RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181626
ทั้งหมด:13492864
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เรื่องน่ารู้ : รถไฟในสมรภูมิ
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เรื่องน่ารู้ : รถไฟในสมรภูมิ
Goto page Previous  1, 2, 3
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2007 10:11 am    Post subject: Reply with quote

วันนี้ได้ข่าวจากมิติชนเรื่องรถจักร C56 เบอร์ 735 ที่จะส่งคืนญี่ปุ่น โดยจะจัดแสดงที่ชิสึโอกะ (เมืองใบชาเชิงภูเขาไฟฟูจี)เพื่อเปนอนุสรณ์ 120 ปี ความสัมพันธ์ ไทย - ญี่ปุ่นดังข่าวต่อไปนี้

// --------------------------------------------------------------------------------------------------

หัวรถจักรไอน้ำ อนุสรณ์"มิตรภาพ" ไทย-ญี่ปุ่น120ปี

โดย ชมพูนุท นำภา

มติชน วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10821

Click on the image for full size
Click on the image for full size
Click on the image for full size
ในความเป็นจริง สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นโหดร้ายยิ่งนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นเรื่องราวที่หล่อหลอมให้ ประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นชาติที่เติบโตและแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว

หลายสิ่งในอดีตไม่ว่าดีหรือร้าย คนญี่ปุ่นยังคงเก็บไว้เป็นสิ่งเตือนใจจนทุกวันนี้

"หัวรถจักรไอน้ำ" เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เวลานี้ประเทศญี่ปุ่นใช้เป็นเครื่องเตือนความทรงจำ

ไม่ผิด...มันคือ หัวรถจักรไอน้ำ ของรถไฟที่ถูกส่งไปตามประเทศต่างๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

คนญี่ปุ่นมีความผูกพันกับหัวรถจักรไอน้ำอยู่ไม่น้อย แม้ว่าปัจจุบันจะมี "ชินกันเซ็น" หรือรถไฟหัวกระสุนที่มีความเร็วสูงสุดวิ่งได้ถึงกว่า 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ตาม

ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 120 ปีในปีนี้ บริษัท โออิกาว่า เรนเวย์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดชิสึโอกะ ซึ่งเป็นบริษัทซ่อมหัวรถจักรไอน้ำโบราณ จะนำหัวรถจักรไอน้ำ C-56-44 ที่ซื้อคืนจากประเทศไทย ไปซ่อมให้สมบูรณ์แล้วนำมาจัดแสดงให้ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวได้ชมกัน

งานนี้มีการเปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคม

มีโอกาสไปร่วมงานดังกล่าว และรับรู้จากเจ้าหน้าที่การรถไฟว่า หัวรถจักรไอน้ำ C-56-44 ขายคืนให้แก่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ 31 ปีที่แล้ว

ชาวญี่ปุ่นที่ซื้อไปมีชื่อว่า "ซาซากิ" เซ็นรับมอบไปวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2519

จึงเป็นสาเหตุที่คณะสื่อมวลชนจากเมืองไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถือโอกาสแวะไปเยี่ยม "หัวรถจักรไอน้ำ" ญาติสนิทคันนี้ ก่อนมุ่งสู่โตเกียวเพื่อร่วมงาน "JATA World Tourism Congess & Travel" ซึ่งเป็นงานการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น

เกี่ยวกับหัวรถจักรไอน้ำคันประวัติศาสตร์ ก่อนหน้านี้ได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นว่าจะนำไปซ่อมให้มีสภาพสมบูรณ์แล้วส่งกลับคืนให้ประเทศไทย

แต่ภายหลังมีการแจ้งว่าข่าวสารคลาดเคลื่อน เพราะที่จริงแล้วญี่ปุ่นซื้อกลับคืนมา เพื่อจะทำเป็นอนุสรณ์ให้กับชาวญี่ปุ่นที่เคยไปทำสงคราม และทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเอง

แม้จะรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่เมื่อได้เห็นสภาพของหัวรถจักรที่ได้รับการซ่อมแซมแล้ว ความรู้สึกกลับเปลี่ยนเป็นยินดี เพราะความทุ่มเทของช่างชาวญี่ปุ่นทุกคนที่พยายามให้หัวรถจักรฟื้นกลับคืนมามีชีวิตอีกครั้ง



การเดินทางไปเยี่ยมหัวรถจักรไอน้ำคันนี้ เริ่มต้นจากสถานีรถไฟชิน โอซาก้า เพื่อไปต่อรถไฟชินกันเซ็น รถไฟขบวนนี้ใช้ความเร็วประมาณ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วไปลงสถานีอิการิ จังหวัดชิสึโอกะ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทาง

ถึงสถานีอิการิ นั่งรถตู้ต่อไปยัง ชิสึโอกะ เพื่อไปที่ "โรงงานการรถไฟโออิกาว่า" หรือบริษัท โออิกาว่า เรนเวย์ เป็นบริษัทที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซมหัวรถจักรโบราณรุ่นต่างๆ มากแห่งหนึ่งในโลก

ภายในโรงงาน มีรถไฟจำลองขนาดเท่าของจริงตั้งไว้สองสามขบวน วันที่ไปถึงนั้นแม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็ยังมีพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกมาเที่ยวและชมรถไฟจำลองอย่างมากมาย

เด็กๆ ทุกคนชอบใจที่ได้ขึ้นไปนั่งบนรถไฟจำลอง และมีของที่ระลึกขาย ซึ่งก็เป็นรถไฟคันน้อยๆ หลากหลายแบบ

"ยามาดะ เคนจิ" พ่อบ้านชาวญี่ปุ่นที่พาลูกมาเที่ยว บอกว่า เด็กๆ ญี่ปุ่นชอบรถไฟอยู่แล้ว วันนี้มีโอกาสพาลูกมาดู ลูกสนุกมาก

"ผมเองก็ดีใจที่ได้เห็นรถไฟที่เคยไปทำภารกิจให้กับคนญี่ปุ่นในต่างประเทศได้กลับมาสู่มาตุภูมิ" ยามาดะสะท้อนถึงความคิดเห็นของคนญี่ปุ่นส่วนมาก

"อาซาฮาระ" ผู้จัดการทั่วไปบริษัท โออิกาว่า เรนเวย์ เล่าว่า หัวรถจักรไอน้ำรุ่น C-56 ของการรถไฟแห่งชาติญี่ปุ่น ได้นำออกมาให้ประชาชนได้รู้จักเป็นครั้งแรกในปี 2478 มีเป้าหมาย คือเพื่อนำมาวิ่งในเส้นทางภายในประเทศ หัวรถจักรรุ่นนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเรื่อยมาจน พ.ศ.2485 รวมแล้วมีหัวรถจักรรุ่นนี้อยู่ถึง 165 คัน

"หัวรถจักรพวกนี้มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า เจ้าม้าเล็ก (Pony) เพราะหัวรถจักรมีขนาดเล็ก ใครที่ได้สัมผัสหัวรถจักรรุ่นนี้ชื่นชอบกันทั้งนั้น" ฮาซาฮาระ ว่า

อาซาฮาระ บอกว่า จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หัวรถจักร C-56 จำนวนกว่า 90 คันถูกส่งไปยังประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ระหว่างปี พ.ศ.2484-2485 ภายหลังหัวรถจักรซี 56 ได้นำไปใช้ในเส้นทางรถไฟไทย-พม่า (ตามคำสั่งนายพลโตโจ) ซึ่งต่อมากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์


จนวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2488 ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ฝ่ายพันธมิตร ในต้นปี 2489 กองทหารอังกฤษได้รื้อทางรถไฟในเขตพม่าออก 30 กิโลเมตร และรื้อทางรถไฟในเขตไทยออก 6 กิโลเมตร ทำให้ทางรถไฟสายนี้หมดสภาพการใช้งานไป

