เยือนสระบุรี ในวันที่อะไร ๆ ก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด

[ExtendeD]

ถนนและบริเวณที่จอดรถด้านหน้าอาคารสถานีครับ จากบริเวณนี้ถ้าเดินไปตามถนนเลียบทางรถไฟไปเรื่อย ๆ ไม่ไกลก็จะเป็นตลาดโต้รุ่งขายอาหารหลายอย่าง ตอนที่ผมมาทำงานที่สาขาสระบุรีมากินที่นี่ทุกคืนเลยครับ



มาดูตำแหน่งของสถานีรถไฟสระบุรีจากแผนที่ของทาง point asia กันบ้างครับ
- จุดสีแดงทางด้านซ้ายล่าง จะเป็นจุดตัดถนนพหลโยธินที่อยู่ทางทิศตะวันตกของสถานีครับ
- ถัดมาทางขวาที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมสีเขียวนั่นคือ ตำแหน่งของสถานีสระบุรี
- มองไล่ไปตามแนวรางรถไฟจะเห็นว่ามีจุดตัดถนนเสมอระดับอีก 1 จุด แต่ผมไปดูในแผนที่ตัวเมืองสระบุรี จาก website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแล้ว ไม่ได้บอกชื่อของถนนเส้นนี้เอาไว้ครับ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นถนนสายสำคัญ เพราะมีรถวิ่งผ่านหนาแน่นมากครับ
- ผ่านโค้งขึ้นไปทางด้านทิศเหนือจะเห็นจุดสีเหลือง นั่นเป็นตำแหน่งของสะพานข้ามคลองเพรียวครับ
- แม่น้ำสายใหญ่ที่เห็นอยู่ทางด้านบนของรูปนั่นเป็น " แม่น้ำป่าสัก " ครับ



สถานีสระบุรี ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ
เป็นสถานีระดับที่ 1 อักษรย่อ ะร. รหัสสถานี 2007
ตั้งอยู่ในตำบลปากเพรียว อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 113.26 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับด้วยคอมพิวเตอร์ และสัญญาณไฟสี ( ก.1 ข ) ใช้สัญญาณตัวแทน *

* อ้างอิงจาก file station_northeast.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com

ถ้าต้องการอ่านรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับตำบลปากเพรียว อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ก็เข้าไปอ่านที่ www.thaitambon.com ได้เลยครับ

ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี จาก...
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. สำนักงานจังหวัดสระบุรี
3. หมูหิน.คอม
4. ไทยทัวร์.คอม
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินเข้ามาข้างในอาคารสถานี มองไปทางซ้ายจะเป็นช่องจำหน่ายตั๋วครับ



ส่วนทางขวาจะเป็นป้ายแสดงกำหนดเวลาเดินรถ ด้านนี้จะเป็นเวลาเดินรถเที่ยวล่อง ( กลับเข้ากรุงเทพ )



เดินอ้อมไปดูอีกฝั่งหนึ่งครับ จะเป็นเวลาเดินรถเที่ยวขึ้น ( ไปทางสถานีอุบลราชธานี หรือสถานีหนองคาย )



ถ้ามองจากป้ายจะเห็นเวลาเดินรถไม่ชัดครับ ก็คงต้องไปตรวจสอบจากข้อมูลใน website ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เอาแล้วกันนะครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ดูบรรยากาศข้างในอาคารสถานีกันไปแล้ว ก็ออกมาดูข้างนอกกันต่อครับ มาเริ่มจากที่เดิม " ป้ายประเพณีทางด้านทิศตะวันตก " ครับ



ถ้ายืนอยู่ที่ป้ายประเพณีด้านทิศตะวันตก แล้วหันมองไปทางซ้ายจะเห็นชานชาลามีหลังคาอยู่ตรงกลางระหว่างรางที่ 3 และ 4 ครับ ดูจากตำแหน่งที่ตั้งของชานชาลาที่เห็นนี้แล้ว คงไม่ค่อยได้ถูกใช้งานสักเท่าไหร่ครับ อย่างที่ผมไปที่สถานีนี้ทั้ง 2 ครั้งก็เห็นว่ามีชาวบ้านมาจับกลุ่มนั่งพูดคุยกันหลายคนครับ ส่วนผู้โดยสารจะไปนั่งกันอยู่ที่ชานชาลาด้านหน้าอาคารสถานีมากกว่า


