ทริปงานบุญช่วงเข้าพรรษา 2550

black_express · Last edited by black_express on 01/09/2008 5:04 pm; edited 2 times in total

กลับมาจากช่วงหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษา เก็บรูปเกี่ยวกับวัดวาอารามทางภาคอีสานไว้หลายวัน

เอ....ทำท่าจะดองเค็มได้ที่ ต้องรีบทยอยลงเสียที่ครับ Laughing

เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2550 ผมมีโอกาสพาครอบครัวไปเยี่ยมน้องสาวที่ขอนแก่น และเยี่ยมรวมญาติที่สกลนคร ขับรถไปทั้งๆ ที่รู้ว่า มีพี่น้องชาวอีสานถือโอกาสนี้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านกันมากมาย รถคงติดแถวๆ ทางขึ้นเขาดงพญาเย็น ลำตะคอง เรื่อยเปื่อยไปจนถึงบ้านไผ่โน่นแหละ ถึงขอนแก่นสักกี่โมงน้อ ?

ถึงแค่ปากทางแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี ก็เห็นผลล่ะครับ รถติดเป็นแถวยาวเหยียดรอเข้าสู่ถนนมิตรภาพ มือไวเท่าความคิดที่กะเอาไว้ล่วงหน้า เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลี่ยงเมืองสระบุรี ไปโผล่ที่แยกพุแค เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 21 ( พุแค - หล่มสัก ) อ่า...ค่อยยังชั่ว ไปตามขบวนรถยนต์ที่น้อยลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แถมเป็นทางขนาดสี่เลน แล้วผมก็ไปตั้งหลักที่ตลาดลำนารายณ์ พักรถ ก่อนออกเดินทางไปตามถนนสุรนารายณ์ ไต่ขึ้นเขาพังเหย ขนานกับทางรถไฟสายแก่งคอย - บัวใหญ่ สู่แผ่นดินอีสานต่อไป

ที่กะเอาไว้ล่วงหน้า เพราะมีแผนอยู่ในใจครับ พอผ่านบ้านช่องสำราญ แนวทางโค้ง เอส - เคิร์ฟ ไต่ขึ้นเขาตามหลังรถบริษัท นครชัย จำกัด ซึ่งวิ่งสัมปทานระหว่างนครราชสีมา - ลำนารายณ์ - เพชรบูรณ์ อีกเล็กน้อย ก็ถึงจุดหมายแรก ตรงสะพานรถไฟข้ามทางหลวงหมายเลข 205 ใกล้บ้านวะตะแบก หรือตัวอำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ นั่นเอง

Click on the image for full size

เอามาลงแค่หอมปากหอมคอครับ เพราะส่วนใหญ่ได้นำลงประกอบในกระทู้ เที่ยวขอนแก่น แบบชิลล์ๆ ในวันที่อะไรก็ไม่เป็นใจ ไว้เรียบร้อยแล้ว

tuie · Posted: 14/08/2007 7:02 pm Post subject:

ขอบคุณครับพี่ตึ๋งที่กรุณานำภาพสะพานแห่งนี้มาให้ชมกันครับ Very Happy

ผมนั่งรถไฟข้ามสะพานนี้มาหลายครั้ง ขับรถยนต์ลอดอีก ๓-๔ ครั้ง เพิ่งจะได้เห็นภาพชัดๆก็คราวนี้เอง ว่างๆน่าจะจัดทริปปีนขึ้นไปสำรวจกันนะครับ Cool

CivilSpice · Posted: 14/08/2007 7:08 pm Post subject:

เคยขับรถผ่านไปถนนเส้นนั้น ตอนที่แวะไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวเมื่อสักปี 2547 แล้วก็ต้องตะลึงกับความอลังการของสะพานแห่งนี้ ที่ทอดตัวข้ามถนน ในมุมที่ลงตัวพอดิบพอดี ตอนนั้นว่าจะจอดรถลงไปถ่ายรูปเอาไว้แล้ว แต่เกรงว่าแฟนจะหาว่าบ้า เพราะตอนนั้นเว็บรถไฟไทย ยังเป็นเพียงแค่ไอเดียเล็กๆ ในสมองอยู่เท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวเป็นตนแบบทุกวันนี้

