ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

Wisarut · Posted: 01/04/2020 6:43 pm Post subject:

เปิดพิกัด15สถานีขายหน้ากากผ้า MRT
หน้า ข่าวทั่วไป
31มีนาคม 2563 เวลา 08:36 น.

รฟม. ห่วงใยผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ที่ยังจำเป็นต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จึงขอแนะนำวิธีการใช้รถไฟฟ้าอย่างไรให้ห่างไกลจาก COVID-19 ดังนี้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่เข้าใช้บริการในระบบรถไฟฟ้า ทั้งนี้ ได้จัดจุดจำหน่ายหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ให้แก่ผู้โดยสารจำนวน 15 สถานี ได้แก่ สถานีสีลม,สถานีสุขุมวิท, สถานีเพชรบุรี, สถานีพระราม 9, สถานีสวนจตุจักร, สถานีหลักสอง, สถานีบางหว้า, สถานีวัดมังกร, สถานีอิสรภาพ,สถานีสามยอด, สถานีเตาปูน, สถานีบางซ่อน, สถานีกระทรวงสาธารณสุข, สถานีตลาดบางใหญ่ และสถานีคลองบางไผ่ ในราคา 15 - 35 บาท

Wisarut · Posted: 01/04/2020 6:52 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 03/04/2020 10:54 am Post subject:

ชงรถไฟฟ้า3 ระบบ ปิดบริการ 21.30น.รับประกาศเคอร์ฟิว

02 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 19:27 น.

ผู้บริหารรถไฟฟ้าทุกระบบ ทั้งMRT/ BTS / รถไฟฟ้า Airport Rail Link เตรียมหารือ "กรมราง"ฯ เสนอให้รถไฟฟ้าทุกระบบ ปิดให้บริการในเวลา 21.30 น.พร้อมกัน เพื่อเผื่อเวลาให้ผู้โดยสาร พนักงานเดินทางจากสถานีกลับเคหสถานก่อนเวลาเคอร์ฟิว 22.00 น.

2 เม.ย.63-นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่าหลังนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเคอร์ฟิว โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามประชาชนที่ไม่มีกิจจำเป็น ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22:00 นถึง 04:00 น มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(3 เม.ย.) เป็นต้นไปนั้น รฟม.ในฐานะที่กำกับดูแลการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง จะเร่งหารือกับกรมการขนส่งทางราง เพื่อกำหนดเวลาปิดให้บริการให้สอดคล้องกับการประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าว

อย่างไรก็ตามในความเห็นส่วนตัวเห็นว่า การปิดให้บริการในเวลา 21.30 น เป็นเวลาที่เหมาะสม เพื่อเผื่อเวลาให้ประชาชนเดินทางจากสถานีกลับเคหสถานได้ทันตามกำหนดเวลาเคอร์ฟิว รวมทั้งรถไฟฟ้าทุกระบบจะต้องปิดทำการในเวลาเดียวกัน เพื่อให้รูปแบบบริการสอดคล้องกันทั้งระบบ ส่วนเวลาเปิดให้บริการ ในส่วนของรฟม . การประกาศเคอร์ฟิวถึงเวลา 04.00 ไม่มีผลกระทบแต่อย่างไร

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า ประกาศดังกล่าวจะทำให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะปรับเวลาในการให้บริการโดยในช่วงเช้าจะให้บริการในเวลาเดิมคือ ขบวนแรกเวลา 05 .30 นาที และขบวนสุดท้ายจะให้บริการ ปลายทางทั้งจากสถานีพญาไทและสถานีสุวรรณภูมิในเวลา 21 .30 นาที โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการเดินทางกลับที่พัก

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส 99 ฟ้าเวลาปิดให้บริการ 21.30 น น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการปิดให้บริการที่จะสอดคล้องกับประกาศเคอร์ฟิว 22.00 น. ซึ่งขณะนี้ผู้บริหาร BTS อยู่ระหว่างการหารือถึงแนวทางปฏิบัติ และจะมีการหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางราง อีกครั้ง

ด้านนายสุรชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่าหลังจากประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าว ขณะนี้สำนักเขตเดินรถต่างๆได้รับทราบแล้ว โดยจะต้องมีการปรับเวลาในการเดินรถโดยในช่วงเช้าจะออกรถได้เวลา 4:00 น. เหมือนเดิมแต่ว่าในช่วงเที่ยวขากลับรถเมล์ขสมก.ทุกคัน ให้บริการถึงเวลา 21.00 น.-21.15 น.และจำเป็นที่จะต้องถึงอู่ก่อนในเวลา 22.00 น.

