777/E5845777.html

แล้วภาพนี้มีสิทธิใช่รถจักรไอน้ำสายบางบัวทองไหมครับคุณวิศรุต คุณตั้ม

Click on the image for full size
เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 934 วันที่ 23 เม.ย. 53 หน้า 40
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2010 10:10 am    Post subject: Reply with quote

^^^
นี่ยิ่งไม่น่าใช้ก็เพราะ นี่มันภาพรถจักร Dubb ชัดๆ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44250
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/05/2010 10:13 am    Post subject: Reply with quote

แล้วทางขวามือของภาพ
ล้อเลื่อนที่พ่วงมา น่าจะใช้ในกิจการรถไฟสายใดครับ Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2010 10:58 am    Post subject: Reply with quote

^^^
รถข้างโถงนี้ใช้กับรางมาตรฐานจนสิ้นอายุการใช้งานหละครับ

OutRun wrote:

ผมไม่มีภาพรถจักรไอน้ำที่ใช้ในทางรถไฟสายบางบัวทอง แต่จากวารสารรถไฟสัมพันธ์ที่ผมมีอยู่ ได้บอกไว้ว่าหลังปี พ.ศ. 2475 ฟืนเริ่มหายาก มีราคาแพง
จึงได้จัดหารถดีเซลมาใช้การแทนครับ ซึ่งผมก็มีภาพรถจักรดีเซลที่ว่านี้อยู่ แต่ตอนนั้นดันไม่ได้สแกนเอาไว้ด้วย รถดีเซลที่ว่านี้คันเล็กมากครับ น่าจะมีแค่ 4 ล้อเท่านั้น
ยังไงรบกวนอาจารย์เอกเข้าไปชมภาพที่ผมเคยสแกนเอาไว้ที่เว็บจักรยานด้วยครับ

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=29683&st=151


นั้นเป็นภาพคราวที่พระยาสารศาสตร์ฯ ตรวจพินิจการก่อสร้างทาง ไปลาดหลุมแก้วหงะ

ออ เรื่องผี ของครูเหม เวชการมีกล่าวถึงรถไฟบางบัวทองด้วย! Shocked
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 26/05/2012 10:03 pm    Post subject: Reply with quote

ดูคอลัมน์ชักธงรบของกิเลนประลองเชิงในไทยรัฐหน้า 3 วันนี้ หลายข้อความยังคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงอยูมากพอดู เพราะ รู้ว่ากว่าจะเดินรถจริงก็ปี 2458 โน่น แม้จะเริ่มสร้างแต่ปี 2453 ก็จริง

รถไฟสายบางบัวทอง
คอลัมน์ชักธงรบ
โดย: กิเลน ประลองเชิง
ไทยรัฐ
26 พฤษภาคม 2555, 05:00 น.
หากจะว่ากันด้วยรถไฟสายฝั่งธนบุรี...เด็กรุ่นผมทันนั่งรถไฟสายปากคลองสาน–แม่กลอง เด็กรุ่นใหม่ยังได้ใช้รถไฟสายบางกอกน้อย และเด็กสองรุ่นนี้คงไม่รู้ว่าฝั่งธนฯยังมีรถไฟอีกสาย...สายบางบัวทอง

บันทึกแผ่นดิน ชุดเรื่องเก่าเล่าสนุกเล่ม 3 (สำนักพิมพ์สยามบันทึก) โรม บุนนาค เล่าว่า รถไฟสายบางบัวทอง วิ่งมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สถานีต้นทางอยู่ท่าน้ำวัดลิงขบ (วัดบวรมงคล)

เจ้าของรถไฟ คือ พระยาวรพงศ์พิพัฒน์ (ม.ร.ว.เย็น อิศรเสนา) คนจึงเรียกอีกชื่อว่า รถไฟสายเจ้าคุณวรพงศ์

เจ้าคุณวรพงศ์รักเรื่องเครื่องยนต์กลไกมาแต่เล็ก ตอนรับราชการสมัย ร.5 เงินเดือน 12 บาท พอเงินเดือนขึ้นเป็น 30 บาท ก็เก็บซื้อรถเมล์เก่า 2 คัน มาซ่อมแล้วก็ออกรับคนโดยสาร หาเงินเข้าบ้านได้วันละสิบสลึง สามบาท...ก็ติดใจ

สมัยนั้นเจ้านายขุนนางกำลังแข่งกันสร้างวังสร้างคฤหาสน์ ต้องใช้อิฐจำนวนมาก เจ้าคุณวรพงศ์เช่าเตาเผาอิฐที่บางบัวทอง ทำอิฐชั้นดีส่งขาย ชื่ออิฐบางบัวทองเป็นที่รู้จัก เศรษฐกิจบางบัวทองเฟื่องฟู เป็นที่มาให้คิดสร้างทางรถไฟ

ตอนนั้นยังไม่มี พ.ร.บ.คุ้มครองการสร้างทางรถไฟ เจ้าคุณวรพงศ์ต้องไปอ้อนวอนซื้อที่ชาวบ้าน เมื่อไม่ได้ก็ต้องไปขอบารมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน บางรายไม่ขายก็ต้องย้ายแนวหลบ ทางรถไฟสายนี้จึงคดเคี้ยวเหมือนงูเลื้อย

ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ก่อตั้ง บริษัทรถไฟบางบัวทอง จำกัดสินใช้ ปี 2451 เริ่มวางรางปี 2452 ขนาดรางกว้าง 75 ซม. เปิดเดินรถปี 2458

ปี 2473 พ.ร.บ.คุ้มครองการสร้างทางรถไฟใช้แล้ว...เจ้าคุณวรพงศ์ต่อขยายเส้นทางจากบางบัวทองไปถึงทุ่งระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว ตอนนี้สร้างทางตรงได้ พร้อมกันก็ได้ย้ายทางแยกที่เคยไปถึงตลาดขวัญ ท่าน้ำวัดเฉลิมพระเกียรติ...

