Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311286
ทั่วไป:13268283
ทั้งหมด:13579569
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 96, 97, 98 ... 228, 229, 230  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 26/01/2012 9:46 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟใต้ดินหวังเซ็นทรัลพระราม9 ดึงยอดปี55เพิ่ม15-20%
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
26 มกราคม 2555, 21:15 น.

BMCL ตั้งเป้าผู้โดยสารปีนี้เพิ่ม 15-20% ได้อานิสงส์เซ็นทรัลพระราม 9 เปิดบริการจัดโปรโมชั่นดึงลูกค้า และลูกค้าใหม่ที่เข้ามาใช้บริการช่วงน้ำท่วม น่าจะกลับมาใช้บริการเป็นประจำ

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) เปิดเผยว่า คาดปี 55 จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินจะเพิ่มขึ้น 15-20% เป็นเฉลี่ย 260,000 คน/วัน จากปี 54 ที่มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยกว่า 200,000คน/วัน โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.55 จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาแล้วราว 10% หลังจากห้างเซ็นทรัลพระราม 9 เปิดให้บริการและจัดโปรโมชั่นดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นทั้งชั่วโมงเร่งด่วนและไม่เร่งด่วน รวมทั้งวันเสาร์ อาทิตย์ด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังได้กลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในช่วงน้ำท่วมด้วย จากที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน และคาดหวังว่ากลุ่มนี้จะหันมาใช้บริการเป็นประจำมากขึ้น โดยผู้โดยสารของ BMCL เฉลี่ยจะเดินทางเป็นระยะทางประมาณ 7 สถานี จากทั้งหมดที่มี 18 สถานี ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มการเดินทางเป็น 8-9 สถานี ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารในเดือน ก.ค.นี้ จะปรับขึ้นได้ประมาณ 2-3% แต่จะดูความเหมาะสม และความร่วมมือกับองค์การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.)

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทมีแผนจะพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกภายในสถานีรถไฟฟ้าจำนวน 7 แห่ง โดยจะร่วมกับ รฟม. เพื่อทำให้รายได้ในส่วนการเช่าใช้พื้นที่ค้าปลีกเพิ่มสัดส่วนเป็น 10-12% ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า จากปีก่อนมีสัดส่วนไม่ถึง 5%

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเสนอแนวทางการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ให้กับคณะกรรมการบริษัทในเดือน ก.พ. นี้ โดยให้พิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้มีหลายแนวทาง และจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัทขาดทุนมาโดยตลอด แต่คาดว่าปลายปีนี้ น่าจะหยุดขาดทุนได้ และเริ่มเห็นกำไรได้ในปี 56 จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2012 12:13 am    Post subject: Reply with quote

คค.ชง ครม.กู้เงิน7.2หมื่นล้าน ลุยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-สีเขียว
ทีมข่าวการเมือง
หน้าเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555

ก.คมนาคมชง ครม.ให้ รฟม.กู้เงินต่อจากระทรวงการคลัง 72,251 ล้าน ลุยสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-สายสีเขียว...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 ก.พ. กระทรวงคมนาคมจะเสนอให้ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทสไทย (รฟม.) กู้เงินต่อจากระทรวงการคลัง สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าก่อสร้างงานโยธา กรอบวงเงิน 52,460 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ กรอบวงเงิน 732 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างงานโยธา กรอบวงเงิน 1,221 ล้านบาท รวมกรอบวงเงิน 54,413 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังขอความเห็นชอบให้ รฟม.กู้เงินต่อจากกระทรวงการคลัง สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าก่อสร้างงานโยธา ค่าจ้างที่ปรึกษาและควบคุมงาน และค่า Provision Sum ของงานโยธา กรอบวงเงิน 17,838 ล้านบาท และขอให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ เป็นงบชำระหนี้ให้แก่ รฟม. เพื่อใช้ชำระหนี้คืนแห่แหล่งเงินกู้โดยตรง ทั้งในส่วนเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่ี กระทรวงการคลัง จะได้ตกลงกับ รฟม.ต่อไป โดยให้ รฟม.ทยอยกู้เงินต่อจากกระทรวงการคลัง เป็นงวดๆ ตามความเหมาะสมและจำเป็น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2012 7:57 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.อนุมัติ รฟม.กู้ 7.2 หมื่นล้านบาท สร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-สีเขียว
มติชน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 18:00:02 น.
ไฟเขียวรฟม.กู้7.2หมื่นล. สร้างรถไฟ"น้ำเงิน-เขียว"
หน้าเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 00:00:00 น

