View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Guitar
1st Class Pass (Air)
Joined: 11/10/2007 Posts: 1057
Location: บุรีรัมย์ - นครราชสีมา
|
Posted: 16/02/2008 10:11 pm Post subject: |
|
|
ผมเก็บบัตรประจำตัวนักเรียน วรฟ. ของพ่อไว้ครับ (รุ่น 43) เรามาดูกันเลยครับ
ด้านหน้า
ด้านหลัง
ปัจจุบันพ่อได้เปลี่ยนชื่อเป็น นายอานนท์ จันทร์ตรี แล้วครับ ปัจจุบันเป็น พนักงานขับรถแขวงรถจักรนครราชสีมาครับ |
|
Back to top |
|
|
alderwood
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 16/02/2008 11:01 pm Post subject: |
|
|
nirakan wrote: |
ปล. อ. ตุ้ยครับ ซิ่วไปเรียน วรฟ. กับผมไหมครับ ผมกำลังหาคนซิ่วไปด้วยกันอยู่ |
พี่ก็อยากอยู่ คิดช้าเกินไป ตอนนี้ประสบปัญหาหน้าแก่เกิน อายุเกินอีก เฮ้อ _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
|
|
Back to top |
|
|
Guitar
1st Class Pass (Air)
Joined: 11/10/2007 Posts: 1057
Location: บุรีรัมย์ - นครราชสีมา
|
Posted: 16/02/2008 11:51 pm Post subject: |
|
|
nirakan wrote: | เอ๋ น้องปุ๊น พ่อน้องปุ๊นก็รุ่นเดียวกับอาโกวิท (ช. โกวิท) สิเนี่ย วรฟ. 43 |
ใช่ล่ะครับ รุ่น 43 ใช่เลย รุ่นเดียวกันแน่นอน ว่าแต่อาโกวิทจะรู้จักพ่อปู้นรึเปล่าน้อ |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 17/02/2008 2:43 am Post subject: |
|
|
เห็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆอยากเข้ามาเรียนที่ วรฟ.กันมาก ก็เลยมีลิงค์เว็ปของ รร. วรฟ. มาฝากครับ
http://www.thai-school.net/railway/
จะเห็นว่ามีผมอยู่ในนั้นด้วย ชื่อภูวดล ครพิรุณ นะครับ วรฟ.ชก.45 เลขประจำตัว 5111 ครับ |
|
Back to top |
|
|
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2006 Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT
|
Posted: 17/02/2008 3:15 am Post subject: |
|
|
เท่าที่ดูรู้จักอยู่ 3 คน
พี่หลวง วรฟ.ชก.45 พรจ.6 สรพ.ปพ.
พี่โอ้ วรฟ.ดร.50 พดร.5 ช.นสน.ผู้แทนที่ มก.
พี่เชษ วรฟ.ดร.51 พดร.4 เสมียน นว. _________________ The Guardian of Rotfaithai.Com |
|
Back to top |
|
|
mahachai_drc
VIP Member
Joined: 06/11/2006 Posts: 758
Location: เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์
|
Posted: 17/02/2008 10:23 am Post subject: |
|
|
KTTA-50-L wrote: | แล้ว วรฟ.รุ่นที่ 1 คนที่ 1 ชื่ออะไรครับ |
พอดีไปเจอในเว็บนี้มา
http://110.osknetwork.com/modules.php?name=News&file=article&sid=2545
"ครูชาลีเกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 ตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรของ นายหลี นางเงาะ อินทรวิจิตร เป็นพี่คนโตในพี่น้องทั้งหมด 3 คน (ก่อน สุวัฒน์ วรดิลก เพียง 8 วัน) เข้าเรียน ชั้นประถมปีที่ 1 - 4 ที่โรงเรียนพร้อมวิทยามูล ข้างสนามมวยราชดำเนิน แล้วไปต่อที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร จนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 แล้วเข้าเรียนต่อที่ โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ รุ่น 1 เป็นรุ่นเดียวกันกับ เล็ก โตปาน
"
ส่วนคนแรกชื่ออะไรนั้นต้องขอข้อมูลจากท่านอื่นครับ
Guitar wrote: | nirakan wrote: | เอ๋ น้องปุ๊น พ่อน้องปุ๊นก็รุ่นเดียวกับอาโกวิท (ช. โกวิท) สิเนี่ย วรฟ. 43 |
ใช่ล่ะครับ รุ่น 43 ใช่เลย รุ่นเดียวกันแน่นอน ว่าแต่อาโกวิทจะรู้จักพ่อปู้นรึเปล่าน้อ |
รุ่นผม ฝ่ายช่างกล มี 5 ห้อง 300 คน อยู่คนละห้องจำไม่ได้เหมือนกัน ต้องขออภัยนะ...