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีจำนวนผู้โดยสารเหลือที่ใช้บริการเพียง40% เท่านั้น ส่วนมาตรการระยะห่างยืนยันว่ายังมีการดำเนินการอยู่แต่ภาพที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น เป็นเพียงแค่ผู้โดยสารบางส่วนทั้งนี้ได้กำชับให้พนักงานขสมก.เข้มงวดกับมาตรการดังกล่าวแล้ว

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า จากที่มีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศห้ามออกจากบ้าน 22.00 น.-04.00น.นั้น ในส่วนของรฟท. นั้น จะงดให้บริการเดินรถในเส้นทางสายยาวที่จะต้องออกจากสถานีต้นทางทุกสถานีที่มีการเดินรถในช่วงเวลา 13.00น.เป็นต้นไป เนื่องจากจะการเดินทางระหว่างทางจะคาบเกี่ยวทีประกาศห้ามเดินทาง ซึ่งจะทำให้เส้นทางบริการเดินรถสายยาวของรฟท. จำนวนกว่า 30เส้นทาง ต้องหยุดให้บริการไปโดยปริยาย จากเดิมที่ รฟท. หยุดให้บริากรรถไฟในสายยาวไปแล้วกว่า 22 เส้นทาง ส่วนรถไฟสายสั้นนั้นยังไม่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัจจุบัน การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าแต่ละระบบ นั้น ในส่วนรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ให้บริกาาตั้วแต่ 06.00-24.00น เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า BTS เปิดให้บริการ 06.00-24.00น สวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 05.30-24.00 น.

Wisarut · Posted: 06/04/2020 9:56 pm Post subject:

“เคอร์ฟิว”ฉุดผู้โดยสารระบบรางลด 92.32% “ศักดิ์สยาม”ยันเยียวยาเอกชนยึดตามสัญญา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 06 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 19:37

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในส่วนของระบบรางทั้งหมดนั้น ได้มีการปรับเวลาการเดินรถให้สอดคล้องกับประกาสเคอร์ฟิวโดยรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.) และปริมณฑล ทุกสายปิดให้บริการในเวลา 21.30 น.ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) งดการเดินรถโดยสารเชิงพาณิชย์เส้นทางสายเหนือ ,สายใต้ ,สายตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งรถด่วนพิเศษ รถเร็ว, รถท้องถิ่น

ซึ่งเมื่อวันที่ 4 เม.ย. พบว่า จำนวนผู้โดยสารใช้บริการระบบรางทั่วประเทศมีจำนวนลดลง 89.32% ส่วนวันที่ 5 เม.ย. ผู้ใช้บริการลดลง 92.32%

โดยรฟท.มีผู้โดยสาร จำนวน 7,156 คน (446 สถานี) รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ มีผู้โดยสาร 5,434 คน (8 สถานี) รถไฟฟ้า MRT มีผู้โดยสารรวม 28,492 คน(53สถานี) จากปกติที่มีผู้ใช้บริการ เกือบ 5แสนคน/วัน แบ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มีจำนวน 24,355 คน ( ปกติ4.5 แสนคน) สายสีม่วง มีจำนวน 4,137 ( ปกติ( 6-7 หมื่นคน/วัน) และรถไฟฟ้าบีทีเอส มีผู้โดยสาร 57,300 คน จากปกติ ที่มีผู้โดยสาร 8.5 แสนคน/วัน

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ในวันปกติ ขณะนี้ ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สีน้ำเงินและสีม่วงรวมกันจะอยู่ที่ประมาณ 8-9 หมื่นคน/วัน คาดว่า ในวันอังคารที่ 7 เม.ย.ซึ่งเป็นวันทำงาน ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT จะกลับมาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ รฟม. และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ยังคงดำเนิน มาตรการ Social Distancing ในการดูแลผู้โดยสารในระบบอย่างเข้มข้น

