Project: ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ของหัวลำโพง

[Paniti23]

อยู่ตั้ง ตี 2 แล้วครับท่านผู้ชม ผมดำเนินต่อไม่ไหว ซึ่งเป็นความผิดผมเองที่มาโพสช้า เลยทำให้ทุกอย่างช้าไปด้วยครับ

ตอนนี้ ผมขอต่อลงด้วยเนื้อหาอีกเล็กน้อย แล้วก็นอนแล้วครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับ

๙.๑ ปัจจุบันมีขบวนรถโดยสารเข้าออกสถานีกรุงเทพ ๖๖ ขบวน มีผู้โดยสารรวมทั้งผู้ไปรับไปส่งผู้โดยสารเข้าออกสถานีนี้ประมาณวันละสามหมื่นคน แม้จะได้จัดทางเข้าทางออก และจัดให้ระบายอย่างรวดเร็วไปกับการขนส่งทางถนนของพระนครกรุงเทพ พื้นที่ของสถานีกรุงเทพปัจจุบันก็ไม่เป็นที่เพียงพอสำหรับความสะดวกที่จะให้แก่ผู้โดยสารของการรถไฟ ฯ เอง และในด้านที่ผู้โดยสารต้องการจากกิจการอื่นอีกด้วย เพราะพื้นที่สองข้างของอาคารสถานี ใช้เป็นที่ทำการของกอง และแผนกต่างๆ แม้จะได้พิจารณาจะนำที่ทำงานดังกล่าวไปใช้ในพื้นที่ในชั้นบนของอาคารโรงแรมราชธานี พื้นที่ชั้นล่างทั้งหมด เท่าที่กั้นรั้วเหล็กไว้ระหว่างห้องโถงผู้โดยสารทั่วไป กับบริเวณชานชาลา ก็ไม่พอกับความมุ่งหมายของการรถไฟฯ ที่จะจัดให้แก่ผู้โดยสาร

จำเป็นต้องจัดเพิ่มพื้นที่ขึ้นอีก โดยขยายเลื่อนรั้วเหล็กออกไป จัดโยกย้ายกิจการกอง และแผนกต่างๆ ไปไว้บนชั้นสองของโรงแรมราชธานี และจัดสร้างอาคารสถานีใหม่ผนวกกับอาคารเดิม โดยมุ่งให้พื้นที่ชั้นล่าง และชั้นสองของอาคารใหม่ผนวกนั้น ได้มีพื้นที่ประสานงานอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ผู้โดยสารมากขึ้น

๙.๒ ปัจจุบัน พื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารทั่วไป มีเนื้อที่ ๑,๓๕๐ ตารางเมตร มีอาคารขายตั๋วตั้งอยู่กลางห้องโถง อาคารเล็กขายสิ่งตีพิมพ์ และจำหน่ายตั๋วชานชาลาอยู่สองอาคาร ในแนวรั้วเหล็ก จะได้ยกเลิกอาคารทั้งสามนั้น และขยายพื้นที่เพิ่มเป็น ๒,๗๐๐ ตารางเมตร ผู้โดยสารจะมีการเคลื่อนไหวสะดวกขึ้น โดยเฉพาะในฤดูกาลโดยสาร และในเดือนปิดภาคการศึกษาของโรงเรียนต่างๆ

[Paniti23]

วันนี้ เป็นวันที่ผมเรียกได้ว่า เหนือยใจมากๆ เพราะมาโรงเรียนตามปกติ ปรากฎว่า มีพวกวัยรุ่นมายิงกันตายหน้าโรงเรียน ตายไป 1 ศพ เพราะเมื่อเช้า ยังเห็นมอเตอร์ไซสีแดงจอดอยู่ แล้วก็มีตำรวจยืนอยู่ ( ตอนแรกไม่ได้เอะใจอะไร แต่รู้จากเพื่อนอีกทีว่ามีคนถูกยิงตายหน้าโรงเรียน เห้อ )