ข่าวรฟท.จากหนังสือพิมพ์
Wisarut wrote: |
หน้า 2
......
โรงเรียนรถไฟ ปู๊น ปู๊น ...
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3928 (3128)
เชื่อหรือไม่ว่า ส่วนหนึ่งของพนักงานการรถไฟไทยคือ ผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดจากโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ โรงเรียนรถไฟหลังเล็กๆ ที่ผลิตนักเรียนรถไฟขึ้นสู่วิชาชีพรุ่นแล้วรุ่นเล่า
จากปี 2483 อันเป็นปีที่เริ่มก่อสร้างโรงเรียนแห่งนี้จนถึงปี 2544 มีจำนวนนักเรียนที่จบจากรั้วโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟแห่งนี้แล้ว 6,135 คน
โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ เป็นโรงเรียนเพาะช่างขนาดเล็ก ไม่ใหญ่โตเหมือนโรงเรียนเพาะช่างอื่นๆ นั่นเพราะสถาบันแห่งนี้เปิดสอนเฉพาะแผนกการช่างกล แผนกช่างโยธา และแผนกการเดินรถ แต่ละปีมีจำนวนนักเรียนไม่เกิน 200 คน เฉลี่ยห้องหนึ่งมีนักเรียนไม่เกิน 30 คน
นักเรียนส่วนใหญ่ที่จบจากโรงเรียนนี้จะถูกส่งเข้าบรรจุทำงานในแต่ละฝ่ายของการรถไฟฯทันที พูดง่ายๆ ก็คือ โรงเรียนแห่งนี้ทำหน้าที่ผลิตบุคลากรให้ตรงตามความต้องการของฝ่ายหรือหน่วยงานในการรถไฟฯนั่นเอง ซึ่งไม่สามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป
แต่ที่โรงเรียนวิศวกรรมไฟฟ้าพิเศษกว่าโรงเรียนช่างอื่นๆ ก็คือ แบบฟอร์มชุดนักเรียนจะคล้ายชุดนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ไม่ได้ใส่เสื้อช็อปเหมือนนักเรียนโรงเรียนช่างอื่นๆ ที่สำคัญมีการฝึกระเบียบวินัยให้นักเรียนอย่างเคร่งครัด ขณะที่สายใยระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องเหนียวแน่นไม่แพ้โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนเตรียมทหาร หรือโรงเรียนเหล่าต่างๆ
จึงไม่แปลกที่นักเรียนที่จบจากรั้วโรงเรียนรถไฟแห่งนี้ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกภูมิใจในเกียรติภูมิแห่งโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟแห่งนี้
ขณะที่อาจารย์ประจำโรงเรียนทุกคน ก็อดภูมิใจไปกับลูกศิษย์ที่จบออกไปด้วยไม่ได้
"บัญชี บุญยจันทรานนท์" อาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟคนปัจจุบัน เล่าว่า สิ่งที่เราใส่ใจนอกเหนือจากการผลิตนักเรียนป้อนให้หน่วยงานการรถไฟฯก็คือ การใส่ระเบียบฝึกวินัยให้นักเรียนเหมือนทหาร ตำรวจ ทำให้เขาแตกต่างจากโรงเรียนอาชีวะทั่วไป เพื่อให้เขาภูมิใจในเครื่องแบบของเขา เขาก็จะเนี้ยบไปในตัว ตัดผมเกรียนเหมือนทหาร เวลาใส่หมวกก็จะดูสวย ไม่หล่อแบบจิ๊กโก๋
ปัจจุบันโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ตั้งอยู่หลังสวนวชิรเบญจทัศ หรือ "สวนรถไฟ" สวนสาธารณะใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ โรงเรียนแห่งนี้ถูกเปิดประตูขึ้นอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ถูกปิดตัวลงเพราะพิษเศรษฐกิจถึง 2 ครั้ง 2 ครา คือในปี 2529 และ 2545
อาจารย์ใหญ่ลงบันทึกอย่างละเอียดว่า แรกเริ่มโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟเรียกว่า "กองการศึกษาและฝึกอบรมรถไฟ" อาคารแห่งแรกตั้งอยู่แถวมักกะสัน ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงและย้ายมาสู่หลังสวนรถไฟตั้งแต่ปี 2529 จนถึงปัจจุบัน