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้เงินจากกระทรวงการคลัง เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 72,251 ล้านบาท แบ่งเป็น

1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ 54,413 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.1 ค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ในการก่อสร้างงานโยธา ภายใต้กรอบวงเงิน 52,460 ล้านบาท
1.2 ค่าจ้างเพื่อใช้ในการจ้างที่ปรึกษา บริหารโครงการวงเงิน 732 ล้านบาท และ
1.3 ค่าใช้จ่ายเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง กรอบวงเงิน 1,221 ล้านบาท

2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง ที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงาน รวมถึงสำรองเผื่อจ่ายในงานโยธาหรือ Provision sum ภายใต้กรอบวงเงิน 17,838 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามมติ ครม.เดิม ได้เห็นชอบและอนุมัติความเห็นของกระทรวงการคลังในการระดมทุนแล้ว โดยให้กู้เงินในประเทศและให้กู้ต่อกับ รฟม. และมติ ครม.ยังได้อนุมัติการกู้เงินและการให้กู้ต่อของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2554 ปรับปรุงครั้งที่ 1 และประจำปีงบประมาณ 2555 ในส่วนของแผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลมากู้ต่อให้ รฟม.

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ว่า จำเป็นต้องเร่งตัดสินใจจัดหาขบวนเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 ขบวน ขบวนละ 600 ล้านบาทภายในปีนี้ เพราะที่มีอยู่จะต้องทยอยจอดซ่อมบำรุงรักษา กว่าจะได้รับมอบรถไฟฟ้าต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีหลังจากสั่งซื้อ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 22/02/2012 9:49 am    Post subject: Reply with quote

ขึ้นอีก1บาทเริ่ม3ก.ค. ค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน
ข่ีาวทั่วไทย เดลินิวส์
วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 08:01 น.

รายงานข่าวจากคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟม.) แจ้งว่า ในการประชุมบอร์ดครั้งที่ผ่านมา รฟม.ได้เสนอเรื่องการขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที ตามสัญญาสัมปทาน ที่บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล สามารถขึ้นราคาค่าโดยสารได้ทุก ๆ 2 ปี ตามดัชนีราคาผู้บริโภค ตามที่บีเอ็มซีแอลได้ทำรายละเอียดอัตราค่าโดยสารใหม่เสนอมาที่ รฟม.แล้ว อิงตามดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบวกหมายความว่าต้องปรับราคาค่าโดยสารขึ้น โดยเสนอปรับขึ้นเป็น 16-40 บาท ตามระยะทาง จากปัจจุบันค่าโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีอยู่ที่ 15-40 บาท ตามระยะทาง ทั้งนี้บอร์ดมีมติเห็นชอบการปรับราคาดังกล่าว เพราะเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาสัมปทาน โดยมีการปรับขึ้นราคาในระยะต่ำสุดขึ้นเพียง 1 บาทเท่านั้น ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารมากนัก หลังจากนี้ รฟม.จะต้องทำเป็นประกาศ รฟม.และนำเสนอไปที่กระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบประกาศดังกล่าว จึงจะมีผลเริ่มใช้ค่าโดยสารอัตราใหม่ในวันที่ 3 ก.ค. 2555 นี้

สำหรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีปัจจุบัน
สำหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ 15-40 บาท ตามระยะทาง
เด็กและผู้สูงอายุ 8-20 บาท
อัตราค่าโดยสารบัตรเติมเงิน บุคคลทั่วไป 15-40 บาท ตามระยะทาง
นักเรียน นักศึกษา 13-33 บาท ตามระยะทาง
เด็กและผู้สูงอายุ 8-20 บาท

เด็กที่อายุไม่เกิน 14 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม. ได้รับยกเว้นค่าโดยสาร แต่หากส่วนสูงเกิน 90 ซม. แต่ไม่เกิน 120 ซม. ได้รับลดหย่อนค่าโดยสาร สำหรับผู้ใช้บัตรนักเรียน นักศึกษา ต้องมีอายุไม่เกิน 23 ปี.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 23/02/2012 12:26 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าใต้ดินดิ้นไม่หลุดกทม.บี้ภาษี 30 เท่า
ข่าวหน้า1
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
ออนไลน์เมื่อ วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 10:13 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2,716 23-25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กทม. จัดหนักเอาคืนการรถไฟฯ ตั้งเป้าโขกภาษีโรงเรือนและที่ดินตลาดนัดจตุจักร อัตรา 12.5% ของค่าเช่า ตามที่เคยเรียกร้องกทม.ขอปรับขึ้นสูงกว่าเดิม 30 เท่า หรือ 420 ล้านบาทต่อปี จากปีละ 24 ล้านบาท ดีเดย์ปี 2556 โดนแน่ รวมถึงแอร์พอร์ตลิงค์ ที่ให้บริการเชิงพาณิชย์ แจ๊กพอตด้วย ด้านข้อพิพาทรีดภาษี รฟม. -กทม. รออัยการสูงสุดชี้ขาด แย้มดิ้นไม่หลุด

นางจุไรรัตน์ มโนหรทัต ผู้อำนวยการกองรายได้ กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ไม่ต่ออายุสัญญาบริหารตลาดนัดจตุจักรให้กับกทม. ขณะเดียวกันได้เข้าบริหารเพื่อหารายได้เอง โดยเริ่มเข้าพื้นที่ตั้งแต่ วันที่ 2 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารของ บริษัท ตลาดนัดจตุจักร ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ตั้งขึ้นมาบริหารด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ในฐานะ กทม.เป็นหน่วยงานท้องถิ่น จะต้องมีหน้าที่จัดเก็บภาษีโรงเรียนและที่ดิน กับการรถไฟฯ ในอัตรา 12.5% ของค่าเช่ารวมเป็นรายปี เพื่อนำภาษีที่ได้ในแต่ละปีไปลงทุนด้านต่างๆให้เกิดประโยชน์ต่อไป โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภค-บริการสาธารณะ เงินเดือนลูกจ้าง ข้าราชการ ฯลฯ

ทั้งนี้เนื่องจาก ร.ฟ.ท. เพิ่งจะเข้าบริหารพื้นที่ตลาดนัดไม่นาน ซึ่งกทม. จะสามารถเรียกเก็บรายได้ จากภาษีโรงเรือนและที่ดิน จาก ร.ฟ.ท.ได้ เมื่อเขา บริหารตลาดนัดไปแล้วเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะมีผลประกอบการจากค่าเช่าออกมาช่วงปลายปี 2555 ถึงต้นปี 2556 เชื่อว่า กทม.จะมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากตลาดนัดจตุจักร

"อัตราภาษีที่จะเรียกเก็บ กทม.จะคิดตามค่าเช่าที่ ร.ฟ.ท. เคยเรียกปรับค่าเช่าจาก กทม. เพิ่ม 30เท่าตัว หรือ 420 ล้านบาทต่อปี และปรับเพิ่ม 15% ทุก 5 ปี เฉลี่ย 3,000-3,500 บาท/แผง/เดือน ช่วงก่อนหน้าจะหมดสัญญา แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้ ร.ฟ.ท.จึงขอคืนและบริหารเองดังกล่าว จากที่ก่อนหน้านี้ กทม. จ่ายค่าเช่าให้ร.ฟ.ท. เพียง 24 ล้านบาทต่อปี และจ่ายภาษีโรงเรียนและที่ดิน เฉลี่ย 9,000,000บาท ต่อปี ซึ่งหาก ร.ฟ.ท.เข้ามาบริหารและมีมาตรการปรับเพิ่มค่าเช่า ก็จะต้องเสียภาษีให้กับกทม. สูงถึง 30 เท่าจากที่กทม.เคยเสียมาก่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

