ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

Wisarut · Posted: 01/10/2019 5:40 pm Post subject:

รฟม. พร้อมเปิดให้บริการ อาคารจอดแล้วจร สถานีหลักสอง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป เวลา 05.00-01.00น. ซึ่งมีอาคารจอดแล้วจร 2 อาคาร บริเวณสถานีหลักสอง ทั้ง 2 ฝั่งถนน อาคารที่ 1 จอดรถได้ประมาณ 653 คัน และอาคารที่ 2 จอดรถได้ประมาณ 348 คัน รวมทั้ง 2 อาคารจอดรถได้ประมาณ 1,000 คัน มีอัตราค่าบริการดังนี้
- ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า อัตราค่าบริการ 2 ชั่วโมง 10 บาท
- ผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า อัตราค่าบริการ ชั่วโมงละ 20 บาท

https://www.js100.com/en/site/post_share/view/77890

Wisarut · Posted: 01/10/2019 6:13 pm Post subject:

วิ่งฉลุยสีน้ำเงินต่อขยาย”หัวลำโพง-บางแค”
วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562,

วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง – บางแคทั้งนี้ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงเตาปูน - ท่าพระ เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรเพื่อยกระดับการเดินทางของประชาชน ซึ่ง รฟม ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมให้ดูแลในการดำเนินงานโครงการ

ส่วนต่อขยายดังกล่าวมีเส้นทางเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคลไปฝั่งธนบุรี ระยะทางรวม 27 กม.แบ่งเป็น 2 ช่วงได้แก่ ช่วงหัวลำโพง - บางแค เชื่อมจากสถานีหัวลำโพงไปยังสถานีหลักสอง สิ้นสุดที่ถนนกาญจนาภิเษก ระยะทาง 16 กม. มีสถานีใต้ดิน 4 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี รวม 11 สถานี โดยเส้นทางระหว่างสถานีสนามไชยถึงสถานีอิสรภาพเป็นอุโมงค์ลอดใต้น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกมีระยะทางประมาณ 200 เมตร อยู่ใต้ของแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 10 เมตร ขณะที่ช่วงเตาปูน - ท่าพระ จะเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้ามหานครฉลองรัชธรรม เริ่มจากสถานีเตาปูนไปยังสถานีท่าพระ สิ้นสุดที่แยกท่าพระ ระยะทางประมาณ 11 กม. เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดสายมี 8 สถานี

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการจราจรในเขต กทม. ปริมณฑลอย่างเร่งด่วน ผ่านการเร่งรัดให้โครงการต่างๆโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้าเสร็จอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนให้เกิดความสะดวกสบายอีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในมิติของเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง - บางแค เป็นหนึ่งโครงการที่เราเร่งผลักดันให้เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ยังพูดประเด็นกูเกิ้ล โดยเผยว่าผมไม่ได้บอกว่าคนไทยไม่ใช่กูเกิ้ล แต่สิ่งที่ผมอยากสื่อคือ อยากให้ทุกคนหันมาใช้กูเกิ้ลในการสืบค้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์แล้วนำไปปรับใช้

อย่างไรก็ดีส่วนต่อขยายดังกล่าวที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันนี้ ยังมีอาคารจอดรถรองรับบริเวณสถานีหลักสอง 2 แห่ง ศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้า 1 แห่ง ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ที่สำคัญภายในทุกสถานีมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน ทางลาด ด้านอัตราค่าโดยสารทาง รฟม. และ BEM ได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ซึ่งยังคงราคาเริ่มต้นที่ 16 บาทและสูงสุดไม่เกิน 42 บาท สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

ทั้งนี้ในช่วงปลายปี 2562 นี้จะเริ่มทดลองการให้บริการช่วงเตาปูน - ท่าพระ และในเดือนมีนาคม 2563 จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ โดยเมื่อทั้งสองโครงข่ายแล้วเสร็จจะมีระยะทางรวม 48 กม. 38 สถานี มีเส้นทางเชื่อมเป็นวงกลมและจะมีจุดเชื่อมต่อราง บก น้ำ ได้อย่างไร้รอยต่อก้าวสู่การเป็นมหานครในระบบรางในอนาคตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Wisarut · Posted: 01/10/2019 6:35 pm Post subject:

