View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 08/01/2008 9:33 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
ขอบพระคุณมากครับ สำหรับข้อมูลทางประวัติศาสตร์
อย่างนี้แสดงว่า ชื่อสถานีที่ไม่ปรากฏในนิราศรับพัชนิ์ (2464) เป็นสถานีที่ตั้งขึ้นในสมัยหลังนะครับ
นอกจากนี้ในโผของคุณ Wisarut ไม่มีสถานีท่าแมงลัก กับสถานีป่าไร่ ก็แสดงว่าตั้งขึ้นทีหลัง ถูกหรือเปล่าครับ |
ถูกแล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/01/2008 9:36 am Post subject: |
|
|
สถานีเทพา ก็เคยเป็นที่เติมน้ำด้วยครับ
มีท่อเติมน้ำหลงเหลืออยู่ในสมัยที่ผมเรียนอยู่ที่ ร.ร.บ้านเทพา อ.เทพา จ.สงขลาครับ
(พ.ศ. 2522-2526)
ผมไม่แน่ใจว่าในภาพยนตร์เรื่อง ผีเสื้อและดอกไม้ ซึ่งออกฉายใน พ.ศ. 2528 จะมีภาพสถานีเทพา ที่ติดท่อดำๆ สูงๆ นี้หรือเปล่า ต้องลองเปิดวีซีดีดูอีกที |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 15/07/2009 10:11 am Post subject: |
|
|
กำลังเจียดเวลาอ่านอยู่ครับ
เปนเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่มีค่ามากเกินพรรณาจริงๆ
มีติบ้าง ตรงที่เค้าลอกผิดมาเยอะ จึงไม่ค่อยคล้องจองกันเท่าที่ควร ต้นฉบับ ของจริงคงจะใช้ถ้อยคำคล้องจองกันมากกว่านี้
- บนรถมีหลอดไฟฟ้าแล้ว เปิดไฟตอนลอดอุโมงค์
- มีการเติมน้ำ+ฟืนที่ควนเนียงด้วย
- ประหลาดใจตรงที่ ไปอู่ตะเภาแล้วย้อนกลับมาหาดใหญ่ทำไม
- ท่านพระครู โดยสารรถชั้น 1 ตั๋วจึงดูราคาแพง 40 บาท ต่อ 1 ห้อง (2 ที่) คนเดียว 30 บาท
(อาจจะเปนตั๋วไปกลับ ก็เปนได้ แต่คงเปนชั้น 1 ค่อนข้างแน่)
- สมัยนั้นเรียก พขร ว่า "Engineer" เหมือนที่ฝรั่งเรียก
- สมัยนั้นมีการใช้กระเบื้อง ซีเมนต์กันแล้ว เข้าใจว่าเปนกระเบื้องปลายตัด (ไม่ใช่กระเบื้องใยหิน)
- คลองบ้านดอนยังเปนสะพานไม้ ("กระดานหนาไม้แก่นแสนจะดี")
- ช่วงนั้นกรุงเทพฯ อากาศหนาวมาก ("ไม่ห่มหายหนาวกล้าจนหมาร้อง")
- มีการกล่าวถึง"หนองจีน"ด้วย เก๋า จริงๆ
Quote: | หนองจีน (๘๙๖.๒๔ กิโลเมตร์จากบางกอกน้อย) ออก ๑๖๑๒ |
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=130597
ตารางเดินรถผ่านอู่ตะเภา พ.ศ. ๒๔๖๕
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3576&postdays=0&postorder=asc&start=40
ที่มา : บันทึก ที่ ๓๘/๗๔๖๙ กระทรวงคมนาคม วันที่ ๓ ธันวาคม พระพุทธศักราช ๒๔๕๘ มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาวงษานุประพันธ์ เสนาบดีกระทรวงคมนาคม แจ้งความมายัง มาเสวกโท พระยาศรีสุนทรโวหาร แทนราชเลขานุการ
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=82995
หาดใหญ่-สงขลา 2551 : ครบรอบ 30 ปีการยุบเลิกการเดินรถไฟ
ถ้าอ่านจบแล้วจะมา Discuss กันอีกทีครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/07/2009 7:09 am Post subject: |
|
|
rodfaithai wrote: | ประหลาดใจตรงที่ ไปอู่ตะเภาแล้วย้อนกลับมาหาดใหญ่ทำไม
|
พี่มิ้งพูดขึ้นมา ทำให้ทราบว่าข้อความช่วงนี้ก็เป็นอีกหลักฐานหนึ่ง
ที่บอกว่าขณะที่พ่อท่านเฒ่าเดินทางไปบางกอกในปี 2464 นั้น
ยังไม่ได้แก้รางจากสงขลาให้เข้าชุมทางหาดใหญ่ครับ
(แก้รางในปี 2465)
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง ไขปริศนาภาพถ่ายทางแยกที่ชุมทางอู่ตะเภา
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3576&postdays=0&postorder=asc&start=10
อู่ตะเภาขณะนั้น คงไว้ใช้สับเปลี่ยนเพียงอย่างเดียว
รอบๆ ไม่มีความเจริญ
ยังไงขบวนรถก็ต้องไปรับผู้โดยสารที่ชุมทางหาดใหญ่ก่อน
นี่คงเป็นอีกสาเหตุที่ต้องแก้รางจากสงขลาไปหาดใหญ่
ว่าไปแล้ว จนถึงปัจจุบัน นอกจากสามเหลี่ยมจิตรลดาแล้ว
บ้านเราไม่มีชุมทางไหน ทำทางเป็นสามเหลี่ยมเลยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 16/07/2009 9:10 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
ว่าไปแล้ว จนถึงปัจจุบัน นอกจากสามเหลี่ยมจิตรลดาแล้ว
บ้านเราไม่มีชุมทางไหน ทำทางเป็นสามเหลี่ยมเลยนะครับ |
มีที่คล้ายๆกับว่าเป็นสามเหลี่ยมที่ บางซื่อ ตามภาพถ่ายต่อไปนี้
|
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 16/07/2009 9:47 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
ว่าไปแล้ว จนถึงปัจจุบัน นอกจากสามเหลี่ยมจิตรลดาแล้ว
บ้านเราไม่มีชุมทางไหน ทำทางเป็นสามเหลี่ยมเลยนะครับ |
หาดใหญ่เราก็เกือบไปครับ
แต่ต่อไปไม่แน่นะครับ ถ้าสามารถฟื้นฟูรางที่ไปทางท่าเรือรถไฟที่สงขลาได้ อาจจะมีขบวนรถสินค้าวิ่งผ่านอู่ตะเภาไปสงขลาเลย
โดยไม่ต้องเข้าหาดใหญ่ก็ได้ครับ
ส่วนเอกลักษณ์ของชุมทางหาดใหญ่คือ เปน สี่แยก ในขณะที่ชุมทางรถไฟส่วนใหญ่เปนสามแยก |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 16/07/2009 10:04 am Post subject: |
|
|
"รถสงขลาสายหนึ่งไปไทรบุรี"
แสดงว่ามีรถ สงขลา-บัตเตอร์เวอร์ธ ด้วยหรือครับ
เค้าอาจจะตัดบางตู้ไว้ไปไทรบุรี ตู้ที่เหลือก็ไปบางกอกน้อย
นอกจากนั้นก็ยังมีขบวน
สงขลา-ทุ่งสง
สงขลา-ชุมพร
สงขลา-ตรัง/กันตัง
"มีตลาดขายของเหมือนกลางเมือง"
พ.ศ. ๒๔๕๘ ทางการได้ขอซื้อที่ดินส่วนหนึ่งต่อจากท่านขุนนิพัทธ์ฯ เพื่อทำเป็นย่านรถไฟ
พ.ศ. ๒๔๕๙ ขุนนิพัทธ์ฯ ได้ทำการโค่นต้นเสม็ด และสร้างห้องแถวหลังคามุงจากจำนวน 5 ห้อง
พ.ศ. ๒๔๖๒ โรงแรมหลังสถานีรถไฟ สร้างจากไม้ไผ่ หลังคามุงแฝก ใช้ฟากทำด้วยไม้ใผ่เหมือนกัน รอบๆ เป็นป่าละเมาะทั้งนั้น
พ.ศ. ๒๔๖๓ ขุนนิพัทธ์ฯได้สร้างห้องแถวหลังคามุงจากเพิ่มขึ้นอีกหลายห้อง
พ.ศ. ๒๔๖๗ ฉลองเปิดสถานีชุมทางหาดใหญ่ ; ก่อนหน้านี้ก็เปนชุมทาง(สามแยกไปปัตตานีแลไทรบุรี)แล้ว
พ.ศ. ๒๔๖๗ วันที่ ๒ กันยายน ฉลอง ตลาดโคกเสม็ดชุน ซึ่งในสมัยนั้นมีบ้านเรือนในตลาดกว่า 100 หลังคาเรือนแล้ว
หาดใหญ่เมื่อปี 2467
ตอนท่านพระครูเดินทางผ่านมาคงจะคล้ายๆ กันนี้
(ลายมือที่เขียนในภาพ เปนลายมือของ คุณเป่าจิน ช่างถ่ายรูป ซึ่งเปนคุณปู่ของเจ้าของร้านโปจินอิมเมจในปัจจุบัน แน่นอนว่าภาพนี้คงถ่ายโดยคุณเป่าจิน ไม่ใช่ใครอื่น)
ที่มา : http://haadyai.cjb.net/ |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 16/07/2009 3:22 pm Post subject: |
|
|
กำลังถอดรหัสว่าท่านพระครูเดินทางวันไหนกันแน่
"เดือนธันวาขึ้นสี่ค่ำกำหนดจร" ขึ้นสี่ค่ำคือวันที่ 4 ธันวา
"เดือนสิบสองแรมได้ สิบสี่ค่ำ" แรมสิบสี่ค่ำคือวันที่ 29 พ.ย.
แวะพักที่วัดคูขุด แต่จำวัดที่วัดดอนคัน
จำวัดที่วัดแหลมทราย (ขึ้นสี่ค่ำ วันที่ 4 ธันวา 2464)
ขึ้นรถไฟ
ออกจากวัดดอนคัน 30 พ.ย.
ออกจากวัดแหลมทราย 4 ธันวา แสดงว่าจำวัดที่วัดแหลมทราย 4 คืน
พักที่ทุ่งสง วัดโคกหม้อ(วัดชัยชุมพล) อยู่ไม่ไกลจากสถานีนักริมทางรถไฟไปตรัง
พักที่ชุมพร
-------------------------------------------------------------------------------------------------
พ.ศ. 2482 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกทั่วภาคใต้ อำเภอทุ่งสงจึงเป็นสถานที่สำคัญในเป้าหมาย เพราะญี่ปุ่นได้วางแผนที่จะรวมพลที่อำเภอทุ่งสง และจะเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ โดยทางรถไฟ จึงทำให้สถานที่หลายแห่งได้รับความเสียหายจากระเบิด โดยเฉพาะสถานีรถไฟร่องรอยจากระเบิดพอที่จะมีให้เป็นสระน้ำหลังสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง และลูกระเบิดที่ตั้งแสดงที่บันไดทางขึ้นที่ว่าการอำเภอ 2 ลูก นอกจากนี้วัดโคกหม้อเดิมได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดชัยชุมพล เนื่องจากมีการรวมพลทหารญี่ปุ่นกันที่วัด
http://th.wikipedia.org/wiki/อ.ทุ่งสง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/07/2009 9:19 pm Post subject: |
|
|
เรื่องกำหนดวันออกเดินทางจากวัดจะทิ้งพระ
วันขึ้นรถไฟ ยังสับสนอยู่จริงๆ น่ะแหละครับ
Last edited by Mongwin on 17/07/2009 9:40 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/07/2009 9:19 am Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | Mongwin wrote: |
ว่าไปแล้ว จนถึงปัจจุบัน นอกจากสามเหลี่ยมจิตรลดาแล้ว
บ้านเราไม่มีชุมทางไหน ทำทางเป็นสามเหลี่ยมเลยนะครับ |
มีที่คล้ายๆกับว่าเป็นสามเหลี่ยมที่ บางซื่อ ตามภาพถ่ายต่อไปนี้
|
อืมม
แต่ก็ยังไม่เป็นสามเหลี่ยมจริงๆ นั่นแหละครับ
เพราะรถไฟสายพระราม IV ยังไปสายเหนือโดยตรงไม่ได้
ต้องกลับทางรถจักรเสียก่อนอยู่ดีครับ
จากภาพถ่ายทางอากาศ กรมแผนที่ทหาร วันที่ 18 ธ.ค. 2517
ยังเห็นมีร่องรอยรางตัน ดูน่าจะสร้างไปบรรจบกับทางรถไฟสายเหนือขาขึ้นได้
แต่เหตุใดจึงไม่ทำนะครับ
|
|
Back to top |
|
|
|