RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13265025
ทั้งหมด:13576308
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ตัวเรือด บุกดีเซลราง Daewoo จ้า!!
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ตัวเรือด บุกดีเซลราง Daewoo จ้า!!
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 11, 12, 13, 14, 15  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถจักร, รถดีเซลราง และรถพ่วงต่างๆ ของไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
suraphat
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 12/02/2007
Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง

PostPosted: 18/03/2008 7:16 am    Post subject: ข่าวเกี่ยวกับการค้นพบแมลงกันบนรถไฟนะ Reply with quote

ต่อไปนี้เป็นข่าวในเรื่องของการพบตัวแมลงต่างๆกันบนรถไฟชนิดอื่น ที่ไม่ใช่ในรถแดวูนะครับ

หาดูได้จาก Link นี้นะครับ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=23875&catid=27

นักข่าวช็อค! นั่งรถไฟไร้ตัวเรือด สยองกว่าพบรัง'แมลงสาป'โผล่วิ่งพล่านยั้วเยี้ยใต้เบาะ

วันที่ 17 มีนาคม 2551 เวลา 21:36:18 น.

ร.ฟ.ท.สั่งกำจัดตัวเรือด ลุยรื้อเบาะ-เก้าอี้นั่ง ราดน้ำร้อนผสมน้ำยาฆ่าทุก 4 ชม.โอดหยุดเดินรถ 15 วัน ขาดรายได้ 14 ล้าน - 'นักข่าว'สยองหนัก แมลงสาบไต่พรึ่บ จนท.แจงเป็นเรื่องธรรมดา บอกสงสัยขึ้นมาจากสถานีกรุงเทพฯ


นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เดินทางไปตรวจและรับฟังแนวทางการกำจัดและหยุดการแพร่ระบาดของตัวเรือดบนรถดีเซลรางปรับอากาศของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มีนายนคร จันทศร รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ให้การต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ฟ.ท.ได้รายงานนายสันติว่า ร.ฟ.ท.ได้ให้บริษัท เอเซีย คลีนนิ่ง จำกัด เข้ามาดำเนินการกำจัดและหยุดการแพร่พันธุ์ของตัวเรือด โดยรื้อถอนเบาะและเก้าอี้นั่งและใช้น้ำร้อนผสมน้ำยาเคมีทำลายตัวเรือดทุก 4 - 6 ชั่วโมง ส่วนการหยุดเดินรถไฟ 15 วัน ทำให้สูญเสียรายได้รวม 14 ล้านบาท และได้แก้ไขโดยเพิ่มรถเส้นทางสายเหนือ ปลายทางพิษณุโลกและสวรรคโลกอีกวันละ 6 ขบวน เพิ่มรถด่วนปลายทางเด่นชัยวันละ 2 ขบวน และรถเร็วปลายทางเชียงใหม่วันละ 10 ขบวน ส่วนสายอีสานจะเพิ่มรถด่วนปลายทางอุทุมพรพิสัย 6 ขบวน รวมถึงรถเร็วปลายทางศรีสะเกษและอุบลราชธานี 10 ขบวนและสายใต้ จะมีการเพิ่มรถด่วนพิเศษ รถด่วนและรถเร็วอีก 20 ขบวน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 16 มีนาคม กลุ่มผู้สื่อข่าวสายสิ่งแวดล้อมที่เดินทางกลับจากการทำข่าววันหยุดเขื่อนโลก และรำลึกการจากไปของน.ส.วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ครบ 100 วัน ที่ จ.อุบลราชธานี ได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยใช้บริการรถไฟ ขบวนที่ 68 ชั้น 2 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ เป็นรถนอนพัดลม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปขึ้นรถไฟก่อนรถออกจากสถานีประมาณ 45 นาที ระหว่างนั่งรอนั้น ได้สังเกตเห็นแมลงสาบตัวเล็กๆ 3 - 4 ตัววิ่งออกมาจากใต้เบาะที่นั่ง จึงพูดล้อเล่นกันว่า รถไฟขบวนนี้ ไม่มีตัวเรือด มีแต่แมลงสาบ จึงช่วยกันปัดแมลงสาบ 3 - 4 ตัวนั้นออกไป แต่ต่อมาอีกไม่นานมีแมลงสาบขนาดเท่าเดิมอีก 10 - 20 ตัว ออกมาวิ่งพล่านใต้เบาะที่นั่ง

ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งจึงลงจากรถไฟไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่สถานีว่าให้ช่วยจัดการแมลงสาบด้วย มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งรับปากว่าจะจัดการให้ แต่ผ่านไปพักใหญ่ ยังไม่มีใครมาจัดการ ขณะที่แมลงสาบยังคงเดินไปมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่สถานีอีกครั้ง ได้รับคำตอบว่ากำลังดำเนินการแก้ไขให้อยู่ ผู้สื่อข่าวจึงกลับไปขึ้นรถ

ระหว่างที่กำลังรอให้เจ้าหน้าที่รถไฟมากำจัดแมลงสาบนั้น เจ้าหน้าที่รถไฟขบวนดังกล่าวก็เดินผ่านไปผ่านมา ครั้นเมื่อกลุ่มผู้สื่อข่าวขอร้องให้ช่วยมาดูแมลงสาบให้ ก็ได้รับคำตอบว่ากำลังหาวิธีจัดการอยู่ สักพักใหญ่ก็มีพนักงานทำความสะอาดถือไม้กวาดมา 1 ด้าม และกวาดเอาซากแมลงสาบส่วนหนึ่งออกไป แต่ถูกทักท้วงจากผู้สื่อข่าวและผู้โดยสารที่ร่วมในเหตุการว่า มีรังแมลงสาบอยู่ใต้เบาะให้ไปหายามาฉีด เพราะเอาไม้กวาดกวาดเดี๋ยวมันจะออกมาอีก