"บิ๊กตู่" ชูรถไฟฟ้าแก้รถติด
วันที่ 30 กันยายน 2562

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลัง เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค วันที่ 30 กันยายน 2562 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญมุ่งมั่นแก้ปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างเร่งด่วนด้วยการผลักดันโครงการขนาดใหญ่ให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ได้กำหนดอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งเชื่อมต่อการเดินทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้ทั่วถึงกัน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาลให้ความสนใจ เร่งรัด ติดตามความก้าวหน้า เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งโครงข่ายได้โดยเร็วเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรอย่างเร่งด่วน

“บิ๊กตู่” สั่งผุดโมโนเรลเชื่อมรถไฟฟ้า “รฟม.” ลดค่าโดยสารสายสีน้ำเงิน-สีม่วง
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 30 กันยายน 2562 - 20:24 น.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ย.2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง – หลักสอง ระยะทาง 14 กม. ทั้ง 11 สถานี

พร้อมกล่าวเปิดงานว่า การมีรถไฟฟ้าทำให้เกิดความเชื่อมโยงการเดินทาง และทำให้เติมเต็มให้ครบทุกพื้นที่ เมื่อสายทางหลักได้สร้างเสร็จแล้ว ในระยะถัดไปก็จะเป็นการทำฟีดเดอร์ เช่น รถเมล์ หรือ โมโนเรล เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางในระดับย่อยลงมาอีก และต้องมองออกไปถึงต่างจังหวัดด้วย แต่ทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

ด้าน นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้บริการในช่วงหัวลำโพง – หลักสอง ตั้งแต่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา และเปิดเต็มลูปทั้งเส้นทางเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ซึ่งยังเก็บค่าโดยสารในอัตราเดิมคือ 16-42 บาท และหากเดินทางต่อกับสายสีม่วง (คลองบางไผ่ – เตาปูน) ก็จะมีค่าโดยสารสูงสุด 70 บาท โดย รฟม.จะยกเว้นการเก็บค่าแรกเข้า

@ คนแห่นั่งรถไฟฟ้าไปเยาวราชกินเจ

สำหรับจำนวนผู้โดยสารตั้งแต่ 27 ก.ค.-29 ก.ย.มีผู้โดยสารสะสมรวม 2.5 ล้านคน เฉพาะช่วงหัวลำโพง – หลักสอง มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 50,000 เที่ยวคน โดยช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ มีประชาชนทดลองใช้บริการเพิ่มอีกจนเป็น 100,000-120,000 เที่ยวคน/วัน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“เมื่อส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ – ท่าพระ เปิดให้บริการเต็มลูปในเดือน มี.ค.2563 โดยประมาณการไว้ที่ 400,000 เที่ยวคน/วัน เมื่อรวมกับระบบเดิมอีก 400,000 เที่ยวคน/วัน จะทำให้สายสีน้ำเงินมีผู้โดยสารในระบบที่ 800,000 เที่ยวคน/วันในช่วงปลายปีหน้า“

@ ปีหน้าสายสีม่วงผู้โดยสารแตะแสนคน

นอกจากนี้การเปิดใช้สายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – หลักสอง ก็ทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง (คลองบางไผ่ – เตาปูน) เพิ่มเป็น 70,000 เที่ยวคน/วัน และเมื่อเปิดช่วงบางซื่อ – ท่าพระเต็มลูปปีหน้า ก็จะทำให้ผู้โดยสารสายสีม่วงเพิ่มขึ้นตั้งเป้าไว้ที่ 100,000 เที่ยวคน/วัน

ขณะที่ขบวนรถปัจจุบันเดิมมี 19 ขบวน และรับมอบขบวนรถใหม่แล้ว 15 ขบวน รวมเป็น 34 ขบวน ยังเหลืออีก 20 ขบวนที่ต้องรับมอบอีก 20 ขบวน จะทยอยมาเรื่อยๆ จนครบในเดือน มี.ค. 2563

@ ออกโปรตั๋วเที่ยวควบม่วง-น้ำเงิน

นอกจากนี้ นายภคพงศ์ยังกล่าวถึงมาตรการลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าด้วยว่า รฟม.เสนอให้มีตั๋วเที่ยวควบ 2 ระบบ (สายสีน้ำเงิน-สายสีม่วง) 4 แบบ ประกอบด้วย