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นอันดับแรก ซึ่งปัจจุบัน ผู้ให้บริการระบบขนส่งทุกรายให้ความร่วมมือ ในมาตรการเว้นระยะห่าง ขณะที่จำนวนผู้โดยสารลดลงมาก หลังจากให้ประชาชนร่วมมือกันอยู่บ้าน. อย่างไรก็ตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ทุกคน ทุกประเทศ ได้รับผลกระทบเหมือนกัน ความร่วมมือกันทุกภาคส่วน เชื่อว่าจะทำให้ไทยสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้ และกลับสู่ภาวะปกติได้เร็ว หากประเทศรอด ประชาชนทุกคนและผู้ประกอบการจะรอด ส่วนผลกระทบทางธุรกิจ มีสัญญาที่สามารถนำมาพิจารณาได้

ขนส่งสาธารณะรับ“เคอร์ฟิว”
โดย กัลยา ยืนยง
06 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 00:01 น.

หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศห้ามบุคคลใดทั่วประเทศออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าหลังเวลา 22.00 น.เป็นต้นไป ทุกคนห้ามออกจากเคหสถาน รวมถึงการให้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภทจะต้องหยุดให้บริการในเวลาดังกล่าว

เพื่อเป็นการปรับแผนให้สอดคล้องกับเคอร์ฟิว ปิดบริการ 21.30 - 04.00 น. ”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลนโยบายของกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเคอร์ฟิว โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามประชาชนที่ไม่มีกิจจำเป็นออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. มีผลตั้งแต่ วันที่ 3 เม.ย.เป็นต้นไปนั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานด้านขนส่งสาธารณะปรับแผนการให้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งดังกล่าว โดยให้ปิดบริการตั้งเวลา 21.30-04.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

ด้าน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ลงนามออกประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่องมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 2 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกำหนดมาตรการการให้บริการระบบราง สอดคล้องกับข้อกำหนด รวมถึงยึดถือความสะดวก ความปลอดภัย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติในแนวทางที่ใกล้เคียงกัน

สำหรับข้อปฏิบัติของผู้ให้บริการนั้น โดยเปิดให้บริการเดินระบบรถไฟและรถไฟฟ้าระหว่างวันภายหลังเวลา 04.00 น. และปิดให้บริการที่สถานีปลายทางในเวลา 21.30 น.โดยประมาณ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารให้สามารถกลับถึงเคหสถานก่อนเวลา 22.00 น. นอกจากนี้ ให้พิจารณาลดการปฏิบัติการเดินรถ ให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และให้ความร่วมมือแก่ทางราชการ

ในส่วนของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้กำหนดเวลาปิดให้บริการให้สอดคล้องกับการประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าว โดยเห็นว่าการปิดให้บริการในเวลา 21.30 น.เป็นเวลาที่เหมาะสม เพื่อเผื่อเวลาให้ประชาชนเดินทางจากสถานีกลับเคหสถานได้ทันตามกำหนดเวลาเคอร์ฟิว รวมทั้งรถไฟฟ้าทุกระบบจะต้องปิดทำการในเวลาเดียวกัน เพื่อให้รูปแบบบริการสอดคล้องกันทั้งระบบ ส่วนเวลาเปิดให้บริการ ในส่วนของ รฟม. การประกาศเคอร์ฟิวถึงเวลา 04.00 น. ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด

ขณะที่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ได้ประกาศดังกล่าว จะทำให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์จะปรับเวลาในการให้บริการ โดยในช่วงเช้าจะให้บริการในเวลาเดิมคือ ขบวนแรกเวลา 05.30 น. และขบวนสุดท้ายจะให้บริการปลายทางทั้งจากสถานีพญาไทและสถานีสุวรรณภูมิในเวลา 21.30 น. โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการเดินทางกลับที่พัก, บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ขอปรับเวลาการให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสจะให้บริการผู้โดยสารในทุกสถานี ทั้งสายสุขุมวิท และสายสีลม ถึงเวลา 21.30 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.นี้

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ออกประชาสัมพันธ์กรณีที่ ขสมก.ได้ปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการรถโดยสารประจำทางจากเวลาปกติ เป็นให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. (เวลา 21.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น

โดยขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทุกท่าน โปรดเตรียมตัวเดินทางกลับเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รถโดยสารเที่ยวสุดท้ายเกิดความแออัดจากการมีผู้ใช้บริการมากเกินไป ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ขณะเดียวกัน ขสมก.จะเพิ่มรถโดยสารเที่ยวสุดท้ายประมาณอีก 2-3 คัน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาผู้ใช้บริการหนาแน่นในช่วงเวลาการเดินรถเที่ยวสุดท้าย

จะเห็นได้ว่าระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทต่างก็เด้งรับคำสั่งประกาศเคอร์ฟิว ดังนั้นประชาชนที่ใช้บริการก็ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ในส่วนของรถสาธารณะที่ให้บริการรอบสุดท้ายจะให้บริการในเวลากี่โมงนั้น เรื่องนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบกันแล้ว คงต้องบอกว่าวินาทีนี้ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจเพื่อให้วิกฤติครั้งนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็วไว.

'ศักดิ์สยาม'จี้เร่งรัดก่อสร้างงานรถไฟฟ้าช่วงกลางวันลดผลกระทบช่วงเคอร์ฟิว

06 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 14:13 น.

6 เม.ย.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งหมด ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00น.-04.00 น. โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศฯ ทำให้ทำงานไม่ตรงตามเป้าหมาย ล่าช้ากว่าแผนนั้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าในส่วนนี้ให้ไปปรับแผนการก่อสร้างเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งให้แต่ละหน่วยงานไปรวบรวมปัญหา อุปสรรค ที่จะทำให้เกิดความล่าช้า และหากปัญหาที่จะเกิดขึ้นต้องมีการประสานระหว่างหน่วยงาน ระหว่างกระทรวง หน่วยงานนั้นๆจะต้องรีบแจ้งกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ช่วยประสานงานไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

“ที่มีหลายฝ่ายกังวลว่า ระยะเวลาการทำงานเหลือน้อย จากเดิมสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน พอมีประกาศทำให้เข้าพื้นที่ ก่อสร้างได้น้อยลง และส่งผลกระทบทำให้งานล่าช้านั้น ในเรื่องนี้เอกชนไม่ต้องกังวลเพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องรวบรวบปัญหาอุปสรรคมาที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งตามระเบียบข้อกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีสาธารณภัย ระเบียบราชการมีเรื่องการขยายระยะเวลาอยู่แล้ว ซึ่งหน่วยงานจะต้องดูตามข้อเท็จจริงประกอบระเบียบข้อกฎหมายมาประกอบหากผู้รับจ้างได้รับผลกระทบที่เห็นชัดเจน”นายศักดิ์สยามกล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ล่าสุดทาง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้รายงานมาว่า สำหรับโครงการการสร้างรถไฟฟ้า ของ รฟม. ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิว รฟม. ได้แก้ปัญหา โดยได้ให้คู่สัญญางานก่อสร้างจัดทำแผนเร่งรัดงานก่อสร้างในช่วงกลางวันให้มากขึ้น

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ การก่อสร้าง รถไฟฟ้าทุกเส้นทาง ต่างได้รับผลกระทบ จากการประกาศเคอร์ฟิว นื่องจาก เอกชนทุกรายพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันการระบาดของไวรัส COVID -19 เพราะในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่เฉพาะเอกชน ที่รับงานก่อสร้างเท่านั้น แต่เอกชนทุกธุรกิจทุกกลุ่ม ต่างได้รับผลกระทบหมด ซึ่งประเด็นการก่อสร้างรถไฟฟ้า ก็เช่นเดียวกัน กรณีงานก่อสร้างล่าช้านั้น หากเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติ หรือ โรคระบาด ที่เป็นเหตุจำเป็น เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ภาครัฐก็จะมีมาตรการเยียวยา เช่นเดียวกัผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้ารถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในปัจจุบัน ณ สิ้นเดือนกุมพาพันธ์ 2563 รถฟ้าสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) อยู่ที่ 51.68% ,รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) 56.96% สายสีเขียว (หมอชิต –สะพานใหม่ คูคต) 100% (งานโยธาฯ) รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคลาย-มีนบรี 52 % ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เส้นทาง ท่าพระ-เตาปูน-หลักสอง และหลักสอง-หัวลำโพง-ท่าพระ ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ เดินรถครบลูป เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผานมา

Wisarut · Posted: 08/04/2020 1:16 pm Post subject:

รถไฟฟ้า MRT เสริมขบวน เพิ่มความถี่ “สีน้ำเงิน-ม่วง” ช่วงเย็น
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 7 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18:02
ปรับปรุง: 8 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 09:34

รฟม.และ BEM เพิ่มขบวนรถไฟฟ้า MRT ในชั่วโมงเร่งด่วนเย็นตามมาตรการ Social Distancing เพิ่มความถี่สายสีน้ำเงิน 3.50 นาที/ขบวน สีม่วง 4.30 นาที/ขบวน เร่งส่งผู้โดยสารกลับเข้าบ้านก่อนเคอร์ฟิว

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รฟม. และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) พร้อมปรับเพิ่มขบวนรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการประชาชนช่วงก่อนเวลาเคอร์ฟิว 22.00 น. ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

โดยรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินจะจัดรถไฟฟ้าจำนวน 42 ขบวน วิ่งให้บริการต่อเนื่องในชั่วโมงเร่งด่วนเย็นจนถึงปิดให้บริการ ระหว่างเวลา 17.30-21.30 น. ด้วยความถี่ให้บริการ 3.50 นาทีต่อขบวน และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จะจัดรถไฟฟ้าจำนวน 16 ขบวน วิ่งให้บริการต่อเนื่องในชั่วโมงเร่งด่วนเย็นจนถึงปิดให้บริการ ระหว่างเวลา 18.00-21.30 น. ด้วยความถี่ให้บริการ 4.30 นาทีต่อขบวน ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความหนาแน่นแก่ผู้โดยสาร สามารถเดินทางกลับเข้าเคหสถานได้ก่อนเวลา 22.00 น.

ทั้งนี้ รฟม. และ BEM ขอขอบคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตนตามมาตรการ Social Distancing โดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการในระบบรถไฟฟ้า MRT พร้อมนี้ขอส่งกำลังใจให้ประชาชนร่วมดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองและคนรอบข้าง เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน

ผู้โดยสารโปรดตรวจสอบตารางการเดินรถและเวลารถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายได้จากประกาศภายในสถานี หรือ เฟซบุ๊ก MRT Bangkok Metro โมบายล์แอปพลิเคชัน Bangkok MRT เว็บไซต์ www.bemplc.co.th ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0-2624-5200 และติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทร. 0-2716-4044

Wisarut · Posted: 10/04/2020 9:16 am Post subject:

รฟม.ย้ำผู้รับเหมาลอกท่อและคืนผิวจราจรแนวรถไฟฟ้า ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 12:35
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 13:02

รฟม.กำชับผู้รับเหมาลอกท่อระบายน้ำตามแนวสายทาง รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงเตาปูน-ท่าพระ ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า ปัจจุบัน รฟม.ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงเตาปูน-ท่าพระ เสร็จแล้ว พร้อมทั้งคืนผิวจราจร ตีเส้นจราจร ติดตั้งป้ายจราจรประเภทต่างๆ รวมถึงไฟส่องสว่างตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามแนวสายทาง และได้เปิดให้ประชาชนใช้บริการเต็มโครงข่ายอย่างเป็นทางการแล้วนั้น

ทั้งนี้ รฟม.ได้ดำเนินมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยให้ผู้รับจ้างก่อสร้าง ดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างตั้งแต่สถานีเตาปูน-สถานีท่าพระ ตามแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตั้งแต่สถานีเตาปูน-สถานีบางโพ และตลอดแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่สถานีบางอ้อ-สถานีจรัญฯ 13 ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและปรับปรุงท่อระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ คืนให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นลำดับต่อไป

นอกจากนี้ รฟม.ได้เน้นย้ำให้ที่ปรึกษาโครงการ กำกับดูแลให้ผู้รับจ้างก่อสร้าง ในโครงการอื่นๆ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ล้างทำความสะอาดลอกท่อระบายน้ำ รวมถึงทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ก่อสร้างเพื่อลดผลกระทบด้านฝุ่นละออง ตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จ ตามนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในการให้ความสำคัญแก่ประชาชนและชุมชนตามแนวสายทางโครงการรถไฟฟ้า โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนและสังคมเป็นสำคัญ