ต่อมาทางรัฐบาลไทยได้ขอซื้อทางรถไฟสายนี้และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจากรัฐบาลอังกฤษในปลายปี 2489 ในราคา 1,250,000 ปอนด์ แล้วบูรณะซ่อมแซมจนสามารถเดินรถได้บางส่วนในปัจจุบัน

ส่วนหัวรถจักรไอน้ำก็ยังใช้งานอยู่ในกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย บางส่วนอยู่ในประเทศพม่า

สำหรับประเทศญี่ปุ่น ยังคงมีหัวรถจักรไอน้ำรุ่น C-56 เหลืออยู่ประมาณ 70 คัน ซึ่งทั้งหมดจบหน้าที่ของตัวเองลงในปี พ.ศ.2516

แม้สงครามโลกครั้งที่ 2 จะจบสิ้นลงแล้ว แต่หัวรถจักร 46 คันก็ยังคงใช้วิ่งในเส้นทางรถไฟของประเทศไทย ขณะที่หัวรถจักรรุ่นเดียวกันนี้คันอื่นๆ ยังคงอยู่ในซากาเลียน (แถบไซบีเรีย - น่าจะเป็นเกาะซาการินซึ่งญี่ปุ่นเคยครอบครองไปครึ่งเกาะมากกว่า) และพม่า

จนกระทั่งช่วงปี 2520 ประเทศไทยได้ปลดระวางการใช้งานหัวรถจักรรุ่น C-56 ลง บางส่วนอยู่ในประเทศไทย มีเพียง 2 คันที่ญี่ปุ่นซื้อกลับไป คือ C-56-31 ซึ่งขณะนี้จัดแสดงอยู่ในบริเวณศาลเจ้าแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ขณะที่อีกคัน คือ C-56-44

เส้นทางกลับสู่มาตุภูมิของ C-56-44 นั้น นำลงเรือที่ท่าเทียบเรือกรุงเทพฯ แล้วไปเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือเมืองโยโกฮาม่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2522

จากนั้น C-56-44 ถูกส่งต่อไปยังการรถไฟโออิกาว่า เพื่อรับการบูรณะฟื้นฟูเพื่อจัดทำเป็นอนุสรณ์สถานความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น

"C-56-44" เริ่มต้นหน้าที่ของมันอีกครั้งตั้งแต่เดือนมกราคม 2523 ในเส้นทางรถไฟโออิกาว่า ซึ่งประชาชนญี่ปุ่นต่างดีใจมากที่เมื่อหัวรถจักรผ่านการซ่อมแซมแล้วสามารถใช้งานได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหม้อน้ำของหัวรถจักรเกิดเสื่อมขึ้นมา ในที่สุดการทางรถไฟโออิกาว่าจึงตัดสินใจหยุดซ่อมบำรุง C-56-44 ในปี พ.ศ.2546 ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย

หลังหยุดการซ่อมบำรุง ก็มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ทำการซ่อมบำรุงหัวรถจักร C-56-44 อีก ดังนั้น การทางรถไฟโออิกาว่าจึงเริ่มซ่อมบำรุงหัวรถจักร และกำหนดเปิดตัวในวันที่ 7 ตุลาคม 2550

เจ้าหน้าที่พาชาวคณะไปยังส่วนที่กำลังซ่อมแซมหัวรถจักร ที่อดีตเคยปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย เพื่อดูความคืบหน้า

หัวรถจักรสีดำตัดกับสีเขียวดูเด่นสะดุดตาอย่างมาก ความคลาสสิคของรูปแบบหัวรถจักรรุ่นนี้ทำเอาชาวคณะรุ่นใหญ่พากันรำลึกความหลังครั้งหนุ่มสาวกันอย่างสนุกสนาน

C-56-44 ในวันที่กลับสู่มาตุภูมิ ยังคงมีตัวอักษร ร.ฟ.ท. เห็นเด่นชัดอยู่ด้านข้างเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