ถ้าเป็นสมัยนี้เหรอครับ คงไม่พลาดทั้งสะพาน ทั้ง "สถานีบ้านวะตะแบก" หรอกน่า

ในวันนั้น ขับรถตีคู่กับรถเร็ว กท-หนองคาย เที่ยวเช้า มาตั้งแต่แถวๆ โรงเรียนอัสสัมชัญ จนมาทันกันตรงจุดตัดหน้าตลาดลำนารายณ์พอดีเลย อิอิอิ

ขอขอบคุณภาพงามๆ จากพี่ตึ๋งด้วยนะครับ

Cool

ExtendeD · Posted: 14/08/2007 7:57 pm Post subject:

ถ้ารถที่พี่ ๆ ใช้เป็นพาหนะขับไปสำรวจสะพานแห่งนี้ พอจะมีที่ว่างอยู่บ้าง ก็รบกวนช่วยแจ้งข่าวด้วยนะครับ จะขอติดรถไปด้วยคนครับ

ตอนที่ได้นั่งรถไฟผ่านก็ไม่ได้จดตำแหน่งของสะพานนี้แบบละเอียด ๆ เอาไว้ ไปดูตำแหน่งของสะพานนี้ใน pointasia ก็ไม่ชัด ไปเปิด google earth ยิ่งไปกันใหญ่ คิดอยากจะไปดูเองก็วางแผนไม่ค่อยจะถูกครับ Embarassed

_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size

black_express · Posted: 15/08/2007 10:49 am Post subject:

ถ้ามีโอกาส จะแจ้งให้ทราบครับ Laughing

ถ้าจะไปเอง ต้องลงรถไฟที่สถานีบ้านวะตะแบก เหมารถมอเตอร์ไซต์รับจ้างจากสถานีมายังตัวสะพานก็ได้ครับ เพราะอยู่ห่างตัวชุมชนอำเภอเทพสถิต มาทางบ้านช่องสำราญ ราวๆ 4 กิโลเมตรเท่านั้น Cool

Tob96 · Posted: 15/08/2007 11:50 am Post subject:

ถ้ามีโอกาสได้ไปดักซุ่มถ่ายเจ้า 535/536 หรือไม่ก็ 531/532 บนสะพานท่าจะดีไม่น้อย... Rolling Eyes

_________________
เราเหล่าม้าเหล็ก...ยามวิ่งเร็วดั่งพายุ...ยามหยุดนิ่มนวลดุจสายน้ำไหล.....

CivilSpice · Posted: 15/08/2007 12:00 pm Post subject:

black_express · Posted: 15/08/2007 1:00 pm Post subject:

ขอบคุณทุกท่าน ที่ให้ความสนใจสะพานแห่งนี้เป็นพิเศษ แต่ทริปนี้ ผมมีแค่ภาพสะพานรถไฟเพียงแห่งเดียวเท่านั้น Laughing

จากบ้านวะตะแบก ผ่านห้วยยายจิ๋ว และเลี้ยวซ้ายไปยังตัวอำเภอบำเหน็จณรงค์ เพราะสี่แยกบ้านหนองบัวโคก ตัดกับทางหลวงหมายเลข 201 ( สีคิ้ว - เชียงคาน ) อยู่ค่อนไปทางใต้ หาทางลัดออกไป อ.จัตุรัส ดีกว่า

ผ่านห้องแถวไม้ในชุมชนริมทางแยก ที่มีสภาพย้อนยุค สถานีรถไฟที่อยู่กลางทุ่ง ห่างจากตัวอำเภอร่วม 4 กม. ถึงสี่แยกในตัวอำเภอ แยกซ้ายเข้าสู่ถนนสายบำเหน็จณรงค์ - จัตุรัส ที่เกือบขนานไปกับทางรถไฟช่วงดังกล่าว แถมข้ามทางรถไฟมาอยู่ด้านใต้ จนบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 201 เข้าตัวจังหวัดชัยภูมิ ที่อยู่ห่างออกไปข้างหน้า ระยะทาง 40 กม.

ผ่านทางเลี่ยงเมืองชัยภูมิ ตัดกับทางหลวงหมายเลข 202 ( ชัยภูมิ - สีดา - เขมราฐ ) ตรงไปยัง อ.แก้งคร้อ เส้นทางช่วงนี้อยู่ระหว่างขยายเป็นสี่เลน แต่เดินทางได้สะดวก เกือบถึงช่องสามหมอ มีทางแยกซ้ายมือ ไป อ.มัญจาคีรี แยกขวาอีกครั้งหนึ่ง ตรงไปจังหวัดขอนแก่น ด้วยวิธีลูกทุ่งแบบนี้ บ่ายสี่โมงเศษ ผมก็มาโต๋เต๋อยู่ที่ตัวเมืองขอนแก่นล่ะครับ

.....................................