แถมงาน หลายงาน ประดังเข้ามา พร้อมกับต้องสอบตรงธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ อีก
หนังสือก็พยายามอ่านเข้าไป จนถึง 2 ทุ่ม ผมกินข้าวแล้วเล่นเน็ตแก้เครียดซักพัก สลบไปเลย

ตื่นมาราว 3 ทุ่ม 35 ได้ วันนี้ ไม่มีอะไรมาก ผมก็แค่บ่นให้ฟังเฉยๆ อย่าอ่านข้อความแล้ว เครียดไปกับผมเลยนะครับ มาสนใจในสิ่งที่เรารักดีกว่า เช่น รถไฟไทย ดีกว่าครับ

วันนี้เรามาดูรูปไปพร้อมกับข้อมูลเสริมเพิ่มเติมกันไปครับ

หลังจากที่พวกเราทำการค้นหาแล้ว ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ไปหาเสบียงเพิ่มเติม ( ก็เราไปตอนพักเที่ยงนี่ ) พวกเราจึงจำเป็นต้องหาเสบียงเพิ่มขึ้นเช่นกัน คณะของพวกผม จึงเดินไปสโมสรรถไฟ ซึ่งมีร้านกับข้าวราคาถูก สะอาด ปริมาณเยอะ อร่อยด้วย ( โดยรวมดีกว่าหัวลำโพง ฟันธง )

จากนั้น หลังจากกินข้าวเสร็จ เราก็เดินเตร็ดเตร่ไปตรงบริเวณห้องสมุดเยาวชนรถไฟ ลองดูรูปภาพก่อนที่เราจะทำการใส่ข้อมูล สาระกันต่อครับ



สั่นกระดิ่งออกรถดีกว่า



นักคิด





เท่ห์ซะไม่มี







เซ็งอยู่อย่าง ไอเพื่อนผม ถ่ายรูปผมออกมา หน้าตาไม่เคยออกมาดีเลย

[Paniti23]

หลังจากที่พวกเราถ่ายภาพกันสะใจแล้ว คณะของผม ก็มุ่งสู่ กองประชาสัมพันธ์ และเรา ก็ต้องนั่งกรอกข้อมูลเพื่อทำการขอข้อมูลว่าพวกเราก็เอาไปใช้ทำอะไรกัน ( จากนั้น เราก็ได้หนังสือที่ น่าสนใจ คือ รวบผลสรุปรวบยอด 72 ปีการรถไฟ ( เล่มหนาปึก ) กับ หนังสือข้อมูลโดยทั่วไป
ของการรถไฟ ( สมุดปกเหลือง ข้างในมีหัวลำโพงน้อยนิด แต่มีข้อมูลทุกอย่างขอกงการรถไฟฯ ทั้งหมด กระทั่งการเดินรถ พร้อมทั้งทางข้ามแบบเครื่อง มีเครื่องขั้น และ ไม่มีเครื่องขั้น พร้อม ทางข้ามที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำขึ้นมาอีกหลายอัน ) เล่มเหลืองเราไม่ได้ใช้ เพราะข้อมูลหัวลำโพงน้อยมาก แต่เล่มเหลือง อยากเอากลับบ้านมาก เพราะข้อมูลเขาแน่นจริงๆ แต่เอาไม่ได้ เพราะเขามีเล่มเดียว

เราลองมาต่อด้วยข้อมูลที่ผมได้มากันต่อครับ

๓.๙.๓ จัดปรับปรุงห้องทำการทางด้านตะวันตก ตลอดจนการสร้างอาคารเพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อทำการเกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋วเป็นภาคๆ การจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า การสำรองที่นั่งนอน มีพื้นที่มากเพียงพอ สะดวก และรวดเร็วแก่ผู้โดยสารทั่วไป

๓.๙.๔ ห้องสุขาผู้โดยสารปัจจุบันมีเพียง ๘ ที่ ในการปรับปรุงใหม่ จะจัดในอาคารสถานีกรุงเทพปัจจุบัน ๒๐ ที่ และอาคารสถานีใหม่ผนวกอีก ๒๔ ที่ แบ่งเป็นสุขาหญิง และชาย ใช้เครื่องสุขภัณฑ์ทันสมัย

การจัดห้องพักผ่อนหญิงชายไว้ทางด้านอาคารสถานีใหม่ผนวกสองห้องๆ หนึ่งมีขนาด ๕ คูณ ๑๕ เมตร

๓.๙.๕ จัดกิจการห้องอาหารที่พื้นที่ชั้นล่างโรงแรมราชธานี โดยปรับปรุงใหม่ และจัดภัตตาคารบนชั้นสองของอาคารสถานีใหม่ผนวก เพื่อให้บริการอาหาร และเครื่องดื่มมีเพียงพอ ราคาย่อมเยาต่อผู้โดยสาร และผู้เกี่ยวข้องกับกิจการสถานีกรุงเทพ

๓.๙.๖ จัดบริการสัมภารผู้โดยสารในประเทศ และต่างประเทศ ให้สะดวกมากกว่าปัจจุบัน

๓.๙.๗ จัดบริการห้องฝากของใหม่ ให้มีพื้นที่รับฝากได้มากขึ้น สะดวก และปลอดภัย

๓.๙.๘ จัดบริการปฐมพยาบาล ให้มีเครื่องมือเครื่องใช้ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

๓.๙.๙ จัดบริการโทรศัพท์สาธารณะมากขึ้น

๓.๙.๑๐ จัดพื้นที่สำรองให้กิจการอื่นๆ ที่จะให้ความสะดวกแก่ผู้โดยสาร อาทิ การแลกเปลื่ยนเงิน การธนาคาร กิจการท่องเที่ยว บริการเสริมสวย บริการขายของที่ระลึก ฯลฯ

๓.๙.๑๑ เหนือเขตรั้วเหล็กที่ได้ขยายเลื่อนออกไป จะมีสะพานเดินเชื่อมระหว่างชั้นสองของโรงแรมราชธานี และอาคารสถานีใหม่ผนวก และจัดกิจการควบคุมของนายสถานีในด้านการเดินรถ ซึ่งจะควบคุมการเข้าออกของขบวนรถต่างๆ ด้วยวิธีที่ทันสมัยอย่างใกล้ชิด

๓.๙.๑๒ ที่บริเวณรั้วเหล็กและสะพานเดินตามความในข้อที่แล้ว จะจัดป้ายแสดงเวลาขบวนรถเข้า - ออก ขบวนรถเข้าตามเวลา ขบวนรถช้า ( จำนวนนาที ) และข้อความต่างๆ ซึ่งผู้โดยสารควรจะทราบ ด้วยวิธีการกระจายเสียงแผ่นภาพ และป้าย ตลอดจนถึงขั้นโทรทัศน์วงจรปิด

[Paniti23]

หลังจากเราได้ข้อมูลมาเรียบร้อย เราก็ได้เริ่มต้นหาเหยื่อ เอ้ย หาคนมาให้ปากคำ เอ้ย มาให้สัมภาษณ์ความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อหัวลำโพงของเราครับ

เรามาดูบทข้อมูลสุดท้ายก่อนเข้าสู่บทสัมภาษณ์อันสุดท้ายครับ

๔.๑ อาคารสถานีกรุงเทพ ตั้งอยู่ในตำบลเหมาะระหว่างบริเวณธุรกิจการค้าใหญ่ ในลักษณะของสถานีใหญ่ของนครหลวงเช่นนี้ ในกิจการรถไฟที่ก้าวหน้าของหลายประเทศ ได้พิจารณาชักจูงกิจการค้าขนาดใหญ่ ขนาดกลาง เข้ามารวมทุนในการก่อสร้างเพิ่มเติม ทำให้เกิดกิจการศูนย์รกิจการค้าขึ้นในชั้นต่างๆ ของตัวอาคารสถานีดังกล่าวนั้น และทำให้กิจการดั่งกล่าวนั้นได้โอกาสหารายได้เพิ่มพูนไปพร้อมกันในโอกาสเดียวกัน