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินผ่านป้ายประเพณีทางด้านทิศตะวันตกไป ก็จะขึ้นมาข้างบนชานชาลาครับ ทางขวาจะเห็นมีสิ่งก่อสร้างชั้นเดียวหลังคาสีน้ำตาลแดงอยู่ข้างหลังรั้ว ก่อนหน้านี้ผมเข้าใจมาโดยตลอดว่าที่เห็นอยู่นี้คงจะเป็นบ้านพักของครฟ. ที่นี่ เพราะเห็นมีเครื่องปรับอากาศพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที นึกในใจว่าหรูไม่เบา แต่เจฟบอกว่าไม่ใช่บ้านพักครฟ. ครับ สิ่งก่อสร้างที่เห็นอยู่นี้ก็คือ " ที่ทำการหน้างานของฝ่ายอาณัติสัญญาณฯ " ที่น้องบอยพูดถึงก่อนหน้านี้ครับ



มองไปทางซ้ายจะเห็นชานชาลาอยู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งชานชาลาที่เห็นอยู่นี้จะอยู่ตรงกลางระหว่างรางที่ 2 ( รางประธานทางล่อง ) กับรางที่ 3 ผู้โดยสารที่กำลังรอการโดยสารไปกับขบวนรถที่จะเข้าสู่กรุงเทพ ก็จะมารอกันที่นี่ครับ



เดินต่อมาจนผ่านมาถึงอีกฝั่งหนึ่งของ " ที่ทำการหน้างานของฝ่ายอาณัติสัญญาณฯ " มองลอดผ่านรั้วเข้าไปจะเห็นป้ายติดอยู่ ข้อความในป้ายเขียนว่า " อาคารที่ทำการหน้างาน ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม " ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

กลับมาที่ชานชาลาที่อยู่ระหว่างรางที่ 3 และ 4 อีกครั้งครับ ถ้ามองออกไปทางซ้ายข้างรางที่ 4 จะเห็นว่ามีหลักเขตสับเปลี่ยน และหมอนไม้เก่า ๆ วางกองกันอยู่หลายท่อน หลายกองครับ มองถัดไปด้านหลังจะมีรั้วกั้นระหว่างเขตของสถานีกับถนนที่อยู่ด้านนอก แต่ที่ผมเดินดูแล้วจะมีช่องว่างของรั้วเว้นเอาไว้ให้เดินผ่านเข้ามาข้างในสถานีได้อยู่ประมาณ 2 - 3 จุดครับ



หันมองมาทางขวาจะเห็นชานชาลาที่อยู่ระหว่างรางประธานทางล่องกับรางที่ 3 อยู่ใกล้ ๆ กระถางต้นไม้สีขาว ๆ ที่อยู่ตรงกลางชานชาลาที่เห็นอยู่นี้ เจฟบอกว่าสถานีท่าเรือก็เพิ่งได้รับมอบมาไม่กี่วันนี้เองครับ



กลับมาที่ชานชาลาทางด้านขวาสุดกันต่อ แล้วมองกลับไปที่ชานชาลาตรงกลางอีกครั้ง จะเห็นว่าบริเวณชานชาลาที่มีหลังคาจะมีเก้าอี้ให้ผู้โดยสารนั่งรอขบวนรถอยู่หลายตัวครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

มองตรงไปข้างหน้า ก็จะเห็นชานชาลาที่อยู่ข้างหน้าอาคารสถานีครับ จะมีเก้าอี้ทั้งที่เป็นม้าหิน และเก้าอี้พลาสติกวางเรียงกันเป็นแถวยาวครับ



เดินต่อไปไม่ไกลก็จะเห็น " ป้ายบอกสถานีถัดไป " ตั้งอยู่ริมรั้ว ถ้าไปทางสถานีบ้านป๊อกแป๊กก็จะเป็นทางกลับไปสู่สถานีอยุธยา เข้ากรุงเทพ ส่วนถ้าไปทางสถานีหนองบัวก็จะไปที่สถานีชุมทางแก่งคอย ขึ้นไปที่หนองคาย หรือจะไปทางอุบลราชธานีครับ ข้างหลังรั้วที่เห็นเป็นประตูสีน้ำตาลเข้มนั่นเป็น " อาคารเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง " ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ทางเดินข้ามรางรถไฟไปที่ชานชาลาที่อยู่ข้างรางประธานทางล่องครับ