รฟม. กำชับผู้รับเหมาลอกท่อระบายน้ำตามแนวสายทาง โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
10 เมษายน 2563

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ พร้อมทั้งคืนผิวจราจร ตีเส้นจราจร ติดตั้งป้ายจราจรประเภทต่างๆ รวมถึงไฟส่องสว่างตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามแนวสายทาง และได้เปิดให้ประชาชนใช้บริการเต็มโครงข่าย อย่างเป็นทางการแล้วนั้น ทั้งนี้ รฟม. ได้ดำเนินมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยให้ผู้รับจ้างก่อสร้าง ดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างตั้งแต่สถานีเตาปูน – สถานีท่าพระ ตามแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตั้งแต่สถานีเตาปูน – สถานีบางโพ และตลอดแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่สถานีบางอ้อ – สถานีจรัญฯ 13 ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและปรับปรุงท่อระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ คืนให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นลำดับต่อไป
ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044 (จันทร์-ศุกร์ 08.00 - 17.00 น.)

Wisarut · Posted: 10/04/2020 5:20 pm Post subject:

รฟม.เยียวยาผู้ใช้บริการจอดรถรายเดือนสายสีน้ำเงิน-สีม่วงเข้ม ไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าสู้โควิด
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 17:18 น.

ตามที่รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ได้เห็นชอบในมาตรการดูแลและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงการคลัง โดยขอความร่วมมือให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลดหรือชะลอหรือเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียม ค่าเช่าราชพัสดุ ค่าตอบแทนการให้บริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่น เพื่อบรรเทาภาระให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ โดยให้อยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน นั้น

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ตระหนักถึงสิทธิ์ของผู้ใช้บริการที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร (รถไฟฟ้า MRT) ซึ่งต้องเสียโอกาสในการใช้บริการนำรถยนต์มาจอด นับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรมีผลบังคับใช้เป็นต้นมา

จึงได้ออกประกาศ รฟม. ณ วันที่ 7 เมษายน 2563 เพื่อเยียวยาผู้ใช้บริการจอดรถรายเดือนของ รฟม. โดยให้ผู้ใช้บริการได้รับการชดเชยระยะเวลาจอดรถตามจำนวนวันที่คงเหลือหลังวันที่ 26 มีนาคม 2563 และผู้ใช้บริการจะได้รับการรักษาสิทธิ์จอดรถรายเดือน สามารถต่ออายุจอดรถรายเดือนได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ

ทั้งนี้ รฟม.ได้เปิดให้บริการที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ได้แก่ อาคารจอดแล้วจร 2 แห่ง ที่สถานีลาดพร้าว และสถานีหลักสอง ลานจอดแล้วจร 7 แห่ง ที่สถานีรัชดาภิเษก สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (2 ลาน) สถานีพระราม 9 สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (2 ลาน) และสถานีสามย่าน

และที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ได้แก่ อาคารจอดแล้วจร 4 แห่ง ที่สถานีคลองบางไผ่ สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1 รวมถึงที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ คือ ลานจอดแล้วจรที่สถานีเคหะสมุทรปราการ

นอกจากนี้ รฟม.ยังกำชับให้ทุกโครงการรถไฟฟ้าปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางราง

จึงได้เน้นย้ำให้ที่ปรึกษาโครงการฯ และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างทุกโครงการ ได้แก่ สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง

– ตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิ บุคลากร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติงานทุกครั้ง

– จัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือบริเวณสำนักงานโครงการฯ และพื้นที่ปฏิบัติงาน

– กำชับให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน

– เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด บริเวณจุดที่สัมผัสร่วมกัน ในสำนักงานโครงการฯเช่น บานจับประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได เครื่องสแกนเวลาเข้าออกงาน และห้องน้ำ

– ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID- 19 ผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ เช่น โปสเตอร์ บอร์ดประชาสัมพันธ์

– Safety Talk พูดคุยก่อนการเริ่มปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

– จัดประชุมด้วยระบบ Video Conference แทนการนั่งประชุมรวมกลุ่มในอาคารสำนักงานโครงการ