รุ่งขึ้น เปลี่ยนรถล่ะครับ เป็นรถเก๋ง เกียร์ออโต้ ของน้องผม ออกจากขอนแก่น ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ และ อ.สมเด็จ ไต่ขึ้นสู่ภูพาน ด้วยแนวทางที่คดเคี้ยว สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ เพราะมีรถลงเขาสวนลงมาไม่ขาดระยะ กะว่าจะเล่าให้ลูกฟัง ถึงการก่อสร้างเส้นทางสายนี้ ช่วงสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม โดยแรงงานรับจ้างเป็นชาวอินโดจีนฝรั่งเศส ที่อพยพข้ามแม่น้ำโขงมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินไทย จนส่งเงินกลับบ้านเกิดเมืองนอนเป็นกอบเป็นกำ ( รวมถึงกองทุนกู้ชาติจากฝรั่งเศสด้วย ) แต่พอเหลือบดูจากกระจกมองหลัง เจ้าตัวดีนอนหลับอุตุบนเบาะหลังรถไปเรียบร้อยแล้ว Cool

เลยชวดโอกาสได้เห็นโค้งปิ้งงู และหลัก กม.ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บริเวณหน้าทางเข้าพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ไปด้วย Laughing

เลยทางแยกเข้าศูนย์ราชการจังหวัดสกลนครไปเล็กน้อย มีป้ายเหนือศรีษะ บอกแยกขวามือไปวัดป่าสุทธาวาส

ครับ....เราจะไปแวะนมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ " อาจารย์ใหญ่ " ของพระอริยสงฆ์ภาคอีสาน และหลวงปู่ดุล จันทสาโร ในพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัดแห่งนี้

New_Henry · Posted: 15/08/2007 4:15 pm Post subject:

รอชมอยู่อีกน่ะครับ
_________________

black_express · Posted: 21/08/2007 11:56 pm Post subject:

ต้องขออภัยครับ ช่วงนี้มีงานติดพันมากๆ เรื่องราวเลยขาดช่วงไป...

ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า ในบริเวณวัดป่าสุทธาวาส จะมีสถานที่น่าสนใจอย่างยิ่งของบรรดาศิษยานุศิษย์ และผู้มีจิตศรัทธาปสาทะต่อ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ และหลวงปู่หลุย จันทสาโร ได้มาเคารพสักการะกันอย่างไม่ขาดสายนั้น ประกอบด้วย อาคารพิพิธภัณฑ์บริขารหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ และ จันทสารเจติยานุสรณ์ หลวงปู่หลุย จันทสาโร นั่นเองครับ

Click on the image for full size

ตอนนี้ เราเข้าไปเยี่ยมชมและสักการะภายในอาคารพิพิธภัณฑ์บริขารหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ กันก่อนครับ

Click on the image for full size

สำหรับตัวอาคารพิพิธภัณฑ์บริขารหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ นั้น สร้างทับบริเวณที่ตั้งจิตกาธารประชุมเพลิงหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ซึ่งถือว่า เป็น อาจารย์ใหญ่ ของบรรดาพระสงฆ์ฝ่ายวิปัสนาในภาคอีสาน ทีเดียว อีกทั้งมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด หาผู้ใดเทียมได้ยากนัก สำหรับลูกศิษย์ของท่าน ล้วนแต่เป็นพระเถระมีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ชา สุภัทโธ หลวงปู่หลุย จันทสาโร และ ฯลฯ ที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศรู้จักกันดี ก็คือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน นั่นไงครับ

ก่อนเข้าไปนมัสการรูปเหมือนหลวงปู่มั่น เราไปหาดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาบริเวณข้างหน้าอาคารกันก่อน โดยหามาจากซุ้มจัดดอกไม้ธูปเทียน ที่ตั้งอยู่ตรงซุ้มใกล้ๆ นั้นแหละครับ

ส่วนค่าบำรุงนั้น เราบริจาคได้ตามกำลังศรัทธา....