แบบที่ 1 จำนวน 15 เที่ยว มูลค่า 780 บาท (เฉลี่ยค่าโดยสาร 52 บาท/เที่ยว)

แบบที่ 2 จำนวน 25 เที่ยว มูลค่า 1,250 บาท (เฉลี่ยค่าโดยสาร 50 บาท/เที่ยว)

แบบที่ 3 จำนวน40 เที่ยว มูลค่า 1,920 บาท (เฉลี่ยค่าโดยสาร 48 บาท/เที่ยว)

และแบบที่ 4 จำนวน 50 เที่ยว มูลค่า 2,350 บาท (เฉลี่ย 47 บาท/เที่ยว) ซึ่งได้หารือกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ในฐานะเอกชนผู้รับสัมปทานแล้ว

ส่วนสายสีม่วงจะปรับลดค่าโดยสารช่วง Off Peak (9.30 – 15.30 น.) จากเดิม 14-42 บาท เป็น 14-20 บาท แต่ถ้าเดินทาง 1 สถานีจะเสีย 17 บาท คาดว่าจะทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 10,000 คน/วัน ซึ่งทั้ง 2 มาตรการจะนำเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. เห็นชอบ และเมื่อบอร์ด รฟม. เห็นชอบจะสามารถประกาศใช้ได้ทันที ส่วนจะใช้มาตรการยาวนานแค่ไหน อย่างน้อยน่าจะต้อง 6 เดือน ส่วนโปรโมชั่นเฉพาะสายสีน้ำเงิน ยังไม่มี

Wisarut · Posted: 02/10/2019 1:12 pm Post subject:

เส้นตาย 15 ตุลาคม เซ็นสัญญาไฮสปีด
ออนไลน์เมื่อ 01 ตุลาคม 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 15
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3509 วันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม 2562

คณะกรรมการคัดเลือกฯทำหนังสือ บีบซีพี เซ็นสัญญา 15 ต.ค.นี้ ตาม เส้นตาย “อนุทิน” วงในรับเหมาระวังถูกฟ้องกลับ ด้าน ITD สร้างออฟฟิศ-สำรวจรอแล้ว

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า รฟท.มีหนังสือถึง กลุ่มกิจการร่วมค้าเจริญโภคภัณฑ์ ให้ลงนามก่อสร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน วันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ขณะรายละเอียดการส่งมอบพื้นที่ยังต้องทำความเข้าใจ เพราะ รฟท. เป็นผู้ร่วมทุน ต้องหาทางสนับสนุนอยู่แล้ว เพียงต้องการให้อีอีซีเดินหน้า

แหล่งข่าววงการผู้รับเหมา อ้างว่า กลุ่มซีพีจะยื้อเวลาเซ็นสัญญาเพื่อรอความชัดเจนสนามบินอู่ตะเภาทั้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด หรือ การหาช่องร่วมทุนกับพันธมิตรเพราะสนามบินจะสร้างผลกำไรเนื่องจากใช้เกณฑ์เอกชนให้ผลตอบแทนรัฐสูงสุด ซึ่งจะนำมาชดเชยกับไฮสปีดที่ซีพี ขอสนับสนุนจากรัฐน้อยที่สุดประกอบกับเงื่อนไขพิเศษถูกตัดทิ้งเป็นเหตุให้การลงทุนทำได้ยากและส่อไปในทางขาดทุน ดัชนีชี้วัดผลงานหรือเคพีไอไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา จำนวนผู้โดยสารปีแรกของการเปิดให้บริการต้องมี 6 หมื่นคนต่อวันขณะความเร็วของรถไฟตามที่ทีโออาร์กำหนด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำเวลาได้ระยะสั้นระหว่างสถานีฉะเชิงเทรา-สถานีชลบุรีเท่านั้น นอกนั้นต้องเบรกและชะลอเพื่อจอดตามสถานี