พนักงานของรถไฟอีกคนที่มาสมทบบอกว่า เป็นเรื่องปกติที่มีแมลงสาบ รถไฟขบวนไหนๆ ก็มีแมลงสาบทั้งนั้น และยังบอกอีกว่า รถไฟขบวนนี้ไปจอดที่สถานีกรุงเทพฯนาน แมลงสาบอาจจะขึ้นมาจากกรุงเทพก็ได้

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สื่อข่าวได้ถามเจ้าหน้าที่รถไฟเป็นครั้งที่ 3 ว่า จะมาจัดการแมลงสาบให้หรือเปล่า ก็ได้รับคำตอบเช่นเดิมว่ากำลังหาวิธีอยู่ จนกระทั่งรถไฟเคลื่อนออกจากสถานีอุบลราชธานี ก็ยังไม่มีใครมาจัดการ แต่มีเจ้าหน้าที่รถไฟคนหนึ่งมาแจ้งว่า ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สถานีถัดไปให้นำยาฆ่าแมลงมาฉีดให้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อรถไฟมาถึงสถานีกันทรารมย์ มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งถือกระป๋องยาฆ่าแมลงเข้ามา และเอามาฉีดไล่แมลงสาบให้จนหมดกระป๋อง ปรากฏว่ามีแมลงสาบตัวเล็กจำนวนมากวิ่งหนีตายออกมาจากเบาะที่นั่ง ฉีดยาเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็กลับไป ทั้งนี้ มีผู้โดยสารที่ไปล้างหน้าที่อ่างล้างหน้ารถไฟก็มาบ่นว่า บริเวณอ่างล้างหน้าก็มีแมลงสาปจำนวนมากวิ่งไปวิ่งมา

น.ส.คิม ไชยสุขประเสริฐ อายุ 24 ปี กล่าวว่า ตนขึ้นรถไฟขบวนดังกล่าว เพื่อเดินกลับจากการทำงานที่ จ.อุบลราชธานี โดยได้จองตั๋วรถไฟตู้ที่ 8 ที่นั่ง 25 ซึ่งเป็นรถไฟชั้น 2 ประเภทตู้นอนบริเวณชั้นล่าง ขณะที่กำลังนั่งอยู่บนรถไฟ เพื่อรอรถไฟออกเดินทางในเวลา 18.30 น. ตนได้พบแมลงสาบเดินออกมาจากบริเวณด้านข้างของตู้รถไฟประมาณ 3 - 4 ตัว ซึ่งตอนนั้นรู้สึกตกใจกลัวมาก แต่เมื่อตั้งสติได้จึงใช้กระดาษชำระหยิบแมลงสาบและโยนทิ้งออกไปนอกหน้าต่าง ต่อมาขณะรถไฟกำลังจะเคลื่อนขบวนออกเดินทางนั้น ได้พบแมลงสาบอีกประมาณ 10 - 20 ตัว วิ่งออกมาจากบริเวณด้านข้างของตู้รถไฟ ตนจึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ประจำสถานีอุบลราชธานี เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการกับแมลงสาบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบกับบอกว่า พบแมลงสาบบนรถไฟเป็นเรื่องปกติ

Click on the image for full size
รูปภาพ: ภาพของพนักงานรถนอนขณะนำเอายาฆ่าแมลงมาฉีดที่ใต้ที่นั่ง บนรถนอนชั้นสอง(บนท.) ที่สื่อได้ถ่ายภาพมาได้


น.ส.คิม กล่าวต่อว่า หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดำเนินการกับแมลงที่พบ ก็ยังไม่มีใครเข้ามาดำเนินการกับแมลงสาบแต่อย่างใด จึงตัดสินใจลงจากรถไฟ เพื่อไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานีรถไฟอุบลราชธานี ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ภายในห้อง แต่เมื่อตนได้บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกับทำสีหน้าไม่พอใจและบอกว่าจะเร่งดำเนินการให้ ซึ่งหลังจากรถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานีอุบลราชธานี ได้มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่บนรถไฟนำยาฆ่าแมลงมาฉีดบริเวณบริเวณด้านข้างของตู้และใต้เบาะนั่ง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากให้เจ้าหน้าที่เอาใจใส่และทำความสะอาดตู้รถไฟให้มากขึ้น เนื่องจากรถไฟถือเป็นทางเลือกอันดับต้นที่ประชาชนใช้บริการในการเดินทาง


ส่วนนี่ก็จะมาจาก"ไทยรัฐออนไลน์" ที่เกี่ยวกับการกำจัดตัวเรือด ซึงมีรายละเอียดดังนี้

เมื่อดูจากLink นี้

http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=82480

รายละเอียดมีดังนี้
แฉปัญหาตัวเรือด หมกไว้ตั้งแต่ปี48 [15 มี.ค. 51 - 04:28]

การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการรื้อเบาะกำมะหยี่ ที่อยู่อาศัยอย่างดีของ “ตัวเรือด” ที่ยกทัพกัดผู้ใช้บริการรถไฟ จนกลายเป็นข่าวครึกโครม เมื่อวันที่ 14 มี.ค. โดยผู้สื่อข่าวเดินทางไปติดตามการรื้อเบาะกำมะหยี่ของรถดีเซลรางสายอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ โบกี้เลขที่ 2517 ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าโรงรถดีเซลราง พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งรื้อเบาะทั้งหมดภายในโบกี้ และระหว่างที่รื้อ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เมื่อยังเจอตัวเรือดซุกซ่อนอยู่ตามซอกมุมของตัวเบาะ บางตัวก็หนีตายเข้าไปในรูข้อต่อของเก้าอี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ผ่านการฉีดพ่นยาฆ่าตัวเรือดและอบควันมาแล้ว ทำให้ เจ้าหน้าที่ต้องหยุดรื้อเบาะ หันมาตั้งหน้าตั้งตาไล่จับตัวเรือดได้นับสิบตัว ก่อนนำไปบี้ทำลายทิ้ง ทั้งนี้ ขั้นตอนการรื้อเบาะและพื้นไม้กระดานของโบกี้รถไฟจะเสร็จสิ้นภายใน 1-2 วัน จากนั้นจึงจะใช้น้ำร้อนราดทำความสะอาด เพื่อเตรียมเปลี่ยนพื้นและเบาะหนังเทียมต่อไป

ขณะเดียวกันในส่วนของผู้โดยสารยังคงเข็ดขยาดไม่กล้าเดินทางไปกับขบวนรถดีเซลรางรุ่นดังกล่าวขบวนอื่นๆ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วโดยสารรายหนึ่ง กล่าวว่า ยังคงมีรถรุ่นนี้วิ่งตามเส้นทางหลัก 3 สาย ออกจากสถานีหัวลำโพงไปยังสถานีปลายทางคือ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังมีข่าวพบตัวเรือดออกไป ทำให้ผู้โดยสารบางส่วนที่จองตั๋วล่วงหน้าเริ่มทยอยคืนตั๋วโดยสารกันบ้างแล้ว ส่วนผู้โดยสารเดินทางวันต่อวันตามเส้นทางดังกล่าว มียอดลดลงเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการแก้ไข อีกไม่นานคงเข้าสู่ภาวะปกติ

ด้านนายศิริพงษ์ กลั่นศิริ หัวหน้างานรถโดยสาร การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ว่าจ้างบริษัทรับทำเบาะ ประกอบเบาะ เข้ามาดำเนินการปรับปรุงการเปลี่ยนเบาะให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด สำหรับเส้นทางที่ใช้รถดีเซลรางรุ่นนี้วิ่งคือสายจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีการวิ่งตามปกติ โดยใช้รถดีเซลรางคันอื่นที่ผ่านการเปลี่ยนเบาะหนังเทียมและพื้นไม้พลัสวู้ด ไปใช้วิ่งตามกำหนดตารางเดินรถเหมือนเดิม ในส่วนของผู้โดยสารหากยังไม่มั่นใจ สามารถนำตั๋วมาคืน หรือเปลี่ยนเป็นรถขบวนอื่นได้ การรถไฟฯยินดีให้บริการอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้โดยสารรถไฟที่เคยถูกตัวเรือดกัดจนถึงกับต้องไปหาหมอรักษา คือนางเล็กริน พุกสวัสดิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/100 ชั้น 8 บ้านสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 36 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. เปิดเผยว่า ตนกับสามีชาวเดนมาร์กได้ผ่านประสบการณ์ถูกเรือดกัดมาแล้ว เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะเดินทางกลับจากเชียงใหม่ โดยตีตั๋วชั้น 1 ได้ตู้นอนห้อง 17 ออกจากสถานีเชียงใหม่เวลา 16.00 น. มาถึงสถานีหัวลำโพงตอนเช้าตรู่ สามีนอนชั้นล่าง ตนนอนชั้นบน ตอนตื่นขึ้นมารู้สึกเหมือนมีอะไรมากัดบริเวณขา 2 ข้าง เมื่อกลับถึงบ้าน จึงเห็นรอยผื่นแดงและเป็นตุ่มใส คัน ต้องไปหาหมอให้ยาทามา จนเม็ดผื่นคันเพิ่งทุเลาลงเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา กลายเป็นรอยแผลเป็น มาอ่านข่าวเจอจึงคาดว่าต้องถูกตัวเรือดกัดอย่างแน่นอน แต่ตนไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร เพียงอยากจะฝากไปถึงผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ เพราะครอบครัวใช้บริการของการรถไฟฯมานานกว่า 30 ปี ท่องเที่ยวไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่สิ่งที่พบเห็นคือบนขบวนรถไฟสกปรกมาก ยิ่งสภาพห้องน้ำต้องเร่งปรับปรุง การรถไฟฯ ต้องเร่งแก้ไขเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการโดยสาร

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาตัวเรือดนั้น วันเดียวกัน นายสมพร บุญนวล วิศวกรกำกับการกองซ่อมบำรุงดีเซลรางกรุงเทพ ฝ่ายช่างกล ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า แผนการแก้ไขปัญหาเรื่องตัวเรือดในขณะนี้ จากการประชุมร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดเป็นแผนเร่งด่วนและแผนระยะยาวที่จะต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนเบาะกำมะหยี่เป็นเบาะหนังเทียม และพื้นไม้เป็นไม้เชอวูดส์ ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. นี้ โดยในระยะเร่งด่วนจะนำขบวนรถดีเซลรางยี่ห้อแดวู ทั้ง 25 ขบวนที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ทำความสะอาดหนัก ถอดอุปกรณ์เบาะเก้าอี้ภายในห้องโดยสารมาทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนและอบน้ำยา ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 13 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2551 ส่วนแผนระยะยาวจะเร่งดำเนินการปรับเปลี่ยนเบาะกำมะหยี่เป็นเบาะหนังเทียมและเปลี่ยนพื้นเป็นไม้เชอวูดส์ โดยจะปรับเปลี่ยนเก้าอี้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. และปรับเปลี่ยนพื้นไม้เสร็จทั้งหมดภายใน มิ.ย. ขณะนี้ได้ปรับปรุงเปลี่ยนเบาะและพื้นไม้เสร็จแล้ว 3 คัน ส่วนที่เหลือจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน มิ.ย. 2551 คาดว่าปัญหาตัวเรือดจะหมดไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฝ่ายช่างกลจะรับผิดชอบขบวนรถที่ให้บริการในขณะนี้ 25 คัน

ส่วนอีก 14 คัน อยู่ที่โรงซ่อมศูนย์มักกะสันจะรับผิดชอบ ส่วนที่เหลือจะใช้งบประมาณในการปรับปรุงรวม 13,936,000 บาท แบ่งเป็นค่าซ่อมพื้นไม้คันละ 286,000 บาท บางส่วนได้ดำเนินการไปแล้ว ส่วนที่ยังขาดอยู่อีก 16 คัน และค่าปรับเปลี่ยนเบาะคันละ 260,000 บาท ส่วนที่จะต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนรวม 36 คัน ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายช่างกลได้ปรับเปลี่ยนเบาะมาเป็นระยะ แต่เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ เป็นเรื่องในระดับนโยบายที่จะต้องพิจารณาให้ดำเนินการแก้ไขทันที และสั่งให้งดขบวนรถดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเร็วยิ่งขึ้น ส่วนขั้นตอนที่ผ่านมาว่ามีการเปิดประมูลเพื่อดำเนินการดังกล่าวตนไม่ทราบ เพราะเพิ่งมารับตำแหน่ง

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในวันที่ 17 มี.ค. จะเดินทางไปตรวจดูพร้อมรับฟังรายงาน เกี่ยวกับปัญหาตัวเรือดในขบวนรถไฟ และจะมีการเร่งรัดผ่านคณะกรรมการ รฟท. ซึ่งจะมีการนัดประชุมนัดแรกภายในสัปดาห์หน้าให้แก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ส่วนเรื่องงบประมาณไม่ใช่ปัญหา รวมทั้งจะลงไปตรวจสอบรายละเอียดซึ่งได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า อดีตผู้บริหาร รฟท.เคยพบปัญหาเรื่องนี้และได้สั่งการให้ปรับเปลี่ยนเบาะไปก่อนหน้านี้แล้ว จะลงไปดูในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องเร่งด่วนจะต้องเร่งแก้ไขเพื่อกู้ ภาพพจน์ให้กับ รฟท.โดยด่วนที่สุด

สำหรับสาเหตุของปัญหาดังกล่าว ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ตัวเรือดติดมาจากกระเป๋าสัมภาระของนักท่องเที่ยวที่เป็นแบ็กแพ็ก และตัวเรือดเหล่านี้เมื่อติดเข้ามาก็จะมาอาศัยเบาะกำมะหยี่และพื้นไม้ที่กลายเป็นแหล่งอาหารและแพร่พันธุ์และอยู่ในอุณหภูมิของรถที่เย็น แม้จะมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อก็ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ ทางแก้ต้องเปลี่ยนเบาะและพื้นไม้ ที่เป็นสาเหตุสำคัญซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาที่ผู้โดยสารถูกตัวเรือดกัด ในรถไฟดีเซลรางชั้น 2 ปรับอากาศ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2548 โดยในสมัยที่นายจิตต์สันติ ธนโสภณ เป็นผู้ว่าการ รฟท.ได้สั่งการให้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุหุ้ม จากผ้ากำมะหยี่เป็นหนังเทียมโดยด่วนที่สุด และมีการสั่งให้ชะลอการจ้างซ่อมบำรุงแบบเดิม เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาซ้ำซากขึ้น เนื่องจากเบาะกำมะหยี่ และผนังไม้ เป็นแหล่งที่อยู่ของตัวเรือด และให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเบาะครั้งละ 2 คัน ให้ทยอยดำเนินการเพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อเงินงบประมาณของ รฟท. แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร และนายจิตต์สันติพ้นจากตำแหน่ง ก็ไม่ได้มีการดำเนินการเรื่องนี้ต่อ จึงทำให้เกิดปัญหาลุกลามดังที่ปรากฏขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ปัญหาตัวเรือด รฟท.ยอมรับว่าได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2548 โดยฝ่ายการเดินรถเคยได้รับการร้องเรียนจากนายธวัช กันพาณิชย์ อนุกรรมาธิการฝ่ายเศรษฐกิจ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมผู้โดยสารอีกหลายคนว่า ถูกตัวเรือดกัดที่บริเวณคอด้านหลัง และแขน ขณะโดยสารไปกับขบวนรถเส้นทางกรุงเทพฯ-ศีขรภูมิ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2548 และในวันที่ 17 ต.ค. 2548 ได้รับหนังสือร้องเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อ้างถึง นางราณี ถนอมพงษ์ ถูกตัวเรือดกัดแขนและขาในขณะโดยสารบนรถไฟจากดอนเมือง-พิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2548 จึงเรียกร้องให้ รฟท.เร่งแก้ไขในเรื่องนี้ แต่เรื่องก็ยังถูกปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุตัวเรือดกัดผู้โดยสารขึ้นอีก