ปีนี้โรงเรียนรถไฟเปิดรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษา ปวช.เข้ารับการศึกษา 2 ปี ในหลักสูตร ปวส. เรียน 2 ปี ฝึกงาน 6 เดือน มีนักเรียนทั้งหมด 172 คน มีห้องนั่งเรียน 4 ห้องเรียน ในส่วนหลักสูตร มีวิชาบังคับทั่วไปตามที่วุฒิ ปวส.ที่นักเรียนรถไฟต้องเรียน คือ วิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยอาจารย์ผู้สอนส่วนใหญ่มาจากวิทยาลัยราชมงคลช่างกลปทุมวัน หรือจักรพงษ์
ส่วนหลักสูตรเฉพาะที่นักเรียนทุกคนต้อง เรียนและเป็นหัวใจของหลักสูตรที่นี่ก็คือ หลักสูตร "ข้อบังคับการเดินรถ" 334 ข้อ
จากการสำรวจพบว่าเส้นทางบันไดดารา ของนักเรียนโรงเรียนรถไฟไม่ยุ่งยากหรือต้องแข่งขันกันเหมือนเด็กนักเรียนโรงเรียนกวดวิชา เด็กที่เข้ามาเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นลูกพนักงานการรถไฟฯครึ่งหนึ่ง ที่มีความใฝ่ฝัน อยากรับราชการเหมือนคุณพ่อ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นเด็กที่อยากเข้าทำงานการรถไฟฯตั้งแต่เด็ก เพราะมีความฝันวัยเด็กว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องขับรถไฟให้ได้
เมื่อเข้าไปในห้องเรียนจะพบว่าบรรยากาศการเรียนการสอนส่วนใหญ่ไม่แตกต่างจากโรงเรียนทั่วๆ ไป แต่ที่น่าสนใจและยึดถือปฏิบัติกันมาช้านานคือ วิธีสอนจะเป็นลักษณะการเล่าประสบการณ์ให้นักเรียนฟัง เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่ที่นี่เคยจบจากโรงเรียนรถไฟแห่งนี้มาก่อน อาจารย์หลายคนเป็นศิษย์เก่าวิศวกรรมรถไฟ เรียนจบก็เข้าทำงานอยู่ที่การรถไฟฯ เมื่อมีนักเรียนมาสมัคร ก็อาสามาสอนเพื่อถ่ายทอดวิชาให้นักเรียนรุ่นน้องเป็นทอดๆ
อาจารย์ที่เป็นศิษย์เก่า เป็นรุ่นพี่ ทุกปีก็จะมีการจัดงานคืนสู่เหย้า หาเงินมาซื้อของเข้าโรงเรียน บางคนอยู่ต่างจังหวัดก็หิ้วขนม หรือผลไม้ มาฝากอาจารย์ ฝากรุ่นน้อง
ซึ่งอาจารย์ใหญ่มาเฉลยทีหลังว่า เคล็ดลับความสำเร็จของการเรียนการสอนที่นี่ก็คือ ประสบการณ์จากรุ่นพี่สู่น้องนั่นเอง เพราะเด็กนักเรียนจะไม่ชอบจำจากตำราเรียน แต่จะจำจากที่อาจารย์หรือรุ่นพี่เล่าประสบการณ์จริงจากการทำงานให้ฟังมากกว่า
ศิษย์เก่าสายช่างกลรุ่น 55 คนหนึ่งเล่าว่า ผมมีแรงบันดาลใจตั้งแต่เด็กว่าอยากขับรถไฟ ยังจำได้ว่าวันแรกที่เข้าโรงเรียนผมตื่นเต้นมาก เพราะมีเพื่อนมาจากทั่วประเทศ
ปัจจุบัน ศิษย์เก่าโรงเรียนรถไฟผู้นี้ทำงานอยู่ที่สถานีบางซื่อ ตำแหน่งพนักงานรถจักรระดับ 5 ที่สถานีบางซื่อ หน้าที่หลักของเขาก็คือ ตรวจเตรียมความพร้อมเครื่องยนต์ก่อนรถจะออกเดินทาง
เขาบอกว่า บรรยากาศการทำงานจริงไม่ต่างจากในโรงเรียน เพราะที่ทำงานก็คือรุ่นพี่จาก โรงเรียนเดียวกันนั่นเอง ไม่เหมือนทำงานกับเจ้านาย แต่เหมือนไปเจอรุ่นพี่รุ่นน้อง วันแรกที่รุ่นพี่ที่ทำงานให้ขับรถไฟส่งสินค้าจากเพชรบุรีไปประจวบฯ รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เขาก็แนะนำเราอย่างดี
นักเรียนแผนกการเดินรถวัย 18 ปีคนหนึ่ง บอกว่า ผมชอบ (ครับ) แล้วผมก็อยากทำงานรถไฟเหมือนพ่อ จบไปก็มีงานทำ คือคิดว่าจะมีสักกี่คนที่เรียนจบที่นี่แล้วก็จะได้ขับรถไฟ
เพื่อนอีกคนสำทับว่า ส่วนตัวชอบรถไฟครับ และคิดว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่ตอนแรกก็ถอดใจเพราะเขาปิดมาหลายปี พอได้ยินว่าเขาเปิดก็ มาสมัครทันที จบมาอยากเป็นช่างเครื่อง หรืออยากขับรถไฟก็ได้ครับ
นอกจากหลักสูตรในตำราเรียน ยังพบว่าในรั้วโรงเรียนรถไฟมีห้องทดลองฝึกงานจริงให้นักเรียนฝึกภาคปฏิบัติ เช่น ห้องเครื่องทดลองขับรถหัวจักรจริง หรือที่เรียกว่า "driving simulator" ซึ่ง นักเรียนส่วนใหญ่จะได้ลงเรียนตอนปี 2
อาจารย์ผู้ควบคุมห้อง บอกว่า ในห้องทดลองขับจะเซตคอมพิวเตอร์ให้เหมือนสถานการณ์จริง ให้นักเรียนตัดสินใจเองเหมือนเจอเหตุการณ์บนรางรถไฟจริงๆ นอกจากนี้พนักงานขับรถที่เรียนจบไปแล้ว หรือพนักงานช่างเครื่องที่จะมาสอบเป็นพนักงานขับรถ ก็มาฝึกลองขับได้ที่นี่
ในช่วงปิดเทอม นักเรียนส่วนใหญ่จะถูกส่งไปฝึกงานจริงที่โรงฝึกบางซื่อและโรงฝึกมักกะสัน เพราะทั้ง 2 แห่งมีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า
อาจารย์ใหญ่บอกว่า ในอนาคตอาจเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดหลักสูตรให้กว้างและครอบคลุมสายงานมากกว่านี้ เช่น มีหลักสูตรด้านไฟฟ้าเพื่อผลิตนักเรียนป้อนสู่ระบบทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟใต้ดิน
ข้อเสนอสร้างสรรค์ของอาจารย์ใหญ่ อาจเป็นประโยชน์ต่อระบบรถไฟในประเทศไทยทั้งระบบก็เป็นได้ ไม่มากก็น้อย
หน้า 52 |
|
|
Back to top |
|
|
palm_gea
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 1321
Location: ธ.ก.ส.
|
Posted: 17/02/2008 8:04 pm Post subject: |
|
|
Guitar wrote: | ผมเก็บบัตรประจำตัวนักเรียน วรฟ. ของพ่อไว้ครับ (รุ่น 43) เรามาดูกันเลยครับ
ด้านหน้า
ด้านหลัง
ปัจจุบันพ่อได้เปลี่ยนชื่อเป็น นายอานนท์ จันทร์ตรี แล้วครับ ปัจจุบันเป็น พนักงานขับรถแขวงรถจักรนครราชสีมาครับ |
พ่ออานนท์ตอนหนุ่มๆหล่อไม่เบาเลย คุณลูกชายอย่ายอมแพ้พ่อสิ _________________
|
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 18/02/2008 3:41 am Post subject: |
|
|
รายชื่อนักเรียนเก่าวิศวกรรมรถไฟ ตั้งแต่รุ่นที่ ๑ เลขประจำตัว ชื่อ-สกุล รุ่น แผนก ปีการศึกษา
1 นายสำราญ สักกวัตร 1 การช่างกล 2483
2 นายวิษณณัย เสนีวงศ์ ณ อยุธยา 1 การช่างกล 2483
3 นายสนิท มีนิล 1 การช่างกล 2483
4 นายอำนวย สุวรรณปาล 1 การช่างกล 2483
5 นายชุศิลป์ เหมะรัชตะ 1 การช่างกล 2483
6 นายสนั่น ปัญญาลักษณ์ 1 การช่างกล 2483
7 นายประยูร อัมรานนท์ 1 การช่างกล 2483
8 นายปรีชา ศิวโกเศศ 1 การช่างกล 2483
9 นายปิ่นศรี สังขะสมิต 1 การช่างกล 2483
10 นายจิตรเสน อัคนิทัต 1 การช่างกล 2483
เอารายชื่อนักเรียน วรฟ. แค่10 คนแรกก่อนนะครับ |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 18/02/2008 7:27 am Post subject: |
|
|
เลขประจำตัว144 ชื่อ..นายเล็ก โตปาน รุ่น..1 แผนก...การเดินรถ ปีพ.ศ.2483
ข้อมูลของนายเล็กโตปานครับ แต่ครูชาลีผมไม่แน่ใจครับ ผมพยายามหาแต่ไม่เจอชื่อของท่านครับ |
|
Back to top |
|
|
mahachai_drc
VIP Member
Joined: 06/11/2006 Posts: 758
Location: เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์
|
Posted: 18/02/2008 8:30 am Post subject: |
|
|
เบียร์เอามาจากไหนเนี่ย...สุดยอด
สำหรับครูชาลีไม่แน่ใจนะ เพราะเจอจากเน็ตนั่นแหละ...แต่ชื่อเดิมแกคือ สง่า อินทรวิจิตร เบียร์ลองดูซิมีมั้ย |
|
Back to top |
|
|
|