เป็นไปได้ว่า จำนวนผู้โดยสาร ไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ จากตัวแปร 1. ระยะทางสั้น 2. ประชาชนมีทางเลือก เช่น ถนน มอเตอร์เวย์ ทางด่วน 3. ความเติบโตอีอีซียังไม่ปรากฏ 4. อู่ตะเภาเป็นโครงการสร้างกำไรโดยซีพีหวังผู้โดยสารส่วนนี้มาช่วย ฯลฯ ขณะวันที่ 7 พฤศจิกายน ข้อเสนอจะหมดอายุ ไม่สามารถยืนตามราคาตามที่เสนอได้ หากซีพีไม่เซ็นสัญญารฟท.อาจล้มประมูลหรือ เรียกรายที่ 2 คือ กลุ่มบีทีเอสแต่ทั้งนี้ระดับซีพีอาจจะฟ้องกลับรัฐได้และไม่ยอมเสียค่าประกัน 2,000 ล้านบาทเนื่องจากมีมือกฎหมายดีโดยอาจหยิบยกปัญหาส่งมอบพื้นที่ของรฟท.มาเป็นข้ออ้าง

แหล่งข่าวจากวงการผู้รับเหมาอีกรายระบุว่า นายอนุทิน ต้องการให้มีการเซ็นสัญญาไฮสปีด เนื่องจากเป็นกระดูกสันหลัง พาความเจริญจากกทม.ไปอีอีซีหากไม่เดินหน้าโครงการอีอีซีพังแน่ ทั้งนี้นายอนุทินขอให้ซีพี สร้างไปทยอยรับมอบไปหาก ให้รฟท. ส่งมอบพื้นที่ 100% 10 ปีไม่แน่ใจว่าจบหรือไม่ แหล่งข่าวกล่าวต่อว่าทั้งนี้หากซีพีเดินหน้าไปก็ขาดทุน ขณะตัวช่วยจากรัฐบาลมีน้อย อย่างไรก็ตามเป็นไปได้ว่า ซีพีอาจเลือกทิ้งเงินประกัน 2,000 ล้านบาท หากเทียบโครงการ 2 แสนล้านบาท ส่วนการขึ้นบัญชีดำเป็นเรื่องใหญ่เชื่อว่าจะกระทบทั้งหมด

“ฐานเศรษฐกิจ” ติดต่อไปยัง บมจ.ช.การช่างหนึ่งในผู้ถือหุ้นร่วมลงทุนรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน แต่ ไม่สามารถติดต่อได้

แหล่งข่าวจาก บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD หนึ่งในพันธมิตรกลุ่มกิจการร่วมค้าเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ITD รอกลุ่มซีพีเซ็นสัญญากับรฟท. ก่อน จากนั้นบริษัทพันธมิตรจึงจะลงนามกับกลุ่มซีพีได้ในฐานะผู้รับเหมาช่วง แต่ทราบว่าจะมีการรื้อประมูลกับกลุ่มซีพีใหม่ ทั้งนี้บริษัทมีความพร้อม ที่ผ่านมาได้ลงทุนสร้างอาคารสำนักงานชั่วคราวสำหรับโครงการไฮสปีดและลงพื้นที่สำรวจเขตทางไว้แล้ว ส่วนการถูกขึ้นบัญชีดำกรณีกลุ่มซีพีไม่เซ็นสัญญากับรฟท. ไม่แน่ใจว่าจะมีผล

ไขปม ซีพีเลื่อนเซ็นไฮสปีด
ออนไลน์เมื่อ 01 ตุลาคม 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 12
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3509 วันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม 2562

ระทึกอีกระลอกว่าวันที่ 15 ตุลาคม 2562 กลุ่มกิจการร่วมค้า เจริญโภคภัณฑ์ จะลงนามในสัญญา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามเส้นตายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม หรือไม่ หลังเลื่อนลงนามหลายครั้งกระทั่งใกล้ครบ 1 ปี