ส่วนอีกข่าวนั้น กระผมขอแยกออกเป็นสองส่วนคือในเรื่องของตัวเรือดที่พบบนรถไฟ กับในเรื่องของโรคที่มาจากสัตว์ต่างถิ่นที่ประชาชนได้นำมาเลี้ยงในบ้านเรา ซึ่งก็จะเป็นอุทาหรณ์ถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์บ้านเราไปด้วย สำหรับรายละเอียดนั้นมีดังนี้

เมื่อดูจากLink นี้

http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=82822

รายละเอียดมีดังนี้
ดีเซลรางสูญ13ล. หยุดวิ่งปราบเรือด [18 มี.ค. 51 - 04:27]

ปัญหาตัวเรือดกัดผู้โดยสารบนรถดีเซลรางสายอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ โบกี้เลขที่ 2517 กำลังได้รับการ แก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่บริษัท เอเซีย คลีนนิ่ง เซอร์วิส ที่ได้รับการว่าจ้างจากการรถไฟฯให้รื้อเบาะกำมะหยี่ รถดีเซลรางสายอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ โบกี้เลขที่ 2517 ที่พบตัวเรือด ได้เร่งทำความสะอาดด้วยการใช้เครื่องทำ น้ำร้อนอุณหภูมิ 150 องศา ผสมตะไคร้หอมฉีดทำความ สะอาดพื้นรถทั่วทั้งคัน ต่อมา เวลา 13.30 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม เดินทางไปประชุมร่วมกับผู้บริหารการรถไฟฯ จากนั้นได้ขึ้นตรวจบนรถดีเซลราง โบกี้ 2517 อย่างละเอียด แล้วเปิดเผยว่า ผู้รับเหมาที่รับผิดชอบเข้ามากำจัดตัวเรือดไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะกำจัดตัวเรือดได้ 100% ต้องเป็นหน้าที่ผู้บริหาร รฟท.เข้ามาควบคุม ซึ่งยอมรับว่าการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาภายในการรถไฟฯมีความหย่อนยานทั้งระบบ ทั้งที่มีปัญหาแต่ไม่สามารถจัดการได้

รมว.คมนาคม เผยต่อว่า กรณีการรถไฟฯ ประกาศหยุดเดินรถชั่วคราวเส้นทางสายเหนือ กทม.-เชียงใหม่ ขบวนที่ 9, 10, 11, 12 สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทาง กทม.-อุบลราชธานี ขบวนที่ 21, 22 สายใต้ เส้นทาง กทม.- สุราษฎร์ธานี ขบวนที่ 43, 44 เส้นทาง กทม.-ยะลา ขบวน ที่ 41, 42 ตั้งแต่วันที่ 17-31 มี.ค.นี้ ไม่เห็นด้วย เพราะกระทบต่อผู้โดยสาร ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนว่าไม่ได้รับความสะดวก แต่ทางการรถไฟฯชี้แจงว่า หากจะกำจัดตัวเรือดให้สิ้นซาก ต้องหยุดเดินรถ รื้อเบาะออกแล้วพ่นสาร เคมีอัลฟาไซเปอร์เมทรินกับอบฆ่าด้วยสารเดลต้าเมทริน เข้มข้น วิธีนี้ต้องปิดขบวนรถทิ้งไว้ให้วงจรตัวเรือดตาย หากฉีดพ่นแล้วนำขบวนรถมาวิ่งในวันถัดไปจะไม่สามารถฆ่าตัวเรือดได้ เพราะปริมาณที่จะฉีดฆ่ามีปริมาณน้อย

ด้านนายนคร จันทศร รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.จำเป็นต้องหยุด การเดินรถขบวนรถที่มีปัญหา นำมากำจัดตัวเรือดอย่างเต็มที่ เพราะจะได้พ่นยา อบฆ่าด้วยการใช้ตัวยาเข้มข้น และรุนแรง รวมถึงการเปลี่ยนเบาะที่นั่งกับพื้นรถไฟทั้ง 39 คัน ภายในเดือน มิ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการรถไฟฯ งดเดินรถด่วนพิเศษดีเซลราง เป็นเวลา 15 วัน ส่งผลให้ การรถไฟฯสูญเสียรายได้กว่า 13 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงรถดีเซลราง 39 คัน ทั้งเปลี่ยนพื้นรถจากไม้อัดเป็นไม้พลัสวู้ด ปูทับด้วยแผ่นอีลาสติก ใช้งบประมาณ กว่า 10,393,500 บาท และการเปลี่ยนเบาะกำมะหยี่เป็นเบาะหนังเทียม ใช้งบประมาณกว่า 11,154,000 บาท รวมใช้งบทั้งสิ้น 21,547,500 บาท

ขณะที่ นพ.ศิริศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรม ควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การกำจัดเรือด ใช้ 2 วิธี ควบคู่กัน คือ ฉีดพ่นสารเคมี และการอบ หรือ รมควันด้วยสารเคมี โดยน้ำยาที่ฉีดพ่นจะใช้อัลฟาไซเปอร์ เมทริน ความเข้มข้น 10% หลังฉีดพ่นตัวเรือดจะตายภายใน 2 นาที ฤทธิ์ยาไปทำลายระบบประสาทตัวเรือด แต่ไม่สามารถ กำจัดได้ทั้งหมด ต้องใช้การอบควันด้วยสารเคมีชื่อเดลต้าเมทริน ความเข้มข้น 0.5% ผสมน้ำมันดีเซล 49 ส่วน ต่อสารเคมี 1 ส่วน อบราวครึ่งชั่วโมง ทำให้ตัวเรือดตาย ซึ่งสารเคมีทั้ง 2 ตัวไม่เป็นอันตรายต่อคน ทั้งนี้ต้องทำทุก 7 วัน และสำรวจทุก 2-4 สัปดาห์เพื่อป้องกัน

ส่วนกรณีที่มีการพบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคทูลารีเมียเป็นรายแรกในประเทศไทย ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทางกรมควบคุมโรคได้ส่งเลือดของผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวไปตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และพบว่าเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าว ล่าสุด นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า ทูลารีเมีย หรือโรคไข้กระต่าย ที่ติดต่อจากสัตว์ ฟันแทะ เช่น กระต่าย กระรอก และหนู ผู้เสียชีวิตมีประวัติสัมผัสกระต่าย มีการเลี้ยงกระต่ายพันธุ์ไทยจำนวนมาก ปัจจุบันบ้านดังกล่าวยังเลี้ยงกระต่ายนับ 10 ตัว แต่ไม่มีคนในบ้านป่วยเป็นโรคนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งทำให้มีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าคนอื่นๆ โดยเชื้อโรค Francisella Tularensis มีทั้งสายพันธุ์เอ และบี คาดว่าอีก 2 สัปดาห์ ผลยืนยันทางห้องแล็บ จากประเทศสหรัฐอเมริกา จะรู้แน่ชัดว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์เอ หรือบี หากเป็นชนิดเอ มีความรุนแรงมากกว่า ส่วนการควบคุมโรคเบื้องต้นได้ประสานกรมปศุสัตว์ให้สุ่มตรวจเชื้อทั่วประเทศ รวมถึงกำชับสำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศรายงาน หากพบผู้ป่วยต้องสงสัยหรือเป็นโรคนี้

นพ.ธวัชกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นรายแรกที่มีการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องด้วยการส่งไปตรวจในห้องแล็บที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เชื่อว่าก่อนหน้านี้มีผู้ป่วยรายอื่นๆ เป็นโรคนี้เช่นกัน แต่อาจไม่มีการตรวจวินิจฉัย โดยเชื้อชนิดนี้อยู่ได้ในสิ่งแวดล้อมอุณหภูมิทั่วไปและอุณหภูมิติดลบมากๆ มีรายงานการวิจัยระบุว่า เมื่อนำเนื้อกระต่ายที่นิยมบริโภคในสหรัฐอเมริกามาแช่แข็ง ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ เว้นแต่นำไปปรุงให้สุกในอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที


จบ ว.8
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
LinkinTua
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 15/07/2007
Posts: 21
Location: 245/68 บ้านพักรถไฟตึกแดง

PostPosted: 18/03/2008 11:58 pm    Post subject: Reply with quote

คิดว่าถึงคราวปรับปรุงหรือยังครับ

ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า พร้อมที่จะแก้ไข ให้ปรับปรุง ล้างบาง ความคิดเก่าๆ หรือยังครับ ??
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 19/03/2008 8:55 am    Post subject: Reply with quote

ตอนนี้ ความหวาดกลัวของผู้โดยสาร เริ่มกระจายไปแล้ว เหมือนเรื่องไข้หวัดนกสมัยก่อนที่ไม่กล้ากินไก่กันเลย

นอกจากตัวเรือด ยังลามไปถึงแมลงสาบ แมงเม่า อาจรวมไปถึงยุงในโบกี้โดยสาร มีสิทธิ์ถูกโวยวายได้ทั้งนั้นครับ Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 19/03/2008 12:05 pm    Post subject: Reply with quote

จากภาพและข่าว ที่การรถไฟได้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ด้วยการทำความสะอาดตู้โดยสารด้วยน้ำร้อน,น้ำยาและเปลี่ยนเบาะหุ้มใหม่หมด
ผมคิดว่าคงเรียกความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารกลับมาใช้บริการรถดีเซลรางปรับอากาศได้เหมือนเดิมนะครับ
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 19/03/2008 6:25 pm    Post subject: Reply with quote

pak_nampho wrote:
จากภาพและข่าว ที่การรถไฟได้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ด้วยการทำความสะอาดตู้โดยสารด้วยน้ำร้อน,น้ำยาและเปลี่ยนเบาะหุ้มใหม่หมด
ผมคิดว่าคงเรียกความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารกลับมาใช้บริการรถดีเซลรางปรับอากาศได้เหมือนเดิมนะครับ