ทั้งนี้ตลาดนัดจตุจักร ประกอบด้วยพื้นที่ขายจำนวน 68 ไร่ 59 ตารางวา มี ทั้งหมด 27 โซน มีผู้ค้ากว่า 10,000 ราย แยกเป็น มีทะเบียน 8,800 แผงค้าและไม่มีทะเบียน 2,000 แผงค้า และจะรวมไปถึงการเรียกเก็บรายได้จาก ร.ฟ.ท. ในกรณีเจ้าของโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ที่เปิดให้บริการและนำสถานี ไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ มีร้านค้าย่อย จะอยู่ในข่ายเรียกเก็บภาษีดังกล่าวด้วย

นางจุไรรัตน์กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีข้อพิพาทการเรียกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เจ้าของกรรมสิทธิ์และ ผู้รับสัมปทานต่อ คือ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล ของ รถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงินช่วง บางซื้อ-หัวลำโพง ระยะทาง 20 กิโลเมตร 18 สถานี หลังเปิดให้เดินรถ ปี 2547 และค้างภาษีจากปี 2548-2554 ย้อนหลัง 7 ปี รวม 173.7 ล้านบาท เบี้ยปรับ 10% รวม 191.08 ล้านบาท

แยกเป็นส่วนรางทางวิ่ง และ ตัวสถานี ให้เช่าเชิงพาณิชย์ ซึ่งอยู่ในข่ายเดียวกับ รถไฟฟ้าบีทีเอส กทม.ยืนยันว่าไม่มียกเว้นและ ลดหย่อนภาษีไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมาย แม้ว่าทางรฟม.เรียกร้องขอลดหย่อนก็ตาม ซึ่งเร็วๆนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดจะเรียก ทั้งกทม. และ รฟม. รวมถึงบีเอ็มซีแอล เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการชี้ขาดทางแพ่งระหว่างหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่มี นายประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน และ อัยการสูงสุดเป็นเลขานุการ เชื่อว่าคณะกรรมการฯจะชี้ขาดให้กทม. เป็นฝ่ายชนะคดี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 27/02/2012 10:06 am    Post subject: Reply with quote

รมช.คค.เตรียมถก BMCL หาข้อสรุปเก็บ 20 บ.ตลอดสาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2555 10:29 น.
คมนาคมเตรียมถก "บีเอ็มซีแอล" หาข้อสรุปเก็บ 20 บาทตลอดสาย
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 11:12:10 น.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แผนงานแนวทางการเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดเส้นทาง ในช่วงเวลา 10.00- 15.00 น.นั้น จะเห็นเป็นรูปธรรม ภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยจะเริ่มให้กับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ก่อน
ทั้งนี้จะมีการเจรจากับบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ถึงความเป็นไปได้กับการคิดราคาค่าโดยสาร 20 บาทด้วย
อย่างไรก็ตาม นายชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2555 จะมีการประชุมเกี่ยวกับความคืบหน้าของการก่อสร้าง และปัญหาอุปสรรคของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 10 สาย ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อติดตามความคืบหน้า และให้แผนการดำเนินงานเป็นไปตามเป้า
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/02/2012 5:03 pm    Post subject: Reply with quote

‘ตั๋วร่วม’เริ่มตั้งไข่ลุ้นอีก 3 ปีจะได้ใช้หรือไม่?
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1279 ประจำวันที่ 29-2-2012 ถึง 2-3-2012

