View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
JackSkyline
Warning 3 (Final)
Joined: 11/02/2013 Posts: 118
|
Posted: 02/03/2013 6:51 am Post subject: |
|
|
สำหรับแนวคิดผมนะครับ ก็ จัดการเอา RHN หรือ THN กับพวก Daewoo กับ Sprinter ไปถอดเครื่องดีเซลทิ้ง ใส่มอเตอร์ เปลี่ยนแคร่ติดแพนโตกราฟ แปลง DMU ให้กลายเป็น EMU ซะ
ส่วน RHN กับ THN NKF ไปปรับปรุงบานเลื่อนกระจก ประตูต่างๆ ให้อยู่สภาพใหม่และดีด้วย เพืิ่มพัดลมเยอะๆ
แล้วก็
จัดการขั้นที่ 2 ครับ
จับปู่ GEK ที่ทำสีใหม่ จับน้าต้อม และเจ้า GEA กับ Hitachi ไปถอดเครื่องดีเซล แปลงโฉมเป็น Electric Locomotive ติดแพนโตกราฟ สาลี่ และแปลงร่างรถจักรที่มีอยู่เป็นไฟฟ้า
นำบชส. พัดลมส่่วนหนึ่ง ไปทำกระจกใหม่ ติดแอร์ ติดระบบคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ระบบบริการดีๆ เปลี่ยนเบาะเป็น บชท.
และ ก็มีรถพัดลมอยู่บ้างแต่ปรับหน้าต่างให้ดีๆ เปิดปิดง่ายแล้วก็ เพิ่มพัดลมเยอะๆ
และเพิ่มจำนวนรถแอร์
เปลี่ยนแคร่ล้อเป็น แคร่ฮุนได หรือแคร่ บนท.ป. แดวูทั้งหมด เพราะระบบเบรกดีมากๆ ใช้เบรกสองระบบร่วม คือ ลมอัดร่วมกับ ระบบไฟฟ้า แบบแอรืพอร์ตลิ่งค์ มาติดในแคร่ และรองรับความเร็วได้ 120 ปัจจุบันกำหดนแค่ 100
คิดค่าธรรมเนียม เป็นเปอร์เซนต์ จะถูกกว่ารถทัวร์มากๆ
เช่น รถด่วนนั่งปรับอากาศชั้นสอง
ราชสีมา - บุรีรัมย์ ค่าโดยสารชั้นสองก็ 55 บาท
ค่าธรรมเนียมรถปรับอากาศ 20% และค่าธรรมเนียมรถด่วน 30% เท่ากับ 85 บาท
ถูกกว่ารถทัวร์ ป. 2 ราชสีมา - บุรีรัมย์ ที่เก็บ 100 บาท ซะอีก
รถเร็ว บุรีรัมย์ - ราชสีมา ชั้นสองปรับอากาศ ค่าธรรมเนียมปรับอากาศ 20% ค่าธรรมเนียมรถเร็ว 25% รวมแล้ว 82 บาท ถูกกว่ารถทัวร์ ป. 2 ซะอีกครับ
นี่แค่แนวคิดหนึ่ง ใครมีไอเดียดีๆ ก็ขอให้ช่วยเสอนแนะ และผมเองขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ |
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 02/03/2013 2:30 pm Post subject: |
|
|
การรีบิ้วใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหัวรถจักร รถดีเซลราง ตู้รถโดยสารชนิดต่าง ๆ ให้ใช้บนเส้นทางรถไฟฟ้า (ไม่ทราบว่ารวมถึงรถบรรทุกสินค้า, รถบรรทุกปูนซีเมนต์, รถบรรทุกน้ำมันดิบ และรถบรรทุกแก๊สไวไฟ ด้วยหรือไม่ครับมาใช้วิ่งในเส้นทางรถไฟฟฟ้า) คงต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด
ส่วนจะทำรั้วกันเพื่อไม่ให้คน ปศุสัตว์ และลูกหลานเข้าไปใกล้บริเวณริมทางรถไฟ หากเจอพวกร้อนเงิน ไปตัดรั้วกั้นริมทางรถไฟเป็นช่อง ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ก็อาจจะอาศัยความมักง่ายในการทำอยู่แบบเดิมๆ อีก (การทำรั้วกั้นริมทางรถไฟ ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่อยู่ริมทางรถไฟนั้น ๆ ด้วยนะครับ)
ผมคิดว่า ทำเป็นการจ่ายไฟผ่านสาลี่บนหลังคารถไฟฟ้า โดยใช้สายไฟพาดไว้ด้านบนในการจ่ายไฟให้กับรถไฟฟ้า น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ และมีสถานีจ่ายไฟทุก ๆ 20 - 30 กม. ในการจ่ายแรงดันไฟฟ้าใหักับรถไฟฟ้า
_________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
JackSkyline
Warning 3 (Final)
Joined: 11/02/2013 Posts: 118
|
Posted: 02/03/2013 3:14 pm Post subject: |
|
|
nutsiwat wrote: | การรีบิ้วใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหัวรถจักร รถดีเซลราง ตู้รถโดยสารชนิดต่าง ๆ ให้ใช้บนเส้นทางรถไฟฟ้า (ไม่ทราบว่ารวมถึงรถบรรทุกสินค้า, รถบรรทุกปูนซีเมนต์, รถบรรทุกน้ำมันดิบ และรถบรรทุกแก๊สไวไฟ ด้วยหรือไม่ครับมาใช้วิ่งในเส้นทางรถไฟฟฟ้า) คงต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด
ส่วนจะทำรั้วกันเพื่อไม่ให้คน ปศุสัตว์ และลูกหลานเข้าไปใกล้บริเวณริมทางรถไฟ หากเจอพวกร้อนเงิน ไปตัดรั้วกั้นริมทางรถไฟเป็นช่อง ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ก็อาจจะอาศัยความมักง่ายในการทำอยู่แบบเดิมๆ อีก (การทำรั้วกั้นริมทางรถไฟ ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่อยู่ริมทางรถไฟนั้น ๆ ด้วยนะครับ)
ผมคิดว่า ทำเป็นการจ่ายไฟผ่านสาลี่บนหลังคารถไฟฟ้า โดยใช้สายไฟพาดไว้ด้านบนในการจ่ายไฟให้กับรถไฟฟ้า น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ และมีสถานีจ่ายไฟทุก ๆ 20 - 30 กม. ในการจ่ายแรงดันไฟฟ้าใหักับรถไฟฟ้า
|
ที่ผมบอก หมายถึง การติดสาลี่ และระบบแพนโตกราฟบนหลังคานั่นแหละครับ ไม่ใช่ติดที่รางครับผม |
|
Back to top |
|
|
JackSkyline
Warning 3 (Final)
Joined: 11/02/2013 Posts: 118
|
Posted: 02/03/2013 3:17 pm Post subject: |
|
|
nutsiwat wrote: | การรีบิ้วใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหัวรถจักร รถดีเซลราง ตู้รถโดยสารชนิดต่าง ๆ ให้ใช้บนเส้นทางรถไฟฟ้า (ไม่ทราบว่ารวมถึงรถบรรทุกสินค้า, รถบรรทุกปูนซีเมนต์, รถบรรทุกน้ำมันดิบ และรถบรรทุกแก๊สไวไฟ ด้วยหรือไม่ครับมาใช้วิ่งในเส้นทางรถไฟฟฟ้า) คงต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด
ส่วนจะทำรั้วกันเพื่อไม่ให้คน ปศุสัตว์ และลูกหลานเข้าไปใกล้บริเวณริมทางรถไฟ หากเจอพวกร้อนเงิน ไปตัดรั้วกั้นริมทางรถไฟเป็นช่อง ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ก็อาจจะอาศัยความมักง่ายในการทำอยู่แบบเดิมๆ อีก (การทำรั้วกั้นริมทางรถไฟ ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่อยู่ริมทางรถไฟนั้น ๆ ด้วยนะครับ)
ผมคิดว่า ทำเป็นการจ่ายไฟผ่านสาลี่บนหลังคารถไฟฟ้า โดยใช้สายไฟพาดไว้ด้านบนในการจ่ายไฟให้กับรถไฟฟ้า น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ และมีสถานีจ่ายไฟทุก ๆ 20 - 30 กม. ในการจ่ายแรงดันไฟฟ้าใหักับรถไฟฟ้า
|
และอีกอย่าง ผมว่า ถ้าในรางเดิมทีใช้อยู้ก็ล้อเดิม โครงแค่เดิม โครงประธานเดิม และระบบขับเคลื่อนของรถจักรไฟฟ้ากับรถจักรดีเซลก็ ใช้มอเตอร์ขบเฟืองกับล้อเหมือนกัน
เพียงแค่เปลี่ยนเครื่องเป็น มอเตอร์ที่รับกระแสไฟจากบนหลังคา มาปั่นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า แล้วจ่ายลงมอเตอร์หมุนล้อแทนเครือ่งดีเซล
ส่วนแปลง DMU ที่มีอยู่ ก็เพียงเปลี่ยนจากเครือ่งยนต์เป็นมอเตอร์ก็กลายเป็น EMU แล้วครับ
งั้นก็แปลง RHN THN DAEWOO SPRINTER เป็นแพนโตกราฟ |
|
Back to top |
|
|
JackSkyline
Warning 3 (Final)
Joined: 11/02/2013 Posts: 118
|
Posted: 02/03/2013 3:22 pm Post subject: |
|
|
อีกอย่าง ผมคิดว่านะครับ
ถ้าพัฒนาจากของเดิมที่เรามีอยู่ แปลงระบบใหม่ ก็น่าจะเอาเทคโนโลยีการขับคุมแบบสมัยใหม่ ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งในห้องขับ และห้องโดยสาร แบบรถไฟญี่ปุ่น ระบบอำนวยความสะดวกมาติดตั้ง
คิดค่าธรรมเนียม เป็นเปอร์เซนต์ จะถูกกว่ารถทัวร์มากๆ
เช่น รถด่วนนั่งปรับอากาศชั้นสอง
ราชสีมา - บุรีรัมย์ ค่าโดยสารชั้นสองก็ 55 บาท
ค่าธรรมเนียมรถปรับอากาศ 20% และค่าธรรมเนียมรถด่วน 30% เท่ากับ 85 บาท
ถูกกว่ารถทัวร์ ป. 2 ราชสีมา - บุรีรัมย์ ที่เก็บ 100 บาท ซะอีก
รถเร็ว บุรีรัมย์ - ราชสีมา ชั้นสองปรับอากาศ ค่าธรรมเนียมปรับอากาศ 20% ค่าธรรมเนียมรถเร็ว 25% รวมแล้ว 82 บาท ถูกกว่ารถทัวร์ ป. 2 ซะอีกครับ |
|
Back to top |
|
|
KnGEA4539
3rd Class Pass
Joined: 07/07/2010 Posts: 125
Location: ข.35/36 ข.283 วิศวกรรมขนส่งทางราง สจล
|
Posted: 02/03/2013 8:03 pm Post subject: |
|
|
การเอารถดีเซลเก่าไปดัดแปลงเป็นรถไฟฟ้ามันไม่คุ้ม เพราะราคาอาจสามารถซื้อรถไฟฟ้าใหม่ได้หลายขบวนเลยทีเดียว และค่าบำรุงรักษารถเก่าที่ดัดแปลงอาจแพงกว่ารถไฟฟ้าใหม่ด้วย ซึ่งถึงจะเปลี่ยนระบบเป็นรถไฟฟ้าแล้วก็ไม่ได้หมายความว่ารถดีเซลจะวิ่งร่วมไม่ได้ ซึ่งถ้าจะดัดแปลงรถเก่าผมว่าไปซื้อรถไฟฟ้าใหม่มาวิ่งร่วมกับรถดีเซลเก่าจะดีกว่า ได้รถเพิ่มขึ้นด้วย หมุนชุดรถได้ดีกว่าเดิมด้วย _________________
|
|
Back to top |
|
|
RORONOA
2nd Class Pass
Joined: 06/12/2007 Posts: 705
|
Posted: 02/03/2013 8:50 pm Post subject: |
|
|
เอาแค่เรื่องติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ทุกวันนี้ก็ยังได้ยินว่ามีปัญหาขัดข้องทางเทคนิคเล็กๆน้อยๆเลย ใช่ว่าวางเครื่องใหม่แล้ว การตอบสนองการทำงานจะใช้ได้ 100 เปอร์เซ็นเต็ม พูดถึงเรื่องการติดตั้งระบบไฟฟ้าไปแทนเครื่องต้นกำลังตัวเก่า ไม่ใช่การรื้อเครื่องยนต์ตัวเก่าออกแล้วจะใส่ตัวใหม่ลงไปได้ ต่่อสายไฟแล้วจะจบ รถไฟไม่ใช่รถของเล่นนะครับ เอาแค่อุปกรณ์พื้นฐานที่นึกออก อย่างพวกเรคติคไฟเออร์ รีเลย์ ทรานซิสเตอร์ คาปาซิเตอร์ ที่จะต้องติดตั้งเข้าไป ระบบคอนโทรล ช่วงล่าง ระบบรองรับน้ำหนักต้องรื้อใหม่หมด และยังต้องคำนวณเรื่องไวเบรชั่น เพื่อป้องกันความถี่สั่นพ้องอีกด้วย พูดง่ายๆงานสร้างรถจักรใหม่ดีๆนั่นล่ะครับ ถ้าจะทำเพื่อสร้างความองค์ความรู้ผมไม่เถียงครับ แต่ถามว่าทำแล้วบอกว่าง่ายกว่าถูกกว่าดีกว่าการซื้อรถใหม่ขอบอกว่าไม่จริงเลยแม้แต่น้อย นี่ยังไม่รวมถึงมองในด้านเศรษฐศาสตร์ที่ทุกวันนี้ระบบอุตสาหกรรมเครื่องจักรจะมุ่งเน้นที่บริการหลังการขายและอะไหล่มากกว่ามุ่งการขายโดยตรง พูดง่ายๆคือซื้อรถมาถูก แต่ซื้ออะไหล่แยกชิ้นมารวมกันนี่อาจจะซื้อรถใหม่ได้อีกหลายคัน ลองจำแนกชิ้นส่วนรถยนต์ที่บ้านเล่นๆแล้วไปถามราคาอะไหล่ดูก็ได้ครับ
อีกเรื่องคือเรื่องการติดไฟฟ้าเข้ากับรางปัจจุบัน อาจพูดติดตลกกันที่ว่าเป็นการป้องกันการบุกรุก แต่ทำเป็นเรื่องจริงมันไม่ขำนะครับ ชีวิตคนทั้งคน เพราะคนที่โดนอาจเป็นคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์แม้แต่พนักงานหรือพวกเราๆเองที่ไปดักถ่ายรูปก็ดดนได้เหมือนกัน ดูอย่างเสาไฟฟ้าแรงสูงจะกำหนดเขตไว้ไม่ให้มีการก่อสร้างอะไรเลย เสาจ่ายไฟของรถไฟฟ้านี่ก็น้องๆเสาไฟฟ้าแรงสูงนะครับ โอกาสรั่วมีสูงมาก ผมยังนึกคำโฆษณาชวนเชื่อของบริษัทโทรศัพท์ ที่ว่าเสาสัญญาณติดตั้งสายดินอย่างดี คนรู้จักผมเสียเครื่องใช้ไฟฟ้าไปหลายตัวแล้ว ค่าเช่าที่ดินติดตั้งเสานี่ครึ่งนึงต้องเอาไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ อย่างระบบควบคุมประแจกลไฟฟ้าด้วยคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้ฝนตกน้ำท่วมย่านทีไรก็รวนทุกที ถ้าไม่คิดถึงเรื่องรอบด้านอย่างนี้ให้ดีก็อย่าเพิ่งไปทำเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
|