"ปีนี้เป็นที่ครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นกับไทย เราหวังว่าความสัมพันธ์นี้จะยังคงดำเนินไปด้วยดีดังที่เคยเป็นมา" อากิร่า ไซราอิ อดีตเจ้าหน้าที่รถไฟที่เป็นคนไปรับหัวรถจักรไอน้ำ C-56 จากประเทศไทยกล่าวขึ้น

อากิร่า บอกว่า ในตอนแรกสภาพที่นำกลับมานั้นมีสภาพเป็นโครงเหล็กที่ใช้การไม่ได้แล้ว แต่เจ้าหัวรถจักรนี้ได้ถูกปลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

"เราใช้งบประมาณซ่อมแซมประมาณ 8 ล้านบาท ใช้เวลาครึ่งปี แม้แต่ยุโรปเองก็ยังตกใจว่าทำไมเร็วมาก ทั้งที่เราต้องเปลี่ยนรางด้วย เพราะใช้ไม่เหมือนกัน

"เรากำลังรีฟอร์มหัวรถจักรคันนี้ ทำบริเวณนี้โปรโมตการท่องเที่ยวเชิญชวนคนมาดูรถสมัยสงครามโลก ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น สำหรับคนญี่ปุ่นเองสนใจมาก และดีใจที่ได้นั่งได้เห็นรถคันนี้ รถไฟที่นำกลับมา เราไม่ได้เอาไว้เพื่อการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่อยากจารึกเป็นประวัติศาสตร์ให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นได้เรียนรู้ด้วย" อากิร่าอธิบาย

อากิร่า บอกอีกว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า ชิสึโอกะ จะมีสนามบินใหม่ซึ่งคิดว่าหัวรถจักรคันนี้จะนำไปจอดโชว์ที่สนามบิน เพราะถือเป็นความภูมิใจของชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ

แม้จะเป็นเพียงวัตถุ แต่ "หัวรถจักรไอน้ำ" คือสิ่งที่ยืนยันถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลกจากมือของมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่ผ่านห้างกาลเวลามาอย่างยาวนาน ทั้งเลือดและน้ำตา

ขณะเดียวกัน "หัวรถจักรไอน้ำ" ก็คือความรักความผูกพันของคนญี่ปุ่นกับรถไฟ และยิ่งไปกว่านั้นคือ สันติภาพ และมิตรภาพ ที่มั่นคง ยืนยาวมาถึง 120 ปี

// ------------------------------------------------------------------------------------
คุณก้องน่าจะหาทางให้ ส. ธนบุรีติดต่อกะโรงงานโออิกาว่า ได้แล้วน่อ Embarassed Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2007 1:19 pm    Post subject: Reply with quote

กรณีกบฏบวรเดชนี้เอง ที่ทำให้รัฐบาลสมัยนั้นต้องออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ทำถนน ประชาธิปัตย์ (ถนนพหลโยธิน) ช่วง กรุงเทพ (แยกสนามเป้า ซึ่งกลายเปน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ถึงดอนเมือง (ปากทาง จันทรุเบกษา) และ ถนนกรุงเทพ - สมุทรปราการ (ถนนสุขุมวิท) จากปลายถนนเพลินจิต ถึงสมุทรปราการ สำเร็จเปิดใช้งานปี 2479
Back to top
View user's profile Send private message
LinkinTua
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 15/07/2007
Posts: 21
Location: 245/68 บ้านพักรถไฟตึกแดง

PostPosted: 30/12/2007 6:47 am    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีคัรบ ^^"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
heerchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/07/2006
Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

PostPosted: 30/12/2007 7:21 am    Post subject: Reply with quote

ผมขอรบกวนผู้รู้ว่า การรถไฟมีรถจักรไอน้ำ เหลือใช้งานได้ดีกี่คัน Smile
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3
Page 3 of 3

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©