อาคารสถานีกรุงเทพมีลานจอดรถ ลานจราจรที่กว้างขวาง และถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มพื้นที่สำหรับก่อสร้างอาคารจอดรถหลายชั้นไว้ ธุรกิจการค้าต่างๆ ก็จะหมดปัญหาเรื่องการจอดรถ

๔.๒ ปลาย พ.ศ.๒๕๑๑ ผู้ว่าการรถไฟฯ และคณะ เดินทางไปพินิจงานในกิจการรถไฟที่ก้าวหน้าหลายประเทศ และได้สนใจเรื่องการปรับปรุงอาคารสถานีใหญ่ของแต่ละประเทศ จึงเห็นว่าเพื่อความรอบคอบ จำเป็นที่ต้องจัดให้มีการพิจารณาการอกแบบของอาคารสถานีใหม่ผนวกของกรุงเทพ ตลอดจนการใช้ประโยชน์ในแต่ละชั้นเสียใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำเป็นจะต้องแก้ไขแผนผังพื้นที่สองเสียใหม่ทั้งหมด ให้การบริการผู้โดยสารจากกิจการของสถานีได้ประสานติดต่อกันระหว่างอาคารสถานีกรุงเทพปัจจุบัน ที่ปรับปรุงใหม่กับอาคารสถานีใหม่ผนวก และลดจำนวนชั้นของอาคารนี้ลง

๔.๓ ในการปรับปรุงย่านและอาคารสถานีกรุงเทพปัจจุบัน อาคารสถานีใหม่ผนวก ลานจอดรถและจราจรทั้งสามด้านของอาคารสถานีกรุงเทพ ก็ได้เตรียมแผนผังโครงสร้างของสะพานเดินจากอาคารสถานีใหม่ผนวก ไปเชื่อมกับยกสูงริมคลองผดุงกรุงเกษมที่เสนอไว้ในโครงการ จะเชื่อมทางรถไฟสายแม่กลองจากวงเวียนใหญ่ เพื่อออกไปรับกับโครงการขนส่งระบบ Railrapid transit ประสานกับการขนส่งประเภทอื่น ช่วยแก้ไขปัญหาจราจรคับคั่งของนครหลวงกรุงเทพฯ - ธนบุรีกับหน่วยราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอาจมีความล่าช้าบ้าง เพราะต้องพิจารณากันรอบคอบในการลงทุน
แต่การรถไฟฯ ยังคงติดตามผลงานและให้การร่วมมืออย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

มีดูภาพหัวลำโพงอีกรอบกันดีกว่าครับ

[Paniti23]

อ่ะ เกือบมาสู่ บทสรุปบทสุดท้ายแล้วครับ

บทสัมภาษณ์ ของผู้คนที่อยู่ในสถานีหัวลำโพง

นาย สมาน นามสมมุติ หัวหน้าหน่วยงานบริการโดยสาร กองโดยสาร ศูนย์พัฒนาการวิชาการและพัฒนาการขนส่ง ฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย ( ตำแหน่งของเขาเลยครับ )

คณะทำงาน : ขอโทษที่มารบกวนเวลานะครับ เผอิญพวกผมอยากสัมภาษณ์พนักงานของการรถไฟฯ น่ะครับ และพนักงานที่พวกผมเข้าไปสอบถาม ก็แนะนำให้มาหาท่านครับ พวกผมคงไม่ได้มารบกวนอะไรหรอกนะครับ

สมาน : อ้อ ไม่เป็นไรหรอก พวกเรายินดีพร้อมให้บริการประชาชนเสมอ แล้วก่อนจะสัมภาษณ์จะมีอะไรถามหน่อยนะ มาสัมภาษณ์เรื่องอะไรกันครับเนี้ย