ปมปัญหาใหญ่กลุ่มซีพีต้องการให้รฟท.เคลียร์พื้นที่ก่อนส่งมอบให้เสร็จสมบูรณ์ 100% พร้อมแจงเหตุผลเกรงก่อสร้างเสร็จไม่ทันตามสัญญา 5 ปี มีภาระดอกเบี้ยผูกพันไม่รู้จบ จากการส่งมอบพื้นที่แต่ละช่วงแต่ละตอนต้องเริ่มนับ 1 สัญญา เชื่อว่าต้องเกินเวลาทั้งเวนคืน ไล่รื้อ ขณะซีก รฟท. ยืนยันในฐานะผู้ร่วมลงทุนคงไม่สร้างปัญหารุกลามบานปลายในลักษณะนั้น ถัดมากลุ่มซีพียังตั้งแง่ โยนภาระทุบเสาตอม่อโฮปเวลล์ ให้เป็นหน้าที่ของรฟท. กระทั่ง “หมอหนู” นายอนุทิน ออกมาประชดจะขอควักเงินส่วนตัว 200 ล้านบาทให้เป็นค่ารื้อถอนซึ่งมองว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะนำมาเป็นข้ออ้างเลื่อนลงนาม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยามชิดชอบ ยํ้าข้อมูลคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่แจ้งว่า กลุ่มซีพีสามารถทำตามข้อกำหนดหนังสือแนบท้ายสัญญา ดังนั้นน่าจะลงนามในสัญญาได้ “ในแง่การก่อสร้างที่มีปัญหาก็มีข้อกำหนดชัดเจน หากพื้นที่ใดมีปัญหาก็สามารถขยายเวลาในการก่อสร้างออกไปได้”

มุมวิเคราะห์นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด สะท้อนว่า “ทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะบรรลุข้อตกลง กลุ่มซีพีเองอยากลงทุนไม่เช่นนั้นไม่ต่อสู้มาอย่างยาวนานเกือบ 1 ปี เพียงแต่ยังติดปัญหาบางประการที่ต้องเจรจา”

ขณะปมลึกแสนเจ็บร้าว กลุ่มซีพีต้องการขอให้กระทรวงการคลัง คํ้าประกันเงินลงทุนดอกเบี้ยตํ่าวงเงิน 2 แสนล้านบาทจากธนาคารต่างชาติในฐานะพันธมิตรซึ่งข้อนี้ถูกคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินตัดออกเป็นข้อแรกๆ มุมผู้รับเหมามองว่า หากกลุ่มซีพีตั้งใจจริงไม่น่าตื่นกลัวล่วงหน้า ทุกโครงการย่อมมีผลกระทบด้านการเวนคืนไล่รื้อแทบทั้งสิ้น แต่ที่น่าจับตาการดัมพ์ราคา ตํ่าๆ ไร้เงื่อนไขพิเศษทำให้กลุ่มซีพี ตกที่นั่งขาดทุน อีกประเด็นใหญ่ที่ เพลี่ยงพลํ้าสะดุดขาตัวเอง คือสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน 2.9 แสนล้านบาท ขุมทรัพย์ทำกำไรต่อยอดไฮสปีด ซึ่งยังลุ้นต่อว่าในที่สุดแล้วศาลปกครองสูงสุดจะพลิกคำพิพากษาจากศาลปกคลองกลางหรือไม่

อย่างไรก็ตาม วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 จะหมดเวลาการยื่นราคาไฮสปีด ที่กลุ่มซีพี เสนอ หาก วันที่ 15 ตุลาคมถูกถ่างเวลาเซ็นสัญญาออกไปเชื่อว่ากลุ่มบีทีเอสจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

Wisarut · Posted: 03/10/2019 5:36 pm Post subject:

รฟม. #เตรียมออกตั๋วเที่ยว สำหรับเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน - สายสีม่วง โดยมีส่วนลดให้สูงสุด 33% ตั๋วถูกสุด 50 เที่ยว ค่าโดยสารเฉลี่ย 47 บาท/เที่ยว ส่วนผู้โดยสารที่ใช้บริการ MRT สายสีม่วง นอกเวลาเร่งด่วน รฟม. จะจัดโปรโมชั่นให้สำหรับเดินทางมากกว่า 1 สถานีขึ้นไป โดยคิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปลายปีนี้

https://www.bltbangkok.com/News/รฟม-MRT-รถไฟฟ้าใต้ดิน-ค่าโดยสารรถไฟฟ้า-ตั๋วรายเดือน

Wisarut · Posted: 04/10/2019 10:48 am Post subject:

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ เตรียมใช้บริการได้เลย

คอลัมน์ฐานโซไซตี
โดย...พริกกะเหรี่ยง
ออนไลน์เมื่อ วันที่ 3 ตุลาคม 2562
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3510 ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2562