ทั้งนี้ รฟม.จะเดินหน้ากำชับมาตรการต่างๆ ให้มีความเข้มข้นและรัดกุม เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรเจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงาน และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อจะกลับสู่ภาวะปกติ

รฟม.ชดเชยให้ต่ออายุที่จอดรถรายเดือนตามแนวรถไฟฟ้า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 20:56
ปรับปรุง: วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13:08

รฟม.ชดเชยระยะเวลาการจอดรถรายเดือน เยียวยาผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่สูญเสียโอกาสนับจากมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 26 มี.ค. ไปจนกว่าสถานการณ์จะปกติ

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า วันที่ 7 เมษายน 2563 ได้ออกประกาศ รฟม.เพื่อเยียวยาผู้ใช้บริการจอดรถรายเดือนของ รฟม. โดยให้ผู้ใช้บริการได้รับการชดเชยระยะเวลาจอดรถตามจำนวนวันที่คงเหลือหลังวันที่ 26 มีนาคม 2563 และผู้ใช้บริการจะได้รับการรักษาสิทธิจอดรถรายเดือน สามารถต่ออายุจอดรถรายเดือนได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ

เพื่อรักษาสิทธิของผู้ใช้บริการที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร (รถไฟฟ้า MRT) ซึ่งต้องเสียโอกาสในการใช้บริการนำรถยนต์มาจอดนับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรมีผลบังคับใช้เป็นต้นมา

และเป็นไปตามที่รัฐบาล และกระทรวงคมนาคมได้เห็นชอบในมาตรการดูแลและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงการคลัง โดยขอความร่วมมือให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลดหรือชะลอหรือเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียม ค่าเช่าราชพัสดุ ค่าตอบแทนการให้บริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่น เพื่อบรรเทาภาระให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ โดยให้อยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน

ทั้งนี้ รฟม.ได้เปิดให้บริการที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ได้แก่ อาคารจอดแล้วจร 2 แห่ง ที่สถานีลาดพร้าว และสถานีหลักสอง ลานจอดแล้วจร 7 แห่ง ที่สถานีรัชดาภิเษก สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (2 ลาน) สถานีพระราม 9 สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (2 ลาน) และสถานีสามย่าน และที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ได้แก่ อาคารจอดแล้วจร 4 แห่ง ที่สถานีคลองบางไผ่ สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1

รวมถึงที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ คือ ลานจอดแล้วจรที่สถานีเคหะสมุทรปราการ

Wisarut · Posted: 10/04/2020 9:13 pm Post subject:

MRT ห่วงใยดูแลผู้โดยสารทุกเที่ยวการเดินทาง 🚇✨
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563
MRT ยังคงรักษามาตรการ “Social Distancing”
ร่วมรณรงค์ให้ผู้โดยสารร่วมมือกันรักษา...ระยะ...ห่าง จากคนรอบข้างอย่างน้อย 1 เมตร 🔛

โดยกำหนดที่นั่งภายในขบวนให้มีระยะห่าง (นั่ง 1 ที่ / เว้น 1 ที่) จัดทำเส้นแบ่งระยะห่างภายในขบวนรถไฟฟ้าเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล รวมถึงการรักษาระยะห่างในการใช้ลิฟต์

การซื้อบัตรโดยสาร การใช้เครื่องอัตโนมัติต่างๆ เช่น เครื่องออกเหรียญโดยสาร เครื่อง ATM และการรอรถไฟฟ้าที่ชานชาลา

สำหรับช่วงนี้หากผู้โดยสารมีความจำเป็นจะต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT อย่าลืมทำสิ่งต่อไปนี้

1️⃣ สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 😷
2️⃣ รักษาระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร 🔛
3️⃣ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลที่มีให้บริการทุกสถานี 👋

ป้องกันตัวเอง และคนรอบข้าง ร่วมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม
เราจะผ่านวิกฤติ COVID – 19 ไปด้วยกันครับ

Wisarut · Posted: 14/04/2020 12:19 pm Post subject:

“รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน” เพิ่มช่องทางเติมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นแทนเงินสดลดโควิด-19
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 13 เมษายน 2563 - 10:13 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT เพิ่มช่องทางการเติมเงินในบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT ผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ หรือ MRT Mobile Top Up ให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สามารถเติมเงินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ในทุกที่ทุกเวลา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ตอบสนองวิถีชีวิตและการใช้จ่ายแบบสังคมไร้เงินสดในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังช่วยลดการสัมผัสกับเงินสด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID- 19 อีกด้วย โดยผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สามารถเริ่มใช้งานแอปพลิเคชั่นดังกล่าวได้ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 นี้ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การเติมเงินในบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT และ MRT Plus ผ่านระบบ MRT Mobile Top Up ในระยะแรก ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ได้แก่ สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) สามารถเติมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นหรือธนาคารที่ร่วมโครงการ ได้แก่ แอปพลิเคชั่น True Money Wallet และธนาคารกรุงไทย ผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai Next หรือตู้ ATM ของธนาคาร

โดยวิธีง่ายๆ เพียง 2 ขั้นตอน คือ 1) เติมเงินในบัตรโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่นหรือตู้ ATM ของธนาคาร 2) นำบัตรโดยสารมาปรับมูลค่าที่เครื่องปรับมูลค่าบัตรโดยสาร (Activate Value Machine : AVM) ที่ติดตั้งในทุกสถานี ภายใน 7 วัน หากไม่นำบัตรไปปรับมูลค่าภายในระยะเวลาที่กำหนด ระบบจะคืนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ และเมื่อดำเนินการเสร็จทั้ง 2 ขั้นตอนแล้ว ผู้โดยสารสามารถนำบัตรโดยสารไปใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT ได้ทันที ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถเติมเงินขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท

รฟม. และ BEM เชื่อมั่นว่าการเติมเงินบัตรโดยสาร MRT และ MRT Plus ผ่านระบบ MRT Mobile Top Up นี้ จะช่วยให้การเดินทางมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดการสัมผัสกับเงินสด ลดการติดต่อและแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้อีกทางหนึ่ง สำหรับในอนาคต รฟม. และ BEM จะเพิ่มจำนวนแอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานกับระบบ MRT Mobile Top Up ให้มากขึ้น และเพิ่มช่องทางการเติมเงินที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT

Wisarut · Posted: 14/04/2020 2:38 pm Post subject:

“ม่วง-นํ้าเงิน” เยียวยา 7 จุดบริการจอดรถ
หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
ออนไลน์เมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13:40 น.
ตีพิมพ์ใน หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,565
วันที่ 12-15 เมษายน พ.ศ. 2563

รฟม. เยียวยาผู้ใช้บริการจอดรถรายเดือน เหตุโควิด-19 ระบาดหนัก นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ตระหนักถึงสิทธิของผู้ใช้บริการที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร (รถไฟฟ้า MRT) ซึ่งต้องเสียโอกาสในการใช้บริการนำรถยนต์มาจอด นับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรมีผลบังคับใช้เป็นต้นมา จึงได้ออกประกาศ รฟม. ณ วันที่ 7 เมษายน 2563 เพื่อเยียวยาผู้ใช้บริการจอดรถรายเดือนของ รฟม. โดยให้ผู้ใช้บริการได้รับการชดเชยระยะเวลาจอดรถตามจำนวนวันที่คงเหลือหลังวันที่ 26 มีนาคม 2563 และผู้ใช้บริการจะได้รับการรักษาสิทธิจอดรถรายเดือน สามารถต่ออายุจอดรถรายเดือนได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติทั้งนี้ รฟม. ได้เปิดให้บริการที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีนํ้าเงิน) ได้แก่ อาคารจอดแล้วจร 2 แห่ง ที่สถานีลาดพร้าว และสถานีหลักสอง ลานจอดแล้วจร 7 แห่ง ที่สถานีรัชดาภิเษก สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (2 ลาน) สถานีพระราม 9 สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (2 ลาน) และสถานีสามย่านสายสีม่วง อาคารจอดแล้วจร 4 แห่ง ที่สถานีคลองบางไผ่ สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1 รวมถึงที่จอดรถรายเดือนในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ คือ ลานจอดแล้วจรที่สถานีเคหะสมุทรปราการ