เดินข้ามทางเดินเมื่อสักครู่มาที่ชานชาลาที่อยู่ข้างรางประธานทางล่อง แล้วหันมองไปทางชานชาลาที่อยู่ข้างหน้าอาคารสถานี จะเห็นว่าบนชานชาลามีเก้าอี้พลาสติกวางเรียงกันเป็นแถวหลายตัว มีผู้โดยสารนั่งอยู่หลายคนครับ เพราะวันที่ถ่ายรูปนี้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21 และขบวนรถเร็วที่ 135 ล่าช้ากว่ากำหนดทั้ง 2 ขบวนครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ลองมาดูที่ชานชาลาด้านหน้าอาคารสถานีกันอีกครั้งแบบชัด ๆ นะครับ เริ่มจากทางขวา ( ทางด้านทิศตะวันออก ) ก่อน ห้องแรกที่อยู่ทางขวาสุดที่เห็นว่ามีกล่องกระดาษวางอยู่ ห้องนั้นมีสติ๊กเกอร์แปะอยู่ข้างหน้าห้องบอกว่าเป็น " ห้องผู้ช่วยนายสถานี " ครับ ถัดมาก็จะมีระฆังประจำสถานีแขวนอยู่ ถัดไปอีกเป็นห้องกระจกติดฟิล์ม ผมเองก็ไม่ได้มองเข้าไปข้างในด้วย แต่คิดว่าน่าจะเป็นห้องของนายสถานีครับ



ถัดมาทางซ้ายเรื่อย ๆ จะเห็นทางออกจากอาคารสถานีอยู่ทางขวาของรูป ตรงกลางเป็นนายแบบยืนโพสท์ท่า...( ท่านี้จะเรียกว่าท่าอะไรดีครับพี่ตุ้ย ) มีเจ้าตี๋นั่งกดมือถือเปิดเพลงฟังอยู่ด้วยครับ วันนั้นเป็นวันจันทร์ก็ใส่เสื้อเหลืองกันทั้ง 3 คนล่ะครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ละสายตาจากนายแบบ หันมองต่อไปทางซ้ายที่เห็นเป็นประตูเปิดอยู่นั่นเป็น " ที่ทำการตำรวจรถไฟสระบุรี " ครับ ถัดไปก็เป็นห้องน้ำ จะมีซุ้มเล็ก ๆ ขายขนมนมเนยและน้ำอยู่ด้วย ถัดไปอีกก็จะมีม้าหินตั้งวางเรียงกันเป็นแถวยาวตลอดไปจนสุดชานชาลาที่มีหลังคาครับ



รูปของบริเวณที่นั่งรอของผู้โดยสารทั้ง 3 รูปที่ได้เห็นไปก่อนหน้านี้ ที่เห็นโล่ง ๆ ไม่ค่อยมีผู้โดยสารนั่งอยู่ก็เพราะว่าในวันนั้นขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21 ขบวนรถเร็วที่ 135 รวมถึงขบวนรถชานเมืองที่ 340 มารับผู้โดยสารไปหมดแล้วครับ

ลองมาเทียบกับรูปนี้ตอนที่ผมไปครั้งแรก รถทั้ง 3 ขบวนยังเข้ามาไม่ถึงที่สถานีสระบุรี ก็เลยจะเห็นว่ามีผู้โดยสารนั่งรอกันอยู่หลายคน ที่เห็นนี้คงเป็นผู้โดยสารที่รอขบวนที่ 21 และ 135 อยู่ครับ ส่วนผู้โดยสารที่รอการโดยสารไปกับขบวนที่ 340 ข้ามไปรออยู่ที่ชานชาลาข้าง ๆ รางประธานทางล่องกันแล้ว


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงป้ายประเพณีทางด้านทิศตะวันตก ข้างหลังชานชาลาที่เห็นอยู่ทางขวาของรูปจะเริ่มมีร้านขายอาหารที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าเป็นตลาดโต้รุ่งเรียงกันไปตลอดแนว จนเกือบจะถึงจุดตัดถนนพหลโยธินที่อยู่ข้างหน้านั่นเลยครับ



เดินมาที่อีกฝั่งหนึ่งของป้ายประเพณี แล้วหันหลังกลับไปทางสถานีครับ ลองเพ่งดูดี ๆ จะเห็นผู้โดยสารหลายคนอยู่ที่ชานชาลาข้างรางประธานทางล่องครับ นั่นคือผู้โดยสารที่รอขบวนที่ 340 อยู่ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.