อะ อะ..... เรื่องตัวเรือด ยังไม่จาง ข่าวแมลงสาบในรถนอนก็ตามมา.......
เรื่องของแมลงสาบ กับเศษอาหารที่ซุก ๆตามซอกเหลือบ ในรถนอนเนี่ย

มีข้อสงสัย นิดๆ หน่อย ๆ ว่า

สัตว์เหล่านี้ มันมีเรี่ยวแรงหอบหิ้วบรรดาเสบียงอาหารเหล่านี้ด้วยตัวเองหรือ.....
มีสัตว์ชนิดใดเป็นผู้ช่วย หอบหิ้วเสบียงกรังขึ้นมาให้ประเคนถึงรัง
จากป้าย “โปรดช่วยกันรักษาความสะอาด” คงไม่มีความหมายเพราะสัตว์ที่เป็นผู้ช่วยแมลงสาบ มันอ่านไม่ออก

มีเรื่องชวนขำๆ ว่า หาก ใครเคยนั่งรถนอนปรับอากาศแล้วมีคนเอาแหนมย่าง หรือทุเรียน
มากินในรถคันที่คุณโดยสารไปด้วย แล้วคุณจะทำอย่างไรดี หุหุ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 19/03/2008 6:28 pm    Post subject: Reply with quote

nathapong wrote:
pak_nampho wrote:
จากภาพและข่าว ที่การรถไฟได้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ด้วยการทำความสะอาดตู้โดยสารด้วยน้ำร้อน,น้ำยาและเปลี่ยนเบาะหุ้มใหม่หมด
ผมคิดว่าคงเรียกความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารกลับมาใช้บริการรถดีเซลรางปรับอากาศได้เหมือนเดิมนะครับ



อะ อะ..... เรื่องตัวเรือด ยังไม่จาง ข่าวแมลงสาบในรถนอนก็ตามมา.......
เรื่องของแมลงสาบ กับเศษอาหารที่ซุก ๆตามซอกเหลือบ ในรถนอนเนี่ย

มีข้อสงสัย นิดๆ หน่อย ๆ ว่า

สัตว์เหล่านี้ มันมีเรี่ยวแรงหอบหิ้วบรรดาเสบียงอาหารเหล่านี้ด้วยตัวเองหรือ.....
มีสัตว์ชนิดใดเป็นผู้ช่วย หอบหิ้วเสบียงกรังขึ้นมาให้ประเคนถึงรัง
จากป้าย “โปรดช่วยกันรักษาความสะอาด” คงไม่มีความหมายเพราะสัตว์ที่เป็นผู้ช่วยแมลงสาบ มันอ่านไม่ออก

มีเรื่องชวนขำๆ ว่า หาก ใครเคยนั่งรถนอนปรับอากาศแล้วมีคนเอาแหนมย่าง หรือทุเรียน
มากินในรถคันที่คุณโดยสารไปด้วย แล้วคุณจะทำอย่างไรดี หุหุ


เอาทุเรียนมากินในห้องแอร์ก็โดนตีกบาลด้วยชะแลงแน่ๆ
Back to top
View user's profile Send private message
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 20/03/2008 9:18 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เอาทุเรียนมากินในห้องแอร์ก็โดนตีกบาลด้วยชะแลงแน่ๆ

^
ใช่ครับ...เฮียวิซ...ผู้โดยสารทุกท่านควรรักษาสิทธิส่วนบุคคลของตนเอง...ขอนำสำนวนอาจารย์ตุ้ย...อาจารย์ที่ปรึกษามาใช้หน่อยครับ
เลยขอพูดเรื่องสิทธิส่วนบุคคลตามเฮียวิซ..หลายปีก่อนผมมาอบรมกับเพือนที่กรุงเทพด้วยรถทัวร์ มีผู้โดยสารลักษณะพวกแขกขาว (ตุรกีหรืออุซเบ ฯ )
4-5 คน โดยสารมาด้วยพูดคุยกันเสียงดังทั้งที่เวลาประมาณตี 1 กว่าแล้ว มีโดยสารในรถก็แกล้งไอ,จาม เสียงดังและถี่ ก็ไม่เงียบบังเอิญนึกได้ว่าในรถ
ปิดไฟมึดก็ไม่รู้ว่าใครพูดผมเลยพูดเสียงดัง ๆ ว่า We need to relax ได้ผลครับ เงียบทันทีจนรถถึงกรุงเทพเลย ...
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
saraburi
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/07/2006
Posts: 3321
Location: ถิ่นเนื้อนุ่ม นมดี กะหรี่(ปํ๊บ)ดัง สระบุรี

PostPosted: 20/03/2008 3:35 pm    Post subject: Reply with quote

อย่างว่าครับ การที่ แมลงสาบ มาอยู่บนรถไฟมันคงไม่ได้จัดกระเป๋าเที่ยวต่างจังหวัดแน่
ส่วนนึงเพราะผู้โดยสารบางส่วน ที่ มักง่าย แอบซุกเศษอาหารไว้ตามซอกมุม ทำให้มันอาศัยไปต่างจังหวัดฟรีแถมสร้างอนาจักรบนรถไฟสบายครับ....
บางส่วนอาจจะอยู่ที่การทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง ทุกซอกทุกมุม ....
บางที แมลงสาบมันอาจอยากเหมา บนท ไปลาวก็ได้นะครับ Laughing
_________________
ช่างภาพระดับพื้นโลก