ณ ช่วงเวลาที่ประชาชนคนไทย รอใช้ตั๋วร่วมที่ว่ากันว่า มีราคาค่าตั๋วแค่ 20 บาท ก็สามารถใช้บริการระบบขนส่งได้ตลอดสาย ต้องยอมรับว่า ในช่วงเวลาที่เฝ้ารอระบบตั๋วร่วมสมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลาลากยาวไปจนถึงปี 2558 จึงจะได้ใช้ในช่วงเวลา 3 ปีนี้ ประชาชนคนไทยจึงต้องคอยรองรับการขึ้นราคาของระบบขนส่งอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าไม่รู้ผู้บริหารระบบขนส่ง จะขอขึ้นราคา หรือขอปรับราคาเมื่อไหร่?

ล่าสุด ทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เตรียมปรับราคาตั๋ว 30 วัน โดยจะเริ่มปรับราคาใหม่วันที่ 1 มีนาคม 2555 นี้

ทั้งนี้ การปรับราคาใหม่นั้นบีทีเอสจะไม่จำหน่ายแบบ 35 เที่ยว และ 45 เที่ยวอีก แต่จะเปลี่ยนเป็นแบบ 40 เที่ยว และ 50 เที่ยวแทน โดยราคาสำหรับนักเรียนนักศึกษาจะปรับเป็น 15 เที่ยว 300 บาท 25 เที่ยว 450 บาท 40 เที่ยว 640 บาท และ 50 เที่ยว 750 บาท ส่วนราคาสำหรับผู้ใหญ่ ปรับเป็น 15 เที่ยว ราคา 375 บาท 25 เที่ยว ราคา 575 บาท 40 เที่ยว ราคา 840 บาท และ 50 เที่ยว ราคา 1,000 บาท

หากเปรียบเทียบราคาแล้วจะพบว่า แบบ 15 เที่ยว มีค่าโดยสารเพิ่มเที่ยวละ 2 บาท และแบบ 25 เที่ยว มีค่าโดยสารเพิ่มเที่ยวละ 1 บาท ส่วนแบบ 40 เที่ยว ยังมีราคาต่อเที่ยวเท่ากับแบบ 35 บาท ดังนั้น ตั๋วประเภท 30 วันนั้นจะมีการขึ้นราคาเพียงเที่ยวละไม่เกิน 2 บาท โดยราคาสูงสุดของค่าโดยสารต่อเที่ยวอยู่ที่ 25 บาท เท่านั้น

การขึ้นราคาตั๋วประเภท 30 วันครั้งนี้ เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงโปรโมชั่น ของบัตรโดยสารแบบรายเดือน ในขณะที่ตั๋วประเภทเที่ยวเดียวจะยังคงใช้ราคาเดิม คือ เริ่มต้นที่ 15 บาท และสูงสุด ที่ 40 บาท ตามระยะทาง

ฟาก “กระทรวงคมนาคม” แม่งานใหญ่ ที่มีหน่วยงานต้นคิดระบบตั๋วร่วมอย่าง “สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)” ยังยืนยันว่าตั๋วร่วมได้ใช้แน่นอนปี 2558

“สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์” ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) บอกว่า กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดการใช้เงินกู้ เพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการตั๋วร่วมตามที่ ครม.อนุมัติให้ดำเนินการ หลังจากนั้นจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติกรอบการใช้เงินกู้ต่อไป

ในหลักการเบื้องต้นจะกู้เงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ในวงเงินประมาณ 23 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 700 ล้านบาท แบ่งเป็นการศึกษาแนวทางการดำเนินการตั๋วร่วม 10 ล้านดอลลาร์ และจัดทำระบบศูนย์บริหาร จัดการรายได้กลาง 13 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารจัดการตั๋วร่วม ซึ่งมี “ศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ” รักษาการปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน จะประชุมเพื่อพิจารณาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการบริหารจัดการตั๋วร่วม คาดว่าจะได้บริษัทภายใน 3 เดือน ซึ่งจะช่วยให้ระบบตั๋วร่วมมีความชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ตาม สนข.สามารถดำเนิน การได้ภายใต้กรอบการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารจัดการตั๋วร่วม โดยไม่ต้องเสนอ ครม.อีกครั้ง คาดว่าภายในปีนี้จะเห็นระบบการบริหารจัดการตั๋วร่วมที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น และก่อนปี 2558 จะสามารถจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางสำหรับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ (Clearing House Central) เพื่อให้ทันการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่าง การก่อสร้าง และรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่รัฐบาลเร่งผลักดัน