.......ดีเดย์กดปุ่มเป็นทางการไปเรียบร้อย โดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานในพิธี เปิดเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-หลักสอง เมื่อวันที่ 30 กันยายน หลังจากเปิดบริการครบทั้ง 11 สถานีเมื่อวันที่ 21 กันยายน และได้ทดสอบให้นั่งฟรี จนแน่ใจว่าระบบสมบูรณ์แบบ จึงแกรนด์โอเพนนิ่ง พร้อมทั้งเริ่มเก็บค่าตั๋ว “16บาท” ไปเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา

.......ส่วนรถไฟฟ้าสายอื่นๆ อัพเดตไทม์ไลน์ล่าสุดที่จะเปิดให้บริการรถปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ยังเตรียม “เปิดหวูด” อีกหลายสถานี ของทั้ง 2 เจ้าสัว “คีรี กาญจนพาสน์” และ “ปลิว ตรีวิศวเวทย์” โดยในเดือนธันวาคมนี้ รฟม. จะเริ่มทดลองเดินรถสายสีน้ำเงินช่วง “เตาปูน-ท่าพระ” ให้นั่งฟรีอีกเช่นกัน ข้อดีของสายนี้ จะไปเชื่อมต่อบรรจบกับส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค ที่ “สถานีท่าพระ” และจะเกาะติดถนนสายหลักจรัญสนิทวงศ์ ผ่านสถานีบางโพ บางอ้อ บางพลัด สิรินธร บางยี่ขัน บางขุนนนท์ สามแยกไฟฉาย และจรัญฯ 13 ซึ่ง การันตีคนฝั่งธนได้นั่งรถไฟฟ้าแน่นอนปลายปีนี้และตีตั๋วฟรียาวไปถึงสิ้นมีนาคมปีหน้า

.......ได้ทีเปิดหวูด รถไฟฟ้า “เตาปูน-ท่าพระ” ผ่านห้างใหญ่อย่าง ศูนย์การค้าเกตเวย์บางซื่อ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” จึงไม่รอช้ารีบควักกระเป๋า “30 ล้านบาท” สร้างทางเชื่อมเข้าห้างจากสถานีบางโพเอาใจขาช็อปได้เดินเข้าห้างกันอย่างสะดวกสบาย ซึ่งอานิสงส์นี้คงตกอยู่กับคอนโดฯที่รายล้อมย่านบางโพทั้งหมดด้วย

.......“ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ” ผู้ว่าการรฟม. ระบุว่าส่วนต่อขยายหัวลำโพง-หลักสอง มีคนใช้บริการ “เกือบ 1 แสนเที่ยว/วัน” อีกทั้งรถไฟฟ้าสายนี้ มีสถานีสวยที่สุด ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญย่านเก่าเชื่อมฝั่งพระนครกับฝั่งธน ผ่านเยาวราช สถานีวัดมังกร สามยอด สนามไชย อิสรภาพ ล้วนน่าทึ่ง ! แต่เมื่อเริ่มเก็บเงิน ต้องวัดใจกันว่ายอดผู้โดยสารจะยังทะลักต่อหรือไม่ ? จากระยะทางส่วนต่อขยายใหม่ ยาว 27 กิโลเมตร

.......อีกทั้งเมื่อรถไฟฟ้า “สายสีน้ำเงิน” เปิดให้บริการครบลูปทั้งสายเก่า-สายใหม่ในเดือนเมษายนปีหน้าจะทำให้มีสถานีทั้งหมด 38 สถานี แต่เก็บค่าโดยสารสูงสุดเท่าเดิมคือเริ่มต้นที่ 16 บาท ไปจนถึงสูงสุด 42 บาท ก็น่าจะทำให้คนกรุงหันมานิยมใช้บริการสาธารณะเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากขึ้น โดยรฟม.ตั้งเป้าเฉพาะสายสีน้ำเงินไว้สูงถึง 8 แสนเที่ยวคน/วัน ในปี 2564

.......ประเมินแล้วก็น่าจะเป็นจริงได้ไม่ยาก? เพราะเส้นทางไกลขึ้น เชื่อมต่อกันมากขึ้น ที่ยังเป็นห่วงก็ที่การเชื่อมโยงระบบขนส่งย่อย หลังลงจากสถานีแล้วจะต่อ รถตู้ วินมอเตอร์ไซค์ ขสมก. อย่างไรให้สะดวกเพราะต้องไม่ลืมว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่คอนโดฯแนวรถไฟฟ้าและออฟฟิศตั้งอยู่แนวรถไฟฟ้า แต่ต้องเดินทางต่อเข้าหมู่บ้าน เข้าตรอก ซอกซอย ฉะนั้นระบบขนส่งย่อยๆ ต้องเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบถึงจะได้ผล ซึ่งรัฐบาลต้องไม่หลงลืมเรื่องเหล่านี้หากต้องการสนับสนุนให้คนเลิกขับรถมานั่งรถไฟฟ้ากันมากๆ นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องราคา