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 20/03/2008 4:21 pm    Post subject: Reply with quote

pak_nampho wrote:
Wisarut wrote:
เอาทุเรียนมากินในห้องแอร์ก็โดนตีกบาลด้วยชะแลงแน่ๆ

^
ใช่ครับ...เฮียวิซ...ผู้โดยสารทุกท่านควรรักษาสิทธิส่วนบุคคลของตนเอง...ขอนำสำนวนอาจารย์ตุ้ย...อาจารย์ที่ปรึกษามาใช้หน่อยครับ
เลยขอพูดเรื่องสิทธิส่วนบุคคลตามเฮียวิซ..หลายปีก่อนผมมาอบรมกับเพือนที่กรุงเทพด้วยรถทัวร์ มีผู้โดยสารลักษณะพวกแขกขาว (ตุรกีหรืออุซเบ ฯ )
4-5 คน โดยสารมาด้วยพูดคุยกันเสียงดังทั้งที่เวลาประมาณตี 1 กว่าแล้ว มีโดยสารในรถก็แกล้งไอ,จาม เสียงดังและถี่ ก็ไม่เงียบบังเอิญนึกได้ว่าในรถ
ปิดไฟมึดก็ไม่รู้ว่าใครพูดผมเลยพูดเสียงดัง ๆ ว่า We need to relax ได้ผลครับ เงียบทันทีจนรถถึงกรุงเทพเลย ...


หมีวิศซี่ กับ พี่นพ ครับ....

เรื่องทุเรียนในรถแอร์ เนี่ย ชาวคณะ RFT ตอนทัวร์ติ่มซ่ำ ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์
กับ ข.83 ไงครับ ขาไปที อ.ตุ้ย พ่อเลี้ยง 101 คุณน้ำจืด ผม น้องบอย พี่หนุ่ม นั่งเมาท์หลังทานมื้อเย็นเรียบร้อย พ่อเลี้ยงแกดันเปรยๆ ถึงทุเรียน หลังจากนั้น ก็มีกลิ่นทุเรียน (ของจริงลอยมา)
ส่วนคนนำขึ้นไป ดันเป็นชาวต่างชาติซะเนี่ย แถมขยอก อย่างรวดเร็วเมื่อโดนจนทประจำรถนอนจับได้

ส่วนเรื่องแหนมปิ้ง เจอกับตัวเอง ตอนนั่งรถทัวร์ จะไปเที่ยวที่จ.ตาก
ไปๆมาๆ ทนกลิ่นแหนมปิ้งไม่ไหวเลย เลยขอลงรถที่กำแพงเพชร ไม่ปงไม่ไปเที่ยวแล้ว

นึกถึงเรื่องนี้ทีไร ยังแค้นไม่หาย เฮ้อ.....
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Rakpong
President
President


Joined: 29/03/2006
Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก

PostPosted: 20/03/2008 7:04 pm    Post subject: Reply with quote

Quote:
ส่วนเรื่องแหนมปิ้ง เจอกับตัวเอง ตอนนั่งรถทัวร์ จะไปเที่ยวที่จ.ตาก
ไปๆมาๆ ทนกลิ่นแหนมปิ้งไม่ไหวเลย เลยขอลงรถที่กำแพงเพชร ไม่ปงไม่ไปเที่ยวแล้ว


ลงไปซื้อมาทานบ้างหรือครับ Laughing

เรื่องอาหารบนรถไฟ แบ่งเป็นสองประเด็น

1. ประเด็น ผดส. เอง เอาอาหารขึ้นมา แล้วทำหกเรี่ยราด หรือทิ้งซากไว้ เป็นภัตตาคารของแมลงสาบ

2. ประเด็นการจัดการภายใน ผมแบ่งเป็นประเด็นย่อย
2.1 การทำความสะอาด ในรอบวันหรือระหว่างการหมุนเวียนรถ มีการกำกับดูแลให้สะอาดหมดจดเพียงใด
2.2 การออกแบบห้องโดยสาร มีซอกหลืบที่ทำความสะอาดได้ยาก รวมทั้งวัสดุที่ใช้ มีโอกาสเสียหาย ให้เกิดซอกหลืบหรือไม่

เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำ หลังจากลงทุนกันขนาดนี้ คือ งดเดินรถ เอามาเปลี่ยนเบาะเปลี่ยนพื้นกันหมด ต้องทำอะไรต่อด้วยครับ

Click on the image for full size


ภาพนี้เป็นตัวอย่างห้องโดยสารรถไฟบางประเทศ บางทีลงทุนวัสดุภายในให้ดี เพราะบริการผู้โดยสารเฉพาะด้านใน ซอกหลืบไม่มี ถ้ามีต้องทำความสะอาดง่าย seat pitch แบบสบายตัวผู้โดยสาร และสะดวกในเข้าการทำความสะอาด เบาะเป็นหนังเทียม ที่วัสดุบุภายใน นุ่มนั่งสบาย

ส่วนด้านนอก เน้นทนทาน บริการเฉพาะสมาชิกรถไฟไทยดอทคอมไว้ถ่ายภาพเท่านั้น ไม่ต้องเนี้ยบมาก เน้นความคลาสิค และประโยชน์ใช้สอย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถจักร, รถดีเซลราง และรถพ่วงต่างๆ ของไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 11, 12, 13, 14, 15  Next
Page 12 of 15

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©