“มั่นใจว่าเมื่อโครงการตั๋วร่วมแล้วเสร็จในปี 2558 ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น สามารถใช้ตั๋วเพียงใบเดียวในการเดินทางระบบขนส่งมวลชนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถบีทีเอส รถบีอาร์ที รถไฟความเร็วสูง ระบบทางด่วน ทาง หลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ รวมถึงรถโดยสารประจำทาง และ เรือด่วนเจ้าพระยาด้วย”

สำหรับรายละเอียดที่คณะกรรมการบริหารจัดการตั๋วร่วมต้องพิจารณา เพื่อให้บริษัทที่ปรึกษาวางกรอบการดำเนินงานหลักๆ ได้แก่ การจัดทำนโยบายเรื่องตั๋วร่วม การสนับสนุนงานด้านวิชาการและเทคโนโลยี การจัดตั้งองค์กรภายใต้การดูแลของ สนข. และการจัดตั้งองค์กร เมื่อต้องพ้นจากการดูแลของ สนข.เพื่อปฏิบัติงานในการบริหารตั๋วร่วมทั้งหมด และการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง

อย่างไรก็ดี สนข.จะจัดตั้งสำนักงาน บริหารจัดการตั๋วร่วม โดยมีเจ้าหน้าที่จาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยใช้งบประมาณของ สนข.ในการดำเนินการช่วง 4 ปีแรก หลังจากนั้นจะขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล โดย สนข.จะเร่งจัดหาบุคลากร และวางระบบทั้งหมด เช่น ระบบเทคนิค ระบบการเงินและบัญชี
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 17/03/2012 2:09 am    Post subject: Reply with quote

อิตาเลียนไทย เปิดเวบไซท์รายงานความก้าวหน้าในการสร้างทางรถไฟใต้ดิน ช่วงจากหัวลำโพง มา ถนนมหาไชย หน้า สน. พระราชวัง (ลานพระมงกุฎเกล้า) - ทำเสร็จแล้ว 15.83%
http://www.mrt.itd.co.th/be1_home.php
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/03/2012 10:25 am    Post subject: Reply with quote

ถนนยุบไม่เกี่ยวสร้างรถไฟใต้ดิน
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- อังคารที่ 20 มีนาคม 2555 00:00:19 น.

นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการยุบตัวของถนนพระราม 4 บริเวณแยกวิทยุว่า จากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) การประปานครหลวง (กปน.) เบื้องต้นพบว่า สาเหตุของการยุบตัวดังกล่าวไม่เกี่ยวกับโครงสร้างของรถไฟฟ้าใต้ดิน เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวเป็นส่วนของอุโมงค์รถไฟฟ้าซึ่งอยู่ลึกลงไปประมาณ 25-30 เมตร

ส่วนกรณีที่ระบุว่าทรายที่อยู่ใต้ถนนหายไปจนเป็นโพรงและทำให้ถนนยุบตัว อาจมาจากการดูดน้ำของรถไฟใต้ดินนั้น ยืนยันว่า รถไฟฟ้าก่อสร้างเป็นระบบปิด มีผนังคอนกรีตไม่มีช่องว่างระหว่างชั้นดิน ส่วนการดูดน้ำจะทำเฉพาะกรณีมีน้ำซึมเข้าและล้นบ่อพัก ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้น และหากจำเป็นต้องดูดน้ำก็จะเป็นการดูดภายในพื้นที่ไม่ได้เกี่ยวกับด้านนอกอุโมงค์แต่อย่างใด และตลอดเวลาที่เปิดให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเกือบ 10 ปี ไม่พบข้อมูลที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับชั้นใต้ดิน