ไปตามศาลากลางจังหวัดแห่งใหม่ ไปสิ้นสุดที่ท่าน้ำนนทบุรี

ตอนเริ่มเดินรถใช้หัวรถจักรไอน้ำ ต่อมาฟืนหายาก ก็หันมาใช้หัวรถจักรดีเซล ถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 น้ำมันขาดแคลน ทั้งเจอคู่แข่ง บริษัทฝรั่งใช้เรือ “มอเตอร์โบ๊ต” วิ่งรับคนจากท่าน้ำบางบัวทอง มาท่าเขียวไข่กา รายได้รถไฟสายนี้เริ่มลดลงๆ

16 ก.ค.2485 เจ้าคุณวรพงศ์ประกาศเลิกกิจการ เริ่มรื้อถอนรางรถไฟ ไปขายบริษัทน้ำตาลวังกะพี้ ที่อุตรดิตถ์ ใช้ขนอ้อยจากไร่เข้าโรงงาน ปี 2520

โรม บุนนาค เล่าว่า เคยนั่งรถไฟสายบางบัวทอง ข้ามเรือจ้างจากท่าเทเวศร์ไปท่าวัดลิงขบ ขึ้นรถไฟไปลงสถานีวัดรวกบางบำหรุ ยังจำบรรยากาศตอนนั่งรถไฟได้ รถไฟวิ่งส่ายไปมาและกระเทือนตลอดทาง เหมือนนั่งเรือฝ่าคลื่น

ร่องรอยเส้นทางสายนี้ ยังพอมีเค้า ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 46 และถนนบางกรวย–ไทรน้อย บางแห่งยังมีตอม่อคอนกรีตสะพานรถไฟ...เหลือให้เห็น

ข้อคิดจากเรื่องรถไฟสายบางบัวทอง...เมื่อขาดทุน เอกชนก็เลิก... ตรงกันข้ามกับรถไฟหลวง ใช้งบประมาณซ่อมแซมรางที่พังแล้วพังเล่า รถไฟก็ตกรางครั้งแล้วครั้งเล่า...ปีละกว่า 2 หมื่นล้าน แต่หลวงท่านก็ยังทู่ซี้ทำเองต่อ

รถไฟไทยเริ่มมาก่อนประเทศใดในภูมิภาคเดียวกัน แต่วันนี้ล้าหลังกว่าหลายประเทศ เหตุแรกเพราะเป็นของหลวง เหตุต่อมาเพราะใช้คนไร้ประสิทธิภาพ นักการเมืองเข้ามาก็แอบหาประโยชน์ มีแรงเท่าไหร่ก็กอบโกยออกไป

รถไฟไทยไม่แค่แคะแกร็น คือไม่โตก็ยังถอยหลัง...เตี้ยลงๆทุกวัน

คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พูดเหมือนใจคิดครับ...คนการรถไฟไม่มีน้ำยา ยังไม่บังควรอย่างยิ่งที่จะจับงานใหญ่ กระทั่งงานบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร ซึ่งวันนี้มีโลโก้หรูหรา...ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ผมได้ข่าวมีขาใหญ่จากกลุ่มอำนาจใหม่...แย่งกันเข้ามาสวาปาม... ขาใหญ่มีหลายคน จนเอกชนที่ตั้งท่าจะเข้ามารับช่วง...ขยาด ประการแรกไม่รู้ว่าขาใหญ่ระดับรัฐมนตรีที่เข้าคุมจะหลุดจากเก้าอี้เมื่อไหร่

ประการต่อมา คนแบรับเงินไม่ใช่คนเดียว จ่ายแล้วก็ไม่แน่ใจ ว่าจะจ่ายถูกคน

ทุกกิจกรรมในบ้านเมือง มีการบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ ผมกำลังเป็นห่วงว่า ประวัติศาสตร์ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะเจ๊ง...กลายสภาพเป็นตลาดแบกะดินธรรมดา...ในสมัยรัฐบาล...ยิ่งลักษณ์ น้องทักษิณ

กว่าจะย้ายจากสนามหลวงมาจตุจักร ผมจำได้ พลตรีจำลอง ศรีเมือง ท่านเปลืองแรงสมองเปลืองแรงกายมาก หากใครมายื้อไปแล้วทำให้ “เสียของ” จะต้องเป็นเรื่องให้ตามประจานกัน แบบไม่มีวันเลิกราทีเดียว.

กิเลน ประลองเชิง
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 20, 21, 22 ... 24, 25, 26  Next
Page 21 of 26

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©