คณะทำงาน : พวกผมมาสัมภาษณ์คนที่ทำงานในหัวลำโพง เพื่อจะหาข้อมูลไปทำโครงงานเกี่ยวกับ ตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน ของหัวลำโพงครับ

สมาน : แล้วสาเหตุที่เลือกหัวลำโพงล่ะ

คณะทำงาน : เพราะที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการคมนาคมทางบกแห่งแรกของไทยครับ และยังมี สถาปัตยกรรมที่งดงามด้วยครับ

สมาน : อืม ผมดีใจนะ ที่พวกน้องๆ เลือกหัวลำโพงกัน และพวกน้องนี้คงจะเก่งกันน่าดู อาจาร์ยถึงได้ให้ทำโครงงานกัน และยังให้ออกมาสำรวจสถานที่ด้วยตัวเองอีก

คณะทำงาน : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ

สมาน : อืม พี่คงจะชวนคุยพอแล้ว เดี๋ยวเสียเวลาที่พี่ โครงงานคงจะไม่เสร็จกันพอดี แล้วพวกน้องจะถามอะไรพี่ดีล่ะ

คณะทำงาน : ครับ ขออนุญาตเลยนะครับ ถามว่า พี่ทำงานที่หัวลำโพงมานานกี่ปีแล้วครับ

สมาน : ผมเหรอ ผมทำงานทีนี้มา 10 วันเอง แต่ถ้าทำงานในการรถไฟฯ พี่ทำงานมาถึง 16 ปี แล้วล่ะ โดยเริ่มการเป็นนายสถานีตรี และขึ้นมาประจำฝ่าย ที่ หาดใหญ่ และมาเป็นพนังงานควบคุมการเดินรถ ที่บางซื่อ และเพิ่งย้ายมาประจำการที่หัวลำโพงนี้แหล่ะ

คณะทำงาน : ครับ พี่ทราบไหมครับว่า หัวลำโพงเก่าแก่เท่าไหร่แล้ว

สมาน : ซักประมาณ 85 ปีได้แล้วล่ะ ตอนนั้น หัวลำโพงเริ่มต้นสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนที่รัชกาลที่ 5 ท่านเสด็จสวรรคตไป หัวลำโพงยังเป็นโครงร่างแค่ข้างหน้าเท่านั้น สุดท้าย หัวลำโพงมาสร้างเสร็จในรัชกาลที่ 6 นี้แหละ

คณะทำงาน : แล้วหัวลำโพงในปัจจุบัน แตกต่างจากอดีตยังไงหรือครับ

สมาน : หลายอย่างเลยล่ะ ทั้งการเพิ่มจำนวนชานชาลา การจัดสร้างห้องเก็บตั๋วใหม่ การจัดการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ การจัดรูปแบบร้านค้าใหม่ และล่าสุด มีการเชื่อมสถานีรถไฟใต้ดินเข้ากับตัวสถานีนี้ด้วย

คณะทำงาน : แล้วในการให้บริการประชาชนของหัวลำโพงนั้น มีบริการอะไรบ้างครับ

สมาน : ก็จะมีการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งร้านค้า การเดินรถ รวมทั้งข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวของการรถไฟฯ ด้วยครับ

คณะทำงาน : แล้วคนมาใช้บริการหัวลำโพงเยอะไหมครับ

สมาน : การเดินทางโดยการใช้คมนาคมทั้งหมด มีคนมาใช้ 2 - 3 % และตอนนี้มีคนมาใช้บริการการรถไฟฯ ปีละ 85 ล้านคน โดยหัวลำโพงมีคนใช้ตลอดทั้งปี 40 ล้านคน ต่อปี จากที่ตั้งเป้าไว้ 45 - 47 ล้านคนต่อปี ถึงแม้จะมองว่ามีคนมาใช้เยอะ แต่เนื่องจากรัฐบาลยังให้การรถไฟยังคงอัตราค่าโดยสารมาตลอด 30 ปี ทำให้การปรับปรุงตัวสถานีไปได้ยากพอสมควร

คณะทำงาน : ครับ แล้วตัวอาคารสถานีนี้ล่ะครับ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหมครับ

สมาน : ตอนนี้ ไม่สามารถปรับปรุงตัวอาคารภายนอกได้มากนัก เ พราะทางกรมศิลปากร ได้จดทะเบียนขึ้นเป็นโบราณสถานเรียบร้อย โ ดยถ้าจะทำการปรับปรุงตัวอาคารภายนอก จะต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากรก่อน แต่ถ้าเป็นตัวอาคารภายในสามารถปรับปรุงได้ โ ดยตัวอาคารเนี้ยเราไปเอามาจากเยอรมันมา ซึ่งฝรั่งยังแปลกใจที่เห็นอาคารสถานีของเรานั้นเหมือนกับที่ประเทศของเขาเลย

คณะทำงาน : แล้วชื่อหัวลำโพงมาจากไหนครับ

สมาน : มีหลายสาเหตุนะ แต่คิดมี 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ เกิดจากการเพี้ยนเสียง จาก ทุ่งวัวลำพองมาเป็น หัวลำโพง กับ ลักษณะ คล้ายกะเครื่องลำโพงในสมัยเก่าน่ะครับ โดยตอนนี้มีชื่อทางการ คือ สถานีกรุงเทพ

คณะทำงาน : มีกี่ชานชาลาในหัวลำโพงครับ

สมาน : มีทั้งหมด 12 ชานชาลา และยังมีชานชาลาย่อยๆ ไว้รับรถเพิ่มในกรณีทั้ง 12 ชานชลาเต็ม ตอนนี้เอาไว้ล้างรถตู้โดยสาร ครับ

คณะทำงาน : คิดยังไงกับหัวลำโพง ครับ

สมาน : มีความภาคภูมิใจที่ได้มาควบคุมที่นี้ เพราะเป็นศูนย์การขนส่งหลักของประเทศ และยังมีส่วนช่วยชาติไทย ทั้งการทหารและเศรษฐกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน และที่นี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของรถไฟไทยอีกด้วย

คณะทำงาน : มาถึงคำถามสุดท้ายแล้วครับ อยากให้หัวลำโพงหรือการรถไฟมีอะไรเพิ่มขึ้นหรือเป็นอย่างไรครับ

สมาน : ตอนนี้ ผมอยากให้ทั้งการรถไฟฯ รวมทั้งตัวสถานีแห่งนี้ พัฒนาขึ้นทัดเทียมเท่ากับต่างประเทศ และอยากเพิ่มสิ่งก่อสร้างในบริเวณสถานี และต้องเป็นของที่มีคุณภาพที่ดี ทันสมัย ราคาถูก เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนทีมีมากขึ้น สุดท้าย อยากให้รถไฟทุกตู้ทุกขบวน ติดแอร์ทุกคัน

คณะทำงาน : นั้นเป็นคำถามสุดท้ายแล้วครับ ต้องขอขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่อุตส่าห์สละเวลามาตอบคำถามของพวกเรานะครับ

สมาน : ไม่เป็นไรครับ เพราะหน้าที่ของพวกเราคือการให้บริการประชาชนครับ และในโอกาสหน้า ถ้าจะทำโครงงานเกี่ยวกับหัวลำโพง หรือการรถไฟฯ อีก อ ย่าลืมมาที่นี้นะ อ้อ และอย่าลืมถ้ามีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถไฟ และถ้าผ่านมายังสถานีหัวลำโพง หวังว่าเราคงได้พบกันนะครับ

คณะทำงาน : ทางพวกผมก็เช่นกันครับ


รูปหัวลำโพงส่งท้ายสำหรับ บทสัมภาษณ์ครับ

[Paniti23]

ตอนนี้ เนื้อหาสารtของเรา จบแล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้าน และไปถึงบทสรุปของเราบทสุดท้ายเสียทีครับ

พวกเรา ลองคุยดูแล้ว ตอนนี้ประมาณ 4 โมงครึ่ง กลับ รถเมล์ รถคงติดมหาประลัยแน่เลย พวกผมจึงทำการตัดสินใจว่า มาสถานีรถไฟ ต้องกลับรถไฟสิ พวกผมจึงตกลงใจ เลือกกระโดด รถชานเมือง 383 กรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา กลับบ้าน ระหว่างรอนั้น พวกผมจึงทำการเตร็ดเตร่อีกรอบ
และถ่ายรูปก่อนกลับบ้านครับ

นั่งเก็กครับ ( แต่ผมดูแย่อีกแล้ว )



เมื่อทำการเตร็ดเตร่ในหัวลำโพงครับ














และอีกครั้ง ที่พวกเราขึ้นไปทำการส่งผู้โดยสาร กับขบวนกรุงเทพ - ตรัง และ อาศัยช่องว่างห้องที่คนไม่อยู่ รีบถ่ายและออกมาครับ

ดูสิ เพื่อนผมเก็กท่าซะไม่มี

[Paniti23]

ขึ้นไปรอ บนรถ 383 ครับ









รถออกแล้ว มุ่งหน้ากลับบ้าน แถวที่หยุดรถพญาไทกัน










รูปของเราหมดแค่นี้ เสียดายผมได้ถ่ายพี่ต้อม กับ ป้ายประเพณี ที่หยุดรถพญาไทไว้ด้วย แต่ที่รู้กัน เมมกล้องผมเสีย เลยมีแค่นี้เองครับ

[Paniti23]

มาถึง บทสรุปแล้วครับ

บทสรุปวิเคราะห์ข้อมูล

วิเคราะห์ข้อมูลจากทั้งหนังสือ เว็บไซต์ และจากการสำรวจด้วยตนเอง สรุปได้ว่า หัวลำโพงเป็นจุดเริ่มต้นของการคมนาคมทางไกลครั้งแรกของประเทศไทยนั้น ได้ผ่านช่วงเวลาและการปรับเปลี่ยนไป ทั้งใน ด้านกายภาพ และ ดุลยภาพ โดยหัวลำโพงได้ทำการ ปรับเปลี่ยนชานชาลา ศูนย์อาหาร ร้านค้า ที่จอดรถ ที่ขายตั๋ว เครื่องปรับอากาศ การให้บริการรถเข็นขนของ ที่ขอดรถเมล์ รถแท็กซี่ พร้อมทั้ง สถานีรถไฟใต้ดิน ที่เพิ่มสร้างขึ้นมาใหม่

โดยรวม การที่หัวลำโพงได้ทำการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงไป เพื่อรองรับการเติบโตของกรุงเทพ ที่เริ่มมีประชากรเพิ่มมากขึ้น และประชากรเหล่านั้น ต้องการความเป็นระเบียบ ความสวยงาม ความสะอาด ความปลอดภัย ความสะดวกสบายในการใช้งาน ความรวดเร็ว ซึ่งถ้าหัวลำโพงไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปตั้งแต่สมัยที่สร้างเสร็จ จะทำให้เกิดการแออัดในสถานี และขบวนรถในการให้บริการไม่เพียงพอต่อความต้องการผู้โดยสาร ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

และสุดท้าย ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้คนก็จะเลิกใช้รถไฟ ในการเดินทางและขนส่ง ทั้ง ใกล้ และไกล ถึงแม้ในปัจจุบัน จะมีการปรับปรุงเพิ่มชานชลา ร้านอาหาร ร้านค้า ในปัจจุบัน ก็ยังไม่เพียงพอ จึงทำให้การรถไฟฯ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามโลกาวิวัฒน์ เพื่อต้องการผู้โดยสารได้รับสะดวกสบายมากที่สุดนั้นเองครับ


การสัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานีรถไฟหัวลำโพงถึงการเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จากที่คณะจัดทำโครงงานได้สำรวจหาข้อมูล ข้อสรุป สถานีรถไฟหัวลำโพงตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของหัวลำโพงได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ตั้งแต่สมัยก่อนยังเป็นหัวลำโพงที่ร้อน การบริการไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ประชาชนหลายคนกับมีความคิดเห็นที่ดีต่อ
หัวลำโพง คือ หัวลำโพงมีความสะดวกสบายมากขึ้น มีการติดตั้งแอร์ ปรับปรุงบริเวณที่ขายตั๋ว เก้าอี้นั่งรอขบวนรถ ตารางเวลารถไฟออกระบบไฟฟ้า ฯลฯ นับว่าหัวลำโพงมีความเปลี่ยนแปลงและสวยงามสะดวกสบายมากขึ้น

[Paniti23]

บทส่งท้าย

มาถึงบทส่งท้ายกันแล้ว ครับ นี้คือ บรรณานุกรม เพราะยังไง เราก็ต้องขอบคุณข้อมูลจากทุกแหล่งที่พวกเราได้ไปทำการค้นหามาครับ กระผม น้องไอซ์ เด็กใหม่ หน้าตาสดใสแห่งเว็บ รถไฟไทย
ขอปิด project ตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน ของหวัลำโพง ครับ สวัสดี


บรรณานุกรม

1. จากหนังสือสารคดี ตอน ร้อยปีรถไฟไทย
2. จากหนังสือ Railway of Thailand by r.ramear
3. จากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
4. จากการสอบถามข้อมูลของผู้ที่ทำงานในสถานี
5. จากการสอบถามข้อมูลจากผู้โดยสารที่ได้ใช้งานในสถานีแห่งนี้
6. จากการไปค้นข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลของการรถไฟแห่งประเทศไทย
7. จากการช่วยเหลือ และการให้คำแนะนำจากพี่ๆ ทีมงาน เว็บไซต์ รถไฟไทย


ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้ครับ

[ExtendeD]

อาร์มยังไม่อ่าน แต่พี่อ่านแล้ว

ก็คงไม่วิจารณ์อะไรมาก เพราะคงไม่มีสิทธิ์ แค่น้องเอาผลงานเรื่องราวน่าสนใจมาแบ่งปันให้อ่านก็ดีพอแล้ว บางเรื่องที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ พี่ก็ขอบคุณมากนะ

ตอนพิมพ์เป็นรายงานส่งอาจารย์ ลองกดเช็คไวยากรณ์ดูก่อนก็ดีนะ อย่างที่พี่ ๆ เขาบอกเอาไว้ พิมพ์ผิดเยอะเลย พอสรุปเป็นโครงงานส่งอาจารย์ เขาจะได้อ่านรู้เรื่องอุตส่าห์ลงทุนเป็นเก็บข้อมูลอยู่นาน พิมพ์ผิดเยอะ ๆ แบบนี้อาจจะทำให้ผู้อ่านไม่อยากจะอ่านต่อจนจบก็ได้นะ

เรื่องวัฒนธรรมขององค์กรก็เป็นเรื่องสำคัญ พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนก็เข้ามาแนะนำไปแล้ว พี่คงไม่ไปตอกย้ำอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่อยากจะบอกว่า พอน้องเรียนจบออกไปทำงานตามหน่วยงานต่าง ๆ หากไปล่วงเกินผู้ใหญ่ในองค์กรนั้น ๆ ผลที่ออกมาอาจจะไม่ได้มีแค่นี้นะ

อ้อ... พี่ก็เคยวนเวียน ๆ ผ่านหน้าโรงเรียนศรีอยุธยาบ่อยครั้งเหมือนกัน ตอนที่ยังอยู่ที่บ้านพักมักกะสัน จำได้ว่าปีแรกที่ที่นั่นรับนักเรียนชาย พี่เห็นมีอยู่ไม่กี่คนหรอก ถ้าพี่ได้เป็น 1 ในนักเรียนชายรุ่นแรก คงจะรู้สึกแปลก ๆ แต่พอนานไปอาจจะชิน จนถึงขนาดชอบเลยก็ได้ คิดอะไรอยู่เนี่ย...
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.