อำลาเมืองดอกบัว แล้วพบกันใหม่

[palm_gea]

[Dew_GEA]

นั่งรถด้วยมาตั่งแต่กรุงเทพแล้วครับ. . .ก็. . .ขอกลับด้วยอีกก็แล้วกัน
รอชมอยู่ครับผม. . .

[sittipon]

[quote="rimura"]ใครที่ใช้บริการ บนท.ของขบวน 139 และ 140 ก็จะได้บรรยากาศแห่งการนอนไป ฟังเสียงรถจักรไปด้วย เพราะทั้ง 2 ขบวนนี้รถ บนท.จะไปอยู่ตอนหน้าของขบวนครับ แล้วถ้าเป็นรถจักรอัลสธอมด้วยนี่ ไม่ต้องบรรยายเลย

อันนี้เห็นด้วยครับ เพราะผมเองเคยซื้อตั๋วเป็นคู้นอนธรรมดา แล้วนอนเตียงบน แล้วก็เป็นโบกี้ที่อยู่ติดกับรถจักรอัลสธอมด้วย เสียงไม่ค่อยดังเท่าไหร่ อาจเป็นไปได้ว่า โดยสารช่วง อุบล - โคราช ซึ่งเป็นทางราบปกติ ไม่มีทางขึ้นเขาแต่อย่างใด เสียงจึงไม่กระหึ่มเท่าไหร่
แต่เรื่องควันไอเสียนี่ เต็มๆ ครับ โดยเฉพาะนอนเตียงบน จะมีช่องลมเปิดปิดได้ ถ้าไม่เปิดเลย ก็ค่อนข้างจะร้อน พอเปิด ก็รับไอเสียรถจักรมาเต็ม ๆ ส่วนลมจากพัดลมนั้น แทบไม่ได้รับเลยครับ เพราะว่า นอนอยู่ข้างๆ พัดลมเลย แต่ถ้าเทียบกับตู้นอนแอร์นี่ ผมว่าเตียงบนค่อนข้าวหนาวทีเดียว เพราะลมช่องแอร์จะตกบริเวณที่นอนเลย

[rimura]

[rimura]

กลับมาเดินทางด้วยกันต่อครับ, ขออภัยที่กลับมาลงช้าไปหน่อย ก็คิดว่าคงจะใช้เวลาสัก 2-3 วันจากนี้ถึงจะลงหมด เพราะดันมีงานเอกสารเข้ามาเผาผลาญเวลาพักผ่อนไปด้วยอ่ะครับ

หลังจากที่ GEA 4529 บึ่งออกจากสถานีอุบลราชธานีออกมา ผ่านสถานีบุ่งหวาย ก็จะมาหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่นี่เป็นสถานีแรกครับ สถานีห้วยขยุง....



รถ บซล.TPI ครับ

[rimura]

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 ยังคงคู่ขนานแนวทางรถไฟมาตลอดตั้งแต่อุบลราชธานีจนถึงนครราชสีมา ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่สร้างขึ้นมาแยกจากทางหลวงหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพ เป็นเส้นที่วิ่งผ่านตัวจังหวัดในแถบอีสานใต้ สมัยก่อนทางเส้นนี้ทำให้ผู้ที่จะมา จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงที่มาจากกรุงเทพฯมาได้เร็วขึ้น ไม่ต้องไปอ้อมถึง จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ก่อนจะถึงอุบลฯ จนในสมัยต่อมา ก็มีทางหลวงหมายเลข 24 (สีคิ้ว - ปักธงชัย - เดชอุดม) ซึ่งเป็นเส้นล่างเลี่ยงไม่เข้าตัวจังหวัดขนานยาวไปกับชายแดนไทย - กัมพูชา หรือถ้าง่ายๆก็คือ เส้นทางสายใหม่ที่รถโดยสารนครชัยแอร์หรือรถ บขส. อุบลฯสาย 98 ใช้วิ่งอยู่นั่นเอง ซึ่งทำให้ใช้เวลาถึง จ.อุบลฯ ได้น้อยลงไปอีก เพราะวิ่งไม่ต้องผ่านตัวเมือง แต่ถึงอย่างไรก็ดี ทางหลวง 226 สายนี้ก็ยังมีความสำคัญมาก เพราะเป็นเส้นทางวิ่งระหว่างเมือง และรถยนต์โดยสารสายอีสานใต้ส่วนมากก็ใช้เส้นทางนี้....



ทางหลวงหมายเลข 226 ตัดข้ามผ่านทางรถไฟกลับไปกลับมาเป็นระยะๆครับ



แล้วเราก็มาถึงสถานีกันทรารมย์ สถานที่ๆมีไก่ย่างอันลือชื่อและข้าวเหนียวนึ่งห่อใบตองกุงอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

[rimura]

สถานีบ้านคล้อครับ ขบวน 146 ก็ยังหยุดจอดที่สถานีนี้ ก็อย่างที่ทราบกันล่ะครับ ว่าขบวน 146 นี้เป็นขบวนรถเร็วที่ปรับศักย์มาจากขบวนรถธรรมดา จึงยังคงมีการจอดตามสถานีรายทางมากกว่าขบวนรถเร็วอื่นๆ อย่างขบวน 136 เพื่อเป็นการบริการเชิงสังคม และเป็นการช่วยแบ่งเบาผู้โดยสารจากขบวน 136 ด้วยครับ



แล้วผมก็ไม่ลืมที่จะซื้อเสบียงมายังชีพเป็นมื้อเช้าด้วย นี่ไงครับ.... ไก่ย่างกันทรารมย์ แต่ครั้งนี้ไร้วี่แววของข้าวเหนียวห่อใบตองกุง และเครื่องในย่างเป็นไม้ๆของโปรดของผมครับ....

[rimura]

อิ่มอร่อยกับไก่ย่างไปแล้ว ผมก็กลับมาเก็บภาพกันต่อ ขณะนี้ ก็ใกล้จะถึงสถานีศรีสะเกษกันแล้วล่ะครับ....



เสาสัญญาณหางปลาของสถานีศรีสะเกษครับ อยู่ในท่าอนุญาตให้เข้าทางประธานด้วยพิกัดความเร็วไม่เกิน 105 กม./ชม.



ทางตัดผ่านเสมอระดับ ใกล้กับตลาดสดริมทางรถไฟ ซึ่งจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของขบวนรถครับ



สถานีศรีสะเกษ

[sprinter]

ถ้าจะให้นั่นขบวนนี้จากอุบลกลับกรุงเทพจริง ผมขอตายเสียดีกว่า ความอดทนของผมมีไม่มากถึงขนาดที่จะนั่งรถพัดลมจากอุบลกลับกรุงเทพ หรือจากกรุงเทพไปอุบลหรอกครับ ขนาดนั่งข.261 จากกรุงเทพไปหัวหิน ก็ร้อนแทบตายอยู่แล้ว ยิ่งนั่งทั้งขาไปขากลับด้วย จะเป็นลมตายเอา ผมยอมเสียตังแพงกว่าเดิมให้ได้นั่งรถปรับอากาศดีกว่า แต่ถึงยังไงก็ขอนับถือในความอดทนของคุณ rimura เลยจริงๆครับ ที่สามารถนั่งรถพัดลมจากอุบลกลับกรุงเทพ ระยะทาง 500 กว่ากิโลภายใต้อุณหภูมิของอากาศภายในและภายนอกรถที่ไม่ต้องพูดถึงว่าจะร้อนดุจนรกขนาดไหนได้ พูดตามตรงครับ ภายในตู้โดยสารธรรมดา มีพัดลมก็เหมือนไม่มีแหละครับ มันช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

[rimura]