แอ่วเหนือ ต้อนรับลมหนาว กับ ข.51

[rimura]

สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆ ชาว RFT ทุกๆท่าน สืบเนื่องจากเมื่อช่วงวันที่ 10 - 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผมและคุณแม่ได้ถือโอกาสหยุดพักผ่อนจากงาน ไปเที่ยวเยี่ยมเยียนพี่สาวและพี่เขยกับหลานตัวน้อยที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยตัดสินใจกันว่าจะไปรถไฟกับ ขบวนรถด่วนยอดฮิตที่ 51 ซึ่งในใจผมเองก็อยากลองสัมผัสบรรยากาศในการเดินทางกับขบวนนี้อยู่เหมือนกันครับ และเมื่อมีโอกาสอย่างนี้ก็ ลุยกันเลย....

ก่อนที่เราจะเริ่มออกเดินทาง ผมได้ไปซื้อตั๋วล่วงหน้าที่สถานีหัวหมากใกล้บ้านของผม ก็มีภาพของบรรยากกาศของชานชาลาสถานีหัวหมากที่ปรับปรุงใหม่มาฝากกันก่อนเล็กน้อยครับ....

ชานชาลาสถานีรถไฟหัวหมาก เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2550

[rimura]

แล้วเราก็มาดูตั๋วโดยสารขบวน 51 ของผมกัน

ต้นทาง - ปลายทาง : กรุงเทพฯ - ลำพูน
เดินทางวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550
รถออก 22:00 น. ถึงเวลา 12:13 น.
รถนั่งและนอนชันที่ 2 ปรับอากาศ ชนิด 36 ที่ (บนทป.36)
เลขที่นั่ง - นอน 2 และ 4 (เป็นเตียงล่างทั้ง 2 ใบ ครับ )
ค่าโดยสารรวมค่าธรรมเนียม คนละ 813 บาทครับผม....

[rimura]

แล้วก็ถึงวันเดินทางครับ 10 พฤศจิกายน 2550 ผมก็พาคุณแม่ ข้าวของสัมภาระ มีกระเป๋าเดินทางใส่เสื้อผ้าขนาดย่อมๆ 2 ใบ เตรียมไว้เผื่อหนาวครับ .... Laptop คู่ชีพของผม แล้วก็ยังมีตะกร้าใส่ของเล็กๆน้อยของคุณแม่ผมอีก 2 ใบ ค่อนข้างพะรุงพะรังเล็กน้อย หอบขึ้นรถแท็กซี่จากบ้านมาถึงที่หัวลำโพง ราวๆ 21:20 นาทีครับ ยังพอมีเวลาเหลืออีกพอสมควร ก่อนที่รถจะออก

ขบวนรถด่วนที่ 51 กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กำหนดออกเวลา 22:00 น. จอดเทียบอยู่ในชานชาลาทางที่ 10 ครับ....





นั่นไง บนทป.หนึ่งเดียวของขบวน 51 เป้าหมายของผม อยู่รั้งท้ายขบวนเลยครับ เป็นรถนอน บนทป.CTV ที่ผมคุ้นเคยดี

[rimura]

เป็นรถคันที่ 15 ในริ้วขบวนครับ ป้ายข้างรถ



และบนรถ ชัดเจน และมองเห็นได้ง่ายจริงๆครับ

[rimura]

แล้วผมก็หอบหิ้วสัมภาระขึ้นมาบนรถแล้วครับตอนนี้ สภาพภายในของรถนอน บนทป.CTV จากฝีมือการปรับปรุงสภาพรถจากรถนอนพัดลม ให้กลายเป็นรถนอนปรับอากาศ โดยฝีมือช่างไทย จาก ช.ทวี จ.ขอนแก่น นี่เองครับ....

สภาพรถภายในแลดูสะอาดตามากๆ แอร์เย็นฉ่ำ และขณะนี้เตียงนอนบนของรถก็ได้ถูกกางออกมาแล้ว เนื่องจากว่ากว่ารถจะออกก็เป็นเวลาดึกพอดี ขบวน 51 นี้เหมาะกับนักเดินทางประเภท ถึงรถแล้วนอนเลย จริงๆครับ....