Click on the image for full size

อย่างไรก็ตาม กทม. ยอมรับว่า อุโมงค์ระบายน้ำของ กทม. ขนาด 3X4 เมตร สร้างทดแทนคลองเดิมตั้งแต่หัวลำโพงไปถึงวัดช่องลม ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2515 อายุ 40 ปี น่าจะเป็นสาเหตุ และการยุบตัวของถนนพระราม 4 ครั้งนี้เกิดเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยครั้งที่ 2 เกิดช่วงปี 2522-2523 บริเวณโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งก่อนที่จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินและก่อน กปน. จะวางท่อประปา ซึ่งการก่อสร้างในขณะนั้นจะเป็นการสร้างแบบเก่า คือหล่อในพื้นที่ ซึ่งอาจจะมีรอยต่อที่เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะเกิดการรั่วซึมที่บริเวณรอยต่อได้และทราบว่าตลอด 40 ปี ไม่ได้มีการตรวจสอบเลย เนื่องจากอุโมงค์มีการออกแบบไว้ดีมาก โดยทำเป็นแนวลาดเอียงเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกไม่มีการตกค้าง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/03/2012 4:59 pm    Post subject: Reply with quote

สั่ง รฟม.เริ่มใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายปี 58
ไทยรัฐออนไลน์ 22 มีนาคม 2555, 16:29 น.

“จารุพงศ์” การเมืองจ๋า!! สั่งการ รฟม.จัดเก็บค่าบริการรถไฟฟ้า 20 บาทนำร่องก่อนทันที หลังรถไฟฟ้าสายสีม่วง เส้นทางบางใหญ่-บางซื่อ สร้างเสร็จในปี 58 ไม่ต้องรอให้ก่อสร้างครบ 10 สายทางตามนโยบาย “พรรคเพื่อไทย” ที่เคยหาเสียงไว้

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายบริหาร รฟม. ไปทบทวนและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่าหาก รฟม. ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้วเสร็จในปี 2558 เป็นไปได้ไหมที่จะเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาท ก่อนที่จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าครบ 10 สาย ตามนโยบายรัฐบาลที่เคยหาเสียงไว้ได้หรือไม่ นอกจากนั้นยังมีนโยบายให้ รฟม.เร่งดำเนินการลงนามในสัญญารถไฟฟ้า 10 สายทางให้ได้ภายใน 4 ปี ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่ให้ รฟม.ไปศึกษาว่าหากรถไฟฟ้าสายสีม่วงก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นไปได้ไหมที่จะให้นำร่องเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ก่อนที่จะก่อสร้างรถไฟฟ้าครบ 10 สายนั้น เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชนในช่วงที่ยังเป็นรัฐบาล เป็นเรื่องจริง เพราะหากไม่หาคะแนนเสียงช่วงนี้ แล้วจะไปหาคะแนนเสียงช่วงไหน

นายจารุพงศ์ กล่าวต่อว่า ให้ รฟม.ไปศึกษาและหาวิธีแนวทางในการพัฒนาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ตามสายทางรถไฟฟ้า ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากหลายๆ ประเทศ เช่น ประเทศฮ่องกง ก็มีการพัฒนาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า สาเหตุที่ให้ไปศึกษาการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมองว่า หากมีนโยบายจัดเก็บค่าโดยสารเพียง 20 บาทตลอดสายอย่างเดียวแต่ไม่มีรายได้จากทางอื่นเข้ามาช่วย การจัดเก็บค่าโดยสาร 20 บาท ตลอดสายก่อนที่จะก่อสร้างครบ 10 สาย คงไม่สามารถทำได้ นอกจากรัฐบาลต้องช่วยสนับสนุนงบประมาณแทน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 96, 97, 98 ... 228, 229, 230  Next
Page 97 of 230

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©