.......อีกสายที่จะได้เห็นเปิดหวูดปลายปีนี้เช่นกัน รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงของ รฟท. บางซื่อ-รังสิต ซึ่ง “วรวุฒิ มาลา” บินไปรับขบวนรถจากโรงงานฮิตาชิ ประเทศญี่ปุ่น และส่งลงเรือเป็นที่เรียบ ร้อยคาดกลางเดือนตุลาคมนี้ ขบวนรถจะส่งตรงถึงประเทศไทย และจะนำมาทดลองให้บริการปลายปีนี้ รถไฟฟ้าสายนี้คนแถวหลักสี่ ดอนเมือง คงแฮปปี้ ส่วนชาวธรรมศาสตร์รังสิตรอไปก่อน ช่วงแรกคงนั่งฟรี

.......ส่วนเรื่องลดราคารถไฟฟ้าทุกสาย เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ตามนโยบายพรรคภูมิใจไทยต้อง “อดใจรอ” อีกนิด “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” บอกว่า จะประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ หลังสั่งกรมการขนส่งทางรางปรับวิธีการใหม่ แย้มมีหลากหลาย คาดน่าจะทำคลอดเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ แว่วว่าสายสีม่วงช่วง OFF PEAK จะได้นั่ง 20 บาทตลอดสาย

.......พีเอ็มจี ชวนผู้ประกอบการไทยร่วมออกบูธงาน Mingalar Smart SME Thai เมียนมา ระหว่างวันที่ 25 - 31 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การค้า GMP ย่างกุ้งในกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม ความงาม แฟรนไชส์ สนใจจองพื้นที่ โทร. 09-4915-4624, 08-6344-5358

.......“วัลลภ เจียรวนนท์” ชวนร่วมงานเดิน - วิ่ง เพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2562 วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมนี้ ตี 5-9 โมงเช้า ณ กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี สอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมสภาผู้สูงอายุฯ หรือที่มูลนิธิส่งเสริมผู้สูงอายุฯโทร. 0-2282-3251 และ 0-2282-7716

.......ใครที่ยังหาที่ใช้ 1 พันบาทไม่ได้ “กฤษณา อัมพุช” ยกขบวนห้างฯในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ขานรับมาตรการ “ชิม ช้อปใช้” ผ่านแอพ “เป๋าตัง” จ่ายผ่าน G-Wallet ได้ที่ เดอะมอลล์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ วันนี้-30 พฤศจิกายน

Wisarut · Posted: 04/10/2019 1:18 pm Post subject:

รถไฟฟ้าช่วงหัวลำโพง-บางแคเหงา หลังเก็บเงินผู้โดยสารลดลง 3 หมื่น กุมขมับจ่อทำโปรขายตั๋วรายเดือน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2557997360913860&set=a.1775055352541402&type=3&theater

Mongwin · Posted: 04/10/2019 3:11 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 08/10/2019 10:05 am Post subject:

เตือนภัย! มิจฉาชีพอ้างกระเป๋าโดนกรีดของสำคัญสูญหาย เหยื่อเห็นใจติดเบ็ดไปหลายราย
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2562 12:50

ชาวเน็ตโพสต์เตือนภัย มิจฉาชีพสาวสูงวัยในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน อ้างกระเป๋าโดนกรีดจนเหยื่อเห็นใจต้องแบ่งเงินเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน พบทำมานานแล้ว