อ้า !! มาถึงแล้วครับ ที่นั่งและนอนหมายเลข 2 ประจำตำแหน่งของผม สะอาดตาน่านั่ง น่านอนครับ อยู่ติดกับประตูทางเดินเลยทีเดียว ส่วนที่ที่นั่งและนอนหมายเลข 4 ซึ่งเป็นของคุณแม่ผมน้น ก็อยู่อีกฝั่งตรงข้ามกันครับ

[rimura]

หลังจากจัดการเอาสัมภาระเข้าที่เข้าทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็ลงมาเดินเล่นที่บริเวณชานชาลา เดินมาจนถึงหัวขบวนครับ ซึ่งม้าศึกของเราก็ยังไม่เข้ามาต่อพ่วงกับขบวนรถ



บรรยากาศเมื่อมองออกไปที่ย่านของสถานีกรุงเทพฯครับ ลมหนาวที่โชยพัดมาเอื่อยๆ กับบรรยากาศยามดึก และเสียงของเครื่องยนต์รถดีเซลรางในโรงรถก็แผ่วมาค่อยๆ ช่างเป็นบรรยากาศที่บอกไม่ถูกจริงๆครับ



หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้รอถ่ายภาพม้าศึกของเราที่จะเข้ามาทำขบวนในครั้งนี้ว่าเป็นใคร เพราะโทรคุยกับ ส.แขวง ของผมแล้วก็เลยเดินขึ้นไปนอนบนรถเลย วันนั้น ขบวน 51 ออกจากหัวลำโพงตามเวลาครับ และกว่า ส.แขวงของผมจะส่งผมเข้านอนได้ก็แถวๆ รังสิต

คืนนั้น ขบวน 51 และบรยากาศลมหนาวแห่งรัตติกาลก็กล่อมผมนอนหลับสบายตลอดคืนเลยล่ะครับ

เดี๋ยวสักพักใหญ่ๆมาชมกันต่อนะครับ

[rimura]

มาชมกันต่อครับ, แล้วผมก็ตื่นนอนมารับรุ่งอรุณของวันใหม่ แถวๆ อ.พรหมพิราม แต่ก็ยังเช้ามืดอยู่ ซึ่งบัดนี้ก็ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 เข้าไปแล้วครับ นอนเล่นสักพัก พอสว่าง ล้างหน้า แปรงฟันเสร็จก็มาถึงที่นี่พอดีครับ....

ย่านสถานีอันกว้างใหญ่และ รถสินค้าเก่าๆตัดบัญชีหลากหลายชนิด


หอสัญญาณ และสถานีที่อยู่ในช่วงทางโค้ง



ที่นี่นั่นเองครับ.... อุตรดิตถ์

[rimura]

ผู้โดยสารที่มากับขบวน 51 ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติครับ แต่ผู้โดยสารชาวไทยกว่าครึ่งขบวนส่วนมากจะมาลงที่อุตรดิตถ์กันมาก ขนาดที่ว่า รถ บนทป.คันที่ผมโดยสารมาก็เต็มตั้งแต่ต้นทางแต่ก็มาว่างเหลือผู้โดยสารเพียงไม่กี่คนที่อุตรดิตถ์นี่ล่ะครับ.... คงเป็นเพราะว่า ขบวน 51 นี้เป็นขบวนที่มาถึงช่วงแถวๆ พิษณุโลก - อุตรดิตถ์เช้าพอดี และมีชนิดรถที่โดยสารในขบวนหลากหลาย ส่วนผู้โดยสารภาคเหนือตอนบน อย่าง ลำปาง - เชียงใหม่ ก็คงจะเลือกไปกับขบวน 1 และขบวน 13 กันหมดแล้วนั่นเองครับ

สองภาพนี้ เป็นช่วงขณะที่ขบวน 51 กำลังออกจากสถานีอุตรดิตถ์ และตั้งใจจะถ่ายเสาสัญญาณหางปลาที่เตี้ยที่สุดในประเทศไทย แต่ก็ออกมาไม่ชัด เอ....คงเพราะกล้องถ่ายรูปของผมยังคงงัวเงียอยู่เหมือนกันรึเปล่านะ....

[rimura]

ออกจากสถานีอุตรดิตถ์มาได้สักเดี๋ยว โดยที่ผมเองก็ไม่ได้ถ่ายภาพทางคู่ขนานระหว่างทาง ก็มาถึงที่นี่ครับ เอ๊ะ !! อะไรแว้บๆ ไกลๆนั่น



ย่านสถานีครับ กว้างมากๆ....

[rimura]

หันมาทางซ้ายมือ ก็พบกับริ้วขบวนของรถเร็วดีเซลรางที่ 105 ศิลาอาสน์ - กรุงเทพฯ ที่มาถึงก่อนหน้าตั้งแต่เช้ามืด จอดอยู่ในชานชาลาทางที่ 1 ติดกับตัวอาคารสถานี เพื่อทำความสะอาด เตรียมทำขบวนกลับเป็นขบวน 106 ออกในเวลา 07:30 ครับ....



ป้ายบอกระยะทางระหว่างสถานีข้างเคียง ของสถานีศิลาอาสน์ครับ สถานีศลาอาสน์มีระยะทางห่างจากสถานีอุตรดิตถ์เพียงแค่ 2 กม. กว่าๆเท่านั้นเองครับ : ต่างกับสถานีถัดไปทางทิศเหนือคือสถานีบ้านด่าน ซึ่งอยู่ห่างออกไปราวๆ 10 กม. เลยทีเดียว oops: