RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263991
ทั้งหมด:13575274
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 100, 101, 102 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/08/2015 1:27 pm    Post subject: Reply with quote

TOR โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น (13 ส.ค. 58)
งบประมาณ/ราคากลาง : 24,000,000,000.00 บาท
Arrow http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2558/58661969tor.pdf
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/08/2015 9:36 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. ลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี นำเสนอโครงการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วง สุราษฎร์ฯ-หาดใหญ่-สงขลา เพิ่มประสิทธิภาพการเดินรถและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้
สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ 25 ส.ค. 2558

รฟท. ลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี นำเสนอโครงการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วง สุราษฎร์ฯ-หาดใหญ่-สงขลา เพิ่มประสิทธิภาพการเดินรถและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้

วันนี้ (25 ส.ค. 58) นายวิชวุทย์ จินโต และนายอวยชัย อินทร์นาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ / หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชน ได้ให้การต้อนรับและร่วมประชุมกับคณะเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประทศไทย (รฟท.) ในการบรรยายสรุปและชี้แจงรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเงิน และแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม

ทั้งนี้ การพัฒนาโครงข่ายรถไฟรางคู่ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการเดินรถ ทำให้การเดินทางสะดวกและเร็วขึ้น ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่งของประเทศ ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถรองรับความต้องการด้านการขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งช่วยลดอุบัติเหตุในการเดินรถ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการให้บริการ ทำให้ผู้ประกอบการด้านการขนส่งสินค้าหันมาใช้บริการขนส่งระบบรางมากขึ้น อีกทั้ง ยังเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวตามแหล่งสถานที่สำคัญในเขตภาคใต้ และเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายการขนส่งทางรถไฟ

ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ สอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาตามมติคณะรัฐมนตรี และนโยบายส่งเสริมการลงทุนในโครงการที่สำคัญของประเทศ ทั้งโครงการต่อเนื่องและโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้น การรถไฟแห่งประทศไทย จึงได้ริเริ่มโครงการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางทั่วประเทศ ซึ่งโครงการก่อสร้างฯ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา เป็น 1 ใน 6 โครงการดังกล่าวด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 25/08/2015 9:45 pm    Post subject: Reply with quote

Quote:
ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ สอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาตามมติคณะรัฐมนตรี และนโยบายส่งเสริมการลงทุนในโครงการที่สำคัญของประเทศ ทั้งโครงการต่อเนื่องและโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้น การรถไฟแห่งประทศไทย จึงได้ริเริ่มโครงการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางทั่วประเทศ ซึ่งโครงการก่อสร้างฯ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา เป็น 1 ใน 6 โครงการดังกล่าวด้วย


Very Happy หมายถึงรื้อฟื้นทางสาย หาดใญ่-สงขลาด้วยหรือไม่ ถ้าใช่ คงต้องสร้างทางแยกอู่ตะเภาด้วยใช่ไหม ครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/08/2015 9:59 pm    Post subject: Reply with quote

ใช่ครับพี่สมชาย รื้อฟื้นทางรถไฟสายหาดใหญ่-สงขลา แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะสร้างทางคู่เลี่ยงเมือง (chord line) แยกที่อู่ตะเภาด้วยหรือเปล่า Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 26/08/2015 10:35 am    Post subject: Reply with quote

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดประชุมปรึกษาสาธารณะ ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดสุรินทร์ งานบริการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนน จิระ-อุบลราชธานี
เขียนโดย กรรณิกา สำราญจริง
ส.ปชส.สุรินทร์
กรมประชาสัมพันธ์
วันที่ 25 ส.ค. 2558 (จำนวนคนอ่าน 11 คน)

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดประชุมปรึกษาสาธารณะ ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดสุรินทร์ งานบริการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนน จิระ-อุบลราชธานี

นายสาธิต มาลัยธรรม ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ว่าจ้างที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด บริษัท ทีแอลที คอนซัลเตนส์ จำกัด และบริษัท ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี และคณะที่ปรึกษาได้กำหนดจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยจัดให้มีกิจกรรมการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยจัดให้มีกิจกรรมการประชุมปรึกษาสาธารณะ ครั้งที่ 1 (การประชุมหย่อย) ในวันที่ 9 กันยายน 2558 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อชี้แจงข้อมูลรายละเอียดโครงการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากหน่วยงานราชการ กลุ่มผู้นำทางด้านความคิด ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชน ให้ได้รับรู้ข้อมูลการพัฒนาโครงการอย่างถูกต้อง สอดคล้องในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548
ขอเชิญประชาชนทั่วไป ร่วมรับฟังความคิดเห็น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ในวันที่ 9 กันยายน 2558 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยทั่วกัน

***************
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/08/2015 11:48 am    Post subject: Reply with quote

ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟฯช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.04/ปก/2558
Arrow http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=25741

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยขอบเขตและรายละเอียดสังเขปของงานสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง ที่ต้องการจ้างมีดังนี้

• ก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม จากสถานีฉะเชิงเทราถึงสถานีวิหารแดงระยะทาง 78 กิโลเมตร
และจาก สถานีบุใหญ่ถึงสถานีแก่งคอย ระยะทาง 19 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 97 กิโลเมตร
• งานก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) จำนวน 3 แห่ง ที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีชุมทางแก่งคอย
และสถานีชุมทางบ้านภาชี รวมระยะทางประมาณ 7.1 กม.
• งานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทางช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย
รวมทั้งทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) ทั้ง 3 แห่ง
• งานก่อสร้างสะพานรถไฟคอนกรีตเสริมเหล็ก 57 แห่ง รวมความยาวประมาณ 4,763 เมตร
• งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 212 เมตร
• งานก่อสร้างท่อและการระบายน้ำ และงานก่อสร้างอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามแบบ


ราคากลาง 9,926,288,000.00 บาท

ผู้มีสิทธิเสนอราคา จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้ประสงค์จะเสนอราคา
1. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
2. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของ รฟท. หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของทางราชการและได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว หรือไม่เป็นผู้ที่ได้รับผลของการสั่งให้นิติบุคคลหรือบุคคลอื่นเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
3. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ประสงค์จะเสนอราคารายอื่น และ/หรือต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ประสงค์จะเสนอราคากับผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ ณ วันประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
4. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มครอง ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทยเว้นแต่รัฐบาลของผู้ประสงค์จะเสนอราคา ได้มีคำสั่งให้สละสิทธิ์และความคุ้มครองเช่นว่านั้น
5. ผู้ประสงค์จะเสนอราคา ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อว่าเป็นคู่สัญญาที่ไม่ได้แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2554
6. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลที่ได้ลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลางที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือก และหากมีการทำสัญญาซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ขึ้นไป กับ รฟท. ให้รับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การจ่ายเงินแต่ละครั้ง ซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทสามารถจ่ายเป็นเงินสดได้และให้จัดทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายยื่นต่อกรมสรรพากร และปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2554 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2555
7. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือกิจการร่วมค้าไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ โดยนิติบุคคลทุกรายต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 1 ถึง 6 ยกเว้นข้อ 6 สำหรับนิติบุคคลต่างประเทศ และมีคุณสมบัติดังนี้
(1) ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาทถ้วน) และมีส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholder’s Equity) ไม่ต่ำกว่า 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาทถ้วน)
(2) ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นกิจการร่วมค้าไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ สมาชิกทุกรายของกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล โดยนิติบุคคลแต่ละรายที่เข้าร่วมค้าทุกรายต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาทถ้วน) และมีส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholder’s Equity) ไม่ต่ำกว่า 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งบริษัทผู้นำ (Leading Company) ของกิจการร่วมค้าต้องเป็นนิติบุคคลไทยและต้องมีสัดส่วนการลงทุนหรือร่วมงานมากกว่าร้อยละ 50 (50%) ของมูลค่างานทั้งหมดของสัญญาและสัดส่วนนี้จะต้องไม่ลดลงน้อยกว่าร้อยละ 50 (50%) ตลอดระยะเวลาโครงการที่สัญญานี้มีผลบังคับใช้ โดยในวันยื่นเอกสารประกวดราคาจะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า ซึ่งต้องชี้ชัดถึงสัดส่วนของการลงทุนหรือร่วมงานของแต่ละนิติบุคคลในกลุ่ม และต้องระบุข้อความไว้ด้วยว่าสมาชิกทั้งหมดของกิจการร่วมค้า ต้องมีภาระรับผิดชอบร่วมกันและชดใช้แทนกันในทุกกรณี (Shall be jointly and severally responsible for all cases)
โดยบริษัทผู้นำของกิจการร่วมค้าต้องมีข้อตกลงระหว่างผู้เข้าร่วมค้าเป็นลายลักษณ์อักษรกำหนดให้บริษัทผู้นำเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเข้าประกวดราคา
8. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีผลงานตามรายละเอียดดังนี้
8.1 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว ต้องมีผลงานตามข้อ (1) หรือ (2) ดังนี้
(1) งานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๒,๕00,000,000 บาท (สองพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยผลงานก่อสร้างทางรถไฟ หมายถึง ผลงานก่อสร้างโครงสร้างทางและติดตั้งระบบรางรถไฟหรือรถไฟฟ้า ทั้งในรูปแบบเสมอระดับ (At Grade) หรือยกระดับ (Elevated) หรือใต้ดิน (Underground) หรือผลงานปรับปรุงทางรถไฟ (Track Rehabilitation/Strengthening) หรือผลงานก่อสร้างในลักษณะงานเดียวกัน หรือ
(2) งานก่อสร้างด้านโยธา ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 1,800,000,000 บาท (หนึ่งพันแปดร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยผลงานก่อสร้างด้านโยธา หมายถึง ผลงานก่อสร้างถนน ผลงานก่อสร้างสะพาน ผลงานก่อสร้างทางลอด ผลงานก่อสร้างทางยกระดับ หรือผลงานก่อสร้างทางรถไฟโดยให้คิดเฉพาะมูลค่าผลงานโยธา หรือผลงานก่อสร้างในลักษณะงานเดียวกัน และงานระบบรางรถไฟ (Track Work) ที่มีมูลค่าในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 700,000,000 บาท (เจ็ดร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยผลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ (Track Work) หมายถึง ผลงานติดตั้งระบบรางรถไฟหรือรถไฟฟ้า (Heavy Rail) หรือผลงานปรับปรุงทางรถไฟ (Track Rehabilitation/Strengthening) หรือผลงานก่อสร้างทางรถไฟ โดยให้คิดเฉพาะมูลค่าผลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ (Track Work)
8.2 กรณีผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นกิจการร่วมค้าไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ต้องมีผลงานตามข้อ (1) หรือ (2) ดังนี้
(1) บริษัทผู้นำต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า ๒,๕00,000,000 บาท (สองพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยผลงานก่อสร้างทางรถไฟ หมายถึง ผลงานก่อสร้างโครงสร้างทางและติดตั้งระบบรางรถไฟหรือรถไฟฟ้า ทั้งในรูปแบบเสมอระดับ (At Grade) หรือยกระดับ (Elevated) หรือใต้ดิน (Underground) หรือผลงานปรับปรุงทางรถไฟ (Track Rehabilitation/Strengthening) หรือผลงานก่อสร้างในลักษณะงานเดียวกันหรือ
(2) บริษัทผู้นำต้องมีผลงานก่อสร้างด้านโยธาที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 1,800,000,000 บาท (หนึ่งพันแปดร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วโดยผลงานก่อสร้างด้านโยธา หมายถึง ผลงานก่อสร้างถนน ผลงานก่อสร้างสะพาน ผลงานก่อสร้างทางลอด ผลงานก่อสร้างทางยกระดับ หรือผลงานก่อสร้างทางรถไฟโดยให้คิดเฉพาะมูลค่าผลงานโยธา หรือผลงานก่อสร้างในลักษณะงานเดียวกัน และบริษัทผู้นำ หรือสมาชิกผู้ร่วมค้ารายใดรายหนึ่งที่มีสัดส่วนการลงทุนมากกว่าร้อยละ 30 (30%) ต้องมีผลงานระบบรางรถไฟ (Track Work) ที่มีมูลค่าในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 700,000,000 บาท (เจ็ดร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยผลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ (Track Work) หมายถึง ผลงานติดตั้งระบบรางรถไฟหรือรถไฟฟ้า (Heavy Rail) หรือผลงานปรับปรุงทางรถไฟ (Track Rehabilitation/Strengthening) หรือผลงานก่อสร้างทางรถไฟ โดยให้คิดเฉพาะมูลค่าผลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ (Track Work)
9. การพิจารณาผลงานตามข้อ 8 ให้ยึดถือหลักเกณฑ์ ดังนี้
(1) ผลงานที่นำมายื่นต้องเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท. เชื่อถือ
(2) หากผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานที่ส่งมอบงานโดยสมบูรณ์แล้ว ผลงานดังกล่าวต้องแล้วเสร็จเป็นเวลาไม่เกิน 15 ปี นับถึงวันที่ยื่นซอง โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้าง และหนังสือรับรองผลงานพร้อมแสดงมูลค่าของงาน
(3) หากผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานของโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ผลงานที่นำมายื่นต้องเป็นผลงานในส่วนที่ส่งมอบงานและผู้ว่าจ้างออกหนังสือรับมอบงานในส่วนนั้นแล้วเท่านั้น ซึ่งต้องมีมูลค่าที่ส่งมอบแล้วไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและรับรองสำเนาถูกต้อง และต้องมีหนังสือรับรองผลงานอย่างเป็นทางการพร้อมแสดงวงเงินของงานส่วนที่ได้ส่งมอบงานแล้วมายื่นต่อ รฟท.
(4) กรณีที่ผู้ประสงค์จะเสนอราคาใช้ผลงานในลักษณะเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture หรือ Consortium) ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องมีสัดส่วนความรับผิดชอบของผลงานในอดีตที่คิดเป็นมูลค่าสัดส่วนความรับผิดชอบไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยต้องมีหนังสือรับรองผลงานที่แสดงมูลค่าของงานที่รับผิดชอบซึ่งออกโดยผู้ว่าจ้าง และสำเนาข้อตกลงร่วมค้ารับรองสำเนาถูกต้อง แสดงการเข้าร่วมเป็นกิจการร่วมค้า ที่แสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผู้ประสงค์จะเสนอราคา และสำเนาสัญญาจ้างรับรองสำเนาถูกต้อง มายื่นต่อ รฟท. ด้วย
(5) ตามหลักเกณฑ์ในหัวข้อ (1)-(4) ข้างต้น หากเป็นผลงานที่ดำเนินการภายนอกประเทศไทยหลักฐานเอกสารผลงานที่นำมาเสนอจะต้องแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองการแปลโดย Notary Public หรือ Notary Public Lawyer และลงนามรับรองและประทับตราในเอกสารที่ให้การรับรองโดยสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยประจำประเทศนั้นๆ และให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่งานนั้นแล้วเสร็จ หรือวันที่ส่งมอบงานแล้วแต่กรณี สำหรับการคิดคำนวณมูลค่างานนั้นๆ
(6) หนังสือรับรองผลงานข้างต้นต้องออกโดยหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้มีอำนาจของหน่วยงานที่ว่าจ้าง และต้องแสดงรายละเอียดของงานและมูลค่าผลงานให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณสมบัติผลงานตามที่กำหนดในข้อ 8
10. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีหนังสือรับรองการให้สินเชื่อจากธนาคารรายเดียว หรือหลายธนาคารในประเทศไทยคิดเป็นวงเงินรวมไม่น้อยกว่า 1,500,000,000 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) มีผลบังคับตลอดระยะเวลาของการก่อสร้าง
11. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเสนอผู้รับจ้างช่วง (Subcontractor) ในงานระบบอาณัติสัญญาณอย่างน้อย 1 ราย แต่ไม่เกิน 3 ราย โดยผู้รับจ้างช่วงต้องมีผลงานการออกแบบและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณงานรถไฟหรือรถไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชนยกเว้นกรณีที่ผู้ประสงค์จะเสนอราคามีผลงานด้านระบบอาณัติสัญญาณอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องยื่นเสนอผู้รับจ้างช่วงงานระบบอาณัติสัญญาณก็ได้ แต่ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องแสดงผลงานดังกล่าวต่อการรถไฟฯ
อนึ่งผู้ประสงค์จะเสนอราคาสามารถเสนอผู้รับจ้างช่วง (Subcontractor) ได้มากกว่า 1 (หนึ่ง) ราย แต่ไม่เกิน 3 (สาม) ราย โดยผู้รับจ้างช่วงงานระบบอาณัติสัญญาณจะต้องเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ระบบอาณัติสัญญาณ ที่สอดคล้องกับรายการจำเพาะด้านเทคนิค และมีผลงานที่เคยใช้งานและได้รับการยอมรับ(Proven Record) มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ระบบอาณัติสัญญาณดังกล่าวจะต้องผ่านการใช้งานในงานรถไฟหรือรถไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชนนอกประเทศผู้ผลิตนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันยื่นประกวดราคา โดยมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้หรือมีสำเนาหนังสือสัญญาที่แสดงว่ามีการใช้งานผลิตภัณฑ์ระบบอาณัติสัญญาณนั้นจริงและหนังสือรับรองงานแล้วเสร็จขั้นสุดท้าย (Final Completion Certificate) ประกอบมาด้วย
12. เพื่อให้การทำงานของการก่อสร้างทางรถไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมี หรือต้องจัดหาหรือต้องเช่าเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟเพื่อใช้ในงานนี้อย่างน้อยที่สุดดังนี้ คือ
(1) รถอัดหินแบบสองหมอนอัดต่อเนื่องสำหรับอัดหินในทางทั่วไป จำนวน 1 คัน
(2) รถอัดหินแบบหมอนเดียวอัดต่อเนื่องสำหรับอัดหินในชุดประแจ จำนวน 1 คัน
(3) รถเกลี่ยหิน จำนวน 1 คัน
(4) รถสั่นหิน จำนวน 1 คัน
(5) รถบรรทุกหินโรยทาง (รถโบกี้ : Ballast Hopper Wagon) จำนวน 5 คัน
มีสมรรถนะการบรรทุกหินโรยทางไม่น้อยกว่า 28 ลูกบาศก์เมตร
และมีช่องลงหินใต้ท้องรถทุกตัวเป็นอย่างน้อย
(6) รถจักรหรือรถลากจูง UTV (Utility Track Vehicle) จำนวน 1 คัน
มีกำลังลากจูงไม่น้อยกว่า 500แรงม้าสำหรับลากจูงรถงานต่างๆ
โดยที่เครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟ ตามข้อ (1)-(4) ผู้รับจ้างต้องจัดซื้อจัดหามาเพื่อใช้ในการก่อสร้างและส่งมอบให้ รฟท. เมื่องานก่อสร้างแล้วเสร็จตามรายละเอียดที่ระบุในข้อกำหนดรายการจำเพาะด้านเทคนิค เฉพาะเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟตามข้อ (5) และ (6) ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ หรือหนังสือรับรองการจัดหาหรือการขอเช่าแล้วแต่กรณีซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวพร้อมการประกวดราคา โดยต้องระบุด้วยว่าหากชนะการประกวดราคาในโครงการนี้แล้ว จะสามารถจัดหาหรือจัดเช่าให้ทันใช้งาน และผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นภาพถ่ายของเครื่องมือฯ ตามข้อ (5) และ (6) พร้อมสมรรถนะแหล่งที่มาและข้อมูลคุณสมบัติตามที่กำหนดในเอกสารเพิ่มเติม 4 เพื่อแสดงว่าเครื่องมือฯสามารถใช้งานได้บนทางรถไฟในโครงการ
เครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟตามข้อ (1)-(4) เมื่อผู้รับจ้างจัดส่งถึงสถานที่ก่อสร้าง ทำการทดสอบความสมบูรณ์ของการใช้งานจริง (Commissioning) และได้รับความเห็นชอบจากวิศวกรแล้ว รฟท. จะจ่ายเงินให้ 75% ของราคาต่อหน่วยเครื่องจักร เครื่องจักรดังกล่าวจะถือเป็นกรรมสิทธิ์โดยชอบธรรมของ รฟท. ซึ่งผู้รับจ้างมีหน้าที่ดูแลรักษาให้คงสภาพสมบูรณ์ตามข้อกำหนดและมาตรฐานการบำรุงรักษาเครื่องจักร และข้อกำหนดมาตรฐานของเอกสารประกวดราคา เล่ม III ข้อกำหนดรายการจำเพาะด้านเทคนิค
ก่อนการส่งมอบ (Hand Over) เมื่องานก่อสร้างแล้วเสร็จผู้รับจ้างต้องซ่อมแซมให้เป็นที่เรียบร้อยตามมาตรฐานของ รฟท. และได้รับความเห็นชอบจากวิศวกร
13. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องจัดทำข้อเสนอด้านเทคนิคตามเอกสารข้อมูลด้านเทคนิค เล่ม IIA โดยผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องแสดงให้เห็นว่ามีคุณสมบัติและความสามารถด้านเทคนิคเพียงพอ ต่อการดำเนินงานก่อสร้าง ตลอดจนได้จัดเตรียมวัสดุ บุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร ขั้นตอนวิธีการทำงาน และแผนการดำเนินงานเป็นไปตามข้อกำหนด ในเอกสารประกวดราคา เล่ม IIA โดยการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค จะใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาตามที่กำหนดในข้อ 4.6 ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิค ต้องได้รับการพิจารณาว่าผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดดังกล่าวจึงมีสิทธิ์เสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
14. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือผู้เข้าร่วมค้าทุกรายของกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ต้องเป็นผู้ที่มีชื่อปรากฏในบัญชีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาเท่านั้น หรือมีชื่อเป็นผู้ขอรับเอกสารประกวดราคา (กรณีเป็นผู้ที่เคยซื้อเอกสารประกวดราคาแล้ว) จึงจะมีสิทธิ์ยื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้


กำหนดการและข้อมูลที่สำคัญ
1. กำหนดการดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนาม และการประชุมก่อนการเสนอราคาเพื่อตอบข้อซักถามของผู้ที่ประสงค์จะเสนอราคา จะจัดให้มีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องแจ้งชื่อผู้แทนที่จะเข้าร่วมดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนามและการประชุมก่อนการเสนอราคาต่อวิศวกรอำนวยการศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 3 กันยายน 2558 ก่อนเวลา 14.00 น.
ผู้ที่ประสงค์จะไปดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนาม ต้องมาให้พร้อมกันที่สถานีรถไฟฉะเชิงเทรา ในวันที่ 8 กันยายน 2558 เวลา 9.30 น.
การประชุมก่อนการเสนอราคาจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 9 กันยายน 2558 2558 ที่สำนักงานของ รฟท. โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น.
ผู้ประสงค์จะเสนอราคาสามารถตั้งคำถามเป็นทางการเกี่ยวกับการประกวดราคาให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร และยื่นต่อ รฟท. ภายในเวลา 11.00 น. ของวันที่จะมีการประชุมก่อนการเสนอราคา
หากมีการแก้ไขใด ๆ ในเอกสารประกวดราคา รฟท. จะแจ้งให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาทุกรายทราบในเวลาที่เหมาะสมแต่ไม่น้อยกว่า 10 วันปฏิทินก่อนวันยื่นซองประกวดราคา
2. ราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น 9,926,288,000 บาท (เก้าพันเก้าร้อยยี่สิบหกล้านสองแสนแปดหมื่นแปดพันบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %แล้ว
ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องวางหลักประกันซอง พร้อมกับการยื่นเอกสารประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นมูลค่า 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาทถ้วน) และหลักประกันซองนี้ให้ใช้หลักประกันตามข้อกำหนดของ รฟท.
3 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องปฏิบัติงานที่รับจ้างตามสัญญาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาไม่เกิน 36 เดือน นับจากวันที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้เริ่มงานของ รฟท.และรับประกันผลงาน 24 เดือน นับจากวันที่งานแล้วเสร็จสมบูรณ์
4. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นเอกสารการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 10 (สิบ) ชุด คือ ต้นฉบับ 1 (หนึ่ง) ชุด และสำเนา 9 (เก้า) ชุด เย็บเล่มเรียงลำดับ และยื่นโดยผู้มีอำนาจเท่านั้น ในวันที่ 30 กันยายน 2558 ระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง12.00 น. ต่อคณะกรรมการประกวดราคา ณ ห้องประชุมฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ศูนย์โครงการก่อสร้าง ตึกพัสดุ ชั้น 3 การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ทั้งนี้ คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับซองเอกสารประกวดราคาที่ยื่นก่อนเวลา 10.00 น. และภายหลังเวลา 12.00 น. ในวันดังกล่าว และเมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
5. รฟท. สงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเพิ่มเติม เอกสารประกวดราคาในภายหลัง หรือจะยกเลิกการประกวดราคา หรือไม่ทำสัญญากับผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือก หากเอกสารประกวดราคา สัญญาจ้างก่อสร้างทางคู่ฯนี้ ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. รฟท. สงวนสิทธิ์ที่จะทำสัญญาจ้างกับผู้ชนะการประกวดราคาเมื่อได้รับงบประมาณจากรัฐบาล
7. ก่อนทำสัญญาจ้างฯ ผู้เสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องเสนอรายชื่อผู้รับจ้างช่วงงานระบบอาณัติสัญญาณที่เสนอมาในเอกสารประกวดราคาและได้รับความเห็นชอบจาก รฟท. แล้ว เพื่อที่ รฟท. จะได้ระบุในสัญญาจ้างฯ ต่อไป
8. ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ตึกพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ได้ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2558 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2558 ระหว่างเวลา 09.00 น. ถึง 15.00 น. ในราคาชุดละ 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว โดยให้ชำระเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ที่กองการเงิน ฝ่ายการเงินและการบัญชี การรถไฟแห่งประเทศไทย แล้วนำใบเสร็จรับเงินมาติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคา กรณีผู้ที่เคยซื้อเอกสารประกวดราคาฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้ มีสิทธิ์มาขอรับเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องเสียค่าซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อีก ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2220 4766, 0 2220 4767 โทรสาร 0 2221 5763 ในวันและเวลาทำการ
9. ผู้ที่มาซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือผู้มีสิทธิ์มาขอรับเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเข้าร่วมฟังคำชี้แจง หรือผู้มาดูการชี้แจงสถานที่ก่อสร้าง ต้องเป็นผู้มีอำนาจกระทำการในนามของนิติบุคคล โดยต้องแสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีมอบอำนาจต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
10. กำหนดแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคา วันที่ 26 ตุลาคม 2558
11. กำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558



ประกาศ ณ วันที่ 26 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2558


( ลงนาม ) วุฒิชาติ กัลยาณมิตร

( วุฒิชาติ กัลยาณมิตร )

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย



สำเนาถูกต้อง
( นายธีระ รุ่งโรจน์สุวรรณ )
วิศวกรกำกับการกองมาตรฐานงานวิศวกรรมโยธา
26/08/2558 10:32:33
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/08/2015 11:52 am    Post subject: Reply with quote

ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.05/ปก/2558
Arrow http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=25743

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยขอบเขตและรายละเอียดสังเขปของงานสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ ที่ต้องการจ้างมี ดังนี้

• งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม เริ่มจากหลังสถานีวิหารแดงไปสิ้นสุดที่ก่อนเข้าสถานีบุใหญ่
ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร
• งานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟทางเดี่ยวคู่ขนานกับอุโมงค์ทางเดี่ยวเดิมลอดผ่านใต้เขาพระพุทธฉาย รวมระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร
• งานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 60 เมตร
• งานก่อสร้างท่อและการระบายน้ำ และงานก่อสร้างอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามแบบ


ราคากลาง 598,602,000.00 บาท

ผู้มีสิทธิเสนอราคา จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้ประสงค์จะเสนอราคา
1. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
2. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของ รฟท. หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของทางราชการและได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว หรือไม่เป็นผู้ที่ได้รับผลของการสั่งให้นิติบุคคลหรือบุคคลอื่นเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
3. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ประสงค์จะเสนอราคารายอื่น และ/หรือต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ประสงค์จะเสนอราคากับผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ ณ วันประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
4. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มครอง ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทยเว้นแต่รัฐบาลของผู้ประสงค์จะเสนอราคา ได้มีคำสั่งให้สละสิทธิ์และความคุ้มครองเช่นว่านั้น
5. ผู้ประสงค์จะเสนอราคา ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อว่าเป็นคู่สัญญาที่ไม่ได้แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2554
6. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลที่ได้ลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลางที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือก และหากมีการทำสัญญาซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ขึ้นไป กับ รฟท. ให้รับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การจ่ายเงินแต่ละครั้ง ซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทสามารถจ่ายเป็นเงินสดได้ และให้จัดทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายยื่นต่อกรมสรรพากร และปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2554 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2555
7. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ โดยนิติบุคคลทุกรายต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 1 ถึง 6 ยกเว้นข้อ 6 สำหรับนิติบุคคลต่างประเทศ และมีคุณสมบัติดังนี้
(1) ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) และมีส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholder’s Equity) ไม่ต่ำกว่า 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน)
(2) ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ สมาชิกทุกรายของกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล โดยนิติบุคคลแต่ละรายที่เข้าร่วมค้าทุกรายต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) และมีส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholder’s Equity) ไม่ต่ำกว่า 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งบริษัทผู้นำ (Leading Company) ของกิจการร่วมค้าต้องเป็นนิติบุคคลไทยและต้องมีสัดส่วนการลงทุนหรือร่วมงานมากกว่าร้อยละ 50 (50%) ของมูลค่างานทั้งหมดของสัญญาและสัดส่วนนี้จะต้องไม่ลดลงน้อยกว่าร้อยละ 50 (50%) ตลอดระยะเวลาโครงการที่สัญญานี้มีผลบังคับใช้ โดยในวันยื่นเอกสารประกวดราคาจะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า ซึ่งต้องชี้ชัดถึงสัดส่วนของการลงทุนหรือร่วมงานของแต่ละนิติบุคคลในกลุ่ม และต้องระบุข้อความไว้ด้วยว่าสมาชิกทั้งหมดของกิจการร่วมค้า ต้องมีภาระรับผิดชอบร่วมกันและชดใช้แทนกันในทุกกรณี (Shall be jointly and severally responsible for all cases)
โดยบริษัทผู้นำของกิจการร่วมค้าต้องมีข้อตกลงระหว่างผู้เข้าร่วมค้าเป็นลายลักษณ์อักษรกำหนดให้บริษัทผู้นำเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเข้าประกวดราคา
8. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ต้องมีผลงานก่อสร้างงานอุโมงค์ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 180,000,000 บาท (หนึ่งร้อยแปดสิบล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ สามารถใช้ผลงานของสมาชิกผู้ร่วมค้ารายใดรายหนึ่ง ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนมากกว่าร้อยละ 30 (30%) มาอ้างอิงได้ โดยผลงานก่อสร้างอุโมงค์ เช่น ผลงานก่อสร้างอุโมงค์สำหรับทางรถไฟหรือรถไฟฟ้าหรือถนน หรืองานอุโมงค์อื่น ๆ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 5 เมตร ก่อสร้างด้วยวิธี New Austrian Tunneling Method (NATM) หรือด้วย Tunneling Boring Machine (TBM)
9. การพิจารณาผลงานตามข้อ 8 ให้ยึดถือหลักเกณฑ์ ดังนี้
(1) ผลงานที่นำมายื่นต้องเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท. เชื่อถือ
(2) ผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานที่ส่งมอบงานโดยสมบูรณ์แล้ว ผลงานดังกล่าวต้องแล้วเสร็จเป็นเวลาไม่เกิน 15 (สิบห้า) ปี นับถึงวันที่ยื่นซอง โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้าง และหนังสือรับรองผลงานพร้อมแสดงมูลค่าของงาน
(3) หากผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานของโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ผลงานที่นำมายื่นต้องเป็นผลงานในส่วนที่ส่งมอบงานและผู้ว่าจ้างออกหนังสือรับมอบงานในส่วนนั้นแล้วเท่านั้น ซึ่งต้องมีมูลค่าที่ส่งมอบแล้วไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและรับรองสำเนาถูกต้อง และต้องมีหนังสือรับรองผลงานอย่างเป็นทางการพร้อมแสดงวงเงินของงานส่วนที่ได้ส่งมอบงานแล้วมายื่นต่อ รฟท.
(4) กรณีที่ผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นผู้รับจ้างในลักษณะเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture หรือ Consortium) สำหรับผลงานในอดีตที่อ้างถึง ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องมีสัดส่วนความรับผิดชอบของผลงานในอดีตที่คิดเป็นมูลค่าสัดส่วนความรับผิดชอบไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยต้องมีหนังสือรับรองผลงานที่แสดงมูลค่าของงานที่รับผิดชอบซึ่งออกโดยผู้ว่าจ้าง และสำเนาข้อตกลงร่วมค้ารับรองสำเนาถูกต้อง แสดงการเข้าร่วมเป็นกิจการร่วมค้า ที่แสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผู้ประสงค์จะเสนอราคา และสำเนาสัญญาจ้างรับรองสำเนาถูกต้อง มายื่นต่อ รฟท. ด้วย
(5) ตามหลักเกณฑ์ในหัวข้อ (1)-(4) ข้างต้น หากเป็นผลงานที่ดำเนินการภายนอกประเทศไทยหลักฐานเอกสารผลงานที่นำมาเสนอจะต้องแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองการแปลโดย Notary Public หรือ Notary Public Lawyer และลงนามรับรองและประทับตราในเอกสารที่ให้การรับรองโดยสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยประจำประเทศนั้น ๆ และให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่งานนั้นแล้วเสร็จ หรือวันที่ส่งมอบงานแล้วแต่กรณี สำหรับการคิดคำนวณมูลค่างานนั้น ๆ
(6) หนังสือรับรองผลงานข้างต้นต้องออกโดยหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้มีอำนาจของหน่วยงานที่ว่าจ้าง และต้องแสดงรายละเอียดของงานและมูลค่าผลงานให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณสมบัติผลงานตามที่กำหนดในข้อ 8
10. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีหนังสือรับรองการให้สินเชื่อจากธนาคารรายเดียว หรือหลายธนาคารในประเทศไทยคิดเป็นวงเงินรวมไม่น้อยกว่า 150,000,000 บาท (หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) มีผลบังคับตลอดระยะเวลาของการก่อสร้าง
11. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องจัดทำข้อเสนอด้านเทคนิคตามเอกสารข้อมูลด้านเทคนิค เล่ม IIA โดยผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องแสดงให้เห็นว่ามีคุณสมบัติและความสามารถด้านเทคนิคเพียงพอ ต่อการดำเนินงานก่อสร้าง ตลอดจนได้จัดเตรียมวัสดุ บุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร ขั้นตอนวิธีการทำงาน และแผนการดำเนินงานเป็นไปตามข้อกำหนด ในเอกสารประกวดราคา เล่ม IIA โดยการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค จะใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาตามที่กำหนดในข้อ 4.6 ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิค ต้องได้รับการพิจารณาว่าผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดดังกล่าวจึงมีสิทธิ์เสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
12. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือผู้เข้าร่วมค้าทุกรายของกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ต้องเป็นผู้ที่มีชื่อปรากฏในบัญชีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาเท่านั้น หรือมีชื่อเป็นผู้ขอรับเอกสารประกวดราคา (กรณีเป็นผู้ที่เคยซื้อเอกสารประกวดราคาแล้ว) จึงจะมีสิทธิ์ยื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้


กำหนดการและข้อมูลที่สำคัญ
1. กำหนดการดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนาม และการประชุมก่อนการเสนอราคาเพื่อตอบข้อซักถามของผู้ที่ประสงค์จะเสนอราคา จะจัดให้มีขึ้นเป็นเวลา 2 (สอง)วัน
ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องแจ้งชื่อผู้แทนที่จะเข้าร่วมดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนามและการประชุมก่อนการเสนอราคาต่อวิศวกรอำนวยการศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 3 กันยายน 2558 ก่อนเวลา 14.00 น.
ผู้ที่ประสงค์จะไปดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนาม ต้องมาให้พร้อมกันที่สถานีรถไฟฉะเชิงเทรา ในวันที่ 8 กันยายน 2558 เวลา 9.30 น.
การประชุมก่อนการเสนอราคา จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 9 กันยายน 2558 ที่สำนักงานของ รฟท. โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. ผู้ประสงคจะเสนอราคาสามารถตั้งคำถามเป็นทางการเกี่ยวกับการประกวดราคาให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร และยื่นต่อ รฟท. ภายในเวลา 11.00 น. ของวันที่จะมีการประชุมก่อนการเสนอราคา
หากมีการแก้ไขใด ๆ ในเอกสารประกวดราคา รฟท.จะแจ้งให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาทุกรายทราบในเวลาที่เหมาะสมแต่ไม่น้อยกว่า 10 (สิบ) วันปฏิทินก่อนวันยื่นซองประกวดราคา
2. ราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น 598,602,000 บาท (ห้าร้อยเก้าสิบแปดล้านหกแสนสองพันบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % แล้ว ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องวางหลักประกันซอง พร้อมกับการยื่นเอกสารประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นมูลค่า 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาทถ้วน) และหลักประกันซองนี้ให้ใช้หลักประกันตามข้อกำหนดของ รฟท.
3 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องปฏิบัติงานที่รับจ้างตามสัญญาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาไม่เกิน 25 (ยี่สิบห้า)เดือน นับจากวันที่ระบไว้ในหนังสือแจ้งให้เริ่มงานของ รฟท. และรับประกันผลงาน 24 (ยี่สิบสี่) เดือน นับจากวันที่งานแล้วเสร็จสมบูรณ์
4. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นเอกสารการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 10 (สิบ) ชุด คือ ต้นฉบับ 1 (หนึ่ง) ชุด และสำเนา 9 (เก้า) ชุด เย็บเล่มเรียงลำดับ และยื่นโดยผู้มีอำนาจเท่านั้น ในวันที่ 30 กันยายน 2558 ระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง12.00 น. ต่อคณะกรรมการประกวดราคา ณ ห้องประชุมฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ตึกพัสดุ ชั้น 3 การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ทั้งนี้ คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับซองเอกสารประกวดราคาที่ยื่นก่อนเวลา 10.00 น. และภายหลังเวลา 12.00 น. ในวันดังกล่าว และเมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
5. รฟท. สงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเพิ่มเติม เอกสารประกวดราคาในภายหลัง หรือจะยกเลิกการประกวดราคา หรือไม่ทำสัญญากับผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือก หากเอกสารประกวดราคา สัญญาจ้างก่อสร้างทางคู่ฯ นี้ ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. รฟท. สงวนสิทธิ์ที่จะทำสัญญาจ้างกับผู้ชนะการประกวดราคาเมื่อได้รับงบประมาณจากรัฐบาล
7. ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ตึกพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ได้ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2558 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2558 ระหว่างเวลา 09.00 น. ถึง 15.00 น. ในราคาชุดละ 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยให้ชำระเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ที่กองการเงิน ฝ่ายการเงินและการบัญชี การรถไฟแห่งประเทศไทย แล้วนำใบเสร็จรับเงินมาติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคา กรณีผู้ที่เคยซื้อเอกสารประกวดราคาฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้ มีสิทธิ์มาขอรับเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องเสียค่าซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อีก ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 0 2220 4766, 0 2220 4767 โทรสาร 0 2221 5763 ในวันและเวลาทำการ
8. ผู้ที่มาซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือผู้มีสิทธิ์มาขอรับเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเข้าร่วมฟังคำชี้แจง หรือผู้มาดูการชี้แจงสถานที่ก่อสร้าง ต้องเป็นผู้มีอำนาจกระทำการในนามของนิติบุคคล โดยต้องแสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีมอบอำนาจต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
9. กำหนดแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคา วันที่ 26 ตุลาคม 2558
10. กำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558



ประกาศ ณ วันที่ 26 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2558


( ลงนาม ) วุฒิชาติ กัลยาณมิตร

( วุฒิชาติ กัลยาณมิตร )

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย



สำเนาถูกต้อง
( นายธีระ รุ่งโรจน์สุวรรณ )
วิศวกรกำกับการกองมาตรฐานงานวิศวกรรมโยธา
26/08/2558 10:47:26
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/08/2015 8:33 am    Post subject: Reply with quote

เมืองคอนเฮ! รถไฟรางคู่สุราษฎร์ฯ-หาดใหญ่ ตัดผ่าน 119 กม.
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 ส.ค. 2558 20:52

Click on the image for full size

ผวจ.เมืองคอนเชิญบริษัทที่ปรึกษาโครงการรถไฟรางคู่ ชี้แจงรายละเอียด เผยระยะทาง 323 กม.ผ่าน 4 จังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา โดยนครศรีธรรมราชระยะทางยาวที่สุด 119 กม. ยืนยันประโยชน์มหาศาลแต่การก่อสร้างต้องวางแผนให้ดี

Click on the image for full size

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมประจำเดือนสิงหาคม 2558 โดยได้เชิญนายนิรัตน์ ตันสวัสดิ์ กรรมการรองผู้จัดการบริษัท เอ็ม.เอ.เเอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการโครงการงานบริการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา มาชี้แจงรายละเอียดโครงการ ต่อหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ที่อยู่ในพื้นที่โครงการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน

นายนิรัตน์ ตันสวัสดิ์ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา รวม 6 บริษัท ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ใช้ระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2558 สิ้นสุดวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเงินและแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมของโครงการ สำรวจเพื่อจัดทำแบบรายละเอียดการก่อสร้างประมาณราคาก่อสร้าง และจัดทำเอกสารประกวดราคา ศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ทั้งนี้ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ คือ เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งทางรถไฟ ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยด้วยการออกแบบแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ไม่มีจุดตัดเสมอระดับ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ขนส่งสินค้า และเชื่อมโยงโครงข่าย การบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้า และบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

"โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา มีระยะทางรวม 323 กิโลเมตร มีสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 60 แห่ง ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด คือ จ. สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 67 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 13 แห่ง จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 119 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 7 อำเภอ 30 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 23 แห่ง จ.พัทลุง ระยะทาง 77 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 6 อำเภอ 23 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 18 แห่ง และ จ.สงขลา ระยะทาง 60 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 6 แห่ง"

ส่วนการออกแบบทางรถไฟเบื้องต้น คือ ก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทาง ในเขตทางเดิม 80 เมตร กำหนดความเร็วในการออกแบบไว้ที่ 160 กม./ชม. ก่อสร้างรั้วสองข้างทางรถไฟ เพื่อป้องกันอันตรายตลอดแนวทางรถไฟ ออกแบบจุดตัดทางรถไฟตลอดแนวเส้นทางโครงการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากทางลักผ่าน และปรับปรุงสถานีให้เหมาะแก่การใช้งานและมีความทันสมัย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟจะมีการออกแบบให้เลือกหลายรูปแบบตามความสำคัญของพื้นที่และประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น สะพานรถไฟข้ามถนน /สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ/ สะพานกลับรถรูปตัวยู (U) และตัวเอช (H) /ทางลอดทางรถไฟ และทางบริการข้างทางรถไฟ เป็นต้น โดยจะไม่มีการเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่จะสร้างในเขตทางรถไฟทั้งหมด ส่วนที่สถานีช่องเขา อ.ทุ่งสง จะมีการเจาะอุโมงค์ระยะทาง 235.9 เมตร

นายนิรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นระดับจังหวัด 3 ครั้ง ครั้งที่ 1. กำหนดประชุมในวันที่ 22 กันยายน 2558 เวลา 08.30 น. ที่โรงแรมแกรนด์เซ้าท์เทิร์นท์ อ.ทุ่งสง ครั้งที่ 2 เดือนมกราคม 2559 และครั้งที่ 3 เดือนมิถุนายน 2559 และจัดประชุมกลุ่มย่อยในพื้นที่ระดับตำบลอีก 2 ครั้ง

ขณะที่ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ศรีธรรมราช กล่าวว่า มีความเป็นห่วงการดำเนินโครงการในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งต้องออกแบบทางข้ามจุดตัดรถไฟให้ดี โดยเฉพาะอุโมงค์ต้องให้รถทุกชนิดผ่านได้ ลงทุนครั้งเดียวต้องคุ้มค่า ไม่ต้องเสียเวลาขับรถอ้อม และขอให้มีการออกแบบเพิ่มทางข้ามในเขตเมืองทั้งทางคนข้ามและมอเตอร์ไซค์ข้ามด้วย เพื่อความสะดวก ไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน

"เนื่องจากโครงการดังกล่าว เป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนาโครงการพื้นฐานของรัฐบาล จึงได้เชิญบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ มาชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ที่ประชุมกรรมการและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดได้รับทราบข้อมูล เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอและผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในพื้นที่โครงการฯ ได้นำข้อมูลไปชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวมีระยะดำเนินงานให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งระบบ 10 ปี ซึ่งถือว่าไม่นานและจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว รวมทั้งการขนส่งหรือโลจิสติกส์โดยตรง" ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าว.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Aesthetics
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 31/07/2015
Posts: 30

PostPosted: 29/08/2015 11:27 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เมืองคอนเฮ! รถไฟรางคู่สุราษฎร์ฯ-หาดใหญ่ ตัดผ่าน 119 กม.
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 ส.ค. 2558 20:52

Click on the image for full size

ผวจ.เมืองคอนเชิญบริษัทที่ปรึกษาโครงการรถไฟรางคู่ ชี้แจงรายละเอียด เผยระยะทาง 323 กม.ผ่าน 4 จังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา โดยนครศรีธรรมราชระยะทางยาวที่สุด 119 กม. ยืนยันประโยชน์มหาศาลแต่การก่อสร้างต้องวางแผนให้ดี

Click on the image for full size

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมประจำเดือนสิงหาคม 2558 โดยได้เชิญนายนิรัตน์ ตันสวัสดิ์ กรรมการรองผู้จัดการบริษัท เอ็ม.เอ.เเอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการโครงการงานบริการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา มาชี้แจงรายละเอียดโครงการ ต่อหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ที่อยู่ในพื้นที่โครงการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน

นายนิรัตน์ ตันสวัสดิ์ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา รวม 6 บริษัท ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ใช้ระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2558 สิ้นสุดวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเงินและแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมของโครงการ สำรวจเพื่อจัดทำแบบรายละเอียดการก่อสร้างประมาณราคาก่อสร้าง และจัดทำเอกสารประกวดราคา ศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ทั้งนี้ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ คือ เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งทางรถไฟ ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยด้วยการออกแบบแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ไม่มีจุดตัดเสมอระดับ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ขนส่งสินค้า และเชื่อมโยงโครงข่าย การบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้า และบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

"โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา มีระยะทางรวม 323 กิโลเมตร มีสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 60 แห่ง ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด คือ จ. สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 67 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 13 แห่ง จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 119 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 7 อำเภอ 30 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 23 แห่ง จ.พัทลุง ระยะทาง 77 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 6 อำเภอ 23 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 18 แห่ง และ จ.สงขลา ระยะทาง 60 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 6 แห่ง"

ส่วนการออกแบบทางรถไฟเบื้องต้น คือ ก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทาง ในเขตทางเดิม 80 เมตร กำหนดความเร็วในการออกแบบไว้ที่ 160 กม./ชม. ก่อสร้างรั้วสองข้างทางรถไฟ เพื่อป้องกันอันตรายตลอดแนวทางรถไฟ ออกแบบจุดตัดทางรถไฟตลอดแนวเส้นทางโครงการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากทางลักผ่าน และปรับปรุงสถานีให้เหมาะแก่การใช้งานและมีความทันสมัย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟจะมีการออกแบบให้เลือกหลายรูปแบบตามความสำคัญของพื้นที่และประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น สะพานรถไฟข้ามถนน /สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ/ สะพานกลับรถรูปตัวยู (U) และตัวเอช (H) /ทางลอดทางรถไฟ และทางบริการข้างทางรถไฟ เป็นต้น โดยจะไม่มีการเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่จะสร้างในเขตทางรถไฟทั้งหมด ส่วนที่สถานีช่องเขา อ.ทุ่งสง จะมีการเจาะอุโมงค์ระยะทาง 235.9 เมตร

นายนิรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นระดับจังหวัด 3 ครั้ง ครั้งที่ 1. กำหนดประชุมในวันที่ 22 กันยายน 2558 เวลา 08.30 น. ที่โรงแรมแกรนด์เซ้าท์เทิร์นท์ อ.ทุ่งสง ครั้งที่ 2 เดือนมกราคม 2559 และครั้งที่ 3 เดือนมิถุนายน 2559 และจัดประชุมกลุ่มย่อยในพื้นที่ระดับตำบลอีก 2 ครั้ง

ขณะที่ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ศรีธรรมราช กล่าวว่า มีความเป็นห่วงการดำเนินโครงการในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งต้องออกแบบทางข้ามจุดตัดรถไฟให้ดี โดยเฉพาะอุโมงค์ต้องให้รถทุกชนิดผ่านได้ ลงทุนครั้งเดียวต้องคุ้มค่า ไม่ต้องเสียเวลาขับรถอ้อม และขอให้มีการออกแบบเพิ่มทางข้ามในเขตเมืองทั้งทางคนข้ามและมอเตอร์ไซค์ข้ามด้วย เพื่อความสะดวก ไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน

"เนื่องจากโครงการดังกล่าว เป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนาโครงการพื้นฐานของรัฐบาล จึงได้เชิญบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ มาชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ที่ประชุมกรรมการและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดได้รับทราบข้อมูล เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอและผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในพื้นที่โครงการฯ ได้นำข้อมูลไปชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวมีระยะดำเนินงานให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งระบบ 10 ปี ซึ่งถือว่าไม่นานและจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว รวมทั้งการขนส่งหรือโลจิสติกส์โดยตรง" ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าว.

Click on the image for full size


เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการก่อสร้างทางคู่ แต่อยากให้คำนึงถึงการออกแบบให้มากๆครับ รถไฟรางคู่ ถ้าให้ดูได้มาตรฐาน!ถูกหลักคชลักษณ์ขอรถไฟรางคู่ต้องแบบที่มาเลย์เค้าทำ รั้วไม่จำเป็นต้องบิ๊กบึ้มเกินความจำเป็นอย่างที่เราเห็นกันในไทยซึ่งสุดท้ายสร้างแล้วก็ไม่ดูแล คนชาวบ้านข้างทางแอบตัดทำลายก็ไม่มีการไล่ ซ่อมแซม สักแต่ให้ได้สร้างอีกทั้งยังดูเกะกะสายตาอีกด้วย

สถาปัตยากรรมของสถานี ถ้าสร้างแบบบางบำหรุ ตัวสถานี ใหญ่ สวย ทำ อะไรไม่ได้ แต่ชานชาลาแคบยังกะบันไดเลื่อน ดูแล้วสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ หรือสร้างแล้ว ชานชาลาเป็นต่างระดับในสถานีเดียวกัน ต้องปีนบันไดขึ้นชานชาลาที่ 2 อย่างสถานีศาลายา อย่างนี้ก็ไม่ไหว หรือสร้างแล้วเน้นแต่ท่อกลมๆ ราวกับว่าหยิบยืมพิมพ์เขียวมาจากฟาร์มหมูแถวนครปฐนอันนี้ก็ไม่ไหว มีที่นึงในโลกนี้ที่ความเก่ากับใหม่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ดูประหยัดมัธยัสตามหลักค่านิยม 12 ประการของ คสช. ข้อ 10 และ ข้อ 12 แนะนำให้ไปดู JR Hokkaido บางสถานีอย่าง Takikawa ถึงแม้จะมีทางคู่ที่เป็น electrification ผ่าน แต่สถานีเป็นชุมทางไปFurano ซึ่งเป็นทางรถไฟทางเดียวไม่มีระบบไฟฟ้า ก็ยังใช้ตัวสถานีเก่าซึ่งก็ใข้งานได้ดี ไม่จำเป็นต้องทำให้ดูใหญ่เวอร์ไฮโซโก้เก๋แต่อย่างใด อย่างสถานีOtaru สถานีดูเดิมๆ ห้องน้ำสร้างแบบกึ่งknock down ห้องน้ำดูดี กะทัดรัด ไม่อับ สว่าง ที่สำคัญฟรี ต่อให้เก็บ 5 บาทก็ไม่เสียดายเงิน อาจมีเลอะบ้าง แต่ไม่มีกลิ่นน้ำยาที่สามารถทำลายกลิ่นและเซลลล์เยื่อจมูกได้มากที่สุดเหมือนห้องน้ำรถไฟในบ้านเราแน่นอน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 30/08/2015 2:23 am    Post subject: Reply with quote

การออกแบบเส้นทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 44.50 กิโลเมตร

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=906532996086185&id=820331644706321

พิกัด สถานีจากหาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์ ระยะทาง 44.50 กิโลเมตร
1. ที่หยุดรถบ้านพรุ (Ban Phru Halt) กม. 935 + 925.000
2. สถานีศาลาทุ่งลุง (Thung Lung station ) กม. 944 + 887.500
3. สถานีคลองแงะ (Klong Ngae station ) กม. 952 + 625.000
4. ที่หยุดรถคลองรำ (Klong Ram Halt) กม. 961 + 100.000
5. ที่หยุดรถบ้านท่าข่อย (Ban Tha Khoi Halt) กม. 968 + 450.000
5. สถานีปาดังเบซาร์ 2 (Padang Besar 2 station - Thai side of Padang besar) กม. 972 + 900.000
https://www.facebook.com/820331644706321/photos/a.825555967517222.1073741828.820331644706321/895252640547554/?type=1&theater
https://www.facebook.com/820331644706321/photos/a.825555967517222.1073741828.820331644706321/906532566086228/?type=1&theater

สัมมนา ทางรถไฟฟ้า สาย หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ 10 กันยายน 2558 ที่โรงแรม ลีการ์เด้น แต่ 9 โมงเช้าถึงเที่ยง
https://www.facebook.com/820331644706321/photos/a.829069930499159.1073741829.820331644706321/906460519426766/?type=1&theater

จุดตัดเจ้าปัญหา ตามทางสายหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=906533846086100&id=820331644706321

แผนพัฒนา สถานีทุ่งลุง กม. 944 + 887.500 ที่เทศบาลพะตง (ชานนครหาดใหญ่)
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=906535196085965&id=820331644706321

แผนพัฒนา สถานีคลองแงะ กม. 952 + 625.000 ที่ต้องเป็นสถานีลอยฟ้า โดยยังคงสถานีเดิมไว้เป็นฐานรองรับ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=906534612752690&id=820331644706321

แผนพัฒนาสถานีปาดังเบซาร์ฝั่งไทย กม. 972 + 900.000 ที่เทศบาลปาดังเบซาร์
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=906535709419247&id=820331644706321
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 100, 101, 102 ... 389, 390, 391  Next
Page 101 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©