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Atcharaphorn Bubpachat" ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัย ที่ตนเองได้เจอภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายหนึ่ง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผู้โพสต์ได้ระบุว่า มีหญิงสูงวัยรายหนึ่งเดินเข้ามาพูดคุยกับตนเองให้ช่วยโทรศัพท์เข้ามือถือ แต่ปรากฎว่าโทรศัพท์ไม่อยู่ในกระเป๋า ประกอบกับตัวผู้โพสต์สังเกตเห็นว่ากระเป๋าของหญิงสูงวัยคล้ายโดนกรีด จึงได้สอบถามว่ากระเป๋าโดนกรีดหรือไม่ หญิงสูงวัยมีท่าทีตกใจและโอดว่าสิ่งของสำคัญสูญหายไปหมด ด้วยความสงสาร ผู้โพสต์จึงตัดสินใจยื่นเงินส่วนหนึ่งให้เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับประณามมิจฉาชีพที่กรีดกระเป๋า

อย่างไรก็ตาม ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาเตือนว่า ตัวผู้โพสต์เองนั้นแหละที่โดนมิจฉาชีพคือหญิงสูงวัยคนดังกล่าวหลอก นอนจากนี้ยังพบอีกว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีชาวเน็ตหลายคนที่โดนหลอกและทำมานานแล้ว ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกสู่โลกโซเชียลแล้วเกือบ 4,000 ครั้ง

Wisarut · Posted: 16/10/2019 11:20 am Post subject:

สถานีวัดมังกร เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดใหม่แบบสดๆร้อนๆ ความดีงามของสถานทีนี้ นอกจากจะถูกตกแต่งแบบสไตล์จีน ให้คนได้มาถ่ายรูปแล้ว รอบๆสถานนี้ยังมีที่เที่ยวเด่นๆ ให้เราได้ไปเดินกิน เดินเที่ยว มากมายเลยค่ะ ตามไปดูกันเลย😁

1. วัดเล้งเน่ยยี่ เป็นวัดที่ถูกสร้างตามหลักความมงคล ในความเชื่อของคนจีนทุกอย่าง ด้านในประดิษฐานพระประธานของวัด ได้แก่ พระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ และพระไภษัชยคุรุพุทธะ เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนปีนักษัตร วัดนี้จะคึกคักมากๆ เพราะเป็นสถานที่แก้ปีชงค่ะ

2. ถนนเยาวราช ถนนเส้นที่ดังระดับต้นๆของกรุงเทพฯ ขึ้นขื่อว่าถนนเส้นที่ไม่มีวันหลับ เป็นแหล่งรวมของอาหารอร่อยๆ มากมาย ไม่ต้องพูดเยอะค่ะ หลายๆ คนคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว

3. แยกเสือป่า เดินจากสถานีวัดมังกรไปไม่ไกลมาก จะเจอกับเสือป่า ย่านแห่งสินค้าไอทีไว้ทุกแบบ ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ที่สำคัญราคาถูกมากๆ เดินตรงนี้เสร็จยังสามารถเดินไปคลองถมได้อีกด้วย ได้ของถูกแน่นอนค่ะ

4. วัดไตรมิตร วัดโบราณแต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด ตัววัดมีวิหารขนาดใหญ่ ด้านบนสุดของวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อทองคำ” พระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างจากเนื้อทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

5. ร้าน Nana Coffee Roasters เดินมาอีกนิด จะเจอกับย่านนานา ตรงนี้จะมีคาเฟ่ฮิปๆมากมาย และที่แรกคือ Nana Coffee Roasters คาเฟ่ที่มีเมนูกาแฟหอมๆ ละมุนๆไว้มากมาย ตกแต่งแบบอาร์ตๆ สวยงาม ถ่ายรูปได้ทุกมุม

6. ร้าน 103 Bed and Brew ร้านคาเฟ่เล็กๆ ตกแต่งสไตล์จีน มีบาร์กาแฟไนโตรเด่นอยู่หน้าร้าน ด้านบนเป็นโฮสเทล ใครมาเที่ยวแล้วขี้เกียจกลับ ก็นอนที่นี่ได้ค่ะ

7. ร้าน Ba Hao อีกหนึ่งบาร์ของนานา ที่มีการรีโนเวทตึกแถวเก่าๆ มาทำเป็นบาร์ ที่บาร์นี้จะถูกตกแต่งแบบจีนในยุคเก่าแต่ดูร่วมสมัย อาหารและเครื่องดื่มของที่ร้านก็จะเป็นอาหารแนวจีนเกือบหมด เป็นอีกร้านนี่น่ามาแฮงค์เอาท์มากๆ
https://www.facebook.com/TravelokaTH/posts/2988506097844453